[SNSD] You and I หนึ่งในพันล้าน (TaeNy ft. YulSic) - [SNSD] You and I หนึ่งในพันล้าน (TaeNy ft. YulSic) นิยาย [SNSD] You and I หนึ่งในพันล้าน (TaeNy ft. YulSic) : Dek-D.com - Writer

    [SNSD] You and I หนึ่งในพันล้าน (TaeNy ft. YulSic)

    ขอ มีพันล้านคนบนโลกแห่งนี้ให้มีสักคนที่ฉันเฝ้ารอคอยมานานในจินตนาการหากใครคนที่รักฉันยังมี (ให้ฉันหาเธอเจอสักที)

    ผู้เข้าชมรวม

    2,739

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    2.73K

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    18
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  24 เม.ย. 56 / 18:31 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น


    เขา:ช่างภาพที่มองโลกในแง่ดี
     


    เธอ: นางแบบสาวที่รอรักแท้

    ร่วมด้วย




    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      (แชะ แชะ) เป็นประจำทุกๆวันที่ “คิมแทยอน” ช่างภาพอิสระคนนี้จะมาถ่ายรูปตั้งแต่ตอนรุ่งเช้า ก็เพราะว่าบรรยากาศตอนเช้าเป็นเหมือนการเริ่มต้นของสิ่งใหม่ๆก็เหมือนกับทุกๆชีวิต ที่ต้องก้าวต่อไปข้างหน้าเสมอ แทยอนเดินเลียบมาตามถนน พบผู้คนที่เริ่มต้นชีวิตในยามเช้าของวันนี้ เขาเพียงมองภาพเหล่านั้นแล้วยิ้ม ก่อนจะกดชัดเตอร์เพื่อเก็บภาพความทรงจำดีๆไว้ หลายต่อหลายภาพได้ถูกบันทึกลงกล้องถ่ายรูปของเขาไว้ แทยอนเดินมาเรื่อยๆ จนถึงร้านกาแฟร้านหนึ่ง

      “ลาเต้แก้วนึงค่ะ” ไม่รอช้าที่จะสั่งกาแฟที่กลิ่นช่างหอมยั่วยวนใจอยู่ข้างหน้า เจ้าของร้านพยักหน้ายิ้มรับ ก่อนจะจัดการทำกาแฟให้ เขาที่ยืนรออยู่

      “ขอบคุณค่ะ” แทยอนจ่ายเงินแล้วยิ้มให้เจ้าของร้านก่อนจะเดินออกมา กล้องถ่ายรูป กาแฟ ชีวิตที่อิสระ ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้แล้ว สำหรับคิมแทยอน

      (กริ๊ง งงง งง)

      เสียงเครื่องมือสื่อสารที่อยู่ในกระเป๋าดังขึ้น ทำให้เขาต้องละความสนใจจากการดื่มด่ำบรรยากาศรอบตัว ว่าแต่ใครกันที่โทรมาหาเขาตอนเช้าๆแบบนี้ ถ้าไม่ติดว่าวันนี้อารมณ์ดีนะ จะด่าให้ (-O-)

      “สวัสดีค่ะ”

      (คิม แทยอนนนน ฉันยูริเองนะเพื่อนรัก) พอได้ยินเสียงปลายสายไอ้อารมณ์ในตอนแรกก็กลับมาทันที มันน่าโดนด่าไหมเนี่ย ควอนยูริ

      “อะไรของแกเนี่ย โทรมาแต่เช้า แล้วเอาเบอร์ใครโทรมา” พอรู้ว่าเป็นเพื่อนสนิทของตัวเองคิมแทยอนคนนี้ก็กะจะสวดให้ยับเลยโทษฐานที่มันโทรมาขัดจังหวะอารมณ์ติสของตัวเอง

      (อย่าเพิ่งด่ากันสิ แทแทฉันแค่อยากให้แกช่วยไรหน่อย นะๆๆๆๆๆ)

