ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ทางเดินไปเรียนที่แสนยาว
แจค เขาคนนั้นคือแจค คนที่เข้ามาลวนลามฉันทั้งๆที่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเขาเลย ฉันที่ต้องกลายเป็นแพะรับบาปของใครคนหนึ่งที่ไปทำให้เขาเจ็บ เขาคนนั้นที่ฉันก็ไม่แน่ใจว่าจะใช่เรย์หรือเปล่า ถึงแม้ว่าฉันจะเห็นเขาที่โกรธเรย์ขนาดนั้น แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเรย์เป็นคนทำให้เขาโกรธนี่นา
เราสองคนจ้องกันนานอยู่พอสมควรที่จะทำให้คนสองคนที่หวานกันอยู่นั่นหันมาสังเกตุความผิดปรกติของเราสองคนได้ และแล้วคนที่ทำให้ความเงียบที่น่าอึกอัดของเราสองคนจบลงได้นั่นก็คือไอ้พู่เพื่อนของฉันนั่นเอง
“เป็นอะไรไปอ่ะทั้งสองคน รู้จักกันหรอ จ้องกันอย่างกับไม่ได้เจอกันมานานแล้วมาเจอกันโดยบังเอิญ”
คือว่านะพู่มันก็บังเอิญจริงๆน่ะแหละที่มาเจอกันแต่ว่าไม่ได้รู้จักกันมานานหรอก เพราะว่าเพิ่งเจอกันครั้งแรกเมื่อสองวันก่อนเอง เมื่อฉันที่ตั้งสติได้ก่อนไอ้บ้าแจคนั่น ฉันก็เลยตอบพู่ไปเพื่อกลบเกลื่อนความผิดปรกติที่เริ่มจะน่าสงสัยขึ้นทุกทีตราปใดที่เราสองคนยังจ้องหน้ากันอยู่และไม่พูดอะไร ฉันรีบละสายตาจากหน้าแจคแล้วหันไปตอบพู่ทันที
“อ๋อไม่มีอะไรน่ะ ฉันแค่ไม่คิดว่าเพื่อนของแดเนียลจะหน้าตาดีขนาดนี้อ่ะ”
ฉันตอบพู่เป็นภาษาไทย เพื่อที่จะไม่ให้นายแจครู้ว่าฉันชมมันถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้โกหกที่ว่ามันหน้าตาดีใช่ได้เหมือนกัน แต่ด้วยสิ่งที่มันทำกับฉันทำให้ฉันมองข้ามสิ่งเหล่านั่นเกี่ยวกับเขาไป เขาในสายตาของฉันตอนนี้ก็แค่คนเลวทั่วๆไปนี่เอง ที่ทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง คนแบบนี้ฉันเกลียดที่สุด เอาคนอื่นมาเป็นตัวช่วยในการแก้แค้นของตัวเองโดยไม่คิดว่าคนอื่นเขาจะต้องมาร่วมเจ็บปวดด้วย
“โอ้โห สา นานๆที ฉันจะได้ยินแกชมผู้ชายที่ไหนสักที”
พู่ตอบกลับฉันด้วยภาษาไทยเพื่อที่ว่าจะได้ไม่ต้องทำให้ฉันอายที่ฉันไปชมผู้ชายคนนั้น มันเป็นเพื่อนฉันก็ตอนนี้แหละ ตอนที่มันยังสนใจหน้าฉันว่ามันจะแตกหรือยับยังไง หรือว่าจะต้องอับอายไปถึงไหนถ้ามันพูดเป็นภาษาอังกฤษตอบทุกคนว่าฉันชมผู้ชาย
แจคที่เริ่มจะตั้งสติได้ก็แนะนำตัวกับฉัน “สวัสดี ฉันชื่อแจคนะ ยินดีที่ได้รู้จัก เธอชื่ออะไรหรอ”
