คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : เรื่องสั้น (kyumin) ความรัก 100%
เรื่องสั้น (kyumin) ความรัก 100%
คำเเนะนำในการอ่าน: ดื่มด่ำกับบทเพลง ภาพประกอบ เเละตัวหนังสือ ไปในคราเดียวกัน
ลีซองมินวัย10ขวบ
ที่นี่ดูแปลกตากับผมเหลือเกิน...ผมอยู่กับพ่อสองคน พ่อของผมเป็นสถาปนิก จำเป็นต้องย้ายบ้านบ่อยๆ...สำหรับผม นอกจากจะย้ายบ้านแล้ว..ยังต้องย้ายโรงเรียนอีกด้วยนะ
หมู่บ้านเล็กๆนี้ ที่ผมคอยถามพ่อตลอดว่าคือที่ไหน ...ชื่อมันจำยากจังเลยฮะ....พ่อบอกกี่ครั้งผมก็จำไม่ได้สักที....ขี้เกียจจะถาม ขี้เกียจจะจำ.....
รู้แต่ว่าเพื่อนบ้านใหม่ของผมอัธยาศัยดีจริงเชียว....คุณน้าร้านขายผลไม้ กับลูกชายวัยไล่เลี่ยกันกับผม เราสบตากันเล็กน้อย...ก่อนที่ผมจะสนใจช่วยพ่อยกของเข้าบ้าน
บ้านสไตล์เกาหลีโบราณ2ชั้นที่พ่อเช่านี้...ดูซอมซ่อมาก ถ้าเทียบกับอพาร์ทเมนท์ที่โซล...แต่ก็ดีที่ผมมีห้องนอนส่วนตัวเป็นของตัวเองแล้ว....มันไม่ใหญ่หรอกฮะ ก็แค่ห้องใต้หลังคา มุมที่สวยที่สุดในบ้านหลังนี้....ผมค้นพบมันแล้วนะ....ก็ริมหน้าต่างบานนี้ในห้องใต้หลังคายังไงหล่ะ
โจวคยูฮยอน วัย12 ขวบ
หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ผมนั่งไปกับพ่อในคืนนั้น...ทำให้ผมเสียพ่อไป...เหลือเพียงแค่ผมและแม่2คนเท่านั้น ภาพอุบัติเหตุยังฝังอยู่ในหัวยากที่จะลืม....ผมกลัว
จากที่ไปโรงเรียน ก็ไม่ไป...จากที่เคยออกไปวิ่งเล่นกับเพื่อน...ก็ไม่กล้า...หมอบอกกับแม่ว่าผมป่วยทางจิต ได้รับผมกระทบจากการสูญเสียครั้งนั้น.....ผมเห็นแม่ร้องไห้เมื่อคุณหมอพูดจบ.....แม่ร้องไห้ ผมก็ร้องไห้
ผมใช้ชีวิตอยู่ในห้องนอน อาศัยต้นไม้ต้นใหญ่ๆที่ขึ้นระหว่างหน้าต่างห้องนอนของผมกับบ้านที่ไม่มีคนอยู่.....หน้าต่างของบ้านหลังนั้นตรงกับหน้าต่างห้องของผมพอดี....แต่เสียดายที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ มุมตรงนี้ จึงมีแค่ผม พี่ต้นไม้ คุณท้องฟ้าเท่านั้น....ที่มีความสุขร่วมกัน
จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง ผมได้ยินเสียงเอะอะของแม่ พอจะจับใจความได้ว่ามีคนย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนั้น ผมแอบแง้มบานประตูบ้านเพื่อแอบดู...เห็นแม่คุยกับคุณลุงที่ย้ายมาใหม่อย่างถูกคอ....ดีจริง แม่จะได้อารมณ์ดี เลิกคิดมากเรื่องผม...ผมเห็นเด็กคนนึงมองมาที่ผม แค่นั้น..แล้วเขาก็เดินเข้าบ้านไป
ลีซองมินวัย10ขวบ
หนึ่งสัปดาห์แล้วที่เรา2พ่อลูกย้ายบ้านมาที่หมู่บ้านเล็กๆนี้ คุณน้าข้างบ้านใจดีที่สุดเลยฮะ..เขามักจะนำผลไม้มาฝากเรา2พ่อลูกเสมอ..เเตงโมสีแดงสด รสหวานฉ่ำ ที่ผมกินอยู่ตอนนี้ก็ใช่นะ.....
