ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GEAR อัพจนจบภาคแรกเลย

    ลำดับตอนที่ #12 : บทที่ 10 มิวจะแก้แค้นให้เธอเองเบ๊พอจะพึ่งพาได้

    • อัปเดตล่าสุด 31 พ.ค. 66


    บทที่ 10

    มิวจะแก้แค้นให้เธอเองเบ๊พอจะพึ่งพาได้



     

    “งานนี้เป็นงานที่ซอเซอเรอร์ของพวกเราเตรียมการกันนานถึงสองปีเพื่อล้างแค้นเจ้าพวกเซเวน” รีรีน่าเล่าเรื่องการล้างแค้นด้วยท่าทางอัดอั้นตันใจ 

    “สามปีก่อนที่เซเวนเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม นอกจากท่านพี่ฟรานซิสกับผู้ดูแลของเขาแล้วคนของเราไม่มีใครผ่านดันเจียนของพวกเซเวนเลยค่ะ ฮึ่ม ในขณะที่พวกเซเวนผ่านกันเกือบครึ่งเลยคุยโวข่มพวกเรามาถึงตอนนี้ 

    การที่ต้องถูกเจ้าพวกวอริเออร์ที่ดีแต่ใช้กำลังข่มนี่มันน่าเจ็บใจสุดๆไปเลย ถึงฉันจะพยายามปลอบใจตัวเองว่าคนที่เจ้าหน้าที่เซเวนส่งมาทดสอบมีเสจมาสเตอร์ตั้งสามคน เอสไรเดอร์อันดับหนึ่ง มาสเตอร์จีซัส มาสเตอร์ชิน มีแต่พวกหัวกะทิทั้งนั้นแต่ว่าฉันก็ยังเจ็บใจอยู่ดี!” 

    ไม่ว่าจะคิดยังไงเซเวนก็ได้เปรียบกว่าชัดๆ แต่เซเวนเป็นเจ้าภาพ เธอจะบ่นอะไรมากก็ไม่ได้ เลยต้องเก็บความเจ็บใจไว้เงียบๆแบบนี้คนเดียว

    “ฟังแล้วเจ็บจี๊ดขึ้นมาเลยแฮะ” มิวเดาะลิ้นด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง 

    ถึงเธอจะไม่ชอบอากาศหนาวเข้ากระดูกของที่นี่แต่นครเหนือนั้นคือบ้านเกิดของวิซาร์จ แล้วมิวก็เป็นวิซาร์จ(ถึงจะไม่ค่อยได้ใช้สกิลของวิซาร์จแล้วก็เถอะ) อีกทั้งตอนนี้เธอยังเป็นคนของเอสตราด้า การถูกเจ้าพวกดีแต่ใช้กำลังแบบวอริเออร์หยามนี่มันเจ็บไปถึงกระดองใจจริงๆ 

    โดยเฉพาะ พวกที่หยามเธอนั้นมีพวกเคเอสรวมอยู่ด้วย 

    เบ๊พอจะพึ่งพาได้เธออยากให้พวกเซเวนสอบตกยกชั้นไหม” มิวหันไปถามรีรีน่าด้วยรอยยิ้มที่เรียกได้เต็มปากว่าดูใสซื่อและน่ารักมาก 

    แต่ทำไมรีรีน่าถึงได้รู้สึกขนลุกขึ้นมาก็ไม่รู้!

    “แน่นอนค่ะ!” รีรีน่าตอบเสียงดังฟังชัด

    “งั้น” มิวขยับยิ้มกว้างขึ้น 

    รีรีน่ารู้สึกราวกับว่าอากาศในห้องเย็นลงอย่างรวดเร็ว แม้เธอจะชินกับอากาศหนาวเย็นของนครเหนือแต่ตัวก็ยังสั่น 

    “เดี๋ยวฉันจะจัดการล้างแค้น ไม่ใช่สิ สั่งสอนเจ้าพวกเซเวนให้รู้สำนึกเองว่าของจริงมันเป็นยังไง”

    หรือจะเรียกว่า ‘การทักทายพวกเคเอส’ ก็ได้เหมือนกัน หึหึหึ

    .

    .

