ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GEAR อัพจนจบภาคแรกเลย

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 1 เริ่มต้นมิวก็ปฏิเสธร่างกายไป 99 ครั้งแล้ว!

    • อัปเดตล่าสุด 31 พ.ค. 66


    บทที่ 1

    เริ่มต้นมิวก็ปฏิเสธร่างกายไป 99 ครั้งแล้ว!



     

    “การเชื่อมต่อระหว่างดวงจิตกับร่างกายใหม่ตกลงมาเป็นศูนย์อีกแล้ว” 

    ฟิโอน่า เอสตราด้า แสดงความกังวลผ่านทางสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก 

    “ถ้าการผสานดวงจิตกับร่างกายรอบต่อไปไม่สำเร็จ เราต้องส่งดวงจิตกลับร่างเดิมและต้องรออย่างต่ำหกเดือนถึงจะเริ่มกระบวนการผสานดวงจิตเข้ากับร่างกายใหม่ได้อีกครั้ง”

    ทุกครั้งที่ดวงจิตถูกผลักลงไปในร่างกายใหม่และถูกกระตุ้นให้ทำการเชื่อมต่อ มันจะสูญเสียผิวนอกไปจำนวนหนึ่ง 

    โดยปกติแล้วดวงจิตทั่วไปจะเข้ากับร่างกายได้ในครั้งที่สองหรือสาม ยิ่งเชื่อมต่อมากเท่าไหร่ผิวนอกก็ยิ่งบางลง จนถึงจุดหนึ่งพวกเขาก็จำเป็นต้องหยุด แล้วใส่มันกลับลงไปในร่างกายเดิมเพื่อให้มันได้ฟื้นฟูตัวเอง

    “ปัญหามันเกิดจากอะไรนะ สมัยไมรอนเราใช้เวลาสร้างร่างกายให้เขาน้อยกว่านี้แต่ดวงจิตของเขาเข้ากับร่างกายใหม่ได้ในครั้งแรกของการเชื่อมต่อเลย อเลสเตอร์ที่ร่างกายใหม่ของเขาเป็นต้นแบบก็ยังเชื่อมต่อแค่ห้าครั้งเท่านั้น ร่างกายใหม่ของมิวตรวจสอบแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรนี่นา เชื่อมต่อไป 98 ครั้งแล้วทำไมยังไม่สำเร็จอีก” 

    คิระที่เป็นเจ้าของภารกิจขโมยตัวผู้กล้า(โดยไม่บอกคนอื่น)ครั้งล่าสุดลูบคางอย่างใช้ความคิด 

    ฟิโอน่าหันไปมองค้อนคนที่ลากเธอมาร่วมแผนการด้วย แถมยังให้เวลาแค่สิบวันในการสร้างร่างกายใหม่ให้มิว ภารกิจการสร้างร่างกายของเด็กสามคนก่อนหน้านี้เธอเป็นผู้รับผิดชอบก็จริงแต่เธอมีเวลาดำเนินการถึงห้าสิบปี 

    อีกทั้งเพื่อป้องกันไม่ให้คำสาปที่ตกค้างในอากาศเล่นงานผู้กล้า พวกเขาจึงขึ้นไปสร้างร่างกายบนอวกาศ ถึงจะขโมยตัวเด็กพวกนี้มาแต่พวกเขาก็มีสามัญสำนึกพอที่จะสร้างระบบรับประกันความปลอดภัยอย่างการสร้างร่างกายใหม่ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า ‘เดมิก็อด’ อันเป็นมรดกตกทอดมาจากเทพเจ้าที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่ 

    ร่างเดมิก็อดนี้เป็นร่างกายแบบเดียวกับที่เด็กพวกนี้ใช้ในเกม อีกทั้งด้วยเทคโนโลยีโลกจำลองเสมือนจริงของเกมที่จะทำการสลักรูปแบบการเคลื่อนไหวเวลาต่อสู้ลงไปในความทรงจำของคนเล่น เด็กพวกนี้จะสามารถต่อสู้แบบเดียวกับที่พวกเขาทำในเกมได้ทันทีโดยไม่ต้องฝึกใหม่ 

