ตอนที่ 4 : 4 : เด็กสถาปัตย์ขี้ทิ้ง
ตื้อดึ่ง!
เสียงแจ้งเตือนไลน์ดังขึ้นทำให้คยองซูต้องวางดินสอลงแล้วหยิบมือถือขึ้นมาดู
Sehun : พี่คยองซู ผมขอยืมรถหน่อยนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าเอาไปจอดไว้ให้ที่หอ
Kyungsoo : เอาไปทำอะไร
คยองซูถามอย่างสงสัยปกติเซฮุนจะขับบิ๊กไบท์มาเรียน แต่วันนี้เขาเองก็ไม่เห็นบิ๊กไบท์ลูกรักของน้องรหัสเขาเลย
Sehun : ลูกผมเข้าอู่อ่ะพี่ แล้ววันนี้ผมต้องไปรับคนด้วย ผมขอยืมหน่อยนะครับ นะ นะ
Kyungsoo : ….
Sehun : นะ นะ นะ
Kyungsoo : พรุ่งนี้เช้ารถต้องอยู่ข้างล่างหอ
Sehun : โอเคเลยเฮีย!
คยองซูวางโทรศัพท์ไว้ข้างตัวก่อนจะหยิบดินสอไม้แท่งเก่าๆขึ้นมาร่างแบบงานที่เขาต้องทำส่งภายในอาทิตย์นี้ต่อ ถึงแม้ว่าในเวลานี้จะเป็นเวลาที่เขาไม่ควรจะอยู่ที่ตึกคณะแล้วก็ตาม
เซฮุนขับรถสีดำของพี่รหัสมาจอดไว้ข้างสนามกีฬา เขายื่นหน้าไปส่องกระจกพร้อมตรวจเช็คความหล่อของตัวเองก่อนจะเดินลงจากรถและตรงไปที่สนามฟุตบอล ผู้ชายผมสีทองตัวบางกำลังวิ่งไล่เตะลูกฟุตบอลดุ๊กดิ๊กอยู่กลางสนามคนนั้นคือเป้าสายตาของเซฮุนในตอนนี้
ลู่หานเมื่อสังเกตเห็นเซฮุนมายืนรอก็รีบวิ่งหอบจากกลางสนามเข้ามาหาเขตามที่คาดการณ์เอาไว้ ลู่หานส่งยิ้มให้เขาหลังจากที่เซฮุนยื่นขวดน้ำเย็นๆให้อย่างที่เขาทำประจำ
“รอนานมั้ย” เสียงหวานเอ่ยถามขึ้น
“ไม่หรอก พี่เหนื่อยเลยดิ หิวมั้ย”
“หิวมาก” นักศึกษาทันตะปี5หน้าหวานเจ้าของฉายากวางน้อยแห่งตึกทันตะกำลังลูบท้องน้อยๆของตัวเองไปมาอย่างออดอ้อน
“อยากกินอะไรอ่ะ”
“คิมบับ...”
“งั้นไปกินร้าน...”
“ที่นายทำ”
เซฮุนยิ้มกับคำตอบที่แสนน่าชื่นใจของอีกคน ลู่หานดูท่าทางจะติดใจฝีมือเขาจริงๆ เมื่อไหร่ที่ลู่หานกลับมาเหนื่อยๆก็มักจะอ้อนให้เขาทำอาหารให้กินอยู่เรื่อย
“งั้นเดี๋ยวแวะซื้อขนมเข้าหอด้วยละกัน” เซฮุนถือวิสาสะวาดแขนตัวเองวางลงบนบ่าเล็กอีกคน
“คนเยอะแยะน่า...” ลู่หานฟาดมือลงบนแขนเซฮุนแรงๆ จนอีกคนต้องดึงมือตัวเองกลับมาเก็บไว้ข้างตัวเหมือนเดิม
“ขอโทษครับ”
“เอ๊ะ รถใครน่ะ” ลู่หานถามขึ้นเมื่อเซฮุนเดินไปเปิดประตูรถยนต์ไม่คุ้นตาให้เขา
“ของพี่รหัสน่ะ”
“อ้าว แล้วลูกรักนายล่ะ”
“เข้าอู่ครับ เมื่อวานผมเอาไปลงสนามมา เลยเอาไปเช็คเครื่องน่ะ” เซฮุนเป็นคนที่ชอบแข่งรถ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะมีรถบิ๊กไบท์คันโตเป็นของตัวเองและมักจะพาลูกรักไปลงสนามแข่งรถอยู่บ่อยๆ
“ไปแข่งอีกแล้วหรอ...” ลู่หานพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง เขาไม่ชอบเวลาเซฮุนไปสนามแข่งยิ่งเวลาที่คนตัวสูงลงแข่งรถด้วยเขายิ่งรู้สึกไม่ชอบ...มันอันตราย
เขาก็แค่ห่วงเซฮุน
“ก็พี่ไม่ห้ามผมเองนี่”
“แล้วจะให้พี่ห้ามนายในฐานะอะไรล่ะ” ลู่หานเม้มปากแน่นและค่อยๆเสตามองออกไปข้างนอกตัวรถ
“.....”
