ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC KYUMIN อุ้มรัก กับดักหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่5 ความรับผิดชอบ [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 28 มี.ค. 56



    อุ้มรักกับดักหัวใจ

    KYUHYUN X SUNGMIN

     บทที่5 ความรับผิดชอบ





                                              






    “คุณ..คยูฮยอน!!!!



     

                    ซองมินตกใจมาก คิดว่าหนีจนพ้นแล้วทำไมโชคชะตาถึงได้เล่นตลกแบบนี้อีก คยูฮยอนลากซองมินไปขึ้นรถคันงามที่จอดรออยู่ข้างทาง วันนี้คุณชายโจวใช้บริการคนขับรถ ทั้งคู่จึงนั่งที่เบาะหลัง
     

                    หลังจากขึ้นมาบนรถ คยูฮยอนก็นั่งประกบซองมินตลอด ไม่ใช่อะไร? แต่เป็นเพราะร่างบางนี้ดีแต่จะขัดขืนเขาตลอด ถ้าเกิดหนีไปอีกรอบ คยูฮยอนต้องเป็นบ้าแน่ๆ...ตลอด3เดือนที่ผ่านมาชายหนุ่มจ้างนักสืบและเพื่อนซี้ที่เป็นตำรวจให้ตามหาซองมินทุกหนทุกแห่ง แทบจะพลิกแผ่นดินกรุงโซลหาเลยทีเดียว...เสียเงินทองไปตั้งเยอะ จะปล่อยให้หายไปอีกได้ยังไงกัน...อีกทั้ง3เดือนนี้เขาก็ได้ทำลายธุรกิจของตระกูลชเวจนหมดสิ้น หุ้นกี่ตัวที่มีเขากว้านซื้อจนหมด โดยไม่สนกำไรหรือขาดทุน ขอแค่สั่งสอนพวกคนชั่วแบบนั้นได้ก็พอ
     

                    “ความจริงวันนั้นคุณไม่น่าหนีผมไปก่อนเลย..กะว่าตื่นมาตอนเช้าแล้วจะพาไปหาหมอ”เมื่อเห็นว่าซองมินเลิกขัดขืนแล้ว คยูฮยอนจึงเริ่มพูดธุระของตน
     

                    “ก..ก็ ผมตกใจนี่” ไม่รู้ทำไม ร่างบางถึงยังให้เกียรติชายตรงหน้าอีกทั้งๆที่เขาได้ทำเรื่องเลวร้ายไปกับตน
     

                    “แล้ววันนั้นคุณได้กินยาคุมไหม?
     

                    “เหอ...มันมีของพรรณนั้นด้วยหรอฮะ” ให้ตายเหอะ เด็กคนนี้ใสซื่อจริง
     

                    “เอาเป็นว่าผมจะพาคุณไปโรงพยาบาล...หวังว่าเราทั้งคู่จะได้ข่าวดีนะครับ” ข่าวดีของทั้งคู่คือร่างกายของซองมินปกติดี ไม่มีมดลูก และไม่มีอีกหนึ่งชีวิตหนึ่งที่ต้องรับผิดชอบ

     







     

                    โรงพยาบาล ตระกูลโจว
     

                    คยูฮยอนนัดคิมคิบอม คุณหมอเพื่อนซี้เอาไว้  เรื่องที่ผู้ชายมีสิทธิ์ที่จะตั้งครรภ์ควรปรึกษาที่ไว้ใจได้เป็นเรื่องดีที่สุด หลังจากตรวจร่างกายอยู่สักพัก คุณหมอคิมก็หันมายิ้มให้กับทั้งคู่
     

                    “ดีใจด้วยนะครับคุณซองมิน  คุณตั้งครรภ์ได้3เดือนแล้ว”  อึ้ง..ตอนนี้เหมือนอากาศรอบๆตัวคยูฮยอนจะหายไปหมด ทั้งๆที่อึดอัดใจกับการอยากรู้ความจริงมาตั้ง3เดือน แต่พอวันนี้ วันที่ได้รู้ความจริง เขากับจุกกับแผนการแม่อุ้มบุญนี่จนบอกไม่ถูก.. เมื่อก่อนเวลาเขาจู๋จี๋กับแฟนจะป้องกันไว้เสมอ ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะเจ๋งขนาดนี้
     

                    ความคิดที่ตีกันจนวุ่นวายในหัวของตน ทำให้บรรยากาศในห้องตรวจเงียบไปชั่วขณะ คยูฮยอนเหลือบสายตาไปมองคนที่นั่งข้างๆกัน ..ใบหน้าสวยนั่งนิ่งๆ และมีน้ำตาอาบแก้มทั้งสองข้าง....
     

