ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GEAR อัพจนจบภาคแรกเลย

    ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 7 วันนี้เราจะไปทำงานง่ายๆกัน รื้อยานอวกาศ!

    • อัปเดตล่าสุด 31 พ.ค. 66


    บทที่ 7

    วันนี้เราจะไปทำงานง่ายๆกัน รื้อยานอวกาศ!



     

    มนุษย์ส่วนมากเคยอาศัยอยู่ที่ ‘แผ่นดินเก่า’ แผ่นดินอีกโพ้นทะเลที่เคยมีชื่ออันสวยหรูว่า ‘ทวีปอากาเซียร์’ แต่ทว่าเมื่อร้อยปีก่อน แผ่นดินเก่าครึ่งหนึ่งได้พังทลายจมลงสู่ท้องทะเลในชั่วข้ามคืนอันเป็นผลพวงมาจากการทำสงครามกับเทพองค์สุดท้ายที่หลงเหลือมาจากยุคเทพ 

    ‘เทพแฝดอาลีน่า’ 

    หรือ เรดบอสประจำเควสเนื้อเรื่องที่ฝีมือไม่เอาไหน มีดีแค่ดวงเฮงบ่อยๆเท่านั้น 

    เรดบอสที่ไม่ได้ดรอปของมีค่าเป็นชิ้นเป็นอันแถมยังฝีมือห่วยแตกยิงร้อยทีโดนร้อยที ราชินีอย่างมิวจะไม่สนใจไปสู้ด้วยหลายๆรอบหรอกนะ 

    หลังจากที่ทวีปอากาเซียร์ล่มสลายในชั่วข้ามคืน ผู้คนที่ยังมีความหวังจึงได้ละทิ้งแผ่นดินเก่าแล้วอพยพไปยังทวีปร้างโพ้นทะเลด้วยความหวังว่าพวกเขาจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่ ชีวิตที่ปราศจากการบงการโดยเทพผู้ชั่วร้าย 

    ในเวลาต่อมาที่แห่งนี้จึงถูกเรียกว่า ‘แผ่นดินใหม่’ บ้านหลังใหม่ที่ทุกอย่างจะเริ่มต้นใหม่ที่นี่ พวกเขาสร้างหอคอยสีขาวขึ้นบนแผ่นดินลอยฟ้าแล้วเรียกมันว่า ‘หอคอยเซเวนเสจ’ ตามจำนวนของผู้ก่อตั้งทั้งเจ็ดที่เรียกตัวเองว่า ‘เสจมาสเตอร์’

    เสจมาสเตอร์ที่ว่านี้เองเป็นคนค้นพบไฮคริสตัลรวมไปถึงวิธีการนำพลังของมันมาใช้ อีกทั้งยังเป็นผู้ริเริ่มการเปลี่ยนแปลงทวีปรกร้างที่แสนอันตรายนี้ให้กลายเป็นที่อยู่อาศัยอันปลอดภัย พวกเขาจึงเป็นผู้หยิบยื่นอนาคตให้กับเหล่ามนุษย์โดยแท้จริง 

    กาลเวลาไหลผ่านไป ผู้คนได้ออกสำรวจแผ่นดินใหม่รวบรวมผู้คนที่มีความคิดเดียวกัน รวมกลุ่มและก่อตั้งเป็นประเทศใหม่ขึ้น บ้านหลังใหม่แห่งนี้จึงประกอบไปด้วยสามดินแดนที่จับมือเป็นพันธมิตรกัน 

    ‘เซเวน’ ครองพื้นที่ภาคกลางที่เป็นป่าสีเขียวและทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่รวมไปถึงเกาะในทะเล ถึงแม้อำนาจของเสจมาสเตอร์จะลดลงจากสมัยก่อตั้งประเทศอย่างมาก แต่มิวก็ยังอยากได้ตำแหน่งนี้อยู่ดี

    ‘วิหารไคเทค’ หรือที่มิวเรียกว่าวิหารกันดาร ครอบครองภาคใต้ที่เป็นทะเลทรายและเมืองริมทะเลที่มีสภาพแวดล้อมโหดร้าย ดันเจียนโหด มอนสเตอร์เกราะหนาโจมตีแรง และอากาศร้อนมาก 

