คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 5 มิติ
บทที่ 5 มิติ
เด็กชายตรงหน้ายังคงจ้องเขม็งมาที่จินหลง
ทำเอาซะจินหลงทำตัวไม่ถูก
“หยุดสิ่งที่เจ้ากำลังคิดได้เลย เห็นร่างกายข้าแบบนี้ ข้ามีอายุมากว่าพันปีแล้ว”
“แหะๆ” จินหลงถึงกับยกมือขึ้นเกาหัวแก้เก้อ
“ท่านอาจารย์ขอรับ ก่อนอื่นข้ามีคำถาม”
“ว่ามาสิ”
“ก่อนหน้านี้ข้าจำได้ว่า ข้าถูกแรงกดดันมหาศาลกดจนจมลงมาสู่เบื้องล่าง ทั่วทั้งร่างกายข้าท่วมไปด้วยเลือด ข้ารู้สึกอย่างกับกระดูกในร่างกายกำลังถูกบดขยี้ แล้วเหตุใดเมื่อข้าลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ข้าถึงไม่รู้สึกอะไรเลยเหมือนไม่มีเหตุใดเกิดขึ้น ยิ่งกว่านั้นความเหนื่อยล้า รวมถึงความหิวที่ข้าไม่ได้กินอะไรเลยมากว่าห้าวัน ล้วนหายไปหมด เป็นเพราะเหตุใดกัน”
“ข้าทำการปลุกพลังมังกรในตัวเจ้า เพื่อให้เจ้าได้มาพบข้าที่นี่ ตอนแรกข้าก็ไม่มั่นใจหรอกว่าเจ้ามีพลังมังกรอยู่ในตัวหรือไม่ หากเจ้าไม่ได้ฝึกวรยุทธ์กายามังกรสีชาดเจ้าก็แค่ตาย”
“นี่ท่านหมายความว่า ถ้าข้าไม่ได้มีวรยุทธ์มังกรสีชาดแล้วละก็ ตอนนี้ข้าคงตายไปแล้ว?”
“ใช่!”
“โถ่ นี่ท่านเกือบคร่าชีวิตคนคนนึงไปแล้วนะขอรับ! หากข้า
ไม่สิหากคนอื่นมาพบท่านไม่ตกตายไปรึขอรับ”
“แต่สุดท้ายเจ้าก็ไม่ได้ตายไง อย่าพูดมากเลยดีกว่า เจ้าโชคดีแค่ไหนที่ได้มาพบข้า ยังไม่สำนึกอีก”
เทพมังกรพูดขึ้นด้วยเสียงที่ฉุนเฉียวและอวดดี ในสายตาของข้า เขาดูเหมือนเด็กเอาแต่ใจพูดจาเห็นแก่ได้ เหอะๆนี่ดีนะที่ข้าไปหอตำราของตระกูล และได้ฝึกวรยุทธ์กายามังกรสีชาด ไม่งั้นข้าคงตายไปแล้ว มันน่าจริงๆ เป็นเทพมังกรได้ไงเนี่ย เอาคนอื่นมาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายแบบนี้ แถมยังพูดจาขาดความรับผิดชอบอีก
“ข้าได้ใช้วรยุทธ์ของข้ารักษาเจ้า บวกกับเจ้าที่มีกายามังกรสีชาดและมีพลังธาตุภูผา ทำให้เจ้าหายดีได้ภายในระยะเวลาแค่หนึ่งอาทิตย์”
“เช่นนั้นข้าต้องขอบคุณท่านอาจารย์”
“..”
“เดี๋ยว! เดี๋ยวนะขอรับ เมื่อกี้ท่านบอกว่าใช้เวลารักษาหนึ่งอาทิตย์ หมายความว่าข้าสลบไปถึงหนึ่งอาทิตย์เลยรึ”
“ใช่แล้ว เจ้าไม่ได้สติมาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ”
หนึ่งอาทิตย์!! ข้าจำได้ว่าอยู่ในถ้ำนั้น5วัน สลบไปอีกหนึ่งอาทิตย์ โอ้ยตายๆผ่านไปสิบกว่าวันแล้ว
ไม่รู้ว่าหยางติงจะยังคงรอเขาอยู่ที่หอตำราอยู่รึไม่ อยู่ๆข้าก็หายตัวไปเช่นนี้
มันคงไม่คิดว่าข้าตกตายไปแล้วหรอกนะ เจ้านั่นยิ่งบ้าๆบอๆอยู่ด้วย
“ท่านอาจารย์ เราสามารถออกจากที่นี่ได้หรือไม่ ข้าเกรงว่าหากข้าหายตัวไปหลายวัน..”