ช่วงหลังพ่อมักจะกลับบ้านดึกเสมอ..เลยฝากผมเอาไว้กับคุณน้าข้างบ้าน ทุกเย็นหลังเลิกเรียน ผมจะมาช่วยคุณน้าขายผลไม้ที่ร้านเสมอ...เพื่อแลกกับอาหารมื้อเย็นสุดอร่อยที่บ้านของคุณน้า
ลูกชายของคุณน้าก็ดูแปลกๆ ทั้งๆที่เราร่วมมื้ออาหารโต๊ะเดียวกันแท้ๆ แต่เขาก็ไม่พูดอะไรกับผมเลย ...เราคุยกันชนิดที่ว่าถามคำ ตอบคำ ก็แค่นั้น
โจวคยูฮยอน วัย12ขวบ
ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์แล้วสำหรับดวงตาคู่นั้นที่ผมมอง...จากวันนั้นที่มองเพียงแค่แวบเดียว...จวบจนวันนี้ที่เห็นชัดๆซะจนชินตา ผมมักเฝ้ารอให้ถึงเวลา4โมงเย็นเร็วๆ...เพราะเขาเลิกเรียนแล้วจะมาช่วยแม่ของผมขายของ....ผมรอให้ถึงเวลา6โมงเย็นเร็วๆ...เพราะเราจะได้นั่งกินข้าวด้วยกัน....และผมเกลียดเวลาสามทุ่มเป็นที่สุด...เพราะว่าพ่อของเขาเลิกงานกลับมาถึงบ้าน ทำให้เขาต้องกลับไป
ชีวิตของผมดำเนินไปแบบนี้ตลอด..ใครจะว่ามันน่าเบื่อ แต่ผมว่าไม่นะ.........”ผมชอบ”
ลีซองมินวัย22 ปี
“เฮ้ ..ซองมินเขียนอะไรอยู่หน่ะ” ลีดงแฮเพื่อนสนิทถาม
“โปสการ์ดหน่ะ”
“หูววว..สมัยนี้แล้วยังเขียนโปสการ์ดอีกหรอหืมม”
“ชู่ววว อย่าเสียงดังไปสิดงแฮ คนมองเต็มห้องสมุดแล้วนะ” โดนเพื่อนรักดุเข้าให้ดงแฮจึงสงบเสงี่ยมนั่งอ่านหนังสือของตัวเองไปอย่างเงียบๆ ปล่อยให้ซองมินเขียนอะไรยุกยิกอยู่คนเดียว
รูปร้านกาแฟที่นายส่งมาให้ดู น่ารักมากเลยนะ ชั้นใกล้จะเรียนจบแล้ว ไว้เดี๋ยวจะแวะไปเยี่ยม
คิดถึง
ซองมิน
เป็นเพราะว่าไม่ได้เรียนหนังสือแน่ๆ เลยทำให้ผมเลือกงานได้ไม่มากนัก...หลังจากที่แม่เสีย ผมก็ปรับร้านขายผลไม้ของแม่ให้เป็นร้านกาแฟเก๋ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวไปซะเลย
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้....รู้อีกทีผมก็เหลือตัวคนเดียวแล้วหล่ะ ถึงแม้ผมจะเหงาบ้าง แต่ก็ไม่รู้สึกหดหู่เหมือนตอนใช้ชีวิตในห้องแคบๆสมัยเด็กเลยสักนิด..เพลงที่เปิดคลอเบาๆกับกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจว่าเขายังอยู่ข้างๆ ไม่ได้จากไปไหน...และโปสการ์ดใบล่าสุดที่ผมได้จากเขา..ก็ยิ่งย้ำว่า เราไม่เคยลืมกัน
