คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3 Conquer
Chapter 3 Conquer
ความทรงจำของภพทั้งหกที่ผมได้สัมผัส
โลกที่มืดมนและเลวร้ายสุดหยั่งได้
คือพิภพของเหล่ามนุษย์ผู้โสมม
กระนั้นคนบาปหนาผมยังเคยได้สัมผัสแสงสว่างจากโลกใบนี้
ลูกกวาดรูปตะขอสีขาวสลับแดงหลายชิ้นวางไว้ที่ผนัง ต้นสนจำลองขนาดใหญ่ถูกผูกติดด้วยกล่องของขวัญเล็กๆ และดาวสะท้อนแทงระยิบระยับตั้งไว้กลางห้อง ตุ๊กตาเท็ดดี้แบร์ตัวใหญ่เกือบสามเมตรกำลังนั่งทำหน้าแป้นแล้นอยู่ใกล้กับเตียง หน้าต่าง เพดาน ติดริบบิ้นสีแดงสลับเขียวเต็มไปหมด ...เกิดอะไรขึ้นกับห้องนี้เนี่ย?!!!! เมื่อเช้ายังดูเรียบๆ ตื่นขึ้นมากลางดึกก็เป็นอย่างนี้ไปแล้ว... มุคุโร่ประหลาดใจได้เดี๋ยวเดียวก็ล้มตัวลงนอนต่อ คนที่เข้ามาแต่งห้องกว่าจะทำให้แปลกตาไปได้อย่างนี้คงใช้เวลานานมากทีเดียวแต่เขากลับไม่รู้สึกตัว ร่างกายเขาตอนนี้แย่จริงๆ
“เมอรี่คริสตมาสมุคุโร่” เสียงแรกยามตะวันฉายแสง คือเสียงของผู้ที่เคยเป็นดั่งแสงสว่างในหัวใจของเขา
“......” มุคุโร่ไม่ทักกลับ เลิกผ้าห่มให้ปิดส่วนหัวด้วยแล้วทำเป็นไม่สนใจ
“ตื่นสายร่างกายจะไม่แข็งแรงนะ” เขาอยากให้มุคุโร่พักผ่อนมากๆ แต่มากไปก็ไม่ดี เพราะร่างของมุคุโร่หลับอยู่ตลอดเวลาตอนอยู่ที่วินดีเช่ ถ้าปล่อยให้มุคุโร่นอนไม่เป็นเวล่ำเวลาบ่อยๆ จะพาลหลับยาวไปทั้งที่ไม่ได้ถูกพันธนาการนี่สิ
“.........” สับปะรดขี้งอนไม่ยอมโผล่หัวจากผ้าห่ม
สึนะกระชากผ้าห่มออก แล้วดึงแขนมุคุโร่ขึ้นมา “ร่างกายอ่อนแออย่างนี้ไม่มีวันยึดร่างฉันได้หรอกนะ ลุกขึ้นมาทานอาหารซะ แล้วจะได้ทำอย่างอื่นต่อ”
มุคุโร่กล้ำกลืนความคณึงหาตัวตนของนภาในอดีต แล้วทานอาหารที่สึนะเป็นคนป้อนให้จนหมด
หน้าที่เก็บจานชามช้อนส้อมเป็นหน้าที่ของมือขวาอีกเช่นเคย
เรื่องอย่างนี้ให้ลูกน้องปลายแถวทำก็ได้
แต่โกคุเดระอยากใกล้ชิดกับบอสของตนมากๆ จึงอาสารับหน้าที่ซะเกือบทุกอย่าง
ทานเสร็จ คิวต่อไปคืออาบน้ำ ทว่าสายหมอกที่อ่อนเปลี้ยยังต้องให้นภาคอยประคับประคองราวกับลูกน้อยที่เพิ่งหัดตั้งไข่ แม้แต่อาบน้ำก็ยังต้องให้อาบให้... น่าอับอาย... น่าขุ่นเคือง... น่าสมเพช... แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ เพราะถ้าเขาไม่พยายามทำให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วๆ คงได้แต่นอนแซ่ว นั่งแซ่วอยู่แต่บนเตียง …ถัดจากขัดสีฉวีวรรณแล้วเป็นรายการบำบัดร่างกาย
“เก่งมากมุคุโร่” สึนะชมเมื่อมุคุโร่ฝืนเดินตามการนำของเขามาถึงส่วนที่เป็นสถานบำบัดของหน่วยแพทย์ที่เขาสั่งให้จัดเตรียมไว้ได้
“เป็นคำชมที่ไม่น่าดีใจเลยนะครับวองโกเล่ kufufu” เสียงหัวเราะตามแบบฉบับของมุคุโร่ไม่ได้แสดงถึงความพอใจที่ได้รับคำชม แต่เป็นการประชดประชัน
“ดูแลมุคุโร่ให้ดีๆ ล่ะ” สึนะสั่งกับแพทย์มือวางที่เขายกหน้าที่ให้
“ครับ” ผู้ถูกฝากฝังโน้มคำนับบอสของตน
“เจ้าสัตว์กินพืช ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” กี่ปีผู้พิทักษ์เมฆาก็ไม่เคยเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกบอสใหญ่ของวองโกเล่สักที แต่สึนะไม่แคร์กับเรื่องนี้เพราะเข้าใจดีว่าคนอย่างฮิบาริไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใครอยู่แล้ว
ฮิบาริ เคียวยะ ...อยู่ที่นี่ด้วยงั้นรึ?
