ตอนที่ 14 : 13 : ความลับ
จงอินนั่งแกะเปลือกส้มให้สองผู้ป่วยที่ผู้ป่วยคนใหม่ของเขาลากเสาน้ำเกลือมานั่งดูหนังกับเพื่อนตัวเองแก้เบื่อ จงอินละจากเปลือกส้มไปแบมือรับเม็ดส้มจากปากอีกคนอย่างไม่นึกรังเกรียจ แถมยังยอมให้อีกคนพาดขามาบนตักของเขาเพียงเพราะอีกคนบอกว่ามันเป็นท่าถนัดในการดูหนัง เอาเถอะ ยังไงซะ เขาก็ถือว่าทำหน้าที่ดูแลคนไข้ได้ดีระดับนึงละกัน
คยองซูเอ่ยปากวิจารณ์หนังอย่างออกรสว่าไม่สนุกอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ก็นั่งดูไม่ได้ละสายตาออกจากจอโทรทัศน์เลย ต่างกับอีกคนที่นั่งซับน้ำตาเอาเป็นเอาตายกับฉากดราม่าน้ำเน่าแห่งชาติ
“คราวหน้าคราวหลังอย่าได้ทำออกมาเลยนะหนังแบบนี้เนี่ย” คยองซูยกขาตัวเองลงจากตักจงอินและเริ่มออกท่าทางในการบ่นมากขึ้น
“ฮึก ฮือ...”
“หยุดซะทีเถอะแบคฮยอน มันเลยฉากเศร้ามาจะห้านาทีแล้วเว้ย” คยองซูที่ทนไม่ไหว ปากล่องทิชชู่ใส่เพื่อนตัวเองทันที
“กะ ก็คนมันอินนี่! คนไม่อินยังไงก็ไม่เข้าใจ!!” ตามด้วยแบคฮยอนที่เอาคืนด้วยการปาทิชชู่ใช้แล้วกลับคืน
จงอินส่ายหัวยิ้มขำคนเดียวเบาๆกับการสู้รบตบตีของคนไข้เด็กน้อยทั้งสองคน เขานี่ไม่อยากจะบอกเลยว่าคยองซูตอนป่วยน่ะ น่ารักมากกว่าที่คิดซะอีก อะไรนะครับ? อยากเห็นหรอ? จะเล่าให้ฟังก็ได้ครับ
Jongin Part
ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ชั่วโมงที่แล้ว
ผมเดินกลับเข้ามาในห้องคนไข้พร้อมกับถุงผลไม้ตามที่อีกคนอยากกิน วันนี้คยองซูอยู่โรงบาลเป็นวันที่สองแล้ว คยองซูที่เคยพยศเก่ง โหดเข้าไส้ แต่บัดนี้ไม่มีคยองซูคนนั้นอีกแล้ว ผมเองก็ยังแปลกใจครับ ก้อนโมจิของผม(?)พูดน้อยลง ด่าน้อยลง สบตาน้อยลง จากแมวจอมหยิ่งตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับลูกแมวตัวน้อยๆเลยครับ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร แต่ผมก็เดาๆเอาว่าคยองซูอาจแพ้น้พเกลือก็เป็นได้...
