คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ท้าทาย?
หลังจากแยกกับบรรดาน้องๆ แทยอนและทิฟฟานี่ก็มานั่งกันอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งบรรยากาศโรแมนติก แต่บนโต๊ะอาหารกลับไม่โรแมนติกด้วย เพราะทิฟฟานี่เล่นกินอย่างเดียว ไม่พูดไม่จา แทยอนเองก็เลยหงอย
“ฟานี่คะ? จะไม่คุยกับพี่บ้างเหรอ?”
“ไม่ค่ะ ฟานี่จะรีบกินรีบกลับ เดี๋ยวคุณแม่เป็นห่วง” ทิฟฟานี่นั่งทานต่อไปเงียบๆ แทยอนเองก็ไม่กล้าที่จะชวนคุยอีก ก็เจ้าตัวเขาบอกเองว่าจะรีบกินรีบกลับ แทยอนเองก็ทำได้แต่เงียบนั่งมองร่างบางตรงหน้าเท่านั้น
“พี่แทไม่หิวเหรอคะ?” แทยอนเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้งก่อนจะยิ้มอย่างมีความหวัง ทิฟฟานี่พูดคุยกับเขาแล้ว แถมยังถามกันอีกด้วยว่าหิวไหม อย่างนี้แสดงว่าเป็นห่วงกันน่ะสิ
“ถ้าพี่แทไม่หิว เรากลับกันเถอะค่ะ เพราะฟานี่อิ่มแล้ว” บอกหน้าตายก่อนจะหันหน้าไปทางอื่น แทยอนเองก็ได้แต่ก้มหน้าลงตามเดิม ไม่เข้าใจว่าทำไมทิฟฟานี่ต้องทำท่ารังเกียจกันขนาดนี้ด้วย ถึงจะไม่ชอบกันก็หน้าจะดีกับเขาบ้าง แต่นี่ไม่เลย แม้แต่จะยิ้มให้ ทิฟฟานี่ก็ยังไม่เคย สงสัยคงจะต้องตัดใจแล้วล่ะมั้ง บอกรักก็บอกไปแล้ว ทำดีเพื่อพิชิตใจก็ทำไปแล้ว แต่ผลของมันไม่เคยออกมาดีเลย คิมแทยอนคนนี้คงต้องตัดใจแล้วล่ะ
“ถ้างั้นเรากลับกันเถอะค่ะ” ทิฟฟานี่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเดินออกจากร้านไปรอที่รถโดยไม่รอแทยอนที่ยังนั่งอยู่ ความรู้สึกเจ็บลึกๆกำลังซึมผ่านหัวใจดวงน้อยๆ ไม่ว่าอย่างไร คนอย่างเขาก็ไม่มีวันเอาชนะใจทิฟฟานี่ได้ เข้าใจแล้วล่ะ
สองชีวิตที่เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกันสร้างความประหลาดใจให้คนในบ้านไม่น้อย เพราะอย่างที่รู้กันสองคนที่ชอบเถียง แขวะ จิก กัด กันเป็นประจำ วันนี้กลับเดินเข้ามาในบ้านอย่างเงียบๆ และดูคุณหนูยุนอาจะดูอารมณ์ดีซะด้วย
“คุณหนูยุน คุณหนูสิก้า จะทานข้าวกันเลยไหมคะ?”
“เธอว่าไงอ่ะ?” ยุนอาหันมาถามอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เจสสิก้าทำได้แต่แปลกใจ หมู่นี้ยุนอาดูจะแปลกขึ้นทุกวัน นอกจากจะไม่กวนประสาท แต่กลับคุยดีด้วยเฉย
“ปากเธอติดกับฉันหรือไง ถามมาได้”
“เปล่านี่ก็แค่ถ้าเธอทาน ฉันก็จะทานด้วยไง” เจสสิก้ามองยุนอาเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ของวันนี้ ยุนอาแปลกไปจริงๆด้วย
“แต่ยังไงฉันก็เห็นด้วยกับพี่แทยอนนะ การเต้นน่าจะได้เงินเยอะกว่า ไม่ต้องลงทุนมากด้วย” เจสสิก้าหันแทบจะทันที นี่ยังไม่จบใช่ไหมเนี่ย!
