คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ข่าวดี
ยุนอาลงจากรถเมล์แล้วเดินเข้าบ้านอย่างเงียบๆ คนขับรถและแม่บ้านต่างพากันออกมารับคุณหนูของบ้านกันยกใหญ่ ยุนอาเดินเข้ามานั่งห้องโถงใหญ่ของบ้านพร้อมทั้งเหล่าแม่บ้านที่เดินตามมาไม่หยุดหย่อน
“วันนี้ยุนเหนื่อยมากๆ ขอยุนอยู่คนเดียวนะ” หันไปสั่งบรรดาแม่บ้านก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักผ่อน แต่กระนั้นก็ยังไม่วายแม่บ้านเข้ามาอยู่ดี
“ยุนบอกแล้วไงว่าวันนี้ยุนเหนื่อย ขอยุนอยู่คนเดียวนะ” พูดทั้งๆที่หลับตาพักผ่อน แต่ความรู้สึกเหมือนยังถูกจ้องมองจากใครบางคนอยู่ จึงลืมตาขึ้นเพื่อจะมองสักหน่อยว่าแม่บ้านคนไหนกล้าขัดคำสั่งคุณหนูอย่างเธอ
“ก็อุตส่าซื้อรถให้ขับไปแต่ดันไม่ขับไปนี่สิ ถ้าจะเหนื่อยก็ไม่แปลกหรอก” อิมยุนฮีแม่ของยุนอา แกล้งพูดใส่ลูกสาวตัวเองที่ไม่ยอมใช้ของขวัญที่ตัวเองซื้อให้ในวันนี้
“คุณแม่ ทำไมวันนี้กลับเร็วหล่ะคะ?”
“อ๋อเดี๋ยวนี้แม่กลับเร็วๆไม่ได้ใช่ไหม เชอะ ใช่สิ๊” ใบหน้าที่คล้ายกับยุนอามากแต่ต่างกันที่อายุนั่น กำลังแสดงให้ลูกสาวรู้ว่างอนอยู่นะ
“โอ๋ๆ ยุนขอโทษค่ะ คุณแม่กลับเร็วๆก็ดีแล้วค่ะ จะได้มานั่งคุยกับยุน”
“แต่ไม่ได้กลับไวปกตินะยุน แม่มีข่าวดีจะบอก”
“อะไรคะ?”
“คุณอาจินโม เขาขอแม่แต่งงาน”
“ห๊า จริงเหรอคะ” ยุนอารู้สึกอึ๊งๆกับข่าวดีของผู้เป็นแม่ จินโม หรือจองจินโม ผู้นำเข้ารถสัญชาติอเมริกันรายใหญ่ของประเทศและยังมีบริษัทในเครือที่ทำเกี่ยวกับอะไหล่ประกอบรถอีก ยุนอายังเคยสงสัยเลยว่าแม่ของเธอไปรู้จักกับคนๆนี้ได้ยังไง แต่ทั้งคู่ก็คบกันอย่างเปิดเผยมานานแล้ว และยุนอาเองก็โอเคกับจินโมมาก เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่จะดีใจกับผู้เป็นแม่ที่ได้แต่งงานกับคนรักเสียที
“ยุนว่าไงลูก ถ้าแม่จะขอความเห็นเรื่องนี้”
“สำหรับยุน ความสุขของแม่ก็คือความสุขของยุนค่ะ คุณอาจินโมท่านก็ดีกับยุนมาก ยุนให้สามผ่านเลย” ยุนอาพูดติดตลกก่อนที่ผู้เป็นแม่จะสวมกอดลูกสาวไว้
“ขอบคุณยุนมากจริงๆนะลูก แม่รักยุนนะ”
“ยุนก็รักแม่ค่ะ” ยุนอากอดผู้เป็นมารดากลับพร้อมทั้งความรู้สึกที่หลากหลาย ตั้งแต่พ่อของเธอจากไปเธอก็ไม่เคยเห็นแม่ดูมีความสุขเลย จนจองจินโมเข้ามาในชีวิตของแม่เธอ ก็ทำให้แม่ของเธอดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง จึงไม่แปลกที่เธอจะรู้สึกดีที่แม่เธอตัดสินใจแบบนี้
“วันนี้อาจินโมกับลูกสาวเขาจะมาทานอาหารที่บ้านเรานะลูก ยุนเตรียมตัวไว้แล้วกัน”
“ลูกสาวอาจินโม ที่พึ่งกลับมาจากอเมริกานั่นนะเหรอคะ?”
