ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ____เก็บ....'รัก' ____[Yaoi] [The End] [เปิดจอง!!!!!]

    ลำดับตอนที่ #2 : #02 ใครกันแน่ที่โดนแกล้ง ?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.04K
      2
      30 ก.ค. 57

    #02ใครกันแน่ที่โดนแกล้ง ?

     

     

     

     

     

     

     

    เข็มนาฬิกายังคงเดินต่อ แสงอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านหน้าต่างเป็นสัญญาณของเช้าวันใหม่

    วันนี้ผมตื่นเร็วเป็นพิเศษ อาจเพราะเมื่อคืนอะไรหลายๆอย่างทำให้ผมเลือกที่จะข่มใจ แล้วหนีทุกสิ่งด้วยการ'หลับไปดื้อๆ' ผมภาวนาให้เมื่อคืนเป็นแค่ฝันแต่ร่างของเด็กผู้ชายรุ่นเดี่ยวกันที่นอนอยู่เตียงชั้นร่างเป็นหลักฐานว่านี้คือความเป็นจริง

    ใบหน้าของมันนอนหลับสนิท ลมหายใจเข้าออกยังคงสม้ำเสมอบ่งบอกว่าเจ้าของลมหายใจยังคงหลับอยู่

    "จะจ้องกูอีกนานไหม?"

    โอเค มันตื่นแล้วล่ะ...

    ผมสะบัดหน้าหนีมันที่พูดทั้งๆที่ยังหลับตา แมร่งรู้ได้ไงว่ากูมอง

    "แม่กับคุณอาไปสัมมนากลับวันเสาร์" มันลุกขึ้นบิดขี้เกลียดพูดเสียงเรียบ ก่อนจะพับผ้าห่มสอดไว้ใต้หมอน

    "หน้าด้าน"

    "..."

    "พวกมึงสองคนแม่ลูกนี้โคตรหน้าด้านเลย นี้คิดจะเกาะพ่อกูกินสินะ" ไม่มีคำตอบ ไม่มีคำแก้ตัวใดๆผมคิดว่ามันจะฟิวส์ขาดและพุ่งเข้ามาชกผมซะอีก(นั้นแหละที่รอ มึงพุ่งกูสวน)

    ปกป้องมองหน้าผมด้วยแววตาที่ผมดูไม่ออกว่าคิดอะไร ก่อนมันจะเดินเลี่ยงเข้าไปในห้องน้ำพร้อมผ้าเช็ดตัว

    ผมกัดฟันกรอด ทิ้งตัวลงกับเตียง ความรู้สึกเกลียดชังมากมายถาโถมเข้าสู่จิตใจ ทำไมพ่อของเขาถึงต้องพาใครที่ไหนก็ไม่รู้เข้าบ้าน ทำไมถึงไม่ตามแม่จริงๆของเขากลับมาและทำไม มันถึงได้นิ่งได้ขนาดนี้? เชื่อเถอะ ว่ายังไงๆผมก็ต้องหาทางไล่พวกมันสองแม่ลูกออกจากบ้านนี้ให้ได้!!! ขั้นแรกคงต้องทำให้พวกมันใช้ชีวิตลำบากในการอยู่ในบ้านหลังนี้

    ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำลาย"บ้าน"ของผมหรอก

    ไม่มีวัน...

    เสียงฟักบัวถูกปิดก่อนมันจะออกมาจากห้องน้ำ ผมจ้องมันด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อ อีกฝ่ายรับรู้ แต่ก็นิ่งเหมือนเคย

    "เอาผ้าเช็ดตัวมา"

    ผมพูดเสียงกร้าวมองหน้าจิก คนตรงหน้ายังแสดงสีหน้านิ่งเสมอต้นเสมอปลาย มันดึงปลายผ้าขนหนูที่พันหลวมไว้กับช่วงเอวออกมาก่อนจะปาใส่บ้านผม

    "ก็เอาไปดิ.......อยากได้ของ'ใช้แล้ว'จากกูก็บอก" ถ้อยคำเสียดสีครั้งแรกปรากฏออกจากปาก ผมแทบจะถลาตัวเข้าไปซัดไอ้คนปากดีตรงหน้าสักหมัดสองหมัด แต่สุดท้ายผมก็เลือกที่จะปาผ้าขนหนูทิ้งแล้วเดินเข้าห้องน้ำแทน

    ตุ๊ดเหรี้ยไรยืนห่มลมห่มฟ้าได้แบบมัน แทบยังไม่มีที่ท่าอายแม้แต่น้อย

    แมร่งเอ๊ย ยิ่งขึ้นถึงฉากเมื้อกี้ยิ่งหงุดหงิด!!!

