[One Shot] This I Promise You ,, YULSIC
อันเก่ายังไม่จบเกิดอารมณ์อยากจะ one shot ฮ่าๆๆๆ
ผู้เข้าชมรวม
1,306
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ร่างสูงที่เพิ่งตื่นจากห้วงนิทราและกำลังปรับสภาพสายตาให้เป็นปรกติต้อนรับรุ่งอรุณของเช้าวันใหม่
"นี่มันกี่ปีแล้วนะ...ที่เราไม่ได้เจอกันเลย"
"พอความรักมันจบลง เราก็เป็นได้แค่คนแปลกหน้าต่อกันเท่านั้นเอง"
ร่างสูงพึมพำกับตัวเองและยังไม่ได้ขยับกายไปไหนนอกจากนอนนิ่งๆตามองขึ้นกำแพงอยู่แบบนั้น เนื่องจากความฝันเมื่อคืนมันทำให้หมดแรงเสียจนไม่มีแรงที่จะลุกขึ้นสู้กับชีวิตที่เดียวดายแบบนี้อีกต่อไป
"คิดถึง....."
ภาพในอดีตเมื่อครั้งยังเป็นแค่เด็กวัยรุ่นก็ย้อนกลับมาอย่างชัดเจนอีกครั้ง
"ยูลคะ...ถ้าสักวันเราต้องเลิกกันไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม..ยูลสัญญากับสิก้าได้ไหม..
ถ้าวันที่พวกเราอายุครบ 30 ปีเมื่อไหร่ แล้วเรายังไม่ได้มีใคร...
เราสองคนจะไปเจอกันที่ ดูโอโม เหมือนหนังสือที่สิก้าเคยอ่าน"
**ดูโอโม เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี มีตำนานเล่าขานไว้ว่า ถ้าคู่รักคู่ใดขึ้นไปดูวิวจากบนยอดดูโอโมแห่งนี้แล้ว
พวกเขาจะครองรักกันตลอดไป
"ทำไมสิก้าพูดแบบนั้นล่ะคะ? สิก้าพูดเหมือนกับว่า...สิก้าไม่อยากอยู่กับยูลตลอดไป"
"โถ...คนเก่งของสิก้า...สิก้าอยากอยู่กับยูลสิคะ...แต่ถ้าวันนึงเรามีความจำเป็นที่จะต้องแยกทางกัน...ยูลจำไว้นะคะว่ามันไม่ใช่เพราะสิก้าไม่รักยูล...ทีนี้ยูลสัญญากับสิก้าได้รึยังคะ?"
"อื้อ....ก็ได้ยูลสัญญา วันเกิดครบอายุ 30 ปี ของสิก้า เราจะไปเจอกันที่นั่น"
------------------------------------------------------------------------------------------------
RrrRrrrrRrrr
"สวัสดีค่ะ"
"ฮัลโหลยูลหรอ?"
"ใช่ค่ะ ยูล นั่นใครหรอ?"
"สิก้าเองยูล"
เมื่อคนปลายสายบอกว่าตัวเองเป็นใคร ควอน ยูริ ก็แทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง
ในเมื่อเสียงปลายสายที่ก็นึกคุ้นอยู่เหมือนกัน จะเป็นผู้หญิงคนที่เขารัก รักมาตลอดจนถึงตอนนี้
จำไม่ได้แล้วว่าไม่ได้ยินเสียงหวานๆนั่นมากี่ปี...น่าจะสักราวๆ 3 - 4 ปี
"ยูล....สิก้ากำลังจะแต่งงาน"
"............"
"ฮัลโหลยูล ได้ยินอยู่มั้ย"
"...ยินดีด้วยนะสิก้า....."
และบทสนทนานั่น..ก็ผ่านมาแล้ว 2 ปี นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ร่างสูงได้ยินเสียงหวานๆของคนที่เขารักอย่างสุดหัวใจ
ถึงแม้เขาเอง ด้วยหน้าตา และ หน้าที่การงาน ที่พร้อมสรรพ ทำให้มีคนเข้ามาหาตลอดเวลา ใช่ว่าร่างสูงจะปิดตัวเอง
ผิดถนัด...ร่างสูงพยายามอย่างที่สุดที่จะเปิดหัวใจให้ได้รักใครอีกสักครั้งหนึ่ง...แต่มันก็เหมือนจะเป็นไปไม่ได้เลย...