                    “ฮือออ...ฮืออออ” เกือบชั่วโมงแล้วหลังจากออกจากโรงพยาบาลที่ซองมินยังร้องไห้ไม่หยุด จนคยูฮยอนไม่รู้จะทำยังไง ทั้งปลอบ ทั้งให้คนขับรถแวะลงไปซื้อเค้กน่าตาน่ากินมาให้แต่อีกฝ่ายก็ยังร้องไห้ไม่หยุด..ไม่คิดเลยว่าการปลอบคนร้องไห้มันจะยากกว่านี้..ยากกว่าทำธุรกิจหลายสิบเท่า
     

                    “ฮืออ...ผมจะทำไงดี..เพิ่งจะ..ฮึก..เรียนจบ แล้วท้องได้ไง”
     

                    “นี่นายไม่รู้จริงๆหรอ?
     

                    “ฮึก..ฮืออ..”ซองมินพยักหน้ารับทั้งน้ำตา ร่างสูงจึงส่งเอกสารให้ดู เป็นประวัติการเข้ารับการรักษาของซองมินที่โรงพยาบาลยี้ หนึ่งในประวัติการรักษานั่นคือ การปลูกถ่ยมดลูก
     

                    “โฮฮฮฮ.....ฮืออออ”ซวยแล้วไง ทำไมร้องหนักกว่าเดิมได้วะ
     

                    “ซองมิน..บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่าคุณมาหาผมในคืนนั้นได้ยังไงกันแน่!!” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายร้องไห้เสียใจไม่หยุด คยูฮยอนก็เชื่อสนิทใจว่าซองมินถูกหลอกมาแน่ๆ แต่ที่ถามก็เพื่อเบี่ยงประเด็นให้หายเศร้าเท่านั้นแหละ
     

                    “ฮืออ..ก..ก็คุณหนูบอกว่ามีปาร์ตี้ที่โรงแรม แล้วทำชุดเลอะ..ฮึกก.เลยโทรให้ผมเอาชุดไปให้เปลี่ยน..ฮืออ ผมรออยู่ข้างนอกตั้งนาน แต่คุณหนูก็ไม่ออกมาสักที..ฮือออ เลยเปิดประตูเข้าไป เห็นคุณนอนถอดเสื้อ..ฮืออ ฮืออ คุณบอกให้โทรหาเลขา..ผมก็ช่วยหาโทรศัพท์ให้ ฮือออ แต่คุณก็กดผมลงเตียง แล้วคุณก็...”
     

                    “พอ..พอแล้ว..ต่อจากนั้นผมรู้แล้ว ผมผิดเอง ขอโทษ” ทำไมร่างบางถึงไร้เดียงสาขนาดนี้ เขากลายเป็นผูใหญ่พรากพรหมจรรย์เด็กแล้วใช่ไหม
     

                    “แล้วเราจะเอายังไงต่อดีฮะ” ซองมินหันมาถาม ตอนนี้เขาหยุดร้องไห้แล้ว เพียงแต่ดวงตากลมโตยังไงน้ำตาคลออยู่บ้างเล็กน้อย
     

                    “พาคุณไปส่งที่บ้านก่อนละกัน..แล้วว่ากันทีหลัง”

     

     

                     ระยะทางที่ไม่ไกลนัก ซองมินก็บอกทางคนขับรถจนมาถึงบ้านของเขา ห้องเช่าขนาดเล็กที่ซองมินแสนจะภูมิใจ

                    “เชิญเลยฮะ” ซองมินพาคยูฮยอนเข้ามาในห้อง ร่างสูงกวาดสายตามองไปทั่ว ห้องใต้หลังคา เวลาอากาศร้อนก็จะร้อนจัด และเมื่ออากาศหนาวก็คงจะหนาวสุดๆแน่ๆ

                    “ทำไมมันแคบขนาดนี้” คยูฮยอนเชื่อว่าตนเป็นคนมีมารยาทพอสมควร เวลาจะพูดอะไรด้วยความเป็นนักธุรกิจ แต่กับห้องพักแคบๆของซองมิน มันทำให้เขาต้องหลุดปากเสียมารยาทออกมา

                    “เอ่อ..เชิญนั่งก่อนสิฮะ เดี๋ยวผมเอาน้ำมาให้” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดูจะอึดอัดในห้องแคบๆของตน ซองมินก็ต้องต้อนรับอย่างดี  ถึงแม้ห้องนี้จะเล็กแต่ซองมินก็ดูแลอย่างสะอาด ทำความสะอาดเช็ดถู ข้าวของก็จัดเป็นระเบียบ

                    “ไม่เป็นไร..เรามาคุยธุระกันเลยดีกว่า”

