ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic KHR ] MY LOVE ❤ FOR ... (ⓝ)

    ลำดับตอนที่ #4 : [แถมพิเศษสำหรับ FC ฮิบาริ] Vincitore ผู้ชนะในวันนี้ (ภาค 2) [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 9 ธ.ค. 53


     


       

    Vincitore ผู้ชนะในวันนี้

    บ้านของใครสักคน

     

     

             เอ้า!! ว่าไง มากันพร้อมหน้าพร้อมตาเลยนะ ฮ่าๆๆ เฮ้ย!! นี่เจ้าฮิบาริก็มาด้วยเหรอเนี่ย โอ้ปรากฏการณ์แปลกใหม่ของธรรมชาติเลยนะเนี่ย

     

             เสียงของคนที่คุณก็รู้ว่าใครดังแว่วต้อนรับการมาเยือนของแขกเต็มที่ ทำเอาแขกหลายคนคิดในใจว่า มันตั้งใจให้คนที่มาเหยียบบ้านมันหูหนวกกันไปข้างหรือไงฟระ

     

             สวัสดีครับ คุณพี่ เสียงที่ดูใสซื่อของวองโกเล่รุ่นที่สิบเอ่ยทักทายเป็นคนแรก ซึ่งมันก็ทำให้เจ้าบ้านพอใจเป็นอย่างมาก

     

             “อ้าว!! แล้วเจ้ายามาโมโตะกับเจ้าหนูล่ะ?”

     

             “อ๋อ... ไปปฏิบัติภารกิจน่ะครับ อยู่ไกลมากเลย...” ชายหนุ่มที่อ่อนกว่าเอ่ยตอบด้วยเสียงนอบน้อม... พร้อมทั้งแอบคิด            ไกลจนไม่อาจกลับมาได้เลยมั้ง หึหึ

     

             “เอ้า!! แล้วหิวหรือยังล่ะ นี่ฮานะ... กับข้าวเสร็จหรือยังล่ะ?”

     

             “นี่!! อย่าใจร้อนสิ เล่นมากันแต่เช้า ใครมันจะไปทำทัน(วะ)” เสียงตวาดแหวดังมาจากในครัว พร้อมทั้งเจ้าของเสียงเดินบ่นออกมาจากในครัว

     

             เดี๋ยวฉันไปซื้อปลาหมึกก่อนนะ บอกกี่ทีๆแล้ว ว่าอย่าเอาของในตู้เย็นไปใส่ในกระสอบทราย ฮะ!! เรื่องบ้าๆแบบนี้ไม่มีใครเกินรุ่นพี่สุดขั้วของเราสักคน...

     

             “ขะ...ขอโทษจ้ะ เมียจ๋า~ ครั้งต่อไปพี่จะไม่ทำอีกแล้ว” ประโยคที่หลายคนแทบไม่เชื่อว่าจะออกมาจากปากของชายคนนี้ได้ พรั่งพรูออกมาพร้อมน้ำเสียงหงอยๆ

     

             โธ่!! ฮานะ มาสิ เดี๋ยวเราช่วยก็ได้ เสียงหวานใสตะโกนบอกให้คนข้างในซึ่งเป็นเพื่อนสนิทรับรู้ และทำท่าจะเดินเข้าไปในห้องครัวด้วย

     

             เอ่อ...เคียวโกะจัง เดี๋ยวเราเข้าไปช่วยด้วยนะ ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล

     

                ‘ไหนบอกว่าชวนตรูมากินข้าวเช้าไม่ใช่เรอะ ไหงกลายเป็นมาช่วยงานเค้าได้ละเนี่ย’

     

             หลายคนอาจจะลืมไปแล้วก็ได้ว่ายังมีคนอยู่ตรงนี้อีก 2 คน ใช่!! เค้าคนนั้นก็คือ ฮิบาริ เคียวยะ และ โกคุเทระ ฮายาโตะ นั่นเอง

     

             “เฮ้ย!! ฮิบาริ เราถูกลืมหรือเปล่าวะ” คนผมเงินเอ่ยถามด้วยความรู้สึกแปลกๆ

     

