ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไอดิน กับ กลิ่นเมฆ

    ลำดับตอนที่ #6 : ฝัน

    • อัปเดตล่าสุด 20 ต.ค. 49


    6.

                               "เพิ่งกลับเหรอดิน"  ทรายพี่สาวของดินทักขึ้น

    "อ้าว รอผมอยู่เหรอ  จริงๆ พี่ไปนอนก่อนก็ได้ ไม่เป็นไรหรอก"

    "ก็แกกลับบ้านดึกนี่หว่า"

    "พี่เพิ่งออกจากโรงบาลใหม่ๆนะ  ไม่เอาน่า ไปพักผ่อนร่างกายจะได้ฟื้น แล้วจะได้กายภาพบำบัด"

    "พี่ไม่ได้เป็นอะไรมากซักหน่อย พูดเป็นหมอไปได้"

    " แต่   พี่เป็นอัมพาตครึ่งล่างนะพี่ "  ดินทำเสียงดัง

    "หมอเขาก็บอกว่ามีสิทธิ์หาย 30% หนิ"

    "ถ้าวันนั้นผมไปส่งพี่เองก็คงไม่เป็นอย่างนี้หรอก"

    "แกไม่ผิดซักหน่อย  ฉันหนะหาเรื่องเอง ทั้งทีขับรถไม่แข็งก็ยังดันไปขับตอนดึกๆแบบนั้น"  ทรายยิ้มให้

    " ยิ่งพี่ทรายยิ้ม ผมก็ยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่"

    "อ้าว ไอ้บ้า ไม่ให้ฉันยิ้มแล้วจะให้ฉันทำอะไรวะ"

                          ทรายประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสองเดือนที่แล้ว   เธอเป็นอัมพาตครึ่งตัวซ้าย เพิ่งออกจาโรงพยาบาลได้สัปดาห์กว่า ดินรู้สึกผิดมาก เพราะคิดว่าถ้าเขายอมไปรับส่งพี่ พี่ก็คงไม่ต้องเจ็บตัว

                        เช้าตรู่วันต่อมา  ดินในชุดนอนผมเพร้าหยุ่งเหยิงนั่งริ่มบ่อปลาบ่อเดิม  ปลายนิ้วชี้จิ้มอยู่ที่กระดองแข็งๆของเต่าบ้าน ตัวเล็กๆ "ไงเปาๆ"   กิจกรรมยามว่างอย่างหนึ่งของดินก็คือเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้เจ้าเปาๆฟัง  มันดีไม่น้อยที่ได้ระบายความอึดอัดใจออกมาได้ทุกเรื่อง แม้กระทั่งความลับ ที่ไม่ต้องการให้ใครรู้   แน่นอน เต่าพูดไม่ได้   ถ้าจะให้เปรียบเทียบ เปาๆคงจะเป็นไดอารี่ของดิน รับรู้เรื่องราวต่างๆ ผ่านจากเสียงของเขา  เวลาห้านาทีเศษผ่านไป เต่าเปาๆ ตัวเดิมก็ถูกปล่อยให้ว่ายน้ำอย่างอิสระ ในบ่อเดิม  

    " จะเจ็ดโมงแล้วลูก  ยังไม่ไปทำงานอีกเหรอ"  เสียงแม่ของดินดังมาจากระเบียง   เขาลุกขึ้นช้าๆ แล้วเดินกลับเข้าไปในบ้าน 10 นาทีต่อมาประตูรั้วใหญ่เปิดแล้วชายหนุ่มก็เดินออกจากบ้านไปพร้อมกับความหน่ายเหนื่อย   ดินเริ่มต้นทำงานเหมือนทุกวัน เปิดลิ้นชัก  เปิดแฟ้มงานบนโต๊ะ เปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์  อ่านเอกสารทั้งหลายแหล่ที่กองไว้ตรงหน้า  "ทำงานไม่ถึงครึ่งปีก็หมดไฟง่ายๆ ซะแล้ว" เขาคิดในใจ  เวลาไม่กี่เดือนผ่านไปไม่เพียงเขาจะพบว่าชีวิตน่าเบื่อเท่านั้น  เขายังพอสัจธรรมว่าเวลามักเดินช้าเวลาเรามีความทุกข์เสมอ   และมันจะวิ่งผ่านเราไปตอนเผลอทุกครั้ง   และผู้คนส่วนมากจะเผลอบ่อยซะด้วยสิ

