คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : คลองถมอินเลิฟ ♡` | วันที่1
“มันต้องขายดีแน่นอน มึงเชื่อกูดิว้านัมจุน”
ไอ้ประโยคแบบนี้มาอีกและ = _ = ..
“มึงพูดอะไรช่วยดูสถานที่หน่อยได้ปะ”
“ทำไมงะ”
“....”
คิมนัมจุนถอนหายใจอย่างเหลืออด สะบัดเสื่อ2-3ทีก่อนจะกวาดสายตาไปรอบๆตัวของเขากับเพื่อนรัก(ที่เริ่มเกลียดมากขึ้นทุกวัน) โอเค.. ไม่ใช่ว่าคิมนัมจุนไม่เคยมาที่แบบนี้.. คลองถมน่ะ.. คลองถมน่ะนะ..
“มึงแหกตาดูดิวะ! แม่งขายกันทุกร้าน ทุกซอกทุกซอย เดินไปไหนก็เจอแต่จู๋ปลอม จนกูคิดว่าจู๋กูแม่งไม่มีความหมายอีกต่อไปแล้วอ่ะ”
“เห้ย! มึงอย่าไปพูดแบบนั้น จู๋เราดีที่สุดนะ” จองโฮซอกทำท่าเห็นอกเห็นใจเสียเต็มประดาก่อนจะเอาจู๋ปลอมไซส์มินิมาตีที่บ่าเขาเบาๆเชิงให้กำลังใจ
“เฮ้อ..”
เหนื่อยที่จะสนทนาด้วย นัมจุนเลยเลือกที่จะจัดร้านต่อไป เขามีหน้าที่ปูเสื่อส่วนโฮซอกมีหน้าที่วางของ ทีแรกก็ว่าจะแบ่งกันขายคนละวัน แต่ไปๆมาๆวันนี้โฮซอกก็มาปลุกเขาแต่เช้าด้วยเหตุผลที่ว่าไม่กล้าขายคนเดียว เขิน เดี๋ยวสาวมาซื้อแล้วหลงเดินตามสาวจนลืมร้าน ---เหตุผลบ้าบอที่สุดแต่เขาก็มากับมันจนได้
จริงๆนะ ไอ้ความคิดที่ว่าอยากเลิกเป็นเพื่อนกับจองโฮซอกไม่เคยมีมาก่อนเลยจนกระทั่งเมื่อวานนี้..
อ๊ะๆ ไม่ใช่จะเลิกเป็นเพื่อนเพราะอยากเป็นแฟนนะเว้ย ขนลุกซ์
“นัมจุน มึงว่ามันจะขายได้มั้ยอ่ะ” หลังจากที่จัดของเสร็จ ไอ้คนริเริ่มความคิดบ้าๆก็ถามออกมาอย่างเป็นกังวล
เพิ่งจะมาคิดเรื่องนี้ตอนนี้รึไง =_=
คนโดนถามหายใจรอบที่ร้อยก่อนจะตอบ “กูไม่รู้ ถ้าวันนี้ขายไม่ได้สักอันก็ล้มเลิกกิจการไปเลยนะมึง”
“ไหงงั้นอ่ะ เราก็ขาดทุนอ่ะดิ”
“มันก็ขาดทุนตั้งแต่มึงคิดไม่ใช่แล้วรึไงวะ”
“หงึก.. นัมจุนพูดงี้โฮปเสียใจนะ ฮึก.. นัมจุนไม่รู้หรอว่าถ้าเราไม่ขาย เราก็จะไม่มีเงินไปจ่ายค่าห้อง ถ้าเราไม่มีเงินจ่ายเราก็จะโดนอี––”
“ถ้ามึงพูดอีกรอบกูจะเอาจู๋ปลอมยัดปากมึง”
“ง่ะ!”
เห็นจองโฮซอกเบะปากแล้วก็อยากจะหยิบจู๋มายัดปากมันจริงๆ(หมายถึงจู๋ปลอมนะเฟ้ย)
“โอ๊ะ พวกพี่ๆเป็นหน้าใหม่หรอครับ ไม่เคยเห็นหน้าเลยอ่ะ”
เป็นคิมนัมจุนที่หันไปมองร้าน(?)ข้างๆก่อนจะขมวดคิ้วอย่างงุนงง เป็นใครมาเรียกว่าพี่วะ นี่เพิ่งอายุ20ปีดีดัก แล้วไอ้ของแบบนี้จะขายได้ก็ต้อง20+ไม่ใช่ไง้ หรือว่าหน้าโฮซอกมันแก่อ่ะ
“หน้ามึงอ่ะแหละ แก่”
หันกลับมามองเพื่อนสนิทอย่างตกใจ อะไรกัน.. ทำไมถึงรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่..