                    “อ่า..ถ้างั้น ผมอยากถามว่า..เอาเด็กออกได้ไหมฮะ?” ร่างบางเอ่ยถามเบาๆ

                    “ไม่ได้เด็ดขาด!!” ซองมินอาจจะเห็นเขาเป็นคนนิสัยแย่แล้วแน่ๆ โอเค คนเรามันทำพลาดกันได้..แต่เขาก็เป็นสุภาพบุรุษพอ..คิดดังนั้นคยูฮยอนต้องรีบแสดงความเป็นสุภาพบุรุษออกมาเสียแล้ว

                    “เอ่อ..คุณจะทำแบบนั้นไม่ได้..เด็กที่กำลังจะเกิดมาเรา2คนจะดูแลรับผิดชอบไปก่อน..คุณสบายใจได้ เขียนชื่อผมเป็นพ่อแกได้เลย” น่าแปลก เหมือนเขากำลังจะหว่านล้อมให้ซองมินเชื่อเลย นักธุรกิจนี่หาตัวจับยากเสียจริง

                    “เอ่อ..แต่ว่ามันลำบากคุณรึปล่าว..คือผมหมายถึงให้เอาเด็กออกไม่ง่ายกว่าหรอ”

                    “อย่าคิดเรื่องนั้นอีกเป็นอันขาด...คุณอย่ากังวลไปเลยนะ..ผมจะดูแลทั้งคุณและก็..เอ่อ..ลูกเอง ในช่วงที่คุณท้องแบบนี้ควรทำใจให้สบายเพื่อลูกดีกว่านะ เรื่องอื่นอย่าได้กังวล ผมจะค่อยๆจัดการ” ในใจลึกๆซองมินก็ดีใจ แม้ว่าการรับผิดชอบของคยูฮยอนจะไม่ถึงกับแต่งงานหรืออะไร แต่นี่ก็ดีมากแล้วที่เขาออกปากจะรับผิดชอบดูแลลูก

                    “ตกลงก็ได้ฮะ..รอจนกว่าผมจะคลอดแล้วค่อยว่ากัน” ซองมินตอบรับยิ้มๆ

                    “เยี่ยมที่สุด..งั้นรีบเก็บของเหอะ” คยูฮยอนยิ้มกว้างเมื่อแม่ของลูกว่าง่ายขนาดนี้

                    “หืม..เก็บของไปไหน?

                    “บอกตามตรง ผมไม่เห็นด้วยที่คุณกับลูกจะอยู่ในที่แบบนี้...เร็วเหอะ รีบกลับไปบ้านพ่อแม่ผมกัน...พ่อครัวที่บ้านผมทำกับข้าวอร่อยมากเลยนะ”

                    “อย่า..อย่าเลย..ผมยังไม่พร้อมไปเจอพ่อแม่คุณในสภาพแบบนี้” บางทีนักธุรกิจอย่างคยูฮยอนก็คิดอะไรง่ายเกินไป ขอเวลาให้เขาทำใจก่อนไม่ได้เลยหรอ

                    “งั้น..เราไปพักที่คอนโดผมก่อนก็ได้ ..ที่นั่นผมถือหุ้นใหญ่  มีระบบรักษาความปลอดภัยชั้นเยี่ยม กับห้องนอนอีก3ห้อง ผมยกให้คุณเลยห้องนึง ส่วนที่เหลือเราค่อยแต่งเป็นห้องเด็กนะ” คยูฮยอนเสนอทางเลือกให้ร่างบาง ยังกับรายงานการประชุม

                    “ตามใจลคุณก็ได้ฮะ” ซองมินมันพูดดแต่คำว่า “ตามใจ” นั่นไม่แปลกหรอก เพราะตั้งแต่เกิดมาเขาไม่ค่อยมีสิทธิเลือกอะไรอยู่แล้ว กับสิ่งที่อีกฝ่ายเสนอมานับว่าดีมากจนซองมินไม่กล้าร้องขออะไรอีก 

                    ขอแค่ลูกเกิดมามีความสุขแค่นี้ก็พอแล้ว

     





     

                      คยูฮยอนพาซองมินมาถึงที่คอนโดใจกลางกรุงโซลของเขา ร่างสูงช่วยซองมินถือข้าวของเสียเต็มสองมิน ด้วยเหตุผลที่ก้องกังวานอยู่ในใจว่า ไม่อยากให้แม่ของลูกต้องลำบาก

                    “ตามสบายเลยนะครับ..ถือซะว่าเป็นบ้านของคุณ” คยูฮยอนเอ่ย ก่อนที่จะหอบข้าวของพาร่างบางไปที่ห้องนอน

                    “นี่ห้องของคุณ...ผมยกให้ทั้งห้อง ความจริงแล้วมันยังไม่มีผ้าปูที่นอนเลย เดี๋ยวเย็นนี้ผมจะพาคุณไปซื้อของใช้จำเป็นที่ยังขาดอยู่นะ”

                    “ขอบคุณมากครับ” ตั้งแต่เกิดมา ซองมินยังไม่เคยได้รับการดูแลเอาใจใส่ที่ดีเท่านี้มาก่อนเลย

                    “ขอบคุณอะไรกัน..คุณอย่าลืมสิว่าเราลงเรือลำเดียวกันแล้วนะ” เมื่อเห็นซองมินยังทำหน้าวิตกไม่หาย คยูฮยอนจึงเลือกที่จะงัดอารมณ์ขันที่ตนมีอยู่น้อยนิดขึ้นมา

                    “เมื่อกี้เห็นมีห้องครัวด้วย..”