                   " พี่โช บอกหน่อยดิ นะนะ"

    "ถามแม่เดะ"

    "ไม่ แม่ไม่บอก"

    "งั้นถามพ่อ"

    "พ่อก็ไม่บอก"    โชหันมาหาน้องสาว

    "งั้นพี่ก็ไม่บอกอีกคนละกัน"  เมฆฝนทำหน้าโกรธ

    "อ้าว ขี้โกงนี่หน่า  แล้วทำไมเมฆฝนถึงรู้เรื่องนี้ไม่ได้หละ ทุกคนจงใจปิดนี่หน่า"

    " โอ๊ย  แกนี่ยุงจริงๆ  ฉันบอกแล้วไงว่าเขาไม่เป็นไรมากหรอก"

    "ไม่เป็นไรได้ไง  ขนาดเมฆ ยังเป็นเลย  คนที่ขับชนกับเมฆก็ต้องเป็นดิ  แล้วอีกอย่าง เมฆเป็นคนผิด"

    "แก ไม่ได้ผิด คนที่ชนกับแกเขาวิ่งผิดเลนเอง  อย่าคิดมากสิ"

    "ไม่คิดมากได้ไง เขาเจ็บมากรึปล่าว "    โชกุนส่ายหัว

    "เห้ย หรือว่า ที่รวมหัวกันไม่บอกเพราะว่าเขาตายใช่มั้ย  ตายแล้ว"

    " โอ๊ยๆๆ  ไม่ตายๆ ยังอยู่ดีอยู่"  พูดจบ โชก็วิ่งเข้าไปในลิฟท์

    "พี่ โช    โอ๊ย มาคุยให้รู้เรื่องเลย     อะไรวะ"          เสียงเอะอะของทั้งสองดังเข้าไปถึงห้องที่ไอดินทำงานอยู่    ดินหันหน้าออกไปมองนอกกระจก ยิ้มให้เมฆฝนเล็กน้อย แล้วก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ

                ลมเย็นๆในเวลาพระอาทิตย์ตกดินพัดมากระทบหน้า หญ้า  น้องสาวของเมฆฝน  เธอนั่งอยู่ใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาซักที่ในกรุงเทพ  เมฆฝนเรียนอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนเอกชนชื่อดัง แต่เกรดที่ไม่ค่อยดีทำให้พ่อแม่ ไม่ค่อยกดดันมาก  หญ็าเด็กกว่า โช 4 ปี ทำให้เธอไม่ค่อยสนิทกับพี่ชายนัก ไม่เหมือนพี่สาว ที่ค่อนข้างจะสนิทกับพี่ชาย  ถ้าเทียบกันทั้งบ้าน ผลการเรียนของหญ้า ต่ำที่สุดแล้ว  เมฆฝนรำคาญเสมอเวลาหญ้าทำอะไรเหมือนเธอ     เมฆไม่ชอบให้ใครเหมือน และไม่ชอบเหมือนใคร แต่ดูท่าน้องสาว จะตามเมฆทุกเรื่อง  จนเมฆฝนหลบไปอยู่ ไกลๆ  หญ้าค่อนข้างเป็นเด็กสปอย เพราะร้องให้ง่ายตอนเด็กๆ ไม่ค่อยเก่งอะไร พ่อแม่เลยเอาใจเป็นพิเศษ และ ห่วงมากเป็นพิเศษ

