ตอนที่ 9 : 9 : หมาสื่อรัก
จงอินละมือข้างนึงออกจากพวงมาลัยมาแตะมุมปากตัวเองเบาๆ พร้อมกับซูดปากอย่างรู้สึกแสบ ริมฝีปากหนาบวมเจ่อขึ้นมากกว่าปกติ มันอาจจะดูเหมือนเขาเพิ่งผ่านการจูบกับใครสักคนมาอย่างดูดดื่ม หากไม่ติดรอยช้ำแดงๆตรงมุมปาก
เขาชักจะเชื่อแล้วว่า เขานี่มันรนหาที่ตายจริงๆ
“สำออย” คยองซูที่นั่งเล่นกับเจ้าปลาทูอยู่เบาะข้างคนขับ หันมาดูเขาเมื่อจงอินทำหน้าจะร้องไห้
“เรียนหมอก็ตายเป็นนะคุณ”
“ฉันยังไม่เคยเห็นคนตายเพราะถูกต่อย”
“มือหนักขนาดนี้ ผมอาจเป็นมนุษย์คนแรกก็ได้”
“ถ้าอยากตายก็บอกดีๆ”
“...ตัวก็แค่นี้” จงอินบ่นอุบอิบ แต่ดันโชคร้ายที่คนนั่งข้างๆหูดีกว่า
“ปากหายเจ็บแล้วหรอ” ทันทีที่ได้ฟังคำขู่ของคนตัวเล็ก จงอินก็รีบยกมือขึ้นมาปิดปาดตัวเองทันที
“มือคุณนี่ก็จะไวไปไหนครับ” ถึงแม้เขาจะรู้ว่ายังไงคยองซูคงไม่กล้าต่อยปากเขาในขณะที่เขากำลังขับรถอยู่แน่ แต่เขาก็ไม่ไว้ใจหมัดเด็กถาปัตย์อยู่ดี ความโหดร้ายของความก้อนน่ากลัวเสมอ
“ก็ดูพูด มันน่าต่อยปากมั้ย” เมื่อคยองซูพูดเสียงดังขึ้น เจ้าปลาทูก็ส่งเสียงเห่าตาม
จงอินมองแล้วก็ขำ นี่มันคยองน้อยชัดๆ!
“ผมพูดผิดตรงไหน” ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาเริ่มรู้สึกว่าการได้กวนประสาทอีกคนให้คนตัวเล็กโมโหช่างน่าเอ็นดูขนาดนี้
“คุณนักศึกษาแพทย์!!”
“ครับๆ ใจเย็นๆนะครับคุณเด็กถาปัตย์”
“ฉันชักเริ่มเกลียดนายแล้วนะ”
จงอินไม่ตอบ เขาหัวเราะเบาๆกับความน่าเอ็นดูของก้อนสองก้อนข้างๆเขา
จงอินจอดรถและจัดการอุ้มเจ้าปลาทูเอาไว้เมื่อถึงช็อปสัตว์เลี้ยง คยองซูเดินตามเขาเข้ามาอย่างเงียบๆ เขาเองก็หันกลับไปมองคนตัวเล็กเป็นพักแต่ก็โดนสายตาโหดๆส่งกลับมา จงอินเดาเอาไว้คยองซูอาจจะกำลังโกรธที่เขาแกล้งเขาเอาไว้
“คุณครับ” จงอินหยุดเดินหันกลับมามองคนตัวเล็ก
“อะไร”
“โกรธผมอยู่หรอ”
“เปล่า” คยองซูตอบเสียงนิ่ง ภายในใจอยากจะเถียงออกไปว่าทำไมเขาถึงต้องโกรธเรื่องไร้สาระพรรณ์นั้นด้วย นึกแล้วก็อยากจะอายโรว์
“คุณนิ่ง”
“ฉันรำคาญ”
“โกรธก็บอกนะครับ ผมจะง้อ” จงอินตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม
“เก็บเอาไว้เถอะครับ ปากน่ะ ก่อนจะได้แตกอีกข้าง” พอพูดจบจงอินก็รู้สึกเสียวปากแว๊บๆขึ้นมาเฉยๆ คล้ายๆว่าเหตุการณ์เดจาวูอาจเกิดขึ้นแน่ๆหากเขายังไม่หยุดกวนประสาทอีกคน
