ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SNSD] Love or Like ฉันไม่ได้ชอบเธอขนาดนั้นนะ! (Yoonsic)

    ลำดับตอนที่ #4 : การเปลี่ยนแปลง

    • อัปเดตล่าสุด 20 ม.ค. 57


    ยุนอาที่นั่งรอซูยองและยูริอยู่หน้าคณะก็ต้องแปลกใจ เพราะบรรดานักศึกษากลุ่มนึงที่นั่งอยู่โต๊ะไกลออกไปกำลังมองมาที่เธอ ที่นั่งคนเดียวมานานแล้ว ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ปาร์คจียอนที่เธอจำได้ดีเพราะต่างเข้ารอบการประกวดดาวเหมือนกัน ยุนอามองทั้งกลุ่มนั้นก่อนจะยิ้มน้อยๆส่งไปให้ ซึ่งทั้งหมดก็ยิ้มตอบกลับมาเช่นกัน และสะกิดจียอนกันใหญ่ด้วยสาเหตุอะไรยุนอาก็ไม่ทราบได้

    “มานั่งโปรยเสน่ห์อะไรตรงนี้คุณอิมยุนอา” ยูริที่พึ่งเดินมาถึงก็กวนยุนอาทันที ร่างสูงของยุนอาจึงพยักหน้าไปทางกลุ่มของจียอนให้ยูริมองตาม ยูริที่มองไปก็หันกลับมาแล้วยิ้มอย่างพอใจ

    “ทำไม? ชอบเหรอ”

    “เปล่า ฉันแค่งงเพราะพวกนั้นนั่งมองฉันมานานละ แล้วก็ยิ้มกันแปลกๆด้วย”

    “โอ๊ยไอ้ยุนเอ๊ย ไม่รู้สึกหรือไง แบบนี้แสดงว่ามีคนในกลุ่มนั้นชอบแกอยู่ เผลอๆทั้งกลุ่มอ่ะฉันว่า” ซูยองที่เดินมาได้ยินประโยคสนทนาของเพื่อน ก็เป็นคนตอบข้อสงสัยของยุนอาทันที

    “นี่ ผู้หญิงมองแปลว่าผู้หญิงสนใจนะรู้ป่าว” ยูริพูดก่อนจะตบที่ไหล่ยุนอาเบาๆ ยุนอาก็เกาหัวงงๆ เธอไม่ค่อยสนใจเรื่องแบบนี้เลย เพราะชีวิตนี้ตั้งใจเรียนเพื่อแม่อย่างเดียว

    “หัดหาความสุขใส่ตัวเองซะบ้างสิ เอางี้เดี๋ยวฉันจัดการให้” แล้วยูริก็เดินออกไปที่กลุ่มสาวๆพวกนั้น

    “อ่าสวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าฉันนั่งตรงนี้ได้ไหม?”

    “ได้สิคะ” หนึ่งในกลุ่มนั้นกล่าวต้อนรับยูริเป็นอย่างดี ยุนอาเองก็สังกตยูริอยู่ห่างๆ ดูมันจะเชี่ยวชาญเรื่องพวกนี้นะเนี่ย

    “พอดี ยุนอาเพื่อนฉันให้ฉันมาชวนพวกคุณทานข้าวกลางวันนี้น่ะค่ะ ไม่ทราบว่าจะสะดวกไหม โดยเฉพาะคุณจียอน” จียอนที่ได้ยินก็เขินแต่ก็ตอบตกลงกับยูริ ไม่นานยูริก็เดินกลับมาที่กลุ่มแล้วรายงานผลทันที

    “เชื่อพี่ไอ้น้อง ยัยจียอนนั่นน่ะ ชอบแกชัวร์”

    “ใครชอบใคร?” แล้วเสียงๆหนึ่งก็ดังเข้ามา เจสสิก้านั่นเอง มาพร้อมๆกับสองสาวซันนี่และซอฮยอน ทั้งสามเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้ากลุ่มของยุนอา เจสสิก้ามองหน้ายุนอาอย่างหาเรื่อง

    “ฉันถามว่าใครชอบใคร” เจสสิก้าย้ำอีกครั้ง ยูริมองหน้ากับซูยองก่อนจะตอกลับไป

    “จียอนชอบไอ้ยุน”