    ใหญ่กว่ากูได้ไงว่ะ!?!

    ...

     

    "ย่าลืมตรวจเช็ครหัสฝนดีๆ ข้อไหนลบก็จัดการให้มันสะอาดๆ" มิสอริสราพูดย้ำในระหว่างสอบเทสย่อยกัณฑ์พระนางมัทรี ผมขยี้หัวหน่อยๆเพราะจำได้บ้างไม่ได้บ้าง

    พอเหลือบมองไปหามุมประตูแบบไม่ได้ตั้งใจ ผมเห็นมันนอนฟุบกับโต๊ะไปแล้ว จะว่าไปผมยังไม่เคยเห็นมันทำข้อสอบพวกนี้เกินสิบหน้าที่ด้วยซ้ำ

    ไอ้พวกอัจฉริยะที่น่าหมั้นไส้

    เมื่อเช้าหลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมกับมันต่างคนต่างไม่พูดอะไร พอแต่งตัวเสร็จผมก็จ้ำอ้าวออกจากบ้านทิ้งมันไว้คนเดี่ยว พออยู่บนรถเมล์สายตาของผมก็เสือกหันไปเจอมันอยู่ในรถแท็กซี่ มันเห็นผมผมเห็นมันสุดท้ายก็ผมเองนั้นแหละที่เลือกจะหลบสายตาออกจากจุดๆนั้น

    "หมดเวลาทดสอบแล้ว มิสเตอร์ปกป้อง ครูรบกวนช่วยเก็บกระดาษคำตอบกับกระดาษคำถามที่"

    มันเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะลุกไล่เก็บกระดาษของเพื่อนๆ ผมเหลืออีก5-6ข้อ เหรี้ยเอ๊ยกาข้อไหนดีวะ

    " " เสียงที่เบาเหมือนกระซิบพูดขึ้น มันแกล้งทำที่เป็นจัดกระดาษเรียงให้สวยงาม ผมกาลวกๆตามที่มันบอกไปก่อนดีกว่าไม่กาซึ่งนั้นหมายถึงศูนย์

    พอยื่นกระดาษคำตอบ คนเก็บก็ตีหน้านิ่งก่อนจะเดินเก็บต่อไป

    เหมือนเมื้อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น...

    ผมมองตามแผ่นหลังของมันด้วยความไม่เข้าใจ ก็ในเมื่อผมแสดงออกชัดเจนว่าเกลียดมันกับแม่ของมันแล้วทำไมมันถึงยังช่วยผม

    ผมไม่เข้าใจมันจริงๆ....

     

    ..

     

     

    "ไอ้เกียร์ วันนี้ไปอีกป่าว?"

    เสียงไอ้อู๋ทักผม ผมส่ายหน้าแทนคำตอบเพราะอยากไปจัดการอะไรบางอย่าง

    พอหมดคาบสุดท้าย'เหยื่อ'ก็เดินออกจากห้องเรียนไป ผมรีบยัดของใส่กระเป๋าลวกๆก่อนจะรีบวิ่งตามมันไป

    'เหยื่อ'ของผมใส่หูฟังก่อนจะเดินไปชิลๆ โดยที่มันก็ไม่รู้หรอกว่ากำลังจะโดนอะไร...

    จุดหมายปลายทางคือห้องสมุดหน้าโรงเรียน เพราะเป็นคาบที่เลิกเรียนแล้วในหลายๆระดับ เด็กๆเลยเดินควักไขว้ยืนออกันไปมาบริเวณหน้าห้องสมุด ผมเห็นมันวางกระเป๋าไว้กับโรงเท้าที่ชั้นวางของ ก่อนจะเดินเข้าห้องสมุดไป

    ผมอาศัยช่วงชุลมุนเดินปะปนไปกับผู้คนที่เดินเบียดเสียดกัน ก่อนจะเดินเบียดๆให้รองเท้าคู่เก่าของมันตกลงมากับพื้นขั้นตอต่อจากนั้นก็ง่ายแล้วครับ แค่เตะให้รองเท้าของมันกระเด็นไปไกลเกินรัศมีของกล้องวงจรปิดก็พอ หลังจากนั้นก็เดินสะเปะสะปะแยกไปอีกทางหนึ่ง ก่อนจะวิ่งอ้อมไปอีกด้านหลบมุมกล้องวงจรปิด

    เพียงแค่เท่านี้ ผมก็ขโมยรองเท้ามาได้อย่างไม่อยากเย็นอะไรเลย

    ผมคีบรองเท้าคู่เก่าของมันไปทิ้งลงถังขยะหลังโรงเรียนอยากจะเห็นสีหน้าของมันตอนมันรู้ว่าโรงเท้าตัวเองหายจริงๆ

    ว่าไงละครับพ่ออัจฉริยะ มึงจะแก้ปัญหานี้ยังไง?