“คิดเหี้ยอะไร ก็มึงพึมพำๆอ่ะกูได้ยินนะ”
อ้าวจริงอ่ะ..
“เออ” คุณพระเอกของเรื่องถอนหายใจราวกับว่าตัวเองเป็นคนสติดีที่สุดในฟิค ก่อนจะเป็นคนเอ่ยปากทักทายคนร้านข้างๆกลับไป “หวัดดีจ้า ถึงเพื่อนผมจะหน้าแก่ไปนิด แต่ก็อายุเพิ่ง20นะงับ เป็นมักเน่ในย่านนี้แน่นอน!”
คนร้านข้างๆหัวเราะคิกคัก “แก่กว่าผมตั้ง3ปีเลยนะ”
“ห้ะ!!! สิบเจ็ดเองเรอะ?!!” หลังจากที่เถียงกันมาตั้งแต่อินโทร ตอนนี้โฮซอกกับนัมจุนพร้อมเพรียงกันร้องห้ะออกมาอย่างไม่เชื่อหู แต่ก็เป็นคนเด็กกว่าอีกนั่นแหละที่เอามือจุ๊ปากตัวเองส่งสัญญาณว่าให้พวกเขาเบาเสียงลงหน่อย
“ชู่วว เบาๆดิพี่ เสียงดังเดี๋ยวคนอื่นได้ยินแล้วเอาไปฟ้องเจ้าของที่ผมโดนไล่ออกพอดี”
“อ้าว นึกว่าบอกคนอื่นไปทั่วซะอีกว่าอายุแค่17”
อีกคนส่ายหัวยิ้มๆ “เปล่าหรอก เห็นพวกพี่ตลกดี เลยอยากผูกมิตรอ่ะ”
สิ้นคำพูด.. สองเพื่อนซี้ยิ้มหวานให้กันและกันก่อนที่นัมจุนจะดึง(กระชาก)เพื่อนใหม่เข้ามาสู่อ้อมอก ตามด้วยโฮซอกที่เข้ามาร่วมในอ้อมกอดนี้แล้วก็กระซิบอะไรสักอย่างกับคนเด็กกว่าด้วยเสียงแหบพร่า
“จะมาเป็นเพื่อนกันได้ต้องมาเก็บสบู่ด้วยกันก่อนนะจ๊ะ ฮิฮิ”
เมื่อได้ยินแบบนั้นร่างหนา(?)ก็รีบสะบัดตัวออกจากอ้อมกอดแห่งรักแทบจะทันที
“เชี่ย!!!”
แถมด่าด้วย...
เสียงหัวเราะดังลั่นตลาด โฮซอกหัวเราะจนเอนตัวลงไปนอนกับเสื่อพร้อมกับมือทั้งสองข้างกุมท้องเอาไว้แล้วก็ขายาวที่ดีดดิ้นไปมา ในขณะที่นัมจุนหัวเราะจนตาปิดหากแต่น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ มือหนาส่งไปเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างลวกๆ เด็กหนุ่มมองคนแก่กว่าทั้งสองด้วยความงงก่อนจะหัวเราะออกมาบ้าง
“พวกพี่แกล้งผมนี่หว่า”
นัมจุนปาดน้ำตาหยดสุดท้ายก่อนจะตอบ “เออดิ ใครจะเก็บสบู่เพื่อนตัวเองวะ ขนลุกจะตาย”
“เออ ไอ้นัมจุนตูดดำมาก เอาไม่ลงหรอก”
“มึงอ่ะแหละ มีปานที่ตูดด้วย!”
“เคยเห็นตูดกูได้ไงวะ?!”
“แล้วมึงรู้ได้ไงว่าตูดกูดำเคยเห็นหรอ?!”