ลีซองมินวัย10ขวบ
จากเด็กเมืองหลวง จำต้องย้ายมาอยู่ในชนบท ตอนแรกผมก็รับไม่ได้ฮะ...แต่ตอนนี้ผมคิดว่ามันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด อาจเพราะผมชอบความสงบของที่นี่ ..ชอบฟังเพลงที่คลอเบาๆมาจากหน้าต่างบ้านตรงข้าม...ชอบเวลาที่เราคุยกัน...เล่นด้วยกัน
ลืมบอกไปฮะ...ไม่นานมานี้ ผมกับคยูฮยอน เราได้กลายเป็นเพื่อนซี้กันแล้วหล่ะ....คยูฮยอนบอกว่า ไม่รู้จะเงียบไปทำไม ในเมื่อเราเป็นเพื่อนบ้านกัน ผูกมิตรกันถึงจะถูก...รู้ไหมว่าผมดีใจมากเลยนะ ก็ตอนแรกนึกว่าเขาจะไม่ชอบหน้าผมซะอีก
โจวคยูฮยอน วัย12ขวบ
ผมได้ออกจากบ้านอีกครั้ง หลังจากไม่ได้ออกมาเสียนาน....แม่ดูดีใจมาก ที่ผมตัดสินใจจะไปเดินเล่นที่ลานกว้างเป็นเพื่อนซองมิน....ก้าวแรกที่ออกมาทำเอาผมประหม่าอยู่ไม่น้อย....แต่ดีจริง ที่มีมือเล็กๆของคนข้างๆคอยกุมเอาไว้ ซองมินยิ้มให้กำลังใจผม..ไม่นานนักเราก็หัวเราะด้วยกัน เล่นสนุกด้วยกันทุกวัน จนผมลืมอาการป่วยของตัวเองไปเลย
ลีซองมินวัย10ขวบ
วันนี้มีเหตุการณ์2เรื่องที่เกิดขึ้นกับผม
ข่าวดี...คือผมชนะการแข่งวิ่ง100m. ที่โรงเรียน
ข่าวร้าย...คือพ่อบอกว่าทำงานเสร็จแล้ว เราจำต้องกลับไปอยู่ที่โซล
ผมอยากบอกคยูฮยอนจังเลย...หลังจบงานกีฬาสีผมรีบวิ่งกลับมาที่บ้านก็เห็นพ่อกำลังแพ็คของใส่ลัง...เหตุการณ์เหมือนเดจาวู ผมกำลังจะต้องไปจากที่นี่
ขึ้นไปบนห้องนอน ก็ได้ยินทำนองเพลงที่คุ้นเคยดังแว่วมาจากหน้าต่างของบ้านอีกหลัง...น้ำตาผมไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว...
กลัว...กลัวว่าคยูฮยอนจะกลับไปเศร้าเหมือนเมื่อก่อน
กลัว...กลัวว่าคยูฮยอนจะไม่ยอมออกจากห้องใต้หลังคาอีก
กลัว...กลัวการจากลาครั้งนี้เหลือเกิน
ผมตัดสินใจแล้ว..ว่าจะบอกข่าวดีแก่คยูฮยอน....เท่านั้น....แค่นั้นก็พอแล้ว
โจวคยูฮยอน วัย13ขวบ
ผ่านไป1ปีแล้วที่ซองมินย้ายบ้านไป แม่บอกว่าถ้าผมโตแล้วจะพาไปที่โซล...ผมอยากไปที่นั่น ไปเจอซองมินจัง
บนหัวเตียงของผมยังมีเหรียญทอง รางวัลที่ซองมินได้ ข่าวดีที่ซองมินบอกผมก่อนจะไป แขวนไว้อยู่
ผมไม่กลับไปซึมเศร้าเหมือนเดิม ให้แม่ต้องกังวล...ด้วยเพราะว่า ผมกลัว …..
