คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : chapter 2 In Sky's Heart
Chapter 2 In Sky’s Heart
ท้องฟ้าที่เคยเป็นสีฟ้าคราม... ตอนนี้ยังเป็นสีฟ้าอยู่หรือเปล่า...
“คุณพาผมออกจากวินดีเช่เพื่ออะไร?” มุคุโร่ถามด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน แม้เอ่ยอ้างว่าวินดีเช่ขณะนี้อยู่ใต้ปกครองของวองโกเล่ ทว่าด้วยตำแหน่งของบอสแล้ว การเพิกเฉยต่อกฎนำตัวเขาออกมาดื้อๆ จะทำให้ความน่าเชื่อถือของบอสรุ่นที่สิบแห่งวองโกเล่แฟมิลี่ลดลง
สึนะยังคงจิบชาเอิร์ลเกรย์ที่มือขวานำมาเสิร์ฟให้โดยไม่คิดจะตอบคำถาม
“ไม่มีใครเขาดื่มชาเป็นมื้อเที่ยงกันหรอกนะครับ” ถ้ามีแรง เขาจะไม่ยอมอยู่เฉยๆ บนเตียงแน่ คงได้เปิดศึกกันอีกรอบ แต่คิดแค้นใจยังไงสังขารตอนนี้ก็ไม่ไหว
“ชาร้อนๆ น่ะดีต่อสุขภาพนะมุคุโร่คุง” สึนะยิ้ม
‘มุคุโร่คุง’ ?
เรียกซะเหมือนตัวเองเป็นผู้ใหญ่กว่าเลยนะวองโกเล่!!!!
“โคลม จิคุสะ เคน อยู่ที่นี่ด้วยนะ ถ้านายทำตัวดีๆ ฉันจะให้พบสามคนนั้น” สึนะพูดคนละเรื่องกับที่มุคุโร่ถาม แต่กระตุ้นความสนใจของสายหมอกขึ้นมาได้
“คิดว่าการต่อรองแบบนั้นจะทำให้ผมยอมทำตัวเป็นสัตว์เลี้ยงของคุณหรือครับ”
“แต่นายยิ้มนะ ตอนที่ฉันบอกว่าจะให้พบพวกนั้นน่ะ” สายหมอกถูกนภาต้อนจนมุม นึกว่าเขาจะไม่สังเกตเห็นรอยยิ้มเพียงชั่วพริบตานั่นรึ อ่อนหัดไปนะ
“คุณมัน...”
“ฝากด้วยนะโกคุเดระคุง” สึนะวางถ้วยชาบนถาดที่มือขวาถือรออยู่
โกคุเดระโค้งศีรษะให้นายของตนแล้วเหลือบมองผู้พิทักษ์สายหมอกอย่างไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก ทำไมรุ่นที่สิบต้องคอยพะเน้าพะนอไอ้สับปะรดนี่ด้วยฟะ!!!... แม้จะไม่พอใจเท่าใดก็ต้องเก็บงำความรู้สึกเอาไว้ในฐานะมือขวาที่ดี
เห็นมุคุโร่ทำหน้าหงิกหน้างอแล้วสึนะก็หัวเราะในลำคอ... น่ารัก...
