ตอนที่ 11 : 11 : ดวงดาว
เย็นวันพุธที่ดูเหมือนจะว่างอยู่กลายๆ คยองซูพาเจ้าปลาทูออกมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้หอพร้อมกับสายจูง หลังจากที่เขาปล่อยให้มันเล่นเหงาอยู่ในห้องมาตั้งแต่วันจันทร์ เขาเองก็รู้สึกเบื่อๆที่เอาแต่หมกตัววาดรูปอยู่ในห้อง วันก่อนเขาได้รับงานจ้างวาดรูปตามที่ลูกค้าต้องการ ลูกค้าเองก็สั่งมาซะเยอะแยะจนเขาแทบตั้งสติไม่ได้ ดีหน่อยที่ว่ากำหนดงานไม่ได้เร่งรัดอะไรขนาดนั้น พอให้เขาได้มีเวลาว่างเล่นกับเจ้าปลาทูหน่อยนึง
ครืด ครืด
โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั่นพร้อมกับปรากฏชื่อคนคุ้นเคยที่เขาไม่ได้อยากคุ้นเคยซะเท่าไหร่ คนที่ติดต่อเขามาบ่อยซะจนเขาแทบจะจำเบอร์นี้ได้ขึ้นใจอยู่แล้วเชียว
[อยู่ไหนครับ?]
“สวนสาธารณะ”
[ข้างหอน่ะหรอครับ? พาเจ้าปลาทูมาเดินเล่นหรอครับ]
“อืม”
[ผมเพิ่งเช็คคนไข้เสร็จ เดี๋ยวผมไปหานะ]
“ไม่ต้อ....”
ตี๊ด
โอเค... โอเคจงอิน
นั่นล่ะ เขาเริ่มชินกับนิสัยแปลกๆของจงอินขึ้นมาหน่อยๆแล้วล่ะ ถึงแม้เขากับจงอินไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยๆแล้วแต่จงอินก็ยังคงไม่ปล่อยให้ชีวิตเขาได้อยู่อย่างสงบอย่างที่หวังไว้ จงอินยังคงส่งข้อความมาวอแว โทรมากวนเวลางานเขาบ่อยๆ หลายครั้งที่เขาก็ไม่เข้าใจตรรกะประหลาดๆของไอ้หน้าหมอ โดนเขาด่าก็ออกบ่อย แต่ก็ยังคงยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียวได้ตลอด
อย่างเช่นตอนนี้ ที่ไอ้หน้าหมอวิ่งหน้าตั้งมาหาเขานู่น...
“วันนี้ว่างหรอครับ” จงอินวิ่งเข้ามาเล่นกับเจ้าปลาทูก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเขา
“เปล่า”
“งานยังไม่เสร็จหรอครับ ผมเห็นคุณทำตั้งนานแล้ว”
“อืม”
“กินอะไรรึยังครับ”
เขาส่ายหัวให้เป็นคำตอบ
“ผมหิวอ่ะ ไปหาอะไรกินกันมั้ยครับ”
“นายหิวก็ไปกินสิ”
“ก็ผมหิวอ่ะ แต่กินกับคุณอร่อยกว่า” คำตอบกลับของจงอินทำเอาเขาต้องเหลือบตาขึ้นมองฟ้าทันที
“ไม่เกี่ยว”
“เกี่ยวเถอะ ผมอยากให้เกี่ยว”
คยองซูขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจกับไอ้มุขตรรกะเอาแต่ใจของว่าที่หมอ จงอินเอื้อมมือมาจับสายจูงแทนเขา ก่อนจะเดินนำเขาไปข้างหน้า คยองซูแอบสังเกตชายเสื้อเชิ้ตขาวของจงอิน มันมีคราบด่างสีแดงเปื้อนเป็นจุดๆ
“เสื้อเปื้อน?” คยองซูเอื้อมมือไปสะกิดชายเสื้ออีกคนเบาๆ
“อย่าจับครับ เดี๋ยวเปื้อนมือคุณ สงสัยคราบเลือดคนไข้น่ะครับ” จงอินจับข้อมือเขาออกจากชายเสื้อตัวเองอย่างรวดเร็ว “วันนี้มีคนไข้ประสบอุบัติเหตุมาน่ะครับ”
“แล้วไงต่อ?”