    มิวกำลังปรับแต่งดันเจียนอยู่ที่หอคอยขาว ตอนที่คิระปรากฏตัวขึ้นกลางห้องอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง เด็กสาวหัวเราะคิกคักอย่างชั่วร้ายเมื่อจินตนาการไปถึงสีหน้าของเจ้าพวกเซเวนตอนที่พบว่าพวกเขาถูกหลอกให้สร้างอุปสรรคขึ้นมาฆ่าตัวเอง 

    “เธอนี่สุดยอดสมกับที่พวกหมีแผนกสร้างเกมชมแล้วชมอีกจริงๆ” 

    ชายหนุ่มหน้าตาเฉื่อยชาเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา โผล่มาปุ้บก็หยิบแบบแปลนดันเจียนที่มิวเพิ่งปามันใส่หน้าซอเซอเรอร์ของหอคอยขาวไปเมื่อสองวันก่อนขึ้นมาดู 

    แค่เห็นแปลนเขาวงกตกับตำแหน่งมอนสเตอร์ชายหนุ่มก็รู้ทันทีว่านี่คือ ‘ดันเจียนพิฆาตเคเอส’ ที่มิวเคยใช้มันขังสมาชิกเคเอสค่อนกิลด์ไปเดือนหนึ่งเต็มๆ 

    ดันเจียนผู้เล่นกล่าวว่าเป็นดันเจียนที่สยองขวัญที่สุดในประวัติศาสตร์เกมเกียร์

    ให้การยืนยันโดยพวกหมีแผนกสร้างเกม!

    “ได้ยินว่าพวกซอเซอเรอร์ของหอคอยขาวใช้เวลาสร้างดันเจียนเป็นปีเลยนี่ เธอทำยังไงถึงได้เปลี่ยนใจพวกนั้นได้ล่ะ”

    ถึงจะเป็นเอสตราด้าสายเลือดหลักแต่ก็ใช่ว่าจะแทรกแซงทุกเรื่องของหอคอยขาวได้

    “นายมาแอบดูแปลนดันเจียนมิวไปบอกพวกเซเวนงั้นเหรอเจ้าเฉื่อย!”

    มิวชี้นิ้วไปทางคนที่เข้ามาในนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตด้วยสีหน้าเอาเรื่อง แต่เพราะเธออยู่ในชุดหมีแกะ พอรวมกับหน้าตาของมิวแล้วมันเลยดูน่ารักมากกว่าน่ากลัว

    ชายคนนั้นเกาหัวด้วยความงง ทำไมเขาถูกกล่าวหาว่าจะมาขโมยแปลนดันเจียนไปให้พวกเซเวนได้ล่ะนั่น? 

    “ใจเย็นก่อนมิว เขาเป็นเพื่อนของฉันเองจ้ะ” ฟิโอน่า เอสตราด้าที่แต่เดิมเผลองีบไปแล้วสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนมิวโวยวายรีบบอก พลางขยี้ตาเพื่อไล่ความง่วง 

    รีรีน่าที่อดนอนมาแล้วสามคืนติดเป็นลมไปแล้ว เธอเลยมาอยู่เป็นเพื่อนมิวแทน มิวเองก็ไม่ได้นอนมาแล้วสามคืนเท่ารีรีน่า ทว่าเธอกลับดูสดชื่นแจ่มใสเหมือนคนนอนเต็มอิ่ม 

    ฟิโอน่าเริ่มจะเข้าใจบ้างแล้วว่าทำไมพวกที่ไปแฝงตัวในเกมถึงบอกว่ามิวถึกผิดมนุษย์

    “มิวผ่านดันเจียนของพวกนั้นได้ด้วยตัวเปล่า แถมยังใช้เวลาแค่สิบห้านาทีด้วย ทำเอาพวกซอเซอเรอร์ช็อคกันหมดทั้งหอคอย เห้อ”

    ไม่ช็อคก็ไม่รู้จะว่ายังไงดีแล้ว ดันเจียนที่ลงทุนลงแรงมาหลายปีถูกถล่มโดยคนที่ไม่มีแม้แต่เลเวล ตัวเปล่า และใช้เวลาสิบห้านาทีด้วย!