“ชื่อสาน่ะ” ฉันตอบแจคด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างเหมือนไม่มีอะไรเคยเกิดขึ้น นั่นก็เพราะว่าฉันไม่อยากจะจำต่างหากว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าผ่านวันนี้ไปได้ ฉันจะอยู่ให้ห่างจากเขาให้มากที่สุดเลย ไม่อยากจะเจออีกแล้วคนแบบนี้
หลังจากจบการแนะนำตัวกันเสร็จ พวกเราสี่คนก็เริ่มไปซื้ออาหารแล้วกลับมากินด้วยกันพร้อมคุยกันไปเรื่อยโดยที่ส่วนมากจะเป็นพู่กับแดเนียลคุยกันมากกว่า ไม่ใช่ฉันกับแจคที่ได้แต่ถามคำตอบคำเวลาพู่หรือแดเนียลคุยด้วย  เมื่อเวลาพักหมดและพวกเราจะต้องไปเรียนคาบต่อไปที่พู่เริ่มเรียนก่อนฉันเพราะว่าเราไม่ได้ลงเรียนชั้นเดียวกัน เนื่องจากว่าพู่อยากจะเรียนชีววิทยาเทอมนี้ก่อน โดยที่ฉันอยากจะเรียนเคมีก่อน พวกเราทั้งสี่คนเดินไปส่งพู่ที่ห้อง เมื่อส่งเสร็จ แดเนียลก็ขอตัวทันทีในขณะที่ฉันเริ่มก้าวขาเดินไปหาห้องเรียนของตัวเองที่จะเริ่มในอีก ครึ่งชั่วโมงข้างหน้า เมื่อฉันเดินไปได้สักระยะ ฉันก็หันหลังมามองว่าใครกันที่เดินตามฉันมา คนนั้นก็คือแจคนั่นเอง
“เดินตามฉันมาทำไม”
“เราไม่ได้เดินตามเธอสักหน่อย เรามีเรียนชั้นทางนี้เหมือนกัน” เพล้งน่าแตก ไอ้สาเอ้ย เดี๋ยวมันก็หาว่าแกหลงตัวเองหรอก ทั้งๆที่แกกลัวเขาจะมายุ่งกับแกอีก
“อ๋อหรอ ฉันขอบอกไว้ตรงนี้เลยนะว่าถึงเธอจะเป็นเพื่อนของแดเนียล แล้วตอนนี้แดเนียลเขาก็เดทกับเพื่อนของฉันอยู่ แต่ว่าฉันก็ไม่อยากจะเป็นเพื่อนกับนายหรอก สิ่งที่นายทำไว้กับฉันน่ะ มันเกิดที่ฉันจะให้อภัยได้”
“จริงหรอ เธอจะไม่ให้โอกาสฉันแก้ตัวเลยหรอ ที่ฉันทำไปน่ะไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายคนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยเลยนะ” เขาเริ่มพูดกับฉันด้วยแววตาที่สำนึกผิด แววตาที่เริ่มจะทำให้ใจฉันอ่อนแอโอนเอียงลง ไม่ได้นะ ไม่ได้ ใจอ่อนไม่ได้ที่เขาทำลงไปน่ะ มันร้ายแรงเกินไป
“นั่นน่ะหรอที่นายไม่ตั้งใจที่จะทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเจ็บ ไอ้การที่นายมาทำร้ายฉันเพราะคิดว่าฉันเป็นแฟนเรย์ ถ้างั้นแฟนเรย์ก็ทำให้นายเจ็บงั้นสิ แล้วฉันขอถามหน่อยเถอะ แฟนเรย์เขาจะทำให้นายเจ็บได้ไงในเมื่อนายก็ยังไม่เคยเห็นหน้าเขาเลย หน้าก็ยังไม่รู้จักนายไปหาว่าเขามาทำอะไรนายได้ไง อย่างนั้นน่ะเขาเรียกว่าโกรธเรย์แล้วพาล นายน่ะมันคนพาล ฉันไม่อยากยุ่งด้วย”
“ไม่ใช่นะ แฟนเรย์น่ะเขาทำร้ายฉัน ถึงจะไม่ได้โดยตรงก็เถอะแต่ก็ทางอ้อมล่ะน่ะ เขาทำฉันเจ็บ เจ็บมากด้วย เจ็บจนฉันน่ะแค้นทั้งเรย์แค้นทั้งยัยนั่น” โอ๊ยนี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย ชักจะซับซ้อนไปหมดแล้วนะ
