ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    American Guy ว่าจะไม่รักแล้วนะ!

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 5 : Why Me? ผู้รับเคราะห์ก็คือฉัน

    • อัปเดตล่าสุด 19 ธ.ค. 56



    Chapter 5 : Why Me? ผู้รับเคราะห์ก็คือฉัน

        เอิ่ม -_- ดีใจจริงๆ ฉันได้ตำแหน่งสะพานสื่อรักของจริงก็ทีนี้แล้วล่ะ T^T แล้วจะให้ตอบยังไงดีล่ะทีนี้ ถ้าไม่ตอบน้องคิตตี้คงยืนโพสแบบนี้ไปอีกนาน พวกข้างหลังที่เหลือก็ปากแดงจริงๆ ไปกินลาบเลือดที่ไหนมากันเนี่ย

     

            “พี่ไม่รู้ค่ะ” ฉันตอบพร้อมทำหน้าแหยๆ

           “ไม่รู้ได้ไงค้าาา ก็พี่เนลเป็นโฮสพี่บรูคไม่ใช่เหรอ” น้องคิตตี้ลากเสียงยาว

           “ถึงพี่จะเป็นโฮสเค้า นอนบ้านเดียวกับเค้า แต่เรื่องแบบนี้พี่ไม่รู้จริงจ้ะ”

           “ต๊าย! พี่เนลพูดได้ไงเนี่ยว่านอนบ้านเดียวกับเค้า พี่พูดเหมือนไม่ให้เกียรติพวกเราเลยนะคะ” เด็กสาวปากแดงคนหนึ่งในกลุ่มของน้องคิตตี้พูดขึ้นมา

           “ก็มันเรื่องจริงนี่ =[]= นี่ พี่จะบอกน้องๆ ไว้นะ ถ้าคิดจะจีบฝรั่ง พี่ว่าไปจีบอีตาโทเบียดีกว่าไหม โทเบียเค้าพูดภาษาไทยได้นะ น้องพูดกับเขาได้สบายแน่ๆ”

            “แหม่ พี่โทเบียหล่อก็จริงนะคะ แต่หนูคิดว่าพี่บรูคหล่อกว่าและน่ากินกว่าค่ะ -///-” เอ้า ไอเด็กพวกนี้ท่าจะบ้า พูดเอง เขินกันเองซะงั้นทั้งกลุ่มเลย “สรุปพี่เนลจะไม่บอกพวกเราใช่ไหมค้า ไม่เป็นไรค่ะเพราะคิตตี้และเพื่อนๆ จะอยู่ใกล้ชิดกับพี่เนล พี่บรูค และพี่วันฉลิมอีกหนึ่งปีเต็มค่ะ”

            “ใกล้ชิด!?! หมายความว่าไงเนี่ย”

           “ก่อนวันกีฬาสีไงล่ะค้าาา อ้าว ทำงงๆ ม.2 ปีนี้ได้ขึ้นสแตน และพี่ ม.5/11 และพี่ 5/04 ต้องเป็นคนคุมซ้อมสแตนนี่ค้าาา” น้องคิตตี้ พูดเน้นเสียงยาว แถมตาจะถลนออกมาแล้วด้วย =_=

            “โอเคๆ มีอะไรค่อยคุยละกัน พี่ไปกินข้าวก่อน” ฉันเดินออกมาจากวงสนทนาของกลุ่มลาบเลือด -.,- และเดินไปซื้อก๋วยเตี๋ยว

        ว่าแต่บรียังไม่โทรมาหาฉันเลยอ่ะ เป็นอะไรหรือเปล่านะ ฉันไม่อยากนั่งกินข้าวกับไอ้โทเบียสองคนนะเว้ยยยยยย T^T

            “อ้าว มาสักทีนะ ฉันเห็นเธอยืนคุยกับเด็กปากแดงนั่นตั้งนาน” นายโทเบียถามฉันพร้อมโซ้ยบะหมี่เกี๊ยวไปยกใหญ่ -___- ช่างเป็นภาพที่ต่างกับที่ฉันคิดไว้มาก หน้าตาก็หล่อ สัญชาติก็ผู้ดี๊ ผู้ดี แต่ดูท่าโซ้ยบะหมี่ไป ฉันล่ะเพลียจริงๆ