    สามีของเธอเล่าให้ฟังว่า หมีพวกนั้นให้การยอมรับว่ามิวเป็นเทพดันเจียนของแท้ยิ่งกว่าแท้ เทพในด้านการสำรวจ แล้วก็เทพในด้านการสร้างดันเจียนด้วย ถ้าไม่ติดว่าค่าตัวแพงมาก พวกหมีจะจ้างมิวไปทำงานให้แล้ว

    ดันเจียนที่มิวออกแบบนั้นอยู่ในมาตรฐานเดียวกันกับดันเจียนของพวกเขา

    ฟิโอน่าเลยไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่มิวถล่มดันเจียนทดสอบได้ง่ายๆ ก็มันง่ายสำหรับมิวจริงๆ

    “มิวยื่นข้อเสนอว่าเธอจะปรับแต่งดันเจียนขึ้นมา แล้วให้พวกนั้นเอาไปทดลอง แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะใช้อันไหน” ข้อเสนอนี้ซอเซอเรอร์พวกนั้นไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้วเลยตอบตกลง

    “แต่ก็คงใช้ของมิวนั่นแหละ แค่สามห้องแรกพวกนั้นก็สยองจนไม่กล้าไปต่อ...” 

    ได้ยินว่าบางคนในทีมที่ลงไปทดสอบถึงกับหลอนจนเก็บไปฝันร้ายซ้ำๆ และหลายคนยังคงมีอาการหวาดผวาดันเจียนห้องที่สามมาจนถึงตอนนี้ 

    แต่ดันเจียนทั้งหมดมีถึงยี่สิบห้อง 

    ฟิโอน่าจินตนาการไม่ออกจริงๆว่าห้องที่เหลือมันจะน่าสะพรึงกลัวขนาดไหน... 

    มิวยืดตัวรับคำชมทันทีพร้อมบอกให้ฟิโอน่าชมเธออีกเยอะๆ ดันเจียนของเธอน่ะไม่ใช่ดันเจียนกระจอกที่เล่นกับของง่ายๆอย่างทางซับซ้อนเล็กน้อยหรือบอสเทพๆหรอกนะ 

    ดันเจียนที่มิวปรับแต่งน่ะเล่นกับการล่อลวงและการส่งเสริมกันระหว่างสภาพแวดล้อมกับมอนสเตอร์ที่ทำงานเข้าขากันได้อย่างดีต่างหากล่ะ! ไอ้เรื่องพรรค์นี้น่ะมีแค่คนที่เคยไปเหยียบดันเจียนครบทุกที่ในเกียร์เท่านั้นถึงจะทำแบบนี้ได้ 

    มิวนี่ช่างฉลาดจริงๆ หึหึหึ

    “ที่แท้เธอข่มขวัญพวกเขาแบบนี้นี่เอง” เขาเป็นคนฟังยังอดขนลุกไม่ได้ แล้วก็รู้สึกว่ารับมือเธอไม่ไหวด้วย รีบแนะนำตัวดีกว่า 

    “ฉันคือเจ้าของแผนการลักพาตัวเธอมาที่นี่ ยินดีที่ได้พบกันราชินีของเดวิล”

    มิวทำหน้าแปลกๆกับการแนะนำตัวนั้น เธอกอดอกพูดว่าเธอต้องรู้จักเขาอยู่แล้วสิ ถ้าไม่รู้จักมิวคงไม่พูดหรอกว่าเขามาที่นี่ตอนนี้เพื่อที่จะขโมยแปลนดันเจียนไปบอกพวกเซเวน

    “น้องชายนายกับเพื่อนซี้เป็นบอสใหญ่ของเจ้าพวกนั้นนี่!”

    คิระไม่แน่ใจว่าเขาควรจะประหลาดใจกับเรื่องไหนก่อนดี ไม่สิ แก้ตัวก่อนดีกว่า ถูกมิวหมายหัวว่าเป็นศัตรูนี่ทำให้เขารู้สึกสยองขวัญขึ้นมาเลยล่ะ

    “ฉันกำลังโดนเจ้าพวกนั้นแบนเรื่องพาตัวเธอมาโดยไม่ปรึกษา หมายถึงฉันไม่ได้บอกว่าพาใครมา พวกนั้นไม่พอใจน่ะ คิดว่าฉันเยาะเย้ยที่พวกรุ่นก่อนทำงานล้มเหลว”

    มิวที่ได้ยินร้องโอ้ะแล้วไล่ให้คิระรีบกลับไปเยาะเย้ยเสจมาสเตอร์พวกนั้นซะ ไม่เย้ยตอนนี้เดี๋ยวก็ได้เย้ยเพราะมิวทำภารกิจทุกอย่างสำเร็จในเวลาสั้นกว่าแน่นอน!

