คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ออกค่ายวองโกเล่ 100 %
ออกค่ายวองโกเล่
หลังจากผ่านช่วงเวลาแห่งความทุกข์ทรมาณ สอบปลายภาคยากยิ่งกว่าไปขุดหาขุมทรัพย์กับกัปตันฮุค (เข้าใจเปรียบเทียบมาก -_-) เช้าวันเสาร์นี้เด็กหนุ่มซาวาดะ สึนะโยชิ ว่าที่บอสวองโกเล่รุ่นที่ 10 ตื่นเช้าเป็นพิเศษจนนานะ แม่ของเขายังแอบตกใจที่ลูกชายของเธอตื่นเช้าเสียกว่าตอนจะไปโรงเรียนเสียอีก หากแต่นั่นเพราะถูกครูสอนพิเศษที่มีอายุวัยไม่ถึงห้าขวบอย่างรีบอร์นบังคับ ให้ตื่นต่างหาก
“เจ้ารีบอร์นนะเจ้ารีบอร์น =_=^^” สึนะบ่นไปด้วยแปรงฟันไปด้วย
เขา ไม่รู้เลยว่าในเวลานี้บุคคลี่ถูกเรียกว่าวองโกเล่ได้มารวมตัวกันครบทุกคน แล้วในห้องรับแขกบ้านของเขา สึนะใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไม่นานก็มาถึง เขามีสีหน้าตกใจนิดๆที่เห็นเหล่าสมาชิกแฟมิลี่ถ้วนหน้ากำลังดื่มชาที่นานะ เพิ่งยกมาเสริฟ์ให้สดๆ บ้างก็มีสีหน้าเต็มใจ บ้างก็ไม่เต็มใจอย่างเช่นฮิบาริ เคียวยะที่เอาแต่นั่งอยู่ตรงระเบียง ไม่แม้แต่จะเข้ามาร่วมวงเสวนาพาทีกับผู้คนที่นั่งหัวเราะร่าคุยสนุดสนานกัน อยู่ข้างใน แต่มันก็แปลกสำหรับสึนะอยู่ดีที่รู้สึกว่าฮิบาริ ดูแปลกๆ
“เฮ้ รีบอร์น คุณฮิบาริเขา...” สึนะหันไปกระซิบกับครูสอนพิเศษที่วันนี้แต่งคอสเพลย์เป็นคุณลุงหน้าแก่คน หนึ่ง “น่าแปลกที่เขามาบ้านฉัน”
“สาเหตุ ก็เดาได้ไม่ยากนี่นา” รีบอร์นบุ้ยปากไปทางโคลมที่นั่งเงียบๆอยู่คนเดียว บางครั้งโคลมเองก็แอบเหลือบๆมองคนข้างนอกที่อยู่ในอาการนิ่ง “ฉันเองก็แทบจะไม่เชื่อว่าคนอย่างฮิบาริจะใจเย็นยอมให้มุคุโร่ลอยหน้าลอยตา อยู่ได้ยังไง”
“เพราะ โคลมจริงๆน่ะเหรอ” สึนะแทบไม่เชื่อหูตัวเอง แต่ลางสังหรณ์ของสึนะในบางครั้งก็รู้สึกเหมือนกับว่าระหว่างฮิบาริและโคลมมี รังสีทะมึนแปลกๆ
“เดินทางกันได้แล้ว วันนี้เราจะบุก...” รีบอร์นประกาศเสียงดังพร้อมกลางแผนที่ขนาดเล็กที่ตนพอถือได้ “ไทยแลนด์!”