ลู่หานทิ้งตัวลงบนม้านั่งอย่างหมดแรง หลังจบเคสผ่าตัดไปก็ทำเอาเขาแทบล้มทั้งยืนจนตั้งพาร่างตัวเองหนีมาที่สวนหย่อมของโรงพยาบาล ช่วงหลังมานี้เขาไม่ได้มีเวลาว่างได้ออกไปไหนมากนัก วันๆก็อยู่แต่ในโรงพยาบาลและห้องฉุกเฉิน มีเดินออกไปกินข้าวนอกโรงบาลบ้างเวลาหรือในวันที่ในโรงบาลคนเยอะๆ ส่วนเซฮุนก็ไม่ได้ติดต่อเขามาเช่นกัน เดาเอาว่าเซฮุนอาจจะโกรธที่เขาหายไปนานๆแบบนี้ก็ได้
“อยู่นี่เอง” ลู่หานสะดุ้งตัวเองเสียงคุ้นหูดังขึ้น
“เซฮุน..” เขาแอบใจหายเบาๆเมื่อครู่เขายังนึกถงอีกคนอยู่เลยแท้ๆ แต่ตอนกลับมาอยู่ตรงหน้าเขานี่มัน...
“ตามหาตั้งนาน” เซฮุนเดินมานั่งลงข้างๆเขา
“มาทำไม”
“ผมต้องถามพี่ดิ หายไปเลย จะหนีผมหรอ”
“หะ? หนีอะไรกัน”
“อย่ามาตีหน้าซื่อหน่อยเลย ผมกำลังโกรธพี่อยู่ โทรหาไม่เคยติดเลยเนี่ย” เซฮุนพูดด้วยน้ำเสียงที่แอบน้อยใจอยู่ไม่น้อย ลู่หานหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงก็พบว่ามันดับไปตั้งแต่วันไหนก็ไม่รู้
“แบตหมด”
“แหงสิ! ทำงานไม่ได้ดูอะไรเลย”
“ขอโทษ” คำพูดสั้นๆที่ออกมาจากลู่หานทำเอาเซฮุนที่กำลังน้อยใจกลับต้องใจอ่อนยวบทันทีที่ได้ยิน
“เหนื่อยมั้ย” เซฮุนยกมือขึ้นลูบแก้มอีกคนเบาๆ “ตาโบ๋เลยอ่ะ ได้นอนบ้างป่ะเนี่ย”
“หึ” คนตัวเล็กส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเอนหลังทิ้งตัวกับพนักพิง ปล่อยให้อีกคนลูบแก้มเขาเล่นไปอย่างนั้น
“วันนี้กลับหอมั้ยครับ” เซฮุนพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง ลู่หานที่ได้ยินคำพูดสุภาพบวกกับน้ำเสียงอ่อนโยนของอีกฝ่ายก็หูแดงขึ้นมาซะเฉยๆ
“กลับครับ วันนี้ไม่มีเวรแล้ว”
“นอนหอผมมั้ย” ปกติแล้วลู่หานกับเซฮุนมักไปมาหากันบ่อยๆ จึงเป็นความเคยชินที่ทั้งสองฝ่ายจะได้นอนค้างที่ห้องอีกคน
“งั้นนวดให้ด้วยนะ”
“อาบน้ำให้ด้วยมั้ย”
“ทะลึ่ง” ไม่พูดเปล่า มือสวยยกมือขึ้นเขกหัวอีกคนอย่างหมั่นไส้
“ฮ่ะๆๆๆ มาๆนอนพักก่อนครับ” เซฮุนยกมือขึ้นประคองหัวอีกคนให้เอนมาซบลงบนไหล่กว้างของตัวเองเบาๆ
“ปลุกด้วยนะ” เสียงหวานเอ่ยเบาๆก่อนจะค่อยๆหลับไปในที่สุด