      “ช่วยอะไรของแก ไม่เอาหรอกฉันไม่ค่อยว่าง” พูดไปแบบนั้นเพราะว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เพื่อนรักคนนี้ขอความช่วยเหลือมักจะมีแต่เรื่องพิเรนๆ เช่น ให้ไปดูตัวแทนบ้างหล่ะ ให้ปลอมเป็นคนส่งเอกสารบ้างหล่ะแล้วอย่างนี้แมวที่ไหนเขาจะอยากช่วยแกกัน ไอ้คุณควอนเอ๊ยย

      (ง่ะ แทแท แกช่วยฉันหน่อยนะ นี่ความเป็นความตายของบริษัทฉันเลยนะ นะๆๆๆๆ ช่วยเค้าหน่อย) เสียงออดอ้อนที่แทยอนคนนึงหล่ะ คิดว่ามันไม่ได้น่ารักเหมาะสมกับไอ้เพื่อนคนนี้เลย แต่ก็ต้องจำใจช่วย เพื่อนเดือดร้อนมาคนอย่างคิมแทยอนก็อยู่เฉยๆไม่ได้เหมือนกัน

      “จะให้ช่วยไรหล่ะ แต่อย่าเล่นอะไรบ้าๆอีกนะไม่งั้นฉันฆ่าแกแน่”

      (รับรองๆ งั้นตอนบ่ายแกมาหาฉันที่บริษัทนะ เอากล้องตัวโปรดแกมาด้วย แค่นี้นะ บะบ๊ายยย) แล้วมันก็วางหูไป แทยอนส่ายหน้าน้อยๆกับความปัญญาอ่อนของไอ้เพื่อนตัวดี เป็นถึงผู้บริหารแต่ยังทำตัวแบ๊วเหมือนเด็กปีหนึ่งอยู่เลย จัดการเก็บเครื่องมือสื่อสารลงกระเป๋าแล้วก็ดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบข้างต่อไป

                      แทยอนเดินเลียบมาตามถนนเส้นเดิม สายตาก็ไปเจอกับนิตยสารซุบซิบดาราฉบับหนึ่งที่อยู่บนร้านหนังสือแผงลอย ปกติก็ไม่ได้ชอบอ่านนักหรอก แต่หัวข่าวเจ้ากรรมดันพาดซะใหญ่โตเหมือนเป็นเรื่องระดับประเทศ

      (นางแบบสาวชื่อดัง “สเตฟานี่ ฮวัง” หรือทิฟฟานี่ เหวี่ยงช่างถ่ายภาพ จนตอนนี้ไม่มีช่างถ่ายภาพคนไหนสามารถร่วมงานกับเธอได้เลย ) แทยอนอ่านหัวข้อนั้นในใจก่อน จะเดินจากร้านหนังสือแผงลอยนั้นไป คนบ้าอะไรถึงขนาดไม่มีใครอยากจะร่วมงานด้วย สงสัยนิสัยจะเหวี่ยงน่าดู ถ้าเป็นเธอเองก็คงไม่อยากร่วมงานด้วยหรอกนะ คิดได้ดังนั้นก็เดินไปเรื่อยพร้อมๆกับที่ลืมเรื่องของนางแบบสาวนั่น

                      ร่างบางในชุดนอนสีชมพูทั้งตัวกำลังนอนหลับสบาย เธอทำงานเหนื่อยมาตลอด นานๆทีจะมีงานเข้าตอนบ่ายทำให้ตัวเองไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุกหรือไม่ต้องฝืนตื่นขึ้นมาในตอนนี้ แต่เธอกำลังคิดผิดถนัดเลย

      “ฟาเน้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงสิบแปดหลอดของคุณผู้จัดการส่วนตัวที่เข้ามาปลุกเธอโดยที่ไม่ต้องพึ่งไมค์ หรือลำโพงใดๆทั้งสิ้น(- -)

      “โอ๊ยยย สิก้าจะเรียกทำไมนักหนาเนี่ย คนจะนอน”

      “ก็ตื่นก่อนสิยะ ไปอาบน้ำจะได้ไปทำงาน” ไม่ว่าปล่าวคุณผู้จัดการสาวที่สวยไม่แพ้กัน? ก็ทั้งฉุดทั้งลากทิฟฟานี่ลงจากเตียง