“เขาทำยังไงล่ะ ถ้าอยากให้ฉันเลิกโกรธ นายก็ต้องมีเหตุผลที่มันดีกว่านี้สิ เหตุผลแค่นี้น่ะมันไม่พอหรอก มันไม่กระจ่างพอ นายจะต้องอธิบายในฉันฟังตั้งแต่แรกว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างนายกับเรย์ ฉันถึงจะพิจารณายกโทษให้นาย”
“ฉัน.. ฉัน .. ฉันเล่าไม่ได้หรอก ฉันอาจทำร้ายใครบางคนที่ฉันต้องการปกป้อง ฉันไม่ได้ต้องการให้เขาเจ็บปวดอีกแล้ว” นายนั่นเริ่มพูดกับฉันด้วยแววตาเจ็บปวดอย่างยิ่ง ไม่นะสาเธอจะต้องไม่ใจอ่อนไปกับแววตานั่นนะ
“เอาเป็นว่านายเล่าให้ฉันฟังไม่ได้ งั้นนายก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ตราบใดที่ฉันยังได้คำอธิบายที่ดีกว่านี้ไม่ได้ที่นายมาทำกับฉัน ฉันจะไม่ยกโทษให้นาย เพราะว่าที่นายทำกับฉันน่ะมันมากเกินไป นายทำให้ฉันเสียบางอย่างที่ฉันไม่สามารถเอากับคืนมาได้แล้ว” ใช่ นายทำให้ฉันเสียโอกาสที่จะได้รู้สึกดีๆเมื่อมีคนมาสัมผัสส่วนบนของฉันเป็นครั้งแรก นายทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยงตัวเอง แล้วเจ็บปวดทุกครั้งที่นึกถึงคนที่สัมผัสฉันและสิ่งที่ทำให้ฉันต้องถูกสัมผัสอย่างนั้นครั้งแรก
ฉันที่เถียงกับนายนั่นพร้อมกันเดินไปด้วยก็มาถึงหน้าห้องเรียนของฉัน ฉันที่เถียงกับแจคมาจนหมดความอดทนแล้วก็เริ่มบอกให้เขาไปไกลๆ
“นี่นายน่ะ เลิกตามฉันสักที ฉันจะเข้าไปเรียนแล้ว ไป๊ไป” ฉันเริ่มไล่แจคอย่างหมูอย่างหมา เสียอยู่อย่างเดียวที่แจคยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน แจคทำตัวได้เหมือนหมูเหมือนหมามากที่ไม่ยอมขยับไปไหน ตามคำไล่ของฉัน
“ไปสิ นายนี่ไม่เข้าใจภาษาคนหรืออย่างไร หรือว่าต้องให้ฉันเริ่มเห่าหอน หรือร้องเสียงหมู”
“คือว่าก็ไม่ใช่ฉันไม่เข้าใจภาษาคน หรือว่าฉันหน้าด้านขนาดนั้นหรอกนะ แต่ว่ามันจำเป็นน่ะที่จะต้องอยู่ที่นี่”
“จำเป็นอะไร นายก็ไปเรียนของนายสิ มาอยู่ที่นี่ทำไม นายไม่มีเรียนหรือไง ไหนบอกว่าชั้นเรียนนายทางนี้เหมือนกันไง”
“ใช่ ฉันบอกอย่างนั้น”
“งั้นก็ไปสิ มายืนทำอะไรอยู่ที่นี่”
“พอดีว่ามันห้องเดียวกับที่เธอกำลังจะเข้าไปน่ะ ถ้าให้ฉันเดานะ เราคงเรียนห้องเดียวกันแน่เลย”
“บ้าหรอ นายเรียนอะไรถึงจะมาเรียนห้องเดียวกับฉัน”
“เราเรียนเคมีน่ะ” เพล้งครั้งที่สองของวันนี้กับนายแจค มันเรียนฉันเดียวกับฉันจริงๆด้วย แล้วฉันก็ไปไล่มันเหมือนกับว่ามันหลงรักฉันเลยตามฉันมาแจๆอีกรอบ
