คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 6 เผ่ามังกร
บทที่ 6 เผ่ามังกร
1 ปีต่อมา
เวลาล่วงเลยกินเวลานาน 1 ปีเต็มจินหลงบรรลุวรยุทธ์กายามังกรชาดขั้น3 และได้เริ่มทำการบ่มเพาะพลังเคล็ดวิชากายามังกรสีชาดเมื่อครึ่งปีก่อน
ร่างของชายหนุ่มกำลังนั่งทำการบ่มเพาะพลังอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ จากการโคจรพลังและจากการสัมผัสพลังวิญญาณ เทพมังกรสามารถรู้ได้ว่า จินหลงนั้นบัดนี้อีกเพียงไม่นาน เขาจะสามารถทะลวงชั้นแรกเริ่มขั้นที่ 9 และก้าวเข้าสู่ชั้นกำเนิดลมปราณ
เจ้าเด็กนี่ทำให้ข้าแปลกใจยิ่งนัก ผ่านมาเพียงแค่ปีกว่าเขาสามารถฝึกวรยุทธ์กายามังกรสีชาด และใช้เวลาเพียงไม่นานในการบ่มเพาะพลัง จากชั้นแรกเริ่มขั้นที่ 1 มาจนขั้นที่ 9 พรสวรรค์ของเด็กคนนี้มันช่างน่ากลัวจริงๆ คงถึงเวลาที่ข้าจะต้องบอกความจริงของข้า ช่างรวดเร็วยิ่งกว่าที่ข้าคาดการณ์ไว้อีก
ครึ่งวันต่อมา จินหลงค่อยลืมตาขึ้นพลางถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ฟู่ !”
ข้าทะลวงเข้าสู่ระดับชั้นกำเนิดลมปราณ ได้แล้ว! ข้าจะได้ออกไปจากที่นี่ซักที ไม่รู้ว่าข้างนอกนั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง ข้าชักจะเป็นห่วงขึ้นมานิดหน่อยแล้วล่ะ
เทพมังกรค่อยๆลอยมาหยุดอยู่ตรงหน้าจินหลง เขามองจินหลงด้วยแววตานิ่งสงบ
“เจ้าทำได้ดีกว่าที่ข้าคาดไว้อีกนะ ผ่านไปแค่เพียงปีกว่าเท่านั้น”
“ท่านอาจารย์ บัดนี้ศิษย์ทะลวงเข้าสู่ชั้นกำเนิดลมปราณแล้ว ข้าควรทำเช่นใดต่อ ข้าถึงออกไปจากที่นี่ได้”
“ก่อนอื่นข้ามีเรื่องที่ต้องบอกเจ้า”
“ท่านอาจารย์มีเรื่องอันใดจะบอกศิษย์”
“ก่อนหน้านี้ข้าบอกเจ้าแล้วว่าข้าคือ เทพมังกรแห่งภูผา ที่เจ้าเห็นเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของจิตวิญญาณของข้าที่หลงเหลืออยู่บนโลกใบนี้ อีกไม่นานจิตวิญญาณของข้าก็จะสลายหายไปจนหมด”
“ร่างกายของท่านเล่า เหตุใดจิตวิญญาณท่านอาจารย์ถึงมาอยู่ที่นี่”
“ข้านั้นหลบหนีจากพวกเผ่าอสูรมาหลบอยู่ในเมืองแห่งนี้ แต่กว่าจะมาถึงที่นี่ ข้าก็ได้รับบาดเจ็บสาหัดข้าจึงใช้พลังที่เหลืออยู่ทั้งหมดสะกดวิญญาณให้อยู่ที่นี่”
“เหตุใดพวกอสูรจึงต้องการชีวิตท่าน ท่านเองก็เป็นถึงเทพมังกร”