      “อะไรของแก วันนี้ฉันมีงานตอนบ่ายไม่ใช่เหรอแกอย่ามามั่วนะ” พูดทั้งๆที่ตาก็ยังหลับ แต่ไม่ได้ทำให้อีกคนรู้สึกสงสารเลยสักนิด

      “ใช่ แต่แกลืมไปหรือป่าวว่าบริษัทที่เราจะไปวันนี้อ่ะ มันบริษัทที่อยู่ในเครือควอนกรุ๊ปนะ”

      “แล้วยังไง”

      “ก็ต้องรีบไปสิ ฉันอยากจะไปเจอยูลไวไวอ่ะ” และก็เผยออกมาจนได้สินะ เจสสิก้า จอง อยากเจอแฟนไวไวแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยเนี่ยยย

      “แกก็ไปก่อนก็ได้นี่ แล้วค่อยกลับมารับฉันตอนบ่าย” ว่าแล้วก็เอามือปัดๆไปในอากาศจะสื่อประมาณว่ารีบๆไปเถอะฉันจะนอน

      “ไม่เอา ฉันขี้เกียจกลับมาคอนโดอีกรอบ เพราะฉะนั้นแกลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวซะ เร็ว!!

                      และแล้วร่างที่กึ่งหลับกึ่งตื่นของทิฟฟานี่ก็นั่งอยู่ข้างคนขับโดยที่คุณผู้จัดการส่วนตัวก็ขับรถไปอมยิ้มไป เออใช่สิจะไปหาแฟนนี่แล้วมาลากกันไปด้วยแบบนี้มันลำบากไหมนี่ จะว่าไปเจสสิก้ากับยูริก็เป็นแฟนกันตั้งแต่เรียนมหาลัย ใครๆก็พากันอิจฉา เพราะทั้งยูริและเจสสิก้าต่างก็จัดได้ว่าหน้าตาดีด้วยกันทั้งคู่ แต่ไอ้คนอย่างเธอเนี่ยสิ หน้าตาก็ดี หุ่นก็เพอเฟค(?) ทำไม๊ทำไมถึงไม่มีแฟนซะที ไม่ใช่ว่าไม่มีใครมาจีบ คนจีบหน่ะเยอะแยะตาแป๊ะขายถั่ว แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่ได้รู้สึกดีกับใครเลย สงสัยชีวิตจะต้องเป็นแบบนี้จนแก่เลยมั้ง(TT)

      “เอ้อ ฟานี่ งานนี้ฉันขอร้องนะว่าห้ามเหวี่ยงช่างถ่ายภาพอีก แกรู้ไหมยูลเขาทุ่มเทกับงานนี้มากถ้าแกทำพังเพราะความเอาแต่ใจนะ แกตาย!!” เออขู่ได้ขู่ดี ก็ถ้าอีพวกช่างถ่ายภาพพวกนั้นไม่มองเธอด้วยสายตาโลมเลียแบบนั้นนะ มีเหรอที่คนอย่างทิฟฟานี่จะเหวี่ยงแต่เพราะอีพวกหัวงูพวกนั้นทำแบบนี้ มันก็ต้องเจอคนอย่างนี่แหล่ะถึงจะเหมาะสม

      “อืมฉันรู้แล้วล่ะน่า อย่าบ่นมากเลยขับรถไปเถอะ”

                      แทยอนเดินถ่ายภาพมาเรื่อยๆจนตอนนี้เวลาก็เกือบจะบ่ายโมงแล้ว นี่ฉันมัวแต่ถ่ายภาพจนลืมกินข้าวอีกแล้วเหรอเนี่ย แต่ไม่เป็นไรมันเป็นเรื่องปกติไปแล้วกับการไม่ได้ทานข้าวกลางวัน รีบไปหาไอ้ยูลดีกว่าเพราะตัวเธอเองก็ไม่ชอบไปสายเหมือนกัน คิดได้ดังนั้นก็รีบเดินเพราะบริษัทของยูริอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เพราะงั้นเลยสะดวกที่จะเดินไปมากกว่าและด้วยเวลาไม่นานร่างของแทยอนก็มายืนอยู่หน้าบริษัทของเพื่อนรัก แทยอนเดินเข้าไปในสิ่งก่อสร้างที่โอ่อ่านี้ จะว่าไปบริษัทยูรินี่ก็ใหญ่เหมือนกันเนอะ แล้วจะหายูริเจอได้จากที่ไหนเนี่ย

