ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สุดทราย ปลายฟ้า

    ลำดับตอนที่ #2 : สุดทราย ปลายฟ้า ตอนที่ 1 (ต่อ)

    • อัปเดตล่าสุด 18 มี.ค. 55


     “นายนี่ ทำตัวเหมือนผี บทจะโผล่ก็โผล่มาได้จังหวะเหมือนมีภูตกระซิบ บทที่เขาหากันจนแผ่นดินพลิกก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ราวกับไร้ตัวตน สมฉายาพ่อค้าความตายจริงๆ
              “ข่าวเป็นไงบ้าง พ่อค้าความตายเลิกคิ้วด้วยความสนใจ
              “สั่งประกบแล้ว นี่คือที่ฉันอยากพบนาย และฉันก็ยังต้องการสินค้าล๊อตใหญ่อีกครั้ง 5 เท่าของวันนี้
              “ฮ่า ฮ่า งั้นฉันมาวันนี้ก็สุดจะคุ้ม ดื่มไวน์กันหน่อยไหม ฉลองให้กับความสุขและความสำเร็จของเราสองคน สถานการณ์ตอนนี้ทำให้โอกาสของนายมีมากขึ้นนี่ รัฐบาลเริ่มสั่นคลอนเพราะประชาชนไม่มั่นใจที่รัฐบาลยังแก้ปัญหาการก่อการร้ายและแบ่งแยกดินแดนไม่สำเร็จ เป็นเหมือนกันทั่วโลก ใครๆ ต่างแสวงหาความสงบ ฉันคนหนึ่งละไม่ชอบ
                    ที่ไหนมีการเข่นฆ่าช่วงชิง ที่นั่นคือที่ที่ฉันรัก ฮ่า ฮ่า
              “ทางโน้นสั่งสินค้าเยอะไหม คนร่างท้วมได้โอกาส เพราะรู้ว่าคนตรงหน้าคือแหล่งข้อมูลสำคัญที่มีความถูกต้องแม่นยำ ชนิดหน่วยข่าวกรองของรัฐยังยอมยกให้
                     สินค้าของเดวิดเป็นที่ต้องการของคนที่ไม่สามารถหามันได้ถูกต้องตามกฎหมาย การสั่งสินค้าแต่ละล๊อต แสดงถึงการเคลื่อนไหวที่สำคัญยิ่ง ยิ่งสั่งสินค้ามาก ยิ่งแสดงว่าจะมีการตายมาก
                    พ่อค้าความตาย สมชื่อของนายเดวิดจริงๆ เพราะสินค้าของเขาคือใบเบิกทางสู่ความตายอันบ้าคลั่ง
              “ที่นั่นคือลูกค้าหลักของฉันในตอนนี้ เป็นที่รู้กันว่าที่นั่นคือที่ไหน ท่ามกลางกระแสการแสวงหาสันติภาพ ที่นั่นคือที่ที่แผ่นดินนองไปด้วยเลือดและน้ำตา และเป็นที่ที่ทำให้เดวิดมั่นคงทางการเงินขึ้นมามากในหลายปีให้หลัง
                    แต่ฉันเพิ่งได้เจาะตลาดใหม่ หลังจากตามกันอยู่นาน ถึงจะเป็นตลาดเล็กก็เถอะ เชื่อไหม ว่าลูกค้าใหม่กลุ่มนี้จะอยู่กับฉันยาวทีเดียว ฮ่า ฮ่า เห็นแววตาวพวกนั้นแล้ว พ่อค้าความตายอย่างฉันมองไม่ผิดหรอก โอสงครามและการก่อการร้าย แค่ฟังก็กระชุ่มกระชวยพิลึก
