ตอนที่ 7 : 7 : สมาชิกเพิ่ม
ฝนยังตกอยู่...
คยองซูยืนมองเม็ดฝนที่ตกลงมาไม่ยอมหยุดตั้งแต่เช้า เขาถอนหายใจแรงๆให้กับอากาศที่แสนเลวร้ายของวัน เด็กสถาปัตย์อย่างเขาไม่ค่อยชอบหน้าฝนเท่าไหร่... ก็เพราะแบบนี้ล่ะ คยองซูเก็บของใส่กระเป๋าสะพายใบเก่าให้เรียบร้อยหลังจากเก็บโมเดลเอาไว้ในตู้ส่วนตัวอย่างปลอดภัยแล้ว เขาเดินไปหยิบร่มสีดำอันเก่าก่อนจะเดินออกไปที่หน้าตึก
“ผมมารับครับ”
นับเป็นวันที่แย่จริงๆนั่นแหละ
คยองซูกางร่มแล้วเดินเลี่ยงจงอินออกไป จงอินมองเขายิ้มๆแล้วเดินกางร่มตามเขาออกมา
“วันนี้ผมเจอเซฮุนที่โรงบาล”
คยองซูหันมองจงอินทันที จริงๆเขาก็ไม่ได้อยากรู้เรื่องเซฮุนนักหรอกหากว่าตั้งแต่เช้าเขายังคงติดต่อเซฮุนเรื่องรถเขาไม่ได้นี่สิ
“มันไม่ได้ไปเรียน?”
“ผมว่าเขาไม่เรียนนะ เห็นเพื่อนผมบ่นเขาอยู่น่ะครับ”
“เพื่อน?” คยองซูอดนึกสงสัยไม่ได้ จงอินมีเพื่อนด้วยอย่างงั้นหรอ แล้วถ้าอย่างนั้นจงอินมาตามเขาต้อยๆแบบนี้ทำไมกัน ทำไมคนอย่างจงอินไม่ไปอยู่กับเพื่อนของเขานู่นล่ะ มาตามเขาอบ่างกับคนไม่มีใครคบนี่มัน...
“เพื่อนผมเขาค่อนข้างสนิทกับเซฮุนน่ะครับ”
“สนิทกับนายด้วย?”
“อ่อ ก็ ระดับนึงครับ เคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน”
“ก็มีเพื่อนนี่...”
“....” จงอินเดินตามเจ้าของร่มสีดำแล้วนึกเอียงคอสงสัยกับประโยคงึมงำที่คยองซูพูดออกมา หยาดน้ำฝนที่ตกลงมากระทบร่มแล้วไหลลงมาสู่ปลายร่มสีมืดก่อนจะหยดลงเฉียดเนื้อผ้าสีขาวสะอาดของคนตัวเล็กไป จงอินเดินมองภาพตรงหน้าแล้วก็นึกตลก
“คุณคิดว่าผมไม่มีเพื่อนจริงดิ?”
“เอ้า? ก็นายทำเหมือนไม่มีนี่” คยองซูหันหน้ามามองเขาพร้อมกับเลิกคิ้วก้อนใส่เขา
“ผมก็มีมนุษย์สัมพันธ์นะคุณ” จงอินนึกยิ้มขำ
“แต่เหมือนจะไม่ใช่กับฉันนะ” คยองซูสะบัดปลายร่มก่อนจะหันกลับไปเดินต่อ จงอินที่เป็นเหยื่อโดนลูกหลงจากการสะบัดร่มของคยองซูก็ยกมือขึ้นลูบหน้าที่เปียกเม็ดฝนอยู่หน่อยๆ
“นั่นเพราะคุณไม่ได้สนใจมันต่างหากล่ะ”
“...รู้นี่”
“คุณนี่ใจร้ายกับผมจริงๆ” แม้จะเป็นประโยคที่ดูน่าแสนงอนแต่จงอินกลับยิ้มให้กับไหล่แคบที่เดินนำอยู่ด้านหน้า
“แล้วเอาอะไรมาคิดว่าฉันใจดี?”
“ก็...เปล่านะครับ”
“....”
“ผมแค่คิดว่าคุณน่ารักดี”
“....”