“พวกพี่พอเถอะครับ ลุงๆป้าๆหันมามองกันหมดแล้ว..” เป็นเด็กหนุ่มที่คอยห้ามทัพอีกครั้ง นัมจุนกับโฮซอกหยุดเถียงกันทันทีแต่ก็ไม่วายเบ้ปากใส่กันอย่างงอนๆ คนเด็กสุดเกาหัวแก้เก้อก่อนจะส่ายหัวน้อยๆพลางคิดว่าเขาคิดถูกแล้วใช่ไหมที่จะผูกมิตรกับคนแปลกๆสองคนนี่
แต่อีกแง่มุมนึงเขากลับอิจฉาที่นัมจุนกับโฮซอกเป็นเพื่อนที่สนิทกันถึงขนาดนี้ ถึงจะดูเถียงกันตลอดเวลาแต่จะมีเพื่อนบ้าๆที่ไหนมาช่วยกันขายจู๋ปลอมนะ แล้วนี่โดนบังคับมาขายเหมือนกับเขารึเปล่าเนี่ย.. คงจะหมดหนทางจริงๆล่ะมั้ง
ก็แล้วคนสติดีที่ไหนจะยอมมาขายจู๋ปลอมโดยสมัครใจกันเล่า?!
“คุยกันมาตั้งนาน เอ็งชื่อไรวะไอ้ฟันกระต่าย” โฮซอกถามพร้อมกับสอดส่องสายตาไปยังโต๊ะที่ไม่ใหญ่มากที่ตั้งอยู่ข้างๆร้านของพวกเขา เดาว่าคงเป็นร้านของไอ้เด็กคนนี้แน่นอน แต่พอเห็นว่าอะไรที่วางกระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะเจ้าตัวก็อ้าปากกว้างขึ้นทันที “โอ้ววววววววว! แผ่นซีดี! หนัง! หนัง!”
“แหะๆ ชื่อจอนจองกุกครับพี่ ---แล้วก็ใช่ครับ หนัง..”
“มีหนังไรมั่งอ่ะ เดี๋ยวนี้จนไม่มีเงินไปดูในโรงเลยว่ะ” นัมจุนพูดเสริมโรงในขณะที่โฮซอกก็พยักหน้าเห็นด้วย
“ก็มีอยู่หนังเดียวอ่ะครับ”
“....”
“....”
“หนังโป๊”
อ่าห์.......
“นี่ยุนกิ จะเดินเบียดกันไปอีกนานมั้ย”
“ก็ผมกลัวนี่พี่”
คนเป็นพี่ส่ายหัวอย่างเอือมระอาก่อนจะเดินเร็วขึ้นทิ้งคนที่เดินเกาะแขนอยู่ข้างหลังเพราะขาสั้นกว่าเดินตามไม่ทัน มินยุนกิใส่เกียร์หมาวิ่งตามไปเกาะแขนอีกคนอีกครั้ง จนร่างโปร่งถอนหายใจอย่างหงุดหงิด
“เดินผ่านมาทุกอาทิตย์ยังไม่ชินอีกหรอ”
“จะชินได้ไงเล่าพี่ซอกจิน! ดูดิมีแต่คนมองอ่ะ แล้วดูของที่เขาขายสิ..” คนตัวเล็กพูดพร้อมกับทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“แต่เขาก็ทำอาชีพสุจริต เลิกมองพวกเขาแบบนั้นได้แล้ว พี่ไม่เคยสอนให้ยุนกิดูถูกคนแบบนี้นะ”
“ม..ไม่ใช่.. ผมไม่ได้หมายความแบบนั้นนะ..” ยุนกิหน้าเจื่อนลงทันที เขาไม่ได้หมายความว่าจะดูถูกคนขาย เอ่อ.. ขายอะไรแบบนี้ซะหน่อย มันก็แค่เขิน.. กระดากอายที่จะมองอ่ะ
ก็แถบนี้น่ะขายอวัยวะเพศชายปลอมกับอวัยวะเพศหญิงกระป๋องกันหมดเลยนี่!
ในจะหนังเอ๊กซ์อีกล่ะ จะให้เขามองผ่านเหมือนร้านขายขนมทั่วไปไม่ได้นะ!