“คุณครับ ผมซื้อผลไม้มาให้แล้ว” ผมวางถุงผลไม้บนโต๊ะข้างเตียง คยองซูละสายตาจากทีวีหันมามองผมแว๊บนึงก่อนจะหันกลับไปดูทีวีตามเดิม
“ทำไมมาช้า” ถ้าอิงความเดิมแล้วประโยคนี้ควรจะเต็มไมด้วยความไม่พอใจพร้อมทุบได้ทุกเมื่อ แต่เปล่าเลยครับ ครั้งนี้อีกคนพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงจนสังเกตได้ชัด
“พอดีวันนี้คนไข้เยอะน่ะครับ หิวมั้ยครับ กินผลไม้เลยมั้ย เดี๋ยวผมล้างให้”
“หิว”
“งั้นรอแป๊ปนึงนะครับ” ผมจัดการเอาผลไม้ในถุงไปล้างให้ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ตกอยู่ในสายตาของโดคยองซูตลอด เพราะไม่ว่าผมจะหันไปมองอีกคนกี่รอบ ก็จะพบสายตาคยองซูที่จับจ้องมาอยู่ตลอด
“เร็วๆสิ หิวแล้ว” มีงอแงนิดนึงครับ
“มาแล้วครับ อยากกินอะไรก่อนมั้ยครับ” ผมนั่งลงข้างเตียงคนไข้ก่อนจะวางถาดผลไม้ไว้บนตักให้อีกคนได้เลือก
“เอาองุ่น” ผมหยิบลูกองุ่นยื่นไปตรงหน้าอีกคน คยองซูยังคงจับจ้องไปที่รายการสารคดีตรงหน้า
เขาเอียงหน้าลงมาหามือผมจนกระทั่งมือนิ่มยกขึ้นมาจับข้อมือผมไว้ ตามด้วยริมฝีปากอิ่มที่สัมผัสเข้ากับปลายนิ้ว สารภาพเลยว่าสายตาของผมนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น ภาพตรงหน้ากลายเป็นภาพสโลวโมชั่น ต่างกับข้างในที่เริ่มเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งเหมือนตอนได้หัดกินเหล้าครั้งแรก
คิมจงอินได้ตายไปแล้ว
คยองซูเคี้ยวองุ่นในปากอย่างเอร็ดอร่อยซึ่งมือของเขายังคงไม่ปล่อยไปจากข้อมือผม เขายังคงจับมันเอาไว้บนตัก ผมเองก็ได้แต่มองมือนั้นนิ่งค้าง จนกระทั่งมันถูกยกขึ้นอีกครั้ง มืออีกข้างของเขาจับมือของผมให้แบออก ก่อนที่จะคายเม็ดองุ่นชื้นออกมาใส่ฝ่ามือผมแล้วปล่อยให้มือเป็นอิสระ
“เอาอีก”
ใจพังหมดแล้วกูเนี่ย!!!
หลังจากป้อนผลไม้จนมือไม้สั่นแล้วผมก็ไปพักสงบจิตสงบใจล้างมือในห้องน้ำ ก่อนจะเดินออกมาพบว่าอีกคนปิดทีวีแล้วนอนเล่นเกมในมือถืออยู่เงียบๆ
“จงอิน”
“ครับ” ผมเดินกลับเข้าไปนั่งข้างๆเขา
“...” แหน่ะ มีเรียกแล้วไม่พูด
“ปวดหัวรึเปล่าครับ” ผมเห็นเขาทำหน้าเครียดๆเลยถามออกไปพร้อมกับยกมืออังหน้าผากเขาเพื่อวัดไข้
“ไม่อ่ะ” เขาไม่ได้ปัดมือผมออก เขาเพียงละสายตาจากหน้าจอมามองหน้าผมครู่นึง
“ไม่สบายตัวรึเปล่าครับ”
“อือ นอนแต่บนเตียง น่าเบื่อ”
“อยากออกไปเดินเล่นมั้ยครับ”
“เดี๋ยวค่อยไปได้มั้ย ขี้เกียจ”
“ครับ” ผมนั่งมองหน้าเขาเงียบๆ ค่อยไล่สายตาสำรวจใบหน้าอีกคน
ใบหน้ากลมๆเป็นลูกโมจิตอนนี้ดูซูบผอมลงไปเยอะ ปลายคางที่เห็นได้ชัดทำให้ผมพอเดาได้ว่าอีกคนโหมงานหนักขนาดไหน รอบดวงตาดูคล้ำมากขึ้น จากที่ปกติคนตัวเล็กกูดูเป็นหมีแพนด้าอยู่แล้ว ผมมองหน้าเขาแล้วก็นึกเคืองขึ้นมาในใจหน่อยๆ อะไรกันที่ทำให้คยองซูโหมงานหนักขนาดนี้
“นี่”
“ครับ” ผมกระพริบตาถี่ๆหลังจากเหม่อมองอีกคนอยู่นาน
“เมื่อยขาอ่ะ นวดให้ทีสิ”
“ครับ?”