“หรอ” ฉันพูดได้แค่นั้นพร้อมกับแกล้งโกรธอย่างที่สุดเพื่อกลบเกลื่อนความหน้าแตกของฉัน
ฉันรีบเปิดประตูห้องเพื่อที่จะเข้าไปในห้องแล้วเพื่อที่จะหนีนายแจคจากที่ตรงนี้ แล้วหาที่นั่งให้ห่างนายแจคให้มากที่สุด แต่ทว่าก่อนที่ฉันจะได้ตั้งตัว ฉันก็ได้ยินเสียง ผัวะ หน้าของฉันก็ผงะไป เนื่องจากว่าฉันได้เดินพร้อมกับที่หน้าของฉันที่ได้ไปปะทะกับอะไรอย่างหนึ่งที่ขวางทางเข้าห้องเรียนของฉัน มือของฉันควานหาสิ่งของที่จะจับเพื่อที่จะผยุงตัวฉันไว้ให้ยืนต่อไป มือของฉันยื่นออกไปยื้อสิ่งที่ฉันชนข้างหน้า แล้วเริ่มมองตามจากมือของฉันไปปลายนิ้วและมองตามขึ้นไปตามสิ่งที่ฉันชน สิ่งที่ฉันชนนั้นมันไม่ใช่สิ่งของแต่ว่ามันเป็นคน คนเป็นๆทั้งตัวเลย ฉันได้แต่อ้าปากค้างอยู่อย่างนั้น พูดคำขอโทษไม่ออกแต่ขณะเดียวกันฉันกลับทำท่าจะหงายหลังไปเนื่องจากความช๊อกที่ก่อตัวขึ้นมาเป็นเท่าตัว หลังจากหายช๊อกจากเรื่องนายแจคเป็นเพื่อนกับแดเนียล แต่ทว่าคนนั้นกลับคว้าฉันเอาไว้ทันก่อนฉันจะหงายหลังแล้วเรียนชื่อของฉัน
“สา!!!”
คุยกันหน่อยน้า
โอ๊ยการบ้านไม่ได้ทำเลย มัวแต่มานั่งเขียนนิยาย
ช่วยกันเม้นท์หน่อยนาจะได้รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบอะไรกันบ้างจะได้ปรับปรุงตัวเอง
ถ้าไม่เม้นท์นะอาจจะมาอัพช้ากว่านี้หน่อยเพราะถือว่าไม่ค่อยมีใครสนใจอยู่แล้วว่าจะมาอัพหรือไม่เนื่องจากไม่เห็นมีใครบอกเลยว่าชอบ
เราสองคนจ้องกันนานอยู่พอสมควรที่จะทำให้คนสองคนที่หวานกันอยู่นั่นหันมาสังเกตุความผิดปรกติของเราสองคนได้ และแล้วคนที่ทำให้ความเงียบที่น่าอึกอัดของเราสองคนจบลงได้นั่นก็คือไอ้พู่เพื่อนของฉันนั่นเอง
“เป็นอะไรไปอ่ะทั้งสองคน รู้จักกันหรอ จ้องกันอย่างกับไม่ได้เจอกันมานานแล้วมาเจอกันโดยบังเอิญ”
คือว่านะพู่มันก็บังเอิญจริงๆน่ะแหละที่มาเจอกันแต่ว่าไม่ได้รู้จักกันมานานหรอก เพราะว่าเพิ่งเจอกันครั้งแรกเมื่อสองวันก่อนเอง เมื่อฉันที่ตั้งสติได้ก่อนไอ้บ้าแจคนั่น ฉันก็เลยตอบพู่ไปเพื่อกลบเกลื่อนความผิดปรกติที่เริ่มจะน่าสงสัยขึ้นทุกทีตราปใดที่เราสองคนยังจ้องหน้ากันอยู่และไม่พูดอะไร ฉันรีบละสายตาจากหน้าแจคแล้วหันไปตอบพู่ทันที
“อ๋อไม่มีอะไรน่ะ ฉันแค่ไม่คิดว่าเพื่อนของแดเนียลจะหน้าตาดีขนาดนี้อ่ะ”