“เฮ้ออ ผมก็แค่เขิน เห็นแล้วรู้สึกจั๊กจี้อ่ะ” เป็นอีกครั้งที่พี่ซอกจินของยุนกิส่ายหัวน้อยๆ แต่ก็ยอมให้อีกคนเกาะแขนติดหนึบอีกครั้งแต่โดยดี ก่อนที่ตาคมจะหันไปเห็นเด็กวัยรุ่น2คนกำลังมองมาทางพวกเขาอย่างเปิดเผย
จริงอย่างที่ยุนกิว่า.. พอมองของพวกนั้นตรงๆก็รู้สึกเขินๆจั๊กจี้แปลกๆแฮะ
“มองหน้าหารักหรอครับน้องหัวเขียว~ ฮิ้ว~”
“เห้ย! ไหนมึงบอกหัวเขียวของกูไง!”
“อ้าวหรอวะ.. ลืมงะ”
ซอกจินเริ่มเร่งฝีเท้าแล้วดูเหมือนยุนกิก็ก้มหน้าก้มตาเดินตามเขาให้ทันเหมือนกัน น้องรหัสของเขาตัวสั่นเป็นลูกนก เห็นท่าทางแก่นๆเบ๊อะๆแบบนั้นแต่กลัวคนเข้ามาเต๊าะสุดๆเชียวล่ะ ส่วนตัวเขาก็ไม่ชอบนักหรอกที่พวกผู้ชายมาแซว ก็คิมซอกจินน่ะแมนทั้งแท่งนะเว้ย! (ถึงจะมีแต่ผู้ชายมาจีบก็เถอะ) T – T.. สงสัยถ้าส่งยุนกิขึ้นรถเสร็จ ตอนขากลับต้องไปอีกทางนึงแล้วล่ะมั้ง ไม่เสี่ยงมาเดินทางเดิมดีกว่าถึงมันจะใกล้บ้านซอกจินที่สุดก็เถอะ
“นั่นไง ไปซะละ.. เพราะมึงเลยโฮซอกๆๆๆ เขาเดินช้าเหมือนอาม่าแถวบ้านก็ดีอยู่แล้ว มึงเสือกไปเต๊าะเขาอ่ะ เขารีบเดินไปเลย ฮ่วย!”
โฮซอกเบ้ปากก่อนจะเถียงกลับ “ก็เขามองมาพอดีนี่หว่า งุ้ยๆๆๆ หัวเขียวน่ารัก หัวขาวก็น่าร้าก”
“กูจองหัวเขียว”
“รู้แล้วน่า ทำเป็นหวงไปได้ จะเจอกันอีกรึเปล่าก็ไม่รู้” แต่พอพูดจบประโยคคิ้วเรียวก็ต้องขมวดมุ่นทันที “งืม.. เดี๋ยวนะ..”
“ไรอ่ะ”
“กระเป๋าที่หัวขาวสะพายอ่ะ รู้สึกคุ้นๆ..”
คิมนัมจุนเอียงคอมองอย่างสงสัย เมื่อกี้เขาก็ไม่ทันจะสังเกตสิ่งของเสียด้วยสิ มองแต่หน้า..
“เหมือนกระเป๋าที่คณะเราทำขายเลยว่ะ กูว่ากูเห็นโพนี่เจ็ดสีมณีเจ็ดแสงที่มึงวาดอยู่ด้วยอ่ะ”
เพียงแค่นั้น.. นัมจุนกับโฮซอกก็มองหน้ากันพร้อมกับยิ้มหวานให้กันและกันอีกครั้งหนึ่ง..
“มึงหัวเขียว”
“ส่วนมึงก็หัวขาว”
“โอเค / dealข่ะขุ่นเพื่อน”
จอนจองกุกรู้สึกเวียนหัวเหมือนทุกๆครั้งเมื่อมีชายฉกรรจ์มากหน้าหลายตายืนรุมล้อมแผงหนังของเขาเต็มไปหมด มือหลายสิบมือแย่งกันปัดป่ายไปทั่วแผง ดีที่แผงของเขามีที่กั้นไว้ไม่งั้นแผ่นซีดีคงตกเรี่ยราดเต็มพื้นไปหมด เขามีหน้าที่รับเงินกับทอนเงินเมื่อคนซื้อให้มาเกินเท่านั้น ถุงเถิงไม่ต้องใส่ให้เสียเวลาเพราะคนซื้อคงเอาซ่อนไว้กับตัวไม่ถือโทงๆไปมาแน่นอน
“น้องๆ มีแบบ108ท่าพิชิตใจเธอปะ”
“หาๆเอาดูเถอะพี่ ผมก็ไม่ได้จัดว่ะ ถึงจัดก็คงจำไม่ได้อยู่ดีเล่นละเลงกันขนาดนี้”
ผู้บริโภครุ่นลุงคนนั้นยู่หน้าก่อนจะเดินออกไป ไม่ซงไม่ซื้อแม่งละ คนขายหน้าไม่รับแขก
สุดท้ายกลุ่มชายถึกพวกนั้นก็หายไปในกลีบเมฆ จองกุกถอนหายใจออกมาแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เมื่อกี้เกือบจะขาดอากาศหายใจตายแล้วไหมล่ะ แต่ก่อนที่จะได้บ่นอะไรไปมากกว่านั้น ร่างสูงมองคนตัวเล็กๆคนหนึ่งที่เดินเข้ามาก่อนจะเอียงคอมองหน้าเขา
“นี่ร้านขายซีดีใช่มั้ย”
จองกุกพยักหน้าตอบ
“ดีเลย นี่! มี––”
“จีมิน!”
