ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ____เก็บ....'รัก' ____[Yaoi] [The End] [เปิดจอง!!!!!]

    ลำดับตอนที่ #1 : #01 นิยามของผมกับไอ้เด็กอัจฉริยะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.76K
      5
      30 ก.ค. 57

     

                                                 


                                            



                                                                     


    #01 นิยามของผมกับไอ้เด็กอัจฉริยะ

     

     

     

    'แม่ครับ อย่าไปเลยนะ' ผมยืนมองเด็กน้อยคนหนึ่งวิ่งตะโกนเรียกแม่ของตัวเอง หล่อนไม่เพียงแต่ไม่สนใจ ซ้ำยังสลัดมือน้อยๆของเด็กคนนั้นทิ้ง
             'ฉันเบื่อพ่อแกเต็มทนแล้ว วันๆทำแต่งานแต่การ ไม่เคยสนใจฉันหล่อนพูดตวาดก่อนจะก้าวขึ้นรถเก๋งที่มารอรับไป
             จากตอนนั้น ผ่านมาแล้วหกปีสินะ...

    แม่...

    "แม่!!!!!!"

    ผมสะดุ้งตัวลุกขึ้นมา แม้จะรู้ว่าเป็นเพียงความฝันแต่เพราะไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้นานมากแล้วทำให้อดไม่ได้ที่จะตกใจ เหงื่อไคลผุดขึ้นตัวทั้งตัว โอเคผมเชื่อแล้วแหละ ต่อให้แอร์ในห้องแค่20องศาก็ยังเหงื่อออกได้อยู่ดี 

    ผมลุกขึ้นจากเตียงสองชั้น ก่อนจะใช้บาทาเขี่ยๆผ้าปูที่นอนไปขยุ้มๆกับผ้าห่ม แล้วไต่บันไดลงมาจากเตียงด้านบน(ผมนอนกับพี่สาว แต่หล่อนย้ายไปอยู่กับสามีชาวต่างชาติได้สักพักแล้ว)

    ชุดนร.ถูกรีดแบบลวกๆเพราะเข็มสั้นของนาฬิกาที่ชี้ไปเลขเจ็ดแล้วก่อนผมจะรูดบ็อกเซอร์ออกจากตัว กองไว้กับพื้นแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไป เป็นผู้ชายก็ดีตรงนี้แหละ ตักน้ำจวกๆ ถูสบู่ ราดน้ำอีกครั้งเป็นอันเสร็จพิธี(หน้าค่อยไปล้างที่โรงเรียนเอา ตอนนี้รีบ โอเค๊)

    ผมแต่งตัวลวกๆเหมือนตอนรีด คว้ากระเป๋านร.ได้ก็ตรงดิ่งออกไปนอกบ้าน มีสิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อคือ ต่อให้เสื่อผ้าของผมจะยับยู่ยี้ขนาดไหน ไงๆก็มีคนยับกว่า

    ภาพเด็กผู้ชายคนหนึ่งปรากฏขึ้นในหัว มันชื่อปกป้อง ชื่อเล่นมันผมไม่ทราบ(และไม่อยากรู้) มันเป็นพวกโลกส่วนตัวสูงพอๆกับเปรตวัดสุทัศน์ชอบทำอะไรคนเดี่ยว 

    โดยร่วมคือมันสกปรกครับ(ในสายตาของผมกับคนอื่นๆในห้อง) เสื่อผ้าเหมือนไม่เคยผ่านเตารีด ไหนจะรูปร่างหน้าตาอีก(จะว่ายังไงดี คือแบบ ... เอาเป็นว่าหน้าตามันไม่สามารถดึงดูดใครๆได้อ๊ะครับ) แถมนิสัยก็กระเดี๊ยดไปทางพวกตุ๊ดเกย์ซะเหลือเกิน(นิ่ง เงียบ ดูหยิ่งๆ ฟุตบอลก็ไม่เคยเล่น) ผมเลยรู้สึกไม่ค่อยอยากจะเสวนาสักเท่าไหร่หรอก ร่วมทั้งเพื่อนในห้องด้วย มันเลยดูเหมือนพวกผมแบนมันนะ แต่จริงๆคือก็แค่เฉยๆอ๊ะครับ

    ไม่เกลียด แต่ก็ไม่อยากยุ่ง...