    "อ้าว หญ้า   หวัดดี"

    "หวัดดีพี่ดิน"    ดินพบหญ็าโดยบังเอิญ  นานๆทีเขาถึงจะมาที่นี่ แต่ดูเหมือนหญ้าจะมาที่นี่บ่อยๆ

    "นั่งเล่นเหรอ" หญ้ายิ้มให้เป็นคำตอบ

    "วันนี้กลับพร้อมพ่อเหรอ"  หญ้ายิ้มอีกครั้ง

    "หญ้านี่ดีจังนะ ยิ้มตลอดเลย มีความสุขอะไรเหรอ"

    "ป่าวคะ"

    "ก็พี่เห็นเธอยิ้มแฉ่ง  หรือว่ามี แต่ไม่บอก อื้อไม่เป็นไรหรอก"

    "ไม่มีจริงๆ  แต่ว่าเขาบอกให้ยิ้มตลอดเวลาคะ ชีวิตจะได้สดใส จะได้อายุยืนด้วย เขาบอกว่า ยิ้มทีนึง อายุยืนขึ้น 7 วันรู้มั้ย"

    "55 งั้นหญ้า ก็เป็นอมตะไปแล้วมั้ง" ดินหัวเราะ

    "หญ้านี่ดูไม่เหมือนพี่สาวเธอเลยนะ  รายนั้นดูเฮฮา ติ๊งต๊อง ส่วนหญ้านี่ก็เรียบร้อย นุ่มนวล"

    "อ๋อ แม่บอกว่า เป็นผู้หญิงต้องนุ่มนวลละเอียดอ่อนคะ" หญ้ายิ้มหวานให้อีกครั้ง

    "แต่หญ้านี่แต่งตัวสวยกว่า เมฆอีกนะ รายนั้นเสื้อยืดกางเกงยีนทุกทีเลย"

    "คะ ก็เขาบอกว่าใส่แต่กางเกงมันดูห้าว ..."  หญ้าพูดเหมือนเดิมอีกแล้ว  เขาบอกว่า...

    "แล้วเรากะว่าจบแล้วจะทำอะไรหละ"

    "เห็นคุณแม่กับคุณพ่อบอกว่าจะให้ทำงานในบริษัทคะ ก็ต้องทำตามละคะ เขาบอกว่า เด็กดีต้องเชื่อฟังพ่อแม่...."

    "หญ้านี่แปลก เนอะ"  หญ้ายังคงทำหน้าไร้เดียงสาเหมือนเดิม

    "ชอบพูดว่า เขาบอกว่า เขาบอกว่า    แล้วหญ้าหละ บอกว่าอะไรบ้าง" 

    "ก็พ่อแม่สอนหญ้าให้เชื่อผู้ใหญ่พูด..."

    "อิ้อ พี่น้อง กันแต่ไม่เหมือนกันเลยแฮะ พี่สาวเธอบอกว่าเขาทะเลาะกับพ่อกับแม่บ่อยเหรอ" 

    " พี่เมฆฝน เขาดื้อคะ ไม่ค่อยฟังพ่อกับแม่ ชอบเถียงข้างๆคูๆ พ่อกับแม่เลยไม่ค่อยพอใจ พี่เขาชอบทำอะไรแปลกๆคะ  ญาติๆส่วนมากจะบอกว่าพี่เมฆฝนแปลกคะ ไม่เคยบอกว่าหญ้าแปลก"  ดินพยักหน้ารับฟัง

    "แล้วเราเคย มีความคิดเห็นไม่ตรงกับพ่อแม่บ้างมั้ย"

    "ไม่เคยหรอกคะ   ถึงจะไม่เห็นด้วย ก็เชื่อไปก่อนคะ พ่อกับแม่ต้องพูดเรื่องจริงอยู่แล้ว"

