คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Intro
วองโกเล่เเฟมิลี่เป็นเเฟมิลี่ที่มีประวัติการก่อตั้งยาวนานมากกว่า 400ปี
เเละยังเป็นเเฟมิลี่ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในประเทศอิตาลีอีกด้วย วองโกเล่เเฟมิลี่นั้นเกิดจากการรวมตัวของคนหนุ่มที่ตั้งขึ้นมาเพื่อคอยปกป้องประชาชนที่โดนเอารัดเอาเปรียบต่างๆ
ซึ่งก็คือเหมือนกับพวกเขาตั้งศาลเตี้ยขึ้นมาเพื่ออภิบาลประชาชนนั้นเอง
โดยผู้ก่อตั้งวองโกเล่เเฟมิลี่นั้นคือ วองโกเล่รุ่นที่ 1 (Vongola
Primo)
จากนั้นวองโกเล่เเฟมิลี่ก็เริ่มมีสมาชิกเข้ามาร่วมกลุ่มเพิ่มเรื่อยๆจน
กระทั่งรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่จนกลายเป็นเเฟมิลี่ที่ยิ่งใหญ่เเละมีผลงานมากมาย
ซึ่งเดิมจุดประสงค์ของวองโกเล่เเฟมิลี่ที่เเท้จริงเเล้วคือ 'การปกป้องเเละช่วยเหลือผู้คน บริสุทธิ์' เท่านั้นไม่ใช่เป็นกลุ่มมาเฟียอันตรายเเต่อย่างใด
จนกระทั่งเข้าสู่ยุค วองโกเล่รุ่นที่2 (Vongola Secondo) คือจุดพลิกผันของเเฟมิลี่ได้เปลี่ยนเเนวทางหรือจุดประสงค์ที่เเท้จริงของเเฟมิลี่นั้นก็คือการปกครองเเฟมิลี่ต่างๆด้วยความมืดรวมถึงการทำธุรกิจผิดกฏหมายทุกอย่างที่มีซึ่งรุ่นที่
2 นั้นทำเพื่อให้ได้ซึ่งเงินเเละชื่อเสียงมากกว่านั้นเอง
เเละวองโกเล่ ก็เข้าสุ่ยุคมืดที่น่ากลัว โหดร้ายเเละผ่านกาลเวลาอันเเสนยาวนาน
จนดำเนินมาถึง วองโกเล่รุ่นที่ 9 (Vongola Nono) ซึ่งได้ตัดสินใจเเล้วว่าการกระทำของเเฟมิลี่ที่ทำกันมากว่า 300-400 ปีนี้เป็นการกระทำที่ขัดต่อจุดประสงค์ที่เเท้จริงของเเฟมิลี่
กระทั่งล่วงเลยมาถึงยุคของวองโกเล่รุ่นที่ 10 (vongola
Decimo)......
++++++++++++++++++++++++
“งานเลี้ยงของคาบัคโรเน่งั้นหรือ?”
