ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    American Guy ว่าจะไม่รักแล้วนะ!

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 7 : First … At Betty’s Birthday … แรก ณ งานวันเกิดเบทตี้

    • อัปเดตล่าสุด 26 มี.ค. 57


    Chapter 7 : First … At Betty’s Birthday แรก ณ งานวันเกิดเบทตี้



     

             ให้ตายสิ ฉันยืนรอไอ้คุณชายสวีเดนมาเกือบ 10 นาทีแล้วนะ ไหนบอกว่าคนยุโรปตรงต่อเวลาไงยะ มาเจออีตานี่แล้ว ยิ่งทำให้ฉันไม่เชื่อเข้าไปใหญ่

              ฉันขอบอกก่อนเลยนะว่าฉันไม่ได้ลืมบรีไปหาฝรั่งนะจ้ะ -..- ฉันว่าบรีคงไม่ได้ไปไหนมาไหนกับฉันช่วงหนึ่งแล้วล่ะ แหงล่ะสิ พ่อแม่บรีโหดจะตาย  ทุกเสาร์-อาทิตย์บรีจะต้องสอนภาษาไทยเพิ่มเติมให้กับธัญญ่า เวรกรรมจริงๆ -___- ทีฉันยังไม่ต้องสอนเลย ถึงแม่ฉันจะให้สอน ฉันก็ไม่สอนหรอก ฉันไม่อยากมีนักเรียนแบบไอ้บรูคลิน

              “เฮ้ โทษทีนะ ที่มาสายไปหน่อย”

              “สายไปหน่อย? งั้นเหรอ? นี่นายรู้ไหมฉันยืนรอนายมาตั้งสิบกว่านาทีแล้วนะ เป็นผู้ชายอะไรปล่อยให้ผู้หญิงรอ นี่ ถ้าฉันเป็นแฟนนายนะ ฉันบอกเลิกนาย----”

              “-O-???”

              “ก็แค่เปรียบเปรยเฉยๆ น่ะ -3- ช่างมันเถอะ รีบๆ ไปซื้อ ฉันจะได้รีบกลับ”

              กรี๊ดดดด นี่ฉันพูดอะไรออกไปนะ ตายละ เสียฟอร์มฉันหมด

     

    #20 นาทีต่อมา @Baby Luma Gift Shop

              อ๊า นี่คือที่โปรดของฉันเลยล่ะ งานวันเกิดใคร จับฉลากที่ไหน ฉันก็มาซื้อของที่นี่ทุกครั้งแหละ ด้วยร้านที่ใหญ่สุดๆ 3 ชั้น แอร์ก็เย็นชื่นจายยยยย อ่า สวรรค์ชัดๆ O3O

              “เธอว่าเบทตี้ชอบไอ้นี่ไหม”

              โทเบียชูหน้ากากไอรอนแมนขึ้นมาให้ฉันดู เอิ่ม... -__- ก็นะ ปีที่แล้วฉันยังจำได้ นอกจากยัยเบทตี้จะเต้นเหมือนหมาโดนน้ำร้อนลวกแล้ว นางยังกรี๊ด เหวี่ยง วีน ลั่นบ้านเมื่อเห็นของขวัญที่เป็นชุดกีต้าร์เบส ที่พ่อแม่นางอุตส่าห์เตรียมไว้ให้ นางไม่ปลื้มค่ะ นางอยากได้ชุดแต่งหน้าแบบลิมิเต็ดอิดิชั่นของแบรนด์ NAKED ต่างหาก นางเบทถึงกับซึมไปสามวัน เมื่อได้รู้อีกว่าแม่นางลงคอร์สเรียนเบสไว้ ฉันเข้าใจแก ใจแกมันหญิง 55555

              “เอิ่ม..ฉันว่าอย่าเลย นายต้องซื้อของน่ารักๆ แบบผู้หญิงจะเข้าทางกว่านะ”

              “แบบไหน ฉันไม่รู้”