                    “อ้อ..คุณทำอาหารได้ตามสบายเลย ติดอยู่ที่ว่าที่นี่ไม่มีอะไรเลยนอกจากน้ำเปล่า..เอาเป็นว่าคุณต้องการอะไรก็จดไว้เลยนะ เดี๋ยวเย็นนี้เราไปซื้อด้วยกัน”

                    ซองมินเดินสำรวจรอบๆห้องชุดสุดหรูของคยูฮยอน มันดูดี และตกแต่งเอาไว้สวยมาก แต่เสียตรงที่ไม่มีข้าวของเครื่องใช้อะไรเลย ตู้เย็นก็มีแต่น้ำเปล่าและเบียร์กระป๋อง แม้แต่กิมจิติดครัวก็ไม่มีซักกล่อง

                    ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม  น้ำยาล้างจาน  ไม่มี!!!

                    “ปกติผมอาศัยแค่นอนอย่างเดียว แล้วก็จะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดแค่อาทิตย์ละครั้งหน่ะ” เมื่อเห็นร่างบางสอดส่องอยู่นาน คยูฮยอนก็พอจะเดาออก ว่าอีกฝ่ายคิดยังไง

                    “ผมก็ยังไม่ได้บ่นสักคำนี่” ซองมินกลั้นหัวเราะในลำคอ ผู้ชายคนนี้ใจคอจะไม่ยอมผิดพลาดเลยใช่ไหม

                    “เอ่อ คุณคยูฮยอนครับ..ไปซื้อของแล้ว เย็นนี้ผมจะทำอาหาร คุณอยากทานอะไรเป็นพิเศษรึปล่าว” ซองมินยังถือคติที่ว่า อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดายอยู่เสมอ จะให้อยู่เฉยๆสบายๆไม่ได้หรอก

                    “ดีจริง.. ผมเริ่มจะหิวขึ้นมาแล้วหล่ะ”

     




     

     

                    ผ่านมาแล้วหลายวัน กับการพาซองมินออกไปซื้อของและจัดแจงคอนโดแห่งนี้ให้เหมาะกับการอยู่อาศัยซักที แม้จะเหนื่อยไม่น้อยกับการขับรถเทียวไปเทียวมา แต่คยูฮยอนก็สบายใจที่ไม่ต้องปล่อยให้คนท้องแบกของหนักๆคนเดียว

                    “คุณคยูฮยอนฮะ..ผมเพิ่งจะเรียนจบ แล้วตอนนี้ท้องก็ยังไม่โตเท่าไหร่ พอดีว่าก่อนหน้านี้มีบริษัทมาติดต่อให้ผมเป็นพนักงานบัญชี....ระหว่างนี้ผมไปทำงานได้รึปล่าว?”ซองมินเอ่ยถามระหว่างกำลังรับประทานอาหาร เขาพอจะคาดเดาได้เลยว่า ถ้าคยูฮยอนออกไปทำงาน แล้วให้เขาอยู่เฉยๆในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆแบบนี้ จะต้องบ้าตายแน่ๆ  แต่ความเห็นของร่างบางทำให้อีกฝ่ายรู้สึกขัดใจไม่น้อย..ไม่รู้หรือไงว่าตอนนี้ตัวเองกำลังท้องอยู่...เด็กคนนี้นี่ไม่ไหวเลยจริงๆ

                    “คุณลืมเรื่องนั้นไปได้เลย...ออกไปทำงานอะไรกัน” ชายหนุ่มพูดอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ ก่อนจะตักอาหารที่ซองมินทำใส่ปากเคี้ยวคำโต..หลายวันที่อยู่ด้วยกันทำให้รู้ว่าซองมินทำอาหารอร่อยถูกปากไม่เบา...แม้หน้าตาสีสันจะสู้ที่พ่อครัวที่บ้านเขาทำไม่ได้..แต่เรื่องรสชาตินี่อร่อยจริงๆ

