คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่1การเจอกันครั้งแรก
บทที่1 การเจอกันครั้งแรก
“แก้วผกา! ตอบโจทย์ข้อนี้ทีสิ” เสียงของคุณครูดังขึ้น พลางชี้มือไปที่กระดานดำซึ่งเต็มไปด้วย ตัวเลข และภาษาอียีปต์ ซึ่งที่จริงมันก็คือภาษาไทยเรานี้ล่ะ เพียงแต่คุณครูเขียนไม่สวย
“1>4<55=80-8+0.9>90 บลาๆๆ” ฉันลุกขึ้นและตอบโจทย์อย่างรวดเร็ว
“เก่งมาก! คนต่อไป นพพัต” คุณครูเอ่ยชมฉันและเรียกนักเรียนคนต่อไปให้ตอยคำถาม
ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนแล้วพักกินข้าวของฉัน ฉันรีบวิ่งลงบันไดลงมาด้วยความรีบร้อนเพื่อมาหาอะไรอร่อยๆกิน
หลังจากที่ฉันซื้อขนมปังกับนมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันก็เดินไปที่ห้องศิลปะซึ่งไม่ไกลจากโรงอาหารเท่าไหร่ แต่ก็ต้องเดินผ่านห้องของพวกคุณหนูคุณนายทั้งหลายที่เตรียมตัวจะแกล้งฉัน ซึ่งพวกนั้นเป็นศัตรูกับฉันทั้งหมด แต่ฉันจะเอาอะไรไปสู้พวกนั่นได้ล่ะ พวกนั้นดีทั้งน่าตา ฐานะ และระดับ แต่ฉันสามารถสู้กับพวกนั้นได้อย่างหนึ่งก็คือ ผลการเรียน ซึ่งพวกนั่นอ่อนกว่าฉันหลายเท่า
“อุ๊ย! ยัยลาวจะเดินไปที่ห้องศิลปะตามเคยอีกแล้วหรอ” ยังอธิบายไม่ทันขาดคำเลย เสียงของคุณหนูผมดำดัดลอน ผิวขาวก็ดังขึ้น
“เออดิ ฉันจะไปยุ่งไรด้วย” ฉันพูดและรีบเดินต่อไป โดยไม่สนใจพวกนั่น
ซึ่งการที่ฉันพูดแบบนั้นออกไป มันทำให้ยัยคุณหนูคุณนายพวกนั่นฉุนขึ้นมา และเตรียมที่จะตบกับฉัน แต่ฉันไม่สนหรอก เพราะฉันตบใครไม่เป็น เพราะส่วนมากฉันจะต่อย!
“นี้! ยัยลาวกลับมานี่เดี๋ยวนี้เลยนะ กลับมาสิ!” ยัยคุณหนูที่ชื่อว่าเบล ตะโกนออกมา แต่ฉันไม่หันหลังไปมองพวกนั่นหรอก เดินต่อไปเรื่อยๆ
เพี้ยะ!!
ฝ่ามือขาวๆกระทบกับแก้มใสๆของฉันจนเป็นรอยแดง ซึ่งฝ่ามือนั้นเป็นของคุณหนูเบล
“หึๆ เป็นไงล่ะ เจ็บใช้มั้ยยัยลาว!” ยัยเบลตะคอกขึ้น
“ฮ่าๆ ใครว่าฉันจะเจ็บเพราะโดนปลวกตบหน้ากันล่ะ” ฉันหัวเราะอย่างสะใจ ทั้งที่เจ็บมากกับการT^Tโดนตบเทื่อกี้ แต่ต้องอดทนไว้!
“นี่แกว่าใครปลวกกันยะ! ยัยลาว” ยัยเบลตะโกนดังลั่น ทำให้พวกลูกน้องของมันเดินเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังฉัน
“แล้วเธอคิดว่าใครล่ะ ฉันไม่ได้ด่าเธอ แต่ฉันด่าปลวกแถวนี้ล่ะ!” ฉันประชดยัยเบล ซึ่งทำให้ยัยเบลยืนงงเป็นนาที ยัยสมองมีแต่ผู้ชายเอ๊ย!