ฉันตอบพู่เป็นภาษาไทย เพื่อที่จะไม่ให้นายแจครู้ว่าฉันชมมันถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้โกหกที่ว่ามันหน้าตาดีใช่ได้เหมือนกัน แต่ด้วยสิ่งที่มันทำกับฉันทำให้ฉันมองข้ามสิ่งเหล่านั่นเกี่ยวกับเขาไป เขาในสายตาของฉันตอนนี้ก็แค่คนเลวทั่วๆไปนี่เอง ที่ทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง คนแบบนี้ฉันเกลียดที่สุด เอาคนอื่นมาเป็นตัวช่วยในการแก้แค้นของตัวเองโดยไม่คิดว่าคนอื่นเขาจะต้องมาร่วมเจ็บปวดด้วย
“โอ้โห สา นานๆที ฉันจะได้ยินแกชมผู้ชายที่ไหนสักที”
พู่ตอบกลับฉันด้วยภาษาไทยเพื่อที่ว่าจะได้ไม่ต้องทำให้ฉันอายที่ฉันไปชมผู้ชายคนนั้น มันเป็นเพื่อนฉันก็ตอนนี้แหละ ตอนที่มันยังสนใจหน้าฉันว่ามันจะแตกหรือยับยังไง หรือว่าจะต้องอับอายไปถึงไหนถ้ามันพูดเป็นภาษาอังกฤษตอบทุกคนว่าฉันชมผู้ชาย
แจคที่เริ่มจะตั้งสติได้ก็แนะนำตัวกับฉัน “สวัสดี ฉันชื่อแจคนะ ยินดีที่ได้รู้จัก เธอชื่ออะไรหรอ”
“ชื่อสาน่ะ” ฉันตอบแจคด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างเหมือนไม่มีอะไรเคยเกิดขึ้น นั่นก็เพราะว่าฉันไม่อยากจะจำต่างหากว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าผ่านวันนี้ไปได้ ฉันจะอยู่ให้ห่างจากเขาให้มากที่สุดเลย ไม่อยากจะเจออีกแล้วคนแบบนี้
หลังจากจบการแนะนำตัวกันเสร็จ พวกเราสี่คนก็เริ่มไปซื้ออาหารแล้วกลับมากินด้วยกันพร้อมคุยกันไปเรื่อยโดยที่ส่วนมากจะเป็นพู่กับแดเนียลคุยกันมากกว่า ไม่ใช่ฉันกับแจคที่ได้แต่ถามคำตอบคำเวลาพู่หรือแดเนียลคุยด้วย  เมื่อเวลาพักหมดและพวกเราจะต้องไปเรียนคาบต่อไปที่พู่เริ่มเรียนก่อนฉันเพราะว่าเราไม่ได้ลงเรียนชั้นเดียวกัน เนื่องจากว่าพู่อยากจะเรียนชีววิทยาเทอมนี้ก่อน โดยที่ฉันอยากจะเรียนเคมีก่อน พวกเราทั้งสี่คนเดินไปส่งพู่ที่ห้อง เมื่อส่งเสร็จ แดเนียลก็ขอตัวทันทีในขณะที่ฉันเริ่มก้าวขาเดินไปหาห้องเรียนของตัวเองที่จะเริ่มในอีก ครึ่งชั่วโมงข้างหน้า เมื่อฉันเดินไปได้สักระยะ ฉันก็หันหลังมามองว่าใครกันที่เดินตามฉันมา คนนั้นก็คือแจคนั่นเอง
“เดินตามฉันมาทำไม”
“เราไม่ได้เดินตามเธอสักหน่อย เรามีเรียนชั้นทางนี้เหมือนกัน” เพล้งน่าแตก ไอ้สาเอ้ย เดี๋ยวมันก็หาว่าแกหลงตัวเองหรอก ทั้งๆที่แกกลัวเขาจะมายุ่งกับแกอีก
“อ๋อหรอ ฉันขอบอกไว้ตรงนี้เลยนะว่าถึงเธอจะเป็นเพื่อนของแดเนียล แล้วตอนนี้แดเนียลเขาก็เดทกับเพื่อนของฉันอยู่ แต่ว่าฉันก็ไม่อยากจะเป็นเพื่อนกับนายหรอก สิ่งที่นายทำไว้กับฉันน่ะ มันเกิดที่ฉันจะให้อภัยได้”
