ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไอดิน กับ กลิ่นเมฆ

    ลำดับตอนที่ #4 : เมฆฝน

    • อัปเดตล่าสุด 19 ต.ค. 49


    4.

     

     

                                    2 เดือนมันช่างรวดเร็วเหลือเกิน  ตอนนี้ก็ปิดเทอมแล้วงานที่ค้างคาอยู่ก็เสร็จหมดเรียบร้อย เมฆฝนหลับเป็นตายอยู่ในกองผ้าห่มหนาๆ  โช ไม่เข้าใจว่าทำไมน้องสาวตัวเองถึงได้ชอบซุกตัวอยู่ในกองผ้านั่น มันคงจะอึดอัดน่าดู   เสียงโทรศัพท์ทำให้เธอลืมตาขึ้น

    "ฮัลโหล.........โว้ยยย ใครวะโทรมาปลุกแต่เช้า"   หล่อนมันจะโวยวายใส่คนที่โทรมาตอนที่นอนอยุ่เสมอ แต่ก็ช่วยไม่ได้หนิ ในเมื่อเธอเองไปได้ปิดโทรศัพท์ แต่ความขี้โวยวายเนี่ยแหละ เอกลักษณ์ของเธออีกอย่าง  ต้งแต่ปิดเทอมมา เมฆฝนใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอน เล่นเน็ต อ่านหนังสือ  ส่วนแฟนเธอนะเหรอ ลืมได้เลย ดูเหมือนแฟนของเธอใกล้จะเป็นเด็กขาดความอบอุ่นเข้าไปทุกที  ท่าทางเมฆฝนจะไม่ค่อยสนใจ เฮาเท่าไหร่  ทั้งสองเคยไปเที่ยวสวนสนุกด้วยกันครั้งนึง  เฮาหน้าซีดแทบตายตอนเดินออกมาจากบ้านผีสิงผิดกับยัยเมฆฝน เดินหัวเราะร่าออกมา   "ยัยปีศาจ  น่ากลัวจะตาย" นั่นเป็นประโยคแรกที่เฮาพูดหลังจากหายช๊อค

    "เฮาเองจ้ะเมฆ"   อ่ออีตานี่เอง เมฆฝนคิดในใจ  เฮาช่างเป็นแฟนที่ดีเหลือเกิน เขาโทรหาเธอทุกวันเป็นกิจวัตร วันละสอง - สามครั้ง  ราวกับต้องการให้เธอรู้ว่าเขาใส่ใจเธอมากแค่ไหน

    "มีอาราย"   จริงๆแล้ว เมฆฝนก็แค่ทำตัวเป็นแฟนที่ดีเท่านั้น ถือหูโทรศัพท์ ปล่อยให้เฮาพูดฝ่ายเดียว แต่ที่จริงแล้ว สมาธิทั้งหมดของหล่อนหมดไปกับการบังคับให้ร่างกายต่อต้านการพันธะนาการของกองผ้าห่มหนานุ่มอันแสนอบอุ่นอยู่  ไม่มีกอดของใครอบอุ่นไปกว่าผ้าห่มหนาๆผืนนี้อีกแล้ว เธอไม่เคยนอนหลับอย่างสบายเลยถ้าไม่มีเจ้าถ้าห่มผืนนี้

     

    "เช้าไปรึปล่าวเมฆ"  โชนั่งจิบโอวัลตินร้อนๆอยู่บนโซฟาสีครีม พร้อมกับเปิดหนังสือพิมพ์ฟน้าไอที ข่าวสุดโปรดของเขาหละ

    "พอดีมีคนบ้าโทรมาปลุกหนะ  แล้วทำไมวันนี้พี่ยังอยู่บ้านหละ"  เธอหย่อนกันลงที่โซฟาตัวข้างๆ

    "อ่อ  กะจะพักซักหน่อย  ว่าแต่เราจะไปไหน"

    "นัดกับเฮาไว้อะพี่"

    "งั้นพี่ไปส่ง"