    ส่วนที่ๆเธอกำลังนอนกลิ้งบนโซฟานี้คือเหนือสุดของทวีป ประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นเข้ากระดูก ‘นครเหนือ’ ป้อมปราการน้ำแข็งของตระกูลเอสตราด้าตระกูลเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่ทวีปอากาเซียร์ยังไม่ถูกเทพนิสัยเสียนั่นถล่ม 

    เอสตราด้ามีรากฐานมาจากราชวงศ์หนึ่งของทวีปอากาเซียร์ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่มีฐานันดรนั้นแล้วแต่ผู้คนก็ยังมองพวกเขาเป็นเจ้าชายเจ้าหญิงอยู่ดี (คฤหาสน์ก็อลังการเหมือนพระราชวังด้วย) 

    ตระกูลนี้มีราชินีหิมะ ฟิโอน่า เอสตราด้า เอนพีซีเปลี่ยนคลาสอาชีพวิซาร์จเป็นหัวหน้าตระกูล แบ่งสายตระกูลออกเป็นสองสายคือ 

    เอสตราด้าสายเลือดรอง อันเป็นลูกหลานที่สืบสายเลือดเอสตราด้าของแท้ มีหน้าหลักคือการบริหารนครเหนือและหน้าที่รองคือการดูแลธุรกิจของตระกูลที่มีเยอะยุบยับเต็มไปหมด 

    เอสตราด้าสายเลือดหลัก พวกปีศาจเกิดมามีพลังสูงผิดมนุษย์ คนเหล่านี้มีจำนวนน้อยเสียจนนับนิ้วได้ และอาจจะมีหรือไม่มีเลือดของเอสตราด้าเลยก็ได้ 

    พวกเขาถูกเชิญเข้ามาในตระกูลเพื่อใช้คานอำนาจกับ หอคอยขาว องค์กรที่เป็นศูนย์รวมวิทยาการและการบริหารของภาคเหนือ และเอสตราด้าสายเลือดรอง 

    พวกสายเลือดหลักแม้จะมีเพียงหยิบมือแต่พลังของพวกเขานั้นน่ากลัวระดับที่ไม่มีใครในหอคอยขาวกล้าไปมีเรื่องซึ่งๆหน้า 

    มันช่างเป็นตำแหน่งที่คู่ควรกับมิวจริงๆ! 

    เอ็นพีซีให้เควสทำให้มิวอารมณ์ดีมากเลยล่ะ ที่เชิญมิวมาเป็นสมาชิกตระกูลหลัก แถมด้วยห้องนอนในคฤหาสน์เอสตราด้าสายเลือดหลักที่เต็มไปด้วยของใช้รูปคุณหมี ตุ๊กตาคุณหมี และเสื้อผ้าที่ดรอปมาจากดันเจียนหมี 

    การได้สวมชุดลายคุณหมีดื่มโกโก้อุ่นๆซุกตัวในผ้าห่มโดยมีคุณหมีจ้องมองด้วยความรักช่างเป็นอะไรที่สุดยอด! 

    “ท่านฟิโอน่าคะ ท่านน็อคมาถึงที่นี่แล้วค่ะ ท่านฟรานซิสกับท่านรีรีน่ากำลังอยู่ในระหว่างการเดินทาง อีกราวสิบนาทีคงจะมาถึงที่นี่ จะออกไปที่ห้องนั่งเล่นเลยไหมคะ ดิฉันจะได้เตรียมของว่างเพิ่มอีกสองที่”

    “ไปๆมิวอยากกินของหวาน” ไม่รู้หรอกว่าเจ้าพวกที่ชื่อดูจะเป็นพวกตายง่ายเป็นใคร มิวสนใจแค่ของกินเท่านั้น

    “งั้นเอเทลช่วยเตรียมของว่างอีกสองที่ทีจ้ะ ขอบคุณมากนะ” ราชินีหิมะตอบกลับพร้อมกับวางภาระในมือลงแล้วชวนมิวออกไปที่ห้องนั่งเล่น 

    ฟิโอน่าคุ้นเคยกับอากาศของที่นี่เธอเลยสวมเพียงแค่เสื้อคลุมบางๆเท่านั้น ส่วนมิวที่ไม่ชอบอากาศหนาวห่อตัวอยู่ภายใต้แรร์ไอเทมที่มีชื่อว่าผ้าห่มขนแกะของคิงแบลร์ สวมหมวกหมี รองเท้าหมี ไม่ว่าจะมองยังไงก็ไม่มีใครคาดคิดแน่ๆว่าเธอเป็นตัวอันตราย 