จงอินเว้นระยะก้าวขาให้ห่างยิ่งขึ้น พลันในใจก็นึกขึ้นมาว่าเขาจะโดนส่วนไหนของร่มก่อนดี
“ถ้าฉันเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่ชอบนาย ฉันอาจจะเขินนายก็ได้”
“ถ้าคุณเขิน ผมเองก็คงต้องเป็นบ้าแน่ๆ” คำพูดของจงอินทำเอาคยองซูต้องนึกภาพตาม หากเขาลองเขินหน้าแดงตัวแดงบิดนู่นนี่คงจะประหลาดพิลึกกึกกือมากแน่ๆ เพียงแค่เขาคิด เขาเองก็ขนลุกซู่แล้ว
“ตลกหรอ?”
“เปล่าครับๆ ผมแค่คิดว่ามันคงน่ารักมากๆ” จงอินยิ้มมาให้เขา แต่ทำไมเขาถึงระแวงจังเลยว่ามันจะเป็นแค่ยิ้มแสร้งกลบเกลื่อนไปงั้น
“เพื่อนเล่นหรอครับ?”
“...งั้นลองเป็นมากกว่าเพื่อนเล่นดูมั้ยครับ?”
คยองซูหยุดเดินแล้วหันมามองจงอินทันที
“เอ่อ...คือผมล้อ โอ๊ย! คุณครับ โอ๊ย!” จงอินกระโดหลบทันทีที่โดนคยองซูฟาดเข้ากลางหลังรัวๆ
“ใช่เพื่อนเล่นมั้ยหะ! ตลกนักหรอ! อยากเป็นศพก่อนเป็นหมอหรอครับ หะ!!”
“ฮ่ะๆ หยุดก่อนครับ โอ๊ย ยอมแพ้แล้วครับ” จงอินรวบข้อมือเล็กเอาไว้ด้วยมือเดียว เมื่อคนตัวเล็กสงบลงแล้วเขาจึงปล่อยคยองซูให้เป็นอิสระ
“กวนตีนจริงๆ ก่อนเรียนหมอนี่เขาไม่เย็บปากให้หรอ” คยองซูถอนหายใจออกมาแรงๆก่อนจะหันกลับไปเดินต่อ
“ฮ่ะๆ เหนื่อยหน้าแดงหมดแล้วคุณน่ะ” จงอินก้าวขายาวๆเพื่อมาดูหน้ากลมๆของคนตัวเล็กขึ้นสีแดงระเรื่อ
“เพราะใครกันล่ะ กวนประสาท...”
“หน้าแดงเพราะเหนื่อย..หรือหน้าแดงเพราะเขินกันนะ” จงอินพูดเบาๆพร้อมกับยิ้มขำกับตัวเองเบาๆ
“คราวนี้ด้ามร่มแน่ๆ” คยองซูยกร่มขึ้นเหนือหัวหวังจะฟาดอีกคนอีกรอบ
“เฮ้ยๆ! ใจเย็นคุณ เรียนหมอก็ตายเป็นนะครับ ใจเย็นๆสิ โถ่ ผมล้อเล่นน่า”
จงอินเองก็ชักสงสัยแล้วว่านี่เขามารนหาที่ตายเองรึเปล่า...
‘หงิ๋งๆ’
“หืม?” คยองซูหยุดเดินอีกครั้งฟังเสียงที่ตัวเองเพิ่งได้เมื่อครู่อย่างสงสัย
“ครับ?”
“เหมือนเสียงอะไรเลย”
“เสียงอะไร...”
“ชู่ว...เงียบ” คยองซูยกมือข้างที่ว่างขึ้นปิดปากจงอินเอาไว้เพื่อฟังเสียง จงอินแอบลอบยิ้มที่ได้สัมผัสมือนิ่มแบบนี้เข้าจริงๆจังๆสักที เขาเองก็คิดว่าคยองซูน่ะเนื้อหนังเยอะแน่นอนว่าตัวต้องนุ่มมากแน่ๆ แต่ไม่คิดเลยว่าจะนุ่มมากขนาดนี้...