    “ไม่ใช่ว่าสองในสามเป็นเพื่อนเธอหรอกเหรอ”ฟิโอน่าท้วง

    “มิวเยาะเย้ยหมอนั่นเป็นเรื่องปกติน่ะ!”

    ถึงจะไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่ฟิโอน่าจะคิดว่านี่เป็นเรื่องในครอบครัว คิดซะว่าเธอเป็นคนนอกย่อมไม่เข้าใจเรื่องนี้!

    “นั่งก่อนสิเจ้าเฉื่อยคิระ นายคิดออกแล้วสินะว่าจะขอให้มิวทำอะไรให้ พูดมาสิมิวรอฟังอยู่”

    มิวในชุดหมีแกะผายมือเชิญให้คิระนั่ง ทำเอาชายหนุ่มงง

    นั่นมันบทเขาไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขาถึงกลายเป็นแขกส่วนเธอเป็นเจ้าของที่ได้ล่ะ?

    ถึงจะสับสนแต่คิระก็นั่งลงตามคำเชิญ

    ฟิโอน่าเห็นว่าคิระมาแล้วเธอเลยขอตัวไปชงเครื่องดื่มร้อนให้ตัวเองสักแก้วเพื่อไล่ความง่วงแล้วก็จะได้เตรียมโกโก้มาให้มิวด้วย อันที่จริงหญิงสาวไม่อยากจะรู้เรื่องที่สองคนนี้คุยกันนัก เธอคิดว่ายิ่งรู้น้อยเท่าไหร่ตอนถูกอิริคไล่บี้ทีหลังเธอก็ยิ่งปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น 

    หลังจากที่ราชินีหิมะออกไปแล้วมิวก็หันไปจ้องชายหนุ่มหน้าตาเฉื่อยชาไร้ซึ่งสง่าราศรีและความน่ากลัวที่นั่งลงบนโซฟาตัวหนึ่งที่มีคุณหมีแกะนั่งอยู่ด้วย

    “เธอรู้จักฉันด้วยเหรอ หมายถึงหน้าตา”

    “มีแค่พวกชอบสกิปข้ามฉากคัตซีนเควสเท่านั้นแหละถึงจะจำหน้านายไม่ได้”

    มิวไม่เคยกดสกิปเลยจำหน้าเขาได้ไงล่ะ!

    คิระ เป็นชื่อของผู้นำกลุ่มผู้กล้าเข้าไปจัดการกับเทพแฝดในสงครามสุดท้ายระหว่างเทพกับมนุษย์ ฟังดูเท่ใช่ไหมล่ะ แต่จริงๆแล้วหมอนี่จับพลัดจับผลูขึ้นมาเป็นผู้นำในเวลานั้นเพราะคนรักของเจ้าหมอนี่ที่เป็นผู้กล้าข้ามมิติคนแรกโดนเทพแฝดพังร่างเดมิก็อด เขาเลยต้องทำหน้าที่ผู้กล้าแทนคนรัก และฟลุ๊คจัดการเทพแฝดได้สำเร็จเลยถูกคนนับถือในฐานะฮีโร่!

    จะพูดว่าหมอนี่เป็นพระเอกสายดวงดีก็ได้! 

    “เป็นแบบนี้เอง” คิระทำท่าเข้าใจ 

    พวกหมีบอกว่าจะใส่หน้าจริงเขาลงไปแต่ปิดไว้ด้วยหน้ากาก มิวคงหาวิธีเปิดหน้ากากได้สินะ ก็ดีเข้าจะได้ไม่ต้องแนะนำตัวเอง

    “นอกจากหน้าตาแล้ว มิวยังรู้ด้วยนะว่า คิระ เป็นโค้ดเนมของนายสมัยอยู่กลุ่มต่อต้านเทพแฝด อื้ม ชื่อจริง บ้านเกิด น้องชาย เกรดเฉลี่ยของนายมิวก็รู้” 

    มิวศึกษามาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น สมบัติ ของกินที่ชอบ ชื่อน้องหมา วิชาที่สอบตก มิวก็รู้อีกเหมือนกัน 

    หมอนี่นี่แหละเป้าหมายในการชิงสมบัติลำดับที่หนึ่งของมิว! 