    ระหว่างเดินไปที่ห้องนั่งเล่นฟิโอน่าก็เล่าเรื่องสมาชิกปัจจุบันของเอสตราด้าสายเลือดหลักให้มิวฟังจวบจนถึงห้องนั่งเล่นที่มีคนนั่งรออยู่ภายในนั้นหนึ่งคน 

    สมาชิกของเอสตราด้าสายเลือดหลักทุกคนจะมีลำดับที่ของตัวเอง ยิ่งร้ายกาจเท่าไหร่ลำดับที่ยิ่งน้อย และลำดับที่ของมิวก็คือลำดับที่สอง 

    ส่วนเจ้าของลำดับที่หนึ่งก็คือผู้ชายที่นั่งตรงหน้าเธอตอนนี้ 

    เขาถูกระบุว่าเป็นพี่ชายคนโตของพวกสายเลือดหลัก มีพลังวิเศษติดตัวมาตั้งแต่เกิดและสามารถอัดคนได้แรงผิดมนุษย์โดยไม่ต้องใช้ไฮคริสตัลช่วย มีประสิทธิภาพการทำลายล้างศัตรูเท่ากับไฮวิซาร์จ (วิซาร์จระดับสูง เป็นอาชีพขั้นสูงของวิซาร์จ)สิบคนรวมกัน 

    แต่แทนที่เขาจะใช้พลังเพื่อข่มเจ้าพวกหอคอยขาวอยู่ที่นี่ เขากลับชอบร่อนเร่พเนจรในชุดนักเดินทางโทรมๆไปรอบทวีปเพื่อวาดภาพ 

    ความสนใจและงานอดิเรกเดียวของเขาคือดันเจียนอันตราย 

    “นี่น้องสาวคนใหม่ของพวกเธอจ้ะน็อค ช่วยดูแลมิวด้วยนะ ตำแหน่งของมิวคือสายเลือดหลักลำดับที่สอง พวกเธอมีกันแค่สี่คนต้องดูแลกันดีๆล่ะ” ฟิโอน่า เอสตราด้ายิ้มใจดีพร้อมกับแนะนำมิวให้ แก่ทุกคน

    น็อค เอสตราด้า เป็นชายหนุ่มที่ไม่อาจคะเนอายุได้ มองดูภายนอกน่าจะอายุยี่สิบปลายๆถึงสามสิบปี รูปร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ผมสีดำยุ่งไปคนละทาง ตาสีเทาซีดดูเนือยๆ โดยรวมแล้วดูเป็นพวกเฉื่อยชาไม่สนใจโลก 

    ทว่ารอยแผลเป็นจำนวนไม่ใช่น้อยๆที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนบนผิวสีแทนของเขา บ่งบอกว่าคนๆนี้มีชีวิตที่ไม่ธรรมดาเลย 

    ตระกูลสายเลือดหลักไม่ได้นับความสำคัญจากอายุและความเข้มข้นของเลือดแบบตระกูลรอง นับความสำคัญจากพลังและความสามารถ 

    น็อคหรี่ตามอง ‘น้องสาว’ ที่ว่าอย่างพิจารณา ก่อนที่เขาจะแสดงความเห็นที่ทำให้มิวสนใจ 

    “พวกตัวอันตรายนี่นา แค่ดูก็รู้แล้วว่าควบคุมไม่ได้” ชายหนุ่มบ่นด้วยเสียงเนือยๆแล้วหันไปส่ายหน้าให้ฟิโอน่าเป็นเชิงบอกว่า เขารับมือมิวไม่ไหวเหมือนกัน 

    “ฉันมันพวกรักความสงบซะด้วยสิ จะห้ามไม่ให้เธอก่อเรื่องก็ออกจะเกินความสามารถไปหน่อย เอาเป็นว่าก่อเรื่องเสร็จแล้วช่วยปิดปากคนที่เห็นทีแล้วกัน ฉันขี้เกียจกลับมาแก้ปัญหาให้”

    “โอ๊ะ ฉันจะจัดการปิดปากให้เองไม่ต้องเป็นห่วง” มิวตอบด้วยท่าทีสบายๆ 

    ในเมื่อก่อเรื่องที่นี่ไม่ได้มิวจะไปก่อเรื่องที่เซเวนก็แล้วกัน!