            “นี่นาย ที่สวีเดนไม่มีร้านอาหารไทยหรือไงยะ กินบะหมี่ซะเหมือนไม่เคยกินมา 10 ปี” ฉันถามเขาพลางตักข้าวเข้าปาก -3-

            “มีดิ ถึงไม่มีฉันก็ได้กินอยู่แล้วล่ะ พ่อฉันทำเป็น” โทเบียพูดพร้อมโซ้ยน้ำบะหมี่เข้าไปยกใหญ่ นี่นายมาจากสวีเดนจริงๆ หรือนี่?

            “เออ ว่าแต่ นายกลับไปอยู่สวีเดนตั้งหลายปี แต่ทำไมภาษาไทยนายยังเป๊ะอยู่อ่ะ”

            “ก็นอกจากแม่ที่พูดภาษาไทยกับฉัน พ่อฉันก็พูดภาษาไทยนะ ที่กลับไปสวีเดนอ่ะเพราะพ่อฉันได้ย้ายที่ทำงาน พูดง่ายๆ ก็พ่อเจอกับแม่ที่ไทย เพราะพ่อฉันมาทำงานเป็นนักการทูตประจำประเทศสวีเดนที่ไทย แม่ฉันก็เป็นนักการทูตเหมือนกัน”

            “อ๋อ ไม่ถามแล้วล่ะ” ฉันกินข้าวต่อไป

            “แล้วเธอล่ะ?”

            “ฮะ อะไร?”

            “ไม่เอาน่า อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องดิ ฉันเล่าเรื่องของฉันไปตั้งเยอะ เธอก็ต้องเล่าบ้างดิ นี่ เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ”

            “ใคร? ใครเพื่อนนายไม่ทราบยะ แล้วทำไมฉันต้องเล่าเรื่องของฉันอ่ะ ฉันแค่ถามนาย ไม่ได้บอกให้นายเล่าเรื่องของซะหน่อย ก็นายอยากเล่าให้ฉันฟังเองอ้ะ -3-

            “ก็ได้ งั้นฉันจะถามเธอล่ะนะเธอชอบบรูคลินหรือเปล่า”

            “ฮะ! ชักจะไปกันใหญ่แล้ว นี่ นายไปเอามาจากไหนว่าฉันชอบบรูคลิน แค่นายนั่นเข้ามาอยู่บ้านฉัน ฉันยังไม่อยากต้อนรับเลย”

            “อย่าโกหกเลยน่า แล้วที่เธอกับบรูคลินจับมือกันตรงบันไดเวทีอ่ะ?” เออ ลืมไปเลย นายนั่นมันจับมือฉันนี่นา รู้จักกันไม่กี่วันก็มาจับมือฉันซะแล้ว หน็อยแน่ะ ชักจะมากเกินไปซะแล้วไอ้บรูค!! “นี่ โกรธอะไรฉันหรือเปล่าที่ถามแบบนี้อ่ะ” โทเบียพูดแทรกขึ้นมา

            “ฮะ? โกรธอะไร? O_O

            “ฮ่าๆๆ ก็ดูหน้าเธอสิ คิ้วแทบจะชนกันอยู่แล้ว ว่าแต่ไหนล่ะคำตอบที่ฉันถามไป”

            “เรื่องบันไดอ่ะ ฉันไม่ได้จับมือนายนั่น แต่มันมาจับฉันเองต่างหากล่ะ”

            “แล้วเธอจะทำไงต่ออ่ะ ฟ้องแม่ป่ะ?”