    “ปาร์คจียอนอ่ะนะ สิ้นคิดจริงๆ” เจสสิก้าพูดจบก็เดินออกไปซันนี่และซอฮยอนก็หัวเราะก่อนจะเดินตามไป

    “ยัยพวกนี้มันปิศาจร้ายชัดๆ” ซูยองพูดในขณะที่สายตาก็มองตามสามสาวนั่นไป

    “ปล่อยไปเถอะ แต่ฉันไม่เคยพลาด เพราะงั้นเดินหน้าเลยยุน เต็มที่” ยูริว่าก่อนจะตบไหล่ยุนอาอีกที ยุนอาที่เห็นว่าเพื่อนจะไปกันใหญ่แล้วจึงตัดบทก่อนที่จะเข้าใจกันเกินเลยไปมากกว่านี้

    “ฉันไม่ได้ชอบจียอนเว้ย” แล้วก็เดินหนีเพื่อนทั้งสองไปยังห้องเรียน ยูริและซูยองยักคิ้วให้กันก่อนจะเดินตามไป

    “หน้าหมั่นไส้สองคนนั้นชะมัดเลย”ซันนี่ว่าก่อนจะจัดการกาแฟในมือที่พึ่งได้ ส่วนซอฮยอนที่ดื่มน้ำผลไม้ก็พูดกับเพื่อนสาวอย่างเจสสิก้า

    “สิก้า ไม่แน่นะจียอนอาจจะชอบยุนอาจริงๆก็ได้”

    “ใครจะชอบใครฉันไม่สนใจหรอก”

    “แต่ดูเหมือนเธอไม่พอใจเลยนะ” ซอฮยอนมองหน้าเพื่อนสาวอย่างจับผิด ก็มันเป็นแบบนั้นจริงๆนี่ดูเจสสิก้าหงุดหงิดนิดๆที่รู้ว่าจียอนชอบยุนอา เจสสิก้าก็มองมาที่ซอฮยอนพยายามจะหาเหตุผลบอกกับเพื่อนโดยที่ตัวเธอเองเองก็ยังไม่เข้าใจว่าจะหงุดหงิดทำไม

    “ฉันแค่ไม่ชอบให้ยุนอาเป็นที่นิยมในหมู่นักศึกษาก็เท่านั้น คอยดูนะฉันจะทำให้ยุนอาแห้วจาก จียอนให้ดู” เจสสิก้าคาดโทษเอาไว้ก่อนจะเดินนำหน้าเพื่อนทั้งสองคนไปห้องเรียน

                หลังจากเรียนเสร็จทั้งยุนอา ยูริและซูยองก็เดินมาสมทบกับกลุ่มของจียอนเพื่อไปศูนย์อาหาร ยูริดูจะกระชุ่มกระชวยเอามากๆเพราะชวนคนนั้นคนนี้คุยไม่หยุด ส่วนซูยองที่กำลังมองหาของกินก็มองไปเรื่อยๆไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ มีแต่ยุนอาเท่านั้นที่บัดนี้ถูกเพื่อนอย่างยูริเดินเบียดจนทำให้ตัวเองก็มาเบียดคนอื่นเช่นกันซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน จียอนนั่นเอง

    “เอ่อ ยุนขอโทษนะพอดียูลมันเบียดมา”

    “อื้ม ไม่เป็นไรหรอก” หญิงสาวก้มหน้าตอบเขินๆ ไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับยุนอา ร่างสูงเองก็ดูจะทำตัวไม่ถูกเช่นกัน ทั้งหมดเดินหาที่นั่งจนมาเจอโต๊ะว่างอยู่ ยูริที่อาสาจะเดินเข้าไปจองก็เตรียมจะเอากระเป๋าที่สะพายข้างออกจากตัวเพื่อวางจองโต๊ะ แต่กลับมีกระเป๋าของใครคนหนึ่งมาวางไว้เสียก่อน ยูริเงยหน้าขึ้นมามองก็พบว่าเป็นซอฮยอนนั่นเองที่วางกระเป๋าก่อนเธอ ยุนอาที่เห็นท่าจะไม่ดีจึงเดินมาดึงตัวยูริออกแล้วไปหาที่นั่งที่อื่น เจสสิก้าที่เดินเข้ามาสมทบกับซอฮยอนพร้อมๆกับซันนี่ก็มองตามกลุ่มของยุนอาไป  เธอเห็นแล้วว่ากลุ่มของยุนอามากับกลุ่มของจียอน หรือว่าเรื่องที่ยูริพูดเมื่อเช้าจะเป็นเรื่องจริง ยัยจียอนนี่ชอบยุนอาจริงๆเหรอ?