    นี้คงเป็นนิยามส่วนตัวของผม ที่มีต่อเพื่อนร่วมห้องคนนี้

    "ไปโรงเรียนเพลินจิตวิทยาครับ"ผมบอกพี่วินมอไซร์ก่อนจะโดดซ้อนท้าย 

    คุณๆก็คงรู้ดี พี่วินไทยขับไวไม่แพ้ชาติใดในโลกไม่ถึงสิบห้านาทีเศษผมก็มาถึงเพลินจิตฯ

    ผมใส่เกียร์หมาวิ่งเข้าประตูเล็กทันก่อนลุงยามจะปิด เยสซุปเปอร์เซฟ!!ถ้าช้ากว่านั้นนันหมายถึงตูดของคุณจะได้รับการทักทายจากบราเทนเดอร์หัวหน้าระดับ ที่เด็ดสุดคือโดนตีกลางห้องประชุมโชว์เพื่อมร่วมชั้น(เพราะงั้นวันไหนที่สายจริงๆผมจะยอมหยุด ดีกว่ามาสายแล้วโดนตีตูดประจานเพื่อน)

    ...

    .

    .

    "มิสเตอร์ ก้องเกียรติ"

    "มาครับ" ผมขานรับก่อนยกมือให้มิสปราณีเห็นแล้วฟุบตัวลงไปนอนกับโต๊ะไม้ต่อ คาบนี้เรียนอังกฤษครับ บอกเลยว่าโคตรง่วง

    "คาบนี้ครูจะประกาศคะแนนสอบกลางภาคที่ผ่านมานะค่ะ สำหรับคนที่ตกขอให้คัดบทกวีของบุคคลในประวัติศาสตร์ท่านใดก็ได้มา 50จบ อ้อ ตัวเขียนเท่านั้นนะ!!!"

    "เชรี้ยเอ๊ย ตัวเขียนห้าสิบจบ" ไอ้บอล เพื่อนซี้ตัวกลมที่นั่งข้างๆกันกับผมสถบ มันรู้ตัวดีอยู่แล้วว่ายังไงก็ไม่ผ่านส่วนผม50/50เพราะในคาบหลับอาศัยเลกเชอร์เอาเลยทำได้บ้างไม่ได้บ้าง มั่วก็มี

    "มิสเตอร์ ก้องเกียรติ"

    "ครับ" ผมตุ้มๆต้อมๆนั่งฟังคำตัดสินชะตาชีวิต ส่วนไอ้เบลเริ่มเสิร์จหาบทกวีแล้วเพราะมันได้6เต็ม20

    "9.5ปัดเป็น10"

    "โหไอ้เวร" ไอ้เบลหันมาสถบใส่ผมเบาๆที่ไม่ยอมตกเป็นเพื่อนมัน ผมยักคิ้วกวนตรีนกลับ 

    "มิสเตอร์ปกป้อง"

    "....."

    "มิสเตอร์ปกป้อง absence ? "

    เพิ่งรู้สึกตัวเหมือนกับครับว่าที่นั่งเดี่ยวๆริมประตูวันนี้ ไร้เงาของมัน มิสปราณีทำหน้าตกใจ ก็อย่างว่าครับไอ้ปกป้องมันเป็นเด็กเรียน ผมจำได้ว่าขนาดวันหลังกีฬาสีมันยังมาเรียน ทั้งๆที่เพื่อนหยุดกันเกือบยกห้องเพราะงั้นการที่มันไม่มาเลยผิดปกติไป

    "ฝากบอกด้วยว่าเขาได้20วิชาครู"มิสปราณีแจ้งไว้กับไอ้ป็อก หัวหน้าห้องคนปัจจุบัน

    ที่เขาบอกว่าคนบ้ากับอัจฉริยะมีเส้นบางๆกั่นไว้อยู่ถ้าจะจริง เพราะผมเห็นมันหลับๆตื่นๆแต่ก็ยังสอบผ่านเสมอ ต่ำสุดของมันคือ14ไม่เคยน้อยกว่านั้น

    ทำไมผมไม่เกิดมาหัวไวแบบมันมั่งนะ?

    ผมส่ายหน้าไล่ความคิดในหัว ทำไมผมต้องเปรียบเทียบด้วยเนี้ย

    มันก็คือมัน ผมก็คือผม

    ไม่เกี่ยวข้องกันเลย...

    ผมฟุบตัวลงไปกับโต๊ะอีกรอบ ตำแหน่งที่ผมนั่งคือหลังห้องขวามือ เพราะงั้นเวลาฟุบลงไปก็จะมองเห็นตำแหน่งตรงกันข้ามก็คือซ้ายมือหน้าห้องนั้นเอง

    .....ที่ๆวันนี้ ผมเห็นเพียงโต๊ะสีชาแต่ไร้เงาเจ้าของโต๊ะ

    ..