“เสียใจด้วย ไม่มีทางออก”
“ฮะ! ท่านหมายความว่าเช่นใด แล้วอย่างนี้ข้าต้องติดอยู่ที่นี่เช่นนั้นรึ”
“อย่าเพิ่งตกใจไป ข้าหมายความว่าเจ้าในตอนนี้ไม่มีทางที่จะออกไปได้ เจ้าต้องฝึกวรยุทธ์กายามังกรสีชาดให้บรรลุถึงขั้นที่สามเสียก่อน จากนั้นเจ้าจะได้เคล็ดวิชาบ่มเพาะพลัง จงทำการบ่มเพาะพลังให้ถึงชั้นกำเนิดลมปราณ นั่นคือเงื่อนไขแรก แล้วที่เหลือข้าจะบอกเจ้าทีหลัง”
คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำเช่นนั้น วรยุทธ์กายามังกรสีชาด เป็นวิชาที่จะเสริมสร้างกายของผู้ใช้ให้แข็งแกร่งดุดดั่งภูผา คมดาบคมกระบี่หรือจากศาสตราวุธต่างๆจะมิอาจทำอันตรายต่อจินหลงได้ นอกจากพลังทางกายภาพที่เพิ่มสูงขึ้น จะมีพลังพิเศษแรงโน้มถ่วงอีกด้วย จินหลงนั้นไม่เคยทราบมาก่อนว่ากายามังกรสีชาด สามารถควบคุมแรงโน้มถ่วงได้ด้วย หากแต่บัดนี้ จินหลงทำได้เพียงแค่เพิ่มน้ำหนักให้กับพลังกาย เมื่อจินหลงออกกำลังฟาดฟันแรงปะทะก็เพิ่มสูงขึ้น ตอนนี้เทพมังกรให้จินหลงฝึกฝนโดยใช้แค่มือเปล่าปราศจากอาวุธ และถึงแม้ว่าจะใช้แค่มือเปล่า เพียงแค่การออกมัดธรรมดาสามารถทำให้ผนังถ้ำได้รับความเสียหายจนสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งบริเวณ ประโยชน์ของพลังจากแรงโน้มถ่วงไม่ได้มีเพียงแค่นั้นเขาสามารถทำให้ตัวเบาหวิวราวกับขนนก และสามารถล่องลอยไปในอากาศได้ พลังความสามารถเช่นนี้ทำให้จินหลงรู้สึกเคลิ้บเคลิ้มกับมันยิ่งนัก
สองเดือนต่อมา
จินหลงยังคงตั้งหน้าตั้งตาฝึกฝนวรยุทธ์กายามังกรสีชาด
ตั้งแต่ครั้งที่เขาเรียกกระบี่ไม้ออกมาใช้ในการฝึก
หลังจากที่เทพมังกรเห็นกระบี่ไม้นั้น เขาก็สั่งห้ามไม่ให้เรียกกระบี่ออกมาอีกเลย
เขาบอกแต่เพียงว่า หากต้องการที่จะบรรลุขั้นสามโดยไว ห้ามนำมันออกมาอีกเด็ดขาด แต่ข้าก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าหากนำกระบี่ออกมาฝึกร่วมด้วยแล้วมันจะมีข้อเสียเช่นใดกัน
แต่ข้าก็ไม่อยากขัดคำสั่ง ยังไงเขาก็เป็นอาจารย์
อีกอย่างเขารู้สึกได้ชัดเจนว่าวรยุทธ์กายามังกรสีชาดของเขาสูงขึ้น
หลังจากได้รับคำแนะนำจากเทพมังกรอย่างชัดเจน
แม้จะอยู่ในถ้ำหากแต่ในที่นี้มีผลไม้อยู่ชนิดหนึ่ง
เขาไม่สามารถรู้ได้ว่ามันคืออะไร หากแต่เมื่อเขากินเข้าไปแล้ว ข้าสามารถอยู่ได้โดยไม่กินอะไรถึงหนึ่งอาทิตย์
นอกจากนั้นความเหนื่อยล้าทั้งหมดยังหายไปจนหมดสิ้น
