คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Golden Medal 'Queen' - [II : Dangerous Night]
Golden Medal ‘Queen’
Dangerous Night
นัท โชติวุฒิ นักศึกษาปี 1 คณะศิลปกรรมฯ เจ้าของตำแหน่ง “เจ้าชาย” หมาดๆ เมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว กำลังตกที่นั่งลำบากเนื่องจาก ซิน “ราชินี” ของมหาวิทยาลัย หมายหัวให้เค้าเป็นศัตรูอันดับ 1 กลางงานต้อนรับเข้า ‘หอคอย’
หลังจากโดนประกาศิตให้เป็นรูมเมทของ ราชินีซิน คนหน้าสวยใจโฉด โหดผิดหน้าตา ผมก็ต้องรอการมอบกุญแจ ซึ่งไอ้คุณพี่ซินสั่งให้คนไปปั๊มกุญแจห้องมาเพิ่มให้ผมโดยเฉพาะ ปกติมีดอกเดียวนี่ครับ เพราะคุณราชินีเค้าอยู่คนเดียว
คิดแล้วก็อนาถตัวเอง แทนที่จะได้ทำความรู้จักกับเจ้าหญิงเจ้าชายคนอื่นๆ ในหอ อย่างมีความสุข ได้โอกาสตีสนิทเจ้าหญิงคณะอื่นๆ แต่ทุกคนทำตัวเหมือนไอ้นัทคนนี้โดนคำสาป ขนาดมองตายังไม่มองกันเลยครับ
สงสัยผมจะโดนคำสาปราชินีเข้าเสียแล้ว
มองนาฬิกาบอกเวลาตีสองหน่อยๆ นัทถือกุญแจห้องสีทอง เดินลากกระเป๋าเสื้อผ้า สะพายกีตาร์ บ่นด่าโชคชะตาตัวเองที่ทำให้ต้องมารับเคราะห์กรรมอะไรเหล่านี้
ทุกคนคงคิดอิจฉาผมล่ะสิ๊ ได้อยู่กับคนหน้าสวยๆ มีตำแหน่งราชินีขนาดนั้น
อยากมาอยู่แทนผมกันใช่มั๊ย?
เสียใจครับ ถึงจะประกาศเป็นศัตรูกับผมขนาดไหน แต่ไอ้ชายโชคนนี้ขอใช้สิทธิ์รูมเมทนี่ละครับ จะปราบให้หายซ่าส์เลยคอยดู!!
นัทลากสังขารเปื่อยๆ จากทั้งเหนื่อยกายและเหนื่อยใจมาทั้งวัน เดินขึ้นมาหยุดที่หน้าห้องหมายเลข 247 แค่คิดถึงคนที่อยู่ในห้องก่อนหน้า ก็ทำเอาเจ้าชายสุดเกรียนพะอืดพะอมอยากจะขย้อนของในกระเพาะออกมา
เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน!!
กึก!
เปิดไม่ออก.. ทำไมประตูห้องมันล็อควะเนี่ย? ไอ้คนข้างในมันต้องรู้สิครับว่ามีรูมเมทของมันรอย้ายของเข้าอยู่
กึก ๆ ๆ ๆ
ผมพยายามบิดแล้วเขย่าๆ เพื่อให้คนข้างในรู้สึกเสียทีว่ารูมเมทมาแล้ว เอาหูแนบ..
กริบ เลยครับ ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ .. ตัดสินใจเอากุญแจที่ได้มาไขดังกริ๊ก! ยิ้มพอใจกับตัวเอง คว้ากระเป๋าบิดประตูเตรียมเผชิญหน้าราชินีสุดสวย
กึก!
ประตูแง้มได้นิดเดียวก็ติดโซ่ที่ใช้ล็อคอยู่อีกชั้นหนึ่ง
ให้ตาย!! จะกวนประสาทกันไปถึงไหน!! เหนื่อยเป็นนะคร๊าบบบบบ!!
