ตอนที่ 8 : 8 : หมางี่เง่า
บ๊อกๆ!
“.....”
บ๊อกๆๆ!!
“อือ...รู้แล้วๆ” คยองซูยันตัวเองลุกขึ้นจากเตียง เขาหันมองนาฬิกาบนหัวเตียงแล้วก็นึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที
หมางี่เง่าจะมาเห่าอะไรตอนตีสอง
บ๊อกๆ!
“อะไร จะเอาอะไร”
หงิ๋งๆ
ลูกหมาตัวน้อยกระโดนขึ้นมาบนเตียงแล้วมุดเข้าตักเขาทันที
“หิวรึไง” พอพูดปุ๊ปเจ้าหมาก็มองหน้าเขาลิ้นห้อยทันทีเหมือนรู้งาน “งั้นเดี๋ยวออกไปซื้อให้ โอเคมั้ย”
คยองซูลุกไปคว้าเสื้อกันหนาวมาใส่พร้อมกับยัดเจ้าลูกหมาเข้าไปในใส่ด้วย เขาอุ้มมันไว้เป็นลูกในท้อง(?)ปล่อยให้มันโผล่หัวออกมาเหนือซิปที่เขารูดขึ้นมาเพียงนิดเดียว คยองซูพาหนึ่งร่างในพุงเดินลงไปที่นิมิมาทร์ใต้หอ โชคดีที่นิมิมาทร์นี้เป็นของหอเขาเอง และเจ้าของก็ไม่ว่าอะไรเรื่องเลี้ยงสัตว์ด้วย เขาจึงสามารถหิ้วเจ้าหมานี่เข้าร้านได้สบายหน่อย
“อ๊ะ หมานี่ คยองซูเลี้ยงหมาหรอ?” พี่แคชเชียร์ทักเขาทันทีที่เดินเข้าร้าน
“อ่า ครับ เก็บมา”
“ต๊าย น่ารักจังเลย พี่ขอเล่นหน่อยได้มั้ย” คยองซูพยักหน้าเป็นการตอบรับก่อนจะอุ้มหมาออกจากเสื้อแล้วจับวางบนแท่นแคชเชียร์
“งั้นเดี๋ยวผมซื้อของแปปนะครับ” คยองซูตบก้นเจ้าหมาเป็นการทิ้งท้ายด้วยความหมั่นเขี้ยวที่มันดี๊ด๊าเกินเหตุทันทีที่เห็นผู้หญิง
คยองซูเดินเลือกหยิบขนมมาสองสามห่อ ตามด้วยนมอีกสองแพ็ค เขาไม่รู้ว่าหมากินอะไรได้บ้าง เห็นอะไรที่เขาอยากกินก็หยิบมามันซะหมด ซื้อไปกินด้วยกันนี่แหละ จะได้ไม่เปลืองตังเขาด้วย คยองซูเดินไปยังโซนอาหารแช่แข็ง แอบคิดในใจว่าหากเขาซื้อต่อของที่เขาอยากกินไปมันคงไม่แฟร์สำหรับเจ้าหมาเท่าไหร่ เขาหยิบปลาทูมาใส่ตระกร้า จำได้ว่าเคยเห็นในรายการทีวีเขาบอกว่าแมวจะชอบกินปลาทู
แมวกับหมามันก็คล้ายๆกัน คงชอบกินเหมือนแหละมั้ง..
“อันนี้ฝากเวฟด้วยครับ” คยองซูหยิบกล่องข้าวแล้วก็แพ็คปลาทูวางลงบนแคชเชียร์
“หิวล่ะซิ” พี่แคชเชียร์เงยหน้าจากหมามามองเขายิ้มๆแล้วเอ่ยแซวก่อนจะหันเอาของไปเวฟให้
“เจ้านี่หิวครับ” คยองซูชี้ไปยังเจ้าหมา เมื่อเจ้าหมาเห็นคยองซูชี้มาที่มัน มันก็กระโดดเหยงๆไล่งับนิ้วคยองซูทันที
“ท่าทางจะหิวจริงแฮะ ฮ่ะๆ เอาอะไรให้มันกินล่ะ”
“ปลาทู”
“หะ?”
“ปลาทูที่เพิ่งเวฟไป”
“เอาจริงดิ?”
“มันไม่กินหรอครับ?”
“มันก็กินนั่นแหละ แต่ปกติปลาจะให้แมวกินมากกว่า”
“แมวกับหมาไม่เหมือนกันหรอครับ”
“ก็ ไม่ค่อยเหมือนหรอก”
“อ่า...”