“ไทยแลนด์เหรอ อย่าล้อเล่นน่า =[ ]=!!” สึนะแหวเสียงสูง
“ฮะๆ น่าไปดีนะ ^-^” ยามาโมโตะกล่าวขึ้นยิ้มๆ
“ได้ข่าวว่าประเทศไทยมีสิ่งมีชีวิตและเรื่องราวลึกลับน่าค้นหาหลายอย่าง มันก็น่าไปดีอยู่หรอกนะครับ
-_-+++ (ชิ้งๆ)” คนอย่างโกคุเทระไม่มีวันพลาดเรื่องประหลาดพรรค์นี้แน่
“มวยของประเทศไทยสุดยอดด –O-!!” เรียวเฮตะโกนก้องบ้าน
รีบอร์นหันไปทางอีกสามคนที่ไม่ออกความเห็น เขาเอ่ยปากถามโคลมทันทีที่เธอหันมาสบตา “เธอว่าไงโคลม”
เพียง เสี้ยววินาทีที่โคลมแอบเหลือบมองคนที่อยู่ตรงระเบียง มุคุโร่เองก็ใช่ว่าจะไม่ทันสังเกต แต่เขาก็เก็บอาการไว้อย่างเงียบๆ โคลมหันไปมองพวกบอสของเธอที่คุยกันเกี่ยวกับประเทศไทยอย่างสนุกสนาน แล้วหันกลับมาให้คำตอบกับรีบอร์นอีกที
“ฉันอยากให้บอสมีความสุข ฉันจะไป” โคลมตอบอย่างแน่วแน่
“โคลมว่าไงผมก็ตามกัน” มุคุโร่ตอบพร้อมส่งยิ้มแปลกๆให้รีบอร์น
“เหลือ คนเดียวแล้ว อา...ฉันอยากจะยึดอาวุธของทุกคนไว้เพื่อไม่ให้ก่อความวุ่นวายในประเทศไทย ไม่งั้นวองโกเล่จะต้องเสียภาษีอย่างหนักเลยทีเดียว รุ่นที่เก้าอาจะไม่พอใจนักถ้าเราไปทำร้ายประชากรของประเทศเขาหรือเผลอไปฆ่า ใครเข้าโดยไม่จำเป็น”
ทุก คนพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจก่อนจะส่งอาวุธให้คนตัวเล็กเก็บใส่ถุงขนาดใหญ่ ทั้งระเบิดของโกคุเทระ ดาบของยามาโมโตะ ถุงมือของสึนะ กระบองสามง่ามของโคลมและมุคุโร่ จะเหลือก็แต่ฮิบาริที่ยืนเหม่ออยู่ข้างนอกรับลมเย็น
“ฉัน จะเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็นจริงๆ” รีบอร์นชี้แจงอีกครั้งก่อนจะหันไปสั่งโคลม “เธอช่วยไปขอทอนฟาของฮิบาริให้หน่อยละกัน เป็นฉันคงคุยกับเขายาก”
"ตะ...แต่ว่า..." โคลมตะกุกตะกัก กำลังเคืองกับฮิบาริมาหมาดๆ จะให้ไปขอทอนฟานี่เธอจะไม่โดนฟาดตายจริงๆน่ะเหรอ "คุณรีบอร์นแน่ใจงั้นเหรอคะ Y_Y"
"พูดอะไรของเธอ ฉันใช้ใครก็ต้องมั่นใจว่าจะต้องได้เรื่อง"
อือ...ได้เรื่องแน่ -*-
ทุกคนพากันเก็บสัมภาระกระเป๋าหนักๆแล้วรอโคลมกับฮิบาริอยู่หน้าบ้าน มาเฟียที่เมืองไทยไม่ค่อยมี แต่พวกนักเลงอะไรอย่างนั้นก้มีอยู่ค่อนข้างมาก จะดีแล้วเหรอที่ยึดอาวุธของทุกคนเอาไว้
โคลมค่อยๆเดินอาดๆเข้าไป หาฮิบาริที่ยืนรับลมหน้าบึ้ง โคลมคิดว่าหากฮิบาริยิ้มเขาคงจะดูดีมิใช่น้อย ทว่าในเวลาแบบนี้โคลมขี้เกียจจะคุยเหลือเกิน
"เอ่อ...ทอนฟา..."
กึง...
ไม่ทันที่จะพูดเต็มประโยค ฮิบาริก็ส่งทอนฟาไปข้างหลังแล้วเดินออกจากห้องไป ก่อนหน้านั้นเขาพึมพำข้อความบางอย่างที่โคลมพอจะจับได้สั้นๆ "ถึงไม่มีมันฉันก็ก็ไม่เดือดร้อน"
"คุณหมายถึงทอนฟาหรือคะ" โคลมเป็นเด็กที่สงสัยใคร่รู้จนน่ารำคาญมากเลยทีเดียว
"เปล่า...ตัวเธอ" ฮิบาริตอบโดยไม่หันหน้ากลับมา แล้วทำท่าจะเดินจากไป ทว่ากลับถูกมือเล็กรั้งแขนไว้
"เอ่อ...ฉันขอโทษ ฉันคิดว่าเราไม่ควรเป็นแบบนี้"
"ฉันยอมคาราคาซังแบบนี้ดีกว่าญาติดีกับพวกสัตว์กินพืช โดยเฉพาะเด็กอย่างเธอฉันไม่อยากยุ่งด้วยเป็นพิเศษ" คำพูดนั้นสามารถกรีดแทง ดวงใจของโคลมได้ทีละนิดๆ แต่มันกลับเจ็บปวดรวดร้าวจนรู้สึกว่าใกล้จะแตกเป็นเสี่ยงๆ
เขารังเกียจฉันจริงๆ...
"คุณหันหน้ามาสิ ทำไมไม่สบตากับฉันล่ะ" โคลมจับแขนเสื้อของร่างสูงไว้แน่น กลัวเหลือเกินว่าจะหลุดมือ ความรู้สึกแบบนี้มันอะไรกันนะ...
"เพราะฉันรู้แล้ว...วันฉัน...เธอ" เพราะมัวแต่คิดนู่นนี่ในหัว ทำให้โคลมพลาดที่จะฟังประโยคสำคัญที่เขากล่าวออกมา "เพราะงั้นฉันจึงไม่อยากเข้าใกล้เธอ เพราะเธอกำลังจะทำให้ฉันอ่อนแอ รู้ไว้ซะยัยเด็กโง่"
เพียะ!
