ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC [KKM] Yuuram เงากระจก จ้า ^^

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5 ค่ำคืนที่แสนยาวนาน

    • อัปเดตล่าสุด 9 ก.ย. 51


    หุหุแฟนยูแรมทั้งหลายนี่คือบทที่รอคอยคะ
     -------------------------------------------------------------
    ถึงตอนนี้จะสามารถรวมตัวกันได้แล้วแต่ดูท่าทางบรรยกาศมันกำลังตึงเครียดมากเนื่องจากศัครูคู่แค้นสมัยประถมของยูริและมุราตะที่ไม่ธรรมดานั้นได้โคจรมาเจอกันสะแล้ว และดูท่าทางจะเป็นศัตรูร่วมห้องที่เก่งมากแน่ๆ

     
    "โห หลายปีผ่านไปแล้วยังเหมือนเดิมเลยนะ ชิโระ" ยูริพูดขณะที่ยังจ้องตาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อกันยังกะอะไร
     
    "ฮึนายก็เหมือนกันนั้นแหละ" ชิโระสวนกลับ
     
    "เธอเองก็ยังคงอยู่ยงคงกระพันจริงนะ" มุราตะเองก็ดูท่าทางจะไม่ยอมแพ้เหมือนกัน
     
    "นายก็เป็นพวกตายอยากเหมือนกันนะเนี่ย" บริเวณที่ทั้งสี่ยืนอยู่นั้นราวกับว่าจะลุกเป็นไฟและถ้าเพิ่มเอฟเฟ็กด้วยก็ต้องมีสายฟ้าแลบกับท้องฟ้ามืดๆอยู่ด้วย
     
    "เธอทั้งสองคนละน้าหัดทำตัวให้มันเหมือนผู้หญิงซะบ้างสิดูสิใส่แต่กางเกงอย่างเดียวและก็หัดพูดจาให้มันดูไพเราะเข้าหูหน่อย แต่งหน้าแต่งตาให้มันดูดีหน่อยได้ไหม และก็ใส่สีอื่นที่ไม่ใช้สีดำกับขาวสะบ้าง" มุราตะเปิดตัวก่อนด่าฉอดๆแบบไม่ขาดสายปล่อยให้วอลฟรัมอึ่งไปกับคำพูดว่าเนี่ยนะหรือท่านนักปราชญ์ที่น่าเคารพนับถือผู้มีสติปัญญาเลิษล้ำ และที่สำคัญที่สุดคือใจเย็นแต่กลับด่าเพื่อน เอ้ย อตีดศัตรูร่วมห้องเหมือนแม้ค้าขายผักในตลาดซะงั้น
     
    "ก็ไว้ปล่อยผมให้มันยาวและไง" คูโระเถียงกลับเป็นไฟ
     
    "นี่คุณเธอ คุณเธอไว้ผมยาวตั้งแต่ประถมแล้วนะคุณเธอ แถมยังตัวเตี้ยเหมือนเดิมอีกด้วย นี่โตขึ้นหรือป่าวเนี่ยหรือว่าเตี้ยลงหะยัยป้า" ยูริพูดและพลางกดหัวชิโระลงเพื่อแสดงถึงความเตี้ยของชิโระที่สูงไม่ถึงไหล่ของยูริเลย ชิโระเมื่อโดนกดหัวก็เส้นเลือดขึ้นตุบๆจนเกือบแตกและด่ากลับไปว่า
     
    " นายก็เหมือนก็เหมือนกันนั้นแหละแต่งตัวอย่างกับคนบ้านนอกใส่เสื้อเฉยๆไม่มีรสนิยมเลยแถมยังตัดผมทรงห่วยๆเดิมๆอีก มีแต่ขี้ก้างไม่มีกล้ามเลยแม่แต่นิดเดียวป้องกันตัวเองก็ไม่เป็นนี่นายเป็นผู้ชายจริงๆหรือป่าวเนี่ย!" ชิโระเถียงกลับจนยูริสะดุ้งเพราะมันดันตรงกับตัวเองหมดเลย โดยเฉพาะเรื่องทรงผมนี่นรกเลย และก็ถึงตาของคูโระบ้างแล้ว
    "ส่วนนายมุราตะ เคน ไม่สิ เจ้าแว่น ก็ยังคงแต่งตัวเป็นเด็กเรียนแถมยังใส่แว่นทรงกลมอีกด้วย ยิ่งเข้าไปกันใหญ่ อย่างน้อยก็หัดใสคอนแทกเลนส์สะบ้างสิหรือไม่ก็เปลี่ยนทรงแว่นซะ เพราะมันดูเหมือนคนหัวโบราณ และนายก็ยังเป็นพวกลามกเหมือนเดิมใช่ไหมเนี่ยมิน่าละถึงไม่มีใครมาจีบสะที" (อ่าอันที่จริงเขาก็ใส่คอนแทกเลนส์แล้วนี่นาตอนที่ไปชายหาดนะ) เมื่อต่างคนต่างด่าอีกฝ่ายกันเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาเปิดศึกแต่ก็โดนวอลฟรัมที่เป็นพวกโดนลูกหลงอยู่กลางสนามรบหยุดซะก่อน
     