ผมตะโกนเข้าไปข้างใน
“เปิดประตูให้หน่อยคร้าบบบบบบบบบบบพี่คร้าบบบบบบบบบบ” เสียงเกรียนๆ ของนัทเข้าไปในห้องจนหนุ่มหน้าสวยที่แต่งตัวอยู่ชะงัก ยิ้มมุมปากพอใจ
อ๋อ..ไอ้รุ่นน้องหน้าเกรียนนี่เอง
ร่างบางในชุดนอนเดินมาตรงประตูที่แง้มไว้ มองหน้ายิ้มเสแสร้งจริงใจแล้วรู้สึกขัดใจประหลาด
ผม ทศพร นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะสถาปัตย์ฯ เจ้าของตำแหน่ง ราชินี แห่งมหาวิทยาลัย
ผมไม่ได้เต็มใจอยากจะเป็นราชาราชินีอะไรหรอกครับ แต่พอได้โหวตเป็นเจ้าหญิง ได้เห็นความสะดวกสบายในหอคอย ไอ้นิสัยคุณหนูลูกคนเดียวมันก็พุ่งปรี๊ด หอแยกส่วนตัว บรรยากาศดี สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เหมาะกับคนอารมณ์ศิลป์ ต้องการความเป็นส่วนตัวอย่างผม
หลังจากนั้นไม่รู้อะไรดลบันดาลใจไอ้ผู้ชายหน้าม่อล่อไม่เลือกสมัยนี้ ผลักดันให้ ผม ผู้ชายคนนี้ ใช่ครับ แม้หน้าจะสวย รวยทรัพย์ รวยรูป ดูละม้ายคล้ายหญิง แต่ผมยังเป็นผู้ชายนะครับ เพียงแต่ไม่เคยมีผุ้หญิงเข้ามาจีบผมเลย ไอ้ผมก็ขี้อาย ไม่กล้าจีบเขาก่อน . . นั่นละ . . . ไอ้พวกรุ่นพี่รุ่นเพื่อนผลักดัน หาเสียง จนผมก็กลายเป็นผู้ชายคนแรกที่ได้เป็นราชินี แถมพ่วงด้วยครองตำแหน่งตั้งแต่ปี 1 ทุบสถิติทุกอย่างถล่มทลายกันเลยทีเดียว
พูดเรื่องตัวเองมาเยอะแล้ว กล่าวถึงไอ้หน้ามาเฟียแต่กระแดะได้เป็นเจ้าชายดีกว่าครับ . . . ด้วยเหตุที่มันคนนั้น ทั้งที่เป็นรุ่นน้อง แต่บังอาจขัดใจและตั้งคำถามกับกฏที่ผมตั้งขึ้น รับรองเลยว่า เจ้าชายโชติวุฒิ ที่ริอาจต่อกรกับ ราชินีทศพร คนนี้ ต้องได้รับบทเรียนที่ไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน เริ่มจากคืนแรก ซึ่งควรสร้างให้มันประทับใจอย่างมิรู้ลืมเลยทีเดียว
“ว่ายังไง?” ผมเอ่ยหน้ายิ้ม มองคนนอกประตูด้วยความสมเพช เวทนา ผมเวทนาล่วงหน้าไปแล้วเมื่อรู้ว่าคืนนี้ไอ้น้องนัทจะต้องเจอกับอะไร
“เปิดประตูให้หน่อยครับ”
เออ ยังดีที่มีหางเสียง แต่ไม่ลดความขุ่นเคืองที่มันกวนส้นผมต่อหน้าคนนับร้อยได้หรอกครับ
“ตีสองครึ่ง นายมาเวลาหลังหอปิด พรุ่งนี้เช้าเจอกัน หอเปิดตีห้าครึ่ง ราตรีสวัสดิ์”
ผมปิดท้ายประโยคด้วยรอยยิ้มหวานๆ ก่อนจะกระแทกประตูปิดดังปัง! อ้อ.. ลืมบอกไปอีกอย่าง
ซินเปิดประตูมองหน้าชายโชที่เหวออยู่ แล้วพูดอีกครั้ง
“ไม่ต้องพยายามพังเข้ามา ไม่งั้นนายจะโดนลงโทษ ฐานทำลายทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย”
นัทยืนเคว้งอยู่หน้าห้องแบบไม่ทันตั้งตัว พยายามประมวลผลสิ่งที่เพิ่งได้ยินมา
ไอ้คุณราชินีมันจะมากไปแล้ว! แผลงฤทธิ์ตั้งแต่คืนแรกเลยหรอครับ ได้~ อย่างนี้ต้องเจอกันหน่อย ดูสิใครจะอึดกว่าใคร!!!
