คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 0 ในที่สุดคุณหมีก็กลับมาหามิว!
บทที่ 0
ในที่สุดคุณหมีก็กลับมาหามิว!
“ดูเหมือนว่าแผนขโมยตัวผู้กล้าครั้งที่ 2 จะล้มเหลว”
“ครั้งที่ 3 ต่างหาก! ก็บอกแล้วไงว่าคาแรคเตอร์แบบพระเอกรุ่นโหลน่ะมันใช้ไม่ได้แล้ว”
แขกที่นั่งตรงข้ามกับเขาสวนกลับทันควันด้วยอาการฉุนเฉียว แขกผู้นี้เพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นพลเอก หลังจากตรากตรำทำงานในตำแหน่งพลโทมาสองพันกว่าปี เขาภาคภูมิใจในตำแหน่งมากเสียจน ตั้งแต่รับตำแหน่งมาจนถึงบัดนี้ เขาไม่เคยสวมชุดอื่นเลยนอกจากชุดเครื่องแบบพลเอก
ตั้งแต่คุยกันมานี่เขาจัดชุดเป็นรอบที่สิบแล้ว...
“ก็แหม ครั้งที่ 2 ผู้กล้าที่ถูกขโมยตัวมาไม่รู้ตัวนี่นา” คิระ อดีตผู้กล้าเกาหัวบ่น
พลางนึกไปว่าจริงๆแล้วใช้คำว่า ‘ผู้กล้า’ คงจะไม่เหมาะสมเท่าใดนัก เปลี่ยนเป็น ‘ภารกิจขโมยตัวร้าย’ จะเหมาะสมกว่า แต่ก็อีกนั่นแหละ ถ้าใช้คำว่าตัวร้าย มันก็คงจะไม่ใช่ ‘ภารกิจขโมยตัวผู้กล้าครั้งที่ 2’ แต่ได้เป็น ‘ภารกิจขโมยตัวร้ายครั้งที่ 1’ แทน
ด้วยลักษณะทางสรีระระหว่างเผ่าพันธุ์ด้าน ‘ความสูง’ ที่ต่างกันพอสมควร คิระเสนอให้แขกนั่งลงบนโต๊ะ พวกเขาจะได้พูดคุยกันอย่างเท่าเทียม ทว่าท่านนายพลแห่งกองทัพแบลร์กลับตอบโต้ว่านั่นเป็นการดูหมิ่นกันอย่างร้ายกาจ เรื่องจึงลงเอยด้วยการปูฟูกนั่งห้าชั้นบนเก้าอี้ ซึ่งนั่นไม่ต่างอะไรจากการนั่งลงบนโต๊ะนัก
แขกว่ายังไง ก็ตามนั้นก็แล้วกัน.....
“จะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว เธอก็ข้ามมาที่นี่และทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เราลักพาตัวใครข้ามมาคนนั้นก็คือผู้กล้า พูดก็พูดเถอะคนที่สองนี่แจ่มว้าวสุดๆ แถมยังไม่ทันข้ามมาคิงแบลร์ก็นับเธอเป็นเพื่อนแล้วเจ๋งกว่านี้ไม่มีแล้วโว้ย ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่าอะไรบังตาท่านผู้กล้าทั้งเจ็ดให้เลือกแกงค์พระเอกนั่นแทนที่จะเป็นเธอ”
ท่านนายพลที่ไม่ชอบใจผู้กล้ารุ่นที่ 3(อย่างเป็นทางการ) ตบโต๊ะปังๆด้วยอาการขุ่นมัวอย่างยิ่ง
“แล้วดูสิว่าเกิดอะไรขึ้นกับพระเอกพวกนี้ ยังไม่ทันจะทำจุดหมายสำเร็จก็เกมโอเวอร์ไปคนหนึ่งแล้ว ทำงานยังไม่ทันคุ้มค่าเปิดมิติเลย”
“แหม อย่าประชดกันสิท่านพลเอกโฮรัส 06” ชายหนุ่มเกาท่าทางลำบากใจมาก “ว่าแต่คิงแบลร์นับเธอเป็นเพื่อนเหรอ?”