    "นั่น   ไม่ต้องหรอก แหมจะไปสอดแนมหละสิ  ไม่เอาน่า พี่หนะหาแฟนของตัวเองได้แล้วนะ เดี๋ยวก็ขึ้นคาน"

    "คาน   บ้าเหรอฉันเพิ่งเรียนจบ  เอาไว้ 30 ก่อน เธอได้ไปงานแต่งงานพี่แน่"  จะว่าไป เมฆฝนก็ไม่เคยเห็นโชพูดถึงผู้หญิงให้ฟังเลย  เมฆเคยไม่แน่ใจอยู่พักนึงว่าพี่ชายของตนเป็นพวกรักไม้ป่าเดียวกันรึปล่าว แต่ดูท่าทางก็ไม่น่าใช่  ที่จริงแล้ว โชเคยมีแฟนอยู่ 2 คน (ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยมาก น้อยจนผิดปกติ)  และแต่ละคนล้วนแล้วแต่คบกับพี่ เป็นปีทั้งนั้น   แต่เมฆไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวเท่าไหร่หรอก  จะรู้จริงๆ ก็ตอนที่เลิกกันแล้วนะแหละ

    "เมฆไปนะ บอกแม่ด้วยว่าเย็นนี้เจอกัน"

    "เอ้อ  เดินดีๆนะ  ฉันเห็นแกวิ่งออกจากบ้านทีไร ไม่ล้มก็ต้องชนอะไรก่อนทุกทีเลย"

    "โอ้ย พูดเหมือนคนแก่ไปได้         โอ๊ยยย"   นั่นไง ไม่ทันไรเธอก็ชนเสาเข้าให้

     

                                      รถยุโรปสีดำแสนงามคันเดิม จอดลงที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง  เมฆฝนมาเดินกับเฮาที่นี่บ่อยๆ เธอไม่ค่อยอยากจะใช้คำว่าเดทนักหรอก มันก็เป็นเช่นกิจกรรมเดิมๆที่เคยทำมาบ่อยๆ จนเป็นกิจวัตร เพียงแต่ช่วงนี้ห่างเหินไปบ้างเท่านั้นเอง แล้วก็เหมือนเดิมทั้งคู่เดินจนแทบจะทุกซอกทุกหลืบของร้าน ดูของต่างๆนาๆ แต่ไม่ยักกะซื้อแล้วจบลงด้วย ดูหนังโรแมนติกซักเรื่อง ไม่ก็ โยนโบวล์

    "บ๊ายบายจ้ะ เมฆ  คืนนี้โทรไปหานะ" เธอพยักหน้าแล้วเดินแยกกับเค้ามา

     

                                    แสงแดดยามบ่ายสองตรงลงมายังพื้นโลก ดาวเคราะห์แห่งชีวิต   ไม่น่าเชื่อเลยว่า พลังงานอันตรายของดาวฤกษ์ขนาดกลาง ที่มีชื่อว่าดวงอาทิตย์ จะสำคัญกับองค์ประกอบเล็กๆ ที่เมื่อเทียบกับจักรวาลแล้ว ไร้ค่ายิ่งนัก อย่าง "มนุษย์" ได้ขนาดนี้   แต่กระนั้น มนุษย์ก็ยังบ่นเช้าบ่นเย็น ถึงความร้อนน่ารำคาญของดวงอาทิตย์  สาวร่างค่อนข้างเล็กกำลังเดินดูของอยู่ในตลาดนัดจตุจักร  ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กำลังเดินดูของอยู่ในตลาดนัดจตุจักรเหมือนกัน

    ด้านหนึ่ง           หญิงสาวกำลังหยิบตุ๊กตาไม้ ของประดับบ้านราคาย่อนเยาว์ขึ้นมาดุ "วันนี้ร้อนจังนะคะ"

    อีกด้านหนึ่ง           ชายหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้ "ถ้ากูมาช่วยมึงขายของงี้ทุกวันกูสุกตายแน่ๆ"