      “เออ คุณค่ะฉันมาหาคุณควอนยูริ ค่ะ” พูดพร้อมทั้งยิ้มให้พนักงานประชาสัมพันธ์อย่างเป็นมิตร ก่อนที่เธอจะยิ้มและถามกลับมา

      “คุณได้นัดคุณควอนไว้ก่อนล่วงหน้าไหมค่ะ”

      “อ๋อ ค่ะ” ในขณะที่แทยอนกำลังสนทนากับประชาสัมพันธ์สาว ยูริ เจสสิก้าและ ทิฟฟานี่ก็เดินลงมาพอดี

      “เฮ้ย แทแทมาแล้วเหรอ ฉันกะว่ากำลังจะลงมารอแกข้างล่างพอดีเลย” ยูริรีบวิ่งมาหาแทยอนทันที

      “อือ ฉันไม่อยากมาสายหน่ะ ว่าแต่อะไรหล่ะที่แกจะให้ช่วย”

      “อ๋อ นี่ๆ มานี่ก่อน ทุกคนค่ะ นี่แทยอน เพื่อนยูลเอง ส่วนนี่เจสสิก้าแฟนฉัน และทิฟฟานี่นางแบบที่ฉันจะให้แกมาถ่ายรูปให้ในวันนี้” ยูริจัดการแนะนำทุกอย่างเสร็จสับ แทยอนพยายามเพ่งมองนางแบบสาวข้างหน้าแล้วก็เหมือนกับบางสิ่งในหัวใจได้ก่อตัวขึ้น ทำไม?ถึงได้รู้สึกแบบนี้ทั้งๆที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก ทำไมถึงละสายตาจากคนตรงหน้าไม่ได้ซะที

                      ทิฟฟานี่เองก็เช่นกัน “จ้อง” เป็นคำเดียวที่อธิบายปฏิกิริยาของตัวเองได้ในตอนนี้ ไม่รู้ว่าทำไมหัวใจเต้นแบบแปลกๆ ทั้งๆที่ยังไม่มีประโยคใดๆเอื้อนเอ่ยให้กันสักประโยค แต่กลับรู้สึกได้มากถึงขนาดนี้

      “สวัสดีค่ะ ฉัน คิมแทยอน” กล่าวสวัสดีและโค้งให้แบบอายๆสไตล์คิมแทยอน

      “ค่ะ ฉัน ทิฟฟานี่ ฮวัง ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” ทิฟฟานี่ก็เช่นกันดูจะเขินอายกับการทักทายคนตรงหน้าจนเจสสิก้านึกสงสัยว่าจะเขินอะไรกันนักหนา  และหลังจากนั้นก็เป็นยูริที่พาทั้งสามคนมาในห้องที่มีอุปกรณ์ ทั้งฉาก แสง สี ทุกอย่าง รอแค่ช่างภาพเท่านั้น

      “แทแทคอนเซ็ปคือ การรอคอย ความรัก และพรหมลิขิตนะ” แค่ฟังชื่อคอนเซ็ป คิมแทยอนก็หน้าขึ้นสีแล้ว การรอคอย ความรัก และพรหมลิขิตงั้นเหรอ ยิ่งหันไปมองนางแบบสาวตรงหน้าก็ยิ่งเขิน จะเขินเขาทำไมนะ มันแค่ชื่อคอนเซ็ป คิดอะไรไปไกลแล้ว คิมแทยอน

      “งั้นเดี๋ยวสิก้าพาฟานี่ไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะยูล” แล้วสองสาวก็ออกไปจากห้อง แล้วเดินตรงไปอีกห้องหนึ่งเพื่อทำการเปลี่ยนชุด เจสสิก้าที่เห็นอาการแปลกๆของเพื่อนจึงถามขึ้น

      “ฟานี่ แกเป็นอะไรอ่ะ แลดูเขินๆแทยอนนะแกอ่ะ” เจสสิก้าพูดไม่ได้คิดอะไร แต่คนฟังนี่สิเขินเข้าไปใหญ่