จงอินเลิกคิ้วสูงอย่างแปลกใจ เป็นครั้งแรกในชีวิตคิมจงอินที่เด็กสถาปัตย์ตัวเล็กให้ความสนใจเรื่องราวในห้องฉุกเฉิกของเขาแบบนี้ ตากลมโตกำลังจับจ้องมาที่เขาอย่างใจจดใจจ่อ
ชิบหายแล้ว...
อันนี้ควรเรียก ‘ให้ความหวัง’ หรือ ‘คิดไปเอง’ ดีวะเนี่ย
“คนไข้กระดูกซี่โครงหักทิ่มปอดครับ อีกคนก็กระดูกขาโผล่”
“อืม เห็นภาพ แล้วไงต่อล่ะ”
“จริงๆก็มีหลายเคสเลยครับที่เข้ามาวันนี้ ห้องฉุกเฉินเลยวุ่นวายน่าดูเลยล่ะครับ เราผ่าตัดกันทั้งวันเลย”
“แล้วคนไข้ที่เล่ามาน่ะรอดมั้ย?”
“รอดครับ แต่อีกคนที่ซี่โครงหัก ห้าสิบห้าสิบครับ”
“หนักเลยหรอ?”
“ครับ กระดูกไปทิ่มส่วนสำคัญน่ะครับ เราต้องเฝ้าสังเกตการณ์คนไข้อยู่ตลอด”
“นายด้วยล่ะสิ เฝ้าคนไข้น่ะ”
“ใช่ครับ ของผมคืนนี้.... อ่า”
จงอินยกยิ้มเบาๆก่อนจะหันกลับมามองคนตัวเล็กให้เต็มตา
“หรือว่า.... คิดถึงผㅡ”
ผลั๊วะ!
โอโห ดาวขึ้นแต่หัวค่ำเลยครับ...
“ขอโทษครับ พอดีเขินแรงไปหน่อย” คยองซูยกยิ้มมุมปาก หากแต่ว่าใบหน้าหวานไม่ได้มีแม้แต่เศษเสี้ยวความเขินอย่างที่พูดไว้เลยสักนิด
“เขินทีให้ดาวให้เดือนผมซะเยอะเลย” จงอินลูบหัวไปมาที่เพิ่งโดนปาดไปหมาดๆ
โดนเปิดกะบาลขนาดนี้ยังยิ้มได้อีก
อืม...คนเรียนหมอนี่ต้องหัวแข็งกันขนาดไหนเชียว....
สุดท้ายแล้วการเดินทางเท้าของเด็กหมอกับเด็กสถาปัตย์ก็จบลงด้วยถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆ พร้อมกับไส้กรอกอุ่นๆของเจ้าปลาทู
“คืนนี้เข้าเวรแล้วทำไมไม่กลับไปพัก” คยองซูเอ่ยถาม
“พักอยู่นี่ไงครับ”
“หมายถึงให้กลับไปนอนครับ”
“....ห่วงหรอครับ” จงอินส่งยิ้มแป้นแล้นมาให้เขา
“อยากกินบะหมี่เป็นมื้อสุดท้ายของชีวิตหรอครับ?”
“ได้กินกับคุณ มื้อสุดท้ายก็ยอม”
มือเล็กยกขึ้นสูงเหนือหัว ที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องพากันเสียวสันหลังกันเป็นแถวๆแน่ ไม่ทันได้ฟาดเปิดผมจงอินอีกรอบก็ต้องหยุดชะงักค้าง เมื่อจู่ๆเจ้าปลาทูก็วิ่งออกไป ทำให้คยองซูต้องละจากหัวจงอินแล้ววิ่งตามหมาขาสั้นไปทันที
โฮ่ง!