“พี่เองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก ก็ลองเอาให้มันกินก่อนละกัน ถ้ามันกินก็ค่อยว่ากัน”
“ขอบคุณครับ” ทันทีที่พี่แคชเชียร์คิดเงินเสร็จคยองซูก็หิ้วเจ้าหมาเข้าเอวตัวเองแล้วเดินกลับห้องไป
แบคฮยอนสะดุ้งตื่น เพราะได้ยินเสียงก๊อกแก๊กดังขึ้นในห้อง เขาพยายามหรี่ตามองเงาตะคุ่มๆที่ยืนอยู่ปลายเตียง ในใจพยายามปลอบตัวเองว่าที่เค้าเห็นนั้นไม่ใช่ผีหรืออะไรที่น่ากลัว กลิ่นหอมของดอกไม้ที่ควรจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้นกลับทำให้เขารู้สึกยิ่งกลัว ในหัวเอาแต่นึกถึงพวกหนังผีที่ตัวเองเคยดูมา
“ตื่นแล้วหรอครับ” เสียงทุ้มต่ำคุ้นหูดังขึ้นทำเอาแบคฮยอนโล่งใจขึ้นมาเยอะ
“ชานยอลเองหรอ เรานึกว่าผี”
“ขอโทษที่ทำให้ตื่นนะครับ”หลังจากชานยอลเดินไปเปิดไฟก็เดินเข้ามาหาแบคฮยอนพร้อมแจกันดอกไม้ช่อใหม่
“ชานยอลมาทำอะไร ตอนนี้หมดเวลาเยี่ยมแล้วนะ”
“พอดีผมมาช่วยพี่ดูคนไข้ที่ตึกนี้น่ะครับ เลยแอบขึ้นมาเปลี่ยนดอกไม้ให้ ผมเห็นมันเหี่ยวตั้งแต่บ่ายแล้ว”
“วันนี้ก็มาอยู่ด้วยทั้งวันแล้ว กลางคืนยังจะมาเปลียนดอกไม้ให้อีก ได้นอนบ้างรึยังเนี่ย”
“กะว่าจะขอนอนห้องคนไข้นี่แหละครับ” ชานยอลพูดติดตลก ประโยคของเขาทำเอาแบคฮยอนหลุดขำเอิ๊กอ๊ากออกมา
“นอนโซฟามันปวดหลังนะคุณนักศึกษาแพทย์”
“งั้นคนไข้ก็อนุญาตให้บนเตียงด้วยสิครับ”
“โอโห อันนี้เรียกหยอดนะครับเนี่ย” แบคฮยอนพูดไปก็ขำไป ชานยอลมักหามุขตลกๆหรือคำพูดตลกๆมาทำให้เขาหัวเราะจนลืมไปว่าเขาใส่เฝือกอยู่เสมอ นี่เลยอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาชอบอยู่กับชานยอล
“เรียกว่าจีบก็ได้ครับ” ชานยอลยิ้มจนตาเป็นรูปสระอิ แต่คราวนี้แบคฮยอนกลับหัวเราะไม่ออก แบคฮยอนยิ้มบางๆมองชานยอลยิ้มอยู่อย่างนั้น แต่ข้างในเขากลับเอาแต่ถามว่าที่ชานยอลพูดเมื่อกี้น่ะหมายความว่ายังไง
“ชานยอลตลก กลับไปได้แล้วน่า ดึกมากแล้วนะ มาดูคนไข้ใช่หรอ รีบไปดูคนไข้สิ เดี๋ยวโดนดุนะ” แบคฮยอนยิ้มร่าพยายามส่งชานยอลกลับไปเพื่อที่จะได้ไม่ต้องอยู่ทำให้เขาใจสั่นๆต่อ
“ผมดูคนไข้เสร็จหมดแล้ว แล้วก็กะว่าจะนอนที่นี่ด้วย ยังไงพรุ่งนี้เข้าผมก็เข้าโรงบาลอยู่ดี”
“ไม่เอาสิ ชานยอลดื้อ ถ้าพยาบาลเข้ามาเจอจะโดนดุ”
“ไม่โดนหรอกครับ ผมเคลียได้”
“ชานยอลดื้อ” เมื่อไล่ชานยอลไม่เป็นผลแบคฮยอนก็ยู่ปากอย่างเอาแต่ใจ
“ดื้อมากกว่าที่คุณคิดอีก” ชานยอลเข้ามายีผมแบคฮยอนอย่างเอ็นดู
“ฮื่อ ไม่ต้องเลย จะนอนก็นอนไปเลย” แบคฮยอนล้มตัวลงนอน พลิกตัวตะแคงข้างหันหลังให้ชานยอล
“ฝันดีนะครับ” ชานยอลลูบหัวแบคฮยอนเบาๆก่อนจะหมุนตัวกลับไปนอนที่โซฟา พอได้ยินเสียงปิดเสียงของชานยอลแบคฮยอนก็พลิกตัวหันกลับมามอง
“ไปนอนตรงนั้นทำไมอ่ะ” แบคฮยอนถามขึ้น
“ครับ?”