“ฉันไปก่อนนะ ถ้ารู้คำตอบแล้วช่วยส่งจดหมายมาหาฉันที” ฉันหัวเราะอย่างสะใจ แล้วเดินฝ่าฝูงคุณหนูคุณนายไป โดยไม่เจ็บตัวสักนิด เพราะพวกสมองช้ามันมัวช่วยกับคิดอยู่ว่าฉันด่าใคร
ในที่สุดฉันก็เดินไปถึงห้องศิลปะจนได้ ไปอย่างปลอดภัยมีเพียงแค่รอยตบบนแก้มแค่นั้น
ทันที่ที่ฉันเดินเข้าห้องไป ฉันก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งวาดรูปอย่างสบายใจในห้องนั้น โดยที่ไม่รู้ว่าฉันเข้าห้องมา
ผู้ชายอายุราวๆ15-16ปี ผมสีดำปนน้ำตาลซอยปาบ่า ใบหน้ารูปไข่ ผิวขาว ร่างสูงและผอม ดวงตาสีดำสวยสง่า ซึ่งชายคนนี้ฉันไม่คุ้นหน้าเลย และคงไม่เคยเห็นมาก่อนเพราะเขาอาจจะเป็นนักเรียนใหม่
“หือ?” ผู้ชายคนนั้นหันมามองฉันด้วยท่าทางแปลกๆ แต่พอดูหน้าเขาตรงๆแล้วรู้สึกว่า...หล่อลากตับเลย!
“เปล่าๆ คือ...ฉันจะมานอนเล่นที่ห้องนี่น่ะ ไม่ได้ตั้งใจมาดูนายวาดจริงๆนะ ฉันแค่..เอ่อ...หลงเข้ามาแล้วมาเจอนาย และก็จะมาเอาของที่ห้องนี้ด้วย” ฉันรีบพูดแก้ตัวไป
“เธอนี่แปลกจังนะ...ฉันยังไม่ได้ว่าหรือถามอะไรสักคำ เธอก็พูดออกมาซะหมด” ชายคนนั่นพูดขึ้นพลางยิ้มให้ฉัน หล่อแท้หน๊อ!
“แฮะๆ ไม่มีไรหรอก ฉันแค่เดินมาเฉยๆแค่อยากรู้จักนายน่ะ”
“ห๊า! ว่าไงนะ?” ชายคนนั้นหันหน้ามามองฉันอีกครั้ง หลังจากที่หันกลับไปวาดรูปได้แป๊บเดียว
“เปล้าเปล่า ไม่มีไรๆ ฉันแค่จะมานอนเฉยๆ” เราพูดอะไรออกไปฟะเนี้ย!
“แล้วจะหน้าแดงทำไม?” ชายคนนั้นมองหน้าฉัน โดนตบมานะจะให้มันสีทองรึไง
“เปล่าแดง แค่สะดุดล้มหน้าฟาดพื้นแค่นนั้น” ฉันแกตัวพลางนั่งลงกับพื้นกลางห้อง และกินขนมปังกับนมอย่างอร่อย
“ฮ่าๆ ตลกจัง เธอนี่แปลกดีนะ! ชื่อว่าอะไรหรอ เรียนชั้นไหน” เขาหัวเราะพลางถาม
“ฉันน่ะหรอ...ชื่อว่าสายฝน เรียกว่าฝนเฉยๆก็ได้ อายุ15เรียนอยู่ห้องA นายล่ะ?” ฉันตอบเขาไป ดูเหมือนว่าฉันกับเขาจะสนิทกันเร็วไปนะ
“ฉันชื่อว่าสายฟ้า เรียกว่าฟ้าก็ได้ อายุ15เรียนอยู่ห้องB ยินดีที่ได้รู้จักนะ สายฝน” เขาตอบมาอย่างอ่อนโยน ยิ้มราวกับเทพบุตร แต่ชื่อท่านเหมือนผู้หญิงไปหรือเปล่า
“ยินดีด้วยนะ” ฉันพูดพลางกินขนมปังต่อจนหมด
“นี่ฝน...” ฟ้าเรียกฉัน แหมคนกำลังจะล้มตัวนอนเชียวนะ
“อะไร?”