‘หงิ๋งๆ หงิ๋งๆ’
“หมา? เสียงหมาร้องนี่” คยองซูหันมามองเขาพร้อมกับปล่อยมือตัวเองออกจากปากจงอิน
“เหมือนแถวนี้เลย ทำไมมีหมาร้องล่ะครับ” จงอินมองไปยังคนตัวเล็กข้างกายที่เอาแต่มองหาแหล่งที่มาของเสียงนั้นอยู่
“จะไปรู้หรอ....” คยองซูเดินเข้าไปดูที่ริมถนนพร้อมกับร่มสีดำ
“ตรงนั้น” จงอินวิ่งเข้าไปหาหลังกองเศษไม้ใหญ่ข้างทางทันทีที่เห็นปลายหางสีน้ำตาลขยับไปมา
“หมาจริงๆด้วย” คยองซูที่วิ่งตามเข้ามาดูก็ชะเง้อคอมองจงอินที่มุดเข้าไปในกองไม้นั่นอย่างสงสัย
“ลูกหมาน่ะครับ เหมือนจะมีคนเอาทิ้งล่ะ ตัวผอมซูบเชียว” จงอินคล้านออกมาพร้อมกับลูกหมาหน้าแหลมหูแหลมตัวผอมขาสั้นสีน้ำตาลเปื้อนดินมอมแมม
“ก็น่าโดนทิ้งอยู่หรอก น่าตาอัปลักษณ์จัง” ถึงปากจะเอ่ยว่าหมาไปอย่างนั้นแต่เจ้าตัวกลับยกมือลูบหัวหมาอย่างเอ็นดู จนคนมองอย่างจงอินอดยิ้มออกมาไม่ได้
“คุณก็ไปว่ามัน มันฟังรู้เรื่องนะครับ”
“เป็นหมาหรือเป็นคนกันแน่...แล้วนี่เอาไงต่อดี”
“นั่นสิครับ ปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ดีแน่ๆ เพราะเล่นตากฝนจนตัวชุ่มแบบนี้เป็นหวัดแน่ๆ”
“น่าสงสารจัง....”
“นั่นสิครับ....”
“งั้นฝากด้วยละกันนะครับ” คยองซูลูบหัวน้องหมาอย่างเอ็นดู แต่คนที่ถูกฝากอย่างจงอินถึงกับทำหน้าเหวอทันที
“คือหอผมเอาสัตว์เข้าหอไม่ได้น่ะครับ”
“แล้ว?....”
“....”
“...จะบอกว่าห้องฉันหรอ?”
“แล้วมีที่อื่นหรอครับ”
“เฮ้ แต่ว่าฉัน”
“พี่จะทิ้งมันลงหรอครับ...” จงอินตีหน้าเศร้า และเมื่อคยองซูก้มลงมองหน้าเจ้าลูกหมามอมแมมในอ้อมแขนของจงอิน มันก็เล่นทำสีหน้าเดียวกันซะด้วย..
“หอฉันมันก็เลี้ยงสัตว์ได้อยู่หรอก....”
“งั้นก็ดีเลยครับ”
“แต่ฉันไม่เคยเลี้ยงสัตว์”
“งั้นยิ่งดีใหญ่เลยครับ”
“หะ?”
“เดี๋ยวผมช่วยคุณเลี้ยงนะครับ” จงอินยิ้ม พร้อมกับเจ้าลูกหมาที่รีบกระดิกหางดิ๊กๆทันที
ตกลงนี่เขาใจดีที่พยายามจะช่วยหมา หรือโง่ ที่ทำให้ทุกอย่างเป็นการดึงจงอินเข้ามาในชีวิตเขากันแน่...
“เข้ามาก่อนสิ” คยองซูเปิดประตูห้องต้อนรับจงอินที่อุ้มหมาเข้ามาด้วย
“ห้องคุณสวยนะครับ” จงอินถือวิสาวะมองสำรวจไปรอบๆห้องของคนตัวเล็ก
ถึงแม้ห้องคยองซูจะรกไปบ้างแต่ก็รกเป็นที่เป็นทาง พอให้รู้ว่าคนตัวเล็กนั่งทำงานตรงไหนบ้าง ห้องสีขาวธรมดาถูกตกแต่งด้วยรูปวาดฝีมือเจ้าของของทำให้ห้องดูมีสไตล์ไปอีกแบบ หากเขาถูกทิ้งให้อยู่ห้องคยองซูสักวัน เขาคงไม่เบื่อที่จะมองรูปวาดพวกนั้นทั้งวันแน่ๆ
“มองขนาดนั้นเอากลับไปเลยมั้ยล่ะ” คยองซูว่าขึ้น
“ฮ่ะๆ ได้ก็เอาครับ”
“ดูแลหมากก่อนเถอะ จะเอายังไงกับมันต่อไป”
“อาบน้ำครับ คุณพอมีผ้าพอเช็ดตัวมันได้มั้ย”
“อ่า รอแป๊ป” ในขณะที่คยองซูเดินไปหาผ้ามาเช็ดหมา จงอินก็เดินเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการอาบน้ำเจ้าสีน้ำตาลตัวนี้