    "นี่พวกนายจะเถียงกันไปถึงเมื่อไหร่เนี่ย?และจะได้ไปกันไหมเนี่ยสวนสนุกอะไรนั้นนะ"
     
    "อืมใช่วอลฟรัมเราไม่ต้องไปสนใขเจ้าพวกป้าๆขี้บ่นนี่และไปกันเหอะ" ยูริพูดและก็จูงมือวอลฟรัมเดินหนีชิโระและคุโระ มุราตะก่อนเดินจากไปก็แลบลิ้นโส่แต่ก็ได้คุโระเตะหน้าเสียก่อน
     
    "นี่นายชั้นเจ็บข้อมือไปหมดแล้วนะนั้นปล่อยสิ"วอลฟรัมพยายามแกะมือของยูริออกจากยูริออกจากข้อมือแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อเจ้าตัวนั้นแรงเยอะผิดปรกติ
     
    "ไม่เอาหรอก ชั้นไม่อยากหลงกับวอลฟรัมอีก อยากอยู่ด้วยกันนะ" ยูริส่งยิ้มให้วอลฟรัมอย่างอ่อนโยนจนวอลฟรัมหน้าแดงจนจะกลายเป็นมะเขือเทศอยู่แล้ว และก็หัวกลับไปข้างหลัง "และนี่พวกเธอตามมาทำไมมิทราบ!!"
     
    "จะไปสวนสนุกใช่ไหม เราก็จะไปสวนสนุกเหมือนกันก็เลยขอตามมาด้วย" คุโระยิ้มแป้นและก็เดินไปอยู่ข้างๆวอลฟรัมกับชิโระ "ไปๆไปสวนสนุกกัน!!!"
    *              *              *              *              *              *              *              *                
     
    ณ สวนสนุก
     
    วอลฟรัมอึ่งไปสรรพัดเครื่องเล่นและร้านนค้ามากมายตามข้างๆทางเดินในสวนสนุกที่ดูหลากหลายและสะดุดตา ก่อนที่จะโดนยูริและฝาแฝดตัวน้อยลากขึ้นเครื่อง Space Mountain ที่ดูหวาดเสียวแต่ก่อนที่จะปฏิเสทได้ รู้ตัวอีกทีก็นั่งอยู่บนเครื่องเล่นเสียแล้ว
     
    "ยะ-ยูริแน่ใจนะว่าไม่อันตราย มองไม่เห็นอะไรข้างหน้าเลย" วอลฟรัมจ้องมองไปยังอุโมงที่ดูจะไม่มีวันสิ้นสุดและตัวเองก็ดันเลือกที่นั้งข้างหน้าสุดด้วยอีกตะหาก
     
    "ไม่ต้องกลัวหรอกถ้ากลัวก็เกาะแขนชั้นเอาไว้แน่นๆก็ได้" ยูริพูดและเครื่องเล่นก็เริ่มขยับทำให้วอลฟรัมตกใจเล็กน้อยและเกาะแขนยูริไว้สะแน่นเหมือนหมีโกล่า (ไม่ได้สะกดผิดหรอก จำได้ไหม หมีโกล่าที่เกือบกินหมีแพนด้ายักษ์นะ)
     
    "พี่วอลไม่ไม่ต้องกลัวหรอกไม่น่ากลัวเลยหนุกดีออก" ชิโระที่นั่งอยู่ข้างหลังกะโกนบอกและบอบอกปุ้ปเครื่องก็ทิ้งดิ่งเลย
     
    "เหวออ!!" วอลฟรัมใช้มือทั้งสองกุมแขนยูริเอาไว้ซะแน่นจะแขนชาไปหมด
     
    *              *              *              *              *              *              *              *              *              *             
     