    น็อคผงกหัวรับอย่างพอใจแต่ดูเหมือนเขาจะเข้าใจไปคนละทางกับมิวโดยสิ้นเชิง ฟิโอน่าถึงกับตบหน้าผากด้วยความเหนื่อยใจ 

    เธอไม่ได้เรียกให้เด็กพวกนี้มาพูดเรื่องน่ากลัวแบบนี้นะ เฮ้อ 

    ก๊อก ก๊อก

    ทว่ายังไม่ทันจะได้เริ่มคุยธุระประตูห้องก็ถูกเคาะอย่างมีมารยาท ก่อนที่ชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งจะเดินเข้ามา ผมสีเงิน ตาสีฟ้าตามแบบฉบับเอสตราด้าของแท้ ชุดเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้าทำให้เขาดูเหมือนเจ้าชายตัวจริงเสียงจริงยังไงยังงั้น

    หมอนี่หน้าตาตายง่ายมาก ไม่ผ่าน! 

    นี่คือความเห็นของมิวที่กำลังกินขนมอย่างไม่สนใจใคร 

    “ขอโทษครับที่มาช้า วันนี้โรงเรียนเลิกช้าไปหน่อย ผมพารีรีน่ามาตามคำสั่งแล้วครับ” ชายหนุ่มยิ้มแล้วหลบให้สาวน้อยผมสีเงินในชุดเครื่องแบบนักเรียนเดินเข้ามา 

    เพราะเธอก้มหน้าตลอดเวลาทำให้มิวมองเห็นเธอไม่ชัดเท่าไหร่

    “โอ เรนะได้รับเลือกให้เป็นผู้ดูแลงั้นเรอะ ดีใจด้วยนะ”น็อคยกมือขึ้นทักทายสาวน้อยคนนั้นด้วยท่าทางเนือยๆเหมือนคนง่วงนอนไม่มีผิด

    “ไม่ใช่เรนะค่ะท่านน็อค! รีรีน่าต่างหาก รีรีน่า!” รีรีน่า เอสตราด้า ท้วงขึ้นทันทีด้วยน้ำเสียงติดจะไม่พอใจหน่อยๆ ฟังจากคำพูดคำจาแล้วดูคุ้นเคยกันดีทีเดียว 

    คงไม่ใช่ครั้งสองครั้งสินะที่เจ้าเฉื่อยนี่เรียกชื่อเธอผิด มิวผงกหัวทำท่าเข้าใจของเธอเอง แต่พอรีรีน่าหันมาเจอมิวเธอก็รีบกลับไปก้มหน้าเหมือนเดิมทันที ราวกับพบเจอสิ่งที่น่ากลัวมาก

    “อ้าวไม่ใช่เรนะหรอกหรอ” น็อคเกาหัวด้วยสีหน้างงๆ 

    ในเมื่อเจ้าของชื่อบอกว่าชื่อรีรีน่ามันก็ต้องเป็นรีรีน่าสิ ยังจะมาสงสัยอะไรอีก เธอล่ะไม่เข้าใจหมอนี่จริงๆ

    “มิว ฟรานซิสเป็นพี่ชายคนรองของสายเลือดหลัก ตำแหน่งของเขาคือสายเลือดหลักลำดับที่สาม เขาเป็นคนเดียวที่มาจากสายเลือดรองจ้ะ ส่วนรีรีน่าคือคนที่สายเลือดรองเลือกให้มาเป็นผู้ดูแลให้เธอ”

    ฟิโอน่ายิ้มแล้วแนะนำตัวทั้งสองให้มิวรู้จัก

    “ผู้ดูแล เอามาทำไม” มิวหันขวับไปมองฟิโอน่าตาขวาง 

    ผู้ดูแล = ตัวเกะกะ 

    ยกเว้นแต่ว่าจะทำได้แบบอัลเลนถึงจะไม่เรียกว่าเกะกะ!