    กลับไปด้านแรก         หญิงสาวคนเดิม เดินตามทางมาเรื่อยๆ สายตาจับจ้องอยู่กับนกพันธุ์ประหลาดที่สีสันงดงาม   ตลาดนัด sunday  ไม่ค่อยแตกต่างไปจากสวนสัตว์ขนาดจิ๋วเท่าไหร่นัก

    ในด้านอีกด้าน       ชายหนุ่มคนเดิม เดินเล่นอยู่กับน้องหมาในกรงอย่างไม่เกรงใจสายตาเจ้าของร้าน และดูเหมือนเจ้าของร้าน จะไม่สนใจเขาเช่นกัน  จนเขารู้สึกตัวอีกที ก็มีสิ่งๆหนึ่งมาชนเขาอย่างจัง  "โอ๊ย"

    ด้านแรกอีกครั้ง       "เอ่อ ขอโทษคะ  ......อ้าว"

     

    "คุณชอบเดินที่นี่เหรอ"

    "ป่าว"

    "อ้าว แล้วมาทำอะไร    หรือว่านานๆทีจะมาซื้อของถูก"

    " ไม่ๆ  พอดีร้านของเพื่อนมันอยู่ที่นี่" หญิงสาวพยักหน้า

    "มาช่วยเพื่อนขายของ  ขายอะไรหนะ?"

    "หนังสือ ทั้งใหม่ทั้งเก่า   บ้านมันเป็นนักอ่านหนังสือ วันๆก็นั่งอ่านเข้าไป มีหนังสือเก่าๆเก็บมาตั้งแต่สมัยทวด หนังสือพิมพ์โบราณหนะ ขายได้ตั้งเกือบพันเชียวนะคุณ"

    "คุณนี่คงเป็นพวกที่จนๆ แต่เก่งรอบด้านใช่มะ"       ชายหนุ่มสายหัว

    " ไม่หรอก ไม่เก่ง "

    "แต่เราว่าดินเก่งนะ  ดูสิเรียนก็ดี"

    "โอ๊ยเธอ ถ้าเราเก่งจริงอะนะ ป่านนี้เราทำงานในบริษัทดีๆ มีรถซักคันเหมือนเธอไง แล้วก็ซื้อบ้านใหม่ให้แม่กับพี่อยู่ตั้งนานแล้ว"  หญิงสาวมองหน้าเขา แล้วขมวดคิ้ว

    "แปลกนะ  แทนที่จะภูมิใจในตัวเอง"

    "ก็ไม่เห็นจะน่าภูมิใจหนิ"

    "น่าภูมิใจออก เอาเกรดดีๆมาให้พ่อกับแม่ชื่นใจ  เมฆก็อยากทำอย่างนั้นบ้าง แต่มันก็ไม่ไหวอะ   คงจะขยันไม่พอ"

    "ฮะๆๆ  เธอไม่ต้องไปยึดติดอะไรกับมันหรอก  ได้เกรดเท่าไหร่หละเนี่ย"

    "เทอมที่แล้วก็ 3.5"  หล่อนทำหน้าผิดหวัง พลางพูดเบาๆว่า "แย่จัง"

    "โอ๊ย เนี่ยหละดีแล้ว เราเรียนเพื่อนหาความรู้นะ  เรียนเพื่อมีรู้แนวทางการดำรงชีวิต  อย่าให้ตัวเลขแค่นั้นมาคุมชีวิตเรา"

    " แหมพูดดี ทีตัวเองหละ"    เขาเงียบไปซักพัก

    " ก็ใช่...... แล้วตอนนี้เราก็รู้แล้วไง ว่าที่เคยทำมา มันสูญเปล่า"    หญิงสาวมองหน้าเขาอีกครั้ง  เด็กประมาณ 5-6 ขวบวิ่งมาข้างเขาทั้งสอง "ดอกไม้มั้ยครับพี่ ดอกละยี่สิบ" ดินส่ายหัว