“ทางไปห้องน้ำอยู่ไหนอ่า?” ฟ้าถามท่าทางไร้เดียนสา แกเป็นเด็กใหม่สินะ
“เดินตรงไป3เก้า และก็เลี้ยวซ้าย เดินต่อไปอีก20เก้าจะเจอ ต้นไม้ใหญ่และก็เลี้ยวขวาอีก เดินตรงไปข้างหน้า และก็จะเจอห้อง108/8 และนายก็เลี้ยวขวา เสร็จแล้วก็จะเจอ” ฉันบอกทางให้กับฟ้าไป และล้มตัวลงนอนอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่า ฟ้าจะงงๆอึ้งๆอยู่กับคำพูดของฉัน
“พาฉันไปหน่อยได้มั้ยล่ะ เดี๋ยวถ้าหลงขึ้นมางานชิ้นนี้ไม่เสร็จแน่ๆ” ฟ้าพูดพลางชี้ไปที่ผลงานการวาดภาพสีน้ำของเขา ซึ่งคือภาพลูกโลกทั้ง2ที่อยู่ข้างๆกัน แต่ตรงกลางภาพมีหัวใจกลั้นไว้ แถมเขาวาดได้สวยมากทีเดียว
“...ได้สิ ไปกันเถอะ” ฉันพูดพลางลุกขึ้น มส่รองเท้าและเดินนำหน้าฟ้าไป
ในระหว่างทางทั้งฟ้า และฉันดูเงียบทั้งคู่ เราทำท่าทางเหมือนกับไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และระหว่างทางก็มีพวกสาวๆกริ๊ดกันเต็มไปหมด นายนี่เป็นดาราหรือยังไงฟะ
“ขอบใจที่มาส่งจนถึงที่” เขายิ้มอย่างอ่อนโยนให้ฉัน ก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไป และสักพักเขาก็เดินออกมา ด้วยท่าทางหมองๆ เป็นไรไปนะ?
“ฟ้าไม่สบายหรือเปล่า หน้าดูแปลกกๆนะ?” ฉันถามอย่างสงสัย แต่ฟ้าก็ส่ายหัวกลับมา
ฉันและฟ้าเดินกับมาที่ห้องศิลปะอีกครั้ง ระหว่างทางกลับเขาก็ยังคงทำทีท่าเหมือนไม่รู้จักฉันเหมือนเดิม
“ฝน เธออย่าคุยกับฉันนะ เฉพาะเวลาที่มีคนอื่นอยู่ด้วย นอกจากฉันกับเธอ” ฟ้าเอ่ยทันทีที่นั่งลงบนโต๊ะ
“ทำไมหรอ?” ฉันเริ่มใจไม่ดี
“ก็ฉันกลัวว่าเธอจะโดนลูกหลงนะสิ” ฟ้าตอบพลางวาดรูปอย่างตั้งใจต่อไป
“อธิบายมาเถอะ ฉันงง”
“ฉันพึ่งย้ายมาเรียนที่โรงเรียนนี่เมื่อ2สัปดาห์ก่อน และฉันก็กลายเป็นหนุ่มสุดฮอตของโรงเรียนนี่ไปภายในเวลา1วัน ซึ่งสาวๆทั้งหลายไม่ว่ารุ่นน้องหรือรุ่นพี่ ก็ต่างจะจ้องจับฉันเป็นแฟนกันให้ได้ แล้วถ้าพวกเขาเห็นเธอกับฉันสนิทกันมากๆ พวกเขาอาจจะทำร้ายเธอก็เป็นไปได้ เพราะช่วงนี้เกิดเหตุนักเรียนหญิงตบตีกันบ่อยเหลือเกิน” เขาอธิบายกลับมา ไม่น่าล่ะตอนที่ฉันกับฟ้าเดินไปห้องน้ำ เขาถึงไม่คุยกับฉัน
“อื้อ ฉันไม่คุยหรอกน่า และอีกอย่างฉันคิดว่าฉันจะโสดด้วย ไม่ต้องห่วง” ฉันพูดอย่างดีใจกับฟ้า
ทั้งที่เจอกันไม่ถึง1วันเต็ม แต่ฉันกับสายฟ้าก็สนิทกันเหมือนกับคบกันมา1ปีเต็ม! พึ่งเคยรู้สึกอย่างนี้เป็นครั้งแรกเลยล่ะ และก็ดีใจมากๆด้วย ที่มีเพื่อนใหม่ เพื่อนที่พร้อมจะช่วยเหลือและห่วงใยกันอย่างสายฟ้านี่ละ...