ครั้งแรกที่ข้าเห็นต้นไม้ชนิดนี้ ก็ตอนที่ท่านอาจารย์ใช้ฝ่ามือแตะไปที่บริเวณพื้นเกิดประกายแสงสีน้ำตาลก่อนที่ต้นไม้นี้จะโผล่พรวดเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ผ่านไปไม่กี่วันก็ออกดอกออกผล ท่านอาจารย์สั่งเขากินแค่อาทิตย์ละหนึ่งผลเท่านั้น ถึงแม้จะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่มันก็เป็นสิ่งเดียวที่บรรเทาความหิวและความเหนื่อยล้าให้กับเขา ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
“พอแค่นี้ก่อน” เสียงของเทพมังกรเปล่งออกมาทำลายความเงียบ
เขามองไปที่อาจารย์ที่ร่างกายเป็นเด็ก
หืมม วันนี้อาจารย์ของข้ามาแปลก ปกติแล้วจะต้องฝึกข้ามวันข้ามคืนโดยไม่มีหยุดพัก
หรือจนกว่าข้าจะสลบไป แต่นี่หลังจากที่ข้าได้กินผลไม้นั่นไป
นี่เพิ่งผ่านมาเพียงครึ่งวัน ทำไมท่านอาจารย์ถึงบอกให้พักเร็วเช่นนี้
หรือว่าวันนี้อาจารย์ของข้ากินอะไรผิดสำแดงมา อารมณ์ไหนกัน
“พลังกายของเจ้าตอนนี้ ดีขึ้นมากแล้ว ข้าคิดว่าถึงเวลาที่เจ้าจะได้ฝึกขั้นต่อไปซักที”
“…”
“ยื่นแขนของเจ้าออกมา แล้วเรียกกระบี่ไม้ออกมาซะ ข้าจะให้เจ้าฝึกขั้นต่อไป”
“ขอรับท่านอาจารย์”
จินหลงปลดปล่อยพลังเพื่อเรียกกระบี่ไม้ของเขาออกมา แสงประกายที่ทองแผ่กระจายบริเวณแขนของเขาก่อนที่กระบี่ไม้จะปรากฏบนมือ
“เจ้าคงไม่รู้ตัวสินะ ว่ากระบี่ของเจ้านั้นมีความพิเศษซ่อนอยู่”
“กระบี่ของข้าน่ะรึ”จิงหลงมองไปยังกระบี่ในมือก่อนจะ พลิกไปพลิกมา เพื่อดูว่ามันมีอะไรพิเศษ แต่เขาก็เป็นเป็นเพียงกระบี่ไม้ธรรมดาที่ไม่มีลวดลายอะไรเลย
“ไม่ใช่ภายนอกที่มันพิเศษ ข้าจะให้เจ้าเห็นถึงความพิเศษของมันเอง”
เทพมังกรเดินไปหยุดตรงหน้าจินหลง ก่อนจะปรายมือไปแตะบริเวณกระบี่ของจินหลง
“จงหลับตาแล้วค่อยๆปล่อยพลังวิญญาณของเจ้าเข้าไปในกระบี่ เจ้าจงเชื่อมจิตวิญญาณของเจ้าไปที่กระบี่ ทำความเข้าใจและรวมใจให้เป็นหนึ่งเดียวกับกระบี่ของเจ้า กระบี่แต่ละเล่มมันมีจิตวิญญาณสิงสถิตอยู่ หากเจ้าคิดว่ามันคือส่วนหนึ่งของเจ้า เจ้าจะเข้าถึงกระบี่เล่มนี้ได้อย่างแท้จริง”
จินหลงหลับตาลง เขาทำตามที่อาจารย์สั่ง เริ่มรวบรวมสมาธิพุ่งไปที่กระบี่ ทำความเข้าใจกระบี่ เขาหลับตาลงลึกลงไปเพื่อค้นหาจิตวิญญาณของกระบี่ที่สถิตอยู่
วูบบบบบบบ