“นิ่งทำไม จะต้องให้อ้อนด้วยรึไง” ประโยคของอีกฝ่ายทำเอาผมเลิกคิ้วสูงทำตาโตเป็นไข่ห่าน
เกิดมาเพิ่งเคยได้ยินคำว่า ‘อ้อน’ ออกจากปากคยองซู!!
“อ่อ ครับๆ” ผมขยับตัวขึ้นไปนั่งบนเตียง คนป่วยก็ยกขาขึ้นพาดตักผมทันที ผมก็ออกแรงบีบขาให้อีกคนตามคำสั่ง เอ่อ...ที่มันดูเหมือนไม่ใช่คำสั่งหน่อยก็เถอะครับ
ถ้ารู้ว่าป่วยแล้วจะน่ารักขนาดนี้ วางยาไปนานแล้วเว้ย!!!!!!
Jongin Part End
หลังจากการนวดขาจบลงไม่นานคยองซูก็ชวนเขามายังห้องแบคฮยอนด้วยกัน อาการแปลกๆของคยองซูที่มีต่อจงอินได้ตกอยู่ในสายตาของเพื่อนสนิทอย่างแบคฮยอนอยู่ทั้งหมดแล้ว แบคฮยอนยกยิ้มเบาๆกับความเปลี่ยนแปลงฉับพลันของคยองซู
“จงอิน ผลไม้หมดแล้ว” คยองซูพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ ซึ่งแน่นอนว่าจงอินต้องไปหาผลไม้มาเพิ่ม
เขาควรเปลี่ยนอาชีพในอนาคต จากหมอไปเป็นคนสวนจะดีกว่า
“อยากกินอะไรครับ” จงอินได้แต่จนใจทำตามอีกคน
“เอาทุกอย่าง”
“ทุกอย่างไม่มีครับ”
“กวนตีนหรอจงอิน” คยองซูหันมองค้อนใส่เขาทันที จนจงอินกับแบคฮยอนส่งเสียงหัวเราะออกมา
“เปล่าครับ ไหนจะเอาอะไร เหมือนเดิมมั้ยครับ”
“อือ”
“จงอินเอาขนมด้วย!” แบคฮยอนบอกเขา
“โอเค งั้นเดี๋ยวผมมานะครับ” จงอินล้วงมือเข้าในกระเป๋าเสื้อกราวน์ก่อนจะเดินออกไป
พอจงอินลับตา คยองซูก็หันกลับมายังเพื่อนตัวเองแล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อแบคฮยอนเอาแต่จ้องเขามาตลอด
“อะไร”
“อะไรล่ะ” แบคฮยอนยกมุมปากยิ้มอย่างมีเลศนัย
“อะไรของนายล่ะ” คยองซูเขกหัวเพื่อนตัวเองเบาๆ
“นั่นสิ เป็นอะไรของนาย”
“อะ อะไรล่ะ” คยองซูเลื่อนสายไปมองอีกฝั่งของห้อง
“ดูแปลกๆนะ ตั้งแต่เข้าโรงบาลมา”
“แปลกยังไง”
“ไม่เป็นตัวนายเลยนะคยองซู นายดู... น่ารักกับจงอิน”
“เพ้อเจ้อ...” เสียงเขาเบาลง
“นายรู้อยู่แล้วใช่มั้ย เรื่องที่จงอินชอบนาย”
“...อือ”
“แล้วนายล่ะ?”
“อะไร?”
“รู้รึยังว่าชอบจงอินรึเปล่า” ถ้ายึดตามหลักของโดคยองซูแล้ว ถ้าแบคฮยอนพูดออกมาแบบนี้แล้วแน่นอนว่าเขาอาจจะโดนอีกฝ่ายโบกกลับมา ไม่ก็ประโยคคำด่าจนกลับชาติไปเกิดไม่ทันแน่ๆ
แต่ครั้งนี้ต่างออกไป
“...ไม่รู้ว่ะ”
ใช มันไม่เหมือนเดิม
“คยองซู มีอะไรจะสารภาพกับฉันมั้ย?”
