คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : สับสน
วันนี้เป็นการสอบของนักศึกษาแพทย์ปีที่หนึ่ง ยุนอาที่เฝ้าอ่านหนังสือมาทั้งคืนก็กำลังนั่งท่องตำราที่เพื่อเตรียมตัวอีกรอบ และเพื่อรอสองเพื่อนซี้ที่ยังไม่มาด้วย แต่ก็เหมือนมีใครสักคนมานั่งตรงข้าม ยุนอาจึงเงยหน้าขึ้นก็พบว่าเป็นรุ่นพี่ทิฟฟานี่ ที่นั่งหน้ายิ้มตาปิดมาทางยุนอา
“พี่ทิฟฟานี่มีอะไรกับยุนหรือเปล่าคะ?”
“เปล่าหรอกจ๊ะ เห็นน้องยุนนั่งหน้ามุ่ยอยู่ ก็เลยจะถามว่ามีเรื่องอะไรให้พี่ช่วยไหม?” ยุนอายิ้มตอบทันทีหลังจากได้ยินประโยคนั้น เพราะกำลังสงสัยในเนื้อหาวิชานี้อยู่พอดี ถ้าได้พี่ทิฟฟานี่ช่วยติวก็น่าจะเข้าใจได้ง่ายๆ หลังจากนั้นทิฟฟานี่ก็นั่งติวให้กับยุนอา การกระทำของทั้งสองอยู่ในสายตาของเจสสิก้าตลอด
“แหมอิมยุนอา ทำเป็นออกจากบ้านก่อนเพราะจะมาให้พี่ฟานี่ติวงั้นเหรอ จ้างให้ก็จีบพี่ฟานี่ไม่ติดหรอก” เจสสิก้าบ่นงึมงำๆคนเดียวโดยที่สายตาก็ยังไม่เลิกมองสองคนที่กำลังติวหนังสือให้กัน
“น้องสิก้า บ่นอะไรคนเดียวคะเนี่ย?” พอหันมามองตามเสียงที่พูดก็พบกับ รุ่นพี่แทยอน เจสสิก้าลมแทบจับเพราะออร่าความน่ารักของแทยอนทำเอาเคลิ้มเลยทีเดียว หลังจากที่ไปกินเค้กด้วยกันครั้งก่อนก็ไม่ได้คุยกับพี่แทยอนเลย ทำให้ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันนะ
“พี่แท สิก้าไม่ได้บ่นอะไรสักหน่อยนี่คะ”
“เหรอฮ่าๆๆ น้องสิก้าน่ารักจังเลยนะวันนี้”
“อะไรนะคะ?” แทบไม่อยากเชื่อ พี่แทยอนชมว่าเราน่ารักโอ๊ย เจสสิก้าเขินค่าๆๆๆ
“พี่ชมน้องสิก้าอยู่ค่ะ ว่าแต่นั่งมองอะไรอยู่เหรอคะ?” แล้วแทยอนก็หันมองตามทิศที่เจสสิก้ามองก่อนหน้านี้ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าใครคือคนที่ตัวเองกำลังมองอยู่ สายตาแทยอนดูหม่นลงทันทีที่เห็นยุนอาและทิฟฟานี่ที่ติวกันอยู่ ซึ่งเจสสิก้าที่ไม่สังเกตเห็นเพราะไม่นานแทยอนก็กลับมายิ้มเหมือนเดิม
“นั่นมันน้องยุนอานี่ ดังเหมือนกันนะเนี่ย เห็นมีคนชอบเยอะ”
“อิมยุนอานะเหรอคะคนชอบเยอะ เว้นสิก้าไว้คนละกัน” เจสสิก้าพูดก่อนจะหันกลับมานั่งอ่านหนังสือในมือต่อทันทีโดยไม่สนใจอีกฝั่ง
“สิก้าไม่ชอบยุนอาเหรอ?”