                    “แต่ว่าผมไม่อยากอยู่เฉยๆนี่ฮะ...คุณก็รู้ว่าคนเพิ่งเรียนจบจะร้อนวิชา...ผมกลัวว่าจะลืมไปเสียหมด”  ซองมินเอ่ย ดวงตากลมแป๋วจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่ง ถ้าซองมินตั้งใจจะทำอะไรแล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุดสิ ตั้งท้องตั้ง9เดือน จะไม่ให้ทำอะไรเลย เดี๋ยวก็อ้วนเป็นหมูพอดี

                    “ปกติคุณก็ทำงานบ้านอยู่แล้วไม่ใช่หรอ? แค่นี้ก็พอแล้วมั้ง” คยูฮยอนเงยหน้าขึ้นมาสบตาบ้าง ดูซิว่าระหว่างเขากับเด็กดื้อคนนี้ใครจะชนะ..แค่งานบ้านที่อีกฝ่ายรับอาสาจะเป็นคนทำเองก็ทำเอาเขาเป็นห่วงแทบแย่ เกิดลื่นล้มไปจะเป็นยังไง แต่ก็ดีที่ซองมินทำงานบ้านได้เรียบร้อยดี เสียจนแม่บ้านคนเก่าไม่ต้องมาทำแล้ว  ให้แม่ของลูกนั่งๆนอนๆก็ไม่ดีเหมือนกัน เด็กต้องได้รับพัฒนาการตั้งแต่ในท้องถึงจะถูกสิ คิดได้ดังนั้น คุณชายโจวจึงยื่นข้อเสนอให้

                    “งั้นเอาอย่างงี้...ผมมีบัญชีส่วนตัวอยู่ คุณช่วยดูแลจัดการให้หน่อย เดี๋ยวจะเอามาให้ทำที่บ้าน คุณจัดการลาออกจากงานให้เรียบร้อยหล่ะ” จบบทสนทนาคยูฮยอนกับซองมินก็จัดการอาหารมื้อตรงหน้าโดยไม่พูดกันอีก ซองมินยอมรับข้อเสนอที่อีกฝ่ายยื่นมาให้แต่โดยดี  แม้คยูฮยอนจะเผด็จการไปบ้างแต่เขาก็ดูจะเข้าใจความรู้สึกของซองมินดี เขาให้ถึงขนาดนี้แล้ว ยังจะต้องการอะไรอีก

                    “เสร็จแล้วเดี๋ยวผมล้างจานให้ฮะ” ซองมินรวบรวมจานแล้วเดินเข้าไปในห้องครัว ฝ่ายคยูฮยอนเมื่เห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ติดใจเรื่องอยากทำงานอะไรนั่นแล้ว ก็ขอตัวเข้าห้องของตัวเอง  ร่างบางได้แต่มองตามแผ่นหลังสูงด้วยความรู้สึกที่ยากจะเอ่ยออกมาได้.....รู้สึกขอบคุณที่เขาไม่ทอดทิ้งและดูแลเป็นอย่างดี ....รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ตลอดระยะเวลาแค่ไม่กี่วันที่เข้ามาอยู่ที่คอนโดแห่งนี้ ซองมินเชื่อว่าคยูฮยอนจะปกป้องเขาและลูกจากตระกูลชเวได้อย่างแน่นอน

     

                   

     

                    ---ต่อ50%--




     

                    หลายวันผ่านไป ซองมินยังคงเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่ายในสายตาของคยูฮยอน   เขาไม่กลัวที่จะต้องนอนคนเดียว หรือออกไปเดินซื้อของคนเดียว  อีกทั่งยังไม่ยอมอยู่เฉยๆทำงานบ้านซะสะอาดเอี่ยมอ่อง แม้ตอนแรกคยูฮยอนเสนอให้มีพี่เลี้ยงมาดูแลคนท้องอย่างร่างบาง แต่ซองมินก็ปฏิเสธไป เพราะว่าไม่ชินกับการมีคนมาดูแลตลอดเวลา อีกทั้งตนก็เคยเป็นคนใช้มาก่อน ครั้นจะมีคนมารับใช้ก็ผิดวิสัยไปเสียหน่อย

                    หลังจากมื้ออาหารค่ำง่ายๆที่ทั้งสองกินด้วยกัน ซองมินก็จัดการเก็บกวาดล้างจานอย่างดี

                    “ซองมิน มานี่หน่อย” คยูฮยอนกวักมือเรียกให้ซองมินเข้าไปในห้องนอนบวกห้องทำงานของเขา ร่างสูงกำลังปริ้นท์กระดาษอะไรบางอย่างอยู่ เห็นดังนั้นซองมินก็ถอดผ้ากันเปื้อนที่เปียกโชกออก เห็นท้องนูนๆออกมาเล็กน้อยผ่านชุดคลุมท้องตัวหลวม

                    คยูฮยอนหยิบกระดาษเอสี่สีขาว ที่เพิ่งออกจากเครื่องปริ้นท์สดๆร้อนๆยื่นให้อีกคนที่เดินเข้ามาในห้อง ซองมินรับมันไว้