“...แบคฮยอน”
“....”
“....”
“นี่คยองซู นายรู้อะไรมั้ย ว่าปกติแล้ว นายไม่ใช่คนที่จะโหมงานเป็นบ้าเป็นหลังจนเข้าโรงบาลเลยนะ”
“....”
“นายไม่เคยยอมให้ใครเข้าถึงตัวขนาดนี้ ไม่เคยมีท่าทีที่เป็นแบบนี้มาก่อน และฉันจะบอกให้รู้นะ ว่าไอ้ท่าทางของนายตอนนี้นะ แถวบ้านฉันเรียกว่าอ้อนว่ะ”
“...อือ รู้”
“...”
“แต่ฉันก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกัน ฉันเบื่อจงอิน หมอนั่นเอาแต่ตามวุ่นวายกับฉัน ฉันรำคาญ พยายามไล่ออกจากชีวิตฉันก็ไม่ไป คนหรือตุ๊กแกก็ไม่รู้”
“...”
“แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ฉันคิดถึงหน้าหมอนั่นตอนที่ไม่ได้เจอ”
มันคือความลับที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้
“มันเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนฉันต้องหาอะไรมาทำเพื่อลบความคิดนั้น ทั้งทำงาน รับจ๊อบ ช่วยน้อง ฉันยอมที่จะปล่อยให้มือถือแบตหมดเพื่อที่หมอนั่นจะได้ไม่มาวอแวฉันอีก”
“...”
“จะได้ลบออกจากหัวให้หมดไปซะที”
“...”
“นายอย่าหลุดไปบอกหมอนั่นเชียวล่ะ”
อยากให้มันเป็นความลับต่อไป
“เหมือนว่าฉันก็เริ่มชอบหมอนั่นขึ้นมาหน่อยนึงแล้วล่ะ”
แบคฮยอนยกยิ้มกับคำสารภาพแสนน่าหยิกของเพื่อนตัวเอง ชอบเขาขนาดนั้น แสดงออกจนาดนี้แต่ก็ยังเรียกที่จะไม่บอกต่อไป นี่แหละ โดคยองซูตัวจริงเสียงจริง เขาพยักหน้ารับปากเพื่อนสนิทเบาๆ คยองซูเองที่เห็นแบบนั้นก็เปลี่ยนท่าทางการนั่งให้ดูเป็นปกติ หลังที่เขารู้สึกว่าตัวเขาดูเกร็งๆไปหมด
พอๆกันกับว่าที่คุณหมอที่ยืนตัวเกร็งอยู่หน้าห้อง เขารู้สึกเหมือนหูอื้อไปชั่วขณะ แต่เขากลับได้ยินเสียงตีกลองรัวๆได้อย่างชัดเจน เขากำลังคิดอยู่ว่าถ้าให้เขาเปรียบเทียบความรู้สึกตัวเองในตอนนี้ จะเรียกว่าตัวเองเหมือนถูกจุดพลุได้รึเปล่านะ...
“มาแล้วคร้าบ” จงอินยิ้มหน้าแป้นเดินถือถุงผลไม้ถุงโตเข้ามา คยองซูที่นั่งเล่นมือถืออยู่ข้างเตียงคนไข้ก็หันมามองเขานิ่งๆ
“มาช้านะ” คนตัวเล็กแอบบ่น
“ก็วันนี้คนมันเยอะนี่ครับ” จงอินพยายามกลั้นยิ้มไม่ให้ปากตัวเองฉีกไปมากกว่านี้
เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนเขาลืมถามแบคฮยอนว่าจะเอาป๊อกกี้ด้วยมั้ย เพราะเห็นคราวก่อนเจ้าตัวบ่นอยากกินนักหนา เขาจึงเดินย้อนกลับไปที่ห้องคนไข้ แต่หลังจากที่เขาได้ยินคนไข้สองคนพูดคุยถึงความลับถายในห้องกันสองคนแล้วเขาก็เอาแต่ยืนอยู่ตรงนั้นอยู่นานสองนาน เขาไม่รู้ว่าเขาควรเปิดประตูเข้าไปดีมั้ย เปิดเข้าไปแล้วบอกว่าได้ยินหมดแล้วทุกอย่างและขออีกคนเป็นแฟนเลย หรือจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ได้ยินต่อไป
แน่นอนว่าเขาเลือกอย่างหลัง
ทำไมน่ะหรอครับ?