“ใช่จ๊ะ อยู่มหาลัยเดียวกับยุนนั่นแหล่ะ แต่แม่ก็ลืมถามนะว่าคณะอะไร เอาเป็นว่ายุนไปอาบน้ำไปเดี๋ยวถ้าอาจินโมมาแม่จะให้แม่บ้านไปตาม”
“ค่ะ แม่” ยุนอาเดินขึ้นไปชั้นสองอย่างว่าง่าย
อีกด้านหนึ่ง
“อะไรนะแด๊ด จะแต่งงาน กับใคร? ชื่ออะไร? อยู่ที่ไหน? ทำงานอะไร?” เจสสิก้าที่ยืนแว๊ดๆต่อหน้าผู้เป็นพ่อเพราะความตกใจ ไอ้รู้ว่าคบกับแม่หม้ายนี่ก็พอรู้อยู่นะ แต่พอเธอกลับมาจากอเมริกาไม่เท่าไร นี่จะแต่งงานกันละเหรอ
“โอ๊ย สิก้า จะถามไรแด๊ดนักหนาเนี่ย เอาเป็นว่าเย็นนี้รู้เอง”
“ไม่ค่ะ ถ้าแด๊ดไม่ตอบคำถามสิก้า สิก้าก็จะไม่ไปกับแด๊ดวันนี้” เจสสิก้ากอดอกทำหน้างอนผู้เป็นพ่ออยู่ ทำเอาคนเป็นพ่อไปต่อไม่ถูกกับลูกสาวที่แสนจะเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้
“โอเคๆ แด๊ดจะใบ้ให้ฟังว่า เขาทำงานเกี่ยวกับ การส่งออกระหว่างประเทศ เป็นผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเกาหลี” เจสสิก้าฟังก็พอจะยอมรับได้อยู่ อย่างน้อยพ่อของเธอก็ไม่ได้ไปคว้าผู้หญิงไม่ดีมาแต่งงาน แต่ไอ้ประโยคที่ว่าทรงอิทธิพลที่สุดในเกาหลีนี่มันคุ้นๆแห๊ะ แต่จำไม่ได้ว่าเคยได้ยินที่ไหน
“เอาเป็นว่าเย็นนี้แต่งตัวสวยๆนะลูก เราจะไปทานข้าวบ้านนู่นกัน แด๊ดจะแนะนำให้รู้จักกับลูกสาวบ้านนั้นด้วย จะได้เป็นเพื่อนกันไว้ ได้ข่าวว่าอยู่มหาลัยเดียวกับลูกด้วย” ผู้เป็นพ่อพูดอย่างอารมณ์ดีทำเอาเจสสิก้าที่นั่งฟังรู้สึกหงุดหงิด
“สิก้าไม่ไปกับแด๊ดหรอก เพราะสิก้าจะขับรถไปเอง”
“นี่จะไม่ขัดแด๊ดสักเรื่องจะได้ไหมสิก้า แล้วอีกอย่างชินกับถนนที่เกาหลีแล้วเหรอ”
“ชินแล้วค่ะ สบายมากและอีกอย่างสิก้าภูมิใจที่รถของสิก้ามีคันเดียวในเกาหลี” เจสสิก้าพูดแล้วยิ้มดีใจไม่หายที่ผู้เป็นพ่อให้ของขวัญในการเข้ามหาลัยด้วยรถสปอร์ตหรูที่เธอเชื่อว่ามีคันเดียวในเกาหลี?