นัยน์ตาสองสีเผลอไปสบตากับโจทก์เก่า
“เจ้าพืชล้มลุกอยู่ที่นี่ด้วยรึ ปิดบัญชีกันตอนนี้เลยดีมั้ย?” รังสีอำมหิตแผ่มาจากตัวฮิบาริเต็มที่ ทอนฟาคู่ใจก็งัดออกมาแล้ว
“ไม่ดีมั้งครับ ตอนนี้มุคุโร่ยังไม่แข็งแรง ยังไม่พร้อมที่จะสู้น่ะครับ อีกอย่างคุณบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับผมไม่ใช่รึครับ” สึนะไม่ได้ห้ามด้วยคำขอร้อง ที่พูดเป็นเชิงเปรยๆ เพราะรู้ว่าแม้เมฆาของเขาจะเลือดร้อน แต่ก็ไม่มีรสนิยมรังแกคนไม่มีทางสู้
“งั้นเอาไว้ฉันจะขย้ำเจ้าสับปะรดนั่นให้ตายทีหลังก็ได้” ฮิบาริลดทอนฟาลงแล้วเดินนำสึนะไปคุยที่อื่น
สายหมอกเพียงปรายตาตามแผ่นหลังของนภาและเมฆาไป
ไม่ว่าจะเป็นนภาสีอะไร ต่างก็โอบอุ้มอรุณ อสนีบาต พิรุณ วายุ เมฆา เอาไว้
...แต่กับม่านหมอกที่อยู่ได้เพียงผืนดินล่ะ...
“สึนะโยชิครับ... ผมคิดถึงคุณ” มุคุโร่พึมพำ เสียงเบาจนไม่มีผู้ใดได้ยิน
...ผมคิดถึงคุณ... ยามที่ยังไม่เดียงสาและเป็นนภาที่เจิดจรัส...
“พร้อมหรือเปล่าครับ ท่านมุคุโร่” แพทย์ผู้ดูแลถาม แม้จะเป็นผู้พิทักษ์ที่คนในแฟมิลี่หลายคนไม่ยอมรับ แต่มุคุโร่นั้นเป็นผู้พิทักษ์แห่งสายหมอกที่ถูกต้องตามกฎของวองโกเล่ เขาจึงต้องใช้ถ้อยคำที่แสดงถึงความเคารพ
“ต้องทำอะไรบ้างก็บอกมาได้เลยครับ ผมอยากจะพ้นจากสภาพน่าสมเพชนี่เต็มทีแล้ว” มุคุโร่ยอมรับการบำบัดตามคำแนะนำของแพทย์ทุกอย่าง ถ้าเขาทำอะไรด้วยตัวเองย่อมดีกว่าอยู่แล้ว
นภาได้โอบอุ้มสายหมอกอยู่หรือเปล่านะ
หรือเพียงแค่เหยียบสายหมอกเอาไว้ใต้อุ้งเท้าเพื่อให้รู้ถึงความต่ำต้อยของตน
“มุคุโร่เป็นยังไงบ้าง?” สึนะถามคนที่เขามอบหมายงานให้เมื่อกลับมาจากคุยธุระเสร็จแล้ว
“อัตราการฟื้นตัวดีมากเลยครับ คงไม่นานที่จะเดินเหินได้เหมือนปกติ”
“งั้นรึ” สึนะยิ้มออกเมื่อได้ยินข่าวดี
‘งั้นรึ’ อะไรกันล่ะ?!!!! มุคุโร่บึ้งหน้า...