จงอินขนของออกจากรถหลังจากพากันซื้อของให้เจ้าปลาทูกันเสร็จแล้ว คยองซูก็ใจดีช่วยถือถุงอาหารสุนัขขึ้นห้องไปให้ ส่วนเขาน่ะหรอ... ก็ที่เหลือทั้งหมดนั่นแหละ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดอะไร เพราะคุ้มกับการที่เขาได้กวนประสาทอีกคนเล่นๆพร้อมๆไปกับการหยอดนิดหยอดน้อย
ทันทีที่จงอินวางของชิ้นสุดท้ายลงใน ก็รีบทิ้งตัวนั่งลงเบาะนั่งพื้นในห้องคนตัวเล็กทันที เพียงไม่นานแก้วน้ำเย็นๆก็ถูกยื่นมาตรงหน้าจากมือป้อม จงอินมองอย่างงงๆก่อนจะรับมันมาดื่มพร้อมกับรอยยิ้มที่ถูกจุดขึ้นในใจ
“ให้กินกันตาย” คยองซูพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินไปจัดของที่ซื้อกันมา
“ขอบคุณครับ ชื่นใจจัง”
“อือ”
“น้ำห้องคุณอร่อยจัง ไม่เห็นอร่อยเหมือนห้องผมเลย”
“สนใจลองกินน้ำในห้องน้ำดูบ้างมั้ยล่ะ” จงอินหัวเราะเบาๆกับคำพูดสุดประชดของอีกฝ่าย
มันก็น่าแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่เขารู้สึกมีความสุขเมื่อได้กวนประสาทอีกคน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะได้เห็นคิ้วแท่งหนาๆขมวดหากันจนน่าดีด หูเล็กขึ้นสีแดงจัดยามโกรธ ริมฝีปากอิ่มยามเบะคว่ำลง เสียงหวานที่ฟังดูห้วนๆ หรือเป็นเพราะท่าทางน่าแกล้งของอีกฝ่ายกันแน่ แต่ก็น่าสงสัยอยู่อย่างนึง เขารู้สึกว่าคยองซูเป็นผู้ชายที่น่าแกล้ง และก็ยังน่ารักมากๆ(หากมองดีๆ) แต่กลับไม่มีใครเข้ามายุ่งด้วย หรือมาตามตื้อแบบเขา
หรือมีแต่เขาไม่รู้วะ...
“คุณครับ” จงอินวางแก้วน้ำลงก่อนจะลุกไปนั่งยองๆข้างๆอีกคน
“อือ” คยองซูยังคงตั้งใจกับการประกอบบ้านหมาอันใหม่ที่เพิ่งซื้อมาโดยมีเจ้าปลาทูนั่งให้กำลังใจอยู่ข้างๆ
“ผมถามอะไรคุณอย่างนึงได้มั้ยครับ”
“ถ้ากวนตีนก็อย่าถามครับ ไปนั่งไกลๆให้ไวเลย”
“ไม่ได้จะกวนนะครับ แต่ถ้าผมถามออกไปคุณอย่าตีผมนะ” จงอินพูดจบคยองซูก็หยุดมือและหันมามองหน้าจงอินตรงๆ
“ทำไม จะถามอะไร”
“ผมจริงจังนะครับ อยากรู้จริงๆ เพราะฉะนั้นกรุณาตอบผมอย่างตรงๆนะครับ” ยิ่งฟังคยองซูก็ยิ่งขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“อะไร”
“คุณมีคนมาจีบบ้างมั้ยครับ”
“....” คยองซูเงียบไป เขากำลังเดาคำถามอยู่ว่าที่จงอินกำลังถามเขามานั้นจัดอยู่ในคำถามกวนประสาทหรือเปล่า เขาควรตอบไปดีมั้ยหรือควรจะด่าออกไปดี... “นายจะจีบฉันจริงดิ?”