              “ก็ผู้หญิงชอบอะไร เบทตี้ก็ชอบแบบนั้นแหละ”

              “แล้วเธอชอบอะไร”

              “ก็..ถ้าเป็นของขวัญฉันขอเป็นตุ๊กตาแมว”

              “ตามนั้น”

              ปัญหาก็คือ.. ฉันจะซื้ออะไรให้มันดีเนี่ย -___- อันนั้นก็เชย อันนี้ก็เห่ย จะว่าไปซื้อตุ๊กตาให้มันดีกว่า ซิมเปิลสุดและ แต่ฉันจะเพิ่มความเก๋ลงไป คือฉันจะซื้อตุ๊กตาที่เว้นส่วนหน้าไว้ เอาไว้ใส่รูปคนรักไรงี้ 555 ฉันจะใส่รูปพ่อหมาป่า เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์ ลงไป ยัยเบทตี้ค่อนข้างจะชอบฮีเลยล่ะ ฉันจำได้ตอน ม.4 ที่ไปดูหนังกับนาง นางกรี๊ดใหญ่เมื่อเห็นโปสเตอร์หนังเรื่องทไวไลค์ กอดๆ จูบๆ ลูบๆ คลำๆ แต่รูปของเทย์เลอร์ เลาท์เนอร์ -__- ฉันล่ะเพลียยยย

              “กรี๊ดด!!! พวกแก มาดูเร็ว พี่วันเฉลิม”

              ฉันหันขวับไปหาเจ้าของเสียงทันที อ๋อ พวกเด็กมัธยมต้นนี่เอง -_- เชิญซักถามตามความชอบเลยจ้ะ ฉันไม่เอาด้วยแน่ –3-

              “อ้าว พี่เนล มาทำอะไรที่นี่คะ อย่าบอกนะว่ามากับพี่วันฉลิม (^_^)_^)

              หนึ่งในเด็ก ม.ต้น ที่แต่งตัวแรงสุดๆ หันมาถามฉัน

              “พี่มาซื้อของให้เพื่อนน่ะ ^_^’

              “ไม่ได้มากับพี่วันเฉลิมก็แล้วไปค่ะ แล้วพี่บรูคลินล่ะคะ”

              “แฟนของหนูเองอ่ะค่ะ ^o^

              อีกคนที่แต่งตัวแรงไม่แพ้กันพูดขึ้นมา

               “แหม พูดมาได้นะ -__-

              น้องคนแรกพูดใส่เพื่อนด้วยหน้าตาที่เหยียดหยามกันเองสุดๆ

              “สรุปว่าไงคะพี่เนล  พี่บรูคอยู่แห่งไหน”

              “เฮ้ เนล ฉันจะไปแคชเชียร์แล้วล่ะนะ ฉันจะไปรอข้างนอกล่ะ”

              ฉันเห็นโทเบียรีบเดินออกจากกลุ่มเด็ก ม.ต้น 5-6 คนนั่น

              “ว่าไงนะ รองั้นเหรอ? แสดงว่าพี่เนลมากับพี่วันเฉลิมน่ะสิคะ หมายความว่าไงคะพี่เนล”

              เด็กคนเดิมพูดขึ้นมาอีกพร้อมทำหน้าไม่เชื่อหูตัวเอง

              “ใช่ พี่มากับวันเฉลิม และก็จะกลับแล้วด้วย”