      “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันสิก้า มันเป็นอะไรที่วูบๆในท้อง หัวใจเหมือนจะเต้นแรงแปลกๆ เอาแต่มองหน้าคุณแทยอน ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม” ทิฟฟานี่พูดออกไปอย่างที่คิด เพราะตัวเธอเองก็ไม่เข้าใจจริงๆว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร เจสสิก้าที่ได้ยินเพื่อนสาวพูดแบบนั้นก็ทำตาโตแล้วร้องออกมาทันที

      “แกชอบคุณแทยอนหน่ะสิฟานี่ ถึงว่าปกติใครจ้อง แกนี่เหวี่ยงตลอด แต่นี่เขาจ้องแกมาแกจ้องเขากลับ อ๊ายยย   พรหมลิขิตชัดๆ” เจสสิก้าพูดออกมาทำเอาทิฟฟานี่นิ่งคิด พรหมลิขิตงั้นเหรอ จะว่าไปก็น่าจะใช่ คนเป็นพันเป็นล้านคน แต่เธอกลับรู้สึกดีกับเขาคนนี้คนเดียวเพียงแค่เจอกันในครั้งแรกนี่หรือเปล่าที่เขาเรียกว่า “ตกหลุมรัก”

                      การถ่ายแบบเริ่มขึ้นแทยอนที่ปกติไม่ค่อยได้รับงานเท่าไร แต่ก็มีชื่อเสียงอยู่พอสมควรในวงการช่างภาพด้วยกัน กำลังเชคกล้องของตัวเอง ส่วนทิฟฟานี่ที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยก็เดินมาในฉากที่ดูคล้ายๆกับห้องโถงทางเดิน ทิฟฟานี่ในชุดเจ้าหญิงเป็นจุดสนใจให้ช่างภาพของเราได้ง่ายๆ แทยอนเอาแต่มองตามตั้งแต่ทิฟฟานี่เดินเข้ามา จนยูริต้องสะกิดเรียกเบาๆว่าให้เริ่มถ่ายได้แล้ว

                      แทยอนบอกทิฟฟานี่เปลี่ยนท่าที่โพสต์ไปเรื่อย มือก็กดชัตเตอร์รัวไม่หยุด สวย ยิ่งมองยิ่งสวย ไม่ว่าจะโพสต์ท่าไหนก็สวยไปหมด สวยจนอยากจะครอบครองไว้คนเดียวแต่ก็ได้แต่สะบัดไล่ความคิดออกจากหัวแล้วก็ถ่ายรูปต่อไป

      “คุณทิฟฟานี่ค่ะ ลองส่งอารมณ์ผ่านดวงตาดูนะคะ เพราะเดี๋ยวแทจะโฟกัสที่ดวงตาคุณค่ะ”

      “แบบไหนคะ ฟานี่ก็ไม่เข้าใจซะด้วย” แทยอนจึงเดินไปหาอีกคน ค่อยๆประคองใบหน้าสวยของทิฟฟานี่ขึ้นมาแล้วจัดให้เข้าที่ ก่อนจะมองไปในดวงตาของนางแบบแล้วเอ่ยประโยคที่ทำนางแบบของเราเขินได้ไม่ยาก

      “ลองคิดว่า คนที่คุณตามหาและเฝ้ารอมาทั้งชีวิตเค้ามาอยู่ตรงหน้าคุณสิคะ^^ ” ทิฟฟานี่เขินมากจนหน้าแดงไปหมด ไม่รู้ว่าเมื่อกี๊ที่แทยอนพูดต้องการจะสื่ออะไรหรือเปล่า แต่ทิฟฟานี่ก็ไล่ความคิดนั้นออกจากหัวแล้วพยายามส่งอารมณ์ผ่านดวงตาของตัวเองทันที แทยอนพอเดินกลับมาที่กล้องก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับตัวเอง พูดออกไปได้ยังไงนะ เสี่ยวจริงๆ พอกลับมามองทิฟฟานี่ผ่านกล้องก็ต้องอึ๊งเพราะนางแบบสาวส่งอารมณ์ได้ดีมาก แววตาที่แสดงออกชัดเจนว่าดีใจแค่ไหนที่ได้เจอและหวานซึ้งชวนฝันนั้น ถ้าไม่หลอกตัวเองจนเกินไปคิมแทยอนคนนี้คงคิดว่า นางแบบของเธอกำลังบอกความนัยอะไรบางอย่างกับตัวเองแน่ๆ