เที่ยงวันถัดมา
ชายโช หรือตอนนี้ทุกคนเรียกเค้าว่า “เจ้าชายโชแห่งศิลปกรรม” นั่งสัปปะหงก หัวจะทิ่มจานข้าว เพื่อนที่เดินตามมาสมทบ ตีกระหม่อมน้อยๆ แล้วถามเสียงดัง
“เฮ้ยไอ้นัท เค้าลือกันให้แซ่ดว่าเมิงไปลองดีกับราชินี จริงหรอวะ?”
ไอ้บอย เพื่อนจอมเสือกถามตั้งแต่เจอกันครั้งแรกของวัน ผมได้แต่ยิ้มมุมปากไม่ตอบ แต่เพื่อนที่สนิทกันตั้งแต่สมัยมัธยมอย่างมันหรือจะอ่านปฏิกิริยาผมไม่ออก เท่านั้นละครับมันก็ยิงคำถามต่อทันที
“แล้วเมิงก็ได้เป็นรูมเมทกับพี่เค้าใช่ปะ? แม่งเจ๋งว่ะเพื่อนกู เป็นไงลีลาสู้หน้าตาได้ปะวะ”
“ไอ้บอย พูดดีๆ กูไม่นิยมไม้ป่าเดียวกันเว้ย! ” ผมแทบจะชกเพื่อนหน้าคว่ำถ้าไม่ติดว่ายังเบลอๆ เพราะนอนไม่พอ มองอะไรก็ซ้อนเป็นสองอย่าง อาการคล้ายคนแฮงค์เลยครับ
“เอ้า..สวยขนาดนั้น เป็นกูกูยอมนะคร้าบ” มันทำท่าตุ้งติ้ง จนผมแทบจะขย้อนที่เพิ่งกินเข้าไปออกมา ทุเรศลูกตามากครับ มันหัวเราะเสียงดังกับท่าทางของผม บอยคงสังเกตได้มั้งครับว่าวันนี้เพื่อนมันดูเกรียนน้อยลงเลยถามมาอีกครั้ง
“แล้วนี่เมิงเป็นไรวะ เหมือนคนนอนไม่พอ”
ถูกเผง! อย่าเรียกว่านอนไม่พอดีกว่าครับ เรียกว่าไม่ได้นอนมากกว่า
ย้อนกลับไปกล่าวถึงเมื่อคืน ที่เป็นศึกแรกของผมกับราชินีใจโฉดนามพี่ซิน ใครจะยอมโดนแกล้งฝ่ายเดียว
เมื่อเจ้าของห้องเค้าไม่ให้เข้าห้อง คนมาใหม่อย่างผมจึงฆ่าเวลาด้วยการนั่งดีดกีตาร์...ตั้งใจดีดให้มันดังสุดๆ ชั้นนี้ทั้งชั้นเป็นห้องของราชินีห้องเดียว ไม่ต้องกลัวรบกวนคนอื่นๆ อย่างแน่นอน นั่งดีดมันหน้าห้องน่ะละ ครึ่งชั่วโมงไอ้พี่ซินมันก็ออกมาด่าผม แต่ยังไม่ให้เข้าห้องอยู่ดี . . .