    เย้ขึ้นอีกรอบได้ปะ ปรกติมาที่นี่ทำไรต้องขึ้นอย่างน้อยสี่รอบ อ้าวแล้วพี่วอลละ?" คุโระที่ กำลังอินกับเครื่อเล่นพึ่งสังเกตัว่าวอลฟรัมหายตัวไปไหนก็ไม่รู้ (คิดว่าคงเดาถูกแล้วแหละ)
     
    "อืมรู้สึกว่าเมาเครื่องเล่นเลยไปทำธุระในห้องน้ำกับยูริไปแล้วละ" มุราตะที่กำลังดื่มน้ำอัดลมอยู่กับยัยแฝดสองตัวนี้รู้สึกไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่
     
    "พี่วอลกับยูริเป็นแฟนกันใช่ไหม?" ชิโะถามมุราตะ จนน้ำที่กำลังคาอยู่ในปากของมุราตะพรวดพราดออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของชิโระที่ถามคำถามแบบนั้นออกมาแต่ก็โชคดีที่ไม่โดนใครเข้า
     
    "นะ-นี่เธอ ไปเอามาจากไหนนะ"
     
    "ก็ดูจากท่าทางและก็คำพูดของหมอนั้นไง ใครๆก็รู้อยู่แล้วว่าอีตาบ้านั้นแสดงละครไม่เก่งเอาซะเลย"
     
    *              *              *              *              *              *              *              *              *              *              
    "นี่ยูริ ชิโระกับคุโระนี่เป็นคนยังไงเหรอ" วอลฟรัมที่กำลังเช็ดหน้าเช็ดตาอยู่กลับไปเอ่ยชื่อของศัตรูคู่แค้นให้ได้ฟัง
     
    "อืม ทั้งคู่เด็กกว่าชั้นตั้ง2ปีแนะแต่ก็ฉลาดและก็เก่งกีฬามากๆเลยด้วย ทั้งสองเป็นคู่ปรับกับชั้นเรื่องกีฬาและก็เป็นคู่ปรัมกับมุราตะเรื่องเรียน ตัวเตี้ยมากๆเลยด้วย ถึงจะเป็นผู้หญิงแต่ก็ฮ้าวเกินชายเลยแหละ และก็ให้ความรู้สึกของความเป็นผู้ใหญ่มากๆเลยด้วย"
     
    "แต่ก็แปลกที่ว่าทำไมถึงชอบเรื่องชั้นว่าพี่ด้วยละ" ขนาดตอนนี้เสียงหวานของชิโระและคูโระยังก้องอยู่ในหูของวอลฟรัมเลย
     
    "อืมอันนี้ฉันว่านายไปถามเจ้าตัวเองดีกว่านะ"
     
    *              *              *              *              *              *              *              *               
    หลังจากที่เล่นเครื่องเล่นอีกหลายอันและก็เข้าไปในบ้านผีสิงเรียบร้อยแล้ว (และซึ่งวอลฟรัมกับยูริก็กลัวผีขึ้นสมองจากเหตูการณ์ที่ปราสาทต่างกันกริ๊ดแต๋วแตกลั่นบ้าน) แสงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าทำให้เห็นท้องฟ้าสีเลือดที่สวยงามราวกับว่ามันจะลุกเป็นไฟ แล้วก็ได้เวลาดูพลุยามค่ำคืน ที่กำลังจะจุดในอีกไม่ช้านี้ ชิโระกับคุโระลากมุราตะออกมาห่างๆ ยูริและมุราตะเพื่อที่จะให้โอกาศทั้งสองสรภาพกันหน่อย เพราะรู้ว่ายูริยังไม่ได้บอกวอลฟรัมแน่นอน ยูริที่รู้ว่าชิโระกับคุโระให้โอกาศเขากับวอลฟรัมก็รีบจุงมือออกจากฝูงชนที่กำลังวุ่นวายเพื่อหาที่นั่งดีๆดูพลุ แทนที่จะไปหาที่นั่งกับเขาด้วย ยูริกลับปีนต้นไม้สูงเพื่อดูพลุ ทันใดที่พลุดวงแรกขึ้นท้องฟ้า แสงประกายระยิ้บระยั้บเปล่าประกายท่ามกลางแสงดาว สีสันของมันทำให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนมีชีวิตราวกับอยู่ในนิยาย (ก็มันเป็นนิยายนี่หว่า)
     