                    คนในชุดฮาวายยังตามไม่ทัน แม้เดวิดไม่อาจอธิบายให้ชัดกว่าเดิม ก็อดไม่ได้ที่จะทิ้งท้ายว่า
                    สถานการณ์ใต้ดินที่นั่นสุกงอมเต็มที รอดูละกัน ไม่เกินเดือนสองเดือนนี้แน่ คนพูดรับแก้วไวน์เย็นเฉียบจากลูกน้องส่งให้ลูกค้าคนสำคัญอย่างเบิกบาน ทั้งยังใจดีแจกจ่ายให้ผู้ติดตามทั้งสองฝ่าย
                    เลยจากเรือสินค้า ณ ผิวน้ำดำสนิท ห่างจากลำเรือไม่ไกล แววตาเคร่งเครียดของหัวหน้าชุดนักล่ากำลังสำรวจความพร้อมเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะพาตัวเคลื่อนตามกระแสคลื่นอย่างเงียบกริบ ไปยังหลังเรือสินค้าอีกด้าน
              เมื่อหัวหน้าฝูงล่าเริ่ม นักล่าที่เหลือก็โฉบตามด้วยแววตาเด็ดเดี่ยวไม่แพ้กัน ไม่นาน ทุกคนก็ประจำตามจุดของตัว
                    คเชนทร์มองเหล่านักล่าฝ่าความมืดด้วยใบหน้าเรียบเฉย ทั้งที่หนักใจอยู่ครามครัน
                    ไม่ใช่ความสามารถของทีมหรอกที่เขาเป็นห่วง นักล่าทุกคนผ่านสมรภูมิแบบกองโจรมานับไม่ถ้วนแต่สิ่งที่เขาหนักใจคือ...ข่าว
                    พวกมันมีคนมากกว่าเขา
                    บ้าจริงที่การข่าวผิดพลาด ดวงตากร้าวตวัดไปที่ต้นเรื่อง  และพบลูกตาที่กรอกรับอย่างรู้ผิด
                    อย่างไรก็ดี จำนวนที่มากกว่าไม่ใช่ปัญหา ถ้ากำจัดเสีย!
              จุดจู่โจมมีสองจุดใหญ่คือบนลำเรือและที่เรือเร็ว ไอ้สองคนที่เรือเร็วนั้น เอาอยู่แน่
                    คเชนทร์ทำสัญญาณสั่งลูกน้องมือฉมังให้เคลื่อนตัวไปอีกด้านของเรือเพื่อไปจัดการคนขับ ส่วนที่เหลือจะต้องปฏิบัติภารกิจวันนี้ให้สำเร็จภายในเวลาที่กำหนดให้ได้
     
                    นักดำน้ำสองคนส่งสัญญาณแล้วพุ่งไปข้างหน้าอย่างคนที่ถูกฝึกมาอย่างดี คนที่เหลืออยู่ในท่าเตรียมพร้อม ทันทีที่ร่างสูงใหญ่ที่สุดยกมือ ทั้งหมดก็ปฏิบัติหน้าที่ตามแผนที่วางไว้
                    คนบนเรือแต่แรกไม่รับรู้การเคลื่อนไหวภายนอก เพราะกำลังลำพองด้วยงานที่ลุล่วง น่าพอใจทั้งสองฝ่าย กว่าจะรู้ถึงหายนะ ชายฉกรรจ์ผู้ติดตาม ก็ร่วงลงกองกับพื้นเรืออย่างเป็นปริศนาถึงสองคน!