“ไม่ชอบค่ะ และจะไม่ชอบด้วย” พูดอย่างเอาแต่ใจก่อนจะอ่านหนังสือต่อไป ส่วนแทยอนก็ได้แต่มองทั้งคู่ต่อไปพร้อมกับความรู้สึกแปลกๆที่เกิดขึ้น
‘สายตาแบบนั้นของฟานี่ ทำไมพี่ไม่เคยเห็นเลย’
นี่ก็เกือบจะได้เวลาสอบอยู่แล้ว ยุนอาที่นั่งติวกับทิฟฟานี่ก็เข้าใจเนื้อหาส่วนตรงนี้หมดแล้ว ร่างสูงทำได้แค่ขอบคุณรุ่นพี่คนสวยเท่านั้นที่ทำให้คนเข้าใจยากอย่างยุนอาสามารถเข้าใจเนื้อหาตรงนี้ได้
“พี่ทิฟฟานี่ เก่งจังเลยนะคะ ทำให้ยุนเข้าใจตรงนี้ง่ายๆเลย” ทิฟฟานี่หัวเราะทันทีที่ได้ยิน จริงๆเนื้อหาตรงนี้ถ้าไม่จับจุดให้ถูกล่ะก็อาจจะงงไปมากกว่านี้เลยก็ได้
“น้องยุนเองก็เก่งเหมือนกันนะ เพราะพี่พูดนิดหน่อยน้องยุนก็เข้าใจแล้ว”
“เรียกยุนว่ายุนเฉยๆเถอะค่ะ พี่ทิฟฟานี่”
“งั้นก็เรียกพี่ว่าพี่ฟานี่สิคะ” ยุนอาอมยิ้มก่อนจะพยักหน้าให้กับทิฟฟานี่ ทั้งสองหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน พอดีกับที่ซูยองและยูริเดินมา
“อันยองค่ะพี่ทิฟฟานี่” ทั้งสองพูดพร้อมกัน ทิฟฟานี่เองก็ได้แต่ยิ้มรับเท่านั้น
“งั้นทั้งสามคนไปเข้าสอบเถอะเดี๋ยวไปสอบไม่ทันนะ”
“พวกเราเข้าทันแน่ๆค่ะ อาจจะเว้นบางกลุ่มที่เข้าไม่ทัน” ยูริว่าก่อนจะนำให้ทุกคนหันมองตามไปก็เจอเข้ากับกลุ่มของเจสสิก้า ที่ตอนนี้ซันนี่และซอฮยอนมาพร้อมกันหมดแล้ว และก็มีอีกหนึ่งคนที่ยุนอาจำได้แม่น มั่นมันพี่แทยอนนี่นา
“อ๋อ นั่นพี่แทยอนนี่ เห็นคุยกับเจสสิก้าก่อนที่พวกยัยเตี๊ยจะเดินไปแล้ว” ซูยองบอกเพราะตอนเดินมาหายุนอาก็เห็นแทยอนนั่งคุยอยู่กับเจสสิก้าอยู่แล้ว
“สงสัยจะจีบยัยนั่นแหล่ะมั้ง ?” ยูริว่าก่อนจะสะกิดเรียกยุนอาและซูยองที่มองอยู่ว่าควรจะไปสอบได้แล้ว
“เหอะๆ พี่แทยอนคิดดีแล้วหรือไงนะ จะจีบเจสสิก้า?” ยุนอาว่าก่อนจะมองไปยังกลุ่มนั้นอีกรอบ
“สงสัย ฮ่าๆๆ เราไปสอบเถอะ ไปนะคะพี่ทิฟฟานี่” ซูยองเป็นคนกล่าวลาก่อนที่ทั้งสามคนจะเดินขึ้นตึกไป แต่ใครบางคนยังนั่งที่เดิมมองอยู่ที่เดิม ทิฟฟานี่รู้สึกเจ็บอยู่นิดๆที่แทยอนสนิทสนมกับเจสสิก้า แต่จะให้ทำยังไงในเมื่อคนที่ทำให้ตัวเองเป็นแบบนี้ก็คือตัวทิฟฟานี่เอง
‘ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ฟานี่จะไม่พูดกับพี่แทเหมือนอย่างวันนั้น’
การสอบสิ้นสุดลง ยุนอา ยูริและซูยองจึงนัดกันว่าจะไปซ้อมเต้นที่ชมรมเสียหน่อยเพราะรุ่นพี่ฮโยยอนบอกว่าไม่ค่อยเห็นทั้งสามเข้าชมรมเลย วันนี้ได้โอกาสขอเข้าไปซ้อมหน่อยแล้วกัน
“นี่ฉันได้ข่าวมาว่า จะมีการออกค่ายของนักศึกษาปีหนึ่งอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า พวกเราไปดีไหม?” ซูยองพูดในขณะที่กำลังยืดกล้ามเนื้ออยู่ ซึ่งก็สร้างความสนใจให้กับเพื่อนที่เหลืออีกสองคนทันที
“ก็น่าสนนะ ฉันก็เบื่อๆบ้านเหมือนกัน” ยุนอาบอกก่อนจะนึกถึงเจสสิก้า ถ้าหาเรื่องไม่อยู่บ้านได้ก็น่าจะดี
“งั้นตกลงเราไปกันหมดนะจะได้บอกกับประธานรุ่นไปเลย” ทั้งยูริและยุนอาก็พยักหน้ารับโดยทั้งสามคนนั้นไม่รู้เลยว่าได้ตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่แล้ว
.