“หึ เจ้าคงไม่รู้สินะ พวกข้าเทพมังกรนั่นกับพวกอสูร หาใช่พวกเดียวกัน เราเทพมังกรอยู่ฝั่งมนุษย์ พวกเราเผ่ามังกรมิอาจเห็นด้วยกับเผ่าอสูรที่รุกรานมนุษย์ เราเทพมังกรและชาวเผ่ามังกรทั้งหมด จึงรวมพลังต่อต้านจ้าวอสูรผู้ที่อยู่สูงสุดของเผ่าอสูร หากแต่พวกเรานั้นพ่ายแพ้ กำลังของพวกเรามิอาจขัดขืนจ้าวแห่งอสูรได้ พวกเราเผ่ามังกรทั้งหมดที่ไม่ได้เข้าร่วมสวามิภักดิ์ต่อจ้าวอสูรจึงรวมตัวกันเพื่อหลบหนีจากดินแดนปีศาจอสูร หากแต่จ้าวอสูรนั้นรู้เสียก่อน ชนเผ่าของข้าถูกฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหดนับล้านตน เผามังกรทั้งหมดในแต่ละธาตุยอมสละซึ่งกายามังกร กลายเป็นเพียงจิตมังกร และส่งพลังทั้งหมดให้แก่ตัวแทนมังกรแต่ละธาตุ 7 ธาตุ ซึ่งทำให้มังกรทั้ง 7 ตนกลายเป็นเทพมังกรและสามารถหลบหนีออกมาได้
“เหตุใดเผ่ามังกรจึงต่อต้าน แล้วเลือกอยู่ฝั่งมนุษย์กัน”
“เผ่ามังกรของข้า เป็นเผ่าที่รักสันติ พวกข้าไม่ต้องการที่จะรุกรานใคร พวกเรามีบ้านของพวกเราอยู่แล้ว และเทพเจ้ามังกรของพวกข้าเชื่อว่า มนุษย์กับอสูรอยู่ร่วมกันได้! แม้พระองค์จะถูกจ้าวอสูรฆ่าตายในสงครามครั้งนั้น หากแต่พวกเราเหล่ามังกรยังคงมีความเชื่อเช่นเดียวกับเทพเจ้ามังกรของพวกเรา”
“เกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้นหรือขอรับ หลังจากที่มังกรทั้งหมดกลายเป็นจิตวิญญาณและหลบหนีออกมา ท่านบอกว่า มี 7 ตนที่ได้รับพลัง หากเป็นเช่นนั้น เหตุใดข้าจึงมิพบตนอื่นนอกจากท่านในที่แห่งนี้ ทุกตนไปอยู่ที่ใดกัน”
“พวกข้าทั้ง 7 ตนที่เหลืออยู่ได้รับพลังมหาศาลจากเผ่ามังกรที่เหลืออยู่ในขณะนั้นได้สัญญากับเผ่ามังกรทุกตนที่สละกายาให้กับพวกเราทั้ง 7 ตนว่าจะพาองค์หญิงน้อย ธิดาเพียงหนึ่งของเทพเจ้ามังกรหนีออกไปให้จงได้ หากแต่พวกข้าถูกอสูรบุกโจมตีละล้อมไว้ พวกข้าจึงเป็นตัวล่อเพื่อให้องค์หญิงน้อยหนีไป หลังจากนั้นพวกข้าทั้ง 7 ช่วยกันต่อสู้ละแยกกันไปเพื่อดึงความสนใจให้พวกมันออกห่างจากองค์หญิง จนสุดท้ายข้าก็หลบหนีมาถึงที่แห่งนี้ ข้านั้นไม่รู้ว่า ทุกตนนั้นเป็นเช่นใดบ้าง และองค์หญิงน้อยจะเป็นอย่างไร ข้าได้แต่รอให้พลังฟื้นคื้นมาและหามนุษย์ที่เหมาะสมเพื่อที่จะมอบพลังนี้ สุดท้ายเวลาล่วงเลยผ่านมาพันกว่าปี ข้าจึงมาพบเจ้าในที่สุด”
“หากท่านมอบพลังให้ข้าท่านจะเป็นเช่นใด”