“ปลาทู!” คยองซูเอ่ยเรียก มันหันกลับมามองเจ้าของตัวเล็กเพียงชั่วครู่ก่อนจะวิ่งไปหาหมาอีกตัวที่อยู่ไม่ไกล คยองซูนึกใจหายแว๊บแอบคิดว่ามันต้องกัดกันแน่ๆ แต่กลับกัน เจ้าหมาตัวเตี้ยกับหมาตัวใหญ่สีขาวกระโดดเข้าหากัน หยอกล้อกันไปมาอย่างกับรู้จักสนิทสนมกันมาตั้งแต่ชาติปางที่แล้ว
“ชยากี้” เสียงทุ้มเอ่ยเรียก หมาตัวใหญ่ก็วิ่งไปอีกทางทันทีโดยมีเจ้าปลาทูเดินตามไปด้วย
“ปลาทูมานี่” คยองซูเอ่ยเรียกแต่สุดท้ายเขาก็ต้องเดินตามมันไปอยู่ดี
“หมาคุณหรอครับ” คยองซูเงยหน้าจากเจ้าปลาทูขึ้นมามองเจ้าของสายจูงของหมาตัวใหญ่เมื่อกี้
“ครับ” คยองซูก้มหัวเบาๆเป็นการทักทายให้กับชายร่างสูงอีกคน เขาดูเป็นผู้ใหญ่มากๆจนเขาแอบรู้สึกเกร็งๆอยู่นิดหน่อย
“ดูเหมือนมันจะถูกใจกันน่ะครับ ลูกสาวหรอครับ” เขาพยักหน้ามาทางเจ้าปลาทู
“ตัวผู้ครับ”
“อ้าว หมาผมก็ตัวผู้” เขาส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ
คยองซูกระตุกเชือกจูงเจ้าปลาทูสองสามทีจนมันเดินออกมายืนขนาบข้างกับขาเขา
“อยู่แถวนี้หรอครับ ผมเองก็อยู่แถวนี้ แต่ไม่ยักจะคุ้นหน้าคุณเท่าไหร่เลย” คนตรงหน้าเอ่ยถามอย่างเป็นมิตร
“ผมยุ่งๆน่ะครับ อยู่แค่หอกับคณะ” คยองซูตอบกลับเสียงเรียบ
“เรียนคณะไหนหรอครับ”
“สถาปัตย์ฯครับ”
“อ่อ เห็นว่าเด็กสถาปัตย์ไม่ค่อยมีเวลากัน ไม่แปลกถ้าผมจะไม่คุ้นหน้า”
คยองซูยกยิ้มเบาๆเป็นการยอมรับตามคำที่อีกคนพูด
“อยู่นี่เอง นึกว่าหายไปซะแล้ว” จงอินวิ่งเข้ามาหาเขา “อ้าว หมอคิม” จงอินที่หันมาเจอคนที่อยู่ตรงหน้าคยองซูก็ตกใจเบาๆก่อนจะก้มหัวทักทายทันที
“อ้าว จงอิน ไม่ได้อยู่โรงบาลหรอกหรอ เห็นวันนี้แผนกฉุกเฉินยุ่งๆนี่” คนที่จงอินเรียกว่าหมอคิมเอ่ยถามเขาอย่างสงสัย
“ตอนนี้เวลาพักผมน่ะครับ”
“อ่อ เลยแอบดอดมาหาแฟนน่ะหรอ”
“เฮ้ย ไม่ㅡ”
“แล้วพี่เพิ่งเลิกงานหรอครับ” ไม่ทันที่คยองซูจะเอ่ยปฏิเสธ จงอินก็รีบพูดแทรกขึ้นมาทันที เรียวปากของคนตัวสูงแอบยกยิ้มเบาๆเมื่อเห็นสีหน้าขัดใจของคยองซู
“อืม วันนี้แผนกพี่ไม่ค่อยมีคนไข้น่ะ เลยเลิกไว”
“ดีจังเลยครับ”
“งั้นพี่ไปก่อนละกัน แล้วเจอกันอีกนะครับ” หมอจุนซูหันมายิ้มให้คยองซูก่อนจะเดินผ่านเขาสองคนไป
ผลั๊วะ!
นั่นไงล่ะ ไม่รอดจนได้... คิมจงอิน
Chanyeol Part
เข้าสู่เดือนที่สองกับการที่คนตัวเล็กหลับนอนอยู่แต่ในโรงบาล โดยมีว่าที่หมอเด็กอย่างผมคอยวิ่งเข้าออกห้องคนไข้เป็นว่าเล่น ราวกับว่าห้องคนไข้เป็นแผนกเด็กแผนกที่สองของผมเลยก็ว่าได้ ตอนนี้แบคฮยอนเองก็เริ่มย้ายร่างกายลงจากเตียงได้เองบ้างแล้ว แต่ก็ต้องให้ผมคอยช่วยอยู่นั่นแหละครับ
ราวๆสามอาทิตย์ก่อนแผนกเด็กของผมไม่ค่อยมีคนไข้เยอะเท่าที่ควรจะเป็น ทำให้ช่วงนั้นผมหาเวลาอู้ ดอดมาเฝ้าแบคฮยอนได้บ่อยขึ้น อาจเพราะเหตุนี้เลยทำให้แบคฮยอนดูเหมือนจะติดผมมากกว่าเดิม เวลาที่แบคฮยอนอยู่คนเดียวทีไรก็ต้องวอแวให้จงอินมาตามให้ตลอด
อย่างวันนี้ก็เช่นกัน...