              ปรี๊ดมากค่ะ ฉันปรี๊ดสุดๆ ก็แหม่ ฉัน(เกือบ)เป็นเซเลบของโรงเรียนนี้ไปแล้วสินะ จากที่คนส่วนใหญ่ (แต่ไม่ทั้งโรงเรียน) รู้ชื่อฉันเนื่องจากแม่ฉันบริจาคเงินเข้าโรงเรียนไม่ยั้ง จนตอนนี้ได้รู้กันหมดทุกคนแน่เพราะไอ้ฝรั่งสองคนนี้ แงๆ T^T เอ่อ.. แล้วนี่ฉันหยิบอะไรมาเนี่ย ด้วยตอนนั้นที่ฉันกำลังยืนเลือกตุ๊กตาไร้หน้า แล้วมีเด็กมาสัมภาษณ์ ทำให้ฉันฉุนมากจนฉันหยิบตุ๊กตาไอรอนแมนที่ห่างจากโซนตุ๊กตาไร้หน้าไปนิดเดียว ชอบไม่ชอบก็เรื่องของแกแล้วนะยัยเบทตี้ ฉันไม่มีวันย้อนกลับไปเลือกใหม่แน่ ชิๆ  : (

              “ห่อของขวัญไหมคะ : )

              พนักงานหน้าใสถามฉัน ขณะที่ฉันมองไปที่โทเบียหน้าร้าน เขากำลังรอฉันอยู่

              “ไม่ค่ะ ขอบคุณ”

              ฉันบอกพร้อมหิ้วถุงตุ๊กตาออกมาหน้าร้าน ทันทีที่ออกมา ฉันรู้สึกถึงความร้อน

              ร้อนแฮะ ร้อนจริงๆ แดดเมืองไทยนี่แบบ !@#$%^&*#%#$#

              “ร้อนอ่ะ”

              ฉันสบถ

              “เธออยู่ไทยมาทั้งชีวิตบอกร้อน แต่ฉันนานๆ มาครั้งยังไม่บ่น O-O

              “แยกตรงนี้ละกัน เจอกันคืนวันอาทิตย์”

              “เดี๋ยวก่อนสิ ฉันขอเบอร์โทรเธอหน่อยได้ไหม”

              “……

              “เอาน่า เฟซบุ้คเธอก็ได้”

              “ไม่อ่ะ บายยยยย”

              ทันทีที่พูดจบ ฉันก็รีบวิ่งออกมาจากตรงนั้น ฉันไม่สนหรอกว่านายนั่นจะรู้สึกว่าฉันทำร้ายจิตใจรอบสองหรือเปล่า ก็นะ เรามาด้วยกันแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว มันจะไม่มีรอบสองอีก

     

    #วันอาทิตย์ 18:00 น.

              “นี่นายแน่ใจนะว่าจะไม่เข้าไปอ่ะ O^O

              “ฮึ ไม่อ่ะ พี่เนลจำปีที่แล้วไม่ได้เหรอ แม็คโดนเจ้าของงานแต๊ะอั๋ง”

              “แหม ทำเป็นหวงไปได้ -3-

         E  “อย่ากลับบ้านดึกล่ะ แม่เป็นห่วง และถ้าจะกลับก็โทรให้แม่มารับได้นะ”

              “ค่ะ”

              “ขอบคุณครับ มามิ๊ :D

             ทันทีที่จบบทสนทนา รถก็ขับออกไปจากหน้าบ้าน ตรงนี้ที่ฉันกับเด็กแลกเปลี่ยนที่สุดแสนจะไร้เดียงสา (?) ทำไม ฉันถึงหงุดหงิดโดยไม่มีสาเหตุนะ

              ฉันเดินเข้ามาในส่วนของลานหน้าบ้านของเบทตี้ ที่ตรงนี้ไม่มีคน สงสัยคงจะจัดงานที่สวนหลังบ้านล่ะมั้ง บ้านยัยเบทนี่ก็ช่างโอ่อ่า หรูหราซะเหลือเกิน โดยเฉพาะวันนี้ ลูกปง ลูกโป่ง สายร้ง สายรุ้ง เต็มไปหมด >_< หน้าบ้านยังกับบ้านผีสิง ฉันว่าหลังบ้านก็คงไม่ต่างจากผับ จากบาร์ล่ะมั้ง -___-"

     

    Betty’s 17th Birthday Party

              ฉันว่าน่าจะปิดหมู่บ้านเลี้ยงเลยไหมเนี่ย ป้ายงานใหญ่ซะขนาดนี้ -3-

          E “แล้วเราจะไปทางไหนต่อ”

         E  “ฉันรู้น่า ตามมาเถอะ”

              ฉันเดินนำหน้าบรูคลินมาเรื่อยๆ เซาะแซะผ่านห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องกินข้าว เสียงเพลง เสียงคน ก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเปิดประตูจากห้องกินข้าวออกไป ก็จะเป็นสวนหลังบ้าน และฉันก็เจอ...