“ฉันจะเล่าเรื่องของฉันที่คิดว่านายยังไม่รู้ให้ฟังนะมุคุโร่... ฉันเพิ่งเรียนจบม.ปลายเมื่อสองเดือนก่อน แล้วหลังจากเรียนจบก็ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งบอสของวองโกเล่ทันที แต่เรื่องนี้คนนอกยังไม่มีคนรู้ เพราะฉันขอให้รุ่นที่เก้าแสดงตนเป็นบอสอย่างเดิมไปก่อน แต่ว่าทุกๆ ปฏิบัติการของสมาชิกวองโกเล่แฟมิลี่มีศูนย์กลางการบัญชาการอยู่ที่ฉัน... และการที่ฉันมาอยู่อิตาลีในตอนนี้มีเพียงเหตุผลเดียว... ขยี้แฟมิลี่ศัตรูทั้งหมดให้ราบ... เพื่อการนั้น... นายต้องช่วยฉัน”
“คุณไม่เหมือนซาวาดะ สึนะโยชิคนที่ผมรู้จักสักนิด ผมควรจะคิดว่าคุณเป็นใครดี?” มุคุโร่ถามสึนะ แล้วก็ถามตัวเองด้วย
“สายหมอกมีตัวตนใต้ท้องนภานะมุคุโร่ ...เชื่อฟังฉัน ทำงานเพื่อฉัน มีชีวิตอยู่เพื่อฉัน” ร่างสูงเอ่ยอย่างมาดมั่น พลางประทับจุมพิตที่ริมฝีปากที่ซีดเซียวเพราะอยู่ใต้น้ำมานานกระนั้นก็ยังคงหอมหวาน
ไม่ใช่จูบครั้งแรกระหว่างพวกเขา... หลากครั้งในความฝัน... ที่มุคุโร่เป็นฝ่ายเริ่ม
คราแรกในความจริง... ยามสายหมอกยังหลับใหล
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาเป็นฝ่ายรุกเร้าและสายหมอกได้รับรู้
“…คุณมันน่ารังเกียจ... โสโครกเหมือนกับมาเฟียคนอื่นนั่นแหละ!!!” มุคุโร่สบถ
ครั้งหนึ่งผมเคยเห็นแสงสว่าง จากโลกที่น่ารังเกียจใบนี้
แต่ยามนี้ผมเห็นเพียงแต่ความมืดมิด...
แสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวของผม... ไม่มีอีกแล้ว
“พักผ่อนให้สบายนะ ถ้าอยากได้อะไรก็สั่นเชือกที่หัวเตียง ฉันสั่งลูกน้องเอาไว้แล้วว่าให้คอยดูแลนายด้วยน่ะ” สึนะยิ้มฝืนๆ แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างสงบ ไม่ต่อล้อต่อเถียงใดๆ ทั้งสิ้น
ท้องฟ้ายังเป็นสีฟ้า...
เพียงแค่ไม่กระจ่างตาเหมือนยามที่ยังไม่ถูกย้อมสีใดๆ ให้แปดเปื้อน
ท้องฟ้าสีฟ้า... ที่ถูกแต่งแต้มด้วยแสงตะวันรอน...
ให้มัวหม่นด้วยสีแดงฉาน...
ภายในห้องส่วนตัวของบอสรุ่นที่สิบ มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถเข้ามาได้
และหนึ่งในนั้นคือผู้ถือแหวนแห่งสายหมอก
“บอสคะ ทำไมไม่บอกท่านมุคุโร่ไปตรงๆ ล่ะคะ?” โคลมไม่เข้าใจว่าบอสของตนจงใจแบกรับความเกลียดชังเอาไว้ทำไม
“แอบฟังไม่ดีนะ” สึนะเตือน
“ขอโทษค่ะ ฉันเป็นห่วงท่านมุคโร่น่ะค่ะ ก็เลย...” โคลมก้มหน้ายอมรับความผิด
“ให้มุคุโร่เข้าใจอย่างที่ฉันบอกน่ะดีแล้ว”
“แต่ว่าบอสทำเพื่อปกป้องท่านมุ-” โคลมพูดไม่จบเพราะนิ้วชี้ของบอสมาแนบที่ริมฝีปากเป็นเชิงไม่ให้พูดต่อ
“ถ้าคิดว่าทำเพื่อมุคุโร่ก็อย่าหลุดปากพูดเรื่องนั้นกับใครเชียวล่ะ” สึนะรู้สึกทึ่งกับสัญชาตญาณของผู้หญิงที่บางกรณีเหนือกว่า Blood of Vongola เสียอีก ตอนที่โคลมถามเขาครั้งแรก เขาค่อนข้างกระวนกระวายมาก แต่พอคิดถึงเรื่องที่ว่าโคลมที่ให้ความสำคัญกับมุคุโร่มากคงไม่ปากพล่อยทำให้เขาผิดหวัง
สิ่งที่เขาพูดไปทั้งหมดเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้นเอง...