“ไหนบอกอยากนอนเตียง ถ้าไม่นอนจะไม่เว้นที่ให้แล้วนะ” ไม่ทันที่แบคฮยอนจะกางแขนขาออกให้เต็มเตียง ชานยอลก็สอดตัวเองเข้ามาในผ้าห่มผืนเล็กของคนไข้ทันที
“เตียงเล็กนะครับว่ามั้ย” ถึงแม้แบคฮยอนไม่มีตาหลังแต่แบคฮยอนก็รู้ว่าชานยอลคงกำลังยิ้มอยู่แน่ๆ
“ชานยอลตัวใหญ่เองต่างหาก” แบคฮยอนนอนหลับตาปี๋หันหลังให้คนที่ใส่ชุดกราวน์นอนอยู่ด้านหลังตัวเอง
“ฝันดีนะครับ แบคฮยอน” ชานยอลนอนลูบหัวแบคฮยอนอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งผล็อยหลับกันไปทั้งคู่
ก๊อกๆ!
จงอินเคาะประตูห้องของคยองซูอยู่นาน สักพักประตูห้องก็ถูกเปิดจากเจ้าของห้อง จงอินเห็นสภาพของเจ้าของห้องก็อดยิ้มออกไม่ได้ เขาเองก็เพิ่งเคยเจอคยองซูในโหมดนี้ คนตัวเล็กสภาพเพิ่งตื่น ผมยุ่งๆ หน้าง่วงๆทำให้ดูน่าเอ็นดูไปอีกแบบ
“มาได้ไง” คยองซูเอ่ยถาม
“ผมไม่เห็นคุณโทรมาหาผมเลย ผมเลยมาหาคุณเอง”
“แต่เช้าเนี่ยนะ?” คยองซูหันมองนาฬิกาในห้องแล้วหันกลับมาถามอีกคนอย่างสงสัย
“ครับ พอดีผมว่างๆน่ะ”
“อืม” คยองซูพยักหน้าเบาๆ แต่ยังคงยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน
“เอ่อ ให้ผมเข้าไปได้มั้ยครับ?”
“ห้องรกอ่ะ เข้ามาสิ” คยองซูเบี่ยงตัวหลบให้จงอินเข้ามาในห้องอย่างง่ายๆ
จงอินแอบตกใจเบาๆกับสภาพห้องที่ดูรกมากกว่าเมื่อวาน ซองขนมเกลื่อนห้อง แถมพวกเศษขนมก็กระจัดกระจายไปทั่ว ไม่บอกก็พอรู้ว่าเป็นฝีมือใคร ทันทีที่นึกคาดโทษเจ้าลูกหมา เจ้าตัวแสบก็วิ่งเข้ามาคลอเคลียขาเขาทันที
“ซนชิบหายเลย” คยองซูบ่นไปแล้วก็เดินเก็บของในห้องไปด้วย
“คุณได้นอนรึเปล่า” จงอินเอ่ยถามในขณะที่ช่วยอีกคนไปด้วย
“อืม”
จงอินเหลือบไปเห็นหมอนใบหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะเขียนงานของอีกคน เมื่อมองกลับไปบนเตียงก็ไร้หมอนอยู่ เขาเดาเอาว่าเมื่อคืนคยองซูอาจไม่ได้นอนบนเตียง
“เมื่อคืนคุณนอนตรงนี้หรอ” จงอินชี้มาทางโต๊ะเขียนงานของอีกคน
“อืม” คยองซูตอบสั้นๆก่อนจะหันไปเขี่ยเจ้าลูกหมาออกเพื่อที่ตัวเองจะกวาดห้องได้สะดวก
“ปวดคอแย่เลยสิครับ”
“นิดหน่อย”
จงอินยืนมองคยองซูกวาดห้องเงียบๆสักพักก่อนจะเรียกเจ้าลูกหมาให้มาหาเขา จงอินอุ้มมันขึ้นมาไว้กับอกเพื่อที่มันจะได้ไม่ต้องไปคอยกวนคนตัวเล็กทำความสะอาดห้อง
“คุณตั้งชื่อให้มันรึยัง?” จงอินเอ่ยถาม
“ฉันตั้งชื่อไม่เป็น”
“ก็ลองคิดจากเอกลักษณ์ของมันสิครับ”
คยองซูนิ่งเงียบไปสักพักก็จะพูดออกมาเบาๆ “ปลาทู”
“ครับ?”
