คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 กระบี่ไม้
บทที่ 1 กระบี่ไม้
ณ เขตพื้นที่ภูเขาสูงทางตอนเหนือของเมืองวายุจันทรา
“จินหลง ต่อไปเป็นตาเจ้า”
เด็กชายอายุประมาน 10 ขวบ ก้าวขึ้นไปบนเวทีไม้ที่มีรูปปั้นกระบี่เล่มยักษ์ตั้งเสมือนอนุสรณ์กลางลานของตระกูล ผู้เฒ่าหนวดยาวสีขาวขานชื่อของเด็กชาย ผู้เฒ่าคนนี้เป็นถึงผู้อาวุโสของตระกูล นามว่า ซุนหย่งฉือ เขามองไปยังเด็กชายด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง ไม่ใช่แค่หย่งฉือเท่านั้น แต่ทุกคนในตระกูลต่างจับจ้องไปที่เด็กชาย
จินหลงค่อยๆทาบมือไปบนรูปปั้นกระบี่ยักษ์ หลับตาทำสมาธิแล้วปล่อยพลังเข้าไป หลังจากนั้นจินหลงค่อยถอยออกมาหนึ่งก้าว พลันเกิดแสงสว่างจ้าเป็นรูปกระบี่ พุ่งหายเข้าไปที่แขนข้างขวาพร้อมปรากฏตราสัญลักษณ์รูปกระบี่สีทอง จิตใจของเด็กชายเต้นระส่ำความความตื่นเต้นและคาดหวัง เมื่อสัญลักษณ์กระบี่สีทองเริ่มหายไป รูปลักษณ์ของกระบี่ไม้เล่มหนึ่งปรากฏขึ้นมาตรงหน้าของเด็กชาย ท่ามกลางสายตาผู้คนในตระกูล
“เป็นไปไม่ได้ !”
“ไม่จริงน่า”
“น่าเสียดายจริงๆที่เขานั้นไร้พรสวรรค์”
“ความหวังของพวกเรา มันจบสิ้นแล้วล่ะ” มีเสียงเซ็งแซ่ดังไปทั่ว ทั้งสายตาโศกเศร้าผิดหวัง เห็นใจ รวมไปถึงดูถูกดูหมิ่นเด็กชาย ดังไปทั่วบริเวณลานกว้าง ตระกูลซุนแห่งนี้ คือตระกูลกระบี่สวรรค์ ทุกคนในตระกูลเมื่ออายุครบ10ปี จะได้รับการทดสอบประจำตระกูล เพื่อเรียกกระบี่ ที่อยู่ในตัวออกมา กระบี่นี้จะสร้างมาจากลมปราณและเลือดเนื้อของเจ้าของเท่านั้น ทำให้ไม่มีใครสามารถใช้ได้ นอกจากเจ้าของ กระบี่ของแต่ละคนจะมีรูปลักษณ์แตกต่างกันออกไป โดยแบ่งเป็น กระบี่ไม้ กระบี่เงิน และกระบี่สีทอง ตามลำดับ กระบี่ไม้จัดเป็นกระบี่ที่แย่ที่สุดในบรรดากระบี่ทั้งสามรูปแบบ ซึ่งเมื่อบ่มเพาะพลังต่อไป รูปลักษณ์ของกระบี่จะค่อยๆพัฒนา เปลี่ยนแปลงไปตามธาตุของแต่ละคนซึ่งสุดท้ายแล้ว จะมีทั้งกระบี่น้ำแข็ง กระบี่เพลิง กระบี่สายฟ้า กระบี่สายน้ำ มากมายนับไม่ถ้วนซึ่งล้วนแล้วแต่พรสวรรค์ของแต่ละคน
เด็กชายเดินลงจากเวทีด้วยสายตาเลื่อนลอย เบื้องหน้าของเขามีชายชราดูสง่างามและน่าเกรงขามนั่งอยู่บนเก้าอี้ซึ่งประทับไปด้วยกระบี่สีทอง เขาคือผู้นำตระกูลซุนคนปัจจุบัน ซุนลู่หยุน เขามองเด็กชายด้วยสายตาที่ต่างไปจากคนอื่นๆ แววตาที่อ่อนโยนและรักใคร่เด็กน้อย ซุนลู่หยุนทำได้เพียงแต่ส่งสายตาปลอบประโลมไปยังเด็กชาย ถึงแม้เขาจะไร้พรสวรรค์ แต่ซุนจินหลงก็เป็นหลานชายเพียงคนเดียวของเขา
“ขอโทษขอรับท่านปู่ ข้ามัน ข้ามันไร้พรสวรรค์” เด็กชายได้แต่ก้มหน้าแล้วเดินหายเข้าไปในบริเวณที่พักของตระกูล
“ท่านผู้นำตระกูล...”