     

                    สัญญาการแต่งงาน


     

                    ซองมินก้มลงอ่านกระดาษในมือทีละบรรทัด แล้วใจก็กระตุกวูบ ความสุขและความอบอุ่นที่เขาได้รับในตลอดหลายวันที่ผ่านมา แท้จริงแล้วคยูฮยอนก็ทำเพื่อ ลูกแย่จริง..ความสุขกับลีซองมินมันเป็นของคู่กันซะที่ไหนหล่ะ

                    “คุณนั่งก่อนสิ ผมมีเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกับคุณ” เมื่อเห็นร่างบางยืนอ่านใบสัญญาก็นึกเป็นห่วง คนกำลังท้องกำลังไส้จะยืนนานๆไม่ได้     ซองมินเดินไปนั่งที่โซฟาข้างๆคยูฮยอนอย่างเงียบๆ

                    “เอ่อ...ผมขอพูดตรงๆกับคุณนะซองมิน...”

                    “ไหนๆเราก็ลงเรือลำเดียวกันแล้วนี่ฮะ....พูดมาเถอะ”ซองมินหันมาสบตาและพูดยิ้มๆ บอกตามตรงว่าตั้งแต่เกิดเรื่องผิดพลาด และต้องดูแลซองมิน    คยูฮยอนไม่เคยคิดที่จะพูดโกหกปิดบังร่างบางนี้เลย..เขาพร้อมที่จะพูดอย่างตรงไปตรงมาทุกเรื่องกับซองมินอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน..น่าแปลกที่นักธุรกิจที่ถนัดพูดจาหว่านล้อมอย่างโจวคยูฮยอน ไม่เคยคิดที่จะอยากโกหก ลีซองมินเลย

                    “บอกตามตรงเลยนะ..ที่ผมต้องการแต่งงานก็เพราะธุรกิจ และต้องการมีทายาทสืบต่อ..คู่แต่งงานทางธุรกิจของผมต้องมีคุณสบัติบางอย่างซึ่ง...คุณไม่ใช่คู่ครองในอุดมคติของผมเลย”

                    “............”

                    “แต่ผมก็ผิดเองที่ทำให้คุณท้อง..ดังนั้นคุณไม่ต้องห่วงนะผมจะรับผิดชอบเอง  เราจะแต่งงานกัน รอจนกว่าคุณจะคลอดลูก..สบายใจได้..ตอนคลอดแล้วใช้ชื่อผมเป็นพ่อแกได้เลย....จนลูกอายุครบ1ปี แล้วเราจะหย่ากัน แน่นอนผมจะให้บ้านและเงินกับคุณและลูก   คุณไม่ต้องกลัวเหงาผมจะแวะไปเยี่ยมคุณและลูกอยู่เสมอ”

                    ซองมินฟังข้อเสนอที่คยูฮยอนยื่นให้และคิดตามเงียบๆ ..ถ้าคืนนั้นผู้ชายที่ทำพลาดไม่ใช่คยูฮยอนแล้วชีวิตเขากับลูกในท้องจะเป็นยังไงนะ..จากที่ฟังลูกได้อยู่อย่างสบายก็ดีแล้ว

                    “ผมว่า1ปีมันจะนานไป แค่คุณเซ็นเป็นพ่อของลูกแค่นั้นก็พอแล้วมั้งฮะ”

                    “อะไรกัน...คุณไม่อยากแต่งงานกับผมขนาดนี้เลยหรอเนี่ย?” แม้บทสนาทนาจะเคร่งเครียด แต่คยูฮยอนกลับพูดติดตลกเพื่อทำให้ซองมินผ่อนคลายมากขึ้น

                    “ไม่ใช่หรอกฮะ...แค่เงินกับชื่อลูกในทะเบียนบ้านตระกูลโจวก็พอแล้ว ผมดูจะเอาเปรียบคุณไปหน่อยด้วยซ้ำ”

                    “............”คยูฮยอนไม่ตอบ ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยพอใจกับคำพูดของซองมินเท่าไหร่นัก เอาเปรียบอะไรกัน เขาตั้งหากที่เป็นฝ่ายเอาเปรียบร่างบางตรงหน้าแท้ๆ...เมื่อเห็นคิ้วเข้มที่ขมวดจนย่นของคยูฮยอนซองมินเลยพูดอีก1ข้อเสนอดูที่น่าสนใจ

                    “แต่ถ้าคุณไม่เห็นด้วย เราแต่งงานกันแล้วระหว่างนั้นคุณเจอกับ คู่ครองในอุดมคติของคุณเราก็หย่ากันก็ได้นะฮะ ไม่ต้องรอจนลูกอายุครบ1ปีหรอก จะเป็นแค่เดือนเดียวผมก็ไม่ว่าอะไร