    การเคลื่อนไหวอันผาดโผนนั้นไม่สามารถกระทำด้วยร่างกายมนุษย์ปกติได้ก็จริง แต่ถ้าเป็นร่างกายเดมิก็อดย่อมสามารถทำได้โดยไร้ปัญหา 

    หลังจากดวงจิตถูกฝังเข้ากับร่างกายใหม่แล้ว ปรับตัวอีกสักเดือนสองเดือนพวกเขาก็จะกลายเป็นผู้กล้าพร้อมใช้งาน

    แม้ว่าร่างเดมิก็อดจะแข็งแกร่งกว่าร่างมนุษย์แต่ย่อมมีโอกาสที่พวกเขาจะถูกทำร้ายถึงแก่ชีวิต ฟิโอน่าสามารถนำดวงจิตจากร่างที่ตายแล้วกลับไปผสานกับร่างใหม่ได้ก็จริง แต่นั่นอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าดวงจิตนั้นจะต้องเป็นดวงจิตที่สมบูรณ์ อันมีลักษณะรวมกันเป็นกลุ่มก้อน 

    แต่ทว่าดวงจิตของผู้ที่เสียชีวิตเพราะถูกทำร้ายมักจะเหลวไม่มีชิ้นดี การถูกฆ่าจึงเท่ากับเกมโอเวอร์ ดวงจิตของพวกเขาจะถูกใส่กลับเข้าไปในร่างกายเดิม และรอวันที่จะถูกส่งกลับไปโลกเก่าเมื่อคนที่เหลือทำภารกิจสำเร็จ หรือไม่ก็เกมโอเวอร์หมดทั้งชุด

    ในตอนนี้ก็มีคนเกมโอเวอร์ไปหนึ่งคน

    ดวงจิตของเขาแตกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเสียจนฟิโอน่าไม่สามารถเก็บรวบรวมมันได้ บางทีเธออาจต้องรอให้มันกลับมารวมกันอีกปี สามปี หรืออาจจะสิบปีก็ได้ 

    เมื่อระบบรักษาความปลอดภัยที่วางเอาไว้ไม่ได้ผลแล้วคิระจำเป็นต้องหาวิธีรับมือกับความเสี่ยงนี้ใหม่ และเขาเดิมพันทุกอย่างเอาไว้กับแผนนี้

    ปัญหาก็คือยังไม่ทันได้เริ่มปัญหายักษ์ใหญ่ก็โผล่มาเสียแล้ว

    “ว่ากันว่าดวงจิตยิ่งกลมมากเท่าไหร่ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น ดวงจิตปกติหวาดกลัวการไม่มีภาชนะรองรับ การผสานร่างกายครั้งแรกจึงล้มเหลวเป็นปกติ 

    ครั้งที่สองมันจะเริ่มทำการสำรวจและถ้ามันพึงพอใจการเชื่อมต่อเกินครึ่งจะสมบูรณ์ ผสานเข้าไปใหม่อีกรอบก็จะประสบผลสำเร็จ 

    โดยมากถ้าร่างกายใหม่ไม่มีปัญหาไม่มีทางเกินห้า 

    ดวงจิตที่ค่อนข้างแข็งแกร่งจะไม่หวาดกลัว ถ้าสำรวจแล้วพบว่าภาชนะใหม่เข้าท่ามันก็จะทำการผสานไปเลย มันรู้ว่ายิ่งอยู่นอกร่างกายนานก็ยิ่งสูญเสียผิวนอกไปโดยเปล่าประโยชน์ 

    แต่ว่าดวงจิตประเภทที่เป็นรูปเป็นร่างจนสามารถหยิบจับได้แบบของมิวน่ะ ในตำราที่ตกทอดมาบอกว่ามันเป็นดวงจิตประเภทคิดเองได้ ฉันไม่แน่ใจว่าในตำราหมายถึงอะไร แต่เป็นไปได้ไหมว่ามิวไม่พอใจร่างกายนี้”