             “ไม่ใช่เรา แต่เป็นแกคนเดียวต่างหากล่ะเจ้าสัตว์กินพืช!!” ว่าแล้วก็เดินเข้าครัวตามสึนะและเคียวโกะจังไปทันที

     

     

             “อะ...ไอ้...ไอ้ฮิบารี๊...แก...” สโมคกิ้งบอมบ์ตะโกนไล่หลังไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

            

     

     

     

     

     

             “ฮิบาริ ฮิบาริ...” นกน้อยที่เกาะไหล่ของชายที่ได้ชื่อว่าเก่งที่สุดในวองโกเล่ เอ่ยเรียกชื่อผู้เป็นนายหลายรอบ จนเจ้านายของมันพูดตัดบท

             “เราจะไปก่อกวนใครบางคนกัน...”

     

     

     

     

             “อ้าว! เจ้าหัวปลาหมึก นี่แกก็อยู่ตรงนี้ด้วยเรอะ ไม่ยักกะเห็นเลยแฮะ” ซาซางาวะเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงประหลาดใจเป็นอย่างมาก

     

             “ตลกแน่ะ!! ฉันก็อยู่ตรงนี้พร้อมๆกับรุ่นที่ 10 มาตั้งนานแล้ว ชิชะ! เจ้าหัวไถหญ้าอย่างแกมีตาหามีแววไม่”

     

             “จะบ้าเรอะ ความจำเสื่อมหรือไง แต่ก่อนแกเรียกฉันว่าเจ้าหัวสนามหญ้าว้อย!! ไม่ใช่เจ้าหัวไถหญ้า”

     

             “ก็นั่นมันอดีตนี่หว่า!! ตอนนี้แกไม่ได้เกรียนเหมือนอย่างวันนั้นนี่นา หึ! แล้วแกยอมรับแล้วเรอะว่าตัวเองเป็นหัวสนามหญ้าน่ะ...”

     

             “หนอย... เจ้าหัวปลาหมึก ได้ที...”

     

             เอาเป็นว่าเราปล่อยเจ้าพวกนี้ไปก่อน แล้วตามไปดูในครัวกันดีกว่า...

     

     

     

     

     

     

     

             “ซือคุงนั่งรอก็ได้จ้ะ เดี๋ยวเราทำเองก็ได้” เคียวโกะจังอันแสนบริสุทธิ์ของเราเอ่ยขึ้นด้วยความหวังดี ตามสไตล์นางเอกแสนหวาน

     

             “ไม่เป็นไรหรอก เราไม่อยากให้เคียวโกะจังเหนื่อยน่ะ”

     

             “ซือคุงนี่เป็นคนดีจังนะ”

     

             “ฮื่อ... คงงั้นน่ะนะ” ชายหนุ่มเอ่ยตอบรับโดยไม่ปฏิเสธ แต่ในใจกลับอยากบอกอีกประโยคว่า...

     

                เป็นคนดีอย่างนี้ แล้วเคียวโกะจังรักไหมล่ะ

     

             แต่เพื่อป้องกันไก่ตื่น เขาจึงไม่สามารถพูดออกมาได้...

     

             “ฉันมาช่วย!!” เสียงใครสักคนดังขัดจังหวะความสุขของคนคนหนึ่งอย่างสิ้นเชิง ซึ่งถ้าคุณสามารถอ่านความคิดใครสักคนได้ คุณจะได้ยินว่า ไอ้มารหัวขน แกมันสัตว์กินสัตว์ด้วยกันเอง ไอ้...

     

             “อ่า... คุณฮิบาริคะ นั่งรอกับพี่ก็ได้นะ ตรงนี้มัน...”

     

             “ฉัน จะ ช่วย!!” ประโยคนี้เป็นประโยคที่เน้นย้ำเจตนาของฮิบาริ โดยที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจขัดได้ นกน้อยของฮิบาริซึ่งแต่แรกเกาะอยู่บนไหล่ บัดนี้จรลีไปหาบอสของวองโกเล่ซึ่งนั่งทำหน้าบูดอยู่ ตามคำสั่งเจ้านายคือ ก่อกวน!!