“ไม่เป็นไร ปล่อยจินหลงไปก่อน ทำหน้าที่ต่อเถอะ ท่านอาวุโสหย่งฉือ” แม้ว่าซุนลู่หยุนจะมีท่าทีที่นิ่งสงบ ภายในใจของชายชรานั้นเต็มไปด้วยความกังวล เขานั้นทั้งรักและเป็นห่วงจินหลงยิ่งกว่าใคร แต่ด้วยตำแหน่งหน้าที่ ที่เป็นถึงผู้นำตระกูลเขาไม่สามารถทำตามใจตัวเองได้
ภายในห้องนอนของจินหลง
“ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าทำให้ท่านผิดหวังใช่หรือไม่”
“จินหลง… ปู่เข้าไปนะ” ซุนลู่หยุนเดินเข้ามาในห้องเห็นจินหลงกำลังนั่งร้องไห้อยู่เงียบๆบนเตียง ชายชราได้แต่นึกเสียใจทำไมสวรรค์ถึงได้ทำร้ายเขาถึงเพียงนี้ ไม่เพียงแต่พรากลูกชายและลูกสะใภ้ของเขาไป แต่ยังทำให้จินหลงต้องมีความทุกข์ทรมาน ลู่หยุนทราบดีว่าการเป็นหลานของผู้นำตระกูลสร้างความกดดันให้จินหลงมาไม่น้อย เขาไม่แคร์แม้แต่น้อยว่าจินหลงนั้นจะมีพรสวรรค์หรือไม่ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็รักจินหลงหลานชายเพียงคนเดียวของเขามากอยู่ดี
“ท่านปู่… ท่านผิดหวังหรือไม่ ที่ข้า ที่ข้า.. ทั้งๆที่ท่านปู่นั้นเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในรอบหลายพันปี และยังทั้งท่านพ่อ ข้าเคยได้ยินมาว่า ท่านพ่อนั้นเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ที่ไม่มีใครสามารถมาแทนที่ได้”
“จินหลง ปู่ไม่เคยผิดหวังในตัวเจ้า เจ้าอย่าได้คิดมาก ปู่ผิดเองที่ทำให้เจ้าต้องมาแบกรับความเป็นหลานของผู้นำตระกูล วันนี้เจ้าจึงต้องเจ็บปวดเพราะสายตาของคนอื่นๆในตระกูล”
“ท่านปู่ ท่านปู่ไม่ผิดนะขอรับ ข้าดีใจและภูมิในที่เกิดมาเป็นหลานของปู่” ชายชรายิ้มรับ หน้าของจินหลงนั้นเหมือนกับลูกชายของเขามาก ความคิดความอ่านเองก็เช่นกัน
“ท่านปู่ ถึงแม้ว่าข้านั้นจะไร้พรสวรรค์ ทั้งแม้ว่ามันจะเป็นแค่กระบี่ไม้ แต่ข้าจะพยายามฝึกฝน ข้าจะไม่ทำให้ท่านปู่ผิดหวัง ข้าจะทำให้ทุกคนในตระกูลยอมรับข้า และข้าจะฟื้นฟูตระกูลของเราให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” เด็กชายพูดด้วยความมุ่งมั่น สายตาเต็มเปลี่ยมไปด้วยความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว
“ ดี ดี ดีมาก ปู่เชื่อว่าเจ้าทำได้”
หลังจากนั้น จินหลงมุ่งแต่ฝึกวิชากระบี่ จากตำรากระบี่ที่เป็นวรยุทธ์ประจำตระกูล อีกทั้งซุนลู่หยุนยังเป็นคนฝึกสอนวรยุทธ์ให้เขาเองกับมือ
หอตำราของตระกูลกระบี่สวรรค์