    น็อคที่เห็นสีหน้าเอาเรื่องนั้นของมิว เลยเป็นคนอธิบายเหตุผลที่พวกเขาต้องมีผู้ดูแลให้เธอฟัง

    “ก็แบบว่าสายเลือดหลักมีแค่สี่คน ตอนนี้หายตัวไปหนึ่งเหลือแค่สาม ตาแก่พวกนั้นกลัวว่าพวกเราจะหายตัวกันไปหมด เลยให้ผู้ดูแลอยู่กับเราอย่างละคนไง อย่างน้อยก็มั่นใจว่าเราจะไม่หายตัวออกไปไหนจนพวกเขาตามหาตัวไม่เจอ ทำนองนี้แหละ”

    ฟังจบมิวก็เอียงคออย่างน่ารัก

    ถ้ามิวคิดจะหนีจริงไม่มีใครจับตัวมิวทันหรอกนะ พวกแมวเหมียวยังอาจจะไม่ทันเลย!

    “มิวน่ะไม่มีปัญหาหรอกนะถ้าจะมีผู้ดูแล แต่ว่าขอเป็นพวกตายยากๆหน่อยไม่ได้รึไง เด็กนี่ดูก็รู้แล้วว่าเดินไปทุบหัวเสจมาสเตอร์เป็นเพื่อนไม่ได้แน่ๆ” มิวหันไปประท้วงท่ามกลางสีหน้าแปลกๆของเหล่าคนฟัง 

    พี่ชายคนโตเกาหัวด้วยท่าทางลำบากใจนิดๆ

    “นี่เธอจะไปหาเรื่องเสจมาสเตอร์งั้นเหรอ เอาเถอะตราบใดที่ไม่ก่อเรื่องที่นี่ฉันไม่เดือดร้อนหรอก อย่าลืมล่ะก่อเรื่องเสร็จแล้วปิดปากคนที่เห็นด้วย” น็อคแสดงความเห็นที่ทำให้ฟิโอน่าหันไปทำตาดุใส่ 

    เธอบอกให้ช่วยดูแลมิวไม่ใช่เหรอ แล้วไหงถึงมาสนับสนุนให้มิวไปหาเรื่องคนอื่นแบบนั้นกันล่ะ

    “ไปหาเรื่องเสจมาสเตอร์แบบนั้นจะดีหรอครับ” ฟรานซิสหันไปทางฟิโอน่าที่ทำท่าจนปัญญาจะห้าม

    “มันไม่ใช่เรื่องดีหรือไม่ดีหรอกนะเจ้าตายง่าย มันเป็นสิ่งที่ต้องทำถ้านายอยากจะยึดภาคกลาง แต่มิวพอจะเข้าใจว่านายทำไม่ได้ อืมๆ”

    “…” ฟรานซิสคิดว่าปัญหามันไม่ใช่แค่เขาทำไม่ได้

    แต่เขาจะทำไปเพื่ออะไรต่างหาก

    “ฉันพอจะเข้าใจที่รุ่นพี่พูดแล้วล่ะว่าพวกนั้นสั่งสอนเธอมาแบบผิดๆจริงๆด้วย เฮ้อ” ฟิโอน่าถึงกับถอนใจออกมาแล้วพูดต่อ “เธอไม่ต้องไปเหนื่อยทำแบบนั้นหรอกจ้ะ มีคนไปชิงตำแหน่งเสจหนึ่งมาให้เธอแล้ว เธอแค่ทำงานแลกกับมันก็พอ”

    ตอนแรกฟิโอน่าไม่เข้าใจว่าคิระไปขอตำแหน่งนี้มาจากสามีเธอทำไม แต่ตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว มิวอยากได้มันนั่นเอง ยังไงคิระกับเทมส์ก็เป็นเพื่อนกัน คิระย่อมไม่ปรารถนาให้เพื่อนโดนมิวจ้องเล่นงาน

    ไปเอาตำแหน่งที่เธอต้องการมายื่นให้ซะ เพียงแค่นี้เสจมาสเตอร์ที่เหลือก็จะปลอดภัยแล้ว

    “นับว่าเจ้าเฉื่อยนั่นยังมีหัวคิด มิวจะตั้งใจฟังคำขอของเขาแล้วกัน”

    เด็กสาวพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ในขณะที่คนฟังไม่แน่ใจนักว่าได้ยินถูกไหม

    มิวอยากยึดครองภาคกลาง ผู้มีอำนาจสักคนก็เลยไปเอาตำแหน่งเสจหนึ่งมาให้เธอ

    ตำแหน่งนี้มันยกให้กันได้ง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ?!