    “ฉันว่าเราแกล้งเขาเกินไปนะสิก้า” ซอฮยอนที่รู้สึกผิดนิดๆที่มาวางกระเป๋าตัดหน้ายูริต่อหน้าต่อตา ก็คงกำลังรู้สึกอยู่เป็นแน่ว่ามันดูเกินเหตุไปหน่อย

    “ไม่เป็นไรหรอกซอ ถือซะว่าเรามาก่อนก็แล้วกัน อย่าคิดมากเลย” เจสสิก้าบอกกับซอฮยอนยิ้มๆก่อนที่ทั้งสามจะเดินไปซื้อข้าวกลางวัน

                เจสสิก้าเดินมาที่รถของตัวเองหลังจากทานข้าวกลางวันเสร็จ วันนี้ในตอนบ่ายไม่มีเรียน เธอจึงตัดสินใจกลับบ้านโดยปฏิเสธซันนี่และซอฮยอนที่ชวนไปดูหนัง ในขณะที่เธอกำลังจะเดินมาถึงตัวรถอยู่แล้วก็พบว่ามีใครคนนึงมาดักรอเธอที่ลานจอดรถของคณะ เจสสิก้าพยายามเพ่งมองให้ออกว่าคนๆนั้นเป็นใคร แล้วเธอก็ร้องอ๋อทันทีเมื่อใครคนนั้นหันมา

    “สิก้า มาแล้วเหรอพี่รอเราอยู่นะเนี่ย”

    “พี่แทยอน?”

    “ก็พี่สิ เห็นเป็นใครเหรอคะ?” แทยอนอมยิ้มตอบกลับไป ทำเอาเจสสิก้ารู้สึกหน้าแดงแปลกๆ ทำไมต้องรู้สึกเขินๆด้วยนะ

    “พี่แทยอนมีอะไรกับสิก้าหรือเปล่าคะ?” ถามแบบตะกุกตะกักก็จะไม่ให้เป็นแบบนี้ได้ไง ในเมื่อคนที่คุยกับเธออยู่คือพี่แทยอนประธานนิสิตและพ่วงตำแหน่งว่าที่เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง อะไรจะเพอเฟคกว่าพี่แทยอนไม่มีอีกแล้ว

    “คือพี่แค่อยากจะถามว่าพรุ่งนี้สิก้าว่างไหม พอดีมีร้านเค้กเปิดใหม่แต่พี่ยังไม่เคยลองเลย เลยกะว่าจะชวนสิก้าดู” แทยอนเอ่ยประโยคเชิญชวนขนาดนี้แถมตอนพูดยังทำท่าทางเขินๆนั่นอีกด้วย ในความคิดของเจสสิก้าตอนนี้พี่แทยอนน่ารักจริงๆ

    “อืม ถ้าพี่แทอยากให้ไป สิก้าก็ไปเป็นเพื่อนได้ค่ะ”

    “จริงเหรอ ขอบคุณมากเลยนะคะ งั้นพรุ่งนี้พี่จะมารอตรงนี้ห้าโมงเย็นนะ”

    “ค่ะ พรุ่งนี้ห้าโมงเย็น” เจสสิก้ายิ้มตอบออกไป แทยอนยิ้มตอบกลับมา ตอนนี้บริเวณนั้นคงจะหวานมากๆเลยหล่ะเพราะอะไรหน่ะเหรอ