    ผมนั่งอยู่ตรงศาลาเล็กที่อยู่ห่างเยื้องๆกันออกไป นั่งเล่นฆ่าเวลาด้วยการนั่งจิ้มไอพอดรอประมาณสี่โมงเย็นมันก็เดินออกมาจากห้องสมุด

    ผมเปลี่ยนไอพอดในมือเป็นโหมดวีดีโอระยะไกล ซูมจนเห็นใบหน้าของมันกำลังยืนนิ่งๆอยู่ตรงกระเป๋า ไอ้ปกป้องยืนเกาหัวแกรกๆก่อนจะเดินเข้าไปในห้องสมุดอีกรอบ

    ประมาณห้านาทีต่อมา มันเดินออกมาพร้อมป้าไก่ บรรณาธิการห้องสมุดก่อนทั้งคู่จะชี้ไปที่มุมกล้องตัวหนึ่งแล้วป้าไก่ก็เดินเข้าห้องสมุดไป ผมเห็นมันยืนนิ่งๆตรงนั้น ก่อนจะหมุนตัวมองไปรอบๆแล้วหยุดตรงเลนส์กล้องไอแพดของผม

    แววตาที่มองผ่านกล้องของมันเหมือนจะหยุดนิ่งไปดื้อๆก่อนจะค่อยๆขยับปาก

    แอบมองเหรอ ?’

    ผมชักรู้สึกเกลียดไอพอดของตัวเองที่เห็นชัดจนเกินไป และรู้สึกเกลียดตัวเองที่เสือกอ่านปากของมันออก แต่จะหลบหน้าตอนนี้ก็
    ไม่ได้เพราะถ้าทำแบบนั้นมันจะจับได้นะสิว่าผมเป็นคนแกล้งมัน สุดท้ายผมเลยต้องทนจ้องไอ้พอดที่ซูมหน้ามันต่อไปแม้จะอยากกดปิดแค่ไหนแต่เพื่อบางสิ่งที่ผมคิดว่ามันจะทำ ทำให้ผมเลือกที่จะกดอัดวิดีโอต่อไป

    ประมาณห้านาทีเศษเห็นจะได้ มันส่ายหัวเบาๆก่อนจะเดินแยกไปอีกทาง ผมกำลังลุ้นในใจขอให้มันทำอะไรบางอย่างตามที่ผมคิด

    ปกติแล้วเวลาคนเราทำรองเท้าหายคุณจะทำยังไงต่อครับ

    มันเป็นสัญชาติทะยานการเอาตัวรอดของมนุษย์ สิ่งที่ทำให้คนเราดูน่ารังเกลียด นั้นคือการเห็นแก่ตัวขอเพียงแค่ตัวเองปลอดภัย 
    ก็ไม่สนแล้วว่าใครจะเป็นยังไงหรือจะรู้สึกยังไง

    และผมคิดว่าคนในวีดีโอที่กำลังอัดตอนนี้ ก็ไม่ได้ต่างจากมนุษย์ทั่วๆไปสักเท่าไหร่หรอก

    จะอัจฉริยะยังไง ก็เป็นแค่มนุษย์ที่ยังคงมีซึ่งความบาปอยู่ดี..

    ไอ้ปกป้องเดินไปที่ชั้นวางของก่อนพิจารณาอะไรบางอย่างของมันเองอยู่เงียบๆ ผมนั่งลุ้นจนตัวเกร็งหวังเพียงให้มันขโมยรองเท้า
    คู่ใดคู่หนึ่งไป

    ห๊ะ.... อย่าบอกนะว่าถ้าเป็นคุณที่ทำรองเท้าหายไป จะเดินกลับแบบนั้น ผมไม่คิดว่าใครมันจะดีได้ขนาดนั้นหรอก 

    เพียงแต่ก็อย่างที่บอกไป ปกป้องมันแปลกคนไอ้เรื่องที่ผมคิดนะมันอยู่ในขอบเขตของคนทั่วไป แต่ไอ้สิ่งที่มันทำนะ...