ไปรู้จักกันตอนไหนล่ะนั่น หรือจะรู้จักกันผ่านเกม คิงแบลร์ถูกพวกลูกน้องเอาไปทำเป็นตัวละครหลักในเกมนี่นา
ท่านพลเอกตอบหน้าขรึมว่า
“เธอเป็นเด็กปั้นของเจ้าหมอนั่น ก็ไม่เชิงเด็กปั้นเหมือนเมอาร์ เขาเคยทำหน้าที่ผู้ปกครองให้เธอพักใหญ่ ภารกิจขโมยตัวผู้กล้าคนแรกจะยากลำบากยิ่งกว่านี้ถ้าเธอไม่ให้ความช่วยเหลือ ยังไม่ทันเริ่มภารกิจเราก็ติดหนี้เธอไปแล้วสามเรื่อง เห้อ จนถึงตอนนี้เราติดหนี้รวมกันเป็นร้อยเรื่องแล้วล่ะมั้ง”
ที่แท้เธอก็คือเด็กที่ท่านนายพลหมีผู้เป็นตำนานตัวนั้นชอบเล่าให้เมอาร์ฟังบ่อยๆนั่นเอง
เข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงนับหมีพวกนี้เป็นเพื่อน
และก็เข้าใจแล้วว่าทำไมทหารสายพิเศษที่เป็นอดีตลูกน้องของเขาถึงได้ทำท่าผิดหวังนักที่ผู้กล้ารุ่นที่ 3 ไม่ใช่เธอ
“จริงๆเด็กพวกนั้นก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น” คิระว่าแต่อีกฝ่ายดูจะไม่พอใจคำตอบนัก
“ยังไม่ดีพอกับไม่เอาไหนมันต่างกันตรงไหนห้ะ”
“ฉันคิดว่าก็ไม่ค่อยต่างกันหรอกเพราะผลลัพธ์ของทั้งสองคือสิ่งเดียวกันนั่นคือความพ่ายแพ้ เพราะงั้นฉันถึงเรียกคุณมาคุยเรื่องการลักพาตัวผู้กล้าครั้งที่ 3 อย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 4 ก็ได้” คิระรีบพูดเมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามตั้งท่าจะเถียง
ท่านพลเอกกอดอกโคลงศีรษะแสดงอาการรับรู้แล้วบอกให้เขาพูดต่อไป
“ฉันเองก็คิดไม่ต่างกับคุณหรอก ผู้กล้าประเภทพระเอกแบบอะไรนะ รุ่นโหลใช่ไหม นั่นล่ะมันไม่เวิร์คมาก พวกเขาเข้ามาเพื่อโดนพวกตัวร้ายตบหัวเล่นชัดๆ เวลาผ่านมาเป็นสิบปีแล้วแต่ภารกิจไม่ขยับไปไหน ประเมินให้ภารกิจครั้งที่ 3 ล้มเหลวไปเลยก็ได้มั้ง...”
หึ ท่านนายพลพูดต่อโดยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายแก้ตัวแทน
“พวกพระเอกน่ะไม่เข้าท่า ตัวร้ายพัฒนาไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้พวกนี้ยังอนุรักษ์วิถีดั้งเดิมอย่างการรอพึ่งแต่โชค ปกป้องนางเอกทั้งที่ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด หวังให้สวรรค์ส่งอาวุธโกงๆลงมาให้ เชื่อในพลังของพวกพ้องที่ไม่เอาไหนพอกัน ไอ้ของพรรค์นี้มันใช้สู้กับพวกตัวร้ายสมัยนี้ไม่ได้แล้วโว้ย!”
นายพลโฮรัส06 ตบโต๊ะปังๆพร้อมกับด่าไปด้วยว่าสมัยนี้มันหมดยุคผู้กล้าหวังพึ่งโชคแล้ว
ชายหนุ่มยกมือขึ้นเกาหัว พลางบ่นว่าเขารู้สึกเหมือนถูกหลอกด่าเลย ไอ้เรื่องที่ท่านนายพลพูดมานั่นเขาทำครบทุกเรื่องเลย...
“ผมรู้ว่าเราใช้วิธีเดิมไม่ได้แล้ว ถึงได้วางแผนพาตัวร้ายมาเป็นผู้กล้าไงล่ะ”
ในเมื่อผู้กล้าปราบตัวร้ายมันไม่เวิร์ค งั้นก็ให้ตัวร้ายปราบตัวร้ายแล้วกัน
.
.