         E  “แท่น แทน แท๊นนน มาจนได้นะจ๊ะ สาวเนลและพ่อหนุ่มบรูคลิน”

              โอโหยยยย นี่งานเลี้ยงหรืองานคานิวัลเนี่ยฮะ! จัดได้แปร๊ดสุดๆ เมื่อมองไปรอบๆ ฉันก็เห็นเพื่อนๆ ของห้องฉันรวมถึงบรีกับธัญญ่า และห้องอื่นๆ ที่เป็นเพื่อนกับเบท กระเทยอีก 2-3 นาง และ..โทเบีย

         E  “อ่ะนี่ ของขวัญของแกยัยเบท”

         E  “อันนี้ด้วย : )

         E  “อุ๊ยตาย ขอบคุณทั้งสองเลยนะจ๊ะ”

              เบทถือกล่องของขวัญของบรูคลินและถุงตุ๊กตาของฉันไปไว้ที่โต๊ะศูนย์กลางหลังบ้าน

         E  “ไปๆ ไปหาอะไรกินกันเถอะ ไปดิ้น ไปแด๊ก อะไรก็ได้ คืนนี้จัดเต็ม ถ้าเบทไม่เป่า เราไม่กลับใช่ไหมทุกคนนนนน ^+++^

              เบทหันไปตะโกนกับเพื่อนๆ ซึ่งก็มีผลตอบรับเลยทีเดียว -*-

              ฉันเลือกที่จะนั่งโต๊ะเดียวกับบรีและธัญญ่ารวมถึงโทเบีย ให้ตายสิ จะมาร่วมโต๊ะกับพวกฉันทำไมนะ ส่วนอีตาบรูคลินก็..ไปนั่งกับพวกจีจี้และเพื่อนผู้ชายจากห้องอื่นๆ อีกหลายคน

              “โตนนั้น ฉันก่อแบบตกใจม่ากๆ ฮ่าๆๆๆ”

              ธัญญ่าได้เล่าเรื่องแปลกๆ ที่เธอเจอเมื่อมาเหยีบประเทศไทยครั้งแรก มันเป็นความไร้เดียงสาบวกกับความตลก แต่ฉันไม่ตลกเลยอ่ะ -0-

              “ฮ่าๆๆ ธัญญ่า เธอควรไปยืนทอร์คโชว์ได้เลยนะ :D

              โทเบียหัวเราะสมทบ

              “พวกเธออ่ะไม่รู้อะไร ตอนฉันอยู่บ้านนะ กรามแทบค้าง ธัญญ่าโคตรตลกเลยอ่ะ”

              “ฮ่าๆๆ”

              ธัญญ่าหัวเราะอีกครั้ง

              “เออนี่ พวกเธอจะเอาอะไรป่าว ฉันว่าจะไปหาอะไรมากิน”

              “ฉันขอสปายสีชมพูได้ป่ะ”

              “แหม เดี๋ยวนี้กินสปงสปายแล้วนะ ยัยบรี”

              “ฉันข่อข่าวผัดได้ไหม เธอถือได้ไหม เดี่ยวฉันไปช่วย”

              “ได้ๆ ไม่มีปัญหาจ้า ธัญ”

              “งั้นฉันไปด้วยดีกว่า ว่าจะไปหาอะไรกินด้วย”