เกรียนๆ อย่างชายโชหรือจะยอมเช่นกัน? . . . นั่งดีดกีตาร์เสียงดังไปเรื่อย เผลองีบไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีตอนตีห้าครึ่ง ประตูห้องเปิดจนผมซึ่งนั่งพิงอยู่หงายหลังเงิบ สะดุ้งตื่น เป็นที่น่าขบขันให้กับคุณราชินีได้อารมณ์ดีในตอนเช้า
อย่าคิดว่าจะสงบเท่านั้น ผมจัดของเข้าตู้เสื้อผ้าที่ว่างอยู่แล้ว ก็ห้องมันโคตรใหญ่อลังการอย่างกับการ์ตูนวอลท์ดิสนีย์น่ะสิครับ แต่ที่เหลือไว้ให้ผมเก็บเสื้อผ้าได้ก็ช่องเดียว เห็นเป็นผ้าพันคอนับร้อยคอเลคชั่นของพี่ซินกินพื้นที่ไปค่อนตู้ แม่ง เยอะจริงๆ
ด่าไม่ขาดคำ คนตัวเล็กใจใหญ่ก็เดินมาปิดไฟ ล้มตัวนอนต่อหน้าตาเฉย ร้อนผมเดินไปเปิดไฟ จัดของต่อ ผลัดกันอยู่อย่างนี้อีกเกือบชั่วโมง ไม่มีการปล่อยหมาใส่กันแต่มันเป็นสงครามเย็นชัดๆ!!
กว่าจะจัดของที่ไม่เยอะแต่กินเวลานานชิบเป้งเสร็จ พระอาทิตย์แยงตาแล้วครับ ผมเดินไปที่เตียงหวังจะล้มตัวนอนสักนิดก็ยังดี . . .
ชิบหาย! เตียงเดี่ยว!!
แม้จะคิงไซส์นอนสองคนสบายๆ แต่ใครจะยอมนอนร่วมเตียงกับไอ้โหดจอมเฮี้ยบ! แล้วอย่างผมหรือจะมีทางเลือก ความง่วงมันชนะอีโก้ ทิ้งตัวลงนอนข้างๆคนร่างบางที่กลิ้งไปอยู่อีกฟากเตียง ผมหลับตาพริ้มสบายใจ ได้นอนแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยย!!
พลั่ก!!
สภาพกลายเป็นเทพบุตรตกสวรรค์ทันที
ใครถีบวะ!?
ไอ้โง่นัทไม่น่าถามเลยครับ คำตอบมันชัดแจ้งอยู่แล้ว ก็มีมัน ราชินีมหา’ลัย กับผม เจ้าชายศิลปกรรม อยู่ในห้องกันสองคน จะเป็นใครไปได้!!
“เฮ้ยพี่!” ผมลุกขึ้นมาตะโกน มองหน้าคนสวยที่จ้องตาบ้องแบ๊วให้ได้อารมณ์น่ารักน่าเตะมากที่สุดในสากลโลก หน้าตาแม่งไม่ช่วยเลยครับ โหดชิบ!
“ว่ายังไงครับน้องนัท”
โคตรสุภาพผิดกิริยาหลายขุม เห็นแล้วอยากจะคว้านสมองอ่านได้ว่าคิดอะไรอยู่ สุภาพขนาดที่ผมไม่กล้าด่าต่อเลยครับ ได้แต่ทำหน้าเหนื่อยใจ สงสัยต้องใช้ไม้อ่อน
“ผมขอละพี่...” ไม่ทันพูดต่อหมอนแข็งๆ เดาว่าเป็นหมอนสุขภาพที่มันจะแข็งกว่าหมอนปุยนุ่นทั่วไป ลอยมาประทับหน้าจังๆ
โอย.. ทำอะไรผิดวะเนี่ยกู ..