    คิระทำหน้าประหลาดใจยิ่งขึ้นพร้อมกับปรบมือแปะแปะ “ว้าว นี่มันน่าประทับใจสุดๆไปเลย ขนาดฉันยังจำเกรดเฉลี่ยตัวเองไม่ได้เลย” 

    คำชื่นชมของเขาทำให้มิวยืดด้วยสีหน้าพึงพอใจที่มีคนชม ชมอีกสิ ชมเธออีกเยอะๆเลย 

    “แต่พวกก่อนหน้านี้ไม่รู้เรื่องนี้นะ” เขาเอ่ยท้วงขึ้นมาเลยถูกมิวปาหมอนเข้าใส่แทบหลบไม่ทัน

    “แน่ล่ะเจ้าพวกนั้นกดข้ามคำอธิบายเควสนี่นา ไม่เข้าใจจริงๆว่ามองข้ามมิวไปได้ยังไง ไม่ว่าจะมองมุมไหนมิวก็เพียบพร้อมมากกว่าร้อยเท่าแท้ๆ!” 

    เด็กสาวชี้นิ้วไปทางเขาด้วยสีหน้าเอาเรื่อง ชายหนุ่มเลยต้องยกมือขึ้นทั้งสองข้างเพื่อบอกว่าเขายอมแพ้แล้วจึงอธิบายเหตุผล 

    “จริงๆแล้วมันก็มีเหตุผลสองสามข้อนะที่พวกนั้นไม่เลือกเธอ นอกจากคุณสมบัติอย่างเรื่องความเก่งแล้วสิ่งที่พวกนั้นต้องการคือหลักประกันว่าเธอจะช่วยเราโดยไม่มีข้อแม้ แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นใช่ไหมล่ะ ถ้าไม่มีของที่เธออยากได้ต่อให้โลกจะล่มสลายเธอก็ไม่สนใจหรอก 

    เกียร์ของจริงน่ะไม่เหมือนในเกมตรงที่การปกครองมันมีความซับซ้อนมากกว่านั้นหลายเท่า ต่อให้เราอยากจะยกโลกทั้งใบให้เธอก็ทำไม่ได้เพราะ เอ่อ พวกเราเองก็ทำไม่ได้เหมือนกัน (ถ้าพวกนายทำได้สิถึงจะน่าแปลก!) อื้ม ฉันก็คิดอย่างงั้นเหมือนกัน 

    นอกจากเราจะไม่มีอำนาจสูงพอจะใช้มันแลกเปลี่ยนกับเธอแล้ว สมบัติที่เธอต้องการเราก็ไม่มีเหมือนกัน อาวุธเทพสองชิ้นที่เราหาเจอมีแค่อาวุธของจีซัสเท่านั้น ดันเจียนในเกมบางแห่งจนถึงตอนนี้เรายังเข้าไปไม่ได้เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงชุดเกราะฟีนิกส์ของอย่างเดียวที่เราจะใช้ต่อรองกับเธอได้”

    “ถ้าพวกนายมีชุดเกราะฟีนิกส์สิถึงจะน่าแปลก!” มิวพูด

    ของวิเศษที่ได้จากเทพประจำกิลด์นั้นเป็นของชื่อสีเขียวหยกที่มีความหมายว่า ‘มันเป็นสมบัติในตำนาน’ ที่ปรากฏในเรื่องเล่าเก่าแก่ที่เล่าสืบต่อกันมา บางชิ้นอาจจะไม่มีจริง บางชิ้นอาจจะมีจริงแต่ไม่ได้เทพขนาดในตำนาน หรือบางชิ้นก็เคยปรากฏขึ้นจริงแต่สูญหายไปแล้ว 