ติ้ง ติ่ง ติ๋ง ติ่ง
เสียงออดดังขึ้นเพื่อเตือนเวลากับเด็กทุกคนว่า ได้เวลาเรียนแล้ว ซึ่งเด็กในโรงเรียนส่วนใหญ่ไมชอบมัน แต่ฉันกลับชอบมันจังนะ ได้สนุกไปกับการเรียน ดีกว่ามานั่งๆนอนๆอย่างนี่เสียอีก
“ฝน ฉันต้องไปแล้วนะ วันนี้มีวิชาพละ คุณครูก็โหดมาก ไปนะบาย!” ฟ้าพูดบอกลา และรีบวิ่งหน้าตั้งออกไปจากห้องศิลปะโดยเร็ว คุณครูคงโหดมากสินะถึงได้บิน เอ้ย!วิ่งเร็วขนาดนั้น
“ทีนี่ถึงเวลาที่ฉันต้องไปมั่งละ” ฉันพึมพำเบาๆ และก็รีบวิ่งไปที่ชั้นเรียนของตัวเอง
ฉันวิ่งๆเดินๆ เพราะวันนี่คุณครูชั่วโมงภาษาไทยไม่อยู่ จึงไม่ต้องรีบมาก
“นี่! จะไปไหนยะหล่อน!” เสียงของคุณหนูคุณนายเบลดังขึ้น ทีนี้จะอะไรอีกล่ะ
“อะไรอีก คุณหนูเบล” ฉันถาม
“บอกรหัสไปรษณีย์ให้ฉันทีสิ ฉันจะส่งคำตอบไปให้เธอ” ยัยเบลนี้ซื่อจริงๆ นึกว่าจะไม่มีคำถามแบบนี้ในสมองซะอีก
“1xxxx” ฉันรีบบอกแล้วรีบวิ่งออกไปจากยัยเบล ให้เร็วที่สุด
ในอีกไม่นานฉันก็ถึงห้องเรียน แต่ดูเหมือนฉันจะมาช้าไปนะ เพราะประตูห้องที่ทำมาจากกระจกใสปิดลงแล้ว ฉันจึงค่อยๆเปิดประตูเข้าไป...แต่บรรยากาศภายในห้องดูจะไม่เป็นใจให้ฉันเท่า ไหร่เลย เพราะพวกผู้หญิงแต่ล่ะคนทำสีหน้าอาฆาตแค้นฉันเหลือเกิน ส่วนพวกผู้ชายก็นั่งกลัวพวกผู้หญิงอยู่ในห้อง
“ยัยลาว! แกมีอะไรกับท่านคิซของเรา!” คิซคือใคร ฉันยังไม่รู้เลย!