“อยากเต้นก็เต้นกันไปสิ ฉันไม่ทำอะไรให้ลำบากกายแบบนั้นหรอก”
“เหอะ เต้นไม่เป็นก็บอกมาเถอะ”
“นี่! ฉันเป็นพวกใช้หัวมากกว่าใช้กำลังหรอกย่ะ” เจสสิก้าเริ่มหงุดหงิด ส่วนยุนอาเองก็ดูจะไม่ยอมแพ้เหมือนกัน
“งั้นเรามาดูกัน ว่าใครจะได้เงินเยอะกว่า ระหว่างพวกเธอและพวกฉัน” โอ๊ะ!! แบบนี้เรียกท้าทายใช่ไหม สงสัยไม่เคยกินแห้ว ถึงได้กล้ามาท้าทายกัน
“ได้ อิมยุนอา แล้วเธอจะเสียใจ”
“ฉันกลัวเหลือเกินนนน” พูดประชดก่อนจะจัดการทานอาหารตรงหน้า แต่ตอนนี้เจสสิก้าชักไม่อยากร่วมวงด้วยแล้ว
“ถ้าเธอแพ้ ฉันจะได้อะไร?” เจสสิก้ายืนเต็มความสูง ก่อนจะถามขึ้นด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“ฉันยอมทำตามที่เธอสั่งทุกอย่างเลย” ยุนอาดูไม่ทุกข์ไม่ร้อน พร้อมทั้งทำหน้ากวนประสาทไปมา
“เราจะได้เห็นดีกัน ไม่กงไม่กินมันแล้วข้าว ชิ!” ว่าแล้วก็เดินขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านโดยไม่ฟังเสียงเรียกของเหล่าแม่บ้านสักคน
“เรื่องของเธอสิ ไม่กินก็อย่ากิน” เหล่าแม่บ้านต่างมองหน้ากัน เกือบจะดีกันอยู่แล้วเชียว กลับมาเหมือนเดิมอีกแล้วคู่นี้
.
.
.
.
“อ๊า!! ลืมไว้ที่คณะจริงๆด้วย” ซอฮยอนที่พยายามมองหาเครื่องมือสื่อสารที่อาจจะตกอยู่ที่ไหนสักแห่งบนรถของเธอ ก็ต้องพบว่ามันไม่มีผลเพราะเพิ่งมานึกออกว่าชาร์ตแบตไว้ข้างที่นั่งที่ประประชุมตอนแรก ทำให้ร่างบางต้องขับรถกลับมาที่มหาลัย ดีหน่อยที่เลยไปส่งซันนี่มาแล้ว ไม่งั้นได้โดนวีนแน่ๆ
สองข้างทางของถนนในตอนเย็นนั้น ผู้คนช่างดูบางตา ส่วนใหญ่จะมีแต่คนที่กำลังวิ่งเพื่อออกกำลังกายเสียมากกว่า ซอฮยอนขับรถไปเรื่อยๆ ไม่ได้รีบร้อนอะไรทำให้ซึมซับบรรยากาศรอบข้างเข้าไปโดยไม่รู้ตัว
“เอ๊ะ! นั่นยูริจอมเกเรนี่” ขับรถไปได้สักพักก็พบกับร่างที่คุ้นเคยอยู่ริมถนน ยูริที่อยู่ในชุดลำลองเพื่อเตรียมวิ่งออกกำลังกาย กำลังนั่งทำอะไรก็ไม่ทราบได้อยู่ริมถนน
“นี่พวกแก อย่าแย่งกันสิเอามาตั้งเยอะจะแย่งกันทำไม?” ร่างสูงเอ่ยปนบ่นลูกสุนัขสองสามตัวที่แย่งกันกินข้าวที่ตัวเองซื้อมา ยูริมาวิ่งออกกำลังกายที่นี่เป็นประจำเลยมักมีอะไรติดไม้ติดมือมาฝากเจ้าพวกนี้อยู่เสมอ
“นี่แม่พวกแกไปเที่ยวตรงมุมตลาดอีกล่ะสิ” พูดกับลูกสุนัขเหมือนว่ามันจะเข้าใจ ยูริส่ายหน้าไปมาก่อนจะลุกยืนเต็มความสูงแล้วเดินหน้าวิ่งออกกำลังกายต่อไป ไม่นานร่างสูงๆของอีกคนก็ออกมาจากมุมรั้วของมหาลัยที่ตัวเองยืนหลบอยู่ ซอฮยอนเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ไม่คิดว่ายูริจะมีมุมแบบนี้ด้วย
“ก็เป็นคนดีเหมือนกันนี่นา” บอกกับตัวเองก่อนจะเดินมาเล่นกับลูกสุนัขที่ตอนนี้กินอาหารหมดไปแล้ว
“พวกแกคงจะรู้จักจอมเกเรสินะ จอมเกเรจริงๆแล้วเป็นคนแบบไหนกันนะ อยากรู้จริงๆ” พูดพลางลูบพุงน้อยๆของลูกสุนัขที่นอนแผ่อย่างลุกไม่ขึ้น ซอฮยอนยิ้มออกมาอย่างนึกเอ็นดูก่อนจะมองไปตามทางที่ร่างสูงของยูริวิ่งออกไป รอยยิ้มอบอุ่นปรากฏออกมาจากใบหน้าของซอฮยอน จากนี้เธอคงต้องมอง ควอน ยูริ ใหม่เสียแล้ว
.
