คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เขาทำอย่างนี้เพื่ออะไร..
ตอนที่4
เขาวิ่งออกมาจากร้านอาหารด้วยความรวดเร็วพร้อมกับสายตาที่มองไปยังหญิงสาวคนนั้นอย่างไม่ละสายตาที่กำลังข้ามถนนไปอีกฝั่ง เขาพยายามที่จะวิ่งตามเธอให้ทันแต่เธอก็ข้ามถนนไปซะก่อนพร้อมกับแท็กซี่ที่เข้ามาจอดเพื่อจะรับเธอ หญิงสาวคนนั้นขึ้นแท็กซี่ไปโดยไม่เห็นว่ามีชายหนุ่มคนนึงตะโกนเรียกร้องเธออยู่อีกฝั่งของถนน เขาไม่สามารถวิ่งตามเธอทันได้เพราะแท็กซี่ได้ขับออกไปแล้ว ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ถูกได้แต่รู้สึกเสียดายและเสียใจที่ไม่สามารถตามผู้หญิงที่เขาตามหามานาน แต่พอได้เจอเธอช่างเป็นเรื่องที่บังเอิญ เขากลับเรียกเธอเอาไว้ไม่ทัน เขาเลยเดินคอตกพร้อมกับใบหน้าที่เศร้ากลับเข้ามาในร้าน พอมาถึงน้ำค้างก็เอาอาหารมาเสิร์ฟพอดี
“คุณวิ่งไปตรงนั้นทำไม..”
“ ฉันวิ่งตามเขาไม่ทัน..” เขาตอบด้วยใบหน้าที่เศร้าๆ
“ตามใคร”
“....................”เขาเงยหน้าขึ้นมามองหน้าน้ำค้าง แต่ก็ไม่ได้ตอบคำถามเธอ
“ ฉันก็ไม่ต้องการรู้เรื่องของคุณหรอก”น้ำค้างพูดอย่างประชดเมื่อเห็นสีหน้าที่นิ่งๆของเขาก่อนจะหันหลังเดินเข้าไปข้างในแต่ก็ต้องหยุดเมื่อเขาเรียกเอาไว้ก่อน
“เดี๋ยว..”
“จะเอาอะไรอีกค่ะ”
“นั่งลง..”
“.............”น้ำค้างมองเขาด้วยความงุนงง
“มานั่งตรงนี้”เขาสั่งให้เธอไปนั่งตรงข้ามกับเขา
“..............”
“เธอกินอาหารจานนี้แทนฉันเพราะฉันไม่มีอารมณ์จะกินแล้ว ฉันจะกลับคอนโด” เขาพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินผ่านตัวน้ำค้างไปด้วยใบหน้าที่ยังเศร้า น้ำค้างได้แต่มองชายหนุ่มที่เดินผ่านเธอด้วยใบหน้าที่เศร้าๆอย่างไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา สีหน้าของเขาในตอนนี้แตกต่างจากทุกครั้งที่เธอเห็นเขา เกิดอะไรขึ้นกับเขานะ ทำไมเขาดูเศร้าอย่างนั้น
ชายหนุ่มเข้ามาในห้องของเขาด้วยความรู้สึกที่เสียใจที่เขาพลาดกับผู้หญิงที่เขาตามหา ทั้งๆที่เขาบังเอิญได้เจอเธอ เขาเห็นเธอ เห็นเธอกำลังข้ามถนน เขาจำเธอได้ทันที ใบหน้าที่สวยหวานของเธอที่ทำให้เขาตกหลุมรักแค่เพียงแรกเห็น เขามั่นใจว่าต้องเป็นเธอผู้หญิงที่เขาข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อมาตามหาเธอคนนี้
ผู้หญิงที่เขามอบหัวใจให้ทั้งๆที่เขาไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน.....
ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์....