.
.
.
“เรียบร้อยแล้ว” ซอฮยอนบอกก่อนจะจัดการเก็บเครื่องสื่อสารของตัวเองเข้ากระเป๋า
“ในที่สุดเราก็จะได้ไปออกค่ายกัน แต่ฉันไม่คิดมาก่อนเลยนะว่าเธอก็สนใจเหมือนกันสิก้า”
“อะไรที่ทำให้ฉันไม่ต้องอยู่บ้าน ฉันทำหมดแหล่ะ” เจสสิก้าพูดเบื่อๆก่อนจะเดินไปหาทิฟฟานี่เพื่อทำการซ้อมประกวดดาวเดือนมหาลัยต่อไป ส่วนซันนี่และซอฮยอนก็มองตามเพื่อนของตัวเองไป
“ทำไมสิก้าดูเบื่อๆบ้านแบบนั้นนะ”
“คงไม่ใช่ว่ามีเรื่องที่บ้านหรอกนะ” ทั้งสองคุยกันและมองไปทางเจสสิก้าที่เดินไปรวมกลุ่มกับบรรดารุ่นพี่ที่ดูแลเรื่องการประกวดดาวเดือนมหาลัย
“นี่เหรอน้องเจสสิก้าจากคณะแพทย์ น่ารักๆพอๆกับน้องซูจีจากคณะพี่เลยนะ”
“แน่นอนค่ะพี่โจควอน ยังไงคณะแพทย์เราก็ต้องคัดน้องที่มีความเหมาะสมอยู่แล้ว” ทิฟฟานี่บอกกับชายหนุ่มที่ดูไม่ค่อยเหมือนชายเท่าไรในความคิดของเจสสิก้า
“ยังไงก็เอาใจช่วยนะน้องฟานี่ เพราะปีนี้คณะบริหารของพี่ก็ไม่ยอมเหมือนกันนะ เพราะปีที่แล้วชนะฟานี่แค่คะแนนเดียวทำเอายัยกยูริติวเข้มเลยล่ะฮ่าๆๆ” เจสสิก้าที่มองรุ่นพี่ทั้งสองคุยกันก็ดูจะงงๆ ทิฟฟานี่เห็นดังนั้นจึงอธิบายให้เจสสิก้าฟัง
“คือปีที่แล้วตัวแทนคณะบริหารได้ตำแหน่งดาวมหาลัยที่หนึ่งน่ะ ซึ่งคนประกวดก็คือ กยูริ แต่เขาชนะดาวคณะเราแค่คะแนนเดียวเองนะ”
“น่าเสียดายมาก ไม่งั้นน้องฟานี่ก็ได้เป็นดาวมหาลัยไปแล้ว ฮ่าๆๆ” โจควอนยังคงหัวเราะส่วนทิฟฟานี่ก็ได้แต่ยิ้มเท่านั้น เจสสิก้าอ้าปากค้างทันที ก็รู้อยู่นะว่าปีที่แล้วทิฟฟานี่ได้แค่ตำแหน่งดาวมหาลัยอันดับสอง แต่ไม่คิดว่าจะแพ้ด้วยคะแนนที่น่าฉิวเฉียดขนาดนี้
“ยังไงปีนี้ก็ฝากสิก้าด้วยนะ แก้แค้นให้พี่ที” ทิฟฟานี่พูดติดตลก ก่อนจะหันไปหัวเราะกับโจควอน เจสสิก้าก็ยิ้มบางๆให้เท่านั้น
“เอาเป็นว่าเรามาสู้กันให้มันส์หยดเลยนะคะคุณน้อง” โจควอนว่าก่อนจะเดินจากไป เจสสิก้าก็ได้แต่มองตามไปเท่านั้น
“สิก้าเดี๋ยวพี่มานะรออยู่ตรงนี้แหล่ะ ถ้ามินโฮมาก็บอกให้รอที่นี่เหมือนกันนะ”
“ค่ะ พี่ฟานี่” แล้วทิฟฟานี่ก็เดินออกไปด้านนอกที่เห็นเหมือนเงาของใครแวบๆสักครู่ที่มองมาทางเธอและเจสสิก้า
“พี่แทใช่ไหมคะ ฟานี่รู้นะ?”