“อย่าคิดเชียวนะ!!” มือเรียวชี้หน้าผม ถ้ามองไม่ผิดหรือเพราะนอนไม่พอ ราชินีแม่งหน้าแดงเถือกเลยครับ
คิดอะไรวะ? โอ้ยยยยย นี่หน้าผมมันหื่นกามขนาดจะหน้ามืดตามัวไปทำอะไรเจ้านี่ได้เลยหรอครับ? ถ้าผมจะทำจริงๆ ไม่ยอมให้มันถีบตกเตียงอย่างเมื่อกี๊หรอก
“ผมแค่ขอนอน..ขอพักผ่อน พักรบนะพี่” แทบจะยกมือไหว้ ขอนอนจริงๆ ครับ ตอนนี้ ต้องการเท่านี้จริงๆ
ซินเชิดหน้า นั่งกอดอกอย่างวางท่า มองหัวจรดเท้า สำรวจสภาพเจ้าชายมาเฟียแล้วเอ่ยขึ้นมา
“อนุญาติให้นอนได้ แต่... ตรงนี้”
บรรจงชี้นิ้วเรียวสู่ตรงพื้น ที่ชายโชยืนเหยียบอยู่ นัทมองตามนิ้ว แล้วกลับมามองหน้าร่างบางอีกครั้ง ใบหน้าหวานพยักหน้าช้าๆ ให้อีกฝ่ายได้เห็นชัดเจน พลางลุกไปตู้เสื้อผ้าของตัวเอง กลับมาพร้อมถุงนอนอันใหญ่
“เอาไป อยากนอนก็นอนสะ”
ผมโยนถุงนอนใส่อกเจ้าของตำแหน่ง เจ้าชาย แม้จะอนุญาติให้เข้ามาเป็น รูมเมทแล้ว
โอ้โห~..นี่กิติมศักดิ์มากเลยนะครับ ใครๆ ก็อยากเป็นรูมเมทผมกันทั้งนั้น โอกาสแบบนี้คนทั่วไปหาไม่ได้ง่ายๆ แน่นอน แล้วทำไมให้นอนพื้นน่ะหรอ? ตอนตัดสินใจให้มาเป็นเมทไม่ทันคิดเรื่องนี้น่ะ โชคดีที่ผมพกถุงนอนติดห้องไว้ ให้เค้าใช้ไปละกัน
ราชินี กับ เจ้าชาย มันต่างชั้นกันครับ
เรื่องราวเมื่อคืนก็ประมานนั้น ผมเดินขยี้ตาคลายความง่วง กร่นด่าไอ้เจ้าชายโชสาเหตใต้ตาดำคล้ำ หน้าตาในวันใหม่ไม่สดใสอย่างที่ควรจะเป็น
“ไงล่ะซิน..นิสัยเอาแต่ใจของแก งานเข้าตัวแล้วดิ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
เพื่อนผมเองครับ แพทตี้ เป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักตัวเต็งเจ้าหญิงเมื่อปี 1 แต่โดนผมคนนี้ซิวตำแหน่งไปครับ ตำแหน่งรองเป็นของแพท พอผมได้ตำแหน่งราชินี เธอเลยกลายเป็นรักษาการณ์ตำแหน่งเจ้าหญิงคณะแทนผมไป ช่วงแรกเกลียดกันแทบตาย แต่ตอนนี้รักกันแล้วครับ และเนื่องจากเป็นผู้ดำรงตำแหน่งสูงส่งถึงสองคน เราจึงคบกันเท่านี้ กลายเป็นคนไม่มีใครคบ ก็ดีครับ ผมไม่ค่อยชอบความวุ่นวาย
“อย่าล้อเหอะ ขอร้อง ง่วงจะตาย ทำไมต้องมีเรียนบ่ายด้วยเนี่ย เซ็ง อยากกลับไปนอนแล้วววววว”
ผมค่อนข้างโวยวาย แพทไม่สนใจไอ้เพื่อนที่นั่งอยู่ตรงนี้เลยครับนั่งเหม่ออะไรไม่รู้ ผมมองตาม
อ่อ.. ไอ้รูมเมทจอมกวนตีนของผมมันเดินมากับเพื่อนกลุ่มขโยงโวยวายมาแต่ไกลนี่เอง ตรงที่ผมนั่งเป็นข้างตึกคณะสถาปัตย์ฯ ที่เป็นทางผ่านเดินจากโรงอาหารออกไปนอกมหา’ลัย เท่าที่ดูๆ แล้วสภาพมันไม่ต่างกับผมเท่าไหร่ โทรมพอกันครับ ...