.
.
.
การทำกิจกรรมกับนักศึกษาปีหนึ่งนั้นเป็นของคู่กันอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เกือบทำให้ทุกคนลืมไปนั่นคือ การสอบเก็บคะแนน กิจกรรมดี การเรียนก็ขาดตกบกพร่องไม่ได้ โดยเฉพาะกับนิสิตคณะแพทย์ การสอบถือเป็นเรื่องสำคัญมากทีเดียว ทำให้วันนี้นักศึกษาปีหนึ่งต่างมานั่งติวกันที่คณะ และคนติวก็ไม่ใช่ใคร ยุนอานั่นเอง
“มาถึงตรงนี้แล้ว ทุกคนพอจะเข้าใจแล้วใช่ไหม?” ยุนอาหันมามองเพื่อนๆที่นั่งฟังอยู่ ทุกคนพยักหน้าเข้าใจ ทำให้คนติวยิ้มได้
“คนอะไรเนี่ย เก่ง สวย รวย ยุนอานี่นางฟ้าจริงๆเลยนะ” เพื่อนผู้ชายที่นั่งอยู่ได้ทีก็แซว ซึ่งยุนอาก็ได้แค่ยิ้มให้เท่านั้น
“เอาเป็นว่าจากตรงนี้ฉันว่าพวกเราน่าจะอ่านกันได้ ถ้างั้นวันนี้ก็พอเท่านี้นะ” คนอื่นๆกำลังเก็บของเตรียมลุกกลับ มีแค่จียอนเท่านั้นที่ยังนั่งอยู่
“วันนี้ยุนมีนัดหรือเปล่าคะ?” เมื่อเห็นว่าคนบางตา ร่างบางได้ทีจึงเดินเข้ามาถามยุนอาถึงที่ ยูริและซูยองที่เห็นก็ยิ้มให้ก่อนจะทำเนียน บอกว่าจะเดินไปซื้อน้ำ ตอนนี้จึงมีแค่ยุนอาและจียอนเท่านั้นที่อยู่ในห้องติว
“เสร็จจากตรงนี้ ยุนต้องไปซ้อมเต้นต่อน่ะ จียอนมีอะไรหรือเปล่า?”
“ซ้อมเต้นเหรอ ให้ฉันไปด้วยได้ไหมคะ?” ยุนอาทำหน้างง อยู่ดีๆมาขอไปด้วย จียอนแปลกๆนะวันนี้
“ไม่ได้สินะ งั้นไม่เป็นไรค่ะ”
“จริงๆก็ได้อยู่นะ แต่มันไม่สนุกหรอกนะ” ยุนอาบอกหญิงสาวตรงหน้า จียอนพยักหน้ายิ้มรับก่อนที่ทั้งสองคนจะเก็บข้าวของเพื่อไปห้องซ้อมเต้นต่อไป
.
.
.