“.....” กลับกลายเป็นจงอินที่เป็นฝ่ายสตั๊นเสียเอง คำถามที่ถูกถามอย่างให้ตั้งตัวทำเอาจงอินไปไม่เป็น
“ถ้าไม่ ก็อย่ามากวนประสาท” คยองซูหันกลับไปก้มหน้าก้มตาต่อบ้านหมาต่อ
“แล้วถ้าผมบอกว่าจะจีบคุณจริงๆ คุณจะให้ผมจีบคุณหรอ”
คยองซูเงียบไปสักพัก จนจงอินเริ่มรู้สึกใจหาย “ถ้าฉันห้าม นายจะเลิกยุ่งกับฉันให้มั้ยล่ะ”
เมื่อฟังคำตอบ จงอินก็ยิ้มออกมาอย่างง่ายดาย ถ้าอย่างนั้นแล้วเขาก็จะโมเมเอาว่าอีกฝ่ายอนุญาตให้เขาจีบได้แล้วนะ
“แล้วตกลงมีคนมาจีบคุณบ้างมั้ยครับ” จงอินขยับตัวเข้าไปใกล้ๆเพื่อช่วยอีกคนประกอบบ้าน
“ไม่มี”
“แน่ใจหรอครับ ไม่ใช่ว่าเขามาชอบคุณแต่คุณไม่สนใจเขาหรอกหรอครับ”
“ไม่รู้”
“คุณมีคนในสเป็ครึเปล่าครับ”
“ไม่มี”
“อย่างผมพอเข้าข่ายบ้างมั้ยครับ?”
“ไม่”
“แต่ผมน่ารักนะ”
“นี่”
“ครับ?”
“ฉันไม่ได้ห้ามให้นายจีบ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้นายมาจีบ แล้วอีกอย่างฉันไม่ใช่เกย์ ไม่ได้ชอบผู้ชาย”
จงอินนั่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา
“บางเรื่องมันก็น่าตลกแปลกๆนะครับ”
“....”
“ผมเองก็ไม่ได้ชอบผู้ชาย ไม่ใช่เกย์”
“....”
“แต่ผมกลับชอบคุณ”
“นายน่าจะไปคบกับผู้หญิง”
“ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะครับ” จงอินละจากอุปกรณ์บ้านเมื่อเจ้าปลาทูวิ่งขึ้นมาบนตักเขา
“นายเหมาะกับผู้หญิงมากกว่า”
“ไม่ลองคิดเล่นๆดูบ้างล่ะครับ ว่าบางทีผมกับคุณก็เหมาะกันดี”
“มโน” พอฟังคำพูดคำจาของคนตัวเล็กจงอินก็ถึงกับหัวเราะเอิ๊กเอ๊ากออกมาดังลั่น และสุดท้ายเขาก็โดนฝ่ามือเล็กฟาดเข้าให้ที่กลางหลัง เขาถึงได้หยุดหัวเราะสักที ไม่แน่ใจว่าที่จงอินหยุดหัวเราะได้เป็นเพราะกลัวอีกคนจะโกรธไปมากกว่านี้หรือเป็นเพราะจุกจนพูดไม่ออกกันแน่
“อันนี้ทำยังไง” คยองซูหยิบถุงใบโตที่ใส่ถาดห้องน้ำหมาขึ้นมา
“ยังงี้ครับ” จงอินจัดการแกะมันออกจากถุงและเอาออกมาวางไว้ตรงหน้า “อันนี้คือห้องน้ำสุนัขครับ วิธีใช้เราก็เปิดข้างล่างตรงนี้ครับ ยกถาดขึ้น แล้วเราก็เอาแผ่นรองฉี่ใส่ลงไป แล้วปิด” จงอินอธิบายพร้อมทำท่าประกอบไปด้วย คยองซูเองก็ตั้งใจฟังแล้วพงกหัวตามไปมาอย่างเข้าใจ
“ส่วนอันนี้เป็นเสาสำหรับเจ้าปลาทูครับ หมาตัวผู้จะชอบฉี่รดเสา เราก็ติดเสาเอาไว้ในนี้ครับ”
“แล้วถ้ามันไม่ฉี่ในนี้ล่ะ” คยองซูถามขึ้น
“ปกติของหมาแหละครับ ที่มันจะแปลกที่หน่อย ช่วงแรกๆมันอาจจะยังไม่คุ้น เราต้องค่อยๆหัดมันครับ”
“จะหัดได้เหรอ...”