    “ไอ้มดบ้าพวกนี้ ไม่มีที่อื่นให้ไปแล้วหรือไงนะ” ยุนอาที่มองไปยังมดหลายสิบตัวที่พากันเดินขบวนไต่กางเกงเธออยู่ ร่างสูงสบถเล็กน้อยก่อนจะสลัดขาตัวเองเพื่อเป็นการไล่มด ซึ่งเสียงของเธอคงจะเข้าไปทำลายบรรยากาศโรแมนติกหวานซึ้งของคนคู่หนึ่งที่บังเอิญยืนอยู่ใกล้ๆ

    “อ้าว น้องยุนอาเป็นอะไรล่ะนั่น?” แทยอนที่เห็นยุนอายืนหัวเสียกับมดที่ไต่กางเกงอยู่ จึงลองถาม

    “อ๋อ พอดีมันมดไต่กางเกงยุนหน่ะค่ะ สงสัยมันคงได้กลิ่นอะไรหวานๆ” ตอบไปตามความคิดจริงๆที่ดูซื่อตรง แต่สำหรับคนทั้งสองที่ยืนอยู่ก่อนแล้วนี่มันออกแนวประชดหรือปล่านะ        แทยอนหันกลับมายิ้มให้เจสสิก้าแล้วกล่าวลาก่อนจะเดินกลับไปรถของตัวเองแล้วขับออกไป ส่วนเจสสิก้าก็ยืนเท้าเอวมองไอ้คุณก้างขวางคอชิ้นใหญ่ที่เข้ามาทำลายบรรยากาศโรแมนติกของเธอ

    “จะสลัดอีกนานไหม?”

    “อ้าวเจสสิก้า เธอมาอยู่นี่ตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย” ดูเหมือนยุนอาจะพึ่งสังเกตเห็นว่ามีเจสสิก้าอยู่แถวนี้ นั่นสร้างความโมโหพุ่งทะลุเพดานให้เจสสิก้า มาขัดเธอแค่นั้นยังไม่พอนี่ยังไม่เห็นว่าเธอยืนอยู่ตรงนี้อีก คิดว่าฉันเป็นอากาศธาตุเหรอห๊ะ อิมยุนอา!!

    “ฉันยืนคุยกับพี่แทยอน เธอนั่นแหล่ะเข้ามาแถมทำเสียงโวยวายไม่มีมารยาท” เก็บอาการโกรธเอาไว้ก่อนเจสสิก้าเธอยังไม่อยากให้มีกวางโดนฆ่าตายแถวนี้

    “เธอเนี่ยนะคุยกับพี่แทยอน ฮ่าๆๆ เอาเถอะๆ สาวๆทุกคนฝันจะได้คุยกับพี่เขาทั้งนั้นแหล่ะ ฉันไปดีกว่า” ยุนอาพูดยิ้มๆก่อนจะกดปลดล็อกรถหรู ไม่นานรถของยุนอาก็เคลื่อนออกไป ทิ้งไว้เพียงเจสสิก้าที่โกรธควันออกหูชี้ตามรถของยุนอาไปแต่ด่าอะไรไม่ได้สักคำ

    “ฝันงั้นเหรอ หึหึ แล้วเธอจะเห็นว่าคนอย่างเจสสิก้าจองมีดีกว่าที่เธอคิด” เจสสิก้ายิ้มอย่างคิดอะไรออก เธอได้เห็นแน่ คนอื่นอาจจะฝันแต่สำหรับเจสสิก้ามันคือเรื่องจริงย่ะ

                เจสสิก้าขับรถออกมาได้ไม่นานโทรศัพท์เครื่องหรูของเธอก็สั่น บ่งบอกว่าตอนนี้มีใครสักคนที่โทรเข้ามารบกวนเธอตอนขับรถ ร่างบางหยิบมันขึ้นมาดูหน้าจอก็โชว์ว่าเป็นเบอร์ของผู้เป็นพ่อนี่เอง

    “ค่ะแด๊ด”

    “สิก้า อยู่ไหนลูก พอดีแด๊ดมีเรื่องจะคุยด้วย”

    “สิก้าขับรถอยู่ค่ะ แต่ใกล้ถึงบ้านแล้วยังไงเราคุยกันที่บ้านนะคะ”