“เหรอ แฮ่ๆ ถ้าสิก้าลูกรักคิดอะไรแล้วสบายใจก็ทำเถอะลูก”
“ทำไมแด๊ดพูดเหมือนว่าสิก้าเข้าใจอะไรผิดๆงั้นแหล่ะ”
“เปล่าจ้าลูกสาว เดี๋ยวแด๊ดขอตัวไปเคลียร์งานก่อนนะ” ยังไม่ทันได้รอให้ลูกสาวพูดอะไรผู้เป็นพ่อก็เดินเลี่ยงออกไปทิ้งให้เจสสิก้ายืนงงกับการกระทำของผู้เป็นพ่อตัวเองคนเดียว
วันเวลามันช่างเดินไวเหลือเกินในความคิดของเจสสิก้า เธอยังนอนได้ไม่เท่าไรผู้เป็นพ่อก็ให้คนมาบอกว่าเตรียมตัวได้แล้ว เธอเริ่มจะเซงกับการที่จะต้องไปทานข้าวกับว่าที่แม่? ของเธอแล้วนะ
“สิก้าเสร็จหรือยังลูก นานเกินไปแล้วนะ” เสียงของผู้เป็นพ่อดังเข้ามาทำเอาเจสสิก้าที่พึ่งแต่งตัวเสร็จอารมณ์เสียไม่น้อย
“เร่งจังเลยแด๊ด เดี๋ยวสิก้าก็ไม่ไปเลยนี่”
“โอ๋ๆลูกสาวแด๊ดสวยมากเลยวันนี้ ถ้าไม่ไปเสียดายความสวยที่อุตส่าแต่งวันนี้นะลูก” เจสสิก้ามองหน้าผู้เป็นพ่อแล้วพยักหน้าน้อยๆจำต้องยอมเดินตามผู้เป็นพ่อออกไปที่รถ
“สิก้าขับตามมาละกันนะลูก อย่าออกนอนทางหล่ะ เดี๋ยวจะหลง อิอิ” ยังมีหน้าหันมาเล่นมุขอีกนะแด๊ด เดี๋ยวเธอจะออกนอกเส้นทางซะจริงๆเลยนี่
ในเวลาไม่นานสองพ่อลูกก็มาถึงบ้านของว่าที่แม่? ในอนาคตของเจสสิก้า ในแวบแรกที่เข้ามาในตัวบ้านเจสสิก้าก็ต้องอึ้งเมื่อเห็นองค์ประกอบของบ้านที่ดูหรูหรา และสวนหน้าบ้านที่คล้ายๆกับสนามกอล์ฟย่อมๆ แต่ที่ติดใจเจสสิก้าก็เห็นจะเป็น
“แด๊ด!!!?”
“จ๋า ว่าไงลูกสาว”
“มีรถยี่ห้อเดียวกันกับสิก้าที่นี่ได้ยังไง” เจสสิก้าที่เริ่มควันออกหูถามผู้เป็นพ่ออย่างเหลืออด เธอเข้าใจมาตลอดว่ารถสปอร์ตที่เธอขับอยู่นั้นเป็นคันเดียวในเกาหลี แต่นี่อะไรกัน ทำไมมีรถรุ่นเดียวกัน ยี่ห้อเดียวกันมาจอดไว้ในบ้านหลังนี้อีก
“แด๊ดไม่เคยบอกสิก้านะว่ารถที่แด๊ดให้มีคันเดียวในเกาหลี” ผู้เป็นพ่อพุดอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะลูกสาวสุดที่รักกำลังจะระเบิดอารมณ์ออกมาแล้ว
“แด๊ด สิก้าไม่ชอบเลยที่แด๊ดพูดแบบนั้น”
“โธ่ สิก้ามันก็แค่รถนะลูก อย่าคิดมากเลยนะเดี๋ยวเสียบรรยากาศวันนี้”
“ก็ได้ค่ะ ขอสิก้าดูหน้าเจ้าของรถที่เหมือนกับสิก้าหน่อยเถอะ” เจสสิก้ามองผู้เป็นพ่ออย่างฉุนๆก่อนจะเดินนำหน้าไป
เมื่อเข้ามาในตัวบ้าน บรรดาแม่บ้านก็เข้ามาเชิญแขกของบ้านทั้งสองให้ไปนั่งรอที่ห้องโถงของบ้าน เจสสิก้าลอบมองถ้วยรางวัลต่างๆในตู้โชว์ ส่วนใหญ่เป็นรางวัลจากการโชว์ทักษะด้านการเรียนและกีฬา สงสัยลูกสาวบ้านนี้ที่พ่อเธอเล่าให้ฟังจะเก่งหน้าดู
“จินโม หนูสิก้ามาแล้วเหรอ” ยุนฮีเดินออกมาจากครัว ก่อนจะทักทายแขกของบ้านวันนี้ เจสสิก้าที่ได้ยินก็หันไปมองใบหน้าของผู้ที่เรียกเธอ ก็ต้องตะลึง นี่มัน ยุนอาหรือเปล่าเนี่ย ทำไมหน้าเหมือนกันขนาดนี้