              ฉันกับโทเบียลุกขึ้นพร้อมเดินไปยังโต๊ะศูนย์รวมอาหาร ด้วยความที่สนามหลังบ้านของยัยเบทนั่น(โคตร)ใหญ่ ไม่รู้จะเปิดเทนนิสคอร์ตหรือไงกัน -*- ฉันเลยต้องเดินไกลล่ะทีนี้

              “แล้ว เบทชอบของขวัญนั่นไหม”

              “ก็ไม่รู้สิ เห็นเธอรับจากมือฉันไป แล้วก็ไปวางที่โต๊ะใหญ่นั่น”

              “เหมือนกัน”

              “จะไปที่โต๊ะอาหารเหรอ ไปด้วยคนสิ”

         E  “อ้าว นายเองเหรอ พ่อหนุ่มเมกัน  งานเลี้ยงเป็นไงบ้าง”

              โทเบียทำท่าตกใจแถมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อเจอบรูคลิน

         E  “ก็ดี คัลเลอร์ฟูลดี”

         E  “เจ๋ง แต่ฉันว่าคงไม่เจ๋งเท่าปาร์ตี้แบบอเมริกันใช่ไหม”

         E  “คงงั้น แล้วนายล่ะโทเบีย พ่อหนุ่มสวีดิช ปาร์ตี้คงไม่เจ๋งเท่าที่เดนมาร์คใช่ไหม”

         E “ฉันเป็นพวกไม่ยึดติดน่ะ อยู่ที่ไหนก็ชอบที่นั่น”

         E “แน่ใจเหรอ ฉันขอให้นายอย่าหลอกสาวไทยแบบที่พ่อนายทำก็แล้วกัน”

              เอ่อ...ฉันว่างานนี้มีต่อย เพราะสองคนนี้หยุดเดิน และมองหน้ากันแบบจริงจัง ได้โปรดอย่าเลย T^T

         E  “เฮอะ” โทเบียยืนเท้าเอวพร้อมเบี่ยงหน้าไปข้างๆ E “พ่อไม่ได้หลอกแม่ฉันซะหน่อย”

          E “แน่เหรอเพื่อน อย่าลืมสิ เรื่องตอนเก่าเรายังเคลียไม่จบนะ”

              เรื่องเก่า? หมายถึงอะไรเนี่ย

         E  “เฮ้นี่ ฉันไม่รู้ว่าพวกนายกำลังหมายถึงอะไร แต่ขอร้องอย่าทะเลาะกันที่นี่ เพราะเรื่องอาจถึงอาจารย์ในโรงเรียนได้”

         E  “ใครหน้าไหนฉันก็ไม่สนทั้งนั้น ถ้าพี่ชายเธอยังพูดจากวนประสาทฉันอีก ฉันได้ต่อยหน้าพี่ชายเธอแน่ ”

         E  “ใครพี่ชายฉันยะ เขาไม่--”

         E  “มัวพร่ำอะไรอยู่เล่า เราจะไปเอาเครื่องดื่มมาดื่มที่โต๊ะอยู่ไม่ใช่เหรอ ไปเถอะธัญญ่ากับบรี คงรออาหารแย่แล้ว”

              โทเบียจับแขนฉัน แล้วเดินออกไปจากตรงนั้น

              ฉันไม่อยากจะพูดถึงเรื่องอะไรทั้งนั้น คนในงานเริ่มเยอะขึ้น ซึ่งมันทำให้เรื่องเมื่อกี้ แทบไม่มีใครสนใจเลยล่ะ แต่มันจะกลับเป็นผลเสียครั้งใหญ่ถ้าสองคนนี้ต่อยกันกลางงานล่ะก็ เรื่องถึงโรงเรียนแน่ๆ

              “ถ้าเธอไม่ชอบที่ฉันจับแขนเธอ ฉันขอโทษละกัน”

              โทเบียเดินเข้ามาตักข้าวผัดให้ธัญญ่า ข้างๆฉัน

              “ไม่เป็นไร”