    “โอเคครับคุณลูก” แล้วพ่อของเธอก็วางไป แต่ทำไมเธอสังหรณ์ใจชอบกลว่าเรื่องที่พ่อเธอจะคุยด้วยนั้นไม่ใช่เรื่องธรรมดาซะแล้ว

                เจสสิก้าขับรถเข้ามาจอดเทียบบริเวณหน้าประตูบ้าน ร่างบางเดินลงจากรถแล้วยื่นกุญแจให้คนรถของบ้านอย่างเคยชิน เธอเดินเข้ามาในบ้านก็เจอยุนฮีและจินโมนั่งคุยกันอยู่ก่อนแล้ว เจสสิก้าโค้งให้ผู้ใหญ่ทั้งสองแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามจินโมและยุนฮี

    “มีอะไรกันหรือเปล่าคะ?”

    “คือว่า อีกสองเดือนข้างหน้าแด๊ดกับคุณยุนฮีก็จะแต่งงานแล้วแต่ว่า”

    “แต่อะไรคะแด๊ด?”

    “พอดีบริษัทของเราที่ไทยมีปัญหาน่ะสิ แด๊ดเลยคิดว่าแด๊ดกับคุณยุนฮีเราจะไปแต่งงานที่ไทยแล้วอยู่ที่นั่นสักพัก แล้วถ้าอะไรลงตัวเราจะกลับมาจัดงานอย่างเป็นพิธีการที่เกาหลี” เจสสิก้าได้ยินก็พยักหน้า เธอเองก็ไม่เห็นว่ามันจะน่ามีปัญหาตรงไหนเลยนี่ ทำไมถึงต้องทำให้ดูเป็นเรื่องใหญ่โตเลยล่ะ

    “แต่แด๊ดห่วงสิก้านี่ลูกกลัวว่าจะอยู่เกาหลีคนเดียวแล้วลำบากแด๊ดก็เลย...”

    “ก็เลยอะไรเหรอคะ?”

    “เลยให้หนูสิก้าไปอยู่บ้านน้าไงลูก”

    “ห๊า!! ไปอยู่บ้านน้ายุนฮี งั้นก็ต้องอยู่กับยุนอาน่ะสิคะ” เจสสิก้าแทบอยากจะมุดหน้าหนีไปจริงๆ เกลียดกันอย่างกับอะไรดี แล้วจะให้ไปอยู่ด้วยมีหวังเธอกับยุนอาคนใดคนนึงได้ตายแน่นอน

    “ก็ที่บ้านคุณยุนฮีมีแม่บ้านและทุกอย่างพร้อมมากเลยนะลูก และอีกอย่างสิก้าของแด๊ดก็จะไม่เหงาด้วยไง เพราะมียุนอาอยู่เป็นเพื่อน”

    “แต่ว่าแด๊ดคะ?”

    “สิก้าไม่อยากไปอยู่บ้านน้าก็ไม่เป็นไรนะลูก น้าแค่ออกความเห็นเฉยๆ” พอเห็นสีหน้าผิดหวังของยุนฮีก็ทำเอาเจสสิก้าถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก็พอรู้นะว่าเป็นห่วงแต่ถ้าคนที่เธอต้องอยู่ด้วยไม่ใช่ยุนอาจะดีกว่านี้มาก

    “เอาเป็นว่าสิก้าขอเก็บไปคิดก่อนละกันนะคะ ขอตัวก่อนค่ะ” โค้งลาให้ผู้ใหญ่ทั้งสองแล้วเดินออกมาจากห้องรับแขกของบ้าน ตรงขึ้นห้องนอนของตนเอง เก็บเอาความคิดหนักอึ้งนี้มานั่งคิดต่อในห้องนอน ถ้าเธอขอผู้เป็นพ่ออยู่บ้านนี้คนเดียวพ่อของเธอก็คงไม่ยอมแน่ๆ หรือถ้าขอไปอยู่คอนโดคนเดียว ทั้งสองก็จะเป็นห่วงเพราะตั้งแต่เด็กๆเธอใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ อยู่เกาหลีคนเดียวคงจะเป็นเรื่องยาก หรือว่าเธอจะต้องไปอยู่บ้านตระกูลอิมกันนะ

                หลังออกมาจากมหาวิทยาลัย ยุนอาก็รีบขับรถตรงไปยังร้านกาแฟที่นัดแนะกับซูยองและยูริไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อมาถึงก็เห็นว่าทั้งสองนั่งรออยู่แล้ว ยุนอารีบเดินเข้าไปด้านในร้านก่อนจะวางกระเป๋าแล้วนั่งลงที่ว่างๆข้างยูริทันที

    “โอเค ฉันมาละ พวกแกมีเรื่องอะไรก็ว่ามา?”