“ยุนฮีนี่สิก้า สิก้านี่คุณอายุนฮีลูก”
“สวัสดีค่ะ คุณอายุนฮี” เจสสิก้าโค้งให้ยุนฮีนิดหน่อยก่อนจะลอบมองใบหน้าให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ไม่ผิดแน่ นี่ต้องเป็นแม่ของอิมยุนอาศัตรูคู่แค้นของเธอแน่นอน
“เดี๋ยวรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวจะให้คนไปตามยุนอาลงมา จะได้ทานข้าวกัน” ชัดเจนสว่างวาบเลยในความคิดของเจสสิก้า นี่มันบ้านอิมยุนอาชัดๆ พอเดินผ่านกลางบ้านยิ่งชัดเจอหนักกว่าเดิมเนื่องจากรูปถ่ายใบใหญ่แสดงให้เห็นใบหน้าของสองแม่ลูกที่คล้ายกันมาก และไหนจะรูปของยุนอาในอิริยาบถต่างๆอีก เจสสิก้าเริ่มคิดแล้วว่าเธอทำบาปอะไรไว้หรือเปล่าถึงต้องมาเจอกับยุนอาอีก
ไม่นานยุนอาก็เดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน การพบกันของยุนอาและเจสสิก้าในสถานที่นี้ดูจะเป็นเรื่องอึดอัดเล็กน้อย ต่างคนต่างมองกันงงๆโดยเฉพาะยุนอาที่พึ่งจะเข้าใจว่าลูกสาวของจินโมคือ ยัยผู้หญิงสไตล์อเมริกันจ๋าคนนี้
“หนูสิก้าเรียนคณะอะไรเหรอจ๊ะ” ยุนฮีถามในขณะที่ทั้งสี่นั่งทานข้าวกัน
“หนูเรียนคณะแพทย์ค่ะ”
“อ้าว คณะเดียวกันกับยุนเลยนี่ ใช่ไหมลูก?”
“ค่ะแม่” ยุนอาตอบแต่ในใจก็คิดว่าถ้าเปลี่ยนคณะตอนนี้ได้เธอจะเปลี่ยน
“งั้นก็ดีเลย จะได้เป็นเพื่อนกันไว้นะ” จินโมตอบอย่างอารมณ์ดีพร้อมทั้งมองหน้าของยุนอาและเจสสิก้าสลับกัน
“เอ่อ คุณอายุนฮีคะ ไม่ทราบว่ารถสปอร์ตเซนโว เอสที วัน ที่จอดอยู่ในโรงจอดรถนี่ของคุณอาหรือเปล่าคะ” เจสสิก้าถามเผื่อคำตอบของยุนฮีจะทำให้เธอสบายใจขึ้นว่าอย่างน้อยรถที่ซ้ำกันกับเธอก็คือรถของยุนฮี ผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเกาหลี
“อ๋อ คันนั้นของยุนเค้านะลูก อาซื้อให้เป็นของขวัญเข้ามหาลัยของยุนจ๊ะ” เจสสิก้าแทบอยากจะหงายหลัง ทำไมต้องเป็นยุนอาด้วยนะ
“ค่ะ สิก้าก็ถามเฉยๆค่ะ ไม่มีอะไร” ทั้งๆที่ในใจอยากจะร้องออกมาดังๆ แด๊ดนะแด๊ดนี่คงจะปรึกษากันและกันซื้อของขวัญให้ลูกสินะ ถึงได้ซื้อเหมือนกันขนาดนี้
“พอดีว่ารถของสิก้าก็รุ่นนี้หน่ะ สิก้าเลยถาม” จินโมที่เห็นว่ายุนอาคงงงกับคำถามของเจสสิก้าเลยอาสาตอบแทนลูกสาวเอง ยุนอาพอรู้อย่างนั้นก็อยากจะเอารถที่แม่ตนเองซื้อให้ไปขายต่อจริงๆ
การรับประทานอาหารเป็นไปอย่างราบเรียบมีแค่เสียงของผู้ใหญ่ทั้งสองคนเท่านั้นที่พูดคุยกัน ยุนอาและเจสสิก้าต่างก็เงียบตลอดระยะเวลาที่ทานอาหาร พอมื้ออาหารเสร็จสิ้นเป็นยุนอาเองที่ขอตัว ทำให้เหลือแต่เจสสิก้าและสองผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ในห้องโถง