                    “เอ้อ...ความจริงคุณนี่มองอะไรได้ขาดกว่าผมเยอะนะ...ตามนี้ก็ได้นะ ถ้าผมเจอคนที่ถูกใจเมื่อไหร่เราหย่ากัน แต่ผมก็ยังเป็นพ่อให้ลูกเหมือนเดิม”

     

                    ขอแค่เขาดูแลรับผิดชอบลูกก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ..ยังจะต้องการอะไรอีก
     

                    ในใจที่เจ็บลึกๆของซองมินกลับเรียกร้องประท้วงเบาๆ

     


     

                    น่าแปลกชะมัด..ยังไม่ทันจะแต่งก็คิดเรื่องหย่าซะแล้ว

     

     
    ...........................30.....................


     

                  หลังจากนั้นคยูฮยอนก็เริ่มเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านพ่อแม่และคอนโดของตน  ระยะแรกของครรภ์คุณหมอบอกว่ายังน่าเป็นห่วง เขาจึงตัดสินใจมาที่คอนโดของตัวเองบ่อยขึ้น เลิกงานกลับบ้านมาก็พบซองมินกำลังนั่งถักโคเชเป็นถุงเท้าคู่เล็กๆก็พอใจไม่น้อย  ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาก็จะครบเดือนกว่าแล้ว ซองมินก็ยังเป็นคนว่าง่าย ไม่เรียกร้องอะไรเหมือนเคย..นั่นนับว่าดีมากสำหรับคยูฮยอน
     

                    คยูฮยอนไม่เคยรู้สึกรำคาญร่างบางนี้เลยแม้แต่นิด  คิดไปคิดมาก็ดีเหมือนกัน มีเพื่อนอยู่ด้วยอีกคนนึง เขากับซองมินก็คุยกันถูกคออยู่ไม่น้อย บรรยากาศที่เงียบเหงาในคอนโดของเขาเริ่มถูกร่างบางนี้ละลายลงอย่างช้าๆ คอนโดสุดหรูกลางเมืองของคุณชายโจวกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เพราะ ลีซองมิน
     

                    วันนี้คยูฮยอนต้องกลับบ้านย่านชานเมือง ซึ่งเป็นบ้านของพ่อและแม่เขานั่นเอง  ก็เลยจำเป็นต้องทิ้งให้แม่ของลูกต้องนอนอยู่ที่คอนโดคนเดียว  เหตุที่ต้องด่วนกลับมา เพราะคยูฮยอนมีลางสังหรณ์แปลกๆว่าพ่อ แม่ และน้องชายตัวดีของเขา เริ่มสงสัยเสียแล้ว ว่าคยูฮยอนจะซุกอีหนูไว้ที่คอนโด  เพื่อความบริสุทธิ์ใจ คยูฮยอนจึงต้องรีบกลับมารับหน้าครอบครัว เสียก่อนที่เรื่องจะแดงขึ้นมา ซึ่งซองมินก็เห็นด้วย ไม่ได้ว่าอะไร

     

                    บนโต๊ะอาหารเช้าในบ้านตระกูลโจว
     

                    “ช่วงนี้ทำไมลูกไม่ค่อยกลับมาให้แม่เห็หน้าเลยหืม”

                    “สงสัย..พี่ใหญ่จะแอบมีเล็กมีน้อย แล้วไม่บอกคุณพ่อคุณแม่แน่เลยฮะ” มินโฮน้องชายจอมป่วนของคยูฮยอนพูดขึ้น

                    “ไม่ใช่นะครับ..ช่วงนี้งานที่บริษัทยุ่งมาก  ขับรถไกลๆมันก็เหนื่อสิครับคุณแม่” คยูฮยอนรีบแก้ตัว เล่าความเท็จ เพื่อความอยู่รอดออกไป  หึ ไอ้มินโฮ ฝากเอาไว้ก่อน โปรเจคครั้งหน้าชั้นจะทำให้รู้สำนึก

                    “งั้นก็ค่อยโล่งใจ...ถ้ารู้ว่าที่เลิกกับหนูซูยองเพราะดันไปทำใครเขาท้องขึ้นมาหล่ะก็ แกหัวขาดแน่” โจวฮยอนอิลแกล้งพูดขู่ลูกชายเล่นๆ แต่มันก็ทำให้คยูฮยอนเสียวสันหลังวูบได้ไม่น้อย

                    “โธ่..คุณพ่อครับ ผมไม่ทำแบบนั้นหรอก” คยูฮยอนรีบหาทางรอดอีกครั้ง พร้อมกับยกน้ำขึ้นมาจิบดับกระหาย เพราะความกลัว