ชายหนุ่มในชุดเสื้อแขนยาวสีขาวสวมทับด้วยฮุดไหมพรมสีน้ำตาลกับกางเกงขายาวสีดำกำลังเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปวิวธรรมชาติทิวทัศน์ความสวยงามแห่งประเทศที่ขึ้นชื่อว่ามีความสวยงามไม่น้อยประเทศอื่นๆ เขากดชัดเตอร์นับครั้งไม่ถ้วนเพื่อเก็บภาพแห่งความสวยงามของ เหล่าหมู่ไม้เขียวขจีที่ให้ความร่มรื่นรับกับแสงแดดในยามบ่ายโดยมีลำธารใสสีเขียวสวยหรั่งอยู่รายรอบ สีเขียวของน้ำนั้นบางช่วงจะเขียวเข้มจนจะกลืนกับสีใบไม้ ในบางจังหวะก็เป็นเขียวอมฟ้าใส ใสสะอาดจนบางครั้งสามารถมองเห็นก้อนหินที่อยู่ในแม่น้ำได้ แม่น้ำ Aare แห่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เขายกกล้องลงเมื่อได้ภาพที่สวยงามพร้อมกับมองภาพที่เขาถ่ายด้วยใบหน้าที่ชื่นชมก่อนจะยกกล้องขึ้นอีกครั้งเพื่อจะหามุมความสวยงามในบริเวณรอบแม่น้ำแห่งนี้ แต่เมื่อกล้องของเขายกขึ้นพร้อมกับสายตาของเขาที่มองผ่านเลนส์ของกล้องเขาก็ต้องชะงักเมื่อเขารู้สึกว่าเขาเห็นสิ่งที่สวยงามมากกว่าวิวธรรมชาติที่อยู่เบื้องหน้า
หญิงสาวในชุดกระโปรงสีฟ้าสวมทับด้วยเสื้อแขนยาวไหมพรมสีขาวอ่อนบวกกับใบหน้าที่สวยงามของเธอทำให้บรรยากาศรอบๆตัวของเธอนั้นช่างดูงดงามจนบรรยายไม่ถูกชายหนุ่มกดชัตเตอร์นับครั้งไม่ถ้วนเพื่อถ่ายภาพความสวยงามนั้นก่อนจะเอากล้องลงเพื่อจะมองผ่านสายตาของตัวเขาเอง ชายหนุ่มรู้สึกตกหลุมรักหญิงสาวคนนั้นทันทีและอยากทำความรู้จักกับเธอ เขาจึงรีบวิ่งไปที่จุดๆนั้นเพื่อจะไปหาหญิงสาวที่กำลังยืนมองความสวยงามของแม่น้ำ
ตึก ตึก ตึก...
ชายหนุ่มรีบวิ่งพร้อมกับมองไปด้วยเพราะกลัวว่าหญิงสาวคนนั้นจะหนีไปซะก่อน ในที่สุดเขาก็มาหยุดอยู่ที่ด้านหลังของเธอ ก่อน ที่เขาจะยกกล้องถ่ายด้านหลังของเธอเสียงของกล้องทำให้หญิงสาวหันกลับมาด้วยความตกใจ
“ What are you doing (คุณทำอะไรน่ะ)”
“ take your picture (ถ่ายรูปคุณ)” ชายหนุ่มส่งพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มไป
เมื่อหญิงสาวเห็นใบหน้าของชายแปลกหน้าที่เธอไม่รู้จักเธอเองก็รู้สึกชอบพอในความหล่อเหลาของเขาแต่เธอพยายามเก็บอาการส่วนตัวเอาไว้พร้อมกับแสดงสีหน้างุงงงที่เขามาถ่ายรูปเธอทำไม
“...........................”