ไม่บอกตอนนี้หรอก :j
“เอามาเร็วๆ อยากกินแล้ว” คยองซูแบมือขอถุงผลไม้ที่จงอินเพิ่งซื้อมา
“เดี๋ยวผมเอาไปล้างก่อนครับ รอแปปนึงสิครับคุณ”
“ถ้านายหิวมากก็ไปช่วยจงอินล้างสิ จะได้เสร็จไวๆ” แบคฮยอนเอ่ยปากไล่พร้อมกับยิ้มกรุ่มกริ่ม
“ไม่เอาอ่ะ ขี้เกียจเช็ดมือ ให้จงอินทำนั่นแหละ” คยองซูงุ้มปากงอจนจงอินอยากจะจับบิดให้หายมันเขี้ยวซะจริง
“ขี้เกียจเช็ดมือ เดี๋ยวผมเช็ดมือให้ก็ได้นะครับ” จงอินเดินเข้ามาใกล้คยองซู
“....” คยองซูเงียบไป เผลอกัดริมฝีปากตัวเองเมื่อเขากำลังใช้ความคิด
“ไปสิคยองซู จะนั่งนิ่งทำไม เดี๋ยวก็ไม่ได้กินหรอก” แบคฮยอนเองก็ช่วยเสริมอีกแรง
“งั้นต้องเช็ดมือให้ด้วยนะ” คยองซูตัดสินใจลุกขึ้น ปล่อยให้จงอินลากเสาน้ำเกลือกับถือถุงผลไม้ตามเขาไป
คยองซูยืนมองจงอินที่ค่อยๆหยิบผลไม้ออกจากถุงมาใส่กะละมังน้อยๆเพื่อล้างมัน คยองซูเปิดน้ำใส่กะละมังก่อนจะใช้ไหล่เล็กดันให้อีกคนขยับออกห่าง
“ผมช่วย” จงอินวางมือลงในกะละมัง ปลายนิ้วที่สัมผัสโดนกันทำเอาคนหน้านิ่งสะดุ้งตัวเบาๆ แต่มันก็ตกอยู่ในสายตาของว่าที่คุณหมอทั้งหมดอยู่ดี
“ขยับออกไปได้มั้ย อึดอัด” คนตัวเล็กส่งเสียงฮึดฮัดเมื่อจงอินเริ่มขยับตัวมาใกล้มากขึ้น
“ก็ที่มันเล็กนี่ครับ ผมล้างผลไม้ถนัด” จงอินลอบยิ้มยิ้มปากอย่างพอใจที่แกล้งอีกคนได้
แต่ตัวเองก็โดนเล่นงานใช่ย่อย กลิ่นหอมเย็นๆจากผิวกายคนตัวเล็กช่างสะกิดอารมณ์เขาได้ดีเหลือเกิน ดีซะจนอยากจะจับมาฟัดให้กลิ่นพวกนี้หายไปให้หมด
“งั้นก็รีบๆล้างได้มั้ย”
“ครับ”
“....”
“...คุณมือสั่นๆนะครับ”
“สงสัยหิว”
“หิวขนาดนี้เลยหรอครับ”
“ไม่แน่ใจเหมือนกัน”
“ไม่แน่ใจอะไรครับ?”