                    “พี่ใหญ่ไม่มีวันทำอย่างนั้นหรอกครับ  วันๆนึงก็ยุ่งกับงาน  หาแต่เงิน ผมว่าพี่ซูยองต้องทนไม่ได้แน่เลย” มินโฮแกล้งจิกกัดพี่ชายสุดที่รักเล่นๆ

                    “เงียบไปเลยนะ ....เรื่องของตัวเองหน่ะ เอาให้รอดก่อนสิ” คยูฮยอนต่อว่าน้องชายสุดหล่อ จอมเจ้าชู้ และไม่เอาไหนของตัวเองเข้าให้

                    “พอเลยๆ พยุดทั้งคู่ มื้อาหารอย่าทะเลาะกันเลย”
     

                    หลังมื้ออาหารเช้าที่เพิ่งเสร็จไป ครอบครัวโจวก็ยังนั่งคุยกันต่ออีกสักพัก จนคยูฮยอนต้องรีบขอตัวไปทำงานต่อ พร้อมกับบอกพ่อกับเเม่ว่า เขาคงจะไม่ได้กลับบ้านอีกสักพักใหญ่ เพราะมีงานที่มันยู๊งงงงงยุ่ง เสียจนต้องใส่ใจเป็นพิเศษ
     

                    “พี่ใหญ่จะไปในเมืองหรอฮะ ผมติดรถไปด้วยคนสิ” มินโฮวิ่งตามมาจนถึงหน้าประตูบ้าน

                    “ฉันนัดลูกค้าเอาไว้  ไม่ต้องยุ่ง”

                    “ดีเลย..พี่จะไปตีกอล์ฟกับลูกค้าอีกแล้วใช่ไหม...ผมจะไปแถวนั้นพอดีนะ”

                    “ก็บอกว่าไม่ไงเล่า !!!” แกล้งขึ้นเสียงไปงั้นแหละ จริงๆแล้วเขาไม่ได้คิดจะไปตีกอล์ฟอะไรนั่น ลูกค้าก็ไม่ได้นัดเอาไว้สักคน แต่จะรีบกลับไปดูความเรียบร้อย “แม่ของลูก” เสียหน่อย ว่าเมื่อคืนนอนหลับสบายดีไหน เเพ้ท้องอีกรึปล่าว?

                    คยูฮยอนไม่รู้ตัวเลยว่า กำลังเป็นห่วงซองมิน อย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน

                    “โธ่!! ปกติพี่ก็ให้ผมไปด้วยทุกทีนี่นา” มินโฮยังไม่เลิกตามไปง้องแง้งใส่พี่ชายของตน

                    “เสียใจ วันนี้ฉันยังไม่อยากนับญาติกับแก” พูดจบร่างสูงก็ก้าวขึ้นรถ และขับออกไปทันที ปล่อยให้มินโฮยืนงงกับพฤติกรรมแปลกๆดูมีลับลมคมใน ของพี่ชายตัวเอง





    ช่วงท้ายที่เพิ่มมาอาจน้อยไปนิด เเต่ลงให้มากกว่านี้ไม่ได้ เพราะเดี๋ยวตอนหน้ามันจะไม่ลุ้นกันเอาหล่ะสิ

    มีตัวละครใหม่ที่เพิ่มขึ้นมา ก็คือ ชวมินโฮ ค่ะ มาเป็นน้องชายเเท้ๆของคุณโจวเขา

    เพราะมันเป็นฟิค ดังนั้น จากชเว จะมาเป็น โจว ก็คงไม่ว่ากันเนอะ เพราะคิดว่ามินโฮนี่เเหละที่เข้ากับคาเเร็คเตอร์นี้สุดเเล้ว


    **มีคนบอกว่าฟิคเรื่องนี้ เหมือนกับsf บางเรื่อง
    ไรเตอร์ออกตัวเเล้วตั้งเเต่หน้าเเรก ว่าพล๊อตเนี่ย เอามาจากนิยาย ถ้าลอกก็ลอกจากนิยาย เเต่ไม่ได้ลอกทั้งดุ้น
    อย่างน้อยในนิยายมันก็ไม่มิncหล่ะนะ เเต่ไรเตอร์ก็เพิ่มเข้ามาให้ เเละคาดว่าจะเพิ่มให้อีกเรื่อยๆตามค.หื่น
    ****ดังนั้น อย่าพูดเเบบนั้นเลยนะคะ เดี๋ยวไรเตอร์คนที่เเต่งsf เรื่องนั้นเขาจะเข้าใจผิดเอาได้ ^__^

    ขอบคุณสำหรับทุกเม้น ทุกการติดตาม
    ขอโทษที่อัพให้ช้า ปล่อยให้รอนาน ไม่มีข้อเเก้ตัวใดๆทั้งสิ้นค่ะ

    ตอนหน้าพลาดไม่ได้นะ อิอิ บอกเเค่นี้เเหละ


     

    B B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×