            “คงไม่ เรื่องแค่นี้ถึงฉันฟ้องไป แม่คงไม่สนอ่ะ ช่วงนี้แม่ฉันยุ่งเรื่องงาน”

            “อืมมนั่นสินะ” โทเบียทำปากเบ้ :/

     

        เมื่อฉันและโทเบียกินข้าวเที่ยงเสร็จ

            “ว่าแต่ เธอจะไปไหนต่อ”

            “กลับห้อง”

            “แต่ฉันปวดฉี่”

            “นายปวดฉี่ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันเล่า =..=

            “พาไปห้องน้ำหน่อยสิ -3-

            “นี่ มันชักจะมากเกินไปแล้วนะ ฉันแค่ให้นายมานั่งกินข้าวร่วมโต๊ะ ไม่ใช่เป็นเบบี้ซิสเตอร์”

            “ก็บอกแล้วไงว่าฉันมาโรงเรียนครั้งแรก”

            “เดินตรงจนไปถึงต้นไม้ใหญ่นั่น แล้วเลี้ยวซ้าย เดินตรงไปอ……

            “นี่ ไม่ต้องบอกทาง เธอต้องพาฉันไป”

            “นี่ ขนาดไอ้บรูคที่ใช้ชีวิตในบ้านเดียวกับฉัน แถมหน้าตายังดูหื่นเงียบ มันยังไม่พูดขนาดนี้เลยนะ นายนี่มันใครกัน คิดว่าหล่อนักก็ให้สาวๆ ที่พร้อมจะพานายเข้าห้องน้ำ พานายขึ้นเตียง พาไปเลยสิ” ฉันพูดใส่นายนั่นเสียงดังเกินไปไหมนะ =[]= คนที่เดินผ่านไปผ่านมา หันมามองฉันกับโทเบียเป็นตาเดียวเลย

            “ก็ได้” โทเบียพยักหน้าและเดินออกไป

            “นี่ จะบอกให้นะ ฉันไม่ง้อนายหรอกย่ะ!” ฉันตะโกนตามหลังนายนั่นไป เกือบจะโชว์ฟัคไปให้แล้วสิ -___-

        ทันใดนั้นก็มีมือมือนึงมาจับแขนฉัน

            “โอ๊ยนี่ ฉันเจ็บนะ!” ฉันมองไปหาเจ้าของมือที่บีบฉันแน่นจนตอนนี้ยังไม่ปล่อย ไอ้บรูคนี่เอง!  และนายนี่กำลังพา ไม่ใช่สิ ลากฉันเดินไปที่ไหนก็ไม่รู้ เป็นที่ลับตาคนซะด้วย โอ้ มาย ลอร์ด T^T

            E “โอ๊ย ไอ้บ้า ลากฉันมาที่นี่ทำไม” ฉันสลัดออกจากมือที่เขากำลังบีบข้อมือฉัน

            E “คุยอะไรกับไอ้นั่นมา” บรูคลินค่อยๆ เดินมาหาฉัน เหมือนในละครที่พระเอก ไม่ใช่สิ! ตัวโกงต่างหาก ที่กำลังจะปล้ำนางเอกไม่มีผิดเลย T^T

             E “นี่ ถอยออกไปเลยนะ” ยิ่งบอกเหมือนยิ่งยุแฮะ ToT นายบรูคเขยิบเข้ามาใกล้ขึ้นทุกทีแล้วอ่ะ

             E“จนกว่าเธอจะบอก ไปคุยอะไรกับมันมา” เขยิบมาอีกแล้ว หน้านายนี่หื่นฉิบหายเลยอ่ะ ToT

             E “เราก็แค่คุยกันเรื่องครอบครัวน่ะ” ตอนนี้ ตัวฉันติดกำแพงไปเรียบร้อยแล้วล่ะ ToT

             E “แล้วหลังจากนั้นล่ะ?”

             E “เรื่องเข้าห้องน้ำ ฉันบอกทางเข้าห้องน้ำนายนั่นไป” ToT

             E “มีอีกไหม? ฉันเห็นเหมือนเธอจะด่าเขานะ”

             E “อย่าเข้ามาใกล้อีกเลยนะๆๆๆ ฉันขอ T^T” ดูเหมือนบรูคจะไม่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดนะ นายนี่กลับเข้ามาใกล้ฉันอีก

            E “จะบอกให้ ฉันจะใกล้ จนจูบเธอเลยล่ะ ถ้าเธอยังไม่บอกฉันอีก”