“ปลาทู เมื่อคืนมันกินปลาทู”
“หมา?” จงอินเลิกคิ้วสูง แอบงงๆอยู่ว่าที่คนตัวเล็กพูดถึงนั้นหมายถึงหมาจริงๆรึเปล่า
“ใช่ ไอ้เจ้านี่ มันกินปลาทูด้วย ให้มันชื่อปลาทู”
จงอินไม่ได้แย้งอะไรต่อ เขาเห็นตามที่คยองซูเห็นควรหรือจะเรียกว่าตามใจก็ได้ พอเขาเรียกชื่อใหม่ของเจ้าหมานี่ ก็ดูเหมือนว่ามันจะดี๊ด๊ามากกว่าเดิม คำที่คยองซูบ่นว่ามันซนไม่หยุดปาก เขาว่าเขาเองก็ชักจะเริ่มเชื่อแล้วล่ะ
“วันนี้คุณว่างมั้ย” จงอินละมือจากเจ้าปลาทูแล้วหันมาถามคยองซูที่เดินแปรงฟันออกมาจากห้องน้ำ
คยองซูเงียบสักพักก่อนจะพยักหน้าเป็นคำตอบ
“ไปซื้อของใช้ให้เจ้าปลาทูกันมั้ยครับ” คยองซูไม่ได้ตอบคำถามนั้นทันที เขาเดินหายเข้าไปในห้องน้ำสักพักก่อนจะเดินออกมา
“ซื้ออะไร?”
“ก็พวกห้องน้ำหมา ของเล่น ครีมอาบน้ำ ที่นอน”
“ฉันไม่มีเงินมากพอหรอก”
“ผมจ่าย”
“หือ?” คิ้วหนาของคยองซูขมวดเข้าหากัน
“ก็ถือซะว่าผมจ้างคุณเลี้ยงด้วยไงครับ เพราะผมเอามันเข้าหอไม่ได้” คยองซูที่ฟังคำพูดคำจาของจงอินก็เบ้ปากเบาๆ
แล้วถามมาเขาตอนไหนว่าอยากเลี้ยงให้รึเปล่า...
“แล้วไหนค่าจ้าง?”
“เลี้ยงข้าวคุณทุกวันเลยดีมั้ยครับ”
“อันนี้จุดประสงค์อื่นด้วยรึเปล่า” คยองซูตีหน้านิ่ง ใช่ว่าเขาจะไม่รู้จุดประสงค์ของอีกคน ทั้งที่ก่อนหน้านี้จงอินพยายามเข้าหาเขาแทบตาย และเจ้าหมานี้ก็เครื่องมือชนิดหนึ่ง
“ก็มีบ้างครับ” จงอินยิ้มแห้ง
ให้ตายเขาก็ไม่มีทางหนีนักศึกษาแพทย์คนนี้พ้นเลยใช่มั้ย?
“จะทำอะไรก็ทำเหอะ” คยองซูถอนหายใจเบาๆ
“หืม?”
“อยากทำอะไรก็ตามใจนายเลย ต่อให้ฉันปฎิเสธนายก็ไม่ทำตามอยู่ดีไม่ใช่รึไง”
“ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ผมจะตีความเอาว่าตอนนี้คุณตามใจผมนะ”
“เออ อยากคิดอย่างนั้นก็ถามใจเถอะ” คยองซูหันตัวเดินเข้าไปต้มมาม่า โดยมีจงอินกับเจ้าปลาทูเดินตามมาด้วย
“งั้นถ้าผมจีบคุณด้วย คุณก็จะให้ผมจีบใช่มั้ย”
100%
--------------------------------------------------------------------
เจ้าปลาทูมีชื่อเกาหลีด้วยน้า ชื่อ 고등어 (โค-ดือ-งอ) แปลว่าปลาทูค่า
****
เขาจีบกันแล้วค่ะท่าผู้ชม T^T
กี๊ดดดดดดด //โบกธง
ช่วงนี้ทุกคนเงียบเหงา อย่าเพิ่งทิ้งเรานะ แง้
อย่าลืมติดแท็กทวิตเตอร์
#นศพจงอิน หรือ #นักศึกษาแพทย์จงอิน
และร่วมกันคอมเม้นใต้ล่างฟิคนี้กันด้วยนะคะ
คนน่ารักเขาไม่ทิ้งกันนะหรอกนะครับ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

น้องหมาชื่อปลาทู งือออ กินข้าวอิ่มมั้ยลูก คยองให้กินแต่ปลาทูเนี่ย
จัดเลยจงอิน ต้องขอบคุณเจ้าปลาทูด้วย
ชานแบคนี่มาหวานน้ำตาลอ้อยมาก นังแบคเทอ้อยหมดรถแล้วมั้ง 5555555
ชานเเบคก็น่ารักไปอีก