     

             ส่วนเจ้านายของมันก็หันไปช่วยซาซางาวะ เคียวโกะเพียงลำพัง โดยแอบหันมายักคิ้วเยาะเย้ยซาวาดะ ซึ่งตอนนี้วุ่นอยู่กับการไล่นกไปไกลๆตัวของเขา

     

             คิดว่าฉันจะยอมเรอะ หึหึ รู้จักซาวาดะ สึนะโยชิคนนี้น้อยไปซะแล้ว -*- ฉันไม่ได้ คนอื่นก็ต้องไม่ได้ด้วยว้อย!! แล้วไอ้นกบ้านี่ จะทำให้ฉันติดไข้หวัดนกหรือไงหนอย...

     

             “เออ...นี่ คุณฮิบาริครับ คือว่า... เรื่องงานน่ะครับ เรายังคุยงานไม่เสร็จเลยนี่นา...” สึนะ(คนใหม่) เอ่ยด้วยรอยยิ้มที่เป็นสัญลักษณ์ของตนเอง พร้อมทั้งเลิกไล่นก แล้วนั่งทำใจให้สงบนิ่งให้มากที่สุด

     

             “ฉันไม่สน” เจ้าของตำแหน่งผู้พิทักษ์เมฆาเอ่ยตอกกลับอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งหันไปสนใจผู้หญิงตรงหน้า ที่หันมามองพวกเขาเถียงกันไปเถียงกันมา แล้วแอบคิด ผู้หญิงคนนี้มีดีขนาดไหนกันนะ ถึงได้ทำให้เจ้าสัตว์กินพืชตัวนี้เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้

     

             “แต่ผมสน!!” พูดจบก็จับฮิเบิร์ดทันทีที่นกน้อยบินเข้ามาใกล้ ไวประดุจ กบกินแมลงวัน อนิจจา ฮิเบิร์ดน้อยของเรา...

     

             “นั่นจะทำอะไรน่ะ”

     

             “ซะ...ซือคุง ”

     

             “ฮิบาริ ทำไมนายเป็นคนอย่างนี้!!

     

             “อะไรของแก??” เจ้าของนาม ฮิบาริ เอ่ยถามออกไปด้วยความไม่เข้าใจ เป็นคนอย่างไหน? อะไรของมัน?

     

             “ก็ดูสิ!! นกตัวร้อนไปหมดแล้ว แกทำให้นกเป็นหวัดแล้วยังพานกมาเดิน เอ๊ย!! มาบินเล่นอีก นายนี่ชอบทรมานสัตว์หรือไงกันฮะ” วองโกเล่ว่าลูกน้องตัวเองอย่าง(ที่ดูภายนอกเหมือนจะ)โกรธเกรี้ยว

     

             ฮะ? เป็นหวัด? ไอ้เจ้าบ้านี่ทำอะไรของมัน?

     

             “คุณฮิบารินิสัยไม่ดีเลยเนาะเคียวโกะ!!” วองโกเล่หันไปถามเจ้าของดวงใจของตนอย่างหมายมั่น หึหึ ฮิบาริ แกนี่มันอ่อนต่อโลก(?)เสียจริง

     

             “พูดเรื่องอะไรกันจ้ะ ซือคุง ก็ไม่เห็นว่านกจะเป็นหวัดตรงไหนเลยนี่?”

     

             “ถ้าไม่เชื่อ เคียวโกะจังจะลองจับดูก็ได้นะ เนี่ย!! ตัวร้อนจี๋เลย”

     

             ว่าจบก็ชักชวนหญิงสาวเข้าไปจับตัวสัตว์เลี้ยงของลูกน้องตนเอง ซึ่งเธอก็ไม่ปฎิเสธ และเมื่อไปแตะเท่านั้นเอง ก็พบว่า...

     

             ว่า...