               และแล้ว บนเรือก็เกิดความโกลาหลและหวาดวิตก คนติดตามที่เหลือต่างพยายามพานายตัวเองหนีห่างจากร่างชายฉกรรจ์ทั้งสอง เลือดสีแดงสดไหลซึมเป็นวงกว้าง แสงสว่างเพียงน้อยนิดบริเวณจุดเกิดเหตุ ทำให้ยากที่จะบอกตำแหน่งบาดแผล หรือแม้กระทั่งว่า เป็นฝีมือของอะไรที่หยิบยื่นความตายให้
                    คนบนเรือต่างคว้าปืนออกมาอย่างร้อนรน มีเพียงชายฉกรรจ์ผิวขาวจนเด่นโพลนกลางลำเรือที่หมุนตัวโดยรอบเพื่อหาต้นเหตุที่กระทำการอุกอาจ
                    ความสุขุมของเขาท่ามกลางกลิ่นคาวเลือดที่โชยตามกระแสลม เปรียบเสมือน ปลาฉลามขาวที่เคลื่อนใต้ผิวน้ำอย่างมีชีวิตชีวา เพียงได้กลิ่นคาวเลือด
                    เงียบ
              ทุกคนบนเรือต่างพร้อมใจกันปิดปาก แม้แต่เสียงคลื่นที่แตกฟองสูงกว่าลูกอื่น ก็กลายเป็นที่จับตาอย่างระแวง
                    ชายฉกรรจ์ผู้ติดตามต่างกวาดตาทั่วเรือทั้งสามลำด้วยความรู้สึกสับสน เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นที่กรอบหน้า ร่างที่กองจมเลือดถึงสองทำให้ความสับสนหวาดกลัวเกิดขึ้นจนกลายเป็นละล้าละลัง
                    ไม่มีคนแปลกปลอมปรากฏโฉมเลยแม้แต่เงา แล้วไอ้ที่ถูกทำร้ายจนแน่นิ่งนั่นเป็นฝีมือของภูตผีแห่งท้องทะเลหรือไร
                    ทอมมี่ส่งสัญญาณให้คนที่อยู่ใกล้กราบเรือที่สุดไปตรวจดู ส่วนผู้เป็นนายชี้ขึ้นเพดานเรือ แล้วเสียงปืนจากทอมมี่และผู้ติดตามก็ดังขึ้นทันทีเป็นชุด ปัง ปัง ปัง
                    จนควันดินปืนเริ่มจาง แสงจันทร์ส่องผ่านรูกระสุนจากฝ้าเพดานเคบิน กระทบพื้นเรือหลายสิบรู ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆจากภายนอก
              “ผีหรือเปล่าครับนาย หนึ่งในนั้นกล่าวปอดๆ ก่อนที่จะถูกตวาดกลับให้หุบปากอีกคนมองนายอย่างรู้ใจจึงกราดยิงลงน้ำอีกชุดใหญ่ๆ ที่เหลือจึงกรูทำตามกันเพื่อให้แน่ใจว่าหากมีมนุษย์ล่องหนซุ่มอยู่ใต้ผืนน้ำ ก็จะไม่มีวันหลุดรอดจากกระสุนห่าใหญ่ชุดนี้แน่
              ผ่านไปหลายนาที ทอมมี่โบกมือให้ลูกน้องหยุด เมื่อสิ้นเสียงปืน ทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครา คราวนี้ นอกจากนายทั้งสอง ผู้คุ้มกันและผู้ช่วยต่างตรงไปยังกราบเรือเพื่อค้นหาผู้บุกรุกอย่างย่ามใจ
                    ไม่เหลือแล้วมั๊งนาย ป่านนี้คงตายห่าจมน้ำไปหมดแล้วว่าไง ทางโน้นมีไหม
                    ไม่มีอะไรครับลูกพี่ เจอเข้าไปชุดใหญ่อย่างเมื่อกี้ จะรอดได้ก็ต้องเป็นปลากระตักว่ายน้ำหนีไปนั่นแหละ ถ้าเป็นปลาทูยังต้องลุ้น สิ้นเสียง ชายฉกรรจ์ที่ยืนอยู่กราบเรือทั้งสี่ก็หันมามองหน้ากัน หัวเราะลั่น