ความเงียบเกิดขึ้นภายในรถยนต์ครั้งแรก แต่ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับพวกเขาทั้งสองคน เหตุการณ์แบบนี้มันมักเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ เมื่อใครสักคนพูดถึงความสัมพันธ์ที่ก่ำกึ่งสำหรับเขาสองคน ความสัมพันธ์ที่เริ่มจากการเล่นฟุตบอลด้วยกันครั้งหนึ่ง จนกลายมาเป็นความสัมพันธ์ที่เริ่มถลำลึกเกินกว่าคำว่ารุ่นพี่-รุ่นน้อง แต่ทั้งสองคนกลับไม่มีใครพูดถึงคำว่ารักหรือความรู้สึกดีๆต่อกันเลย
ความรู้สึกที่ก่ำกึ่งแบบนนี้นั้นมันกำลังบีบรัดหัวใจของเขาทั้งสองคน...
เสียงเข็มนาฬิกาเดินㅡเป็นเสียงเดียวที่ดังอยู่ในห้องร่างภาพ เข็มนาฬิกาที่ชี้เลขเก้ากับความมืดที่ปกคลุมอยู่ภายนอกนั้นทำให้คยองซูหวั่นใจอยู่ไม่น้อยที่คืนนี้เขาอาจต้องเดินกลับหอคนเดียว แต่เอาเถอะยังไงซะเขาก็เป็นผู้ชาย จะเกิดอะไรขึ้นมาเขาก็น่าจะสามารถดูแลตัวเองได้ดี
เมื่อเสียงนาฬิกาถูกแทนที่ด้วยเสียงร้องคำรามจากกระเพาะอาหารของคยองซูร้องประท้วง เจ้าของร่างก้อนก็จัดการเก็บของบนโต๊ะให้เรียบร้อยพร้อมม้วนกระดาษเขียนภาพลงกระบอกแล้วหิ้วขึ้นบ่าแคบของตัวเอง
“แบคฮยอน ยังไม่นอนใช่มั้ย” คยองซูหนีบโทรศัพท์ไว้กับไหล่อีกข้างพรางเก็บของไปด้วย
[เออ ว่าไง ยังไม่นอนหรอก นั่งคุยอยู่กับชานยอล]
อ่อ..ปาร์คชานยอล ช่วงนี้ดูสนิทกับเพื่อนเขาดีจังแฮะ
“คืนนี้จะไปนอนด้วย”
[หะ ห้ะ?]
“เออ ทำไม”
[แล้วเป็นอะไรทำไมไม่กลับไปนอนหอล่ะ]
“เซฮุนยืมรถไปน่ะ ขี้เกียจกลับหอแล้วด้วย เดินไปนอนโรงบาลมันใกล้กว่านี่หว่า”
[ยังอยู่ที่คณะอีกหรอ]
“อือ เพิ่งร่างแบบโมเดลเสร็จ”
[ให้เพื่อนฉันไปส่งมั้ย] คยองซูคิ้วกระตุกเมื่อแบคฮยอนพูดถึงเพื่อนของเขา
มีลางสังหรณ์ว่าจะเป็นคนในตึกแพทย์พิกล....
“ไม่ล่ะ เดี๋ยวจะไปหา”
[อ่า..]