จงอินจัดการคราบดินโคลนออกจากร่างเล็กในอ่างน้ำอย่างทุลักทุเล เพราะเจ้าสีน้ำตาลเอาแต่ดิ้นพล่านแถมยังซนจะวิ่งรอบห้องน้ำให้ได้ ทำเอาเสื้อยืดสีขาวของเขาเปื้อนคราบดินเต็มไปหมดแถมยังเปียกเปียกพอๆกับหมาตัวนี้เลย
“จงอิน ผ้า... โอโห! เล่นอะไรกันเนี่ย!!” ทันทีที่คยองซูที่โผล่หน้าเข้ามาในห้องน้ำก็ร้องเสียงหลงทันทีเมื่อเห็นว่าสภาพห้องน้ำตัวเองเละจนแทบไม่เหลือซาก ทั้งคราบดินคราบเปื้อนเละเทะเต็มห้องไปหมด
“ขอผ้าหน่อยครับ” จงอินยื่นมือออกมาหาคยองซู และคยองซูก็โยนผ้าให้เขาก่อนจะปิดประตูห้องน้ำออกไป
จงอินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับเจ้าลูกหมาสภาพเอี่ยมอ่องน่ารักต่างจากตอนแรกที่เอามา ส่วนจงอินนั้น สภาพมอมแมมไม่ต่างกับลูกหมาก่อนเข้าไปอาบน้ำอย่างไงอย่างงั้น
“นี่ไปอาบน้ำให้หมามาจริงดิ?” คยองซูย่นหน้าพร้อมกับส่ายหัวไปมาเบาๆ
“อ่า...”
“ฉันว่านายรีบกลับไปเปลี่ยนชุดเถอะ ทางนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ”
“กลับไปเถอะ ฉันไล่นายอยู่” คยองซูเดินไปคว้าตัวหมาอุ้มเอาไว้
“ไม่ใยดีเลยนะครับ”
“กลับไปเปลี่ยนชุดเถอะน่า เปียกชุ่มขนาดนี้เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก”
“...ห่วงหรอครับ” จงอินยิ้มพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้คยองซู
“ไปไกลๆ...” คยองซูยกมือดันหน้าจงอินออกพร้อมกับหันหนีไปนั่งเป่าขนหมาให้แห้งโดยใช้ไดร์เป่าผมตัวเอง
“งั้นผมไปนะครับ”
“ทิ้งเบอร์ไว้ด้วย”
“....ครับ?” จงอินหยุดชะงักหันมองแผ่นหลังแคบอย่างไม่เชื่อหู
“จะให้ย้ำทำไม”
“...”
“กระดาษอยู่บนโต๊ะน่ะ เขียนทิ้งเอาไว้ มีอะไรจะโทรถาม เลี้ยงหมาไม่เป็น” คำพูดห้วนๆทำเอาจงอินยิ้มกริ่ม ก่อนจะเดินไปเขียนทั้งเบอร์ทั้งไอดีไลน์เอาไว้ให้คนตัวเล็กพร้อมเสร็จสับ
“อย่าลืมโทรหานะครับ ผมรอคุณอยู่” จงอินพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องไป
คยองซูถอนหายใจเบาๆมองเจ้าลูกหมาหน้าแหลมที่กำลังนอนหลับพริ้มให้เขาเป่าขนให้อย่างสบายตัว ให้ตายสิ เขาไม่ได้อยากได้เบอร์โทรจงอินจริงๆนะ เขาก็แค่ไม่รู้ต้องทำยังไงกับเจ้าหมาตัวนี้ก็แค่นั้น หากคืนนี้เจ้าตัวปัญหานี่เกิดป่วยขึ้นมาเขาจะทำอย่างไง ในเมื่อเขาไม่รู้วิธีเลี้ยงหมาอะไรเลยสักอย่าง เชื่อเถอะว่าถ้าไม่ใช่หมา เขาไม่มีทางขอเบอร์หมอหน้าเข้มนั่นเด็ดขาดเลย
100%
เริ่มมีเวลาบ้างแล้ว
อีกไม่นานเกินรอหรอก :)
หลอก
วิจัยถาโถมอีกละลอบ
เรากับวิจัย ใครจะตายก่อนกัน T_T
เอนเจอยรีดดิ้ง
แอนด์ มิสยูทูเช่นเดิมค่ะ
อย่าลืมบอกเล่าเรื่องราวกันที่
#นักศึกษาแพทย์จงอิน หรือ #นศพจงอิน ก็ได้
ของเราทั้งหมด
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เหมือนขอเบอร์จงอินทางอ้อมว่ะ นี่ถ้าไม่เห็นว่ากวนตีนนี่นึกว่าอ้อยนะ 555555