                    ยังไม่สิ้นเสียงหัวเราะ กลุ่มปลากระตักที่ว่าก็กระโจนขึ้นจากใต้กราบเรือโดยพร้อมเพรียง เผยให้เห็นร่างล่ำสั่นแข็งแรงและแววตาพิฆาตของนักล่า
                    ทั้งสี่ที่อยู่บนกราบเรือหัวเราะค้างเมื่อสบแววตาแข็งกร้าวบนใบหน้าดำเมื่อมราวกับผีดิบ ยังไม่ทันจะได้หันกระบอกปืนสู้ ทั้งหมดก็ต้องพบจุดจบอย่างรวดเร็วพร้อมๆ กับเสียงปืนจากเหล่าผีดิบที่พุ่งตรงไปยังกลางเรือ
              “นาย! ระวัง ทอมมี่กระโจนหาผู้เป็นนายแล้วผลักให้เข้าสู่ที่กำบังพร้อมกับคนที่เหลือ เขากวาดตามองผู้บุกรุกที่ปราดเข้าประชิดตัวด้วยความโกรธระคนอิ่มใจ
                    ไอ้ผีดิบพวกนี้ มันไม่ธรรมดา
                    พลั๊ก! เท้าทรงพลังยกเตะคนจู่โจมด้วยน้ำหนักที่ทำให้ฝ่ายนั้นถึงกับทรุด จะตามไปซ้ำ แต่คนร่างสูงสุดในบรรดาพวกมันก็ปราดเข้ามาเสียก่อน ใบหน้าของมันถูกพรางไว้เหลือเพียงลูกกะตาที่ประกาศว่า เอาจริงแน่ ถ้าเขาเข้าไปใกล้
              “พวกแกเป็นใคร ในมือลูกค้าของเขามีปืนพกพร้อมใช้งานกราดส่องปราม ทำให้การจู่โจมของผู้บุกรุกชะงัก ปืนในมือพวกมันพุ่งมาที่พวกเขาแทบทุกทิศทาง
                    มอบตัวซะ ไอ้คนตัวใหญ่สุดบอกเสียงเรียบแต่กังวาน จนคนฟังมีท่าทางไปต่างๆ กัน ลูกค้ากิตติมาศักดิ์ถึงกับหน้าถอดสี เอ่ยเสียงสั่นว่า
                    ใครส่งพวกนายมา มาจากหน่วยไหน ไม่รู้หรือว่าฉันเป็นใคร
              “ผมบอกไม่ได้ครับท่าน นี่เป็นภารกิจลับท่านมอบตัวเถอะครับ พวกผมทำตามหน้าที่จริงๆ ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องการความรุนแรง
                    มันเป็นใคร เดวิดกระชากเสียง เขามองไปที่ลูกน้องคู่ใจ งานนี้โดนลูบคมเข้าเต็มๆ ยังไงก็ต้องหนีออกไปให้ได้ ไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะวินาศหมดแต่จะฝ่าดงผีดิบนี้ไปได้อย่างไรขึ้นอยู่กับคนคนเดียว...ทอมมี่
                    หน่วยปฏิบัติการพิเศษหน่วยใดหน่วยหนึ่ง ลูกค้ากิตติมาศักดิ์ตอบเสียงพร่า
                    แปลว่าพวกเขารู้จริงข่าวที่นายเพิ่งบอกฉัน
                    ใช่ พวกเขารู้แต่ไม่มีหลักฐานมัดตัวจึงต้องใช้วิธีนี้เพื่อสกัดการทำงานของพวกเรา คนพวกนี้ถูกฝึกให้ปฏิบัติภารกิจที่รับมอบหมายให้สำเร็จ พวกเขาถือภารกิจสำคัญยิ่งกว่าชีวิตตนเอง
                    มิน่า เราจึงสู้พวกเขาไม่ได้ เดวิดกล่าวอย่างท้อแท้ ก่อนสั่งให้ลูกน้องลดปืนลงเพราะไม่มีประโยชน์ หน่วยปฏิบัติการลับล้อมเขาด้วยอาวุธทรงอานุภาพ แปลงกายเป็นมดเร้นหนียังไม่รู้จะพ้นหรือไม่