    ฟิโอน่าเอ่ยข้อสันนิษฐานออกไปพร้อมกับหยิบดวงจิตของมิวที่มีลักษณะเป็นลูกแก้วขนาดเท่าลูกเชอร์รี่ขึ้นมาพินิจ 

    ผิวนอกวาวใสคล้ายกับผนึกแก้วแต่ทว่าภายในกลับปรากฏอะไรบางอย่างที่ดูคล้ายกับไฟสีชมพูลุกไหม้ออกมาจากแกนกลาง 

    ในตำราบันทึกเอาไว้ว่าดวงจิตที่เป็นรูปเป็นร่างนั้นจะมีธาตุประจำตัวที่ใกล้เคียงกับนิสัยเจ้าตัว มีเพียงมนุษย์ที่ฝึกฝนจิตใจจนแข็งแกร่งเท่านั้นธาตุประจำตัวจึงจะปรากฏให้เห็น 

    รูปร่างของดวงจิตนั้นมาจากการฝึกฝนร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่มีโชคช่วยหรือดวงดี 

    ในตำราฉบับดั้งเดิมน่าจะมีคำอธิบายครบทุกธาตุแต่ในฉบับแปลมีแค่ธาตุพื้นฐานเท่านั้น ฟิโอน่าเลยไม่รู้ว่าจะตีความสิ่งที่เห็นนี้ว่ายังไง

    ไฟสีชมพูมันคือธาตุอะไรล่ะนั่น

    แถมถ้ามองดีๆแกนกลางของเปลวเพลิงของมิวมันเป็นรูปหมีสีชมพูด้วย

    “เอาใจยากสมกับเป็นเธอจริงๆ” คิระเกาหัวด้วยสีหน้าจนปัญญาจะต่อกรด้วย 

    “ร่างกายเดมิก็อดคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เรามีอยู่ตอนนี้และเราจำเป็นต้องพึ่งพาเธอ ถ้ารอไปอีกหกเดือนเกรงว่าอีกสองคนก็อาจจะไม่รอด คราวก่อนเราเสียอาวุธเทพของเพียงอย่างเดียวที่ใช้ต่อกรกับพวกนั้นได้ไปทีเดียวสองชิ้น ฉันนี่จนปัญญาจะคิดว่าครั้งต่อไปพวกเราจะรับมือตัวร้ายยังไงดี ฉันมันผู้กล้าตกรุ่นนี่นา เราต้องการความช่วยเหลือจากเธอ ฉันสมัครเป็นเบ๊เธอเลยก็ได้เอ้า ช่วยไปจัดการพวกนั้นให้ทีเถอะ”

    ชายหนุ่มหันไปพูดกับดวงจิตนั้นอย่างหมดเปลือก เขาคล้ายจะเห็นเปลวเพลิงลุกโชนขึ้นมา ดวงจิตถูกย้อมให้กลายเป็นลูกแก้วสีชมพู หากมองดีๆจะเห็นประกายสีทองแซมไปทั่วเปลวไฟทำให้ดวงจิตของมิวสวยงามจับตามาก 

    ฟิโอน่าเองก็ลองดูเหมือนกัน เธอต่อรองกับดวงจิตของมิวว่าจะยกสมบัติรูปคุณหมีที่มิวชอบมาให้ 

    ได้โปรดช่วยผสานเข้ากับร่างกายใหม่ทีเถิด เธอเครียดจนสมองจะระเบิดอยู่แล้ว

    “เอาไงต่อดี จะทดลองผสานร่างกายครั้งที่ 99 ไหม?” 