“เจ้าจำเป็นต้องใช้พลังของข้าในการออกไปจากที่แห่งนี้ ข้าจะให้พลังแก่เจ้าทั้งหมดเพื่อให้เจ้าออกไป หลังจากนั้นตัวตนและจิตวิญญาณของข้าจะหายไปทั้งหมด เวลานี้พลังข้าเหลือน้อยนิด ข้าคงทำได้เพียงเท่านี้ ข้าละลายใจยิ่งนัก จิตวิญญาณเผ่ามังกรธาตุภูผาทั้งหมดทุกตนอยู่กับข้า หากแต่ข้าไม่สามารถคืนชีพให้พวกเขา ซ้ำยังไม่รู้ว่าองค์หญิงน้อยเป็นตายร้ายดีอย่างไร หากแต่ข้าไม่อยากจะหายไปโดยไม่ได้ทำอะไรเลย ข้าอยากจะขอร้องเจ้า หากภายในวันหน้าเจ้ามีโอกาส ข้าขอให้เจ้าช่วยตามหาองค์หญิงมังกรน้อยของข้า และช่วยคุ้มครองนางด้วย ข้าเชื่อว่านางจะต้องมีชีวิตอยู่ หากเจ้ารับปากข้า ข้าจะยอมมอบพลังของข้าและจิตวิญญาณมังกรภูผาทุกตนให้แก่เจ้า ”
“ข้าหาได้ต้องการพลังของท่านไม่”
“นี่เจ้า!! นี่เจ้าจะไม่ยอมรับปากข้าเช่นนั้นรึ !” เทพมังกรกล่าวขึ้นด้วยความฉุนเฉียว เขารอเวลานี้มากว่าพันปี ผู้ที่เหมาะสมที่สุด แม้ว่าตัวเขาจะต้องหายไป เผ่ามังกรธาตุภูผาทั้งหมดจะต้องสูญสิ้นไป เขายอมแลกทุกอย่างเพื่อองค์หญิงน้อยที่ตัวเขาเองมิอาจปกป้องได้จากสงครามครั้งนั้นได้ เขาหวังแค่มีใครซักคนมาสานต่อเจตนารมณ์ของเขา และในที่สุดเขาก็พบจินหลง เขาเชื่อว่าจินหลงนั้นมีพรสวรรค์เหมาะสมที่สุด แม้ตัวเขาจะต้องหายไปแต่พลังของมังกรธาตุภูผาจะยังคงอยู่ต่อไป!
จินหลงขยับเข้าไปใกล้เด็กชายที่เป็นถึงเทพมังกรของเผ่ามังกร เขาค่อยๆทิ้งตัวคุกเข่าลงต่อหน้าเทพมังกร พร้อมกับประสานมือ
“ท่านอาจารย์ ท่านเป็นอาจารย์ของข้า แม้ว่าจะผ่านมาเพียงแค่เพียงปีเดียว แต่ท่านก็เป็นทั้งอาจารย์และผู้มีพระคุณของข้า ท่านสอนให้ข้าฝึกฝนวรยุทธ์รวมถึงการบ่มเพาะพลัง หากการที่ข้าจะออกไปจากที่นี่ แล้วทำให้ท่านต้องตาย ท่านคิดว่าข้าจะทำเช่นนั้นหรือ ท่านเห็นข้าอยากจะได้พลังของท่าน อยากจะออกไปจากที่นี่ โดยไม่สนใจใยดีว่าท่านจะเป็นอย่างไรเช่นนั้นหรือ! ข้าทำไม่ได้!”
“…”
“ยิ่งข้าได้ฟังเรื่องราวจากปากของท่าน ข้าคิดว่าหากท่านไม่ได้พบองค์หญิงน้อยด้วยตัวของท่านเอง ท่านจะไปพบกับเหล่าสหายมังกร ที่ต้องหลั่งโลหิตในสงครามครั้งนั้นได้อย่างไร ทุกตนยอมสละกายาเพื่อให้ท่านปกป้ององค์หญิง แต่ท่านกลับจะทิ้งเจตนารมณ์ทั้งหมดของเผ่ามังกรไว้ให้กับข้าที่เป็นใครนี่ไหนก็ไม่รู้เช่นนั้นหรือ ท่านไม่อยากจะทำมันด้วยตัวเองเช่นนั้นหรือ ! การปกป้องดูแลองค์หญิงรวมถึงฟื้นฟูเผ่ามังกรมันเป็นสัญญาของท่านกับเหล่าสหายมังกรของท่านไม่ใช่หรอ!”
“นี่เจ้า…”
“ท่านอาจารย์โปรดบอกข้า มีวิธีอื่นอีกหรือไม่!”
