คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : [Naruto] - ขีดจำกัดสายเลือด
ขีดจำกัดสายเลือด รูปแบบดวงตา
ต้นกำเนิด
หลังจากที่เซียน 6 วิถีได้ผนึกพลังของ 10 หางแยกพลังออกมา9ส่วนกำเนิดเป็นสัตว์หางทั้ง9ตัวได้รับพลังอันไร้ขีดจำกัดได้ใช้พลังนั้นเพื่อชี้นำโลกไปสู่สันติภาพ แต่ทว่าเมื่อความฝันไปได้เพียงครึ่งทางเท่านั้นเวลาของเซียนผู้ยิ่งใหญ่ก็มาถึงก่อนสิ้นใจจึ่งจำเป็นต้องมอบพลังและกำหนดผู้สืบทอดคือบุตรชายทั้ง 2 คนโดยพี่นั้นมี "เนตรแห่งเซียน" มีพรสวรรณ์ทางด้านพลังจิตประสาทและอำนาจจักระเข้าใจว่าพลังอำนาจเป็นสิ่งจำเป็นต่อสันติภาพ ส่วนคนน้องมี "กายแห่งเซียน" มีพรสวรรณ์ด้านพลังชีวิตและพลังกายเข้าใจว่าความรักเป็นสิ่งจำเป็นต่อสันติภาพ เมื่อใกล้สิ้นใจเซียน 6 วิถีได้กำหนดตัวผู้สืบทอดโดยเลือกคนน้องผู้เห็นว่าความรักเป็นสิ่งจำเป็นต่อสันติภาพเป็นผู้สืบทอดทำให้ผู้เป็นพี่ไม่พอใจและได้ต่อสู้กับผู้เป็นน้อง กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปการต่อสู้ของพี่น้องก็ยังคงดำเนินอยู่ผ่านทางลูกหลานโดยลูกหลานของฝ่ายพี่คือ ตระกูลอุจิวะ และลูกหลานของฝ่ายน้องคือ ตระกูลเซนจู (ตระกูลของโฮคาเงะรุ่นแรก)
เนตรวงแหวน
เนตรวงแหวน หรือ ชาริงกัน-อังกฤษ (Sharingan) (ความหมายดวงตาลอกเลียนแบบ) เป็นสายเลือดพิเศษของตระกูลอุจิวะ ว่ากันว่าเนตรนี้มีต้นกำเนิดจากเนตรสังสาระของเซียน 6 วิถี
ความสามารถ
เนตรวงแหวนมีความสามารถในการมองรูปแบบ นินจุตสุ (วิชานินจา), เกนจุตสุ (วิชาภาพลวงตา) และ ไทจุตสุ (กระบวนท่า) ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และ ผู้ใช้สามารถก๊อปปี้กระบวนท่าและวิชาเดียวกันมาใช้ได้ นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการสะกดจิต และ อ่านการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ ส่วนการเลื่อนระดับความสามารถต้องได้มาจากการฝึกฝนหรือพรสวรรค์ของแต่ละคน
ไม้ตายของเนตรวงแหวน
1.อ่านทิศทางการโจมตีคู่ต่อสู้
2.มองการร่ายคาถาได้อย่างสมบูรณ์
3.ใช้ภาพลวงตา
4.มองจักระคู่ต่อสู้
5.เทพบิดร อิซานางิ เปลี่ยนแปลงและบิดเบือนชะตากรรมของตนเอง ทำให้เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเราเช่นความตาย ความเจ็บปวด หรืออะไรก็ตาม จะกลายเป็นเพียงความฝันหรือทำให้การโจมตีที่คิดเป็นจริงได้ แต่ดวงตาที่ใช้อิซานางิ จะบอดไปตลอดกาล
6.เทพมารดร อิซานามิ สามารถกำหนดโชคชะตาผู้อื่นได้ ทำให้เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับผู้โดนวิชานี้ติดอยู่ในวังวนที่ตั้งแต่เริ่มใช้จนเวลากลับมาแบบไม่มีที่สิ้นสุดโดยวิชานี้ไม่ได้ใช้ในการมองแต่เป็นประสาทสัมผัส สามารถออกจากวังวนของอิซานามิโดยผู้โดนวิชานี้จะต้องยอมรับโชคชะตาของตัวเอง เมื่อใช้แล้วตาตนเองจะบอดไปตลอดกาล เป็นคาถาที่มาคู่กับอิซานางิ เพื่อแก้ทางกัน