“คิซ?” ฉันพูดพลางเดินเข้าห้อง ด้วยความกล้า(กลัว)
“ใช่แล้ว ก็คิซคนที่เดินไปทางห้องน้ำกับแกเมื่อตอนกลางวันไงเล่า ยัยโง่!” ยัยแบม(ขี้ข้าของยัยเบล)พูดขึ้นเสียงดัง และจับแขนข้างขวาฉันเอาไว้
“ปล่อยนะยัยแบม!” ฉันตะโกนใส่หน้ายัยแบม ทำให้ยัยแบมปล่อย “นี่มันเรื่องอะไรกัน” ฉันถาม
“ไม่ต้องแกล้งโง่เลยนะยัยลาว! ฉันรู้ว่าแกแอบคบกันกับคิซ!” ยัยแบมตะคอกกลับ
“แล้วคิซเนี้ยใคร! ไปเรียกมันมาคุยให้รู้เรื่องไปสิ ไปลากหัวมันมา!” ฉันเริ่มหมดความอดทนกับเรื่องทั้งหมดแล้ว ยัยพวกนี้ตั้งแต่เรียนมาด้วยกันฉันยังไม่เคยโกรธพวกมันสักอย่าง! จะมามีเรื่องกันก็เพราะเรื่องผู้ชายนี่ล่ะ เรื่องพวกนี่ฉันไม่ขอยุ่งเกี่ยวไม่ขอคบแฟนกับผู้ชาย เพราะฉันไม่ชอบ!
“อุ๊ย! หยาบคายจริงๆเลยนะ ยัยลาว!” ยัยแบมพูดพลางทำท่าเหมือนจะตบฉัน แต่ก็ไม่กล้าตบเพราะใบหน้าของฉันตอนนี้ มันพร้อมที่จะฆ่าพวกผู้หญิงที่มายุ่งยากกับฉัน!
“ทำไมไม่ตบฉันล่ะ...” ฉันเอ่ยถามเสียงเย็น ทำให้พวกผู้หญิงอึ้งๆ คงไม่รู้สินะว่าฉันก็มีมุมแบบนี้อยู่ในตัว สะใจจริงๆ
“ชิ! ฉันไม่อยากทำร้ายคนน่าตาไม่ดีหรอกยะ!” ยัยแบมพูดและก็เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะกลางห้อง
ฉันเองก็กลับไปนั่งที่ของตัวเองเช่นกัน ที่ประจำของฉันคือหลังห้องข้างๆหน้าต่าง ไม่ใช่เพราะว่าฉันเรียนไม่เก่งหรอกนะจึงต้องมานั่งหลังห้องแบบนี้ แต่เป็นเพราะฉันตัวสูงและมีเพื่อนที่ตัวเตี้ยกว่าฉันหลายคน ถ้าฉันไปนั่งข้างหน้าพวกเขาก็จะมองไม่เห็นแถมพวกนั้นก็ไม่ได้บ้าผู้ชายชวน กับตบเหมือนพวกยัยแบมด้วย ฉันจึงขอเปลี่ยนมานั่งข้างหลังแทน และอีกอย่างฉันก็ชอบนั่งริมหน้าต่างนี่ด้วย
“1! 2! 1! 2! 1! 2!”
ฉันหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง เพราะอย่างรู้ว่าเสียงนั้นคือเสียงอะไร
และที่สำคัญก็คือ ฉันเห็นฟ้าวิ่งเหยาะๆพร้อมกับออกเสียงนับ1-2 ส่วนข้างสนามก็เต็มไปด้วย สาวๆห้องBที่มานั่งกริ๊ดยืนกริ๊ดอยู่ริมสนาม นายสายฟ้านี่เสน่ห์แรงจริงๆ
“หน๊อย! ยัยขี้เล่ห์ห้องBบังอาจมากจริงๆ! หน้าตาไม่ดีแล้วยังจะมาเชียร์คิซของเราอีก!” ยัยแบมลุกขึ้นจากโต๊ะของตัวเองและมาเกาะอยู่ขอบหน้าต่าง ท่าทางเหมือนตุ๊กแกมากๆ
แต่ฉันคิดว่า สาวๆห้องBสวย และเก่งกว่ายัยแบมหลายเท่าเลยล่ะ แต่ที่ยัยแบมมาเรียนที่ห้องนี่ได้ก็เพราะ ยัดเงินเข้าสมองคุณครูน่ะสิ ถ้าไม่มีเงินนะคงได้อยู่ห้องFแล้วล่ะ งานเอาแต่ลอกคนอื่น
“นี้ยัยลาว! แกจะมองคิซทำไมกันยะ ไหนแกบอกว่าไม่ได้มีอะไรกับคิซไง!” ยัยแบมมองหน้าฉันอย่างหาเรื่อง
“คิซมันคือใครฉันยังไม่รู้เลย! อย่ามากล่าวหากันสิ!” ฉันพูดกลับและละสายตาจากยัยแบมมามองหนังสือเรียนแทน เมื่อไหร่คุณครูจะมาเนี้ย! เริ่มลำคาญแล้ว
ตุบบบ!
“ก็คิซคนที่วิ่งอยู่กลางสนามไงยะ ยัยโง่!” ยัยแบมเดินมาที่โต๊ะฉัน และวางมือลงบนโต๊ะแรงๆ ทำให้เพื่อนทั้งห้องหันมามองฉันกลับยัยแบม
“เอามือออกไปจากโต๊ะฉันซะ!” ฉันมองหน้ายัยแบมอย่างอาฆาต
“ฮ่าๆ คิดหรือไงว่าฉันจะกลัว” ยัยแบมพูดเยาะเย้ย ฉัน ถ้าฉันทำไม่ไหวเมื่อไหร่เมื่อนั้นล่ะ เธอตาย!
“ก็ไม่ได้คิดนี่ สมองเธอท่าทางจะเสื่อมไม่ก็คิดฟุ้งซ่านมากเกินไปนะ ว่างๆไปหาหมอบ้างก็ดีนะ” ฉันพูดประชดกลับยัยแบม ทำเอาหน้าของยัยแบมแดงเหมือนตูดลิงเลย
“หน๊อย! ยัยลาวอย่ามาทำเป็นเก่งนะยะ!”
เพี้ยะ!
ทันใดนั้น ฝ่ามือของยัยแบมก็เข้ามากระทบกับแก้มข้างซ้ายของฉันแรงๆ
“ฮ่าๆ มีแรงแค่นี้เองหรอไง งันฉันขอตบ เอ้ย!ต่อยกลับบ้างนะจ๊ะ!” ฉันพูดเยาะเย้ยยัยแบมทำให้ยัยแบม กำมือแน่น
ปั๊ก!
“โอ๊ยยย! เจ็บจังเลย โอ๊ยๆ” ยัยแบมร้องแทบเป็นแทบตาย ฉันแค่ต่อยหน้าเธอเบาๆเองนะ แค่นี้ก็เจ็บแล้วเหรอ!
“นี้อย่าทะเลาะกับพวกนั้นเลยนะ! พอเถอะฝน” เพื่อนคนหนึ่งในห้องตะโกนขึ้น
เธอเป็นเด็กนักเรียนหญิงผมสั้น ตัวคล้ำๆและก็เตี้ยด้วย ฉันจำเธอได้! เธอชื่ออัญ เธอคือเด็กนักเรียนที่มีผลการเรียนไล่เลี่ยกันกับฉัน(ปกติจะได้ที่1-3พอๆกับฉัน)
ปกติอัญจะเป็นเด็กเงียบๆ ไม่พูดคุยกับใครแถมกลัวพวกของยัยแบมเอามากๆ แต่วันนี้อัญดูแปลกๆ สีหน้าของอัญดูไม่เกรงกลัวสิ่งใดแม้กระทั่งงพวกยัยแบม
“นี่ยัยอัญ! วันนี้แกเป็นอะไรไปยะ ตะโกนอยู่ได้น่าลำคาญ” ยัยแบมเดินตรงไปหาอัญ ที่ยืนอยู่บนเก้าอี้(ยืนเพื่อเสริมความสูง)
“แล้วถ้าอย่างฉันเรียกว่าตะโกน แล้วที่เธอเอ่ยออกมาเมื่อกี้ล่ะ เรียกว่าอะไร?” อัญย้อนถามยัยแบม ทำเอายัยแบมหน้าเหวอ
“...ฮึ!”