    "พรุ่งนี้อย่าลืม เรามีนัดสอบเทสย่อยกันเรื่องกัณฑ์พระนางมัทรี อย่าลืมไปอ่านกันนะ"

    "นักเรียนทั้งหมด ทำความเคารพ"

    "ขอบคุณครับ"

    ไอ้พวกลิงทโมนในห้องประสานเสียงขอบคุณมิสอริสราก่อนต่างคนจะต่างแยกย้ายกัน บ้างก็ไปเรียนพิเศษ บ้างก็ไปเตะบอล ส่วนผม...

    "ไอ้เหรี้ยเกียร์ไปกันๆ สาวๆรออยู่"

    ไอ้อู๋ เพื่อนซี้ผมอีกคนที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไปตะโกนเรียกผมพยักหน้ายิ้มให้มัน

    เรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมแก้เบื่อของผมเลยก็ได้ครับ นัดบอดกับสาวคอนแว่นโรงเรียนฝั่งตรงข้ามเนี้ย(ใครใช้ให้ผมติดชายล้วนล๊ะ?หึหึ)ผม ไอ้อู๋ ไอ้เฟรม สามคน พวกผมถูกเรียกว่าสามทหารเสือที่มีสาวๆหลายคนอยากลองของซึ่งผมก็จัดการสนองถึงพริกถึงขิง อยากได้ท่าไหนก็จัดไป

    วันนี้เองก็เป็นเหมือนเช่นทุกวันมีสาวๆอยาก'ลองของ'เช่นเคย

    "มึงนัดไว้กี่คนว่ะ?"

    ผมถามมันระหว่างนั่งรอ

    "สี่คน"

    "อ้าว พวกเรามีกันสาม"

    ไอ้เฟรมแย้ง ไอ้อู๋ยิ้มก่อนจะอธิบาย

    "กูขอสองเอง"

    "สัส นี้ก้าวหน้าไง"

    ผมแซวมันคืนก่อนจะปาทิชชู่ใส่หน้ามัน

    "มึงไม่ลองมั่งว่ะ มันส์นะมึงทั้งหน้าทั้งหลัง"

    "ไม่อ๊ะ กูไม่ถนัด"

    "เห้ยๆ นั้นไงๆ มาแล้วๆ"

    ไอ้เฟรมว่าก่อนพวกสาว ๆจะมาถึงพอดี

    "รอนานมั้ยค่ะ?"

    เสียงใสๆของคนที่เดินนำหน้าทักมา พวกผมส่ายหัวกันเป็นทิวแถว จากนั้นก็เหมือนเดิม โอโจ้ด้วย เอ๊ย ไม่ใช่!!! พวกเราก็นั่งกินไอศกรีมกันไป คุยเรื่องสัมเพเหระก่อนที่จะค่อยๆต้อนหมากเข้ามุม

    "เดี่ยวไปอ่านหนังสือกันที่ห้องผมนะ"

    ไอ้เฟรมพูด สาวๆเองก็พยักหน้าน้อยๆตอบรับพวกหล่อนเองก็เดินเกมอย่างฉลาดแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าพวกผมชวนไปต่อที่ห้องคืออะไร(ชวนไปตีปังย่ามั่งครับ)

    นั่งรถแท็กซี่ไปไม่ถึงสิบหน้าที่ก็ถึงบ้านไอ้อู๋ พอถึงที่หมายแล้วต่างคนก็ต่างแยกย้ายครับ อู๋ควงน้องเปิ้ลน้องโอขึ้นห้องไป ไอ้เฟรมก็ชวนน้องปิงไปอ่านหนังสือในห้อง ส่วนผมก็ปั้นหน้ายิ้มให้น้องเหมี่ยว

    "ขึ้นไปนั่งเล่นข้างบนกัน" ผมพูดเสียงใสอารมณ์ดี ก่อนเธอจะยอมเดิมตามเกมของผมขึ้นไปบนห้อง ผมนั่งคุยสักพักก่อนจะค่อยๆลูบแผ่นหลังขอเธอ

    "บ้า เกียร์จะทำอะไรอ๊ะ" หล่อนตีหน้าซื่อไร้เดียงสา ผมยิ้มให้ก่อนจะค่อยๆดันหล่อนลง เสื้อนร.ตัวนอกที่หลุดร่วงลงพื้นห้องเป็นสัญญาณให้ผมเริ่มต้นเกม...

     

    ...