    มันหยิบโพล์-อิทเล็กๆขึ้นมาเขียนก่อนจะแปะไว้และถอดถุงเท้าคู่สีขาวออกก่อนจะยัดไว้ที่กระเป๋าหลัง

    ผมกดปุ่มบันทึกคลิปวีดีโออย่างยอมแพ้ เมื่อคนถูกแกล้งเดินออกไปเท้าเปล่าแล้วเดินถือกระเป๋าอาดๆออกนอกโรงเรียนไปโดยไม่สนใจทุกสายตาที่จับจ้องมัน มันเดินไปจนถึงป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนก่อนจะเดินขึ้นรถเมล์ไปดื้อๆแบบนั้น

    ไม่ได้อยากจะสนใจ แต่อีกใจหนึ่งก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันเขียนอะไรไว้ที่โพล์-อิท สองขาของผมเดินก้าวเข้าไปก่อนตัวอักษรเล็กๆจะผ่านสายตาผม เสมือนมันยืนพูดข้างหู

    รองเท้าคู่นั้น ถ้าอยากเอาไปใส่เราไม่ว่า แต่อย่าทิ้งมัน มีเด็กอีกมากที่ยังขาดแคลนรองเท้า

    ลงชื่อ ปกป้อง(ผู้บริจาครองเท้าอย่างเป็นทางการแก่เด็กยากไร้)

    ผมรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าจนชา หมัดทั้งสองข้างก่ำแน่นเข้าหากัน

    ไอ้ปกป้อง แสบนักนะมึง!!!

     

     

    ..

     

    เกือบๆทุ่มกว่าแล้ว ไอ้ปกป้องยังไม่กลับมาถึงบ้าน

    เปล่าครับ…. ที่กล่าวถึงมันแบบนั้นไม่ใช่ว่าผมห่วงมันหรือว่าอะไรหรอกนะ ผมแค่อยากรู้เฉยๆว่ามันไปไหน เพรากลับมาถึงบ้านตอนห้าโมงกว่าๆก็ไม่เจอมันแล้ว แต่ก็นั้นแหละหายไปได้ก็ดี ถ้าจะให้ดีช่วยหายไปตลอดกาล

    ผมนั่งเล่นคอมไปเรื่อยๆก่อนจะคลิกเข้ายูทูปแล้วบัญชีผู้ใช้งานของผมก็เด้งขึ้นมาแจ้งเตือนว่าแชนแนลที่ผมติดตามอันหนึ่งได้ทำการอัพเดทคลิปวีดีโอใหม่ลงบนยูทูปแล้ว

    อามัวแชนแนล

    ชื่อนี้เป็นชื่อของช่องวีดีโอบนยูทูปช่องหนึ่งที่ผมบังเอิญเจอจากการแชร์ของเพื่อนคนหนึ่งในโซเชียล เพียงแค่ฟัง coverเพลงแรกของคนๆนี้ผมก็แทบจะสมัครตัวเป็นFcทันที่ จะว่าด้วยความขั้นเทพในการดีดกีตาร์โปร่งให้ออกมาทรงพลังขนาดนั้น หรือจะน้ำเสียงทุ้มๆนั้นก็ตามแต่ ผมรู้สึกว่ามันเป็นcoverเพลงที่ดีมากๆจนอดไม่ได้ที่จะติดตามแชแนลของเขา

    เพลงที่ปล่อยออกมาแต่ละเพลงล้วนแล้วแต่เป็นเพลงแนวแอบรักแต่ไม่สมหวัง หรือไม่ก็ออกแนวตัดพ้อซะมากกว่า ผมมโนไปเองว่าคนcoverเพลงนี้น่าจะกำลังแอบรักใครสักคนอยู่ เพียงแต่คงคิดว่าตัวเองแห้วแน่ๆเลยตัดใจ 

    อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ผมชอบเพลงของเขา เพราะทุกคลิปวีดีโอที่ออกมา ล้วนแล้วแต่ไม่ออกหน้าคนดีดกีต้าร์หรือว่าคนร้องเพลง ไม่มีการแนะนำตัว ไม่มีชื่อใดๆ ให้เรียกขาน ไม่มีช่องทางการติดต่ออื่นๆทั้งในโลกโซเชียลหรือโลกมีเดียล้วนแล้วแต่ไร้ตัวตนของเขา หลายๆคนหรือหลายๆค่ายเพลงต่างก็อยากจะรู้จักตัวจริงของเขาทั้งนั้น เพียงแต่เจ้าตัวออกมากล่าว(พิมพ์)เพียงสั้นๆว่า