“ Is it alright if I want to know you.(จะเป็นไรมั้ยถ้าหากว่าผมอยากจะรู้จักกับคุณ)
“ But I do not know you(แต่ฉันไม่รู้จักคุณ” หญิงสาวพูดด้วยใบหน้านิ่งๆก่อนจะเดินหนีชายหนุ่มแปลกหน้าไป
แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มแปลกหน้าผู้หล่อเหลาคนนั้นจะไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจเขาเดินตามหญิงสาวไปตลอดทางเพื่อจะทำความรู้จักกับหญิงสาวให้ได้ พอหญิงสาวหันกลับมามองชายหนุ่มก็ทำเนียนถ่ายรูปวิวข้างทาง และเมื่อหญิงสาวหันกลับมาเธอเองก็แอบมีรอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้า พร้อมกับแกล้งเดินไปเรื่อยๆเมื่อรู้ตัวว่าชายหนุ่มเดินตามอยู่
ชายหนุ่มติดตามหญิงสาวตลอดเวลา เวลาที่เธอเดินไปไหนเขาก็เดินตามเธอไปทุกที เธอขึ้นรถเมล์ไปที่ไหนเขาก็ขึ้นรถเมล์ตามเธอไปเช่นกัน และเมื่อมาหยุดในสวนสาธารณแห่งหนึ่ง เขาเผลอก้มลงผูกเชือกรองเท้าที่หลุดพอเงยหน้าขึ้นมาหญิงสาวก็หายตัวไปแล้ว เขาวิ่งตามหาไปทั่วสวนสาธารณะแต่ก็ไม่เห็นวี่แววของเธอ ก่อนที่จะมีเด็กฝรั่งหน้าตาจิ้มลิ้มคนนึงยื่นซองจดหมายสีชมพูส่งมาให้เขาพร้อมกับวิ่งไป เขาจึงเปิดดูก็พบว่าในจดหมายมีรูปของเธอหนึ่งใบ พร้อมกับข้อความที่เขียนเอาไว้หลังรูป ว่า ‘If two people have the same fate. We'll meet again. (ถ้าเราสองคนมีโชคชะตาเดียวกัน เราจะได้พบกันอีกครั้ง) พร้อมกับข้อความที่เขียนเอาไว้ว่า บ้านเกิดของเธออยู่ที่กรุงเทพ ประเทศไทย พร้อมกับคำใบ้ที่เธอทิ้งเอาไว้เป็นประโยคสุดท้าย “ บางทีเราอาจจะเจอกันที่ห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพก็ได้”
เขามีเพียงแต่รูปใบนั้นและข้อความที่เธอเขียนเอาไว้ที่หลังรูป เขาไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร ทำอะไรอยู่ที่ไหนเพราะเธอไม่ได้เขียนเอาไว้ ทำให้เขาตามหาเธอได้ยาก ทุกวันเขาจะไปเดินเล่นที่ห้างเพื่อหวังว่าเขาจะได้เจอเธอ แต่เขาก็ไม่เห็นเธอเลย พอมาวันนี้เขาบังเอิญได้เจอเธอแต่เขากลับวิ่งตามเธอไม่ทัน เขาจึงรู้สึกแย่ และเสียดายที่พลาดกับเธอ เจ้าชายซาโต้มองรูปหญิงสาวที่อยู่ในมือด้วยใบหน้าที่เศร้า พร้อมกับความรู้สึกที่อยากเจอหญิงสาวในรูปเหลือเกิน...
ตู๊ดดดด ตู๊ดดดดด ตู๊ดดดดดดด...
ในขณะที่เจ้าชายซาโต้กำลังคิดถึงผู้หญิงที่เขาตามหาเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เขาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงพร้อมกับรับทันที
“(ซาโต้..)”