    “ฉันมีเรื่องจียอนและแผนการจีบจียอนแบบเต็มขั้นมาเสนอแก” ยูริว่าพลางโอบรอบคอยุนอาไว้ ส่วนยุนอาเองทำได้แต่แกะมือเพื่อนออกแล้วมองไปหาอีกคนนึงที่นั่งนิ่งมาสักพักแล้ว

    “แล้วแกล่ะ ซูยองมีอะไร?”

    “ฉันมีอะไรที่เด็ดกว่านั้น ของฉันเรื่องยัยเจสสิก้า” เรื่องของซูยองดูจะเป็นที่สนอกสนใจมากกว่าเรื่องของยูริเพราะยุนอามองหน้าซูยองด้วยความไม่เข้าใจ ทำไม?เรื่องยัยนั่นมันมีอะไรหรือเปล่า

    “เอาตรงๆนะยุน ฉันว่าเจสสิก้าเนี่ยชอบแกแน่ๆเลย”

    “แกจะบ้าเหรอจะฆ่าไอ้ยุนสิไม่ว่า ยัยนั่นอ่ะ” ยูริที่ได้ยินก็สยองแล้ว ชอบเหรอ ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรเลยว่าเป็นแบบนั้น

    “จริงๆนะเว๊ย ถ้าไม่ชอบจะตามหาเรื่องทำไมบ่อยๆ?”

    “เหตุผลที่เจสสิก้าไม่ชอบฉัน เพราะฉันมองเขาแบบพิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วก็ชอบเถียง อารมณ์ประมาณนั้นแหล่ะ” ยุนอาที่พอจะนึกเหตุผลดีๆออกก็มีแค่นั้นแหล่ะที่พอจะคิดได้ เพราะตั้งแต่ยุนอาทำเรื่องเสียมารยาท(ในความคิดของเจสสิก้า) ใส่เข้า หลังจากนั้นก็ไม่เคยพูดดีกันอีกเลย

    “นั่นไงเหตุผลมันปัญญาอ่อนนะ ฉันว่า อาจจะมีอะไรมากกว่านั้น” ซูยองยังไม่เลิกล้มความตั้งใจที่จะหาสาเหตุที่แท้จริง ยูริได้เพียงแต่ส่ายหน้าให้ความคิดบ้าๆของซูยอง แต่ยุนอากลับนั่งนิ่งๆคิดตามที่ซูยองพูด หรือว่าเจสสิก้าจะชอบเราจริงๆนะ แค่คิดก็สยองแล้ว

                หลังจากลากับพวกยูริและซูยอง ยุนอาก็กลับบ้านทันที อารมณ์ที่มีซูยองมาเป่าหูเรื่องของเจสสิก้าทำเอาร่างสูงคิดหนัก แต่จะคิดทำไมก็ยังไม่รู้เหมือนกันเจสสิก้าจะชอบเรายังไงนะ

    “นี่เราบ้าไปแล้วหรือไงว่ะ และอีกอย่างเมื่อเย็นก็เหมือนจะคุยๆกับพี่แทยอน อาจจะชอบพี่แทยอนก็ได้” พอคิดได้แบบนั้นก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย เฮ้ออย่างน้อยยัยนั่นก็น่าจะชอบพี่แทยอนไม่น่าคิดบ้าๆอะไรตามซูยองเลยนะเรา