เนตรกระจกเงาหมื่นบุปผา
เหมือนกับก่อนหน้านี้แต่ทรงพลังขึ้นเป็นสิบ ๆ เท่า ที่เพิ่มมาคือ
1.เทพวายุ สุซาโนโอะ คือเทพพิทักษ์ที่ซ่อนอยู่ในเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา เป็นเทพพิทักษ์ที่มีพลังโจมตีและป้องกันสูงสุดและจะปกป้องคนที่เรียกออกมา ความสมบูรณ์ของเทพวายุขึนอยู่กับความสามารถของผู้ใช้ โดยร่างสุดท้ายมีลักษณะคลายกับ เท็งงุ ที่มีหน้าเป็นคนจมูกยาวและมีปีก เงื่อนไขในการใช้ต้องมีเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาทั้งสองข้างไม่งั้นร่างกายจะรับภาระมากเกินไปที่จะรับได้
2.อ่านจันทรา ก็คือการสะกดภาพลวงตาขั้นสุดยอดด้วยตาข้างซ้ายเพื่อทำลายระบบประสาทอย่างหนักหน่วงของคู่ต่อสู้โดยตรง เป็นความสามารถเฉพาะเนตรของ อิทาจิ
3.เทวีสุริยา เมื่อใช้ใช้อ่านจันทราจนชินแล้ว ดวงตาข้างขวาจะสามารถใช้เทวีสุริยาได้ เทวีสุริยาคือเพลิงสีดำที่ไม่มีวันดับ เพียงแค่โฟกัสไปที่จุด ๆ หนึ่งเพลิงดำจะลุกและเผาจนสิ่งที่ถูกจ้องจนไหม้หมด เป็นความสามารถเฉพาะเนตรของ อิทาจิ, ซาสึเกะ
4.เทพต่างสวรรค์ วิชาลวงตาที่แข็งแกร่งที่สุด เป็นวิชาเนตรที่สามารถควบคุมคนที่เป็นเป้าหมายได้โดนไม่รู้ตัวด้วย เป็นความสามารถเฉพาะเนตรของ ชิซุย
ระดับการพัฒนา
ขั้นเบิกเนตร
1.เนตรวงแหวน วงแหวน 1 วงแทนสัญลักษณ์ที่อ่อนแอที่สุดของเนตรนี้ มีความสามารถมองความไวในการร่ายคาถา
2.เนตรวงแหวนชางิ วงแหวน 2 วงแทนเนตรที่ยังไร้พลังอันแข็งกล้า สามารถก๊อปปี้วิชาบางส่วนและอ่านจักระของผู้ต่อสู้ด้วยได้
3.เนตรวงแหวนชารินกัน วงแหวน 3 วงแทนเนตรที่ได้พลังมาแล้วเรียบร้อย ความสามารถในการก๊อปปี้วิชาและการอ่านวิชาของผู้ต่อสู่ด้วย
ขั้นเปิดนรก
ความลับในการเลื่อนระดับความสามารถของเนตรคือต้องได้รับความทุกข์จากการฆ่าชีวิตหรือเห็นใครก้ได้อันเป็นที่รักตายต่อหน้าต่อตาเพื่อรับความทุกข์เพื่อให้ตนเองได้พลังมา
4.เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา (มังเง็คคโยชาริงกัน) สามารถใช้วิชาเนตรที่ทรงพลังได้ 3อย่างคือ เทวีสุริยาจากตาซ้าย อ่านจันทราจากตาขวา และเทพวายุ แต่ยิ่งใช้มากจะทำให้ตาบอดหรืออาจถึงแก่ความตายได้ สามารถพัฒนาต่อได้โดยควักดวงตาตนเองออกไปและนำเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาของผู้ของผู้อื่นที่มีสายเลือดอุจิวะเท่านั้นมาใส่แทนสามารถพัฒนาเป็นตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันคร์