ในเมื่อผู้หญิงที่เขารักมีอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น จอง เจสสิก้า
ใกล้แล้วสินะวันแห่งพันธะสัญญา….ร่างสูงพาตัวเองออกจากที่นอนนุ่ม ตรงเข้าห้องอาบน้ำไปทันที
เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้ว ก็เดินไปหยิบ พาสปอร์ตและตั๋วเครื่องบินที่วางไว้อยู่บนโต๊ะเล็กข้างเตียง
ลากกระเป๋าเดินทางใบย่อม กดล๊อคประตูคอนโด และมุ่งตรงไปสู่ สนามบิน นานาชาติ อินชอน
“อา~~ อากาศหนาวจังแฮะ”
ร่างสูงบ่นกับตัวเองเมื่อได้สัมผัสอากาศเย็นๆของทวีปยุโรป ที่บ้านเกิดก็ใช่ว่าจะไม่เย็น
แต่อากาศแบบนี้มันเย็นจนใจชาต่างหาก
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่ทำให้ ควอน ยูริ เดินทางข้ามทวีปมาถึงที่นี่ สถาปัตยกรรฒต่างๆรอบๆ
บ่งบอกอารยธรรมที่ยาวนานของยุโรปได้เป็นอย่างดี ตึกรามบ้านช่องที่ดูเหมือนถูกคงสภาพไว้แบบที่เคยเป็น
และแน่นอน...มหาวิหารแห่งนี้ “ดูโอโม แห่งเมือง ฟลอเรนซ์”
ร่างสูงก้าวเท้าขึ้นบันไดวนยาวจนไปถึงจุดชมวิวบนยอดของมหาวิหาร สูดอากาศเข้าไปจนเต็มปอด พลางสายตาก็เห็นคู่รักหลายคู่ขึ้นมาชื่นชมทัศนียภาพอันสวยงามนี่เหมือนกัน
“สวยตามคำร่ำลือจริงๆด้วยสินะ”
ร่างสูงอยากยืนดูวิวนี้กับเธอคนนั้นจริงๆ
“ถ้าสิก้ามายืนอยู่ข้างๆกันตรงนี้...ยูลคงมีความสุขมากนะสิก้า”
“แปะๆๆๆๆๆๆ”
สภาพอากาศของฝั่งยุโรปที่เอาแน่เอานอนไม่ได้เลยจริงๆ อยู่ดีๆฝนเม็ดใหญ่ก็ตกลงมาทำให้ร่างสูงต้องย้ายตัวเองเข้าไปหลบอยู่ในซอกทางเดิน
“เฮ้อ....จะมาตกอะไรตอนนี้เนี่ย ฟ้ากลั่นแกล้งกันชัดๆ”
ไม่ช้าไม่นานฝนที่ตกก็ค่อยๆจางหายไป...
ควอน ยูริ นำตัวเองออกมาจากซอกที่ทั้งเย็นทั้งชื้นเพราะฝนที่กระหน่ำลงมาเมื่อสักครู่
“ดีนะที่ตกวันนี้...วันนี้พรุ่งนี้อย่าตกเลยขอร้อง..จะให้ไปบนกับเทพเจ้าองค์ไหนก็ได้...อย่าตกเลยนะฝนจ๋า”
ใช่...พรุ่งนี้....พรุ่งนี้เป็นวันที่ร่างสูงรอคอยมาถึง 6 ปีเต็ม ถึงแม้ในใจจะรู้ดีว่า ทางฝ่ายเจสสิก้าคงแต่งงานไปแล้วและคงลืมสัญญาที่เคยให้กันไว้
แต่ก็อดหวังไม่ได้ว่าจะเกิดปาฏิหารย์กับคนที่ไม่เคยโชคดีเลยอย่างเขาสักครั้งหนึ่ง...