เสียงคำถามของชายหนุ่มร่างบางในชุดสูทดังขึ้น ดวงตายังคงไม่ละจากเอกสารตรงหน้า
เช่นเดียวกับมือเรียวที่เซ็นต์เอกสารกองโตยิกๆอย่างไม่หยุดมือ
ท่าทางนั้นทำให้ชายหนุ่มผมเงินพยักหน้าแล้วเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
“ใช่แล้วครับ เมื่อครู่คนของคาบัคโรเน่ได้นำบัตรเชิญมาให้ครับ" โกคุเทระ
ฮายาโตะ กล่าวพลางนำบัตรเชิญที่ว่าไปวางไว้บนโต๊ะของนายตน
ซาวาดะ สึนะโยชิ เลิกคิ้วก่อนจะเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร
ดวงตาสีน้ำตาลยังคงความอบอุ่นอ่อนโยนดังเดิม
ทว่าลึกลงไปแล้วกลับมีความเศร้าสร้อยแฝงอยู่
เขาหยิบบัตรเชิญขึ้นมาแล้วเปิดอ่านพบว่าเป็นลายมือของบอสรุ่นพี่แห่งคาบัคโรเน่จริงจึงสั่งการแก่มือขวาตน
“โกคุเทระคุงช่วยไปบอกคนอื่นๆให้เตรียมตัวที
อีกเดี๋ยวเราจะไปที่ปราสาทคาบัคโรเน่กัน"
"ทราบแล้วครับ"
มือขวาหนุ่มโค้งรับคำสั่งแล้วหันหลังเดินออกไปจากห้องทำงานของ 'บอสวองโกเล่รุ่นที่สิบ' ทิ้งให้ร่างบางที่นั่งอยู่บนเก้าอี้บุนวมราคาแพงยกมือขึ้นกุมหน้าผาก
ลางสังหรณ์ดังขึ้นอย่างรุนแรงราวกับเตือนไม่ให้เขาไปงานเลี้ยงครั้งนี้
สึนะสะบัดหัวไล่ความคิดนั้นออกไปก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินออกจากห้องทำงาน
เป้าหมายคือห้องส่วนตัวของเขาเพื่อเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงคืนนี้...
เมื่อร่างบางในชุดพิธีการเดินลงมาจากบันไดยาวก็พบว่าตนนั้นมาท้ายสุด
กระทั่งผู้พิทักษ์เมฆาที่ยืนอยู่แยกจากคนอื่นก็มาถึงแล้ว
ใบหน้าหวานราวกับอิสตรีจึงยกยิ้มอ่อนโยนทั้งกล่าว
"ขอโทษที่มาช้านะทุกคน"
“ไม่เป็นไรหรอกสึนะ พวกฉันก็พึ่งมาถึง"
เสียงสดใสไม่เปลี่ยนจากในอดีตของผู้พิทักษ์พิรุณทำให้สึนะหันไปยิ้มให้ ยามาโมโตะ
ทาเคชิ เจ้าของใบหน้าหล่อมีความเฉียบคมมากยิ่งขึ้นเมื่อได้รับประสบการณ์ชีวิตมากมาย
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มยังคงปลอบประโลมผู้คนได้เช่นเดียวกับรอยยิ้มที่ราวกับสายฝนชโลมใจ
“แล้วคุณดีโน่คิดอะไรของเขาอยู่ถึงได้จัดงานเลี้ยงขึ้นกะทันหันแบบนี้ล่ะครับ?” เสียงคำถามอย่างสงสัยจะเป็นใครไปได้นอกจากแรมโบ้ โบวีโน่
ผู้พิทักษ์อัสนีที่พึ่งกลับจากภารกิจยามบ่าย เด็กน้อยในตอนนั้นเติบโตขึ้นเป็นเด็กหนุ่มรูปงามที่แข็งแกร่งและจะไม่แพ้ใครง่ายๆ
“แกจะถามทำไมให้มันมากความ เจ้าวัวบ้า"
แม้สรรพนามยังเหมือนเดิมทว่าน้ำเสียงกลับมีความสุขุมมากขึ้นราวกับเป็นคนละคน ใบหน้าหล่อเหลางดงามของผู้พิทักษ์วายุที่เคยเต็มไปด้วยโทสะอยู่เกือบเสมอกลับเปลี่ยนเป็นใบหน้านิ่งเรียบสุขุมนุ่มลึกสมกับเป็นมือขวาคนสนิทของบอสมาเฟีย
“ว่าแต่ซาวาดะ อ่านรายงานที่ฉันตั้งใจเขียนแบบสุดขั้วไปรึยังน่ะ?” ผู้พิทักษ์อรุณถามขึ้นด้วยท่าทางลุ้นระทึก เป็นครั้งแรกที่คนใจร้อนอย่างซาซางาวะ
เรียวเฮนั่งเขียนรายงานด้วยตัวเอง คำถามนั้นทำให้สึนะยิ้มแห้ง อยากจะบอกว่ารายงานคุณพี่อ่านไม่รู้เรื่องมากครับ
วันหลังใช้ลูกน้องเขียนเหมือนเดิมแหละดีแล้ว...