ตึกบรุนเน็ตไม่ใช่ตึกที่สูงที่สุดของเมืองแอนดิเออร์ก็จริง หากแต่มันมีชื่อเสียงอันโด่งดังในฐานะตึกที่พักอาศัยที่หรูหราที่สุด ตึกนี้มีความสูงยี่สิบแปดชั้น สี่ชั้นแรกเป็นห้างสรรพสิค้าและร้านอาหาร สิบชั้นต่อมาเป็นโรงแรมหรูที่ขึ้นชื่อในเรื่องการบริการชั้นหนึ่งและทิวทัศน์ที่ยากจะหาโรงแรมอื่นมาสู้ได้
ตึกบรุนเน็ตมีสองด้านที่มองเห็นทะเล มีหนึ่งด้านที่มองเห็นทิวทัศน์ภูเขา และมีหนึ่งด้านที่มองเห็นทิวทัศน์ของมหานครแอนดิเออร์ เมืองที่ไม่เคยหลับใหล
หากแต่สิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้แก่บรุนเน็ตอย่างแท้จริงคือชั้นดาดฟ้าของตึกที่มีรูปร่างเหมือนขั้นบันไดลดหลั่นกันลงมาห้าชั้น
แต่ละชั้นประกอบไปด้วยบ้านแฝดสองหลังคั่นกลางด้วยสวนหย่อมและสระว่ายน้ำ ถึงจะเรียกว่าบ้านแฝดทว่ามันกลับไม่มีส่วนใดเกี่ยวข้องกัน ยกเว้นแต่เพียงหน้าตาที่มองดูคล้ายฝาแฝดและมีผนังด้านหนึ่งที่ถูกสร้างติดกันก็เพียงเท่านั้น
บ้านทุกหลังมีสามชั้นเหมือนกัน มีสนามหญ้าด้านหน้า กั้นจากพื้นที่สาธารณะด้วยรั้วขนาดใหญ่เหมือนบ้านจริงทุกประการ ต่างเพียงแค่มันตั้งอยู่บนตึกสูงและมองเห็นทิวทัศน์ที่บ้านด้านล่างไม่มีทางจะมองเห็นได้
มันถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันด้วยช่างมือหนึ่งเพื่อให้สมกับราคาของมันที่มีเพียงมหาเศรษฐีเท่านั้นที่สามารถครอบครองเป็นเจ้าของได้
เป้าหมายในการลักพาตัวอาศัยอยู่ที่นี่
.
.
เด็กหนุ่มทั้งสองกำลังนั่งยานกลับบ้าน พวกเขาต่างคนต่างนั่งเงียบ ไม่มีใครพูดอะไร คนเป็นพี่นั่งกอดอก ขยับขาข้างหนึ่งไปมาอย่างกระสับกระส่าย คิดในใจว่ามิวหายโมโหรึยัง พี่ไม่อยู่แบบนี้พวกเขาจะรับมือยังไงดีล่ะ
พวกนั้นก็ไม่อยู่แล้วเหมือนกัน…
จู่ๆหัวใจของเด็กหนุ่มพลันรู้สึกอ้างว้างขึ้นมา
“หมีกลับมาแล้ว”
คำพูดของน้องชายที่นั่งเงียบข้างๆทำให้เด็กหนุ่มหันขวับไปมองอีกฝ่ายทันที คนเป็นน้องชายกำลังเช็ดเลือดกำเดาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“พวกพี่ทำงานล้มเหลวงั้นเหรอ!”
“เรื่องนี้นายแปลกใจเหรอ?”
อีกฝ่ายถามด้วยสีหน้า ถ้ามันสำเร็จสิถึงจะน่าตกใจ
คนผมทองอยากเอาเท้าก่ายหน้าผาก
“ขอร้องอัลเลน หนึ่งในนั้นคือพี่ชายนาย”
ไม่ให้กำลังใจแล้วยังมาซ้ำเติมอีก นี่นายเป็นน้องชายพวกเราจริงไหมเนี่ย
“ฉันถึงรู้ไงว่าพี่ทำได้แค่นั้น”
“…”
ฟังแล้วเจ็บกว่าเดิมอีกแฮะ…
เด็กหนุ่มผมทองคิดว่าเขาไม่น่าคาดหวังเลยว่าน้องชายจะทำตัวเหมือนคนปกติ หวังเองแล้วก็เจ็บปวดเอง การเป็นพี่ชายนี่มันช่างยากจริงๆ
“เป้าหมายคือใคร”
“มิวคนเดียว”
เด็กหนุ่มผมเทาเช็ดเลือดที่ไหลลงมาจากจมูกไม่ยอมหยุด เขาเช็ดเพราะไม่ต้องการให้มันเปื้อนเสื้อ ขี้เกียจตอบคำถามพี่ เขาไม่ได้สนใจเรื่องที่มันไหลไม่หยุดเลย
“สถานการณ์แย่มาก”
“อะไรแย่” คนเป็นพี่สงสัย
“พลังงาน พลังงานสุดท้ายของเกียร์ถูกใช้เดิมพันกับมิวเรียบร้อยแล้ว”
ในที่สุดดาวดวงนั้นก็พัฒนาสักที หลังจากย่ำอยู่กับผู้กล้าแนวเดิมมานาน
.