“เหวอ!”
เจ้าของชื่อสะดุ้งจนกระเป๋าเงินในมือหล่นตกพื้น ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากระเป๋าเงินตก จองกุกกำลังจะเอ่ยปากบอกแต่เสียงแหลมๆดันพูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“แทแท! ฉันตกใจหมดเลย นี่ใช่มั้ยร้านที่นายมาซื้อบ่อยๆน่ะ”
จองกุกเห็นเพื่อนของคนที่ชื่อจีมินมองแผ่นซีดีที่วางระเกะระกะอยู่บนแผงแล้วหน้าแดงเถือก
“ไม่ใช่ซะหน่อย! ไม่ได้ใส่คอนแทคเลนส์แล้วเป็นเอามากขนาดนี้เลยเหรอ”
คนชื่อจีมินทำหน้าเหรอหราก่อนจะหันมามองจองกุก “อ้าว.. ไม่ได้ขายแผ่นการ์ตูนหรอ?”
“ห้ะ?”
“ไม่ใช่ๆ ขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะพี่ มันไม่ได้ใส่คอนแทคมาน่ะ ตาเลยถั่ว” แทแท(ได้ยินอีกคนเรียกงั้น)จับมือเพื่อนแล้วกล่าวขอโทษขอโพยเขา ไม่วายดวงตากลมนั่นเหลือบมองซีดีอีกครั้งแล้วเม้มปากกลั้นเขินแน่น “ไปเหอะจีมิน”
“อือ.. ขอโทษนะครับ แหะๆ”
“ไม่เป็นไรครับ” จองกุกยิ้มให้ทั้งสองคนก่อนที่เจ้าตัวจะเดินจากไป เด็กหนุ่มส่ายหัวไปมาเบาๆ คนตัวเล็กๆนั่นสายตาสั้นหรือตาบอดกันแน่เข้ามาใกล้ขนาดนั้นแต่ก็ยังไม่เห็นปกซีดีชัดๆ แถมยังคิดว่าเป็นร้านขายแผ่นการ์ตูนอีก โคตรเด็กน้อยเลย
“จองกุก กระเป๋าเงินใครวะ” คนโดนถามหันไปมองกระเป๋าเงินที่ว่านั่นก่อนจะถอนหายใจออกมา ลืมบอกจนได้.. ป่านนี้คงตามไปไม่ทันแล้วล่ะ เขาใช้เท้าเขี่ยๆกระเป๋าเงินมาใกล้ตัวพร้อมกับขอโทษสิ่งต่างๆที่อยู่ในกระเป๋า เขารู้ว่าการใช้เท้ามันไม่ดีนัก แต่จองกุกขี้เกียจลุกไปหยิบนี่หว่า
“ของผมเองพี่โฮซอก กระเด็นไปไกลจังวะ” แสร้งทำเป็นเปิดกระเป๋าดูความเรียบร้อย ซึ่งโฮซอกก็เชื่อสนิท เลิกสนใจคนเด็กกว่าแล้วกลับไปตบแมลงวันที่มาตอมตัวเหมือนเดิม
มือหนาหยิบบัตรประชาชนของเจ้าของกระเป๋าออกมาก็ต้องหลุดขำ
อ้วนๆน่าหยิกแก้มซะไม่มี..
ปาร์ค จีมิน..
To be continue♡
#พบรักที่คลองถม
-
ความคิดเห็น