[มึงรีบมาให้ไวเลย วิ่งมานะมึง คนไข้มึงไม่ยอมกินข้าวเลยเนี่ย] จงอินบ่นใส่สายในขณะที่ตัวผมเองกำลังเก็บของบนโต๊ะให้เข้าที่ก่อนเดินออกจากแผนกตรงไปยังวอร์ดคนไข้
“เออ กำลังรีบไปนี่ไง”
[วิ่งมาสิวะ กูไม่ได้ยินเสียงมึงวิ่งเลยเนี่ย]
“เออๆ วิ่งแล้ว” ผมเร่งฝีเท้าวิ่งตามคำบอกอีกคน
[มึงไปทำอะไรให้แบคฮยอนโกรธอีกล่ะ ถึงกับไม่ยอมกินข้าวกินยาเลยเนี่ย]
“กูผิดสัญญากับเขา”
[สัญญาไรวะ]
“เมื่อวานกูบอกจะไปนอนเป็นเพื่อนเขา แต่กูก็ไม่ได้ไป แถมไม่ได้โทรบอกด้วย”
[อ้าว]
“ไม่ต้องมาอ้าว เมื่อคืนมึงยังมาช่วยแผนกกูอยู่เลย เมื่อคืนเคสด่วนขนาดนั้นจะให้กูเอาเวลาไหนจับมือถือวะ”
[กูช่วยแค่ตอนผ่าตัดไง กูคิดว่าเสร็จเคสนั้นมึงจะไปหาแบคฮยอน]
“เคสนั้นอ่ะของกู กูก็ต้องเฝ้าคนไข้มั้ย” ชานยอลวิ่งออกลิฟท์และเดินไปยังคนไข้ที่อยู่เกือบท้ายสุดของชั้น
[แบคฮยอน จะไปไหนอ่ะ?] เสียงจงอินถามถึงคนไข้ในห้อง
[ออกไปเดินเล่น เบื่ออยู่ห้อง] เสียงหวานของอีกฝ่ายทำเอาผมรู้สึกใจแป้วแปลกๆ
[ข้าวยายังไม่ได้กินเลย รอชานยอลก่อนสิ ชานยอลมึงอยู่ไหนแล้วเนี่ย] จงอินพูดกับแบคฮยอนก่อนจะถามผม
“กูอยู่หน้าห้องละ เดี๋ยวกูจัดการเคสนี้เอง” พูดจบผมก็กดวางสายและเปิดประตูออกไป
ทันทีที่เปิดประตูก็พบร่างเล็กในชุดคนไข้ยืนอยู่หน้าประตูโดยมีไม้ค้ำเป็นผู้ช่วย สีหน้าเจ้าตัวดื้อเบะปากทันทีที่เห็นหน้าผม ริมฝีปากบางๆทำเอาผมอยากจะเอื้อมมือไปบีบให้หายหมั่นเขี้ยวเสียจริง
“จะไปไหนครับ” ผมถามออกไปด้วยน้ำเสียงนุ่ม
“มาทำไม” แต่แบคฮยอนก็เล่นพูดค้อนใส่ผมกลับมา
ท่าทางจะงอนยาวเลยทีเดียว
“มาดูแลคนป่วยงอแงครับ”
“คนไข้คนอื่นมีเยอะไม่ใช่รึไง เรามีจงอินดูแลแล้ว”
“ได้ข่าวข่าวดื้อกับจงอินจนไม่ยอมกินข้าวกินยาไม่ใช่หรอครับ”
“ไม่ได้ดื้อนะ!” เจ้าตัวเล็กเถียงผมทันควัน
“...”
“กะ ก็”
“...”