จินหลงค่อยๆลืมตาขึ้นมา ตรงหน้าของเขามีเทพมังกรยืนอยู่ รอบๆกลายเป็นพื้นดินโล่งกว้าง ใบหญ้าเขียวขจีแลดูอุดมสมบูรณ์ ใหญ่โตสุดลูกหูลูกตา มีกระทั้งแม่น้ำ และภูเขาหลายลูก มันกว้างขวางซะจนจินหลงมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด
“ที่นี่มันที่ใดกัน”
“มิตินี้ถูกสร้างในกระบี่ของเจ้า”
“มิติในกระบี่ของข้า? ทำไมกระบี่ของข้าถึงมีสถานที่เช่นนี้อยู่ ข้าไม่เคยได้ยินคนในตระกูลพูดถึงมิติที่อยู่ในกระบี่เลย”
“หึ ไม่แปลก ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีมิตินี้อยู่ในกระบี่ นั่นหมายความว่าทุกคนในตระกูลเจ้าไม่มีผู้ใดมีมิติในกระบี่เช่นนี้ อย่างแน่นอน”
“แล้วเหตุใดข้าถึงได้ครอบครองกระบี่ที่มีมิติที่อย่างกับเป็นโลกอีกใบหนึ่งนี้ได้”
“เรื่องนั้นข้าไม่ทราบเช่นกัน ที่ข้ารู้ก็คือ มีคนสร้างมิตินี้ไว้ให้เจ้า ในกระบี่ที่เจ้าผูกพันธ์ทางสายเลือด ข้าคิดว่าน่าจะตั้งแต่เจ้าเกิดนั่นแหละ และคนที่จะทำเรื่องเช่นนี้ได้ อย่างต่ำจะต้องเป็นผู้ที่มีพลังขั้นราชันแห่งภูติ!”
ราชันแห่งภูติ? มีความแข็งแกร่งเท่าใดกันนะ ข้าเคยได้ยินมาว่า ราชันแห่งภูติ นับว่าเป็นขั้นสูงสุดของการบ่มเพาะพลัง หากแต่ไม่เคยมีผู้ใดพบเจอราชาแห่งภูติมาก่อน ข้าคิดว่ามีแต่ในตำนานซะอีก เพราะในเมืองวายุจันทราแห่งนี้ ผู้ที่บ่มเพาะพลังที่มีพลังสูงสุดก็คือท่านเจ้าเมือง ซึ่งอยู่เพียงขั้นลิขิตสวรรค์
“สาเหตุที่ข้าไม่ให้เจ้านำกระบี่ออกมาตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เพราะข้าสัมผัสได้ว่า มีมิติที่เช่นนี้อยู่ในกระบี่ของเจ้าน่ะสิ เจ้าอาจจะไม่รู้ตัว เนื่องจากมิติแห่งนี้สร้างจากผู้ที่มีพลังขั้นราชันแห่งภูติ กระบี่ไม้เล่มนี้มันจะทำการดูดพลังวิญญาณของเจ้าทีละน้อย เพื่อให้คงมิติเช่นนี้ไว้ แม้ว่ามิตินี้ส่วนใหญ่จะเป็นพลังวิญญาณของผู้ที่สร้าง แต่หากมันจะคงอยู่ได้ ต้องอาศัยพลังของเจ้าเอง แต่ข้าก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องสร้างมิติเช่นนี้ไว้ให้กับเจ้า การจะสร้างมิติเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ข้าคิดว่าเขาต้องสูญเสียพลังไปจนเกือบเหือดแห้งแน่นอน หรือไม่แน่ มันผู้อาจจะเสียพลังบ่มเพาะทั้งหมด! เพราะข้าสัมผัสได้ถึงความหนาแน่นของพลังวิญญาณ หากไม่เช่นนั้น มันผู้นั้นจะต้องเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ที่มีพลังวิญญาณมหาศาลเป็นแน่ อาจจะเหนือยิ่งกว่าราชันแห่งภูติ!”
“เหนือว่าราชันย์แห่งภูติ...”