“พ่อ..” เมื่อได้ยินเสียงปลายสายคือพ่อของเขาหรือจ้าวฟาคานโตรีโทรเข้ามาเจ้าชายซาโต้จึงลุกนั่งอย่างปกติ
“เป็นยังไงบ้าง ได้ข่าวเพื่อนของพ่อบ้างมั้ย”
เจ้าชายถึงกับพูดไม่ออก เพราะตั้งแต่ที่เขามาเมืองไทยเขามัวแต่ตามหาผู้หญิงคนนั้นจนลืมภารกิจสำคัญที่พ่อของเขาฝากให้มาทำเลย
“(ว่ายังไง ได้ข่าวเพื่อนของพ่อบ้างหรือเปล่า ซาโต้)”
“เอ่อ ยะ..ยังเลยฮะ ผมพยายามถามคนที่นี่ก็ไม่มีใครรู้จักเลย” เขารู้สึกผิดมากเมื่อต้องโกหกคนเป็นพ่อไป “แต่ว่าพ่อไม่ต้องห่วงนะฮะ ผมมาที่เมืองไทยแล้วยังไงผมก็ต้องตามหาเพื่อนของพ่อให้เจอ”
“(พ่อจะรอนะ ซาโต้ และถ้าให้ดีพ่ออยากให้ลูกตามหาเพื่อนของพ่อให้เจอก่อนวันเกิดของพ่อ แล้วพาเขามาหาพ่อ)”
“ฮะ...ผมจะรีบตามหาเพื่อนของพ่อให้เจอเร็วๆ”
หลังจากที่คุยกับคนเป็นพ่อเสร็จเขาก็วางสายไป เขาจึงตั้งสติของตัวเองทันที นี่เขาลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไง เขาเป็นคนรับปากว่าจะช่วยตามหาเพื่อนของพ่อให้เจอ แต่เขามัวทำอะไรอยู่ ทำเรื่องของตัวเองจนลืมทำเรื่องที่เขารับปากกับพ่อเอาไว้ ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งรู้สึกผิดกับพ่อของเขามากขึ้น
“แม่จ๋า หนูมาแล้วค่ะ...” ฉันเดินเข้ามาในห้องพักคนป่วยพร้อมกับพูดอย่างมีความสุขแต่เมื่อมองไปที่เตียงของแม่ก็ไม่เห็นแม่อยู่ที่เตียง แม่ไปไหน
“คุณพยาบาลค่ะ แม่ของฉันอยู่ที่ไหนค่ะ..”ฉันเดินเข้าไปถามพยาบาลคนนึงที่กำลังวัดความดันคนไข้ที่อยู่ตรงข้ามกับเตียงแม่ของฉัน
“แม่ของคุณย้ายไปอยู่ที่ห้องพิเศษตั้งแต่เมื่อคืนแล้วค่ะ”
“ย้ายไปอยู่ห้องพิเศษ ใครสั่งย้ายค่ะ ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่อง”
“เรื่องนี้ต้องไปถามหมอฟรานซ์น่ะค่ะ”
“หมอฟรานซ์”
“หมอที่เป็นเจ้าของแม่ของคุณน่ะค่ะ”
“อ๋อ..”.ฉันทำหน้านึกออกพร้อมกับวิ่งออกจากห้องไปทันที และเมื่อวิ่งออกมาจากห้องฉันก็เห็นคุณหมอรูปหล่อใจดีคนนั้นกำลังจะเดินไปอีกทาง ฉันจึงรีบวิ่งไปหาเขาทันที
“หมอฟรานซ์ค่ะ”ฉันตะโกนเรียกชื่อคุณหมอ หมอฟรานซ์หันมองไปตามเสียงก่อนจะหันมาเห็นฉันที่กำลังวิ่งไปหาเขา หมอฟรานซ์จึงหยุดเดินพร้อมกับยืนรอฉันที่เดิม
“เธอมีอะไรกับฉันหรือเปล่า”
“แม่ฉัน ใครเป็นคนย้ายแม่ฉันไปที่ห้องพิเศษค่ะ”
“ ฉันไม่มีเบอร์โทรศัพท์เธอ เลยไม่ได้บอกเธอว่าแม่ของเธอย้ายมาห้องพิเศษแล้ว”
“คือฉัน ฉันไม่มีเงินพอที่จะจ่าย..”
“มีคนจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดให้แม่เธอแล้ว”
“ใครค่ะ”
“เพื่อนเธอไง”
“เพื่อน”ฉันทำหน้างง
“ผู้ชายที่หน้าตาดีดี ไม่ได้ดีธรรมดาสิ ดีมากเลยแหละ พยาบาลที่นี่กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ เมื่อวานเขามาแล้วบอกว่าเป็นเพื่อนกับเธอ เขาเลยอยากจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดของแม่เธอ”
“....................”ฉันทำหน้านึก
หน้าตาดีดี และไม่ได้ดีธรรมดาซะด้วย จะเป็นไปได้มั้ยว่าผู้ชายที่หมอฟรานซ์บอกจะเป็น ผู้ชายที่หลงตัวเองคนนั้น
“หมอค่ะ ฝากบอกแม่ด้วยนะค่ะว่าฉันจะมาหาตอนสองทุ่ม..นี่ค่ะฉันฝากผลไม้ให้แม่ด้วยนะค่ะ” ฉันรีบบอกกับหมอฟรานซ์โดยยัดถุงแอบเปิ้ลใส่มือหมอฟรานซ์พร้อมกับหันหลังจะวิ่งไป
“เดี๋ยว..”
“โอ๊ะ..ฉันลืมบอก”
ฉันหันกลับมาเหมือนจะลืมบอกอะไร แต่ดูเหมือนว่าหมอฟรานซ์จะมีอะไรพูดกับฉันเหมือนกัน
“หมอมีอะไรหรือเปล่าค่ะ”
“เอ่อ ปะ..เปล่า..ว่าแต่เธอมีอะไรเหรอ”
“คือฉันลืมบอกน่ะค่ะ..ว่าฝากคุณหมอปอกเปลือกแอบเปิ้ลให้แม่ฉันด้วยนะค่ะ..”
“อะไรนะ..”
“ขอบคุณค่ะ..” ฉันก้มหัวขอบคุณหมอฟรานซ์โดยไม่ได้สนใจสีหน้าที่ตกใจของเขาพร้อมกับหันหลังรีบวิ่งไปทันที
“นี่เธอใช้ฉันเหรอ..”หมอฟรานซ์พูดพร้อมกับยกถุงแอบเปิ้ลพร้อมกับทำหน้าไม่อยากจะเชื่อก่อนจะผุดรอยยิ้มอย่างตลก
ฉันนั่งรถเมล์มาลงที่คอนโดของเขาทันทีเพราะว่ามันอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาล พอมาถึงฉันก็เดินเข้าไปในคอนโดทันที
“มาหาใครครับ..” ในจังหวะที่ฉันกำลังเดินเข้าไปก็มี ร ป ภ เข้ามาหาฉัน
“ฉันมาหา.เอ่อ..” ฉันไม่รู้จักชื่อเขาอ่ะ เจอกันสองสามครั้งฉันไม่เคยถามชื่อเขาเลย
“มาหาใคร..”
“ฉันมาหาคนที่อยู่ในคอนโดนี้แหละลุง แต่ฉันไม่รู้จักชื่อเขา” ฉันพูดพร้อมกับจะเดินเข้าไปแต่ลุง ร ป ภ เข้ามาขวางฉันไม่ให้เข้าไป
“ไม่ได้ เข้าไปไม่ได้ เธอไม่ได้อยู่ที่คอนโดนี้เข้าไปไม่ได้”
“แต่ฉันมีเรื่องที่จะต้องพูดกับคนที่อยู่ในนี้นะ”
“แล้วคนที่เธอบอกเขาชื่ออะไร อยู่ชั้นไหน ห้องอะไรล่ะ”
“ฉัน ฉันไม่รู้ ฉันเพิ่งรู้จักกับเขาไม่กี่วันเอง”
“ขอโทษนะแม่หนู ฉันคงให้เธอเข้าไปไม่ได้”
“แต่ลุงค่ะ ฉันมีเรื่องต้องคุยกับเขาจริงๆนะค่ะ..”