      “สิก้าคะ สิก้าว่าสองคนนี้ดูแปลกๆไหม? ” ยูริที่นั่งดูอยู่นานถามแฟนสาวของตัวเองที่นั่งมองทั้งคู่ไม่วางตา

      “ยูลจะไปรู้อะไร ฟานี่อ่ะชอบแทยอนนะ” ยูริได้ยินแบบนั้นก็ทำตาโต อะไรจะชอบกันไวขนาดนี้แต่อย่างว่า เพื่อนตัวเล็กของเธอก็ดูจะพออกพอใจคุณนางแบบสาวอยู่ไม่น้อยเพราะร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นคิมแทยอนอมยิ้มคนเดียวแบบนี้มาก่อน

      “งั้นเรามาทำให้สองคนนี้เผยความในใจกันไหม” ว่าแล้วทั้งคู่ก็นั่งซุบซิบวางแผน หัวเราะคิกคักกันอยู่สองคน ปล่อยให้คุณช่างภาพและคุณนางแบบถ่ายกันอยู่สองคน ในเวลาไม่นานการถ่ายแบบก็เสร็จสิ้นแทยอนที่กำลังนั่งเช็ดเลนส์กล้องของตัวเองก็ต้องทำหน้างงๆ เมื่อยูริเดินเข้ามาแล้วทำหน้าเศร้าๆ

      “เป็นอะไรอ่ะไอ้ยูล” คำถามที่แสดงถึงความเป็นห่วงลึกๆส่งไปยังพื่อนสนิท ยูริที่เห็นว่าแทยอนเริ่มเข้าสู่แผนของตัวองแล้วก็เริ่มต่อ

      “ก็สิก้าหน่ะสิ มาบ่นให้ฉันฟังว่าอีกไม่นานก็จะต้องจากฟานี่แล้ว”

      “ทำไมอ่ะ?” แทบจะทันทีที่แทยอนถามย้อนกับทำไมเหรอ จะจากไปไหน ไปไกลขนาดไหนเหรอ จะเจอกันแค่วันนี้เหรอ

      “ก็ฟานี่ จะกลับบ้านที่เมกา แล้วจะไม่กลับมาโซลอีก สิก้าก็เลยบ่นให้ฉันฟังว่า....................”

      อีกด้านหนึ่ง

      “อะไรนะ!! คุณแทยอนน่ะเหรอ กำลังจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ไม่มีกำหนดกลับเกาหลี” ทิฟฟานี่ที่ได้ยินเรื่องเล่าจากเพื่อนสาวก็ร้องออกมาด้วยความตกใจทันที

      “ก็ใช่สิ นี่แกจะปล่อยให้รักแรกพบของแกหายไปต่อหน้าต่อตาโดยไม่ทำไรเลยไง๊ ฉันเตือนก่อนนะถ้าพลาดไปแกอาจจะเสียใจตลอดชีวิต” เจสสิก้าใช้คำพูดที่ดูโอเว่อร์แต่กลับเป็นประโยคที่ทำให้ทิฟฟานี่คิด ใช่สิจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้ยังไงอย่างน้อยก็ให้คุณแทยอนรับรู้ความรู้สึกของตัวเอง ส่วนจะเป็นไงก็ชั่งมัน คิดได้ดังนั้นก็รีบวิ่งออกไปหน้าห้อง เจสสิก้าที่นั่งอยู่ในห้องก็ได้แต่ขำกับแผนอันชาญฉลาดของตัวเอง

      จังหวะที่ทิฟฟานี่วิ่งออกมาก็เจอกับอีกคนที่เจ้าตัวตั้งใจจะไปหาพอดี แทยอนเองก็ดูรีบร้อนเหมือนกันหลังจากโดนยูริเป่าหู(?) ให้มาพูดความจริงในใจกับทิฟฟานี่