                    เกมจบแล้ว ทอมมี่ เดวิดเตือนสติเมื่อเห็นลูกน้องยังไม่ยอมลดระดับปืน สีหน้าถือดีฮึดฮัด ทอมมี่เป็นนักต่อสู้ตัวฉกาจ รบได้หลายรูปแบบ เมื่อเจอคู่ต่อสู้ที่เท่าเทียม ความอยากลองดีก็พุ่งขึ้นจนเขาต้องปรามให้รู้ตัว
                    ตุ๊บ! ปืนในมือลูกค้ากิตติมาศักดิ์ถูกโยนลงพื้น เจ้าตัวค่อยๆ ก้าวออกมาจากที่กำบังโดยมือทั้งสองข้างยกขึ้นให้เห็นว่าไม่มีอาวุธใดอีก เมื่อเห็นผู้มีอำนาจยังยอมแพ้ ที่เหลือจึงทำตามด้วยความจำใจก่อนก้าวตามไปบ้าง ทิ้งให้เคบินในเรือว่างเปล่า
                    หัวหน้าชุดส่งสัญญาณให้ลูกน้องสองคนเข้าไปตรวจดูเคบิน
                    พบแล้วครับหัวหน้าหนึ่งในนั้นชะโงกกลับมา ของดีๆ ทั้งนั้น
                    หน่วยผีดิบที่เหลือสนใจทันที ลูกนัยน์ตาสีขาววับวาวอยู่ในความมืดเพราะไม่นึกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์เพียงนี้ พลุสัญญาณถูกจุดขึ้น ส่งให้บริเวณนั้นเป็นสีแดงวาบชั่วขณะ
                    สินค้าภายในเคบินเรือถูกเหล่าผีดิบนำออกมาเรียงท่ามกลางสายตาเสียดายของผู้ถูกควบคุมตัวกลายๆ เนื่องจากเป็นการยอมจำนนแต่โดยดี หน่วยปฏิบัติการลับจึงไม่ทำอะไรที่รุนแรงอีก
                    หัวหน้าครับ มีกล่องอะไรไม่รู้ น้ำเสียงร้อนรนทำให้หัวหน้าชุดรีบสั่งให้ลูกน้องหยุดมือเพื่อจะไปตรวจเองให้เห็นกับตา ในวินาทีนั้นเอง ควันสีขาวก็พุ่งขึ้นไปทั่วเรือ ปกคลุมและบดบังจนเหล่าผีดิบมองอะไรไม่เห็น
                    ระเบิดควันนั่นเอง
                    ฉิบหายแล้ว ระวังคนร้าย
                    สิ้นเสียงเตือน วัตถุลับบางอย่างก็จู่โจมพวกเขาเฉียบพลัน คนที่หมอบลงกับพื้นราบรอด แต่เสียงโอดโอยของพวกเดียวกันทำให้หลายคนใจเสียเพราะสถานการณ์พลิกผัน
                    เสียงเรือเร็วกระชากตัวออกทำให้หัวหน้าชุดสบถลั่น คืบคลานไปทางเสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์อย่างรวดเร็ว หมอกควันเริ่มจางหายพร้อมกับตัวการใหญ่ที่เหล่าผีดิบหมายมาด ทิ้งพรายน้ำเป็นเส้นยาวสีขาวโพลนให้ดูต่างหน้า
                    ปัง! ปัง! ปัง! ลูกน้องที่เหลือรัวปืนใส่เรือเร็วเป็นชุด แต่คนขับหนีลดเลี้ยวหันเหเรืออย่างมีทักษะดีเยี่ยมทำให้การเล็งเป้าทำได้ยากขึ้น
                    หัวหน้าครับ ทางนี้ ลูกน้องที่ยืนอยู่หน้ากล่องใหญ่ร้อง เมื่อหัวหน้าไปถึงก็สบถอีกครั้งดังลั่น
                    หนีเร็ว ระเบิด!”
                    เหล่าผีดิบที่ยังไม่บาดเจ็บปราดคว้าร่างเพื่อนที่ร้องโอดโอยกระโจนลงสู่ผิวน้ำ อีกครู่เดียว เสียงระเบิดก็ดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×