“ไม่แน่ใจว่าที่สั่น สั่นเพราะหิวหรือสั่นเพราะอยากฆ่าคนก็ไม่รู้”
คำพูดที่ว่าที่คุณหมอควรจะกลัวแต่กลับยิ้มร่าจนปากแทบฉีก เพราะไอ้สิ่งที่ทำให้เขาไม่รู้สึกกลัวอีกต่อไปคงเป็นเพราะแก้มป่องๆขึ้นสีชมพูระเรื่อยาวไปจนถึงใบหู จนถึงต้นคอขาวแล้ว
เขินจนอยากฆ่าคนนี่หน้าตาน่ารักแบบนี้นี่เอง
กลายเป็นว่าแทนที่เขามาช่วยล้างจะเสร็จไวกว่าเดิม กลับกลายเป็นว่าถูกว่าที่คุณหมอปั่นประสาทจนได้กินช้ากว่าเดิม จะว่าจริงๆเขาก็ไม่ได้โมโหหิวอะไรขนาดนั้นหรอก ไอ้ที่ไปช่วยน่ะก็เพราะอยากอยู่ด้วยทั้งนั้นแหละ แต่จะให้ตีตัวสนิท เข้าหาอย่างแบคฮยอน เขาบอกได้เลยว่าไม่ใช่แนว
ตอนนี้เขาก็อ้อนอีกฝ่ายด้วยการยกขาพาดตักไอ้หน้าหมอเอาไว้พร้อมกับเมล็ดองุ่นที่ถูกคายใส่ฝ่ามือหนาอยู่ตลอด สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือที่กำลังเล่นเกมแข่งวิ่งเก็บเหรียญที่แบคฮยอนแนะนำ แน่นอนว่าคราวนี้แบคฮยอนก็แข่งกับเขาด้วย เขาเลยเอาจริงเอาจังขนาดนี้
“แบคฮยอนขี้โกง!” พอแพ้เข้าคนตัวเล็กก็พาลเพื่อนขาเจ็บตัวเองทันที
“กากเองอย่ามาพาลสิ” แบคฮยอนเองก็เย้ยด้วยการแลบลิ้นหลอกใส่คยองซู
“เดี๋ยวก็จับฟาดกับเสาน้ำเหลือเลยซะนี่”
“พอแล้วครับๆ” จงอินยิ้มขำกับการทะเลาะของทั้งคู่ “คุณครับ ได้เวลากลับห้องแล้วนะครับ” จงอินแตะขาอีกคนบนตักเขาเบาๆ
“ต้องกลับแล้วหรอ” คยองซูเสียงอ่อนลง นานทีเขาจะได้มาอยู่มาเพื่อนสนิทนานๆแบบนี้ มันทำให้เขาชักไม่อยากกลับห้องตัวเอง
“คุณต้องกินยาแล้วก็นอนพักครับ”
“ถึงเวลาแล้วหรอ”
“ครับ”
“อือ กลับก็ได้” คยองซูจิ๊ปากอย่างนึกเสียดาย เขาเอ่ยลาแบคฮยอนก่อนจะเดินออกจากห้องคนป่วยไปโดยมีจงอินลากเสาน้ำเกลือตามเขามาติดๆ
เมื่อกลับมาถึงห้องคนป่วยของตัวเองคยองซูก็ปีนขึ้นเตียงอย่างรู้งาน พร้อมกับดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมเสร็จสับ ไม่ต้องลำบากให้ว่าที่คุณหมอคอยช่วยเลย
“นอนรอแปปก่อนนะครับ ผมจะเอาข้าวกับยามาให้คุณ” จงอินบอกเขา
“อือ”
ไม่นานที่จงอินเดินออกจากห้องไป คยองซูก็ยกมือขึ้นมาลูบกลางหน้าอกตัวเองเบาๆ นึกอยากตีเนื้อตรงนี้แรงๆให้หยุดส่งเสียงดังน่ารำคาญกับเขาเสียที