แววตาของเทพมังกรสั่นระริก เขาไม่คิดเลยว่าเด็กหนุ่มธรรมดาๆคนนี้ จะมีใจนับถือเขาถึงเพียงนี้ เขาคิดว่า หากบอกเรื่องราวทั้งหมดไปชายหนุ่มตรงหน้าจะต้องยินดีและอยากได้พลังของเขาเป็นแน่ เขาคิดไม่ถึงเลยว่าชายหนุ่มคนนี้จะเป็นห่วงเป็นใยไม่อยากให้เขาต้องตาย
ท่านเทพเจ้ามังกรขอรับ
ท่านเห็นชายหนุ่มตรงหน้าข้าหรือไม่
ท่านคอยบอกพวกเราเสมอว่าเผ่าอสูรสามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้
ก่อนหน้านี้ข้ายังคงคิดภาพไม่ออก แต่บัดนี้ข้าได้ประสบกับตัวเอง
ข้ารู้แล้วข้าสามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้
“ฮ่าๆๆๆ เจ้านี่ทำให้ข้าแปลกใจจริงๆ”
“โธ่ ท่านอาจารย์นี่ข้าจริงจังนะ ท่านยังจะหัวเราะอีก”
“โอเคๆ วิธีอื่นมันก็พอจะมีอยู่ แต่ข้าไม่มั่นใจเท่าไรนักว่ามันจะสำเร็จไหมนะ”
“ท่านอาจารย์โปรดบอกข้า ว่าวิธีนั้นคืออะไร”
“ข้าจะสลายการสะกดวิญญาณที่ข้าได้ทำการสะกดไว้เมื่อพันปีก่อน จากนั้นข้าจะกลายเป็นเพียงจิตวิญญาณมังกร การสลายเป็นจิตวิญญาณมังกร ต้องใช้พลังวิญญาณมหาศาล เป็นวิธีเดียวกับที่เผ่ามังกรทำกับข้าครั้งสงครามเพื่อให้ข้าได้กลายเป็นเทพมังกร ครั้งนั้นเหล่ามังกรสละกายาเพื่อเป็นจิตวิญญาณเป็นเพียงการละทิ้งร่างกายหากแต่พวกเขายังไม่ตาย แต่กลายเป็นจิตวิญญาณมังกร แม้จะไม่สามารถพูดคุยปรากฏกายออกมาได้ แต่พวกเขาทุกตนล้วนมีชีวิตอยู่และหลับใหลอยู่ในตัวข้า ด้วยวิธีการเดียวกันนี้ ข้าจึงไม่แน่ใจว่าข้าจะมีพลังเพียงพอที่จะคงอยู่หรือไม่ เมื่อข้าสลายการสะกดเพื่อเป็นจิตวิญญาณมังกรแล้วทำการผสานกายเข้าไปอยู่ในตัวเจ้า อีกอย่างข้าไม่เคยผสานกับมนุษย์ ตัวข้านั้นจะหลับใหลอยู่ในตัวเจ้าเหมือนเหล่ามังกรตนอื่นหรือไม่ ข้าจะสามารถออกมาพบพูดคุยกับเจ้าได้แบบนี้ หรือว่าข้าอาจจะไม่ได้พบเจ้าอีกเลยและกลายเป็นแค่พลังของเจ้า ข้านั้นหารู้ไม่ในเรื่องนี้”
“ถ้าเช่นนั้นข้ามีความคิดอย่างหนึ่ง ท่านคิดเห็นอย่างไรหากจะสลายการสะกดวิญญาณของท่านในมิติกระบี่ของข้า ตอนนี้ตัวท่านเองมีพลังเหลือน้อยนิด หากมีพลังวิญญาณจากมิติแห่งนี้รวมกับพลังของท่านเอง แล้วผสานเข้ามาในตัวข้าแล้วย้ายท่านมาอยู่ที่มิตินี้ เพราะมิติแห่งนี้ก็เชื่อมโยงกับตัวข้าอยู่แล้ว ข้าคิดว่าตัวตนของท่านไม่น่าจะหายไป มิติแห่งนี้มีพลังวิญญาณหนาแน่นเปี่ยมล้น ข้าคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดี ที่น่าจะลองดู ท่านอาจารย์คิดเห็นเช่นใด”
จริงสิ มันยังมีวิธีนี้อยู่ ไม่ต้องใช้พลังของข้าในการทำลายการสะกดวิญญาณเพื่อเปิดประตู แต่เป็นการสลายวิญญาณที่ข้าสะกดไว้ก็พอ ไม่แน่ข้าอาจจะยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ หากทำสำเร็จนั่นหมายความว่าข้าจะสามารถออกไปตามหาองค์หญิงด้วยตัวข้าเอง
“ถ้าเช่นนั้นมาลองดูกัน เมื่อข้าสลายการสะกดวิญญาณ ข้าจะย้ายจิตวิญญาณไปที่ตัวเจ้าแล้วทำการผสาน เมื่อถึงเวลานั้น เจ้าต้องใช้พลังวิญญาณของเจ้าย้ายข้าไปที่มิติกระบี่ของเจ้า!”
“ขอรับ” เทพมังกรเริ่มทำการสลายพลังการสะกดวิญญาณ ส่วนจินหลงนั้นนั่งลงกับพื้น เพื่อทำการเปล่งพลังและทำสมาธิเพื่อเตรียมผสานร่าง!
ความคิดเห็น