                           ในร้านอาหารหรูๆย่านสีลม เมฆฝนนั่งอยู่กับหนุ่มฝรั่งผมสีน้ำตาลเข้มคนเดิม นั่งอยู่ตรงข้าม

    " แพงนะเนี่ย"

    "นิดหน่อยเอง"

    "เงินพ่อนายไม่ใช่เหรอ"

    "ผมก็ช่วยหานะ"

    "ถ้าพ่อนายตาย นายจะใช้เงินจากไหนยะ"

    "ผมก็ขึ้นตำแหน่งประธานนะสิ"

    " ก็ต้องรู้จักเก็บเงินบ้าง"

    "เอาแต่เก็บแล้วเมื่อไหร่จะได้ใช้หละ"  เมฆฝนจ้องหน้า jack จะกินเลือดกินเนื้อ

    "ฟุ่มเฟือย"  เธอว่าเขา

    "งก"    เขายิ้มให้       ก็ถูกอย่างที่ Jack ว่า ถ้าเอาแต่เก็บอย่างเดียว  จะหามาเยอะๆทำไมในเมื่อไม่ได้ใช้    ถ้ามีแล้วไม่ใช้ ก็ไม่มีประโยชน์หรอก  jack ดูเป็นผู้ใหญ่ผิดคาด แล้วก็ดูเหมือนเด็กๆในบางครั้ง เมฆฝนรู้ดี ว่าถ้าJack กับเธอสนิทสนมกันมาก มันจะส่งผลดีต่อธุรกิจของพ่อด้วย  เพราะเหตุนี้ มันเลยเป็นเหตุผลเล็กๆที่ทำให้เมฆฝนต่อต้านการคุยกับJack แสงอาทิตย์ภายนอกมืดลงเรื่อยๆ จนดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไป ท่าทางเขาจะไม่ยอมให้เมฆฝนกลับบ้านง่ายๆ Jack ไม่ยอมลุกไปไหนเลย หาเรื่องชวนเธอคุยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธุรกิจ สิ่งแวดล้อม งานอดิเรก เรื่องส่วนตัว

    "มีแฟนรึยัง"  เมฆฝนขมวดคิ้ว เธอไม่เข้าใจว่าเขาจะอยากรู้เพื่ออะไร  เธอส่ายหัวเป็นคำตอบ

    "เลิกไปแล้ว     เลวๆอย่างนั้นอะ"

    "หือ เลว  เขาข่มขืนเธอเหรอ?"

    "ไม่ใช่"

    "อ้าว แล้วเลวยังไง"

    "สันดานผู้ชาย   เฮ้อ" เมฆฝนทำหน้าบึ้ง

    "เห้ย ว่ารวมอย่างงี้ได้ไง  ผมยังไม่เคยทำอะไรผิดเลยนะ"

    "ไม่เชื่อ    อย่างน้อยก็ต้องเคยทำร้ายจิตใจผู้หญิง เชอะ"

    "พูดยังกะผู้หญิงไม่เคยทิ้งผู้ชายงั้นแหละ"    เมฆฝนเงียบ  Jack หัวเราะเบาๆ

    "ถ้ามันเลว ก็ไม่ต้องคิดถึงมันสิ หาคนใหม่ที่ดีๆ ดีกว่า"   เมฆฝนนั่งเงียบไปซักพัก

    "Jack นายมีความฝันมั้ย??"