ฮิบาริหันมาดีดหน้าผากของโคลมจนเธอต้องเซถอยหลัง จับหน้าผ้าไว้แน่น ทั้งที่เจ็บแต่มันกลับแฝงความอบอุ่นในตัวของคนดีด ความอบอุ่นที่แผ่ออกมาให้
"ฉันไม่ชอบพูดอะไรตรงๆ"
"คะ...คะ O_O"
"ฉันไม่ได้เกลียดเธอ เพียงแต่ว่าพวกเราไม่ควรจะมาทำกริยาท่าทางแบบนี้ตั้งแต่แรก เธอชอบมุคุโร่ ไม่ใช่เหรอ" เสียงของฮิบาริเริ่มเบาโหวงจนคนฟังจับความรู้สึกอ่อนแอได้
"-/ / / /- ค่ะ...แต่ว่า"
"งั้นก็ดีแล้ว..." ยังไม่ทันที่โคลมจะพูดอะไรต่อ เสียงของเขาก็สั่นเครือจนคล้ายๆคนที่กำลังจะร้องไห้ แต่ว่านะ...ไม่มีทางที่ฮิบาริจะร้องไห้
ทางด้านโคลมเองก็จะไม่มีวันให้เขาคนนี้เข้าใจผิด จริงๆเธอหวั่นไหว แม้ว่าจะไม่มั่นใจว่ารู้สึกอย่างนั้นกับคนตรงหน้า แต่ในใจของเธอคิดว่าจะปล่อยฮิบาริเข้าใจแบบนี้ไม่ได้
"แต่คุณฮิบาริ จริงๆแล้วฉันคิดกับคุณมุคุโร่แบบ..."
"ให้ฉันเข้าใจอย่างนี้ก็ดีแล้ว เธอไม่ต้องมายุ่ง ไม่ต้องมาให้ความหวังอะไรบ้าๆที่จะทำให้ฉันคนนี้อ่อนแอ!" คราวนี้ฮิบาริหงุด หงิดตัวเองถึงขั้นผลักโคลมจนเซถลาแล้วล้มลงในที่สุด
"คุณฮิบาริ T^T " เธอเริ่มร้องไห้หนักๆออกมา เจ็บปวดกายไม่พอ แต่ที่ใจมันเจ็บมากๆ เจ็บอย่างที่ไม่เคยรูสึก ทั้งที่เธอไม่อยากปล่อยเขาไปอีกแล้วแท้ๆ ทั้งที่จะบอกควาจริงให้ฟังแต่ทำไมเขาต้องปฏิเสธมันด้วย มันไม่ดีตรงไหน
พอได้แล้ว พอกันทีกับคนอย่างนั้น! โคลมคิดแล้วเดินหงุดหงิดออกมาจากบ้านพร้อมกับทอนฟาที่อยู่ในมือ เธอส่งมันให้รีบอร์น โคลมหันไปมองรอบๆแล้วแอบใจแป้วเล็กๆที่ฮิบาริไม่ได้อยู่กับทุกคน
“เอ่อ...คุณฮิบาริล่ะคะ”
“ไอ้หมอนั่นมันไปแล้วยัยบ้า เธอน่ะมันชักช้าซะจริง!” โกคุเทระบ่นออกมา
“โกคุเทระคุงอย่าดุโคลมอย่างนั้นสิ =_=;;” สึนะรู้สึกเห็นใจโคลมเล็กๆ
หลังจากนั้นทุกคนก็เริ่มออกเดินทาง โคลมทราบมาจากรีบอร์นว่าฮิบาริไปรออยู๋ที่สนามบินแล้ว พอไปถึงสนามบินก็พบฮิบาริกับคุซาคาเบะยืนถือกระเป๋าใบบะเอ้งให้เขาอยู่ด้วย
“พวกนั้นมาแล้วครับคุณเคียว ผมขอตัว” คุซาคาเบะโค้งให้ฮิบาริอย่างสุภาพก่อนจะเดินจากไป
ฮิบาริปรายตามองทุกคนอย่างติดจะรำคาญ แต่พอเห็นโคลมที่ยืนถือกระเป๋าใบเล็กเดินก้มหน้าก้มตามาคนสุดท้าย แววตาของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นเย็นชาแทบจะทันที รีบอร์นสังเกตท่าทางและความรู้สึกประหลาดๆของทั้งสองคนได้ แต่เขาก็ยังคงเก็บเงียบไว้
หากฉันไปยุ่งมากๆคงจะเกิดปัญหา...หรือจะบอกให้พวกสึนะช่วยสองคนนั้นให้เข้าใจกันดี
รีบอร์นคิดในใจ
.
.
.
..
.
.
มันจบซะที~ T^T ไอ้ตอนนี้
คือไรเตอร์คนนี้อยากจะขอโทษแรงๆอีกครั้ง แต่ช่วงสอบ ม.4 วุ่นวายมาก จะอัพทีละนิดจะว่าไรไหมนั่น >_<
ความคิดเห็น