“ยุนอาเขาเป็นคนแบบนี้แหล่ะจ๊ะ หลังจากทานอาหารก็จะไปห้องลับของเขาหน่ะ” ยุนฮีเล่าเรื่องของยุนอาให้เจสสิก้าฟังอย่างอารมณ์ดี เจสสิก้าก็ยิ้มให้ทั้งๆที่ในใจไม่ได้อยากฟังเรื่องของยุนอาเลยสักนิด
“งั้นสิก้าขอตัวไปเข้าห้องน้ำหน่อยนะคะ”
“จ้า ตามสบายเลยนะ” ยุนฮียิ้มให้ก่อนจะหันมาคุยกับจินโมต่อ
เจสสิก้าเดินมาจนใกล้จะถึงห้องน้ำแต่พลันได้ยินเสียงของเพลงที่มีจังหวะแดนซ์ ที่เปิดอยู่ ตอนแรกก็ไม่อยากยุ่งแต่ก็ขอแอบดูเสียหน่อย จึงแอบซ่อนอยู่หน้าประตูห้องที่คาดว่าน่าจะเป็นห้องที่เป็นที่มาของเสียงเพลง เจสสิก้าค่อยๆเปิดประตูเพื่อแง้มดูคนข้างใน ก็พบว่าเป็นยุนอาที่กำลังซ้อมเต้นอยู่ โดยยุนอาเมื่อรู้ตัวว่ามีคนแอบจ้องอยู่ก็เดินไปปิดเพลงและหันกลับมามองตัวปัญหาที่ชอบแอบดูชาวบ้าน
“ไม่ยักรู้ว่าเต้นเป็น แต่ก็คงจะงูๆปลาๆสินะ” เจสสิก้าพูดเสียงดังพร้อมทั้งยิ้มเยาะน้อยๆส่งไปที่ยุนอา
“เสียมารยาท” เป็นคำเดียวที่หลุดจากปากของยุนอา เจสสิก้าที่ได้ยินดังนั้นก็เลือดขึ้นหน้า นี่มันด่ากันชัดๆ
“อิมยุนอา มันจะมากไปแล้วนะ กล้าดียังไงมาว่าฉันห๊ะ”
“ก็ไม่นี่ ฉันพูดไปตามที่เห็น การแอบดูคนอื่นมันเสียมารยาท หรือเธอว่าไม่จริง?” ยุนอาพูดออกมาก่อนที่จะหันไปเต้นต่อโดยไม่สนใจอีกคนที่ยืนกระทืบเท้าอยู่ด้านหลัง
“เธอ!! ฉันจะบอกแด๊ดให้เปลี่ยนรถ ฉันไม่ยอมขับรถยี่ห้อเดียวกันกับเธอเด็ดขาด”
“ว้า ป๊อดจังเลย ฮ่าๆๆ” ยุนอาที่ซ้อมเต้นไปพูดไปทำเอาเจสสิก้าอารมณ์เสียหนักกว่าเดิม ในเมื่อทำอะไรเขาไม่ได้ ก็ได้แต่เดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกมาจากตรงนั้น
“คนอะไร ติ๊งต๊องชะมัด” ยุนอาที่เดินออกมาลอบดูอาการของอีกคนก็หัวเราะชอบใจที่แกล้ง เจสสิก้าได้สำเร็จ
เจสสิก้าเดินกระทืบเท้าออกมาด้วยความโมโหสุดเหวี่ยง เดินออกมาก็เจอเข้ากับผู้ใหญ่ทั้งสองที่นั่งคุยกันอยู่ จินโมเห็นอาการที่ไม่ค่อยจะดีของลูกสาวจึงบอกลายุนฮีแล้วรีบลากตัวเจสสิก้าออกมาข้างนอก
“สิก้า เป็นอะไรอีกลูก ถ้าเรื่องรถแด๊ดจะเปลี่ยนให้หนูเลยโอเคไหม?”
“เปล่าค่ะแด๊ด สิก้าจะขับรถคันเดิม” จินโมมองหน้าคนเป็นลูกสาวอย่างงงๆ อะไรกันเจสสิก้าไม่เหวี่ยงเรื่องรถ นี่ลูกสาวตัวจริงของเค้าหรือเปล่าเนี่ย
“แต่สิก้าคงต้องทำความรู้จักกับว่าที่พี่น้องคนใหม่ซะหน่อยแล้ว หึหึ” ว่าแล้วคนอย่างลูกสาวของเขาทำไมจะไม่มีเรื่องให้ทำ นี่คงไปถูกใจในตัวยุนอาอีกแน่ๆ ถึงได้อยากจะรู้จักกันขนาดนี้ แต่ก็ดีแล้วเด็กๆรู้จักรักใคร่กันก็ดีแล้ว
“เจอกันแน่ อิมยุนอา”
ความคิดเห็น