     

             “ตายแล้ว ตัวร้อนจี๋เลย หรือว่าจะเป็นไข้อย่างที่ซือคุงบอกจริงๆด้วย!!

     

                เป็นไปได้ไงฟระ??

     

             คาดว่าหน้าตอนนั้นของฮิบาริ  เคียวยะของเราคงดูไม่จืดเลยสินะ

     

             “ไหน ขอฉันดูหน่อย” เจ้าของนกตัวน้อยเอ่ยสั่ง พร้อมทั้งความคิดในหัวที่ตีกันจนยุ่งตาย และเมื่อเขาจับสัตว์เลี้ยงแสนรักของตน ก็พบว่า...

     

             “ตะ...ตัวร้อนจริงๆด้วย เป็นไปได้ไง?” ฮิบาริอดหลุดอุทานขึ้นมาไม่ได้ เขาดูแลประคบประหงมนกน้อยของเขามาอย่างดี เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่สัตว์เลี้ยงของเขาจะเป็นอะไร ทันใดนั้น! เขาก็ฉุกคิดได้  “หรือว่า?”

     

             “คุณฮิบาริคะ คือว่าเดี๋ยวฉัน...”

     

             “ไม่ต้อง นี่มันสัตว์เลี้ยงของฉัน เดี๋ยวฉันรักษาเองได้!!

     

             “ขะ...ขอโทษค่ะ” เมื่อโดนตะคอกใส่อย่างนั้น ไม่ว่าเป็นใครก็ต้องซึมไปถนัดตา เล่นเอาวองโกเล่ของเราอยู่ไม่ติด

     

                ถึงกุจะเลว แต่กุก็ยังมีจิตสำนึก(กับเคียวโกะ)ด้วยนะเฟร้ยยยยยยยย...

     

             “เอ่อ... ฮิบาริ ยังไม่รีบไปอีกเหรอ เดี๋ยวนกน้อยน่าสงสารก็หนาวตายหรอก...”

     

             “ฮึ่ม... เออ!! ฉันไปละ...” ว่าแล้วชายหนุ่มที่ไม่รู้ชะตากรรมของตนเองมาตั้งแต่ต้น ไม่รู้เรื่องว่าทำไมต้องมาหาวองโกเล่ ไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องมาที่บ้านเจ้าสัตว์กินพืชบ้ามวยนี่ด้วย ไม่รู้อะไรสักอย่าง!! หอบเอานกน้อยที่ ไม่รู้ว่าเป็นอะไร กลับไปรักษาคฤหาสน์ของเขา โดยที่ไม่ทันได้ทานข้าวที่บ้านของซาซางาวะเลยสักคำ

     

             “อ้อ! เดี๋ยว...” ผู้เป็นนายวิ่งมารั้งลูกน้องของตนไว้หน้าห้องครัว และพาเดินออกไปให้พ้นรัศมีสายตาคนที่อยู่ข้างใน ซึ่งมันทำให้ฮิบาริ  เคียวยะรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก...

     

             “เรื่องที่เราจะคุยกันมันเป็นเรื่องอะไรนะ? ฉันจำไม่ได้”

             . . .

     

             เจ้าสัตว์กินเนื้อความจำปลาทองเอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย... -*-

     

             “เดี๋ยวนายไปคุยกับโกคุเทระเอาเองก็แล้วกัน ฉันขี้เกียจพูดแล้วว่ะ อ้อ!! แล้วก็ขอสั่งงานแกไปอยู่อิรักสัก 6 ชาติอาทิตย์ละกัน ได้ข่าวแว่วๆว่าที่นั่นมีสาวสวย(?)อยู่ยั้วเยี้ยไปหมด จบการสั่งงานเพียงเท่านี้ ฉันไปละ เออ... ไม่ต้องเอาเจ้านี่ไปนะ แถวนั้นเขาชอบกินนกสีเหลือง ไปจริงๆแล้วล่ะ” วองโกเล่ร่ายด้วยหน้าตายิ้มแย้ม ซึ่งแฝงไปด้วยจิตสังหารอบอวลไปทั่วห้อง

     

     

             การแก้แค้นของวองโกเล่ จึงจบลงด้วยชัยชนะ ด้วยประการนี้

     

     

     

     

     

     

     

     

             หลังจากนั้น...