    “ยุน เป็นอะไรหรือเปล่าลูก เดี๋ยวเศร้าเดี๋ยวยิ้ม นี่เรียนหนักไปหรือเปล่า” อิมยุนฮีที่นั่งอ่านหนังสือที่ห้องนั่งเล่นหันมามองผู้เป็นลูกที่เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวเศร้ามาพักใหญ่แล้ว ยุนอาทำได้แค่ยิ้มแหยๆให้ผู้เป็นแม่ก่อนที่จะเดินมานั่งลงข้างๆอย่างออดอ้อน

    “เปล่าค่ะแม่ ยุนคิดอะไรเพลินๆนิดหน่อยค่ะ”

    “เหรอ นึกว่ายุนจะเพี้ยนไปแล้วซะอีก” ยุนอานิ่วหน้าหลังจากได้ยินประโยคนั้น ไม่ได้เพี้ยนซะหน่อยแค่ตอนนี้จิตใจไม่ค่อยปกติเท่าไร

    “นี่ยุน แม่มีเรื่องจะมาปรึกษาหน่อยนะ พอดีคุณจินโมเขามีงานเข้ากะทันหัน ต้องไปเคลียร์งานที่ประเทศไทย” ยุนอาพยักหน้าตาม ก่อนจะมองหน้าผู้เป็นแม่อย่างสงสัยว่ามันเกี่ยวอะไรกับตัวเองถึงต้องเอามาบอกยุนอา

    “แล้วแม่ก็คุยกันแล้ว เราจะไปแต่งงานกันที่ประเทศไทย แล้วอยู่ฮันนีมูนที่นู่นเลย เพราะคงหลายเดือนกว่าคุณจินโมจะเคลียร์งานเสร็จ”

    “ก็ไม่น่ามีปัญหานี่คะ ยุนยังไงก็ได้ค่ะ” ยุนอาบอกตามที่ตนรู้สึกเพราะมันเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่เขาต้องตัดสินใจ เราเป็นเด็กยังไงก็ได้อยู่แล้ว

    “แต่เรื่องที่แม่จะปรึกษายุนมันไม่ใช่เรื่องนี้หรอก คือว่าระหว่างที่แม่กับคุณจินโมอยู่ต่างประเทศ หนูสิก้าจะมาอยู่บ้านเรา” ยุนอาพยักหน้าหงึกๆ แต่เอ๊ะ! เมื่อกี้ฟังไม่ค่อยชัด

    “แม่ว่าอะไรนะคะ เจสสิก้าจะมาอยู่กับยุน ที่บ้านเรา”

    “ใช่จ๊ะ เพราะว่าคุณจินโมเขาไม่อยากให้หนูสิก้าอยู่คนเดียวที่เกาหลี แล้วอีกอย่างก็อยู่มหาลัยเดียวแถมคณะเดียวกันกับยุน เลยให้มาอยู่ด้วยกันเลยดีกว่า จะได้เป็นเพื่อนกันด้วย” ยุนอากุมขมับทันทีที่ผู้เป็นแม่พูดจบ เจสสิก้าจะมาอยู่บ้านกับเธอ จากไม่อยากเจอหน้ากันเป็นต้องเจอทุกวัน ชีวิตน้อยๆของอิมยุนอาคงต้องพังทลาย

    “เอาเป็นว่าถ้าหนูสิก้าเขาเคลียร์ของที่บ้านนู่นเสร็จเมื่อไรเขาจะย้ายมานะลูก ยุนก็ระหว่างที่แม่ไม่อยู่ก็ดูแลเขาดีๆนะ”

    “ค่ะแม่” พูดได้เท่านี้จริงๆชีวิตอิมยุนอา

                วันนี้ก็มาถึงวันที่เจสสิก้าย้ายเข้ามาอยู่บ้านตระกูลอิม แม่บ้านรีบออกมาต้อนรับคุณหนูอีกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม สาวใช้รีบนำของๆเจสสิก้าไปเก็บไว้ที่ห้องที่ได้เตรียมไว้ เป็นจังหวะเดียวกับที่ยุนอาเดินออกมาจากห้องนอนตัวเอง พอเห็นสาวใช้เดินเอาของเข้าไปเก็บไว้ห้องข้างๆก็งง นี่อย่าบอกนะว่าจะได้อยู่ห้องใกล้กันด้วย