“คุณมีผมอยู่ทั้งคน” จงอินหันหน้าไปยักคิ้วเล่ตาใส่อีกคน จนคยองซูถึงกับเบ้หน้าเบ้ปากทันที
“เบื่อคนขี้โม้” คยองซูจัดการเก็บของเข้าที่ให้เรียบร้อย โดยมีจงอินนั่งมองเขาอยู่เงียบๆ
“คุณหิวมั้ย” จงอินพูดขึ้นในขณะที่เล่นกับเจ้าปลาทูไปด้วย
“ถามฉันหรือถามหมา” คำถามของคยองซูทำเอาจงอินถึงกับหัวเราะออกมา แต่อีกฝ่ายกลับตีหน้าบึ้งพร้อมเอาปืนมายิงคนตัวสูงได้ทุกเมื่อ
“ถามคุณนั่นแหละครับ หิวรึยัง”
“ก็หิว ทำไม หิวล่ะสิ”
“ครับ ออกไปหาอะไรกินกัน”
“ไม่”
“แต่ว่า..”
“ไม่ต้อง กินกันที่ห้องนี่แหละ เดี๋ยวฉันทำให้”
จงอินยังคงมองหน้าคยองซูอย่างงงๆ เมื่อประติดประต่อได้ว่าคยองซูจะทำกับข้าวให้เขากินเอง เขาก็ต้องยิ้มออกมาอย่างมีความสุขที่สุดในรอบวัน
คยองซูเดินหายเข้าไปในครัว ทิ้งจงอินนั่งเล่นกับเจ้าปลาทูไปอย่างเงียบ ไม่นานนักก็มีเสียงเครื่องครัวตามมา เขาเดาเอาว่าคยองซูอาจจะกำลังสับหมูหรือหั่นผักอยู่สักอย่าง ในใจนึกอยากจะตามเข้าไปดูด้วยหากไม่ติดว่าถูกคนตัวเล็กห้ามเอาไว้ แถมยังบอกด้วยน้ำเสียงกวนๆอีกว่า
‘เดี๋ยวนายเห็นว่าฉันเอาเนื้อมนุษย์ใส่ลงไป’
จงอินได้กลิ่นหอมมาจากในครัวแล้วก็ต้องยกมือลูบหน้าท้องตัวเองเบาๆ เมื่อมันส่งเสียงร้องออกมา เขานึกขำในใจเบาๆ หากคยองซูจะเอาเนื้อคนให้เขากินจริงๆ เขาคงไม่รอดมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้แน่ แถมคนตัวเล็กก็ดุน่ารักเกินไปที่จะทำแบบนั้นด้วย ถึงแม้จะค่อนข้างโหดๆหน่อยก็เถอะ...
“คุณครับ เสร็จรึยัง” จงอินถามขึ้น
โฮ่งๆ!