    หญิงสาวหันไปทางหัวหน้าทีมที่คล้ายกำลังขบคิดเรื่องบางอย่าง สีหน้าเฉื่อยชาของเขาทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่ามีแค่เธอคนเดียวที่เครียด

    “ครั้งที่ 99 มันต้องล้มเหลวแน่ เฮ้อ เธอเลือกเองนะว่าจะไม่เอาร่างนี้ ไม่เอาก็ไม่เอา”

    “ไม่ได้สิ ใช้ร่างมนุษย์ไม่ได้นะมันเสี่ยงเกินไป”ฟิโอน่าร้องด้วยความตกใจเมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายล้มเลิกความตั้งใจที่จะใช้ร่างนี้ 

    ภายใต้ความเฉื่อยชานั้นเธอสังเกตเห็นความเด็ดเดี่ยว คิระได้ตัดสินใจแล้ว 

    “ใต้ห้องลับของตระกูลเอสตราด้ามียานอวกาศโบราณลำหนึ่งซ่อนอยู่ ยานลำนี้เคยมาเยือนเกียร์เมื่อหลายพันปีก่อน 

    พวกเขาเป็นชนเผ่าประหลาดที่ขยายเผ่าพันธุ์โดยการใช้เครื่องมือประหลาดที่ถูกเรียกว่า ‘ทวารแห่งการกำเนิด’ เมื่อใส่ดวงจิตที่แข็งแกร่งลงไปมันจะให้กำเนิดร่างกายใหม่ออกมา 

    ในเมื่อมิวไม่อยากได้ร่างกายเดมิก็อดแล้วเธอก็ผ่านเงื่อนไขของทวารแห่งการกำเนิด ฉันจะเดิมพันเธอกับของนี่ก็แล้วกัน” 

    คิระหยิบดวงจิตของมิวจากมือของฟิโอน่าเอสตราด้าแล้วเดินดุ่มไปยังลิฟต์ที่พาลงไปยังชั้นที่ยานลำนั้นจอดอยู่ ถึงแม้ว่าจะตกใจแต่หญิงสาวก็รีบวิ่งตามเขาไป เธอรู้ว่าคิระเป็นประเภทจะไม่หันหลังกลับถ้าได้ตัดสินใจไปแล้ว ฟิโอน่าจึงไม่ได้ร้องห้าม เธอเพียงแค่เงียบ เดินตาม 

    และรอคอยว่าผลแห่งการเดิมพันจะออกมาในรูปแบบไหน

    ทวารแห่งการกำเนิดสร้างมาจากแร่สีขาวขุ่นมีรูปร่างคล้ายกระจกเงารูปวงรีที่ตรงกลางว่างเปล่า มีเพียงขอบที่มีความหนาเพียงห้านิ้ว สูงประมาณสามเมตร ตั้งอยู่บนฐานวางขนาดใหญ่ที่สลักสัตว์ที่ดูคล้ายมังกรขนาดใหญ่สองตัวไว้คนละมุมฐาน โดยที่ระหว่างมังกรสองตัวนั้นถูกสลักเป็นมังกรที่มีลักษณะต่างกันหลายสิบตัวกำลังร้องคำราม ช่างเป็นภาพที่น่าเกรงขามและน่ากลัวไปในคราเดียวกัน 

    บนแท่นวางวงแหวนรูปวงรีนั้นมีรูปภาพสลักเป็นกระบวนการให้กำเนิดสมาชิกใหม่ของเผ่าพันธุ์ มีหลายภาพที่ฟิโอน่าไม่เข้าใจนักอย่างเช่นภาพแอปเปิลที่แทรกระหว่างรูปบ่อยๆเป็นต้น

    คิระไม่ลังเลสักนิดที่จะใส่ดวงจิตของมิวเข้าไปในตัวเครื่อง ยังไม่ทันที่เธอจะทักท้วงว่าพวกเขาควรตรวจสอบมันก่อน ทวารแห่งการกำเนิดก็ส่งเสียงครืนครัน

    เครื่องจักรโบราณได้ตื่นขึ้นมาทำงานอีกครั้ง 

    พร้อมกันนั้นแสงสว่างสีขาวก็สว่างเรืองออกมาวงแหวน พื้นที่ตรงกลางที่ว่างเปล่าปรากฏเส้นสายหลากสีที่พันพัวเข้าด้วยกันเป็นกลุ่มก้อน มันเกี่ยวกระหวัดหมุนวนถักทอเส้นสายหลากสีสันต์นั้นขึ้นมาเป็นโครงร่างของอะไรบางอย่าง 