“แต่เธอไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับคนที่อยู่ที่นี่ “
“แล้วจะให้ฉันทำยังไง”
“เธอคงต้องรอข้างนอก ถ้าหากว่าคนที่เธอขอพบออกมาเธอก็ค่อยไปหาเขา”
“......................”ฉันทำหน้าคิด เฮ้อ มันไม่มีทางเลือกจริงๆ ยังไงฉันก็ต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่อง ทำไมเขาถึงต้องมาออกค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดให้แม่ฉัน ซึ่งค่ารักษาแม่ฉันนั้นมันไม่ใช่เงินน้อยๆเลยมันเป็นเงินจำนวนมากทีเดียว เขากับฉันไม่ได้เป็นอะไรกันเลย และยังไม่รู้จักถึงขั้นที่เขาจะยอมเสียเงินมากขนาดนี้ให้ฉัน ไม่ได้ยังไงฉันก็ต้องคุยกับเขา
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป....
“แม่หนูกลับไปเถอะ”
“หนูจะอยู่รอเขาค่ะ”
สองชั่วโมงผ่านไป..
“แม่หนูนี่มันสองชั่วโมงแล้ว ไม่ไปทำงานทำการหรือไง..”
“ทำค่ะ แต่ฉันต้องรอคุยกับเขา”
“มันเรื่องใหญ่เหรอไง ถึงต้องรอขนาดนี้”
“ค่ะ เรื่องใหญ่มากๆ”ฉันตอบลุง ร ป ภ พร้อมกับคอยรอดูว่าเขาจะเดินออกมาจากคอนโดเมื่อไหร่
สามชั่วโมงผ่านไป...
“แม่หนูไปทำงานทำการซะเถอะ ลุงว่าป่านนี้ถ้าเขาไม่ออกมา สงสัยคงไม่อยู่ล่ะมั้ง”
“..............”ฉันยกข้อมือดูนาฬิกาอีกครึ่งชั่วโมงก็จะเที่ยงแล้ว “เฮ้อออ ถ้าอย่างนั้นหนูกลับก่อนนะค่ะ..”
“ชื่อก็ไม่รู้จัก อยู่ห้องไหนก็ไม่รู้ รูปสักใบก็ไม่มี ถ้าหนูมีข้อมูลซักนิดลุงก็จะช่วยหนูได้นะ แต่หนูไม่มีข้อมูลอะไรเลย ลุงเลยช่วยอะไรหนูไม่ได้”
“ขอบคุณค่ะลุง ผิดที่หนูเองค่ะ หนูไม่เคยถามชื่อเขา และไม่ได้สังเกตว่าตอนนั้นเขาอยู่ห้องอะไร ไม่เป็นไรเดี๋ยววันหลังหนูจะมาใหม่ หนูไปก่อนนะค่ะ” ฉันลาลุง ร ป ภ พร้อมกับเดินคอตกออกมาจากคอนโด
วันนี้ฉันทำความสะอาดอย่างคนไม่มีสมาธิในการทำงานเลย เพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องของนายคนนั้น เขาคิดอะไรของเขาทำไมถึงได้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการรักษาทั้งหมดของแม่ฉัน ทำไมเขาต้องทำอย่างนั้นนะ ในเมื่อฉันกับเขาเราไม่เคยรู้จักกัน และสองสามวันที่ผ่านมามันก็เป็นเหตุบังเอิญเท่านั้นที่ทำให้เราต้องเจอกัน ชื่อฉันเขาก็ไม่รู้จัก แล้วเขาจะมาออกให้ฉันทำไมกัน เอ๊ะ ระ... หรือว่า...เขาจะ...ไม่หรอกมั้ง ไม่ๆๆๆ ยัยน้ำค้างแกคิดอะไรเนี้ยผู้ชายที่โครตๆหน้าตาดีอย่างเขาจะมาชอบผู้หญิงที่ทั้งแสนจนและธรรมดาอย่างแกทำไม ผู้ชายอย่างเขาสามารถหาแฟนสวยๆระดับซุปเปอร์สตาร์ได้สบายเลย แล้วนับประสาอะไรกับคนอย่างฉัน ยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้ยิ่งนัก ไม่มีทาง...