              ฉันตักมันฝรั่งทอดใส่จานกระดาษ

              “เธอสวยมากเลยนะ วันนี้ รู้ไหม”

              สวย? นี่ฉันโดนชมหรือเนี่ย O^O

              ตายแน่ๆ

              อย่าแดงนะ -////-

              อย่าแดงสิ -//////////-

              ฉันห้ามมันไม่ได้ใช่ไหม -//////////////-

              โอเค แดงก็แดง -///- ฉันเดินไปหยิบขวดสปายดีกว่า เพื่อเบี่ยงเบนรอยแดงบนแก้มนั่น

              “ให้ฉันช่วยไหม”

              โทเบียยื่นมือมารับ

              “ไม่เป็นไร รีบๆ กลับโต๊ะเถอะ คนเยอะแล้ว”

              ฉันรีบเดินออกมาจากโต๊ะอาหาร พร้อมเอาอาหารที่หยิบมาไปวางไว้ที่โต๊ะของเรา

              คนเริ่มเยอะมากขึ้นทุกที น่าจะประมาณได้เกือบ 100 กว่าคนนะ นี่งานเลี้ยงของยัยเบทตี้หรืองานออสการ์กันแน่ แต่ละคนจัดเต็ม(โดยเฉพาะเจ้าของงาน) เว้นแต่เสียผู้ชายบางท่าน ที่ใส่กางเกงเจเจ ไม่ก็บ็อกเซอร์มา -3-

              บางคนก็เริ่มออกมาแดนซ์ บางคนก็เมาแล้ว บางคนก็เอาแต่กิน บรีกับธัญญ่าออกไปแดนซ์เรียบร้อย ฉันว่าสองคนนั้นเมาได้ที่แล้วล่ะ ดูแต่ละท่าเต้นของสองนางแล้ว... ส่วนในโต๊ะก็มีแค่ฉันกับโทเบีย

              “ไม่เต้นหน่อยเหรอ”

             “ไม่อ่ะ ฉันไม่ถนัด”

              เมื่อนั่งอยู่กับที่ได้สักพัก เจ้าของงานก็บึ่งเข้ามาหาโต๊ะฉัน

              “ไม่เต้นหน่อยเหรอจ้ะ”

              “ก็อยากอยู่นะ แต่ผมไม่มีคู่อ่ะ”

              “แหม พูดแบบนี้วอนหาคู่ใช่ไหมจ้ะ โทเบีย”

              “ก็ทำนองนั้น”

              “แหม โทเบีย เรารู้นายไม่อยากเต้นกับเราหรอก ไม่ต้องมาพูดหยอกล้อกันเลย” เบททำท่าทางเขิน โอ้ยย ฉันล่ะเบื่อกับลีลาแม่นาง -*- “เออนี่ แกเห็นบรูคลินบ้างป่ะ ฉันเดินหาทั่วงานแล้ว ไม่เห็นจะมี”

              “ไม่อ่ะ อยู่ในห้องน้ำป่าว”

              “ไม่นะ ไม่มีอ่ะ หรือว่า...กลับบ้านไปแล้ว”

              “อย่าบ้าน่า นายนั่นอ่านภาษาไทยไม่ออกด้วยซ้ำ แค่ออกจากหมู่บ้านแกแล้วจะเลี้ยวซ้าย หรือเลี้ยวขวา นายนั่นก็ไม่รู้หรอก”

              “มะเหงกสิ ยุคนี้ สมัยนี้เขามีจีพีเอสนำทางย่ะ”

              “ช่างเหอะ กลับก็กลับ ฉันไม่ได้ว่าอะไร”

              มันก็จริง เค้าหายไปไหนนะ นายนั่นคงไม่อัจฉริยะจำทางกลับบ้านได้ซะด้วยสิ

              เมื่อบรีกับธัญญ่ากลับมานั่งที่โต๊ะ โต๊ะก็มีเสียงอึกทึกขึ้นมาอีกครั้ง สองคนนี้ท่าจะไปไกลแล้วนะ O3o