ใครกันนะที่เป็นคนสร้างมิตินี้ให้ข้า…
“เจ้าไม่สามารถจิตนาการได้หรอก เอาเป็นว่าไม่ว่าเจ้าจะได้มันมาเช่นใด แต่นี่เป็นโอกาสดีสำหรับเจ้า”
“ท่านบอกให้ข้าห้ามนำกระบี่ออกมาร่วมกับการฝึกวรยุทธ์กายามังกรสีชาด ตอนแรกข้ายังไม่ทราบถึงเหตุผล แต่ตอนนี้ข้าทราบแล้วว่ากระบี่ของข้าจะดึงดูดพลังวิญญาณของข้า ฉะนั้นแล้วเหตุใดท่านจึงให้ข้าเข้ามาที่นี่ ท่านต้องการให้ข้าฝึกที่นี่รึท่านอาจารย์”
“ก่อนหน้านี้เจ้านั้นมีพลังวิญญาณน้อยเกินไป เมื่อเจ้าถูกกระบี่ดูดพลังวิญญาณถึงแม้จะไม่มากและค่อยๆดูดพลังเจ้าทีละน้อย แต่มันจะทำให้การฝึกวรยุทธ์มังกรสีชาดที่ใช้พลังวิญญาณเป็นหลักนั้นทำได้ช้าลง และเนื่องจากร่างกายของเจ้าถูกดูดพลังวิญญาณมานาน ทำให้พลังวิญญาณของเจ้าเหือดแห้งลงไป ต่อให้เจ้าฝึกเป็นสิบปี เจ้าก็ไม่บรรลุขั้นสามหรอก”
“ถ้าเช่นนั้น บัดนี้ พลังวิญญาณของข้าก็”
“ใช่ พลังวิญญาณของเจ้าได้รับการฟื้นฟูแล้วเรียบร้อย ก่อนหน้านี้แม้เจ้าจะอยากเข้ามาที่มิตินี้เจ้าก็ทำไม่ได้หรอก เพราะพลังวิญญาณของเจ้านั้นเหือดแห้งสุดๆ เจ้าคงจับกระบี่ตลอดเวลาสินะ พลังวิญญาณของเจ้าถึงได้น่าอนาถเช่นนั้น จริงๆแล้วกระบี่มันไม่ได้ดูดพลังวิญญาณเจ้ามากมายอะไรหรอก แค่เจ้าใช้กระบี่อย่างหักโหมหนักหน่วงทั้งๆที่เจ้าเองก็ไม่เคยบ่มเพาะพลังเลยแม้แต่น้อย แต่ต่อแต่นี้ไปมันจะไม่มีผลกระทบต่อเจ้าอีกเลย มันจะใช้พลังวิญญาณของเจ้าเพียงเล็กน้อย อาจจะเทียบเป็นหนึ่งในล้านล้านส่วนของพลังวิญญาณของเจ้าเลยก็ได้ ที่สำคัญเวลาที่เจ้าเข้ามาอยู่ในมิตินี้ เจ้าจะได้ฟื้นฟูพลังวิญญาณโดยอัตโนมัติ เนื่องจากที่นี่มีพลังวิญญาณอยู่อย่างหนาแน่นเลยทีเดียว เจ้าคงต้องขอบคุณคนที่สร้างมิติที่วิเศษเช่นนี้ไว้ให้เจ้าแล้วล่ะ”
“งั้นก็หมายความว่า ต่อจากนี้หากข้าทำการฝึกฝนในมิติแห่งนี้ที่ซึ่งมีพลังวิญญาณมหาศาล ข้าจะบรรลุขั้นที่สามได้เร็วขึ้นใช่รึไม่ แล้วข้าก็สามารถที่จะบ่มเพาะพลังในนี้ได้ด้วยใช่หรือไม่ขอรับท่านอาจารย์”
“ใช่ ที่นี่เป็นสวรรค์ของผู้บ่มเพาะพลังโดยแท้ !”
“เจ้าจงเริ่มฝึกฝนต่อซะ เรียกกระบี่ของเจ้าออกมาฝึกร่วมกับวรยุทธ์กายามังกรสีชาดด้วย มันจะไม่ส่งผลกระทบต่อเจ้า เพราะที่นี่มีพลังวิญญาณที่หนาแน่นอยู่แล้ว”
นี่ก็ผ่านมาสองเดือนกว่าแล้ว หากข้าได้ทำการบ่มเพาะพลังที่นี่ข้าจะต้องก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว และหาทางออกไปจากที่แห่งนี้ได้เร็วยิ่งขึ้นแน่นอน
ความคิดเห็น