ร่างสูงพาตัวเองลงมาจากบันไดที่ทอดยาว เดินออกมาจากมหาวิหารซึ่งนี่ก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว
“อ๊ะ...ร้านกาแฟนี่...มาอิตาลีทั้งที ต้องลองกาแฟสักหน่อย เดี๋ยวมาไม่ถึง”
หลังจากสั่งรายการกาแฟที่ตนอยากจะดื่มเคล้ากับบรรยากาศที่สวยงาม
แต่ทำให้หัวใจของคนหนึ่งคนเงียบเหงาได้ขนาดนี้เสร็จแล้วก็เดินมาหย่อนก้นที่โต๊ะตัวเล็กๆริมหน้าต่าง....
ระหว่างที่มองไปเรื่อยๆ สายตาก็ไปสะดุดกับแผ่นหลังเล็กที่คุ้นเคย...แม้จะไม่ได้เห็นมานานแล้วก็ตามที
แผ่นหลังที่วันนั้น...ค่อยๆเดินลับจากเขาไปช้าๆ
วันนี้ก็เช่นกัน...แผ่นหลังบางนั่น...ค่อยๆเลือนหายเข้าไปในฝูงชน...
“สิก้า.........”
ความหวังเริ่มกลับเข้ามาในหัวใจ อย่างน้อยอีกคนก็ไม่ลืมสัญญาที่เคยให้กันไว้...
ต่อให้ถึงเวลานั้น..หากจะไม่ได้กลับมารักกันเหมือนเดิม...ควอน ยูริ คนนี้ ก็ขอแค่ได้พบหน้าอีกสักครั้ง
อยากจะบอกความรู้สึกในใจทั้งหมดให้ผู้หญิงที่เขารักได้ฟัง...
เมื่อวันแห่งสัญญามาถึง ยูริ รีบออกจากโรงแรมแต่เช้าตรู่ตรงไปยังร้านกาแฟร้านเดิมเผื่อว่าจะเจอคนที่เฝ้ารอ....
หากแต่ก็ไม่เจอ....หลังจากเสร็จกับกาแฟแล้วก็เป็นเวลาที่มหาวิหารเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมได้พอดี
ขายาวๆเดินขึ้นบันไดทีละขั้น ทีละขั้นอย่างเชื่องช้า จุดมุ่งหมายคือ ยอดสูงสุดของมหาวิหาร และ การปรากฎกายของใครหนึ่งคน
ร่างสูงทิ้งตัวเองลงกับพื้นหินอ่อนเย็นวาบ...มองคู่รักคู่แล้วคู่เล่า ฝ่านสายตาไปมา...
แล้วคนที่เขาเฝ้ารออยู่ล่ะ...เธอจะมาไหม...
จำไม่ผิดแน่ๆ หลังของหญิงสาวร่างบางผมทองนั่นต้องเป็นสิก้า
แม้เวลาจะผ่านมาหลายปี ภาพของเจสสิก้าก็ไม่เคยลบเลือนไปจากใจสักวินาที
นั่งรออยู่นานจนใกล้ถึงเวลาปิด...
“เมื่อวานคงจะตาฝาดไปเองสินะ เพ้อเจ้อจริงๆเรา คนแบบสิก้าจะมาใส่ใจอะไรกับคำสัญญาเด็กๆแบบนั้น ฟู่ววว”
บ่นเสร็จก็ปล่อยลมหายใจออกมายาวๆ จากที่ตอนแรกไม่ได้คาดหวัง...
แต่เมื่อเจอแผ่นหลังที่คุ้นตาทำให้ความคาดหวังมันเกิดมากขึ้น
แต่...ปาฏิหารย์ก็ไม่เป็นจริง
การรอคอยที่แสนยาวนานจบลงสักที....สัญญาสุดท้ายที่ให้ไว้ก่อนจะแยกทาง....จบสักที...
หัวใจมันชาจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ มือข้างหนึ่งต้องคอยดันกำแพงไว้เพื่อประครองตัวเองลงมาสู่พื้นด้านล่าง
“ตุ๊บ”
ร่างสูงชนเข้ากับใครบางคนที่กำลังวิ่งสวนขึ้นมา...
เมื่อเห็นแค่เสี้ยวหน้านั้น...แค่วินาทีนั้น...
“สิก้า!”