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“สวัสดีค่ะ คุณโดคยองซู” พยาบาลสาวเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับถาดอาหารในมือ เขาก้มหัวลงทำความเคารพ เมื่อเห็นว่าเธอเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียงเขา
“ฉันเอาเอามื้อเย็นมาให้คุณค่ะ” เธอบอก
“ขอบคุณครับ” เขาแอบแปลกใจอยู่นิดหน่อยที่คนตรงหน้าไม่ใช่จงอิน ทั้งๆที่เป็นคนบอกว่าจะเป็นคนเอาข้าวมาให้เขาเองแท้ๆ
“คุณเป็นคนไข้ที่อยู่ในความดูแลของนักศึกษาคิมจงอินใช่มั้ยคะ” เธอจัดวางถาดอาหารไว้บนโต๊ะสำหรับทานอาหาร เธอเหล่มองเขาเป็นระยะ
“เอ่อ ครับ”
“พอดีจงอินเขาติดงานด่วนน่ะค่ะ เลยให้ฉันมาแทน”
“อ่อ ครับ” คยองซูรับช้อนจากพยาบาลมาก่อนจะตักอาหารเข้าปากอย่างไม่สนใจอะไรมากนัก
“ดูจงอินจะสนิทกับคุณ เพื่อนเขาหรอคะ ฉันเห็นในระเบียนประวัติว่าเรียนอยู่สถาปัตย์”
“...”
“ไม่ยักรู้ว่าจงอินจะมีเพื่อนเรียนอยู่สถาปัตย์ด้วย” คยองซูฟังแล้วก็ชะมักมือที่ถือช้อน บอกเลยว่าเขาไม่ใช่คนที่ชอบคิดไปเอง และเข้ามั่นใจมากว่านางพยาบาลคนนี้ ดูจะไม่ชอบหน้าเขาเท่าไหร่
“ผมไม่ใช่เพื่อนเขา” เขาตอบไปตามตรง
“อ้าว งั้นหรอคะ แล้วทำไมดูเขาสนิทกับคุณจัง” คยองซูแอบกรอกตากับคำถามไม่เข้าท่าของนางพยาบาลคนนี้
“ไม่ลองไปถามเขาดูล่ะครับ”
“ก็ลองถามคุณก่อนน่ะค่ะ” เธอปรายยิ้มมาให้เขา
“ครับ” คยองซูตักข้าวเข้าปากต่อไปอย่างไม่สนใจเธอ
“คุณจะไม่ถามหน่อยหรอคะ ว่าฉันถามทำไม”
“ก็ผมไม่ได้อยากรู้” คยองซูตอบเสียงนิ่ง ทำเอาพยาบาลยืนเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง
“เห็นเขาสนิทกับคุณเลยอยากบอกน่ะค่ะ”
“...”
“ว่าฉันเป็นแฟนเขา”
“มโนรึเปล่าคุณ” คยองซูเงยหน้ามองพยาบาลพร้อมกับยกยิ้ม
เพราะเขามั่นใจว่าคนที่จะเป็นแฟนคิมจงอินได้
มันต้องเป็นเขาเท่านั้น
ครบร้อยย
ตายล้าวววว คุณโดดดดดดดดดดดด
เกร้ดดดดดดด
นายเอกเรื่องนี้ไม่มีการมานั่งฟูมฟาย โอ๊ย เขามีแฟนแล้วหรอเนี่ยย
ไม่มีนะคะะะะะ
คุณโดซะอย่าง ไฟว์เป็นไฟว์อย่างเดียว
เกร้ดดดดดดดด
น้องนี่ #ทีมพี่โด อย่างไวเลยจ้าาาาาา
ไปหวีดและร่วมไฟว์ไปกับพี่เขาที่...
#นักศึกษาแพทย์จงอิน
มีทีเซอร์ฟิคตัวใหม่แล้วนะเธอ
กด >>นักศึกษาแพทย์จงอิน2<<
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

จงอินดีใจที่คยองชอบจนไปแอบไปวิ่งรอบโรงบาลป่าว555
แล้วตลกที่ตงงินเห็นคยองน่ารักขึ้นว่าเป็นนางเมาน้ำเกลือ อิหมอ 55555