      “ คุณทิฟฟานี่/คุณแทยอน” และทั้งคู่ก็ต่างเอ่ยออกมาพร้อมๆกัน ด้วยความเขินทำให้ต่างคนต่างเงียบใส่กันอีก จนแทยอนต้องเป็นฝ่ายรีบบอกให้ทิฟฟานี่พูดก่อน

      “คุณทิฟฟานี่มีอะไรจะพูดไหมคะ”

      “คือ ฉัน นนน น” บอกไปสิฟานี่ บอกไปๆ

      “ฉันชอบคุณค่ะ” กลับเป็นแทยอนเองที่พูดประโยคนี้ออกมา ทำเอาทิฟฟานี่อึ๊ง แทยอนเองก็ดูจะเขินมากๆแต่ก็ยอมที่จะพูดต่อ

      “คุณจะกลับไปบ้านที่ต่างประเทศแล้วจะไม่กลับมานี่อีก ฉันก็เลยแค่คิดว่าถ้าให้คุณรู้ความรู้สึกของฉันสักนิดก็น่าจะดี ฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าความรู้สึกที่มีให้คุณมันคืออะไร มันอาจจะเป็น......”

      “รักแรกพบ ใช่ค่ะฉันก็รู้สึกอย่างนั้น” ถึงแม้จะงงเล็กน้อยว่าแทยอนไปเอามาจากไหนว่าตัวเธอเองกำลังจะกลับบ้านที่ต่างประเทศแต่ก็ยอมรับว่ารู้สึกดีไม่น้อยที่คิดเหมือนกันทั้งคู่

      “คุณทิฟฟานี่หมายความว่าใจเราตรงกันสิคะ?” แทยอนถามออกมาแล้วยิ้มๆ ทิฟฟานี่เองที่เจอยิ้มแบบนั้นก็ยิ่งเขินเข้าไปใหญ่ แทยอนไม่รอช้าค่อยเดินเข้าใกล้คนตรงหน้าเรื่อยๆ ก่อนจะใช้มือตัวเองประคองใบหน้าสวยของคนตรงหน้าแล้วก็ประทับริมฝีปากของตัวเองลงบนตำแหน่งเดียวกันกับของทิฟฟานี่ ทิฟฟานี่ที่ดูตกใจในตอนแรกก็หลับตาและยอมรับความหวานจากริมฝีปากของคุณช่างภาพคนนี้ ทั้งคู่จูบกันนานเท่าที่ต้องการ เป็นแทยอนที่ค่อยๆถอนริมฝีปากของตัวเองออกมาก่อน แต่ปลายจมูกของทั้งคู่ก็ยังแตะกันอยู่

      “ฉันรู้สึกกับคุณตั้งแต่แรกเห็น ไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงละสายตาจกคุณไม่ได้ คนมากมายเป็นพันเป็นล้านคนเข้ามาในชีวิต ก็ไม่เท่าคุณที่ทำให้ฉันรู้สึกต่างจากคนอื่น ฉันแค่อยากจะบอกกับคุณ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสนั้น ฉันรักคุณนะ ทิฟฟานี่” ทิฟฟานี่ยิ้มให้แทยอนเมื่อได้ยินกับประโยคบอกรักที่ไม่ได้เป็นแค่คำพูด แต่ดูจะเป็นเรื่องจริงที่ออกมาจากใจของเขา

      “ฉันก็รู้สึกกับคุณตั้งแต่แรกเห็นเหมือนกัน ฉันก็รักคุณเหมือนกันนะ แทยอน” แทยอนรั้งเอวบางของทิฟฟานี่มาโอบหลวมๆ ทั้งคู่ยิ้มให้กัน ก่อนที่ทิฟฟานี่จะเป็นคนถามขึ้น

      “แล้วเรื่องที่คุณจะไปเรียนต่อหล่ะคะ? คุณจะว่ายังไง”