“จริงหรอ เธอจะไม่ให้โอกาสฉันแก้ตัวเลยหรอ ที่ฉันทำไปน่ะไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายคนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยเลยนะ” เขาเริ่มพูดกับฉันด้วยแววตาที่สำนึกผิด แววตาที่เริ่มจะทำให้ใจฉันอ่อนแอโอนเอียงลง ไม่ได้นะ ไม่ได้ ใจอ่อนไม่ได้ที่เขาทำลงไปน่ะ มันร้ายแรงเกินไป
“นั่นน่ะหรอที่นายไม่ตั้งใจที่จะทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเจ็บ ไอ้การที่นายมาทำร้ายฉันเพราะคิดว่าฉันเป็นแฟนเรย์ ถ้างั้นแฟนเรย์ก็ทำให้นายเจ็บงั้นสิ แล้วฉันขอถามหน่อยเถอะ แฟนเรย์เขาจะทำให้นายเจ็บได้ไงในเมื่อนายก็ยังไม่เคยเห็นหน้าเขาเลย หน้าก็ยังไม่รู้จักนายไปหาว่าเขามาทำอะไรนายได้ไง อย่างนั้นน่ะเขาเรียกว่าโกรธเรย์แล้วพาล นายน่ะมันคนพาล ฉันไม่อยากยุ่งด้วย”
“ไม่ใช่นะ แฟนเรย์น่ะเขาทำร้ายฉัน ถึงจะไม่ได้โดยตรงก็เถอะแต่ก็ทางอ้อมล่ะน่ะ เขาทำฉันเจ็บ เจ็บมากด้วย เจ็บจนฉันน่ะแค้นทั้งเรย์แค้นทั้งยัยนั่น” โอ๊ยนี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย ชักจะซับซ้อนไปหมดแล้วนะ
“เขาทำยังไงล่ะ ถ้าอยากให้ฉันเลิกโกรธ นายก็ต้องมีเหตุผลที่มันดีกว่านี้สิ เหตุผลแค่นี้น่ะมันไม่พอหรอก มันไม่กระจ่างพอ นายจะต้องอธิบายในฉันฟังตั้งแต่แรกว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างนายกับเรย์ ฉันถึงจะพิจารณายกโทษให้นาย”
“ฉัน.. ฉัน .. ฉันเล่าไม่ได้หรอก ฉันอาจทำร้ายใครบางคนที่ฉันต้องการปกป้อง ฉันไม่ได้ต้องการให้เขาเจ็บปวดอีกแล้ว” นายนั่นเริ่มพูดกับฉันด้วยแววตาเจ็บปวดอย่างยิ่ง ไม่นะสาเธอจะต้องไม่ใจอ่อนไปกับแววตานั่นนะ
“เอาเป็นว่านายเล่าให้ฉันฟังไม่ได้ งั้นนายก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ตราบใดที่ฉันยังได้คำอธิบายที่ดีกว่านี้ไม่ได้ที่นายมาทำกับฉัน ฉันจะไม่ยกโทษให้นาย เพราะว่าที่นายทำกับฉันน่ะมันมากเกินไป นายทำให้ฉันเสียบางอย่างที่ฉันไม่สามารถเอากับคืนมาได้แล้ว” ใช่ นายทำให้ฉันเสียโอกาสที่จะได้รู้สึกดีๆเมื่อมีคนมาสัมผัสส่วนบนของฉันเป็นครั้งแรก นายทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยงตัวเอง แล้วเจ็บปวดทุกครั้งที่นึกถึงคนที่สัมผัสฉันและสิ่งที่ทำให้ฉันต้องถูกสัมผัสอย่างนั้นครั้งแรก
ฉันที่เถียงกับนายนั่นพร้อมกันเดินไปด้วยก็มาถึงหน้าห้องเรียนของฉัน ฉันที่เถียงกับแจคมาจนหมดความอดทนแล้วก็เริ่มบอกให้เขาไปไกลๆ