    เห็นมิวเลิกสนใจจะไปตามรังควานพวกเพื่อนๆของเธอแล้วฟิโอน่าก็ลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เธอยิ้มแล้วเอ่ยต่อ 

    “ถึงรีรีน่าจะไม่ได้ตายยากแบบลูกน้องเก่าของเธอ แต่รีรีน่าทำอาหารเป็น ซักผ้าเป็น ทำงานเอกสารเก่ง ปลอมลายมือได้ รอบรู้เรื่องโลกภายนอก พกเงินแทนเธอได้ แถมยังอดทนมากอีกด้วย 

    มั่นใจได้เลยว่าไม่ว่าเธอจะตกไปกลางป่าหรือกลางทะเล รีรีน่าก็หาอาหารมาให้เธอได้ ซื่อสัตย์และเชื่อฟังคำสั่งขนาดนี้ไม่มีอีกแล้วนะ” 

    ฟิโอน่าตัดสินใจใช้ไม้ตายสุดท้าย และนั่นทำให้มิวหันมามองเธอตาเป็นประกายด้วยความสนใจคุณสมบัติที่ว่าอย่างยิ่ง

    เทมส์บอกว่ามิวนั้นเป็นพวกฝีมือสูงก็จริงแต่ทักษะการใช้ชีวิตประจำวันนั้นแย่เข้าขั้นติดลบ และมิวจะมองหาลูกน้องที่มีคุณสมบัติที่ตัวเองขาดเสมอ 

    ในเกมไม่จำเป็นต้องมีคนคอยดูแลเรื่องความเป็นอยู่ แต่ในชีวิตจริงมิวขาดคนดูแลเรื่องนี้ไม่ได้ ดังนั้นจะให้มิวยอมให้รีรีน่าอยู่ด้วยต้องใช้วิธีการนี้เท่านั้น! 

    แต่พูดไปแล้วเธอรู้สึกผิดกับรีรีน่ามากเลยล่ะ…..

    “เธอทำอาหารเป็นใช่ไหม” มิวหันสายตาคมปลาบไปมองรีรีน่าที่สะดุ้งสุดตัว

    “ค ค่ะ”

    “จะทำตามคำสั่งของฉันโดยไม่มีข้อแม้ใช่ไหม”มิวถามย้ำ

    “ค่ะ!” รีรีน่าที่เริ่มตั้งสติได้ตอบคำถามด้วยเสียงหนักแน่น 

    การดูแลสายเลือดหลักคืองานอันทรงเกียรติของเธอ โดยเฉพาะสายเลือดหลักคนนี้ที่ท่านฟิโอน่าบอกว่าจะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรที่เธอทำไม่ได้หรอก!

    “ถ้าฉันบอกให้ไปต่อยกับเรดบอสล่ะ”

    “สบายมากค่ะ!”

    “ดักทุบหัวเสจมาสเตอร์”

    “จะกี่คนก็บอกมาได้เลยค่ะ”

    “เข้าไปสอดแนมที่วิหารไคแทค”

    “ได้อยู่แล้วค่ะ!”

    “ออกไปตามหาพวกที่ทำตัวเด่นกว่าฉันแล้วอัดเรียงคน”

    “ร้อยคนฉันก็จะทำให้ค่ะ!”

    “ลักพาตัวคนที่ฉันสั่ง”

    “ฉันจะทำให้ทุกอย่างค่ะ! อ เอ๋”รีรีน่ากระพริบตาปริบ เมื่อกี้เหมือนจะได้ยินว่าดักทุบหัวเสจมาสเตอร์ 

    ไม่ๆ บางทีเธออาจจะฟังผิดไป?

    เห็นได้ชัดว่าฟรานซิสช็อคไปแล้วกับคำถามพวกนั้น ส่วนฟิโอน่าตบหน้าผากพลางนึกว่าการส่งคนที่เชื่อฟังคำสั่งไปให้มิวอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดที่สุดของเธอ

    ในขณะที่น็อคเลิกคิ้วขึ้นอย่างสนใจ

    “เรนะได้เจ้านายที่น่าสนใจดีนี่ การติดตามมิวจะทำให้เธอเก่งขึ้นแน่”

    ฟิโอน่ามั่นใจว่าเก่งขึ้นแน่ แต่ความคิดของรีรีน่าน่ะจะแปลกตามมิวไหม?