“น้องนัท ก็หล่อดีนะ.. เราว่าหน้าเค้าคมๆ ดี ดูกวนนิดๆ ถ้าแต่งนิดนะ หล่อเลย”
แพทเคลิ้มไปแล้วครับ มองตามตาไม่กระพริบ แพทอาจว่าหล่อแต่ในสายตาผม ตอนนี้ให้แค่ดูดีไปก่อนแล้วกัน มาตรฐาน QC ผมสูงน่ะ
เราเดินขึ้นตึกเรียนเตรียมเข้าคาบบ่าย ตอนที่เสียงกรี๊ดดังตามทางเดินข้างหน้าพร้อมกองทัพผู้หญิงที่เดินตาม ราชา แห่งมหาวิทยาลัยอยู่ ฮอตไม่เลิกครับ พี่ตู่ คณะรัฐศาสตร์ ปี 4 ราชามหาวิทยาลัยสองปีซ้อน ปีนี้ก็ตัวเต็งว่าจะได้อีกสมัย ต้องรอดูกันต่อไปว่ารายชื่อผู้เข้ารอบสุดท้ายจากเจ้าชายทั้งสี่ปีที่เข้าชิงจะเป็นใคร
เจ้าชายโชวางกีตาร์คู่ใจลง ใช้เวลาพักซ้อมเปิดอ่านจดหมายที่ไอ้คุณพี่ซินวางไว้พื้นข้างหัวนอนของเขา ก็จดหมายแจ้งเรื่องเข้าคัดเลือกเป็นราชาราชินีนั่นละครับ ตั้งแต่พี่ซินเธอ เอ้ย! เค้า~ ได้ตำแหน่ง ก็เปลี่ยนกฏให้เจ้าชายเจ้าหญิงทุกชั้นปีมีสิทธิ์เข้าประกวดชิงราชาราชินีได้ ในจดหมายแจ้งการคัดเลือกรอบแรกว่าจะให้เหลือเพียง 10 คน ด้วยวิธีการโหวต โดยกด Like ผ่าน Facebook กองจัดการแข่งขัน และเริ่มการโหวตตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเป็นเวลาสามวันถ้วน
โอ้บร๊ะ! ผมขอเป็นเจ้าชายแบบนี้ต่อไปครับ บ๊ายบายตำแหน่งราชา
เที่ยงคืนครึ่ง...
เลยเวลาเข้าหอไปแล้วครึ่งชั่วโมง ชายโชคนนี้ไม่คิดลองดีกับราชินีแต่อย่างใด แค่ทำตามปกตินิสัยคนเพื่อนเยอะ วันนี้เป็นวันที่พี่ๆ นำโดยพี่โอ้ตหัวหน้าแก๊ง พาเขาและเพื่อนไปเลี้ยงน้ำหวานตามที่สัญญาไว้ตั้งแต่เมื่อคืน เมื่องานเลี้ยงเลิกราเขาถึงนึกได้ว่าเขาไม่ใช่เจ้าชายธรรมดา แต่มีรูมเมทเป็นราชินีจอมเฮี้ยบแห่งยุค
นัทค่อยๆ ย่อง แล้วแง้มประตูบานใหญ่ทางเข้าหอคอย เวลานี้คุณพี่ซินผู้ตั้งกฏคงหลับไปแล้ว เพราะดูยังไงหมอนั่นหน้าตาอนามัยจัดสุดๆ คอนเฟิร์ม
พรึ่บ!