5.เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์ เป็นเนตรขั้นต่อจากเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาจะเบิกได้โดยการ ฆ่าพี่น้องที่มีเนตรวงแหวนเหมือนกัน และ เอามาใส่ในดวงตาของตัวเอง ตาไม่บอดอีกต่อไป พร้อมทั้งรับบาปทั้ง 7
6.เนตรสังสาระ เป็นเนตรขั้นสูงสุดของเนตรวงแหวน การจะเบิกได้จะต้องเป็นผู้ที่สายเลือดของอุจิวะ และเซนจู แต่ต้องมีเนตรเหมือนทั้ง 2 ข้างถึงจะเบิกได้ ไม่งั้นจะเบิกไม่ได้ โดยสามารถใช้วิชาของเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาได้
บุคคลที่ใช้เนตรวงแหวนเป็นอาวุธ
1. อุจิวะ มาดาระ (เนตรสังสาระ) ผู้นำตระกูลอุจิวะในยุคก่อตั้งโคโนะฮะ เป็นคนแรกและคนเดียวที่เคยใช้เนตรวงแหวนควบคุมจิ้งจอกเก้าหางสู้กับโฮคาเงะรุ่นที่ 1
2. อุจิวะ อิซึนะ (เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา) น้องชายของมาดาระ
3. อุจิวะ อิทาจิ (เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา) สามารถใช้วิชาเนตรหลักได้ทั้ง 3 อย่างคือ อ่านจันทรา, เทวีสุริยา เทพวายุ ซึ่งใช้ฆ่าล้างตระกูลอุจิวะจนหมดสิ้นเหลือไว้เพียงซาสึเกะคนเดียว แต่อิทาจิเป็นคนมีโรคประจำตัวเยอะคาดว่าคงจะเป็นโรคร้ายที่รักษาไม่ได้ ทำให้ไม่ค่อยใช้วิชาเนตรมากสักเท่าไหร่จะสงวนไว้ใช้พลังในยามคับขันจริง ๆ เท่านั้น
4. อุจิวะ ชิซุย (เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุผฝา) เพื่อนสนิทของอิทาจิ อิทาจิถูกหาว่าสังหารเพื่อนรักของเขาเอง เพื่อที่อิทาจิจะได้มาซึ่งเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา แต่ความจริงแล้ว ชิซุย ยอมตายเพื่ออิทาจิเพื่อ ภารกิจลับของอิทาจิ แต่ดันโซ หลอกใช้ซิซุย โดยการขโมย เนตร ของเขามาแล้วข้างหนึ่ง และชิซุย ได้ยกเนตร อีกข้างหนึ่ง ให้ อิทาจิ แล้วตายลงอย่างสงบ พลังเนตรของชิซุยกล่าวกันว่ามีพลังถึงขั้นสูงสุดของเนตรวงแหวนคือสามารถใช้พลังเนตรควบคุมจิตใจของผู้อื่นจนแม้แต่ผู้ที่ถูกควบคุมอยู่ไม่รู้ตัวว่าถูกควบคุม
5. อุจิวะ ฟุงากุ (เนตรวงแหวน) หัวหน้าตระกูลอุจิวะ เจ้าของเนตรวงแหวน พ่อแท้ ๆ ของอิทาจิและซาสึเกะ เป็นผู้ที่สอนคาถาไฟให้ซาสึเกะและเป็นคนแรกที่บอกเล่าถึงเรื่องเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา โดนอิทาจิสังหารในเหตุการณ์ฆ่าล้างตระกูล
6. คาคาชิ (เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาข้างซ้าย) คาคาชิสามารถใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา คือ สามารถย้ายสิ่งต่าง ๆ ที่ตนเพ่งไปยังมิติอื่นได้ อาทิเช่น แขนของเดอิดาระ มาจากเพื่อนในสมัยเด็กคืออุจิวะ โอบิโตะ หลังจากไปช่วยรินที่ถูกศัตรูชิงตัวไป ซึ่งเพื่อนของเขาได้มอบเนตรวงแหวนให้กับ คาคาชิ ก่อนที่จะตาย เพื่อเป็นของขวัญที่ คาคาชิ สามารถสอบเป็นโจนินได้สำเร็จ