                          เมฆฝนเคยฝันบ่อยๆ ว่าตัวเองนั่งอยู่ในรถยุโรปเปิดประทุนสีแดงจอดอยู่กลางถนนที่เป็นทางเส้นยาวยื่นออกไปกลางทะเล  สองข้างทางล้อมรอบด้วยน้ำ และมีใครอีกคนนั่งอยู่ข้างๆ โรแมนติกชะมัด เธอไม่รู้หรอกว่าทำไมภาพนั้นมันถึงฝังอยู่ในหัว แต่ถ้าฝันนั้นมีวันเป็นจริงก็คงจะดี  แล้วคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็คงเป็นเนื้อคู่ของเธอละมั้ง  Jack ไปส่งเมฆฝนถึงที่บ้าน ตอนแรกพ่อของเธอก็เชื้อเชิญ Jack ขึ้นไปพักผ่อนข้างบน แต่ เขาก็ขอตัวกลับก่อน เมฆฝนค้อนพ่อของเธอแทบตาย ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนที่พ่อเชิญเข้าบ้าน แม้แต่จะมองหน้าแล้วคุยก็ยังไม่เคยเลย อย่างเช่นเฮา   ช่วงนี้เมฆฝนใช้เวลาอยู่กับดินมากขึ้น คงเป็นเพราะคนอกหักเหมือนกันอยู่ด้วยกันเลยเข้าใจกันมั้ง   

    แล้ววันเกิดครบ 20 ปีของเมฆฝนก็มาถึง เมฆฝนแอบมาเที่ยวกับดินกันสองคนตอนกลางวัน ดินซื้อต้นไม้ต้นเล็กๆให้เมฆฝน เขาไม่รู้ความหมายของดอกไม้หรืออะไรหรอก คิดอยากซื้อก็ซื้อมาเลย ต้นไม้ต้นนั้น ปลูกอยู่ในแก้วนั้นขนาดกลาง

    " นี่ เราให้เมฆ "  ดินบรรจงหยิบแก้วน้ำ ใบนั้นขึ้นมาให้

    " อะไรเนี่ย?"

    "ให้เมฆไง วันเกิด"

    "ต้นไม้เนี่ยนะ "  ดินพยักหน้า

    "นี่ไง มีดินด้วย เมฆจะได้คิดถึงดิน" เมฆฝนหัวเราะเบาๆ

    "เราเลี้ยงต้นไม้ไม่เก่งนะ"

    "ก็เนี่ย  ต้นไม้มันจะโตได้ก็เพราะ ดินกับฝนไง จะได้เป็นสัญลักษณ์แทนเราสองคน"    เมฆฝนเงียบตั้งใจฟังเขา

    " คบกับดินนะ"

         เย็นวันเดียวกันที่บ้านของเมฆฝน ทุกคนในบ้านอยู่กันพร้อมหน้า รวมทั้งคนที่ไม่ได้อยู่ในบ้าน (คนเดียวกับที่เมฆฝนไม่อยากเจอหน้า) ก็อยู่ด้วย   พ่อจัดงานวันเกิดให้เมฆฝน  ทุกคนมีของขวัญมาให้เธอคนละชิ้นสองชิ้น แต่ก็ไม่มีอันไหนที่ประทับใจเท่า ชิ้นตอนกลางวัน  จะว่าไปแล้ว งานวันเกิดเมฆฝนปีนี้ เป็นงานวันเกิดที่ใหญ่ที่สุดในบ้านตั้งแต่เธอ จำความได้  ตอนเด็กๆ เธอไม่ค่อยจำมีงานวันเกิดเท่าไหร่หรอก เนื่องจากเธอไม่ชอบกินเค้ก  พ่อเพียงแต่จะซื้อของขวัญเล็กๆน้อยๆให้ แล้วร่วมโต๊ะอาหารกัน  ยกเว้นหญ้า  หญ้าเป็นคนที่มีงานวันเกิดถี่ที่สุดในบ้าน  หญ้าเรียกร้องของขวัญวันเกิดเสมอ แม้ว่าจะผ่านวันเกิดมาแล้วครึ่งปีก็ตาม  "ของขวัญล่วงหน้า"  นั่นคืดข้ออ้างของหล่อน  แล้วพอถึงวันจริงๆ ของขวัญล่วงหน้า ก็จะถูกลืม แล้วคนที่ให้ก็จะถูกทวงอีกครั้ง หรือไม่ก็ โดนทวง ของขวัญย้อนหลัง   พ่อชวนคนที่ทำงานกับพ่อมานในงานด้วย ซึ่งแน่นอน    พ่อของ Jack หุ้นส่วนสำคัญของบริษัทต้องมา และเมื่อพ่อมา ลูกชายสุดที่รักก็ต้องมา Jack เดินเข้ามาหา เมฆฝนทันทีที่เมฆฝนก้าวเท้าลงมาจากบันได  ดูท่าทั้งบ้านจะเป็นใจให้ Jack อยู่กับเมฆฝน พ่อกับแม่ปล่อยให้ Jack ตามติดเธอตลอด  ไม่ว่าจะเป็นตอนกินอาหาร ร้องเพลง เป่าเทียนเค้กวันเกิด