      “เรียนต่ออะไรเหรอ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย” แทยอนตอบกลับมาทำให้ทิฟฟานี่คิดปะติดปะต่อเรื่องราวแล้วก็ทำหน้าเข้าใจ อ๋อๆ เข้าใจละยัยเพื่อนตัวแสบและยูริแน่ๆที่คิดแผนนี้ เดี๋ยวมีเฮๆ

      “แล้วคุณทิฟฟานี่จะกลับบ้านที่ต่างประเทศวันไหนเหรอคะ” แทยอนถามแต่สีหน้านั้นกลับไม่สู้ดีเลย ทิฟฟานี่อมยิ้มก่อนจะตอบออกมา

      “ฟานี่ไม่ไปไหนแล้วค่ะ ฟานี่เจอคนที่ตามหาแล้วจะไปที่อื่นทำไมหล่ะคะ” แทยอนเขินจนหน้าขาวๆในตอนแรกเริ่มขึ้นสีแดง บทจะหวานก็นะ

      “งั้นคุณ...”

      “ฟานี่ค่ะ เรียกว่าฟานี่นะคะ แทแท ^^

      “ค่ะ ฟานี่ งั้นฟานี่จะไม่ไปไหนแล้วใช่ไหม” แทยอนถามพร้อมกลับมองตาของคนในอ้อมกอดอีกครั้ง

      “ค่ะ ไม่ไปไหนแล้วฟานี่จะอยู่กับแทตลอดไปค่ะ” แทยอนเมื่อได้ยินดังนั้นก็จับอีกคนมามอบจูบให้อีกครั้งด้วยความหมั่นเขี้ยว จะน่ารักเกินไปแล้วทิฟฟานี่

      Special

      “สิก้าอ่า ไหนบอกทำให้เพื่อนรักกันแล้วจะดีไง แล้วทำไมเราถึง........” ยูริเดินบ่นออกมาหลังจากทำให้เพื่อนทั้งสองคนรักกันได้ พอมันรู้ความจริงว่าหลอกมันทั้งคู่แค่นั้นแหล่ะ กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์ กุญแจรถ โดนสองคนนั้นยึดไปตอนไหนก็ไม่รู้

      “สิก้าขอโทษนะคะที่ไม่ได้บอกยูลก่อนว่ายัยฟานี่มันชอบแกล้งแบบนี้” อย่าว่าแต่ยูริ เจสสิก้าเองก็โดนเหมือนกันทุกอย่างยัยนางแบบนั่นยึดเอาไปหมด ไม่งั้นคงไม่ต้องเดินกลับคอนโดแบบนี้

      “ไม่เป็นไรค่ะ แค่เดินกับสิก้ายูลก็พอใจแล้ว^^ ” เจสสิก้ายิ้มให้กับร่างสูงที่เดินกลับคอนโดเป็นเพื่อนเธอ อย่างนี้สินะ ที่เข้าเรียกว่าได้แฟนดี ชีวีมีสุข

      รอก่อนเถอะยัยฟานี่ สักวันต้องเป็นของฉันผู้จัดการส่วนตัวของเธอคนนี้ (O^O)

      พูดคุยๆ

      สวัสดีครับขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการนะครับ ไรเตอร์ชื่อว่า THE GIB นะคร๊าบบบบบ

      นี่ก็เป็นผลงานเรื่องที่สอง ต่อ จากเรื่อง RAIN ของสองสาวยุนซอ ยังไงก็ฝากคอมเม้นกันเยอะๆน้า

      ไรเตอร์ชอบแต่งเรื่องสั้นแต่ไม่แน่อาจจะมีเรื่องยาวมาให้ได้อ่านกันเร็วๆนี้ ^^

      ส่วนใหญ่ตัวละครหลักจะเป็นสาวๆ SNSD นะครับ(เพราะชอบเป็นการส่วนตัวโดยเฉพาะอิมยุน) อิอิ

      เจอกันเรื่องหน้า แอบทิ้งท้ายว่าเรื่องหน้า คือคู่ที่ไรเตอร์รักมากมาย แต่อุบไว้ก่อนนะครับ ลุ้นเอาว่าคือคู่ไหน

      เม้นกันเยอะๆนะคร้าบบบบ(เพื่อกำลังใจของคนแต่งต่อไป)

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×