          E “อ้าว เฮ้ บรูคลิน นายไปไหนมาเนี่ย เอ่อ...แล้ว ใครชวนยัยนี่มาไม่ทราบยะ”

              เสียงเบททำให้ฉันต้องหันหลังกลับไปมองที่เจ้าตัว บรูคลินกับเชลลี่ คำถามเข้ามามากมายในหัว

    1.            บรูคลินไปไหนมา    

    2.            แล้วยัยเชลลี่มาด้วยทำไม

    3.            แล้วทำไมสองคนนี้มาพร้อมกัน

          E “นายไปไหนมาน่ะ”

              ฉันถามบรูคลิน พร้อมมองหน้าเชลลี่ด้วยความงุนงง

          E “เชลลี่ เธอเบื่อน่ะ เธอหนีออกมาจากบ้านเพื่อไปห้าง แต่เธอก็หลงจนได้ เธอเมสเสจมาหาฉันเพื่อขอความช่วยเหลือ”

          E “ก็แหงสิ อันที่จริง ยัยโฮสซิสสุดเห่ยของฉัน บอกจะพาไปเที่ยววันนี้ แต่ที่ไหนได้ เธอพาฉันไปที่ตึกที่มีแต่ที่กวดวิชา ขอโทษนะ ฉันอยากไปช็อปเสื้อผ้า ไม่ได้อยากไปช็อปความรู้เคมี อะไรเทือกนั้น โฮสซิสฉันเห่ยที่สุดในสามโลกเลย เธอลงคอร์สเรียนพิเศษไว้มากกว่า 5 ที่! ถ้าฉันเป็นเธอนะ ฉันจะได้ขึ้นชื่อว่า ไอน์สไตน์ 2 ของโลกในอีกสิบปีแน่!!

               เธอพูดพร้อมใส่อารมณ์ ท่าไม้ลายมือเต็มที่ สมกับเป็นผู้ดีแห่งฝรั่งเศสจริงๆ -..-

         E  “จะเป็นอะไรไหม ถ้าเบทตี้จะให้เธอเข้าร่วมงานนี้ด้วย”

              บรูคลินพูดด้วยท่าทางอ่อนหวาน

         E  “เอ่อ...คือ...ได้สิ ได้สิจ๊ะ ไม่เป็นปัญหาหรอก ฮี่ๆๆ ^++^

              ฉันรู้สึกถึงความไม่เต็มใจพูดของยัยเบท -*- จริงๆ นะ

         E  “อ้าว โทเบีย ธัญญ่า ดีใจที่ได้เจออีกครั้ง ฉันรู้สึกอบอุ่นทุกทีที่เจอคนบ้านเดียวกัน ทวีปเดียวกันน่ะ”

              เชลลี่เดินเข้าไปจับมือทักทายกับโทเบียและธัญญ่า

              ทันใดนั้นความเงียบก็เข้ามาปกคลุมอีกครั้ง สายตาทุกคนมองไปที่ฟลอร์เต้นรำ เอิ่ม.. นี่พวกเธอไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยเหรอ หมดเรื่องคุยกันแล้วหรือไงฮะ >_<

         E  “เพลงช้าแล้ว อยากเต้นไหม”

               ทุกคนหันหน้าไปหาโทเบีย

         E  “เอ่อ โทษทีพวก ฉันพูดกับเนลน่ะ”

              โทเบียพูดพร้อมแสยะยิ้มให้บรูคลิน เขาเดินมาหาฉันและพูดว่า...