    ยกตัวอย่างเช่น ชุดเกราะฟีนิกส์และของวิเศษของเทพฟีนิกส์สมบัติของมิวที่มีอยู่จริงแต่ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน

    แถมของพวกนี้ยังจัดเป็นของกวนประสาท ถ้าไม่ทำพิธีปลุกเสกจะดูเหมือนอาวุธธรรมดาสามัญ และพิธีกรรมที่ว่าก็มีแค่คนที่รับเควสปลุกเสกอาวุธจากเทพประจำกิลด์เท่านั้นที่รู้ เผอิญว่ามิวเป็นคนเดียวในกิลด์ที่รู้เรื่องนี้และเป็นคนเดียวที่เคยเห็นอาวุธของเทพฟีนิกส์ในเวอร์ชั่นที่ยังไม่ได้รับการปลุกเสก ถ้าพวกนี้หาเจอสิถึงจะน่าแปลก

    “ทำไมถึงได้เปลี่ยนใจพาฉันมาล่ะ มีของจะใช่ต่อรองกับฉันแล้วงั้นเหรอ?” เด็กสาวทำท่าสนใจเรื่องนี้ขึ้นมา 

    “พอคิดจะลักพาตัวเธอมาที่นี่ ฉันเลยนั่งค้นข้อมูลจากข่าวซุบซิบเกี่ยวกับเธอในเว็บบอร์ด ฉันคิดว่านอกจากสมบัติพวกนั้นแล้วมันต้องมีอย่างอื่นที่เธอชอบและมันต้องเป็นของที่ฉันหามาให้เธอได้ โชคดีที่ฉันไปเจอคนๆหนึ่งในเว็บบอร์ด เขาบอกฉันว่าตอนเริ่มเล่นเกมแรกๆเธอเคยอยากเป็นเสจมาสเตอร์ลำดับที่หนึ่ง”

    กว่าจะหาของมาใช้ต่อรองกับมิวได้เล่นเอาเขาไม่ได้นอนไปเป็นเดือน ใครล่ะจะไปคิดว่าคนที่มีอำนาจในเกมสูงกว่าเสจมาสเตอร์แถมยังครองโลกไปแล้วครึ่งตัวอย่างมิวจะมีความฝันอยากเป็นเสจมาสเตอร์ลำดับที่หนึ่ง

    “อุ๊ เจ้าหมอนั่นยังมีชีวิตอยู่งั้นเหรอเนี่ย” มิวทำท่าแปลกใจออกมาเมื่อได้ยินเรื่องดังกล่าว 

    คนที่รู้เรื่องนี้มีแค่คนเดียวเท่านั้น หมอนี่เป็นเพื่อนคนแรกของมิวในเกม ก่อนที่ในเวลาต่อมาเขาต้องเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบเข้าคณะในฝัน(คณะเดียวกับที่จีซัสเรียน ได้ยินว่าข้อสอบคัดนักเรียนเข้าโหดมาก แต่มิวรู้สึกว่ามันไม่เห็นจะยากเท่าไหร่) หลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยเจอหมอนี่อีกเลย

    นึกว่าตายคากองหนังสือกฎหมายไปแล้วซะอีก?

    “อา เป็นคนดีมากเลยล่ะ อุตส่าเสียเวลาอ่านหนังสือมานั่งตอบคำถามคนแปลกหน้า”คิระยิ้ม “ช่างโชคดีที่ตำแหน่งเสจมาสเตอร์เป็นของอย่างเดียวที่ฉันมีพอดีเลยเอามาใช้ต่อรองกับเธอได้โดยไม่ต้องปรึกษาคนอื่น”

    ชายหนุ่มประสานสายตากับมิวเขาเอ่ย

    “เธอแม่นประวัติศาสตร์มากกว่าฉันพอสมควร จำเหตุการณ์หลังจากที่พวกเราทำลายหอคอยนิจนิรันดร์ได้ไหม?”

    เด็กสาวมองคนถามด้วยสีหน้าเคืองๆ หมอนี่ถามอะไรแปลกๆ

    “มิวต้องจำได้อยู่แล้วสิ นายอยากทบทวนความหลังงั้นเหรอ ได้สิ มิวจะเล่าให้ฟังเอง!”


    ชุดเกราะฟีนิกส์: จิ๊บ!

     



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×