กลัวว่า ถ้าป่วยขึ้นมา จะไม่ได้ไปหาซองมิน
ลีซองมินวัย22 ปี
ผมกลับมาที่หมู่บ้านนี้อีกครั้ง เพียงลำพัง โดยไม่บอกคยูฮยอน ว่าจะมา
เขาคงจะโกรธ
เขาคงจะดีใจ
แต่ตอนนี้ผมใจเต้นมากเลยหล่ะ...เดินมาถึงหัวมุมถนน กับเส้นทางที่คุ้นเคยแต่ให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป นักท่องเที่ยวมากมายที่แห่แหนเข้ามาเที่ยวที่หมู่บ้านแห่งนี้....หลายปีที่ผมไม่อยู่ ที่นี่ดูครึกครื้นขึ้นมาก
ความทรงจำเมื่อครั้นเด็กไหลเข้ามาอีกครั้ง....บ้านที่เคยเป็นร้านผลไม้ ถูกดัดแปลงให้กลายเป็นร้านกาแฟสุดเก๋ ต้อนรับนักท่องเที่ยววัยรุ่นมากมาย บ้านที่ผมเคยอยู่กับพ่อ...ถูกทำเป็นเกสต์เฮ้าส์เก่าๆ สำหรับนักท่องเที่ยงแบ็คแพ็ค
ผมอมยิ้มให้กับความเปลี่ยนแปลงที่เห็น...และอมยิ้มให้กับการตัดสินใจในวัยเด็กของตัวเอง
ผมเดินเข้าไปในร้านกาแฟ เห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังต้อนรับแขกอย่างขะมักเขม้น ท่วงทำนองที่คุ้นหูกับกลิ่นกาแฟที่หอมกรุ่นทำให้ผมแสบตาอย่างบอกไม่ถูก....ผมกำลังจะร้องไห้....ไม่รู้ทำไม
“ยินดีต้อนรับค่ะ” หญิงสาวเอ่ยต้อนรับผม
“เอ่อ..ผมมาหาคยูฮยอนครับ”
“อ่อ..รอสักครู่นะคะ เขาอยู่หลังร้านหน่ะค่ะ”
ผมตัดสิ่นใจนั่งรอที่จุดเดิม...จุดที่เคยเป็นโต๊ะอาหารของบ้านกลังนี้เมื่อ10ปีก่อน..จุดที่ผมมองเห็นพี่ต้นไม้ที่ริมหน้าต่างเวลานั่งกินข้าวกับคยูฮยอน และแม่ของเขา
“ซองมิน!!”
“...........” ผมหันไปตามเสียงเรียก เขายังคงเหมือนเดิมในความทรงจำของผม เราสบตากันยิ้มๆ เหมือนครั้งแรกที่เจอกันสมัยเด็ก
“อ้อ..ลืมแนะนำไป..นี่ซอฮยอนภรรยาของผมเอง” คยูฮยอนบอก
นี่คงจะเป็นข่าวดีที่ผมรอมาตลอด10ปี
จากเพื่อน(รัก)ของผม
โจว คยูฮยอน
ฟิคยาวยังไม่มีอารมณ์ เอาฟิคสั้นมาเเก้ขัดก่อนละกันเนอะ
ป่วงอีกตามเคย....เเต่ตั้งใจมากเลยนะ(ตั้งใจจะเเนว)555555
เชื่อว่ามันคงขัดใจใครหลายๆคน .....เเต่ก็เอาเถอะค่ะ ตั้งใจเเต่งอยู่ไม่น้อย
รอคอยความคิดเห็นจากเพื่อนๆละกันนะ (ฉีกอารมณ์สุดๆ)
ความคิดเห็น