    หัวใจของฟิโอน่าเต้นแรงเมื่อคาดเดาได้ว่าสิ่งที่เส้นใยเหล่านั้นกำลังถักทอคือ ร่างกายใหม่ของมิว

    “คิดไว้แล้วเชียวว่าต้องได้ผล” คิระพูดด้วยสีหน้าลำบากใจมาก

    “ของนี่มันใช้สร้างร่างกายได้จริงๆงั้นเหรอ” ฟิโอน่าพึมพำออกไปด้วยจิตใจสับสน 

    ไม่น่าเชื่อว่าจะมีของที่เพียงแค่ใส่ดวงจิตลงไปก็สร้างร่างกายขึ้นมาได้เองโดยอัตโนมัติ 

    “แบบนี้คนของเผ่านี้ก็แทบจะเป็นอมตะน่ะสิ แต่ทำไมยานนี่ถึงได้ถูกทิ้งเอาไว้ที่นี่ล่ะ” ยานลำนี้ยังมีของอยู่ทุกห้อง 

    มันคล้ายกับว่าพวกเขามาจอดมันทิ้งไว้แล้วหายตัวไปเฉยๆ

    “พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จในการใช้ทวารแห่งการกำเนิดสร้างร่างกายขึ้นที่นี่ ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าไม่ใช่ว่าใครก็สามารถใช้มันได้หรอกนะ มีแค่ผู้ที่มีจิตใจแข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่จะใช้มันสร้างร่างกายได้สำเร็จ” เขาตอบ

    “งั้นแสดงว่าคนเผ่านี้ทุกคนต้องมีจิตใจที่แข็งแกร่งใช่ไหม” หญิงสาวทำท่าเข้าใจ

    ทว่าเขากลับส่ายหน้า

    “ไม่ใช่ทุกครั้งที่พวกเขาใช้มันได้สำเร็จ เจ้าของยานลำนี้พิสูจน์เรื่องนี้มาแล้ว คนเผ่านี้ไม่ค่อยมีสมาชิกใหม่เอี่ยมนัก พวกเขาใช้วิธีการรีไซเคิลประชากรด้วยเครื่องมือชิ้นนี้ ใครตายก็จับดวงจิตมาสร้างร่างกายใหม่ ไม่ผ่านคนสองคนยังพอว่าแต่นี่ไม่มีใครผ่านเลยแม้แต่คนเดียว ช่างน่าสงสัยว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นกันแน่”

    “ปัญหาคือทำไมมิวถึงได้ผ่านต่างหาก”ฟิโอน่าชี้ให้เห็นความจริงที่สำคัญที่สุด

    “เหมือนจะดูแปลกนะ แต่ถ้าเป็นมิวต่อให้จะแปลงร่างเป็นมังกรได้ ฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะแปลกอะไร” ชายหนุ่มเปรียบเทียบเสียเธอต้องหันไปมองค้อนทว่าฟิโอน่าก็อดคล้อยตามเขาไม่ได้ 

    “ปัญหาคือเราจะบอกมิวยังไงต่างหากล่ะ”

    “มันเป็นปัญหายังไงเหรอ?” ก็แค่บอกไปตามตรงไม่ใช่เหรอ ฟิโอน่าขมวดคิ้ว

    “มันเป็นปัญหาเพราะนอกจากเรื่องที่ฉันบอกเธอไปเมื่อกี้ ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับชนเผ่านี้อีกแล้ว”คิระเกาหัว 

    ฟิโอน่าหันขวับไปมองเพื่อนสนิทด้วยสีหน้าอึ้งก่อนที่เธอจะร้องออกมา

    “เห!”

    “อันที่จริงฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่น่ะว่าพวกเขาเป็นคนหรือเป็นตัวอะไรกันแน่”

    “…”



     



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×