เจ้าปลาทูเองก็เห่าเรียกเจ้าของตามเขาด้วยเช่นกัน
“เสร็จแล้ว” คยองซูยกถ้วยกับข้าวออกมาวางไว้บนโต๊ะตั้งตัวเล็กขนาดพอๆกับโต๊ะญี่ปุ่น
“ว้าว พกกึมบับ” จงอินตาเป็นประกายทันทีเมื่อเห็นว่าอาหารมื้อนี้มันดูน่ากินมากๆ ยิ่งเป็นฝีมือคนตัวเล็กแล้วก็ยิ่งดูน่ากินมากขึ้นไปอีก
“อร่อยแน่ รับประกัน นั่งสิ” พูดจบคนตัวเล็กก็หันตัวเดินกลับไปเข้าไปในครัวอีกครั้ง คราวนี้คยองซูถือจานต๊อกบ๊กกีออกมาด้วย
“พอดีซื้อมาแล้วแช่เย็นเอาไว้น่ะ ฉันเลยเวฟเอา นายกินได้ใช่มั้ย”
“กินได้ครับ” จงอินยิ้ม
“กินไม่ได้จะจับกรอกปากให้หมด”
“ฮ่ะๆ ตอนนี้หิวจนจะกินเจ้าปลาทูได้แล้วครับ”
“กินสิ จะเอากิมจิเพิ่มมั้ยล่ะ?”
“ไม่เป็นไรครับ แค่นี้ก็ได้”
แล้วมื้อเย็นของจงอินในวันนี้ก็กลายเป็นมื้ออาหารสุดพิเศษ เพราะนอกจากจะได้กินข้าวร่วมโต๊ะกับคยองซูแล้ว ยังได้กินอาหารฝีมือคนตัวเล็กขาโหดอีกด้วย ที่พิเศษมากๆก็คงเป็นการได้กินข้าวในห้องคนตัวเล็กนี่แหละ ไปๆมาๆเขาก็ชักจะชอบกลิ่นห้องของอีกคนขึ้นมาซะเฉยๆ ห้องที่เต็มไปด้วยกลิ่นสีและกลิ่นกระดาษ มันไม่ได้ฉุนอะไรมาก เพียงแต่เป็นกลิ่นสีอ่อนๆ และกลิ่นกระดาษแบบคลีนๆหน่อย เป็นกลิ่นที่ทำให้รู้สึกถึงได้ความชอบศิลปะของคนตัวเล็กอย่างแท้จริง และเขาก็คิดว่าสิ่งที่พิเศษที่สุดในวันนี้ ก็คือการได้ขยับเข้าไปใกล้เด็กสถาปัตย์โลกส่วนตัวสูงอีกก้าวนึง บอกแล้วว่าㅡ
คิมจงอินน่ะ born to be Do Kyungsoo’s Special
100%
------------------------------------------------------------------------
ควรเปลี่ยนชื่อเรื่องจากนักศึกษาแพทย์จงอิน
เป็น how to be Do Kyungsoo's special by นักศึกษาแพทย์จงอิน มากกว่า
55555555555555
นศพ.เขารุกหนักมากค่ะ
รุกกันให้เขินตายกันไปข้าง
อย่าว่าแต่รีดเลย ไรท์เองก็ชักจะอยากได้นศพ.จงอินมาเล่นบ้านแล้วอ่ะ
ฮื่อออออ
เขาน่ารักจังค่ะ แม่ขา
กี๊ดดด
-----------------------------------------------------------------------
กลับมาแล้วตามสัญญา อี้ อี้
อย่าลืม
คอมเม้นข้างล่างฟิค
หรือ
ร่วมสกรีมฟิคในแท็กทวิตเตอร์
#นักศึกษาแพทย์จงอิน
#นศพจงอิน
รักมากๆค่ะ
ร่วมกันคอมเม้น และ สกรีมแท็กฟิคกันเยอะๆนะครับ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คุณโอเขาก็เจ๋งนะคะ หยอดตลอด
น่าาาาร้าาาากชอบบอ่ะู