ทั้งที่แววตาของคณมันเต็มไปด้วยหลากความคิดที่วุ่นวายสับสนจนผมเดาใจคุณไม่ออก
...แววตานั่น ไม่เหมือนกับคุณในอดีตแม้แต่น้อย...
แต่ทำไม รอยยิ้มที่อบอุ่นของคุณมันยังถึงได้เหมือนเดิมนะ
“วันนี้พอแล้วนะมุคุโร่ ไปฉลองคริสตมาสกันเถอะ พวกโคลมก็เตรียมของจัดงานปาร์ตี้ต้อนรับนายเสร็จแล้วนะ” สึนะส่งมือให้มุคุโร่จับ
“...ของที่ห้องผม พวกนั้นก็เป็นคนจัดหรือครับ?” มุคุโร่สงสัย
“ถ้าที่ห้องนายล่ะก็... ฉันเอง... ให้โกคุเดระคุงช่วยด้วยน่ะ” เทศกาลสำคัญทั้งที เขาอยากให้มุคุโร่ได้สัมผัสบรรยากาศรื่นเริงของคริสตมาสบ้าง
“ลำบากทำไปเพื่ออะไรครับ ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะที่จะสนใจของพวกนั้น”
“ไม่สนใจจริงๆ น่ะเหรอ คริสตมาสน่ะ?” สึนะถามเสียงเย็น ราวจงใจให้อีกฝ่ายยอมสารภาพว่าใจไม่ได้คิดอย่างปากพูด
“วันประสูติของพระผู้ไถ่อะไรนั่นไม่เห็นน่าสนตรงไหน ...พลีกายเพื่อไถ่บาปมวลมนุษงั้นรึ... พระผู้ไถ่... เรียกซะสวยหรู ก็แค่เครื่องสังเวยแด่กิเลสตัณหาของมนุษย์ไม่ใช่รึไง”
“ไม่สนแต่รู้ดีจังนะมุคุโร่” สึนะหัวเราะขัน
“.........ก็แค่เรื่องที่พวกผู้ใหญ่กรอกหูให้ฟังตอนผมยังเด็กเท่านั้นแหละครับ”
“ขอถามอีกครั้งนะ นายไม่สนใจจริงๆ น่ะเหรอ?” สึนะถามอีกครั้ง คราวนี้มีน้ำเสียงขี้เล่นแฝงด้วย
“............” มุคุโร่เริ่มคิดว่าวองโกเล่รุ่นที่สิบจะจุ้นจ้านกับเขามากไปแล้ว
“ของขวัญวันคริสตมาสนายคงไม่สนด้วยสินะ รู้มาจากโคลมว่านายชอบช็อคโกแล็ต ฉันเลยสั่งช็อคโกแล็ตอย่างดีอิมพอร์ตมาจากออสเตรียให้นายโดยเฉพาะตั้งเยอะซะด้วยสิ เค้กคริสตมาสปีนี้ก็เป็นเค้กช็อคโกแล็ตนะ...ถ้านายไม่อยากฉลองคริสตมาสคงไม่สนของขวัญวันคริสตมาสเหมือนกัน คงต้องทิ้งสินะ เอ ไม่สิ ของแพงๆ อย่างนั้นทิ้งไปเสียดายแย่ เอาไปให้พวกยามาโมโตะดีกว่า”
“คุณแกล้งผมหรือครับ!!” มุคุโร่หน้าง้ำหน้างอ
“อยากให้ฉันเอาไปให้คนอื่นรึเปล่ามุคุโร่” สึนะถามหยอก
“....อึ่ก...” มุคุโร่กลืนน้ำลาย ถามมาได้ว่าอยากมั้ย ...เขาอยากเก็บไว้กินเองแน่ๆ อยู่แล้ว แต่จะให้กลับคำตอนนี้เสียศักดิ์ศรีสับปะรด พืชล้มลุกก็มีหัวใจนะ
เมื่อเห็นมุคุโร่ไม่ยอมตอบแต่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เต็มที่แล้ว สึนะก็ช้อนร่างของมุคุโร่ขึ้นมาด้วยท่าอุ้มเจ้าสาวแล้วตรงดิ่งไปห้องจัดงานเลี้ยง
-tbc-
ความคิดเห็น