“กริ๊ดดดด! คิซมองมาทางนี่ด้วยล่ะแบม!” เพื่อนของยัยแบมร้องออกมา ทำให้ยัยแบมทิ้งอัญไว้และมามองฟ้าแทน ยัยแบมนี่บ้าผู้ชายไปซะแล้ว
เท่าที่ฉันคิดมา ฉันว่าคนที่ชื่อว่าคิซนั้น ต้องเป็นฟ้าแน่ๆ เพราะทุกครั้งที่ฉันทำอะไรให้มันอยู่ใกล้ๆฟ้า ยัยแบมก็จะบอกว่า คิซๆอยู่นั้นล่ะ
“นั่งที่ได้แล้วนักเรียนทุกคน ครูจะเริ่มสอนแล้ว!!” คุณครูเดินเข้าห้องเรียนมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“.....” ไม่มีเสียงใดตอบกลับ มีเพียงพวกเด็กนักเรียนที่ไม่ได้อยู่ที่โต๊ะของตัวเองเดินเข้าที่ด้วยความเงียบสงบ
กาลเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เป็นเวลาปล่อยเด็ก(บ้า)แล้ว ฉันจึงรีบเก็บของใส่กระเป๋าและเดินกลับบ้านไป วันนี้ไม่ใช่เวรทำความสะอาดของฉันและก็ขี้เกียจเข้าห้องศิลปะด้วย ฉันจึงขอกลับเร็วกว่าทุกวันหน่อย
“กลับมาแล้วหรอฝน รีบเข้ามาข้างในบ้านพี่ก่อนสิ!” เสียงของผู้หญิงหน้าตาสวยเรียก
“ค่ะ!” ฉันตอบกลับด้วยท่าทางสุภาพและเดินเข้าไปในบ้านจัดสรร ซึ่งเป็นบ้านของรุ่นพี่ที่เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน
เขาชื่อว่าพี่สายน้ำหรือพี่น้ำ พี่น้ำเป็นสาวสุดฮอตของโรงเรียนเรา ซึ่งหน้าตาก็น่ารักเอามากๆแถมนิสัยดีอีกต่างหาก พี่น้ำเนี่ยเป็นไอดอลของฉันเลยนะ! และที่สำคัญก็คือ...พี่น้ำเป็นลูกพี่ลูกน้องกับฉันด้วยย!
ร่างบางผิวขาวโบ๊ะ! ดวงตากลมโตสีน้ำตาล ผมดัดลอนยาวสวย มองทีไรก็ติดตาทุกที! ซึ่งร่างนั้นเจ้าของก็คือ พี่น้ำ
“วันนี้เลิกเร็วจังนะฝน เป็นอะไรหรือเปล่า” พี่น้ำถามพลางเดินยกแก้วน้ำพร้อมกับน้ำเย็นๆมาให้
“ก็สบายดีค่ะ แค่วันนี้หนูเดินเร็วกว่าเดิม” ฉันตอบพลางหยิบแก้วน้ำมาดื่ม
“ได้บอกครูให้พี่หรือเปล่าว่าพี่ไปเรียนไม่ได้” พี่น้ำถามพลางนั่งลงข้างๆฉันบนโซฟา
“ค่ะ หนูบอกครูให้แล้ว ครูเขาก็ตอบกลับมาว่าไม่เป็นไร รอให้หายก่อนก็ได้ค่อยไปเรียน” ฉันตอบพี่น้ำ
ที่ พี่น้ำเขาทำผมลอนได้ก็เพราะว่า พี่น้ำเป็นเด็กกิจกรรม ทุกเดือนพี่น้ำจะต้องได้ออกเวที ซึ่งพวกยัยแบมและยัยคุณหนูเบลอิจฉาตาร้อน แต่ตลอดมาฉันไม่เคยเห็นพี่น้ำควงใครเลยสักคน พี่น้ำคงสวยเลือกได้ ฮ่าๆ
“แล้วแม่หนูไปไหนหรอค่ะ?” ฉันเอ่ยถาม
“ไปทำธุระน่ะ เดี๋ยวก็คงมารออยู่ที่นี่กอ่นนะ” พี่น้ำตอบด้วยท่าทางอ่อนโยน
ติ๊ด! ติ้ด! ติ่ด!