“ย...ยูล”
“สิก้า...สิก้าจริงๆใช่ไหม...ยูลไม่ได้เพ้อไปเองนะสิก้า”
ร่างบางปรายยิ้มให้ร่างสูง แต่เมื่อสังเกตุเห็นคราบน้ำตาของอีกคน
ก็อดจะยกมือขึ้นลูบใบหน้าคมที่เธอเคยรักหนักหนาไม่ได้
“เป็นอะไรคะคนเก่งของสิก้า...ร้องไห้ทำไม หืม?”
“ยูล...ไม่คิดว่าสิก้าจะมา...แต่สิก้าก็มา...ขอบคุณนะสิก้า ขอบคุณที่จำสัญญาของเราได้”
ไม่รอช้า และ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ร่างสูงนำริมฝีปากอิ่มของตนทาบกับของร่างบางพอดี
รสจูบที่โหยหามานานแสนนาน.....
“คิดถึง....” ร่างสูงพูดพลางสบตาอีกคนตรงหน้า
“สิก้าก็คิดถึงยูล”
คนเคยรักทั้ง 2 คน เดินคล้องแขนกันกระหนุงกระหนิงไปตลอดระหว่างทางกลับโรงแรมของร่างสูง
คนรักที่จากกันไปนานแสนนาน...วันนี้ทั้งคู่ได้กลับมาพบเจอกันอีกครั้ง...ในสถานที่แห่งพันธะสัญญา...
รู้หรือเปล่า...จริงๆแล้ว...ปาฏิหารย์ไม่ได้เกิดขึ้น....
แสงแดดที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ถึงเวลาที่จะต้องตื่นมารับอรุณใหม่แล้ว
ร่างสูงที่นอนอยู่ใต้ผ้าห่มนุ่ม..ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีเสื้อผ้าติดแม้แต่สักชิ้นเดียว..
ถึงจะไม่บอกก็คงจะเดาได้ไม่ยากว่าเมื่อคืน...หลังจากที่กลับมาถึงโรงแรมแล้ว...
อดีตคนรักทั้ง 2 จะคุยกันไปถึงไหนต่อไหน...
พลางได้สติก็ควานหาคนที่นอนกอดอยู่เมื่อคืนก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทรา...
มือเรียวยาวค้นพบแต่ความว่างเปล่า จึงพยายามฝืนลืมตาขึ้นมาดูก็พบว่า ร่างบางที่โหยหานั้นหาได้อยู่ข้างกาย
ในใจก็นึกว่าเธอคงลุกไปเข้าห้องน้ำกระมัง....
ดันตัวเองออกจากเตียงพร้อมเดินตรงไปยังห้องน้ำ...แต่กลับ..ว่างเปล่า...
สิ่งที่พอจะทำให้มีรอยยิ้มอยู่ได้บ้างคือ ตัวอักษรสีแดงตัวใหญ่ เขีนด้วยลิปสติกว่า “ I LOVE YUL ”
“คงจะออกไปหากาแฟกินล่ะมั้ง...”
มันเป็นแบบนี้ทุกทีที่เจสสิก้าตื่นก่อน...เธอจะหลับมาพร้อมกาแฟหอมกรุ่นเพื่อปลุกร่างสูงของเขาให้ลุกจากเตียง...
เดินคิดไปมาอยู่สักพัก....พลันก็เหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งวางอยู่ตรงโต๊ะหัวเตียง..
ด้านบนกระดาษที่พับไว้มีรอยลิปสติกสีเดียวกับบนกระจกห้องน้ำประทับอยู่...
ร่างสูงอดยิ้มไม่ได้กับความขี้เล่นของอดีตคนรัก เธอคงจะทิ้งโน้ตบอกว่า เดี๋ยวจะกลับมาพร้อมกาแฟอุ่นๆสินะ
พลางก็รีบคลี่กระดาษนั้นออกอย่างรวดเร็ว...
“ยูลคะ....สิก้าไม่เคยเลิกรักยูล....แต่ตอนนี้...สิก้าต้องกลับไปหาคนของสิก้า...ยูลยังจำได้ไหม...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...มันไม่ใช่เพราะสิก้าไม่รักยูล...สิก้ารักยูลเสมอ ตลอดมา และ ตลอดไป”
THE END
ผลงานอื่นๆ ของ ALL4YS ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ALL4YS
ความคิดเห็น