     

             “เอ่อ... เมื่อกี้ ซือคุงไปคุยอะไรกับคุณฮิบาริเหรอ?” สาวน้อยผมสีน้ำตาล เอ่ยถามวองโกเล่ด้วยความสงสัย หลังจากที่เห็นว่าวองโกเล่เดินกลับมาหน้าตายิ้มแย้มเป็นอย่างมาก

     

             “อ๋อ... เมื่อกี้เราพูดเรื่องดีๆกันนิดหน่อยน่ะ ไม่มีอะไรหรอก หึหึ” หน้าตาของวองโกเล่ช่างเข้ากับคำพูดได้ราวกับ...แอน ทองประสม เข้าสิง

     

             “งั้นเหรอ?? อืม... ช่างเหอะ นี่... ซือคุงมองความรักเป็นแบบไหนเหรอ?”

     

             . . .                                                

     

             หลังจากที่คำพูดนี้หลุดลอยไป แทบจะมีแต่ความเงียบ ใครๆก็คงไม่คิดว่าสาวน้อยคนนี้จะเอาเรื่องนี้มาถามกับเขา ซาวาดะ  สึนะโยชิได้ ซึ่งตอนนี้วองโกเล่ของเรารู้สึกลิงโลดในใจมากจนแทบระงับอารมณ์ไม่ไหว

     

             “เอ่อ... ไม่ต้องตอบก็ได้นะ เราแค่อยากรู้เฉยๆ ว่ามุมมองของเรากับซือคุงมันเหมือนกันหรือเปล่าน่ะ” หญิงสาวเอ่ยตัดบท เพราะเห็นว่าท่าทางคนตรงหน้าทำท่าเหมือนจะไม่อยากตอบคำถามของเธอ

     

             “ไม่รู้สิ...คิดว่า รักก็คงเป็นรักนั่นแหละนะ คำอธิบายมันก็บอกอยุ่แล้วนี่นา รักไงล่ะ แล้วเคียวโกะล่ะ”

     

             “รักของเรา คงจะเป็นการ...”

     

             “เคียวโกะจัง ทำอาหารเสร็จหรือยังล่ะ รอนานแล้วนะเนี่ย ว่าแต่พ่อประธานกรรมการหน้าโหดนั่นไปแล้วเรอะ? เหอๆ ดีเหมือนกัน มองหน้าแล้วน่ากลัวเป็นบ้า...” ฮานะพรวดราดเข้ามาขัดขวางบทสนทนาอันแสนมีสาระ(??)บทแรกของเรื่องไปอย่างน่าเสียดาย

     

             น่าแปลกที่วองโกเล่ของเราไม่ได้ทำหน้าตาจะกินเลือดกินเนื้อตามปกติ(ในเนื้อเรื่องของไรท์เตอร์ =w=) ซ้ำยังแอบอมยิ้มไว้ด้วยซ้ำ

     

             ไม่เป็นไร ถ้าจะไม่รู้คำต่อไปที่เคียวโกะจังจะพูด

     

             ไม่เป็นไร ถ้าไม่รู้ทัศนคติของเคียวโกะจัง

     

             ไม่เป็นไร ถ้าฮานะจะมาขัดจังหวะ

     

             เพราะแค่เคียวโกะจังถามเรา ก็สุดยอดแห่งความสุขเลยโว้ยยยยยยยยย...

            

     

     

     

     

     

     

    ส่งท้ายกับสึนะ

    แต่ถ้ากุไม่ได้กินข้าว กุก็หิวตายเหมือนกันนะเว้ยเฮ้ย -0-













     
    มอบหน้าที่ให้พี่สัตว์ทะเลไปแล้ว โอย... มาอัพแล้วนะเคอะ =w=M สู้ๆ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×