เสียงโทรศัพท์ของพี่น้ำดังขึ้น พี่น้ำจึงหยิบมันออกมาดู และทำท่าทางแปลกๆพลางมองมาที่ฉัน
“พี่ขอตัวไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกก่อนนะ พอดีพี่นัดงานกับเพื่อนไว้น่ะ” พี่น้ำเอ่ยเสร็จก็รีบเดินออกไปนอกบ้าน และยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้างๆบ้าน
คุยงานกับเพื่อนไม่เห็นจะต้องอายเลยนี่หน่า อายไปเพื่ออะไรกัน
“มาแล้วจ๊ะ!” พี่น้ำเอ่ยท่าทางมีความสุข
“เป็นอะไรไปเนี้ย ดูมีความสุขจังนะพี่น้ำ” ฉันแซวพี่น้ำเล่น
“เมื่อกี้แม่ของฝนโทร.มาบอกว่าจะมาถึงแล้ว”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับที่อยู่ชั่วคร่าว” ฉันยิ้มให้พี่น้ำ
“ฝนแม่มาแล้ว กลับบ้านได้แล้วนะ” เสียงของคุณแม่เรียกฉันอยู่ข้างนอกบ้านของพี่น้ำ
“บายจ๊ะฝน” พี่น้ำเอ่ยท่าทางอ่อนโยน ฉันจึงโบกมือบ๊ายบายกลับและเดินออกไปหาแม่
“แม่ไปไหนมาหรอ?” ฉันเอ่ยถามเมื่อเดินมาถึงหน้าบ้านของตัวเอง
บ้านของฉันก็เป็นบ้านจัดสรรเหมือนกันกับบ้านของพี่น้ำนั่นล่ะ
“ไปซื้อของมา และก็ไปเยี่ยมเพื่อน” แม่ตอบและเดินนำเข้ามาในบ้าน
บ้านไม่ล็อก! ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกฟะว่าไม่ได้ล็อก ไปรบกวนพี่น้ำตั้งนาน แต่ก็ดีไปอีกแบบล่ะนะ
ฉันจัดการกินข้าวทำงานบ้านให้เสร็จทุกอย่าง และขึ้นไปทำงานการบ้านของตัวเองบ้าง แต่ว่า ฉันไม่ได้เอาสมุดการบ้านมา ทำไงดีTT^TTพรุ่งนี้ต้องลอกเพื่อนจนได้ แต่ถ้าไม่มีใครให้ลอกล่ะ ฮื่อออ! ตายแน่ๆเลย
‘...ใครจะไปรู้ล่ะว่าคนเราที่ยังไม่เคยรู้จัก ไม่เคยคุ้นเคยกันอย่างสายฝนและสายฟ้า
จะมากลายเป็นเพื่อนสนิทกันใดภายในเวลาเพียงเสี้ยววินาที
และเรื่องของพวกเขาทั้ง2จะเริ่มมีวีชิตชีวาไปกว่าเดิม
ความรักและความเจ็บปวด
จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว...’
Duck- Fly
ความคิดเห็น