7. อุจิวะ ซาสึเกะ (เนตรสังสาระ) ทายาทคนสุดท้ายของอุจิวะ สามารถเบิกเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาได้หลังจากการตายของอิทาจิและใช้มันในการต่อสู้กับ 8หาง เหล่าคาเงะ และดันโซ หลังจากพบว่าดวงตาข้างขวาบอด และข้างซ้ายการมองเริ่มขุ่นมัวลงเรื่อยซาสึเกะจึงตัดสินใจเปลี่ยนถ่ายเนตรของอิทาจิมาใส่ไว้ โดยไม่ทราบความสามารถของเนตรใหม่นี้แน่ชัด แต่มีความสามารถในการมองเห็นแม้แต่ในที่มืดได้ ปัจจุบันได้เบิกเนตรสังสาระได้ในการต่อสู้กับมาดาระหลังได้พบกับเซียนหกวิถี
8. อุจิวะ โอบิโตะ (เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ข้างขวาและเนตรสังสาระข้างซ้าย) เป็นคนมอบเนตรวงแหวนข้างซ้ายของตนเองให้กับ คาคาชิ ที่เป็นเพื่อนรักกัน สามารถใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา
9. ชิมุระ ดันโซ (เนตรวงแหวน ข้างขวา และแขนขวา10ดวง) มีเนตรวงแหวนข้างเดียวกับคาคาชิ โดยมีผ้าปิดตาอยู่ แต่ถูกนินจาติดตามมิซึคาเงะที่ได้เนตรสีขาวจากการต่อสู้ตรวจสีจักระและพบว่าเนตรวงแหวนของดันโซแท้จริงมาจากชิซุยเพื่อนรักของอิทาจินั้นเอง ความสามารถของเนตร คือสามารถบังคับจิตใจคนได้โดยผู้อื่นไม่รู้ตัว โดยดันโซได้ใช้เนตรควบคุมมิฟุเนะเพื่อให้เลือกตนเองเป็นผู้นำเหล่าคาเงะ นอกจากนั้น ยังสามารถใช้วิชาต้องห้ามของตระกูลอุจิวะ นั่นคือ อิซานางิ ซึ่งสามารถเปลี่ยนการโจมตีทางกายภาพให้เป็นภาพลวงตา หรือเปลี่ยนภาพลวงตาให้กลายเป็นการโจมตีทางกายภาพ เสมือนสามารถควบคุมโลกแห่งความเป็นจริงได้สบาย แลกกับความมืดของดวงตาที่จะบอดไปตลอดกาล โดยมีเวลาจำกัดในการใช้ครั้งละประมาณ 1 นาที
รายชื่อผู้ที่สามารถใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาได้
ฮาตาเกะ คาคาชิ
อุจิวะ มาดาระ
อุจิวะ อิซึนะ
อุจิวะ อิทาจิ
อุจิวะ ซาสึเกะ
อุจิวะ ซิซุย
อุจิวะ โอบิโตะ
หมายเหตุ ผลกระทบ จากการใช้ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา คือจะไม่ได้รับแสงสว่างอีกต่อไป ซึ่งนั่นก็คือ ตาค่อย ๆ บอดไปทีละน้อยนั่นเอง อุจิวะ อิทาจิ ได้พูดไว้ในตอน 386 แต่เนตรหมื่นบุปผานิรันดร์ของมาดาระจะไม่ได้รับผลกระทบนี้ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์ จะใช้เนตรนี่เท่าไรก็ได้ เพราะเนตรนี่จะไม่มีวันกลับไปตาบอดอีกได้อีก แต่จะต้องใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาเหมือนกันของผู้รับที่ได้ถึงจะเบิกได้ แต่ต้องใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาที่ไม่บอดเท่านั้น แต่ในกรณีของ โอบิโตะ ที่มีเนตรกระจกเงาหมื่นบุปผาข้างขวาใช้จนไม่บอดเพราะว่ามีเซลล์ของโฮคาเงะรุ่นที่ 1 ฝังอยู่ในตัวทำให้ได้รับการฟื้นตัวการใช้มีเนตรกระจกเงาหมื่นบุปผา ทำให้ไม่บอด