“นี่นายน่ะ เลิกตามฉันสักที ฉันจะเข้าไปเรียนแล้ว ไป๊ไป” ฉันเริ่มไล่แจคอย่างหมูอย่างหมา เสียอยู่อย่างเดียวที่แจคยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน แจคทำตัวได้เหมือนหมูเหมือนหมามากที่ไม่ยอมขยับไปไหน ตามคำไล่ของฉัน
“ไปสิ นายนี่ไม่เข้าใจภาษาคนหรืออย่างไร หรือว่าต้องให้ฉันเริ่มเห่าหอน หรือร้องเสียงหมู”
“คือว่าก็ไม่ใช่ฉันไม่เข้าใจภาษาคน หรือว่าฉันหน้าด้านขนาดนั้นหรอกนะ แต่ว่ามันจำเป็นน่ะที่จะต้องอยู่ที่นี่”
“จำเป็นอะไร นายก็ไปเรียนของนายสิ มาอยู่ที่นี่ทำไม นายไม่มีเรียนหรือไง ไหนบอกว่าชั้นเรียนนายทางนี้เหมือนกันไง”
“ใช่ ฉันบอกอย่างนั้น”
“งั้นก็ไปสิ มายืนทำอะไรอยู่ที่นี่”
“พอดีว่ามันห้องเดียวกับที่เธอกำลังจะเข้าไปน่ะ ถ้าให้ฉันเดานะ เราคงเรียนห้องเดียวกันแน่เลย”
“บ้าหรอ นายเรียนอะไรถึงจะมาเรียนห้องเดียวกับฉัน”
“เราเรียนเคมีน่ะ” เพล้งครั้งที่สองของวันนี้กับนายแจค มันเรียนฉันเดียวกับฉันจริงๆด้วย แล้วฉันก็ไปไล่มันเหมือนกับว่ามันหลงรักฉันเลยตามฉันมาแจๆอีกรอบ
“หรอ” ฉันพูดได้แค่นั้นพร้อมกับแกล้งโกรธอย่างที่สุดเพื่อกลบเกลื่อนความหน้าแตกของฉัน
ฉันรีบเปิดประตูห้องเพื่อที่จะเข้าไปในห้องแล้วเพื่อที่จะหนีนายแจคจากที่ตรงนี้ แล้วหาที่นั่งให้ห่างนายแจคให้มากที่สุด แต่ทว่าก่อนที่ฉันจะได้ตั้งตัว ฉันก็ได้ยินเสียง ผัวะ หน้าของฉันก็ผงะไป เนื่องจากว่าฉันได้เดินพร้อมกับที่หน้าของฉันที่ได้ไปปะทะกับอะไรอย่างหนึ่งที่ขวางทางเข้าห้องเรียนของฉัน มือของฉันควานหาสิ่งของที่จะจับเพื่อที่จะผยุงตัวฉันไว้ให้ยืนต่อไป มือของฉันยื่นออกไปยื้อสิ่งที่ฉันชนข้างหน้า แล้วเริ่มมองตามจากมือของฉันไปปลายนิ้วและมองตามขึ้นไปตามสิ่งที่ฉันชน สิ่งที่ฉันชนนั้นมันไม่ใช่สิ่งของแต่ว่ามันเป็นคน คนเป็นๆทั้งตัวเลย ฉันได้แต่อ้าปากค้างอยู่อย่างนั้น พูดคำขอโทษไม่ออกแต่ขณะเดียวกันฉันกลับทำท่าจะหงายหลังไปเนื่องจากความช๊อกที่ก่อตัวขึ้นมาเป็นเท่าตัว หลังจากหายช๊อกจากเรื่องนายแจคเป็นเพื่อนกับแดเนียล แต่ทว่าคนนั้นกลับคว้าฉันเอาไว้ทันก่อนฉันจะหงายหลังแล้วเรียนชื่อของฉัน
“สา!!!”
คุยกันหน่อยน้า
โอ๊ยการบ้านไม่ได้ทำเลย มัวแต่มานั่งเขียนนิยาย
ช่วยกันเม้นท์หน่อยนาจะได้รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบอะไรกันบ้างจะได้ปรับปรุงตัวเอง
ถ้าไม่เม้นท์นะอาจจะมาอัพช้ากว่านี้หน่อยเพราะถือว่าไม่ค่อยมีใครสนใจอยู่แล้วว่าจะมาอัพหรือไม่เนื่องจากไม่เห็นมีใครบอกเลยว่าชอบ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น