คยองซูเก็บมือถือลงกระเป๋าแล้วเดินออกจากตึกคณะที่มันควรจะเงียบนั้นแต่กลับเป็นตึกเดียวที่มีเสียงดังโวกเวกแม้ว่าตอนนี้มันจะดึกมากแล้วก็ตาม เหล่านักศึกษายังคงทำงานกันอย่างหนักแม้ว่ามันจะเพิ่งเปิดเทอมได้ไม่นานก็เถอะ
รองเท้าผ้าใบคู่เก่าเดินย่ำไปตามฟุตบาทที่มีแสงไฟรายทาง ถึงจะมีแสงไฟแต่มันก็ไม่มากพอที่จะเรียกว่าสว่างมากก็เถอะ คยองซูก้มมองนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาว่ามันดึกมากแล้วจริงๆแต่ถนนสายหลักของมหาลัยแห่งนี้ก็ยังพอมีรถแล่นไปมาอยู่บ้าง
ปี๊น ปี๊น!
“เพื่อนคุณให้ผมมารับน่ะ” เจ้าของเสียงแตรรถดังขึ้นทำให้คยองซูต้องหันกลับไปมองไปรถสีดำที่จอดอยู่ข้างๆเขา
ว่าแล้วเชียว บยอน แบคฮยอน...
“ไม่ต้องการ” คยองซูหันกลับมาเดินหนี แต่จงอินก็ยังคงขับรถตามเขามาเรื่อยๆ
“อย่าดื้อเลย คุณไม่เห็นหรอ มันดึกมากแล้วนะ ทางข้างนั่นไฟก็ไม่มี”
“ดูแลตัวเองได้”
“แต่ผมอยากดูแลคุณอ่ะ ขึ้นรถเถอะครับ”
“....” คยองซูไม่ตอบอะไรกลับมา เขารีบจ้ำอ้าวไปข้างหน้าทันที
“ขึ้นรถเถอะคุณ”
“ยุ่ง”
“.....”
กึก!
จงอินตัดสินใจจอดรถไว้แล้วรีบลงจากรถมาดึงกระบอกหิ้วบนหลังคนตัวเล็กเอาไว้ก่อนที่คยองซูจะเดินหนีเขาไปไกลกว่านี้
เขาแค่ไม่อยากปล่อยให้คยองซูต้องเดินคนเดียว
“ถ้าคุณไม่ยอมขึ้นรถไปกับผม ผมก็จะเดินไปกับคุณ”
“อย่ามางี่เง่า” คยองซูพยายามที่จะดิ้นออกจากเงื้อมือของอีกคน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
“ไม่รู้ล่ะ คุณมันดื้อ ผมก็จะดื้อบ้าง”
“งี่เง่าสิ้นดี” คยองซสะบัดตัวแรงๆอย่างรู้สึกขัดใจ
“เออ ครับ แล้วไงล่ะ ใครจะไปสน”
“จิ๊ หมอบ้าอะไรวะ ดื้อฉิบหาย” คยองซูบ่นออกมาก่อนจะยอมเดินกลับไปนั่งบนรถของอีกคนอย่างว่าง่าย
จงอินมองยิ้มๆเมื่อแผนการเอาแต่ใจสบยความดื้อของเขามันได้ผล อย่างน้อยการที่เขาโดดเข้าเวรมารับอีกคนนั้นมันก็ทำให้เขารู้วิธีเข้าหาคนตัวเล็กที่แสนเย็นชาคนนี้แล้วหนึ่งวิธี
ตลอดทางไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากคนตัวเล็ก ถึงแม้ว่าจงอินจะพยายามชวนเขาคุยก็เถอะแต่ก็ได้คำตอบจากคยองซูมาเพียงไม่กี่คำ พอจงอินขับรถเข้ามาจอดที่โรงจอดรถของโรงบาลได้คยองซูก็รีบจ้ำอ้าวเดินลงจากรถหนีเขาไปทันที
นี่เขายังไม่ได้เคลียเรื่องที่ทิ้งเขาไว้ที่สถาปัตย์เลยนะ
นี่มาทิ้งกันที่โรงบาลอีกแล้ว...เด็กสถาปัตย์นี่ทำไมขี้ทิ้งจังวะครับ
จงอินล้วงมือเข้ากระเป๋าเสื้อช็อปสีขาวเดินตามเด็กสถาปัตย์ไปยืนอยู่ข้างเตียงแบคฮยอนพร้อมกับรอยยิ้มตามฉบับว่าที่คุณหมอใจดีคิมจงอิน
“ขอบใจนะจงอินที่อุส่าไปรับคยองซู” แบคฮยอนส่งยิ้มแป้นแล้นให้จงอินิย่างอารมณ์ดีโดยที่ไม่ได้สังเกตแววตาฆาตกรของเพื่อนรักเลย
“ไม่เป็นไรครับ ว่างพอดี” เขาเปล่าโกหกนะ เขาเพียงแค่บอกไม่หมดเขาว่างก็จริงแต่จริงๆเวลานี้เป็นเวรของเขา ซึ่งการโดดเวรออกไปมันก็ไม่ใช่เรื่องดีซักเท่าไหร่
แต่ก็นั่นล่ะ ไม่มีใครรู้นี่..