    สองยกผ่านพ้นไป ผมยืนตัวเปล่าอัดนิโคตินเข้าปอดอยู่ริมหน้าต่างฟังเสียงหล่อนสะอื้น

    ก็ไม่เข้าใจว่าหล่อนจะร้องทำไม?ในเมื่อก็รู้ตั้งแต่แรกว่านัดมาเพื่ออะไร เพราะงั้นเวลาเจอแบบนี้ผมจะหงุดหงิดนิดหน่อยผมมันพวกขี้รำคาญ

    พออัดนิโคตินเข้าปอดจนหนำใจ ผมขยี้ดับไฟบุหรี่เข้าที่ริมหน้าต่างก่อนจะถอดถุงยางออกจากตัว

    บอกตรงๆว่าหมด'รมณ์อีกอย่าง ผมหิวข้าวแล้วด้วย กลับบ้านคงดีกว่า

    ผมใส่เสื้อผ้าลวกๆปล่อยหล่อนไว้บนเตียง เดี่ยวพวกไอ้อู๋ก็จัดการพากลับบ้านกลับช่องเองครับมันมีรถยนต์นะน่ะ ส่วนผมมันจนมี
    แค่cbrแต่ขับเฉพาะวันหยุดนะครับ โรงเรียนผมนอกจากพวกเด็กเส้นกับพวกกรรมการนร.แล้วหมดสิทธิ์ครับ

    ผมเดินไปเคาะห้องบอกพวกมันก่อนจะบุ้ยปากเป็นเชิงว่าฝากจัดการด้วย จากนั้นโบกแท็กซี่เอา

    "ไปซอยอรุณ16ครับ" คนขับวัยกลางคนพยักหน้าเข้าใจก่อนรถจะเคลื่อนที่ออกไป

    โดยที่ผมไม่รู้เลยว่าอะไรบ้างอย่างกำลังรอผมอยู่...

    แสงไฟที่สาดส่องจากในตัวบ้านบอกผมว่าวันนี้พ่อกลับบ้านปกติพ่อชอบค้างที่บริษัทหรือไม่ก็สัมมนาที่ต่างจัดหวัด แต่สิ่งที่สะกิดใจของผมคือรองเท้าส้นสูงคู่หนึ่ง

    ของใคร ?

    ผมสาวเท้าเดินผ่านไปถึงห้องนั่งเล่น พ่อของผมนั่งอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง หล่อนยิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตร เพียงแต่ ผมรู้สึกไม่ดีเอาซะเลย

    "อ้าว เจ้าเกียร์มาพอดี คุณครับนี้ลูกชายของผมชื่อเกียร์"ผมยกมือไหว้หล่อนตามมารยาท หล่อนยกมือรับไหว้ก่อนจะหันไปมองพ่อผม

    "แกดูน่ารักดีนะค่ะ คงเข้ากันได้กับตาป้อง"หล่อนปิดปากหัวเราะเบาๆกับพ่อผม

    นี้ตกลงคืออะไรครับ

    "มัวแต่หัวเราะเพลิน ผมลืมแนะนำตัวให้คุณเลยเกียร์นี้คุณลีลาวดี....แม่ใหม่ของลูก"

    ผมนั่งนิ่งเงียบช็อก เพราะไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดี ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังแสดงสีหน้าแบบไหน แต่เหมือนฟ้าผ่าซ้ำอีกครั้งเมื่อพ่อผมพูดต่อ

    "นับตั้งแต่วันนี้ คุณลีลาวดีเข้าจะมาอยู่กับเรา พร้อมกับ..."

    "แม่ครับ ผมจัดห้องเสร็จแล้วน...เกียร์!!!!"

    "ปก...ป้อง"

    ผมนั่งค้างกลางอากาศ ช็อกพอๆกับมันที่เห็นหน้าผม

    "อ้าว รู้จักกันเหรอ งั้นก็ดีกันไว้นะ เราสองคนก็นอนห้องเดี่ยวกันไปนะ"

    "ไม่!!!! ผมไม่ยอม ผมไม่อยากมีแม่ใหม่ พ่อลืมแม่ของเราไปแล้วเหรอครับ พ่อทำแบบนี้ได้ไง"

    ผมตวาดลั่นปัดแก้วน้ำตกลงแตกกับพื้น พ่อมีสีหน้าตกใจกับการกระทำของผม 

    ผมหนีปัญหาด้วยการเดินหนีออกไปผลักร่างของไอ้ปกป้องที่ยังทำหน้างงๆออกไปก่อนจะวิ่งขึ้นชั้นบนล็อกห้องนอนตัวเองไว้

    ถ้านิยามของเมื่อตอนเช้าที่ผมมีให้มัน คือเฉยๆและไม่อยากยุ่ง คำนิยามของผมที่มีต่อมันตอนนี้คงต้องเปลี่ยนไป

    ผมเกลียดมัน

    ผมเกลียดทุกคน เกลียดทุกสิ่ง เกลียดทุกอย่างที่คิดจะมาพรากความรักที่มีต่อแม่ของพ่อผมไป

    ตราบใดที่พวกมันยังคิดจะอยู่ในบ้านของผมอย่าหวังเลยว่าจะมีความสุข!!!


     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×