“นี่..เธอ..”
“อุ้ย..แม่จ๋า...โป๊ก..”
“..โอ๊ย..”
ฉันสะดุ้งเมื่อจู่ๆก็มีคนมาเรียกข้างๆหูขณะที่กำลังคิดอะไรเพลินๆทำให้ไม้ถูพื้นที่ฉันถือหันไปตีเข้าที่หน้าผากคนที่มาทักฉันเต็มๆ และพอฉันหันกลับมาก็เห็นว่าคือนายหลงตัวเองคนนั้นกุมหน้าผากตัวเองพร้อมกับมองหน้าฉันแทบจะกินเลือดกินเนื้อ
“นี่..เธอ..”เขาพูดใส่ฉันอย่างเสียงดังพร้อมกับเอามือลูบหน้าผากตัวเองที่เริ่มจะมีรอยแดงๆขึ้น
“อุ้ย..”
“ทำบ้าอะไรของเธอ นี่เธอกล้าเอาไม้ถูพื้นมาตีหน้าผากฉันเลยเรอะ รู้มั้ยว่าไม่มีใครกล้าทำกับฉันแบบนี้เลย แต่เธอ เธอ”เขาชี้หน้าฉันด้วยสายตาที่น่ากลัว
“..................”
“ถ้าเธออยู่ที่ประเทศฉันล่ะก็ เธอตายแน่ยัยบ้า..”
“ก็จู่ๆคุณก็มาเรียกฉันที่ข้างหู ฉันก็ตกใจน่ะสิ”
“ตกใจบ้าอะไรของเธอ เอาไม้ถูพื้นมาตีหน้าผากฉันเนี๊ย”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ ก็ฉันตกใจนี่....โอ๊ะ..โอ๊ะ..นะ.น่า..หน้า..ผาก..”ฉันมองไปที่หน้าผากของเขาพร้อมกับชี้ด้วยใบหน้าที่ตกใจ
“หน้าผากฉัน ทำไม”
“มันนูนออกมา เห็นชัดเลย”
เขาเอามือค่อยๆจับไปที่หน้าผากของเขาที่โดนไม้ถูพื้นของฉันไป ก่อนจะค่อยๆทำหน้าเหมือนจะตกใจหลังจากที่เริ่มรู้สึกว่ามันนูนขึ้นมาเยอะกว่าเก่า
“ฉะ..ฉันว่าคุณไปทายาดีกว่า”
“ยังจะมีหน้ามาพูดอีก”
“อุ้ย..” คนหล่อน่ากลัวอ่ะ
เขาตะคอกใส่ฉันอย่างโมโห ทำเอาฉันสะดุ้งด้วยความกลัวเมื่อเจอสีหน้าสายตาของเขาที่ตอนนี้แทบจะบีบคอฉันได้เลย อูย ตอนแรกมันก็ไม่ค่อยออกหรอก แต่ทำไมมันค่อยๆปูดออกมาแบบนี้นะ นี่ฉันตีเข้าไปที่หน้าผากของเขาเต็มแรงเลยเหรอเนี๊ย ฉันว่าฉันสะบัดไปเบาๆนะแต่ทำไมมันเห็นชัดขนาดนี้นะ อย่างว่าล่ะก็ผิวเขาขาวซะขนาดนั้น ดูท่าทางผิวจะบอบบางซะด้วยสิ ช่วยไม่ได้ก็ใครใช้ให้มีผิวขาวและบางขนาดนี้ล่ะ ชิ
ความคิดเห็น