“ฟานี่รูทันพี่ตลอดเลยนะคะ” แทยอนเดินออกมาจากมุมตึก ก่อนจะยิ้มให้กับทิฟฟานี่ที่ยืนรออยู่แล้ว
“พี่แทมีอะไรหรือเปล่าคะ ถ้าอยากให้กำลังใจสิก้ามากก็ไม่ต้องหลบหรอกค่ะ”
“เหรอ งั้นต่อไปพี่จะเดินไปหาสิก้าเลย ฟานี่ก็ไม่ว่าอะไรพี่ใช่ไหม?” แทยอนมองหน้าทิฟฟานี่เล็กน้อยก่อนจะเดินตรงไปหาเจสสิก้าที่ยืนอยู่คนเดียว
“อยากทำอะไรก็เชิญ เพราะไม่เกี่ยวกับฟานี่อยู่แล้ว” ตะโกนไล่หลังไปหวังว่าคนที่เดินนำหน้าไปจะได้ยิน แต่แทยอนเดินไปถึงตัวเจสสิก้าแล้ว
“น้องสิก้า เหนื่อยไหมคะ?” แทยอนยิ้มถามทำเอาเจสสิก้าเขินไม่น้อย ยิ้มให้ไม่เท่าไร นี่มีถามด้วยว่าเหนื่อยไหม น่ารักเกินนนนไปแล้ว
“นิดหน่อยค่ะ วันนี้แค่ซ้อมเอง สิก้าไม่เหนื่อยมากหรอกค่ะ” บทสนทนาชวนเลี่ยนของทั้งคู่เข้าหูของคนที่เดินมาพอดี ทิฟฟานี่หลบสายตาแทยอนก่อนจะหันไปหาเจสสิก้า
“สิก้า!! ถ้าคุยกันเสร็จเมื่อไรก็ตามมาละกัน พี่จะไปรอหน้าเวที” พูดเสร็จก็เดินหนีไปทันที ทำเอาเจสสิก้าที่ตามอารมณ์รุ่นพี่ไม่ทันถึงกับงง
“สิก้าทำไรผิดหรือเปล่าคะ? พี่แท”
“ไม่หรอก ฟานี่เขาคงเหนื่อยน่ะ สิก้าไปเตรียมตัวหน้าเวทีเถอะ” แล้วแทยอนก็เดินหนีไปอีกทางเหมือนกัน ตอนนี้คนที่ดูเหมือนจะเป็นคนกลางอย่างเจสสิก้าก็ถึงกับงงรอบสอง พี่แทยอนกับพี่ฟานี่ต้องมีอะไรปกปิดแน่ๆเลย สงสัยต้องสืบซะแล้ว
หลังจากซ้อมเต้นกันจนเป็นที่พอใจ ยุนอา ยูริและซูยองก็เดินออกมาจากชมรม ทั้งสามเดินเล่นกันมาตามทางเดิน ก็เป็นซูยองที่สังเกตเห็นอะไรผิดปกติตรงพุ่มไม้จึงสะกิดให้ยูริและยุนอาดู ทั้งสามมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าเบาๆเป็นอันรู้กันว่า ต้องจัดการ!!