            E “โอเคๆ ฉันด่าเขาไป โทเบียจะให้ฉันพาไปซื้อขนมน่ะ ฉันเลยบอกเขาไปว่า ถ้าหิวก็เดินไปซื้อเอง ฉันไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็กนายแล้วก็เกือบโชว์นิ้วกลางไป” บรูคลินคลายคิ้วที่ขมวดเป็นปมลงแล้วล่ะ แต่ยังไม่หยุดเดินมาหาฉัน กลับแสยะยิ้ม แล้วก็เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนตอนนี้จมูกของเขาอยู่เกือบติดขนคิ้วของฉันแล้วล่ะ ฉันหลับตาปี๋ >_< พระเจ้า ได้โปรด T^T ลูกยังไม่อยากเสียจูบแรกให้ไอ้หื่นกามนี่ไป แงๆๆ

           “รีบๆ สูงล่ะ เธอกับฉันจะได้จูบกันได้” เขากระซิบใส่หูฉันเบาๆ เบามากเหมือนพูดแบบลมปาก ฉันยังหลับตาปี๋ยู่ >__< แต่เฮ้! ไอ้บ้านี่พูดอะไรไปนะ ฉันค่อยๆ ลืมตา ก็พบว่าไอ้บรูคได้เดินออกไปแล้ว แต่ดูท่ายืนของฉันตอนนี้สิ เกร็งซะ =..= ทั้งเท้าทั้งมือ แนบติดกับผนังไปหมด ฉันค่อยๆ ทำตัวให้เป็นปกติ แล้วเดินขึ้นห้องไป

    ห้อง 5/11

        เมื่อฉันเดินเข้ามาในห้องก็พบกับความปกติ โทเบียนั่งคุยกับพวกผู้ชาย พวกผู้หญิงจับกลุ่มกันนินทาคนอื่นบ้าง คุยเรื่องผู้ชายบ้าง บางกลุ่มก็คุยเรื่องปิดเทอม อย่างว่าแหละ ม.ปลาย ไม่ค่อยสนใจกับพวกเด็กแลกเปลี่ยนหรอก เพราะมาทุกปี มีให้เห็นกันตั้งแต่ ม.1 พอขึ้น ม.ปลาย เราก็รู้สึกคุ้นเคย จนเบื่อไปแล้วด้วย -..-

        ฉันกลับไปนั่งที่ ที่ที่มีโทเบียนั่งข้างๆ โทเบียคงโกรธฉันสินะ ก็แหงล่ะสิ ฉันทำเขาเสียหน้าต่อทุกคนในโรงอาหาร ว่าแต่ มันเงียบๆ แฮะ =_= จะคุยกับใครดีล่ะเนี่ย บรีก็ไม่อยู่ในห้องซะด้วย ถึงจะอยู่ด้วยกันกับเพื่อนห้อง 11 มาแล้ว 1 ปี แต่ฉันก็ไม่มีใครสนิทเท่ากับบรีเลย -3- อ้ะ! รู้แล้วชวนสมคิดคุยดีกว่า

            “สมคิดดดดด” ฉันลากเสียงยาวก่อนจะเดินเข้าไปนั่งเก้าอี้ด้านหน้าของสมคิด

            “หาาาา” สมคิดลากเสียงยาวเหมือนฉัน -3- อ้อ! ฉันลืมบอก สมคิดเป็นชายแต่ใจเป็นหญิง สมคิดไม่เหมือนน้องคิตตี้นะ ^_^ สมคิดเป็นคนเงียบๆ เรียบร้อย ไร้เดียงสา รูปร่างอ้วนท้วม เพื่อนๆ รักสมคิด แต่เวลาสมคิดจัดเต็มก็ไม่น้อยหน้าใครนะ 5555 บอกให้เต้นก็เต้น บอกให้ส่ายเอวก็ส่าย กำๆ ถึงยังไงเราก็รักสมคิดน้า อิอิ

     

            “ฟ้าอยู่ไหนอ่ะ?”