“โรงบาลกับตึกสถาปัตย์มันก็ไม่ได้ไกลขนาดนั้น จะหอบสังขารมาทำไมก็ไม่รู้ บ้าบอ..” คยองซูบ่นอุบอิบก่อนจะเดินไปทิ้งตัวบนโซฟาพร้อมกับหยิบแอปเปิ้ลที่ชานยอลปอกทิ้งไว้ขึ้นมากิน
“มันมืดแล้ว นายไม่กลัวบ้างรึไง” แบคฮยอนอมลมที่แก้มจนกลมป่องใส่คยองซู
“นั่นสิครับ ยิ่งหน้าตาน่ารักๆแบบคุณยิ่งอันตรายเข้าไปใหญ่” จงอินเองก็ช่วยเสริมทัพ
“ใครน่ารัก พูดให้ดีๆครับคุณนักศึกษาแพทย์เดี๋ยวจะได้กินแอปเปิ้ลลอยฟ้าเถอะ” ว่าแล้วคนตัวเล็กก็ทำท่าจะปาลูกแอปเปิ้ลใส่เขา
“ไม่เอาน่าคยองซู ของกินเอามาเล่นได้ไง” แบคฮยอนเอ่ยห้ามพร้อมกับปาม้วนทิชชู่ใส่คยองซูเป็นการลงโทษ
“แล้วดูที่นายทำกับฉันสิแบคฮยอน!” คยองซูลุกเดินตรงเข้าไปแหย่เล่นกับเพื่อนตัวเล็กบนเตียงทันที
โดยที่ทุกการกระทำนั้นอยู่ในสายตาของจงอินทั้งหมด คนตัวเล็กก้อนกลมๆดูนุ่มนิ่มทั้งสองก้อนกำลังหยอกล้อกันเป็นเด็กๆอยู่บนเตียงคนไข้ มันช่างดูน่ารักจนอยากลักกลับไปเล่นที่บ้าน โดยเฉพาะก้อนกลมๆรูปทรงคล้ายขนมโมจิอย่างคยองซูนั้น จงอินแทบอดไม่ได้ที่เข้าไปจับขยำเป็นก้อนๆแล้วจับกิน กลืนลงท้องให้รู้แล้วรู้รอด
“ทำไมนายไม่กลับหอล่ะคยองซู นอนที่นี่ไม่ได้สบายเหมือนนอนหอนะ” แบคฮยอนถามเพื่อนตัวเล็กด้วยความเป็นห่วง
“อือ เซฮุนเอารถไปน่ะ แถมพรุ่งนี้ต้องเข้าไปทำงานที่คณะต่อแต่เช้าด้วย เลยไม่อยากไปๆมาๆน่ะ” คยองซูปีนลงจากเตียงคนไข้แล้วเดินกลับมานั่งบนโซฟาข้างๆจงอิน
“เดี๋ยวผมไปส่งมั้ยครับ” นักศึกษาแพทย์แสนใจดีเอ่ยขึ้น
“ไม่ต้องยุ่ง” แล้วก็ต้องเงียบลงอย่างช่วยไม่ได้
“เอาน่าคยองซู ให้จงอินไปส่งมั้ย นายนอนนี่จะปวดหลังเอานะ วันนี้ก็นั่งร่างแบบมาทั้งวันเลยไม่ใช่หรอ”
“ไม่เป็นหรอกน่า ให้คุณนักศึกษาแพทย์อยู่เวรไปเหอะ ไปๆมาๆเสียเวลาซะเปล่าๆ” คยองซูพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ถึงแม้เขาจะออกแข็งกระด้างไปนิดแต่ก็ใช้ว่าคนอย่างโดคยองซูจะเกรงใจใครไม่เป็น
“อ่า ตามใจละกัน จู่ๆก็จะมาฉันเลยไม่ได้เตรียมอะไรไว้ให้เลยอ่ะ”
“คนป่วยจะมาเตรียมอะไรอีกล่ะ นอนอยู่เฉยๆไปนั่นแหละ” คยองซูส่ายหัวเบาๆกับความเป็นห่วงเป็นใยเกินตัวของเพื่อนสนิท