“นี่พวกเธอ เป็นโรคจิตหรือไง? มาแอบมองคนอื่นเนี่ย ห๊า” ยูริที่เดินตรงมายังพุ่มไม้แล้วจงใจตะโกนออกไปแบบนั้นก็ทำให้บุคคลทั้งสองที่แอบอยู่ถึงกับตกใจ
“ฉันปล่าวนะ แค่มีเรื่องอยากจะให้ช่วยนิดหน่อย” สองสาวนิรนามบอกเลิกลั่กก่อนที่ยูริจะหรี่ตามองอย่างจับผิด
“จะให้ช่วยอะไร? บอกมาเซ่!!” ซูยองที่ยืนมองอยู่ก็ไม่เข้าใจว่ายูริมันจะขึ้นเสียงดังใส่สองสาวนั่นทำไม หรือมันจะเต้นจนเบลอ
“ช่วยรับรับของนี่ด้วยนะคะ” แล้วทั้งสองก็วิ่งหนีไป ยูริหยิบถุงกระดาษที่ถูกยื่นใส่มือมาดูก็พบเข้ากับคุ๊กกี้หลากรสในกล่องใสนั่น จึงเดินกลับมารวมกลุ่มกับอีกสองคนที่เหลือ
“มีการ์ดด้วยๆ ถึงยุนอา เธอคงจะเหนื่อยมากสินะกับการสอบ หวังว่าคุกกี้ของฉันจะทำให้เธอหายเหนื่อยได้นะ จากจียอน” ยูริที่อ่าการ์ดเสร็จก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ทันที
“เห็นไหม จียอนน่ะชอบแกชัวร์ๆ ฉันไม่มั่วอยู่แล้ว” ยุนอาหยิบกล่องคุกกี้ออกมาแล้วมองอย่างเหนื่อยใจ ตัวเองไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับจียอนสักหน่อย ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้จะดีแล้วเหรอ?
“เอาน่า ดูไปเรื่อยๆ อย่าคิดมาเพื่อน” ยุนอามองเพื่อนทั้งสองอีกครั้งก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ เธอก็แค่หวังว่าจะไม่ทำให้จียอนเสียใจมากหรอกนะ ถ้าบอกความจริงไป
หลังจากการซ้อมประกวดดาวเดือนมหาลัยเสร็จสิ้น เจสสิก้าก็ตรงกลับบ้านตระกูลอิมทันที การซ้อมวันนี้ทำให้เธอหัวเสียไม่น้อย แล้วไหนจะทิฟฟานี่ที่ดูอารมณ์ไม่ค่อยดี แล้วจะยังแทยอนที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย สรุปรุ่นพี่ของเธอทั้งสองเป็นอะไรกันไปหมด แค่คิดก็หงุดหงิดละ หันมองในบ้านก็ไม่เห็นแม่บ้านสักคน เห็นแต่ส้นเท้าของใครบางคนที่นอนยืดเต็มความสูงอยู่บนโซฟา ถุงเท้าและรองเท้าที่กระจายอยู่ข้างๆตัว เจสสิก้าเห็นแล้วกลับรู้สึกหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
“อิม ยุนอา ตื่นเดี๋ยวนี้นะ”
“หืม? อะไรของเธอ” งัวเงียตื่นขึ้นมานั่ง ก่อนจะหันไปมองให้ชัดก็เห็น เพื่อนร่วมบ้านยืนกอดอกมองอยู่
“มีอะไร? ฉันซ้อมเต้นกลับมาเหนื่อยๆนะ จะทะเลาะจะอะไรไว้เป็นหลังอาหารได้ไหม” ว่าแล้วยุนอาก็ล้มตัวลงนอนต่อ เจสสิก้าที่เห็นแบบนั้นก็ปรี๊ดแตก นอกจากจะไม่ลืมตาคุย แล้วยังจะไม่สนใจกันอีกนะ แต่เอ๊ะ! นี่ฉันหวังให้คนอย่างอิมยุนอาสนใจเหรอ โอ๊ยยย หงุดหงิด
“อิม ยุนอา!!! ตื่นนะ มาคุยกันให้รู้เรื่อง”
“เรื่องอะไร” คุยทั้งๆที่หลับอยู่