    "เธอ พี่ดินไม่มาเหรอ" หญ้าเรียกพี่สาว   เมฆฝนส่ายหัว

    "ทำไมหละ เธอไม่ได้ชวนเค้าเหรอไง" หญ้าซักไซ้ต่อ

    "ชวนแล้ว  ดินเค้าอยากกลับไปอยู่เป็นเพื่อนแม่"

    " ก็ชวนแม่เค้ามาด้วยสิ หญ้าอยากเจอพี่ดิน"

    " ช่วยไม่ได้แฮะอันนี้ ทำไมเธอไม่ชวนเค้าเองหละ"

    " ก็เห็นพี่สองคนสนิทกันหนิ  บอกไว้ก่อนนะว่าหญ้าจองพี่ดินแล้ว" 

    " ไงเมฆ"  ยังไม่ทันที่เมฆฝนจะเปิดปากพูดต่อ Jack ก็เข้ามาขัดจังหวะ แล้วลาก เมฆฝนออกไปคุยกันข้างนอก

    "วันนี้แต่งตัวน่ารักเชียว"

    "ฉันเป็น ซินเดอเรล่าหยะ เดี๋ยวเที่ยงคนก็โทรมเหมือนเดิม"

    " ไม่หรอกน่า  รถฟักทองของเธอ มันจะไม่หายไปหรอกหลังเที่ยงคืน"

    "รถบ้ารถบออะไรยะ  เข้าอู่ยังไม่เสร็จเลย"

    " รู้ความหมายรึปล่าวเนี่ย" เมฆฝนส่ายหัว

    "พรุ่งนี้เธอไม่มีเรียนใช่มั้ย" เมฆฝนพยักหน้า Jack จูงเธอให้เดินออกมาต่อถึงหน้าบ้าน

    "อะไร"

    "ปิดตาก่อน"

    "นายจะทำอะไร"      Jack เอาผ้าพันคอมาพันปิดตาของ เมฆฝน ไว้

    "เชื่อฟังผมดีๆนะ แล้วจะปลอดภัย"

    "เห้ย จะลักพาด้วยกันเหรอวะ!!" เมฆฝนโวยวาย

    "นี่ผมรายงานพ่อคุณแล้วนะ ว่าผมจะพาคุณไปชมวิวซักหน่อย"   

    "ฉันจะเชื่อนายได้ยังไง"

    "เอางี้ ถ้าตอนผมเปิดผ้าผูกตาออก แล้วคุณมีอันตรายอะไร ผมให้คุณฆ่าผมเลย"

    "สาบาน" เมฆฝนขมวดคิ้ว (ภายใต้ผ้าผูกตาผืนนั้น)

    "สาบานครับ มาดมัวแซล"   แล้ว jack ก็ลากเมฆฝนเข้ามาในอะไรซักอย่าง  เธอรู้สึกได้ว่านี่คือรถ

    "จะพาฉันไปไหนเนี่ย"

    "เอาน่าๆ  นอนไปก่อนก็ได้"    แล้วเสียงเครื่องยนต์สตาร์ถ ก็ดังขึ้น ล้อรถเริ่มหมุนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และ นิ่มนวล

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×