การที่พามุคุโร่ออกจากวินดีเช่เป็นความเอาแต่ใจของเขา
ที่อยากจะสัมผัส... อยากโอบกอด...
และอยากให้กายของมุคุโร่ได้สัมผัสถึงความอบอุ่นบ้าง
ตอนสัมผัสร่างมุคุโร่ที่วินดีเช่น่ะ ตัวเย็นอย่างกับคนตาย
และการกวาดล้างแฟมิลี่ศัตรูให้ย่อยยับนั้นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ทุกคนจะสามารถยอมรับมุคุโร่ว่าเป็นคนของวองโกเล่ได้อย่างเต็มปาก ...ถ้าหากมุคุโร่ทำได้สำเร็จ... ก็จะมีที่ยืนในแฟมิลี่ได้... การที่เขาต้องมาเล่นละครเป็นบอสใจหินอย่างนี้ เป็นเพราะต้องการซุกซ่อนความในใจเอาไว้ ...ไม่ใช่ซ่อนความรู้สึกนั้นจากมุคุโร่... แต่จากสายตาทุกคู่ในแฟมิลี่ที่จับจ้องมายังเขา
ฟากฟ้าควรจะสูงส่ง...
อย่าให้สายหมอกฉุดรั้งเอาไว้ได้
ความคาดหวังจากทุกคนเป็นเช่นนั้น
และถ้าหากรู้ว่าการมีตัวตนของมุคุโร่สามารถสั่นคลอนจิตใจของเขาที่เป็นบอสได้ อาจมีมติลับสั่งเก็บมุคุโร่ซะก็ได้ โลกมาเฟียไม่เหมือนกับการเล่นขายของ ก้าวเข้ามาแล้วถอยไม่ได้ เขาจึงต้องทำทุกอย่างที่จะจบได้โดยที่ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด
‘คุณไม่เหมือนซาวาดะ สึนะโยชิคนที่ผมรู้จักสักนิด ผมควรจะคิดว่าคุณเป็นใครดี?’
เมี่อนึกถึงความหลังแล้วสึนะก็อดหัวเราะไม่ได้ ...จะว่าไปเขาก็เปลี่ยนไปเยอะจริงๆ นะ... เมื่อก่อน ตอนที่มุคุโร่ชอบแกล้งเขาด้วยการจับโน่นจับนี่ แล้วขโมยจูบเขาบ่อยๆ นี่เขาลนลานแทบตาย โกรธก็โกรธ อายก็อาย... แต่พอมารู้ใจตัวเองเข้าจริงๆ กลับต้องลั่นกลอนประตูปิดตายไม่ให้มุคุโร่เข้ามาในความฝัน... ไม่กล้าสู้หน้ามุคุโร่
แต่พอตอนนี้สิ... เส้นผม... ดวงตา... ริมฝีปาก...
เรือนร่างเพรียวบางนั่น... อยากสัมผัสทุกส่วน
เคยตบหัวตัวเองแรงๆ ให้หยุดความคิดตั้งหลายทีแล้ว... ตัวเขาเคยไร้เดียงสาขนาดที่แม้แต่จะคิดยังไม่กล้า... พอเข้าสิบแปดฝนสิบแปดหนาวนี่วัยอันตรายสินะ เขาก็เป็นผู้ชายนี่นา มีความต้องการบ้างคงไม่ผิด... แต่มันผิดตรงที่... มุคุโร่ก็เป็นผู้ชายนี่สิ!!!
-tbc-
ความคิดเห็น