            “ไปห้องน้ำน่ะ”

            “เราได้ข่าวมาว่าปีนี้ห้อง 11 ได้รับกรรมล่ะ”

            “อะไรเหรอ?O_O” สมคิดมีสีหน้าที่ตกใจ

             “ก็ปีนี้เราได้คุมเด็ก ม. 2 ขึ้นสแตน”

             “ห้อง 11 ห้องเดียวเหรอ แล้วห้อง 04  และ 06 อ่ะ”

            “ห้อง 04 กับห้อง 11 คุมสแตนเด็ก ม.2 และต้องทำฉากของสแตน ห้อง 06 คุมเรื่องพาเหรดและคุมเรื่องนักกีฬาของสีเรา”

            “โห ห้องเรากับห้อง 04 นี่รับภาระหนักเลยเนอะ แล้วหลีดเดอร์อ่ะ?”

            “น่าจะมีหลายๆ ห้องมารวมกันมั้ง ส่วนเราไม่เป็นหรอกหลีดอ่ะ -_- เหนื่อยจะตาย แค่คุมเด็ก ม.2 ซ้อมแสตนคอหอยฉันแทบจะแตก”

            “อือ เราก็ว่างั้นอ่ะ”

     

        ฉันคุยเรื่องปิดเทอม เรื่องสิ่งหนักๆ ที่เราต้องเจอใน ม.5 กับสมคิด ฉันไม่ได้คุยกับสมคิดนานพอสมควร พอได้คุยแล้วก็ผ่อนคลายดีอ่ะ ^_^

        เมื่อเราคุยได้สักพัก แอฟเจ้าของที่ที่ฉันนั่งก็ได้มาแล้ว ฉันเลยบอกลาสมคิดพร้อมกับนั่งที่เดิม

        วิชาแรกของคาบบ่ายคือวิชาคณิตศาสตร์ต่อด้วยวิชาภาษาเยอรมัน 2 ชั่วโมง และวิชาสุดท้ายของวันนี้คือวิชาเคมี อ่า ฉันเกลียดวิชาเคมีจริงๆ บอกตรงๆ ฉันเรียนไม่รู้เรื่อง แต่ดูเหมือนโทเบียจะเก่งวิชานี้นะ ครูเรียกให้ตอบทีไร นายนี่ตอบได้หมด -..- เราเรียนจนหมดคาบ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้คุยกันตลอดช่วงบ่าย (หลังจากที่ฉันทำเขาขายหน้า) จนตอนนี้ฉันอยู่หน้าห้อง 12 เพื่อรอบรี

     

        ผ่านไป  3 นาที ครูห้อง 12 ก็ได้ปล่อยกลับบ้าน

            “เฮ้ยแก ฉันขอโทษว่ะเรื่องตอนกลางวัน ฉันต้องไปห้องธุรการอีกอ่ะ”

            “ไม่เป็นไรๆ ว่าแต่ไปทำไมอีกอ่ะ?”

            “ก็ไปจัดการเรื่องฉันอ่ะดิ ต้องเซ็นนู่นเซ็นนี่ใหม่ ไม่รู้จะย้ายฉันทำไม”

            “ไม่เป็นไรๆ ให้ฉันรอป่ะ”

            “ไม่ต้องหรอกๆ อีกนานอ่ะแก พรุ่งนี้ไปกินมาการองกันป่ะ ฉันอยากไปกับแกแทบตาย ปิดเทอมแกดันไม่อยู่ซะงั้น”

            “อือ ไปดิๆ ^_^ แล้วธัญญ่าอ่ะ”

            “ธัญญ่ากลับบ้านเองได้ ฉันสอนเธอไป-กลับ มาหลายครั้งแล้ว แต่วันนี้ฉันจะพาเธอกลับด้วยกันก่อน เดี๋ยวเธองง”

            “อ๋อโอเค พรุ่งนี้ก็พาธัญญ่าไปด้วยดิ”

            “เอาจริงดิ?”

            “ก็เออน่ะสิ แกไม่คิดจะพาธัญญ่าไปเปิดหูเปิดตาเลยเหรอวะ”

            “อะๆ โอเค กลับบ้านดีๆ นะเว่ยแก”

            “อือ แกด้วย” ฉันยิ้มให้บรีก่อนจะหันไปคัยกับธัญญ่า ที่ยืนอยู่ข้างๆ บรี E “เจอกันพรุ่งนี้นะธัญ เอ่อ ว่าแต่ เธอรู้จักฉันไหม?”