    "งั้นพี่เอาสองดอก"  เมฆควักธนบัตราสีเขียวที่มีเลข 20 ปรากฎอยู่ยื่นให้เขา  ดินมองตาม จนสุดคอแล้วหันหัวกลับมาที่เดิมอีกครั้ง พลางทำท่าเหมือนต้องการพูดอะไรบางอย่าง จนเด็กคนนั้นเดินออกไป

    "บ้าเหรอ เด็กพวกนี้ได้เงินไปก็ต้องเอาไปให้พวกที่จับเค้ามาอยู่ดีนะแหละ"

    "ก็.........ถ้าเค้าไม่มีเงินให้ เค้าก็ต้องถูกตบตีถูกทำร้าย    นีหน่า"

    " มันก็จริงหรอกแต่ว่า   ช่างเหอะ"    ไอดินหยุดพูดแล้วก็ยิ้มให้กับสิ่งแวดล้อมรอบๆตัว    มันเป็นช่วงบ่างแก่ๆที่ดูวุ่นวายน่าดูผู้คนเดินขวักไขว่ พร้อมกับข้าวของที่ซื้อมา และ นำมาขาย  เป็นความวุ่นวายที่สงบๆ อยู่ลึกๆ

    "ทำงานเป็นไงบ้าง"  เมฆฝนเปิดปากพูดขึ้น ทำลายความเงียบสงัดรอบๆตัวทั้งสอง

    "ก็ดี  พ่อคุณใจดีนะ พี่คุณก็ด้วย"  เมฆฝนทำตาโต

    " เอ้อ เมฆด้วย ใจดีที่สุดเลย"   หล่อนหัวเราะให้เขาเบาๆ แล้วส่ายหัว

    "ไม่ใช่ ไม่ได้ให้ชมฉัน แค่แปลกใจว่าทำไมชมครอบครัวฉันจัง"

    "ก็ คงเพราะผมไม่มีพ่อ กับพี่ชายมั้ง เลยรู้สึกดี"

    "โอ๊ย   ตายหละ จะเย็นแล้ว ฉันรีบกลับก่อนนะเดี๋ยวแม่เป็นห่วง"

    "อื้มผมก็เหมือนกัน   แล้วเจอกันนะ"     เมฆฝนขับรถกลับบ้าน เธอรู้สึกดีที่ได้มีบทสนทนากับไอดินซักบทสองบท  เธอขับรถไปคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเรื่อยๆ  ผลการเรียน มันเข้ามามีบทบาทสำคัญกับมนุษย์ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ?  แล้วทำไมละ? ใช่เพราะพวกเขาต้องการ ให้สิ่งพวกนั้น แปลงค่าเป็นเงินเดือนสูงๆหลังจาจบมาใช่มั้ย?  แล้วทำไมจึงอยากได้เงินเยอะๆหละ?   จะได้มีความสุขเหรอ?     แล้วคนจนๆที่ยังยิ้มอยู่หละหมายความว่าไง   เขาไม่ได้มีความสุขหรอกเหรอ     กับการที่เศรษฐี นักธุรกิจใหญ่ฆ่าตัวตาย หรือเครียดจัดหละ  นั่นคือความสุขเหรอ? 

    "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด"

     

                                                    หญิงสาวร่างเล็กเริ่มรู้สึกตัว  เปลือกตาบางๆค่อยๆเปิดขึ้นเผยให้เห็นแววตาเป็นประกาย  ผู้คนรอบข้างต่างหันเหความสนใจทั้งหมดมาที่เธอ แม้กระทั่งนกกระจอกสองตัวที่อยู่นอกหน้าต่าง  ทำไมนะ มันถึงเป็นได้แค่นก "กระจอก"    ชีวิตมันมีอิสระกว่าคนเราตั้งเยอะ แต่ทำไมเราถึงหาว่ามันกระจอกหละ?