         E  “ได้โปรด เต้นกับฉันเถอะ”

              เอ่อ... นี่เหมือนฝันเลยแฮะ เขายืนตรงหน้าฉัน มือซ้ายไขว้หลัง มือขวาผายหน้ามาทางฉัน คือ... โมเม้นท์นี้ขอฟินก่อนได้ป่ะ กรี๊ดดดดด  >_<

         E  “แหวะ น้ำเน่า ”

              เชลลี่สบถ พร้อมทำท่าจะอ้วก

              “ตกลงเลย นังเนล ถ้าแกไม่ ฉันรับแล้วนะ O^O

              เบทกระแทกฉันทีนึงพร้อมพูดแบบกัดฟัน

         E  “เร็วสิ ฉันเมื่อยนะ :P

         E  “อะ..โอเค”

              อ๊ายยย ว่าก็ว่าเถอะ ฉันวางมือข้างซ้ายไปบนฝ่ามือขวาของเขาแล้วอ่ะ ปฏิเสธก็คงไม่ได้แล้วสินะ -/////-

              เราเข้ามาในฟลอร์เต้นรำแล้ว ฉันไปไม่ถูกเลยอ่ะ เต้นก็ไม่เป็น นี่ครั้งแรกเลยนะ

              มือฉันเริ่มหายสั่น ใจฉันเริ่มเข้ากับสถานการณ์แล้ว วินาทีนั้นทำให้ฉัน ได้ยินเสียงเพลงอย่างชัดเจน

     

    You by the light is the greatest find In a world full of wrong you're the thing that's right

    [เธอ คือการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ด้วยแสงสว่าง ในโลกที่เต็มไปด้วยความผิดพลาด เธอคือสิ่งเดียวที่ถูกต้อง]

     

    Finally made it through the lonely to the other side

    [ในที่สุดก็ผ่านพ้นความโดดเดี่ยวมายังอีกฟากแล้ว]

     

    You said it again, my heart's in motion Every word feels like a shooting star

    [เธอพูดอีกครั้ง แล้วหัวใจฉันมันก็เริ่มเคลื่อนไหว ทุกๆคำพูดนั้นเหมือนกับดาวตก]

     

    I'm at the edge of my emotions Watching the shadows burning in the dark,

    [ฉันอยู่ที่สุดขอบของอารมณ์แล้ว เฝ้ามองเงามืดลุกเป็นไฟในความมืดมิด]

     

    And I'm in love and I'm terrified. For the first time and the last time In my only life.

    [และฉันก็ตกหลุมรัก และหวาดกลัวไปพร้อมๆกัน เป็นครั้งแรก และครั้งสุดท้าย ในชีวิตเพียงหนึ่งเดียวของฉัน]

     

              ฉันรู้สึกได้ว่าเราอยู่จุดกึ่งกลางฟลอร์เต้นรำ เราคือศูนย์กลางของงานนี้ ทันใดนั้นเราได้หยุดเท้าลงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

              “ทำไม”

              “ก็แบบนี้ไง”

              ทันทีที่พูดจบ โทเบียได้โค้งตัวลงมาหาฉัน และหน้าของเขาใกล้ฉันเข้ามาเรื่อยๆ เขาจะทำอะไร?  จูบฉันงั้นเหรอ? ตามนิสัยของฉัน ฉันต้องตบหน้าเขาและด่าเขาไปแล้ว แต่ทำไมฉันยังอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรอีกล่ะ

              โทเบียได้ประกบริมฝีปากของเขาลงบนริมฝีปากของฉัน ฉันรู้สึกได้ถึงความอุ่นของริมฝีปากเขา มันช่างอบอุ่นจริงๆ วินาทีนี้ ฉันไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น ถึงแม้ว่าฉันจะได้ยินเสียงฮือฮาจากคนรอบข้างก็เถอะ

              โทเบียถอนจูบออกจากฉันอย่างแผ่วเบา และเขาพูดอย่างอ่อนโยนว่า...

              “Will you be my girlfriend?” 




    _______________________________________________________________
    ขอบคุณรูปภาพจาก www.tumblr.com
    ขอบคุณธีมจาก  
    Minor!
    เพลงเต้นรำ : Terrified - Katharine McPhee
     

    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×