    “คุณแม่อยู่ไหน?” ถามหนึ่งในสาวใช้ที่เดินออกมา ก็ได้คำตอบว่าอยู่ด้านล่างกับจินโมและเจสสิก้า ยุนอาเดินลงมาด้านล่างก็เห็นผู้เป็นแม่และเจสสิก้านั่งคุยกันอยู่ ดูเข้ากันได้ดีเชียวนะ

    “อ้าว ยุนมาพอดีเลย เดี๋ยวแม่กับคุณจินโมจะเดินทางวันนี้เลยนะ ส่วนเรื่องงานแต่งที่ไทยยุนกับหนูสิก้าไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ แม่เห็นว่าทั้งคู่เรียนหนัก เพราะงั้นไม่ต้องไปประเทศไทยก็ได้ลูก เดี๋ยวยังไงก็กลับมาจัดตามประเพณีที่เกาหลี เพราะงั้นรอที่เกาหลีนี่แหล่ะนะ” ยุนฮีพูดไปยิ้มไป คงจะตื่นเต้นเรื่องงานแต่งแน่ๆเลย เห็นคนเป็นแม่ยิ้มได้ยุนอาก็มีความสุข แต่พอันไปมองอีกคนที่นั่งอยู่ก็ต้องสะดุ้งทันที เจสสิก้ามองยุนอาตาไม่กระพริบ นี่แม่ของเขาจะรู้ไหมว่าอาจจะเกิดสงครามที่บ้านก็ได้ระหว่างที่ไม่อยู่

                หลังจากไปส่งผู้เป็นแม่และพ่อที่สนามบิน ทั้งยุนอาและเจสสิก้าก็นั่งเงียบกันมาตลอดทาง ยุนอาคอยลอบมองเจสสิก้าเป็นระยะ ใจจริงก็อยากจะถามแหล่ะนะว่าหิวหรือยัง แต่อีกฝ่ายดูไม่อยากคุยด้วยแล้วจะให้เธอทำยังไง

    “อิม ยุนอา”

    “ห๊ะๆ ว่ายังไง?”อยู่ดีๆก็พูดขึ้นมา เป็นอะไรของเขานักนะ

    “เธอห้ามบอกเพื่อนที่คณะ ว่าฉันอยู่บ้านเดียวกับเธอ เข้าใจไหม?” เจสสิก้าหันมาถาม ก่อนจะชี้หน้าอย่างคาดโทษกับยุนอา ซึ่งในความคิดของยุนอามันไม่ได้ดูน่ากลัวเลย ดูติ๊งต๊องซะมากกว่า

    “โอเค ฉันก็ไม่อยากให้ใครรู้เหมือนกันแหล่ะนะ” พูดอย่างอารมณ์ดีจนเจสสิก้าหมั่นไส้ตะงิดๆ ยุนอาเองก็ทำได้เพียงขำๆกับท่าทางของอีกคน

    “ดีมาก เพราะงั้นฉันจะสงบศึกที่บ้านให้เป็นการตอบแทน”

    “เหรอ ฉันว่าคนอย่างเธอเนี่ยนะทำไม่ได้หรอก เพราะถ้าไม่ได้หาเรื่องใครเธอนอนไม่หลับหรอกฉันว่า”

    “ย๊า!! อิมยุนอา”

    “อะไรเล่า เสียงดังชะมัดเลยหูจะแตกแล้ว”

    “ย๊า!! เธอตายแน่” แต่ก่อนที่คุณหนูทั้งสองคนจะตีกันตายหลังรถ คนขับรถก็เลื่อนรถเข้ามาจอดที่หน้าบ้านตระกูลอิมทันที ทำให้สงบศึกของสองคุณหนูได้ชั่วคราว ดูเหมือนว่าบ้านตระกูลอิมจะไม่เงียบเหงาและสงบอีกแล้ว 
    ____________________________________________________________________________________

    กลับมาแล้วครับหลังหายไปนาน
    ช่วงนี้ไรเตอร์ฝึกงานหนักมากๆเลย
    ถ้าว่างเมื่อไรจะมาอัพนะจ๊ะ อย่าเพิ่งกริ๊วนะ อิอิ
    เม้นเยอะๆนะครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×