“เก็บรองเท้ากับถุงเท้าให้เรียบร้อยเดี๋ยวนี้นะ ฉันไม่ชอบให้มันวางแบบนี้ มันไม่สบายตาเลย”
“ถ้าแค่เรื่องนี้ เธอก็เดินไปตรงอื่นสิ จะได้สบายหูสบายตาไง” ย้อนออกมาหน้าตาย เจสสิก้าเห็นแบบนั้นแทบอยากจะกระโดดทับ แล้วทุบให้หัวบุบเลย คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ แต่ไม่นานสายตาก็เหลือบไปเห็นถุงกระดาษและการ์ดที่วางอยู่บนโต๊ะ มือเรียวหยิบการ์ดขึ้นมาอ่านโดยไม่ขออนุญาตเจ้าของที่นอนอยู่ข้างๆเลย เจสสิก้ากวาดตาอ่านข้อความอย่างรวดเร็ว แล้วหันไปมองคนที่นอนช้าๆ
“อิม ยุนอา ตายยยยยซะ!!!” ว่าแล้วคุณหนูเจสสิก้าของเราก็ฟิวส์ขาด แถมกระโดดทับยุนอาและระดมเอาหมอนที่อยู่บนโซฟาทุบตามตัวของร่างสูง พอดีกับแม่บ้านมาเห็นก่อนทำให้แยกคุณหนูขาวีนของเราออกมาได้ เจสสิก้าเดินตึงๆขึ้นชั้นบนเพื่อเข้าห้องไป เหล่าสาวใช้ก็พากันมาดูคุณหนูอีกคนที่ตอนนี้สภาพไม่ต่างกับกวางตากแห้ง แม่บ้านที่เห็นแบบนั้นก็ไม่รู้จะขำหรือสงสารดี
บรรยากาศอาหารค่ำของบ้านตระกูลอิม เป็นไปอย่างกดดัน ยุนอาที่โดนทำร้ายร่างกายเอาแต่จ้องเจสสิก้าที่ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ทานข้าวสบายอารมณ์
“คุณยุนจะเติมข้าวไหมคะ?”
“ไม่ต้องหรอก คงจะกินคุกกี้อิ่มแล้วล่ะมั้ง?” เจสสิก้าได้ทีแขวะเข้าให้ ยุนอาที่ได้โอกาสก็ถามกลับ
“อิจฉาหรือไง?”
“เหอะๆ ฝันเถอะ” ว่าแล้วเจสสิก้าก็รวบช้อนเก็บเรียบร้อยแล้วเดินขึ้นชั้นบนไปเงียบๆ ยุนอาที่ตอนแรกกะจะกวนประสาทก็งง ไม่เข้าใจว่าจะโกรธอะไรหนักหนากะอีแค่คุกกี้
“ดูคุณสิก้าจะไม่พอใจคุณยุนอยู่นะคะ”
“นั่นน่ะสิ อะไรก็ไม่รู้” ยุนอาทานอาหารต่อเงียบๆ โดยไม่รู้ว่าคนที่เดินขึ้นไปบนห้องนั้นกำลังเครียดมากมาย
“ทำไมฉันจะต้องไม่พอใจด้วยนะ กะแค่คุกกี้ นี่ฉันอิจฉายุนอาขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” สายตาก็เหม่อมองออกไป ทั้งๆที่ทีวีก็เปิดอยู่ แต่ดูเหมือนเจสสิก้าจะไม่ได้สนใจใยดีอะไรกับละครที่เปิดขึ้นเลย
“ไม่ใช่หรอก มันไม่ใช่ความอิจฉา มันคือความรู้สึกหวง เธอชอบเขาน่ะสิ” ร่างกายกระตุกเพราะความตกใจทันทีสายตาที่ไม่ได้มองทีวีตอนแรกกลับหันกลับมาจ้องตาไม่กระพริบ
“เธอชอบเขาน่ะสิ เลิกโกหกตัวเองเถอะนะ มีจิน” ว่าแล้วนางเอกกับเพื่อนก็ร้องไห้ด้วยกันในทีวี เจสสิก้าเห็นแบบนั้นก็เกิดอาการหน้าแดงขึ้นมา บ้าเหรอ ฉันอิจฉายุนอาเฉยๆ ไม่ได้ชอบสักหน่อย
“เลิกทำแบบนี้ แล้วไปบอกเขาเถอะนะ” ตัวละครในทีวีพูดขึ้น
“ย๊า!! ฉันไม่ได้ชอบยุนอานะ” ว่าแล้วสองมือก็กดปิดละครทันที ก่อนจะมานั่งหัวเสียเพราะทีวี
“ฉันไม่ได้ชอบคนอย่างยุนอาแน่นอน คนที่ฉันควรชอบคือพี่แทยอนเท่านั้น”
ความคิดเห็น