    อยากมองให้เห็นเป็นอะไรก็เป็นได้ อยู่ที่ใจคนมอง

    ผมชอบวิธีการดำเนินเรื่องในการถ่ายทอดเพลงๆหนึ่งออกมาจากในสไตล์ของเขา ไม่ต้องคิดว่าเขาเป็นใคร หนุ่มหรือแก่ เด็กหรือผู้ใหญ่ หล่อหรือขี้เหล่ แค่ชอบในสไตล์การร้องเพลงของเขาก็พอ

    วีดีโอคลิปตัวใหม่เพิ่งอัพโหลดเสร็จประมาณเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนนี้เอง ผมมองชื่อเพลงก่อนจะกดเล่นมันขึ้นมา

    ถ้ายังรัก เครสเชนโด้-cover.โดย อามัว.’ 

    เสียงกีตาร์โปร่งดังคลอมาเบาๆ ก่อนจังหวะจะค่อยๆเปลี่ยนจนเข้าสู่เนื้อเพลง 

     

    ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจ แค่ลองฟังเสียงข้างในมันบอก
    ว่ายอมแพ้แล้วหรือยัง
    ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจ บอกว่าไม่ไหวหรือยัง
    ลองถามใจตัวเองให้ดังๆ สักครั้ง
    ยังเชื่อในความรักหรือเปล่า
    เชื่อในคำๆ นี้แค่ไหน
    ทางแยกในวันนี้คงทำให้เราได้เข้าใจ
    ถ้ายังรักก็ต้องยังไหว หัวใจไม่หวั่นไหว
    จะยากเย็นซักแค่ไหน ก็ไม่ต้องกลัว
    ถ้ายังรักก็ต้องยังไหว แม้ไม่ใช่ความฝัน
    รักคือเธอกับฉัน มีกันและกันด้วยความรัก
    ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจ
    ถ้ายังคงรักก็ไม่มีวัน ที่จะเดินหนีไป
    ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจ ถ้าหากหมดใจแล้ว
    ยังจะฝืนต่อมันคงไม่มีทางใช่ไหม
    ยังเชื่อในความรักหรือเปล่า
    เชื่อในคำๆ นี้แค่ไหน
    ทางแยกในวันนี้คงทำให้เราได้เข้าใจ
    ถ้ายังรักก็ต้องยังไหว หัวใจไม่หวั่นไหว
    จะยากเย็นซักแค่ไหน ก็ไม่ต้องกลัว
    ถ้ายังรักก็ต้องยังไหว แม้ไม่ใช่ความฝัน
    รักคือเธอกับฉัน มีกันและกัน
    ถ้ายังรักก็ต้องยังไหว หัวใจไม่หวั่นไหว
    จะยากเย็นซักแค่ไหน ก็ไม่ต้องกลัว
    ถ้ายังรักก็ต้องยังไหว แม้ไม่ใช่ความฝัน

    รักคือเธอกับฉัน จับมือไปด้วยกันด้วยความรัก

     

    หลังจบเพลง ผมกำลังจะคลิกเปลี่ยนไปเป็นเพลงอื่นๆของเขาแล้ว ถ้าไม่ติดซะแต่ว่า คำพูดจากเจ้าของเพลงค่อยๆลอยขึ้นมาในฉาก ที่ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยนะครับเนี้ยที่เจ้าของcoverพูดอย่างอื่นนอกจากประโยคนั้นกับชื่อเพลง(แม้เขาจะไม่ได้พูด แต่พิมพ์แทนก็เถอะ)

    คุณครับ ....เชื่อในรักไหมครับ ?”

    ถ้อยคำสั้นๆเพียงไม่ถึงประโยคเรียกคอมเม้นท์แสดงความคิดเห็นกันไปต่างๆนาๆ บางก็ว่าอามัวกำลังมีความรัก บางก็ว่าผู้หญิงคนที่เขาชอบรับรักเขาแล้ว แต่เจ้าของวีดีโอไม่ทั้งตอบรับหรือปฏิเสธ ใช้เพียงความนิ่งเป็นคำตอบ ผมเองก็อดใจไม่ได้จนคอมเม้นท์กับเขาบ้าง

    ขอให้คนๆนั้นชอบคุณไวๆนะครับ... ผมกดส่งคอมเม้นท์ก่อนจะเปลี่ยนไปฟังคลิปcoverของคนอื่นๆบ้าง

     

     

     

     

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×