            E “รู้จักสิ ฉันรู้จักเธอ ^_^ บรีเล่าเรื่องเธอให้ฉันฟังน่ะ” เล่าในแง่ดีเปล่าวะ =_=

            E “ฮ่าๆๆ เรื่องของฉันคงสนุกน่าดู เธอมีไลน์ไหม”

            E “มีสิๆ ฉันเพิ่งโหลดมาตอนกลางวัน ไลน์ไอดีฉันคือ McTunyaBright นะ”  แหม่ มี Mc นำหน้าซะด้วย ฉันว่ายัยบรีคงตั้งให้ล่ะมั้ง -____-

            E “โอเค ฉันแอดไปแล้ว ไว้คุยกันนะ บายยย” ฉันพูดพลางโบกมือให้เธอ

            “ลาโก่น เนล” เธอโบกมือให้ฉันพร้อมหัวเราะภาษาไทยของตัวเอง

     

        ตอนนี้ฉันเดินลงมาถึงชั้นล่างแล้วล่ะ เด็กๆ ม.5 ใส่แว่นติ๋มๆ ที่กำลังคุยกันเรื่องเรียนก่อนกลับบ้าน มันทำให้ฉันนึกถึง เด็ก EP เมื่อนึกถึง EP แล้วก็นึกถึงไอ้บรูคลินหื่นกามนั่น =_= เมื่อนึกถึงมันก็ทำให้ฉันรีบเดินออกไปจากตึก ม.5 จะทำไงดีล่ะเนี่ย ฉันจะฟ้องแม่ดีไหม? แล้วถ้ามันมาขู่จะปล้ำฉันล่ะ? เอาไงดีเนี่ยยย =[]= ฉันคิดไม่ออกแล้วนะ หรือว่าจะไปขอคำแนะนำจากเว็บเด็ก-ดีดีไหมเนี่ย? เอาไงดีๆๆๆ

            “เนล! เนล!” เสียงใครฟะ -___- ถ้าเป็นไอ้หื่นกามนั่นล่ะ? O___O ตอนนี้ฉันรีบเดินสุดสปีด มันต้องเป็นเสียงไอ้หื่นกามแน่ๆ เลยล่ะ เรียกชื่อฉันเพี้ยนๆ แบบนี้ ทั้งที่ชื่อเล่นฉันมันก็ทับศัพท์กับคำว่า Nail ในภาษาอังกฤษแท้ๆ เดินๆๆ เดินต่อไป อย่าสนใจนะยัยเนลลล KEEP WALKING!

        สักพักมีเสียงหอบมาแต่ไกล เหมือนเสียงคนวิ่งนะ หรือว่าจะเป็น

            E “นี่ ฉันเรียกเธออ่ะ ไม่ได้ยินหรือไง” มันคือไอ้หื่นกามจริงๆ ด้วยล่ะ O_O

            E “อะไร ทำไม แล้วไง เรียกฉันทำไม”ฉันทำปากเบ้ :/

            E “ทำไม จะรีบกลับบ้านไปโหนบาร์เพิ่มความสูงเหรอ”

            E “โหนบ้าโหนบออะไรกัน ฉันหนีคนหื่นกามต่างหากล่ะ คนอะไรก็ไม่รู้ รู้ว่าตัวเองมีอารมณ์ยังจะลงที่ฉันอีก”

            E “ฮ่าๆๆ เธอเครียดเรื่องนี้นี่เอง นี่ เครียดทำไมก็แค่ยื่นปากมาจูบกับฉันก็จบแล้ว ครั้งต่อไปเวลาเราจะจูบกัน จะได้ไม่ต้องอายกันไง”

            E “นี่นาย! หยุดพูดเรื่องนั้นเลยนะ” ฉันพูดเสียงดุพร้อมชี้หน้าเค้า แต่ดูเหมือนเค้าจะไม่สะทกสะท้านอะไรเลยนะ กลับยิ้มเฉย ไอ้บ้า ไอ้นี่มันบ้าชัดๆ