“ของกินหมดแล้วด้วย ชานยอลเอามาให้กินซะหมดเกลี้ยงเลย เหลือก็แต่แอปเปิ้ลในจานนั่นแหละ”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันลงไปหาอะไรกินข้างล่าง”
“อยากไปด้วย จงอิน! ไปด้วยกันนะ!!” แบคฮยอนยิ้มร่าให้จงอินเชิงขออนุญาตไปในตัว
“ดึกแล้วนะแบคฮยอนยังจะกินอีกหรอ” จงอินส่งยิ้มกลับไปให้เช่นกัน คำพูดที่เชิงดูเหมือนห้ามแต่เจ้าตัวกลับลุกเดินไปหยิบเก้าอี้รถเข็นมาให้แบคฮยอนซะงั้น
“อ้วนหมดแล้วแบคฮยอน” คยองซูบ่นออกไป แบคฮยอนเพิ่งบอกเขาเองแท้ๆว่ากินของไปจนหมดเกลี้ยงแล้วนี่ยังไงจะลงไปกับเขาอีก
“ยังอ้วนได้ไม่เท่าครึ่งของนายเลย..” แบคฮยอนที่ถูกจงอินอุ้มลงมาจากเตียงมานั่งรถเข็นนั้นโต้เถียงเพื่อนสนิท
“ย่า! แบคฮยอน” ถ้าไม่ติดว่าแบคฮยอนเจ็บอยู่ เขาคงได้ทุบเพื่อนตัวเล็กคนนี้เป็นแน่
“คยองซูก็ไม่ได้อ้วนอะไรนะครับ ตัวกลมๆน่ารักดีนะผมว่า” จงอินพูดและส่งยิ้มมาให้เขา
ไอ้สายตาละมุนละไมปานจะกลืนกินของนักศึกษาแพทย์นั่นมันชวนขนลุกชะมัด..
“นั่นคนหรือไข่เอาให้แน่ครับ คุณนักศึกษาแพทย์” คยองซูเบ้หน้าใส่อย่างไม่สบอารมณ์นัก
“เหมือนก้อนโมจิครับ ฮ่ะๆๆ”
จริงๆแล้ว แบคฮยอนก็คิดนะว่าจงอินอาจเป็นหมอที่ฉลาดได่ แต่คงไม่สามารถเป็นเพื่อนที่ฉลาดสำรับพวกเขาได้...
“โอ๊ย!! ผมขอโทษครับ!!”
100%
-----------------------------------------------------------------
เพราะเราก็คิดถึงเหมือนกัน : )
สอบเสร็จวันศุกร์นี้แล้วค่ะ อาจมาลงในอาทิตย์ถัดไป
แท็กในทวิตไม่ค่อยมีเลย หายไปไหนกันหมดน้า
หมดรักเราแล้วหรอ ฮื่อ T_T
#นักศึกษาแพทย์จงอิน
ถึงชื่อแท็กจะยาว แต่พระเอกฟิคหล่อมากนะเทอ #ไม่เกี่ยว 555555
ฝากติดแท็กฟิคเยอะๆนะคะ
เจอคำผิดทวงได้
เจอความรักของเราก็ทวงได้เช่นกัน กี้_กี้
เอนจอยรีดดิ้ง :)
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

นี่จีบกันโต้งๆเลยนะ คยองซูรู้ตัวไหมคะ
ว่ามีหมอคนหล่อมาจีบ~
หมอที่ฉลาดพลาดเผลอฑูดอะไรตามใจติดใจชอบ ไปค่ะคยองซูทุบหนักๆ ไม่รู้อะไรซะเลยนี่ *ส่ายหน้าอาลัยอยู่ข้างๆบยอน*