“นี่ แทงกู เป็นอะไรหรือเปล่า?” ฮโยยอนที่กำลังยืดกล้ามเนื้อหน้ากระจกบานใหญ่ หันมาถามอีกคนที่นอนเอามือก่ายหน้าผาก ตั้งแต่มาแทยอนก็ไม่พูดไม่จา เอาแต่นอนเงียบๆ
“เปล่า ปกติดี” ตอบออกมาหน้าตาย แต่คนอย่างฮโยยอนก็รู้อยู่แล้วว่าเพื่อนต้องมีอะไรไม่สบายใจและคงหนีไม่พ้น
“เรื่อง ฟานี่เหรอ?”
“ฉันมันน่ารังเกียจมากไหมฮโย?”
“บ้า!! ใครจะไปรังเกียจแก มีแต่คนจะวิ่งเข้าหาน่ะสิ”
“แล้วทำไมฟานี่ไม่คิดแบบนั้นว่ะ?” แทยอนลุกข้นมานั่งเหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก ฮโยยอนเห็นดังนั้นก็มาตบที่บ่าเบาๆ
“ลองเปิดใจคุยกับคนอื่นบ้างนะ แกอาจจะเจอคนที่พอดี คนที่แกไม่ต้องวิ่งตามเขาก็ได้นะ”
“อื้ม ขอบใจนะ” แทยอนรีบเช็ดน้ำตาลวกๆ เพราะ ยุนอา ยูริและซูยองเข้ามาในห้องซ้อมแล้ว พร้อมกับสาวน้อยนิรนามที่ทั้งแทยอนและฮโยยอนคุ้นหน้า
“พี่แทคะ นี่จียอนค่ะ”
“อ๋อ พี่จำหน้าได้ ยังไงเรา อยากเต้นเหรอ?” แทยอนเปลี่ยนโหมดทันที จียอนยิ้มอายๆก่อนจะหันไปมองยุนอา
“เขามานั่งเล่นน่ะค่ะ พี่แทไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ?”
“ไม่หรอก ตามสบายนะ” แทยอนเดินออกมาจากห้องซ้อม ในใจก็คิดถึงเรื่องที่ฮโยยอนพูด เขาควรจะหยุดวิ่งตามทิฟฟานี่ซะที
เมื่อวันสอบมาถึง เป็นเรื่องปกติที่หลายๆคนจะต้องมานั่งรอเข้าห้องสอบ และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา การนั่งอ่านหนังสือรอเวลาสอบเป็นเรื่องที่ดีที่สุด
“บางทีฉันก็ทำกิจกรรมมากไปจนลืมไปเลยนะเนี่ย ว่าฉันเรียนหนังสือด้วย” ยูริพูดติดตลก ทำเอาซูยองที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆเอ่ยขึ้น
“แต่วิชาที่จะสอบนี่ง่ายกว่าท่าเต้นที่พี่ฮโยยอนคิดอีกนะ” ยูริทำหน้ายุ่งก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย
“ก็มีแต่คุณยุนนี่แหล่ะ ดูไม่ทุกข์ไม่ร้านเลยนะแก” ยุนอาหันมามองยูริเล็กน้อยเท่านั้นก่อนจะเอ่ยขึ้น
“พวกเราจะต้องได้เงินมากกว่ากลุ่มของเจสสิก้า จำคำพูดฉันไว้”
“หือ?” ยูริและซูยองมองหน้ายุนอาที่อยู่ๆก็ฮึดขึ้นมาเฉยๆ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ
อีกด้าน
“พี่ฟานี่ส่งข้อความมาบอกว่า วันนี้ให้ไปรวมตัวกันที่บ้านพี่ฟานี่นะ ที่สำคัญห้ามให้กลุ่มของพี่แทยอนรู้เป็นอันขาด” ซันนี่พูดในขณะที่มือก็กำลังเก็บเครื่องมือสื่อสารลงกระเป๋า
“ทำไมต้องห้ามด้วยล่ะ ในเมื่อพวกเราก็กลุ่มเดียวกัน” ซอฮยอนถามอย่างสงสัยก่อนจะหันไปหาความเห็นกับเจสสิก้า
“ไม่รู้ รู้แค่ว่าพวกเราจะต้องได้เงินเยอะกว่ากลุ่มนั้นให้ได้” ซันนี่มองเพื่อนสาวที่ปิดหนังสือสอบก่อนจะใช้สายตามุ่งมั่นที่สุดเท่าที่ซันนี่เคยเห็นมามองเธอ
“แกเป็นอะไรหรือเปล่าสิก้า?”