    “งั้นวันนี้เราจะไปทดสอบงานกัน ฉันมีงานที่จำเป็นต้องใช้ลูกมืออยู่พอดีเลย” มิวกอดอกพูดว่าเป็นงานใช้แรงงานง่ายๆ เด็กห้าขวบก็ทำได้!

    “ได้ค่ะ แน่นอนค่ะ ว่าแต่มันเป็นงานใช้แรงแบบไหนคะ?”

    ฟิโอน่าคิดว่ารีรีน่าควรถามมิวก่อนนะว่ามันเป็นงานอะไรแล้วค่อยตอบตกลง…

    รื้อยานอวกาศ”

    ห้ะ เหมือนจะมีคำว่าอวกาศ?

    “ยานอวกาศที่จอดในห้องลับ เธอจะรื้อมันงั้นเรอะ” ประกายความสนใจเกิดขึ้นในตาน็อคทันที ยานลำนี้เขาพยายามสำรวจมาหลายหนแล้วแต่ทำอะไรกับมันไม่ได้เลย

    “เธอรู้วิธีเปิดยาน?”

    มิวทำท่าตกใจแล้วโวยวายว่ามิวต้องรู้อยู่แล้วสิ ไม่งั้นมิวจะรื้อมันทำไม?!

    “มันบินไม่ได้แล้วงั้นเหรอ”

    “เปล่า บินได้เป็นปกติดี พลังงานเชื้อเพลิงก็ยังมีเกือบเต็ม”

    ถ้ายานมันปกติดีแล้วมิวจะรื้อมันไปเพื่ออะไร?!

    ทุกคนต่างก็คิดในใจโดยพร้อมเพรียงกัน

    “ถ้าเราใช้มันล่ะก็เจ้าของยานจะรู้ทันทีแล้วมาตามทวงคืน เสียดายของน่า! มิวจะรื้อมันแล้วเอาไปทำเป็นอย่างอื่นซะ ยานของลอวก้าถูกยิงตกบ่อยมาก ถ้ามันโดนแยกชิ้นแล้วไม่มีใครสนใจหรอกว่าใครเอาชิ้นส่วนไปใช้ อื้ม แบบนี้แหละ!”

    เรื่องอะไรมิวจะคืนยานลำนี้ให้ลอวก้า เธอตัดสินใจยึดมันแล้ว!

    น็อคเกาแก้ม พิจารณาดูแล้วเจ้าของยานตัวจริงน่าจะเป็นตัวปัญหาใหญ่ ถึงเขาจะสนใจอยากนั่งยานอวกาศแต่ก็ไม่เป็นไร ได้รื้อมันก็น่าสนุกเหมือนกัน

    “ฉันจะช่วยเธอรื้อยานเอง ว่าแต่จะเอามันไปทำอะไรต่อล่ะ”

    มิวทำท่าคิดหนักเพราะยังตัดสินใจไม่ได้

    “อาจจะต่อยานใหม่ หรือไม่ก็เอาไปทำเป็นเครื่องผลิต ดี12 มันเป็นของจำเป็นสำหรับมิว ไม่สิ นายก็ใช้มันได้เหมือนกันเจ้าเฉื่อยสอง มันเป็นของอย่างเดียวที่สมานแผลให้นายได้ ปกตินอกจากรอให้แผลหายเองแล้ว ยาอื่นไม่ได้ผลกับนายใช่ไหมล่ะ”

    มิวยิ้มอย่างรู้ทัน น็อคเกาหัวบ่นว่ามิวเป็นตัวอันตรายจริงๆด้วย

    “งั้นเราไปทำเลยไหม ผู้ดูแลบ่นฉันจนหูชาเรื่องแผล”

    “บอกว่ามิวยังไม่ได้ตัดสินใจไง” มิวโวยวาย

    ในขณะที่อีกด้าน ฟรานซิสที่ช็อคหน้าค้างหันไปถามรีรีน่าว่ามียานอวกาศอยู่จริงๆเหรอ รีรีน่าที่ตอบไปแล้วว่าจะไปทำกิจกรรมนี้กับมิวพูดไม่ออก

    คิดไม่ออกด้วยว่าจะต้องรื้อยังไง…

    ในขณะที่ฟิโอน่าลมจะจับอีกรอบ

    มิวไปเรียนวิธีรื้อยานอวกาศมาจากไหนอีกล่ะ

    อย่าบอกนะว่าหมีพวกนั้นใส่มันลงไปในเกมด้วย!



     



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×