“กะ ก็รอชานยอลมาค่อยกินไงเล่า!” พูดเสียงดังตีหน้าเง้างอน แต่แก้มอิ่มขึ้นสีแดงปรั่งยาวไปจนถึงใบหูเล็กๆนั่นเลย
“ชานยอลก็มาแล้วไงครับ” ผมเดินเข้าไปใกล้เขาอีกก้าว ยกมือแตะข้อศอกเขาอย่างเบามือ
แบคฮยอนเงยหน้าจากพื้นขึ้นมามองหน้าผมช้าๆ แววตาที่เคยแข็งกร้าวบัดนี้กลับดูเว้าวอน เหมือนเด็กที่กำลังออดอ้อนให้ซื้อไอศครีมให้ น่าเอ็นดูจนผมต้องยกมือขึ้นยีผมเขาเบาๆ
“ไม่ต้องมาง้อเลย”
“ไม่อยากให้ผมง้อหรอครับ”
“ไม่”
“....”
“อยากให้มาอยู่ด้วยมากกว่า เหงาจะตายอยู่แล้ว” พูดด้วยน้ำเสียงงุ้งงิ้งที่ฟังอย่างไงก็เหมือนลูกแมวชะมัด
แล้วอย่างนี้ไอ้ปาร์คชานยอลอย่างผมจะไปไหนรอดล่ะครับ โถ่....
ผมกับจงอินช่วยกันพาแบคฮยอนกลับมานั่งที่เตียงคนไข้ตามเดิมก่อนที่ไอ้จงอินจะขอตัวออกไปดูคนไข้รายอื่น แบคฮยอนเอาแต่ก้มหน้ามองตักไม่ยอมเงยหน้าแดงๆขึ้นมามองหน้าผมเลยแม้แต่นิด จนผมต้องตัดสินใจไปนั่งบนเตียงกับเขาพร้อมกับเชยคางมนขึ้นมาสบตากันตรงๆ
“หิวมั้ยครับ”
แบคฮยอนพยักหน้าเบาๆ
“ให้ชานยอลป้อนมั้ยครับ”
เขาก็พยักหน้าเช่นเดิม
“มาครับ เดี๋ยวผมป้อน” ผมเอื้อมหยิบถ้วยโจ๊กที่วางอยู่ข้างเตียงมาไว้ในมือ ก่อนจะเป่าให้หายร้อนแล้วป้อนเข้าปากเจ้าเด็กตัวเล็ก
“ไม่เห็นอร่อยเลย” แบคฮยอนเคี้ยวได้ไม่กี่คำก็ทำหน้าหยีตามคำพูด
“ไม่อร่อยหรอครับ ให้ผมซื้อให้ใหม่มั้ย”
“ไม่ต้องหรอก”
“....”
“ถ้าซื้อใหม่ ชานยอลก็ต้องออกจากห้องไปอีก เราจะทนกินอันนี้ก็ได้ เราจะคิดว่ามันอร่อยที่สุด เพราะมีชานยอลป้อน”
“....”
“....”
“นี่ แบคฮยอนครับ รู้มั้ย”
“?”
“ที่เราทำอยู่นี่เรียกว่าหยอด”
“...หรอ”
“...”
“เราคิดว่ามันคือจีบซะอีก”
จับคนไข้ฟัดแรงๆจะผิดมั้ยวะ!!!!
Chayeol Part End
ร้อยปะเซนนน
ตรวจคำผิดแย้วจ้า ตรงไหนผิดอีกทักทวงได้เลยจ้า
ชื่อตอนมาจาก ดวงดาว ที่จงอินเห็นนั่นแหละค่ะ
ให้สังเกตกันเล่นๆว่าคยองซูเริ่มปล่อยตัวกับจงอินแล้ว
มาลุ้นกันเล่นๆว่าเมื่อไหร่จะปล่อยใจซะที ;///;
ช่วงนี้เรือเซซูเขามาแรงกันมากเลย จนเราใจสั่นๆ ;;_;;
เราต้องมาเพิ่มเกราะให้กับเรื่อไคซูของเราให้แข็งแแรงยิ่งขึ้นค่ะ
โปรดเกาะเสาเรือไคซูให้แน่นๆ
และ
โปรดอย่าลืม
#นักศึกษาแพทย์คิมจงอิน
และ
คอมเม้น ให้เราได้หวานๆใจกันหน่อยนะ ;;_;;
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ว่าแต่จงอินป่านนี้ไม่สมองไหลแล้วหรอ โดนลูกตบขนาดนั้น5555
เอาใยอะไรกันเบอร์นั้น เจ้าของไข้ก็มะใช่
จงอินก็ขยันหยอด เจ็บตัวก็ไม่มาย~
ชานเเบคน่ารัก