“หึ ได้ตายกันไปข้างแน่อิม ยุนอา”
หลังจากการสอบเสร็จสิ้น ด้วยความมุ่งมั่นในการเอาชนะ เจสสิก้า ซันนี่และซอฮยอน จึงไปหาแรงจูงใจที่ห้างสรรพสินค้า เพื่อดูตัวอย่างของที่ระลึก และซื้อของที่ทิฟฟานี่บอกมา ทั้งสามคนเลือกเข้าร้านที่ดูน่ารัก เหมาะแก่การมาออกเดตมากๆ ในร้านมีสินค้ามากมาย เจสสิก้าเดินดูของมาเรื่อยๆ แต่สายตาก็ไปสะดุดกับร่างที่คุ้นตา แทยอนนั่นเอง มากับหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่ง ดูแล้วเหมือนคู่รักก็ไม่ปาน
“เฮ้..สิก้าฉันเจอ..อุ๊บ!!” เจสสิก้ารั้งซันนี่มาปิดปากเลยทีเดียว เพราะกลัวสองคนที่เฝ้ามองอยู่จะได้ยินเสียง ซอฮยอนที่เดินตามมาก็มองไปทางที่เจสสิก้ามองตั้งแต่แรก ก็เข้าใจทันที
“นั่นมันพี่แทยอนนี่ มากับใครน่ะ?” ซอฮยอนหันมาถามเจสสิก้าที่มือยังคงปิดปากซันนี่อยู่
“อ้อ อิงๆอ้วย อี้แอออนอับใออ่ะ (อ้อ จริงๆด้วย พี่แทยอนกับใครอ่ะ)”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ดูเขาเหมาะกันดีนะ” เจสสิก้าว่าก่อนที่ซันนี่จะสวนขึ้นมาทันที
“อิอ้า แออ่าเอี๋ยใออ๊ะ ไอ้เอ็นไอๆ (สิก้า แกอย่าเสียใจนะ ไม่เป็นไรๆ) T-T” ซันนี่พยายามปลอบเพื่อน ทำให้เจสสิก้าเพิ่งนึกออกว่าควรปล่อยซันนี่ได้แล้ว
“ฉันว่าเราไปกันเถอะ เดี๋ยวสองคนนั้นจะเห็นเรา” แล้วก็เดินออกจากร้านไป ซันนี่ที่เห็นเพื่อนรีบเดินออกจากร้านก็จับมือซอฮยอนก่อนจะรีบชิ่งออกมาเช่นกัน
.
.
.
เจสสิก้า ซอฮยอนและซันนี่มาที่บ้านทิฟฟานี่เพื่อทำของที่ระลึกสำหรับขายหารายได้เข้ากลุ่ม หลักๆที่จะทำก็มี สร้อยข้อมือคู่ พวงกุญแจคู่ เหตุผลที่ทำอะไรเป็นคู่ๆก็เพราะว่า มันน่าจะขายดีกว่าที่ทำเป็นเดี่ยวๆ แต่สำหรับคนที่ไม่มีคู่ก็สามารถซื้อได้ เพราะทิฟฟานี่รอบคอบมากพอจะตีตลาดคนไม่มีคู่เหมือนกัน
“นี่ เธอว่ากลุ่มเต้นจะเป็นไงบ้าง?” ซันนี่ที่กำลังนั่งร้อยลูกปัดก็พูดขึ้น ไม่ใช่ว่าห่วงอะไรหรอกนะ แค่กลุ่มเต้นเงียบหายไปเลย ไม่รู้ว่าไปเต้นโชว์ที่ไหนกันบ้าง
“ช่างสิ แค่ฉันได้เงินเยอะกว่าก็พอละ” เจสสิก้าพูดออกมาโดยไม่ได้คิดอะไร แต่สิ่งมีชีวิตที่เหลือต่างมองหน้ากันด้วยความงุนงง
“สิก้า ดูแกอยากจะได้เงินเยอะเกินไปไหม?” ซันนี่มองอย่างจับผิด เจสสิก้าลอยหน้าลอยตาไม่พูดอะไรต่อ
“คุยไรกันสาวๆ อ่ะนี่น้ำกับขนมจ๊ะ” ทิฟฟานี่เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นพร้อมอาหารว่าง บทสนทนาจึงจบลงแค่นั้น
“ว้าว ซอฮยอน สวยมากเลยจ๊ะ แต่พี่ว่าขนาดมันใหญ่ไปสำหรับข้อมือนะ” ทิฟฟานี่หยิบข้อมือที่ซอฮยอนทำเสร็จแล้วขึ้นมาดู ซอฮยอนยิ้มตอบก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ซอไม่ได้ทำเป็นข้อมือค่ะ แต่ทำเป็นปลอกคอต่างหาก”
“ปลอกคอเหรอ?”