เนตรสีขาว
เนตรสีขาวหรือเรียก เบียคุกัน (白眼, びゃくがん, ความหมาย: ตาสีขาว)เป็นสายเลือดพิเศษในตระกูลฮิวงะ สืบทอดต่อ ๆ กันมา มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นต้นกำเนิดของเนตรวงแหวน
ความสามารถ
เนตรสีขาวความสามารถหลักคือสามารถมองทะลุสิ่งต่าง ๆ ได้ในระยะ 5,000 เมตรและมองเห็นรอบตัวได้ 340 องศา (มีจุดบอดทางด้านหลัง 20ํ) และผู้ใช้เนตรยังสามารถมองเห็นจุดพลังและเส้นพลังของจักระที่ไหลเวียนในร่างกายทั้งหมดในร่างกายได้
วิชาที่ใช้กับเนตรสีขาว
มวยอ่อน เป็นกระบวนท่าการต่อสู้สายฮิวงะ ซึ่งจะใช้ควบคู่กับเนตรสีขาวมีความสามารถ คือ สกัดหรือเพิ่มพูนการไหลเวียนของจักระในร่างกายของคู่ต่อสู้
คลื่นสววรค์ เป็นการปล่อยจักระจากทุกส่วนของร่ายกายแล้วหมุนตัวอย่างรวดเร็ว เป็นการป้องกันที่ไร้ช่องโหว่และยังสามารถใช้โต้กลับได้ด้วย
มวยแปดทิศ64ฝ่ามือ เป็นท่าที่อันตรายมาก ผู้ใช้จะสกัดกั้นการไหลเวียนของจักระทุกจุดของร่างกาย ทำให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถรีดเร้นจักระได้ และเมื่อรีดเร้นจักระไม่ได้ก็ใช้วิถีนินจาไม่ได้อีก
ฝ่ามือว่างแปดทิศ
ฝ่ามือทลายภูผาแปดทิศ
ฝ่ามือคลื่นพลังสวรรค์
บุคคลที่ใช้เนตรสีขาวเป็นอาวุธ
ฮิวงะ เนจิ ทายาทชายในตระกูลสาขาของกลุ่มฮิวงะ เป็นอัจฉริยะของตระกูลฮิวงะเพราะมีความสามารถในการใช้มวยอ่อนเหนือกว่าตระกูลหลัก
ฮิวงะ ฮินาตะ ทายาทของตระกูลหลัก น่ารักสุดและนิสัยดีที่สุดในเรื่อง เป็นผู้หญิงที่ขี้อายและเงียบครึมแต่จริง ๆ แล้วจิตใจเข้มแข็งพอ ๆ กับนารูโตะเลยทีเดียว
ฮิวงะ ฮานาบิ น้องสาวของ ฮินาตะ
ฮิวงะ ฮิอาชิ พ่อของฮินาตะและฮานาบิ และเป็นถึงหัวหน้าตระกูลฮิวงะ
ฮิวงะ ฮิซาชิ พ่อของเนจิ เสียชีวิตเพื่อปกป้องพี่น้องและครอบครัวอย่างเต็มใจ
ผู้ใช้เนตรสีขาวมีมากมายในหมู่บ้านโคโนะฮะหรือแม้แต่แคว้นอื่น
เนตรสังสาระ
เนตรสังสาระ อังกฤษ: Rinnegan (รินเนะกัน) เนตรของเซียนหกวิถี ผู้เผยแพร่ลัทธินินจา เนตรนี้เป็นต้นกำเหนิดของจักระทั่งหมดสามารถควบคุมจักระได้ทุกธาตุแปรเปลี่ยนได้อย่างไม่จำกัด ความสามารถที่เป็นเอกลักษณ์ของเนตรสังสาระคือ วิชาหกวิถี วิชาพิเศษที่ถูกแยกออกจากทัณฑ์สรรค์ ผู้ที่จะสามารถเบิกเนตรนี้ได้จำเป็นต้องมีพลังจิตและพลังชีวิตที่แข็งแกร่งเหมือนเซียนหกวิถี
- วิถีเดรัจฉาน คาถาอัญเชิญสัตว์ต่าง ๆ สัตว์ที่วิถีเดรัจฉานจะมีเนตรสังสาระ
- วิถีเปรต คาถาดูดกลืนจักระการโจมตีจากคาถานินจาทุกชนิด
- วิถีนรก คาถาอัญเชิญและควบคุมคุมราชานรก ถ้าโกหกจะถูกเอาชีวิตไป นอกจากนี้ยังสามารถฟื้นฟูความเสียหายทุกอย่างแม้การชุบชีวิต
- วิถีสวรรค์ คาถาแรงดึงดูด (หมื่นลักษณ์เหนี่ยวสวรรค์) และคาถาแรงผลัก (ข่ายเทพพิชิตฟ้า)