เฮ้ย!! ไฟดับ!!
“ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกก!! ”
“ไอ้ตุ๊ด!”
เสียงด่าคุ้นเคยดังข้างหู ชายโชหันไปมองก็ต้องตกใจอีกรอบ หน้าขาว ผมยาว โผล่ขึ้นมาในความมืดระยะประชิด
“ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ผีหลอกๆๆๆๆๆๆๆ”
พรึ่บ!
แสงไฟสว่างขึ้นอีกครั้ง นัทเงยหน้าขึ้นมอง เห็นราชินีคนเดิมยืนหน้ามุ่ย มองเค้าด้วยสายตาสมเพชอยู่ใกล้ๆ ชายโชลุกยืนเก๊กท่าหล่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“โหยพี่ ดึกแล้วแกล้งอะไรกันดูหน่อย มันน่ากลัวนะพี่”
ผมพยายามรักษาฟอร์ม มีไม่กี่อย่างในโลกหรอกครับที่ไอ้นัทคนนี้กลัว สายตาคนข้างหน้ายิ้มเยาะผมเหลือเกิน ยิ่งมองระยะใกล้มากแบบนี้ยิ่งเห็นแววประกายชัยชนะ นิ้วเรียวชี้นาฬิกาส่วนกลางบอกเวลาเที่ยงคืนครึ่ง
ลืมไปเลย! กำลังหลบหมอนี่เข้าหออยู่นี่หว่า
“กลับหอเลยเวลา หักคะแนนความประพฤติหอ 10 คะแนน ถือเป็นการเตือนครั้งแรก”
พูดจบก็ทำหน้ายู่ จมูกโด่งเข้ามาดมฟุดฟิดๆ ที่ตัวผม สงสัยจะได้กลิ่นเหล้า ซึ่งผมชินแล้วละ แต่กลิ่นแชมพูอาบน้ำส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวราชินีนี่สิครับ . . . ผมแอบยิ้ม ก็มันเป็นกลิ่นแชมพูอาบน้ำของเด็ก คนอะไร น่ารักจริงๆ สมองคิดไปถึงภาพเมื่อคืนที่นั่งหน้าแดงเถือกอยู่บนเตียง นั่นก็น่ารักดีเหมือนกัน
ผมเกือบจะยิ้มเพราะภาพในจินตนาการแล้ว ถ้าเสียงในความจริงไม่ดังโพล่งออกมา
“กินเหล้ามา...หักอีกสิบคะแนน”
พูดจบก็สะบัดตูดเดินขึ้นเรือนหอ เอ้ย ห้องหอ.. เอ้ย! หอคอยฝั่งชาย ไปก่อน ทิ้งไอ้นัทคนนี้เดินตามต้อยๆ เอาสิครับ ตัดคะแนนก็ตัด จะกลับดึกมันทุกคืนให้ แถมกินเหล้ากลับมาด้วย ให้มันรับให้ได้ครับว่ากฎที่มันตั้งใช้กับ นัท โชติวุฒิ คนนี้ไม่ได้!
อ้อ! ผมขอถอนความคิดที่ว่ามันน่ารักออกด้วยครับ และเติมคำเดิมลงไป
ไอ้ราชินีใจโฉด!!
*TBC
Talk
เป็นอีก 1 วันที่สนุกสนานกับการเขียนเรื่องนี้
ยังปั่น Love's Fortune อยู่เช่นเดิมนะคะไม่ได้ลืมแต่อย่างใด 55555
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ :))
ความคิดเห็น