    "ไงลูก   ยังเจ็บตรงไหนรึปล่าว" หญิงสาววัยห้าสิบโผเข้ากอดลูกสาว   เมฆฝนยังงงกับเหตุการณ์อยู่

    "จำอะไรได้รึปล่าวลูก    ไหนดูซิ"    เมฆฝนยิ้มเจื่อนๆ

    "เกิดอะไรขึ้นเหรอแม่"  

    เมฆหลับไปสามสัปดาห์เต็มๆ เนื่องจากรถเสียหลักพลิกคว่ำน่าแปลกที่เธอรอดมาได้  หล่อนเริ่มคิดตั้งตัวเป็นปรปักษ์กับโรงพยาบาล   ไอ้การที่เธอสลบสไล ไปทั้งสามสัปดาห์ก็ดีอย่าง ทำให้หล่อนไม่ต้องพบพาบกับความน่าเบื่อหน่ายของการนอนเฉยๆบนเตียงทั้งวัน   กระดูกกระเดี้ยวที่หมดพลังงานก็ไม่สามารถพาไปไหนตามใจนึกได้ แล้วจะยังสายน้ำเกลือบ้าๆนี่อีกช่างเกะกะซะเต็มประดา อยากจะถอดทิ้งให้รู้แล้วรู้รอด  เมฆฝนเอื้อมมือไปค้นกองของขวัญที่บรรดาญาติสนิทมิตรสหายให้มา แล้วก็เจอเอาหนังสือเล่มนึง หน้าปกดึงดูดใจเธอทีเดียวหละ   ว่าแล้วก็บรรจงเปิดเข้าสู่หน้าแรกของหนักสือ ตรงขอบด้านขวาล่าง  มีตัวหนังสือขนาดกลางเขียนไว้ว่า "หายเร็วๆนะ  ไอดิน"    หล่อนหยุดคิดอะไรซักอย่างแล้วปิดหนังสือ วางไว้ข้างๆ ธอหาของที่มีชื่อว่า "เฮา"    ใช้เวลาไม่นานนักก็พบ  เป็นสิ่งเดิมที่เฮาให้ ตุ๊กตาหมี จริงๆเธอเห็นตุ๊กตาตัวนี้ตั้งนานแล้ว แต่ไม่ได้สนใจ จนเธอเห็นชื่อเขียนไว้ที่เท้าของมัน  เธอลืมซะนสิทเลย ว่าสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของเฮาคือน้องหมีเท็ดดี้   เธอวางเจ้าเท็ดดี้ตัวใหญ่ไว้ที่เดิมแล้วกลับมาให้ความสนใจกับหนังสืออีกครั้ง    มันคงเป็นทางสุดท้ายที่ทำให้เธอง่ายเซ็ง

    "เบื่อ     หนังสือน่าเบื่อ สำหรับคนขี้เบื่อ"  หล่อนยิ้มเล็กๆก่อนลงมืออ่านบทแรก  เมฆฝนจมดิ่งสู่โลกอีกโลกหนึ่งอย่างรวดเร็ว  มันเป็นมนต์วิเศษณ์ ของหนังสือทุกเล่ม ที่ลากคนอ่านเข้าไปอยู่ในโลกอีกโลกหนึ่ง  ตัวหนังสือสีดำบนหน้ากระดาษสีขาว ที่เรียงร้อยยาวเหยียดเป็นร้อยเป็นพัน เมื่อผ่านสายตา และซึมซาบเข้าสู่สมองของคนอ่านรวดเร็ว  ก็ดูราวกับว่า ตัวหนังสือพวกนั้นมีชีวิตขึ้นมาทันตา

    "ว่าไงเรา" เมฆฝนหันหน้าไปตามที่มาของเสีย

    "โอ๊ย คิดถึงพี่จัง"

    " เฮอะหมั่นใส้   อ่านอะไรอยู่หละ" 

    "เนี่ย"  เมฆฝนชี้มาที่ตัวหนังสือสีเทา บนหน้าปกที่มีพื้นหลังเป็นสีสันหลากหลาย

    "ซื้อมาตอนไหน"

    "พี่นี่ซื่อบื้อแฮะ คนไม่สบายอยู่เดินออกจากห้องยังไม่อยากเลย เสือกถามว่าซื้อตอนไหน       ดินเค้าให้เรามา"

    "เอ้อ ก็ถามไปงั้นแหละ"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×