        ระหว่างเดินไปหน้าโรงเรียนกับ(ไอ้หื่น)บรูคลิน ก็จะมีเด็กๆ ม.ต้น ใส่แว่นบ้าง พึ่งไปกินลาบเลือดมาบ้าง บางคนก็เอาดอกไม้อันมีค่า เอาสัตว์เลื้อยคลานมาปล่อยบ้าง กรี๊ด กร๊าด ยืนตัวบิดตัวงอกัน บางคนก็ตะโกนออกมา “บรูคลิน! บรูคลิน! บรูคกี้! บรูคกี้!” โอ้ย!!! เดินกับไอ้นี่ นี่มันน่ารำคาญจริงๆ แฟนคลับรุมล้อมแบบนี้ ไอ้บรูคลินนี่ก็เก๊กจังเลย แหม ทำเป็นยิ้ม ทำเป็นโบกมือ แต่ในใจนายมันสกปรก ไอ้หื่นนนน >3<

        ถึงแม้ฉันกับบรูคลินอยู่บนสถานี BTS ก็เหมือนยังจะมีคนตามมานะ นี่! จะตามกันถึงบ้านเลยหรือไงหา!! ฉันไม่เอาด้วยหรอกนะ ถ้าตามมาถึงบ้านก็จบเห่เลยค่ะ =_= หน้าบ้านฉันคงเต็มไปด้วย ดอกไม้ ซองจดหมายรัก แล้วถ้าบิลค่าไฟมาแล้วแม่ฉันไม่รู้แล้วไม่จ่ายแล้วก็โดนตัดไฟล่ะ? ฉันโทษนายแน่ไอ้บรูค!

     

            E “นี่ ฉันว่าเราหนีเข้าสยามพารากอนกันเถอะ พอดีเลยตั๋ว BTS ยังไม่ซื้อ” บรูคลินดูท่าไม่ดี หันซ้าย หันขวาตลอด

            E “ทำไมฉันต้องเข้าไปด้วย ถ้าทีนี้นายหลอกฉันอีกล่ะ?”

            E “หรือเธออยากปลูกดอกกุหลาบตรงกล่องจดหมาย ที่มันบานเบ่งโดยไม่ต้องรดน้ำพรวนดินล่ะ”   จะว่าไป ข้างๆ ตัวเราเด็ก ม.ต้น โรงเรียนฉันก็เยอะกว่าปกติเหมือนกันนะเนี่ย ยืนตัวบิดตัวงอกันอยู่นั่นแหละ แต่ไม่ได้ๆ อย่าไปเชื่อไอ้บรูคมัน

            E “อย่ามาตีค่าตัวเองสูงไปหน่อยเลยน่า นี่ นายมันไม่ได้ฮอตขนาดนั้นสักหน่อย”

            E “งั้นก็ตามใจ ดีซะอีก ฉันอาจจะไม่ต้องออกเงินซื้อช็อคโกแล็ตไปตลอด 1 ปีเลยล่ะ” เออ ถูกของมันจริงๆ =_= ถ้าเกิดมันจริงขึ้นมาล่ะก็นะ

            E “โอเค ไปก็ได้วะ” ฉันตัดสินใจ

            E “แค่นั้นก็จบ” พอนายนี่พูดเสร็จมันก็จูงมือ ไม่สิ เรียกว่าลากเลยดีกว่า =[]= มันลากฉันเดินเข้าไปในสยามพารากอน

            E “ฉันรู้สึกได้ว่า ยังมีเด็กคนอื่นๆ ยังตามเราอยู่นะ” บรูคลินทำหน้าตีวิเคราะห์เหมือนนักวิชาการ เราสองคนได้เดินเข้ามาในสยามแบบตัวเกร็งทั้งคู่

            E “นี่ แล้วเราจะเดินกันไปไหน เดินไปไหนๆ เด็กพวกนี้ก็ตามกันหมด” ฉันถามขณะที่เดินขนาบข้างกับบรูค

            E “มีที่เดียวเท่านั้น ที่เราจะไปได้โดยไม่มีเด็กพวกนี้”

            E “ที่ไหน =_=” ขอคำตอบที่ดีๆ นะเห้ย

            E “โรงหนัง”


    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×