“อ่านแล้วครับ...แหะๆ" ก็ได้แต่คิดแต่ไม่กล้าพูดออกไป เจ้าตัวเกาศีรษะแก้เขินแล้วหันไปทางผู้พิทักษ์อีกสองคนที่ยังไม่พูดจาอะไร
“โคลมเป็นไงบ้างมุคุโร่" สึนะเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
หลังจากเขารับตำแหน่งวองโกเล่รุ่นที่สิบได้ไม่นาน โคลม โดคุโร่ก็เกิดป่วยขึ้นมาอีกครั้ง
อาการสาหัสถึงขนาดต้องเข้าห้องไอซียู ปัจจุบันเธอกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราที่ยังไม่ลืมตาตื่นขึ้น
เหตุการณ์นั้นทำให้มุคุโร่แทบขาดใจเมื่อหญิงคนรักของตนอยู่ในสภาพนั้น
“ยังเหมือนเดิมครับ" โรคุโด มุคุโร่ตอบด้วยรอยยิ้มฝืน
ใบหน้าหล่อเหลือบไปทางสวยหมองลงเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนกลับมาเจ้าเล่ห์เหมือนเดิม
ดวงตาสองสีฉายแววเศร้าสร้อย สึนะหน้าหม่นลงเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ไม่จำเป็นต้องทำหน้าแบบนั้นครับสึนะโยชิคุง
ผมรู้ดีว่าคุณเองก็เป็นห่วงโคลมไม่แพ้ผม"
มุคุโร่ในอดีตคงไม่เคยคิดว่าตนจะต้องมาปลอบใจท้องนภาแห่งวองโกเล่
มาเฟียที่ตนเกลียดแสนเกลียด ทว่าเขากลับยินยอมโดยดี เพราะคำสัญญาเดียวที่ซาวาดะ
สึนะโยชิเอ่ยออกมา
“รีบๆไปกันได้แล้ว วุ่นวายซะจริง"
เสียงเย็นชาจากปากของผู้พิทักษ์เมฆาทำให้สึนะพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มแห้งๆ ไม่ว่าผ่านไปกี่ปีอาการหวาดกลัวต่อฮิบาริ เคียวยะยังคงไม่เปลี่ยนไป
ท่าทางนั้นทำให้คนผมดำร้อง 'หึ' เบาๆแล้วเดินออกไปก่อน ใบหน้าหล่อคมนิ่งเรียบไร้รอยยิ้ม
บนไหล่มนมีนกตัวเล็กนาม 'ฮิเบิร์ด' เกาะอยู่
เห็นแบบนั้นสึนะจึงหันไปทางผู้พิทักษ์ที่เหลือแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"ไปกันเถอะทุกคน"
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
มุมเมาท์มอย
- สวัสดีค่ารีดเดอร์ที่น่ารักทุกคน~ ไรต์ชื่อโฟนนะคะ
- บทนำเป็นการเกริ่นถึงการเปลี่ยนแปลงของผู้พิทักษ์แต่ละคนรวมทั้งตัวบอสซะมากกว่า เนื้อเรื่องจริงๆจะเริ่มตั้งแต่บทที่หนึ่งเป็นต้นไป ตัวละครอาจมีฉีกบทบาทบ้าง(เพราะไรต์ชอบ) ไม่ๆ เพราะไรต์ยังแต่งไม่เก่งเท่าไร
- หนึ่งคอมเมนต์ = หนึ่งกำลังใจนะคะ (ปากลิง.เมนต์เยอะ ไรท์อัพเร็วขึ้น//แอบกระซิบ)
- มีอะไรติเตียนยินดีรับฟังนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ //โค้งงามๆยิ่งกว่านางสาวไทย
ความคิดเห็น