.
“เป้าหมายหลับสนิทครับ”
“ดีมาก เริ่มการลักพาตัวได้”
“เดี๋ยวก่อนครับท่านนายพล อย่าลืมสั่งตั้งแถวด้วย!”
โอ้ นายพลร็อบ01 ตื่นเต้นจนลืมเรื่องสำคัญไปเลย เขาสั่งลูกน้องตั้งแถวแล้วนำตัวเป้าหมายเคลื่อนผ่านไป นี่เป็นเกียรติสูงสุด มีแค่คนที่ได้รับการยอมรับจากพวกเขาเท่านั้นถึงจะได้รับสิทธินี้
“เวลา 07:07 พายุอ่อนกำลังลงแล้วครับ”
“เปิดมิติได้ ภารกิจลักพาตัวผู้กล้าสำเร็จแล้ว ออกเดินทางกลับบ้านเรากัน”
นายพลร็อบกวาดตามองรอบๆ เขาคงไม่มีโอกาสได้กลับมาลักพาตัวผู้กล้าที่นี่อีกแล้ว เขาหันไปมองเด็กสาวหน้าตาน่ารักที่นอนหลับสนิทบนยาน
ในที่สุดก็ได้ตัวเธอมาแล้ว
เอาล่ะรีบกลับบ้านกันดีกว่า
.
.
เด็กหนุ่มสองคนเดินตรงไปยังหาดทรายที่เมื่อครู่ยานปฏิบัติการณ์ธันเดอร์เบิร์ดเพิ่งมุดออกไป คนผมทองบ่นว่าสภาพยานแย่มาก หวังว่าพวกนั้นจะไม่เป็นไร
เด็กหนุ่มผมสีเงินที่เลือดกำเดาหยุดไหลแล้วเดินตรงไปยังตำแหน่งที่ยานมุดหายไป เขาลากฝ่ามือผ่านจุดนั้นไปอย่างช้าๆ เลือดที่เคยหยุดไหลกลับมาไหลอีกรอบ
“มันปิดไม่สนิทงั้นเหรอ” อีกคนถามอย่างแปลกใจ
“ไม่ พายุแรงมาก พอยานออกไปพายุก็กลับมาแรง ตอนนี้แม้แต่แมวก็น่าจะปลิว”
“พายุหยุดแค่ตอนที่มิวออกไป?”
“ประมาณนั้น”
โห ช่างสมกับเป็นมิวจริงๆ แต่ก็อีกนั่นแหละ พอเป็นมิวแล้วนี่ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“แล้วพวกเราจะทำยังไงต่อ?”
พี่ไม่อยู่ จีซัสไม่อยู่ มิวไม่อยู่ บ้านเขาไม่เหลือใครแล้ว!
คนเป็นน้องปาดเลือดทิ้ง เลือดหยุดไหลอีกครั้ง
“เตรียมตัวเล่นกับแมว”
??
แจ้งเตือนมีแค่บทที่ 0 ค่ะ กดไล่อ่านไปเลยนะ เรายังไม่ได้นอน ลงเสร็จแล้วจะไปนอนละ
บทที่ 0-10 ลงให้อ่านเลย
บทที่ 11-20 จะตั้งอัพวันละตอน ขอโปรโมตวันละรอบหน่อย จะติดล่วงหน้าไว้สำหรับคนอยากอ่านก่อน
บทที่ 20-จบพาร์ทจะติดเหรียญ ตอนละ 10 เหรียญ
พอขึ้นพาร์ทใหม่ก็จะเป็นแบบเดิมค่ะ เนื้อเรื่องมันจบเกือบสมบูรณ์ในพาร์ท มีแค่ปมใหญ่ที่ต่อไปเรื่อยๆ จะได้ไม่ค้างคา ขอบคุณทุกคนมากที่เข้ามาอ่าน /ไหว้ย่อ
ความคิดเห็น