จินหลงเดินเข้าไปในหอตำราของตระกูล เขาทราบดีว่าหากยังไม่อายุครบ13 เขาไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าตนเองนั้นมีธาตุอะไร ทำให้ไม่สามารถที่จะฝึกวรยุทธ์ตามสายธาตุของตัวเองได้ ตระกูลกระบี่สวรรค์เป็นตระกูลหนึ่งที่มีเอกลักษณ์สามารถหลวมรวมความสามารถของกระบี่และธาตุเข้าด้วยกันได้ อย่างปู่ของจินหลงนั้น ธาตุน้ำแข็ง กระบี่ประจำตัวของซุนลู่หยุนผู้นำตระกูลกระบี่สวรรค์คือ กระบี่กระจ่างฟ้าเหมันต์ เป็นกระบี่น้ำแข็ง ด้วยความแข็งแกร่งระดับที่ 4 ของชั้นชะตาสวรรค์ ทำให้ปู่ของเขาแข็งแกร่งติด หนึ่งในสิบ ของเมืองแห่งนี้ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของเมืองนี้อยู่ในระดับที่ 1 ชั้นลิขิตสวรรค์ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เข้ามาในหอตำราประจำตระกูล ผู้ที่อายุ10ขวบและได้รับการทดสอบแล้วเท่านั้น ถึงจะสามารถเข้ามาที่หอตำราประจำตระกูลแห่งนี้ได้ ภายในหอตำรานั้นถูกแบ่งออกเป็นเจ็ดชั้น โดยสองชั้นแรกเป็นตำราทั่วไปและตำราแพทย์ ตำรับยาต่างๆ ทุกคนในตระกูลสามารถใช้สองชั้นแรกนี้ได้ จินหลงนั้นได้ขึ้นมาอยู่ที่ชั้นสาม ซึ่งเป็นชั้นสำหรับผู้ฝึกวรยุทธ์ชั้นแรกเริ่มและชั้นกำเนิดลมปราณ จินหลงนั้นสามารถขึ้นมาได้สูงสุดแค่ชั้นที่สาม ตั้งแต่ชั้นที่สี่ขึ้นไป จินหลงต้องมีลมปราณที่แข็งแกร่งกว่านี้จึงจะมีสิทธิ์เปิดประตูขึ้นไปได้
นอกเหนือจากวรยุทธ์กระบี่สวรรค์ที่เป็นวรยุทธ์ประจำตระกูล จินหลงอยากจะฝึกพลังกายซึ่งจะทำให้ร่างกายของจินหลงมีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น จินหลงกวาดสายตาไปทั่วบริเวณชั้นหนังสือ “กายามังกรสีชาด ความยากระดับสี่” ความยากง่ายของวรยุทธ์จะแบ่งเป็นระดับที่หนึ่งถึงระดับที่เจ็ด
“กายามังกรสีชาด ระดับสี่งั้นหรอ ข้าเคยได้ยินว่ากายามังกรสีชาดมีเพียงท่านพ่อคนเดียวในตระกูลที่ฝึกฝนจนสำเร็จจนถึงขั้นที่ 10 ซึ่งเป็นขั้นสุดท้าย แต่ก็ใช้เวลาถึง 7 ปี” จินหลงมองตำราในมือด้วยสายตาเลื่อนลอย ข้าจะไม่ทำให้ท่านพ่อกับท่านแม่ที่อยู่บนสวรรค์ต้องผิดหวัง
ปัจจุบันนี้จินหลงทำได้เพียงฝึกกระบี่และฝึกพลังกายเพียงเท่านั้น เพราะพลังลมปราณจะตื่นขึ้นมาก็ต่อเมื่อเด็กทุกคนอายุ13ปีแล้วเท่านั้น จินหลงนั้นมีความพยายามมากกว่าเด็กทั่วๆไป เขาใช้เวลาวันแล้ววันเล่า ไม่เคยเกียจคร้านทั้งในด้านวิชากระบี่และด้านพลังกาย
ความคิดเห็น