    "สีของพลุสวยจังเลยเนอะ" วอลฟรัมดูพลุดีดวงที่กำลังจะระเบิดส่องแสงสีเขียวเป็นรูปดาว6แฉกอย่างสวยงาม
     
    "อืม สีเขียวสดใสราวกับสีของมรกตที่ส่องประกาย เหมือนดวงตาของนายเลยนะวอล" ยูริพูดและก็จ้องไปยังท้องฟ้าที่ไม่มีวันสิ้นสุด "แต่ชั้นชอบสัตาของวอลฟรัมมากกว่า เพราะมันไม่เหมือนพลุ พลุนะเห็นแค่แปปเดียวก็จางหายไปแต่ดวงตาของนายนะ ยังคงส่องประกายด้วยสีมรกตอันงดงามเสมอ ดูได้จนไม่เบื่อเลยแหละ" ยูริเปลี่ยนจากมองท้องฟ้ามามองดวงตาของวอลฟรัมที่มีสีมรกตส่องประกายเหมือนจะดึงดูดเข้าไปด้วยเลย วอลฟรัมเมื่อได้ยิงคำชมของยูริเข้าหนอยก็หน้าแดงเป็นมะเขื่อ
    เทศเลย "ชั้นนะดีใจมากๆเลยนะที่มีนายคอยอยู่ข้างๆชั้นคอยให้กำลังใจยามที่ชั้นทุกข์หรือเศร้า ชั้นมีความสุขนะ"
     
    "ถึงจะช้าไปหย่อยแต่ก็นะวอล" ยูริเอามือขึ้นมาลูบแก้มของวอลฟรัมเบาๆ "ชํ้นคิดว่ารักนายเข้าให้และแหละ" แทนที่วอลฟรัมจะดีใจยิ้มแป้นแต่กลับน้ำตาคลอเบ้าจนเกือบร้องไห้ "อะอ้าวร้องไห้ทำไมและเนี่ย"
     
    "คนโกหก โกหกชั้นอีกแล้วใช่ไหมอย่างยูริคนใจง่ายอย่างยูริไม่มีทางหรอก-" ยังไม่ทันพูดจบยูริก็ฉวยโอกาส จูบวอลฟรัมทันที (ว๊ายๆๆกรี๊ดดังๆหน่อย) และก็ค่อยๆแยกออกมา
     
    "อยากนี้ชั้นจะนอกใจนายได้อย่างไงก็นายน่ารักสะขนาดนี้นะ" คราวนี้แทนที่จะหยุดร้องกลับหนักเข้าไปอีกเมื่อร้องไห้ออกมาอีกแต่ร้องไห้ในอ้อมกอดของยูริ
     
    "นายรู้ไหมว่าชั้นรอคำนั้นมานานแค่ไหน ฮือๆ" วอลฟรัมพูดไปสะอื้นไป
     
    "อืม รู้สิคราวนี้หยุดร้องไห้ได้แล้วนะ"
     
    ชั้นร้องไห้ก็เพราะนายนั้นแหละ" ทั้งชีวิตของชั้นที่เคยร้องไห้ก็เพราะนายทั้งนั้นนั่นแหละ วอลฟรัมคิด
     
    ทั้งคูต่างกันมองดูพลุที่ลอยขึ้นทองฟ้าท่ามกลางสายลมยามค่ำคืนที่แสนสงบ
     
    โหมดวอลฟรัม
     
    ในเมื่อตอนนี้เขารับรู้ว่าชั้นรักเขาและเขาก็รักกลับแล้ว แค่นี้ชั้นก็คิดได้เลยว่าตายตาหลับได้แน่ๆแต่ในตอนนี้ชั้นขอแค่อย่างเดียวคือ อยากให้เวลาเดินช้ากว่านี้หน่อย อยากให้กลางคืนยาวกว่านี้หน่อย ได้โปรดเถอะ ยังอยากอยู่อย่างนี้ไปอีกสักพัก นานๆ อยู่ในอ้อมกอดของเขา มันช่างแสนจะอบอุ่นเหลือเกิน อย่าไปไหนเลยนะ อยู่ตรงนี้หน่อยนะ คอยอยู่ข้างชั้นอย่างนี้ ตลอดไป
     
    *              *              *              *              *              *              *              *             
     
    วิ้วแต่งจนคิดไปเลยว่านี่เราแต่งอย่างนี้ได้จริงๆเหรอเนี่ย -*- เอาเหอะหนุกดี
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×