- วิถีมนุษย์ คาถาอ่านจิตและดึงวิญญาณ
- วิถีอสูร เปลี่ยนร่างกายตนเองให้เป็นอาวุธเครื่องจักรกลต่าง ๆ
- นอกวิถี สามารถควบคุมความเป็นและความตายได้และรวมถึงคาถาพิเศษนอกเหนือจากนี้
นอกจากนี้วิชา 6 วิถี เนตรสังสาระยังสามารถใช้วิชาต่าง ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงมองการมองการไหลเวียนของจักระ
ปัจจุบันผู้ครอบครองคือนางาโตะ อุจิวะ โอบิโตะ อุจิวะ มาดาระ และ อุจิวะ ซาสึเกะ
ขีดจำกัดสายเลือด รูปแบบจักระ
เป็นสายเลือดที่พิเศษเพราะมีการใช้จักระธาตุได้ 2 ธาตุในคาถาเดียวจึงเป็นความสามารถพิเศษที่ แม้แต่คนตระกูลเองก็ไม่ได้ไช้กันได้ง่าย ๆ แต่ถ้ามีคุณสมบัติธาตุที่เหมือนกันก็มีโอกาสที่จะไช้คาถาได้เหมือนกัน
คาถาไม้
ขีดจำกัดสายเลือด ที่เกิดจาการ ผสมของธาตุ น้ำ และ ดิน ออกมาเป็นธาตุไม้ ซึ่งผู้ใช้ได้แก่ ฮาชิรามะ เซนจู ยามาโตะ ดันโซ โอบิโตะ และ มาดาระ
คาถาเดือดพล่าน
ถูกใช้โดยมิซึคาเงะ รุ่นที่ 5 คาถากรดเกิดจากการแปลงคุณสมบัติของไฟ และน้ำ
คาถาหลอมละลาย
คาถาหลอมละลาย หรือลาวา รูปแบบหลอมละลายสามารถใช้ได้ทั้งการโจมตี และป้องกัน รูปแบบของลาวาถูกใช้โดย 4 หาง - จินชูริคิ โรวชิ มิซึคาเงะรุ่นที่5 โดดาอิ และ คุโรซึจิ เกิดจากการแปลงคุณสมบัติของไฟ และ ดิน เป็นขีดจำกัดสายเลือดระดับสูง ที่มีพลังโจมตีที่อันตรายมาก
คาถาแผดเผา
คาถาแผดเผา ใช้โดย ปากุระ จากหมู่บ้านซึนะ โดยปากุระนั้นได้ถูกอัญเชิญมาโดย คาบูโตะ ในสงครามนินจาครั้งที่ 4 โดยใครที่โดนวิชานี้เข้าไปจะเหมือนโดนความร้อนแผดเผาจนแห้ง (จากตอน 522) ยังไม่แน่ชัดว่า เกิดจากการผสมของธาตุอะไร โดยสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นธาตุไฟ กับ ธาตุลม
คาถาระเบิด
คาถานี้ใช้โดย เดอิดาระ และ การิ อดีตหน่วยวางระเบิด จากหมู่บ้านอิวะ โดยการิได้ถูกอัญเชิญมาโดย คาบูโตะ ในสงครามนินจาครั้งที่ 4 โดยมีท่า วิชากำปั้นระเบิดดิน โดยคนที่โดนท่านี้เข้าไปจะระเบิดในทันที (จากตอน 522)
คาถาน้ำแข็ง
เกิดจากการผสมของธาตุ น้ำ และ ลม ใช้โดยฮาคุ
คาถาแม่เหล็ก
ใช้โดยคาเซะคาเงะรุ่น 3 กับ 4 และ โทโรอิจากหมู่บ้านซึนะ
คาถาพายุ
เกิดจากการผสมของธาตุ นำ และ สายฟ้า ใช้โดยดารุยจากหมู่บ้านคุโมะ
คาถาผลึก
ใช้โดยกุเร็น เฉพาะภาคอะนิเมะเท่านั้น
ใช้กระดูกเป็นอาวุธ
ขีดจำกัดทางสายเลือดของตระกูลคางูยะ ใช้โดยคิมิมาโร่
เกิดมาเพื่อเป็นสถิตร่าง เป็นการผนึกสัตว์หางไว้ในผู้ที่ควรจะรับมันเอาไว้
ขีดจำกัดสายเลือดเฉพาะ (สายเลือดคัดสรร) รูปแบบจักระ
เป็นสายเลือดที่หายากยิ่งกว่าขีดจำกัดสายเลือดเพราะมีการใช้จักระธาตุได้มากกว่า 3 ธาตุในคาถาเดียว
คาถาธุลี
เกิดจากการผสมของธาตุ ดิน ไฟ ลม ใช้โดยซึจิคาเงะรุ่น 2 และ 3
ความคิดเห็น