“แกเลี้ยงน้องหมาเหรอซอ?” ซันนี่ถามด้วยความสงสัย เพราะตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา ไม่เคยเห็นซอฮยอนมีสัตว์เลี้ยงเลย
“ของคนรู้จักน่ะ ไม่มีอะไรหรอก” ซอฮยอนหลบหน้าซันนี่ก่อนจะทำเป็นยุ่งกับการร้อยลูกปัด เจสสิก้าก็กำลังทำท่าทางขะมักเขม้นกับการติดกาวตรงพวงกุญแจ วันนี้เพื่อนทั้งสองดูจะขยันเกินไปสำหรับความคิดของซันนี่
“แปลกๆนะพวกแกเนี่ย แปลกๆ” พยายามจ้องหน้าเพื่อนทั้งสองแต่ไม่มีใครสนใจ เลยต้องหยุดการจับผิดเพื่อมานั่งทำข้อมือต่อ
“เอ้อ ว่าแต่วันนี้คนที่อยู่กับพี่แทนี่ใครก็ไม่รู้เนอะ แฟนหรือเปล่าอ่ะ อย่างงี้แกก็อกหักอ่ะดิ สิก้า” ซันนี่ทีเพิ่งนึกออกว่าวันนี้เจอใครที่ร้านขายของที่ระลึกก็ตั้งประเด็นทันที
“จะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้ชอบพี่เขาย่ะ แค่ปลื้มๆ แต่ก็นะ ผู้หญิงคนนั้นก็น่าอิจฉา พี่แทยอนน่ะดีจะตาย ใครปฏิเสธพี่เขานี่ คงเป็นพวกประสาท” ทิฟฟานี่สำลักน้ำแทบจะทันที ก่อนจะขอตัวเพื่อไปเอาผ้ามาเช็ดน้ำที่เลอะ การกระทำทุกอย่างอยู่ในสายตาเจสสิก้าทั้งหมด
“พี่ว่าเราเอาประมาณนี้แหล่ะ” ฮโยยอนพูดขึ้น ยูริพยักหน้าเห็นด้วย เพราะแต่ละท่าที่ฮโยยอนคิดนี่ อย่างน้อยต้องฝึกวันนึงเต็มๆ ถึงจะทำได้
“ถ้างั้นเราเริ่มซ้อมกันเลยนะ” แทยอนว่าก่อนจะตบมือดังๆ เพื่อเป็นการเรียกรวมก่อนทั้ง 5 คนจะเต้นพร้อมกันหน้ากระจก งานนี้ทั้งกลุ่มขายของและกลุ่มเต้นพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อการหาเงิน แต่จะมีใครรู้ว่าการหาเงินนั้นจะต้องได้มาซึ่งข้อแลกเปลี่ยนที่คุณก็อาจไม่คิดแน่ๆ
"ได้เป็นเบ้ฉันแน่อิม ยุนอา"
.
.
"ฉันจะต้องชนะเธอให้ได้ เจสสิก้า"
_____________________________________________________________________________________
มาต่อให้แล้วนะครับทุกคน ช่วงนี้ก็อ่านฟิคไปดูแลสุขภาพกันไปด้วยนะครับ เป็นห่วงTT
พูดถึงความเป็นห่วง ก็อยากให้ความเป็นห่วงของไรเตอร์ ส่งไปถึงคุณยุนที่จีนจุง ถ่ายละครเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ เดี๋ยวต้องโทรหาเสียหน่อย (มโนมาก ณ จุดนี้)
....เดี๋ยวมาต่อให้นะครับ อย่ามาบึ้มบ้านเค้าน้าาาาา
ความคิดเห็น