คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : บทที่ 9 สวัสดี แถวเซเวนมีเบ๊ตายยากบ้างไหม?
บทที่ 9
สวัสดี แถวเซเวนมีเบ๊ตายยากบ้างไหม?
ตอนที่มิวลืมตาตื่นขึ้นมาสิ่งแรกที่เธอทำก็คือวิ่งไปหากระจกและถามฟิโอน่าว่าเธอหลับไปนานเท่าไหร่ ฟิโอน่าเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือที่เธอหยิบมาอ่านฆ่าเวลา หญิงสาวตอบว่ามิวหลับไปแป้บเดียว น่าจะประมาณเจ็ดนาที
“สีผมของมิวมันเปลี่ยนสีงั้นเหรอ…”
ฟิโอน่าหน้าค้าง เธอมั่นใจว่าก่อนมิวจะหลับไปผมของเด็กสาวยังเป็นสีแดงสลับดำ แต่ทำไมพอมิวตื่นมาผมมันถึงได้เปลี่ยนเป็นสีชมพูด้านนอก สีฟ้าด้านใน แถมผมที่เคยยาวประบ่ากลับยาวไปถึงเอวและม้วนเป็นลอนขนาดใหญ่ด้วย
ไม่สิ ดวงตาของมิวก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวพาสเทลด้วย!
รวมๆกันแล้วให้ความรู้สึกเหมือนกับมองสายรุ้งอยู่เลย
“สีนี้ดีใช่ไหมล่ะ มิวชอบมากเลย พยายามอยู่นานแน่ะกว่าจะได้มา” มิวหันมาถามอย่างมีความสุข
เด็กสาวรู้สึกพอใจกับสีผมมาก มันช่างคุ้มค่ากับการวิ่งไล่ตามจี้
“มันก็ดีนะ...”
ผมสีนี้ทำให้มิวดูน่ารักและดูนุ่มฟูแบบแปลกๆ แต่ว่าทำไมผมเปลี่ยนสีได้ล่ะ?
นี่เป็นเรื่องผิดปกติมาก แต่เพราะมิวทำเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ และมิวยังดูจะชอบมันมากด้วย ฟิโอน่าก็จนปัญญาที่จะถามต่อ เธอปลอบใจตัวเองว่าก็ยังดีกว่ามิวทำอะไรอันตรายอย่างปีนขึ้นไปบนหลังคาตึกสูง
“โอ้ะ เกือบลืมไปเลย มิวขึ้นไปข้างบนแป้บนึงนะเดี๋ยวลงมา” เด็กสาวทำท่าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
ฟิโอน่าตอบว่าตามสบาย น็อคกำลังสนุกกับการรื้อยานเลย เขาเป็นคนแรงเยอะ นั่งทำไปอีกสามคืนก็ไม่เหนื่อย
“ถ้าง่วง ขึ้นไปนอ- -อ้าว หายไปไหนแล้ว” ฟิโอน่าที่กำลังจะเอ่ยปากว่าหากมิวง่วงให้ขึ้นไปนอนได้เลยกระพริบตาปริบด้วยความงุนงง
เมื่อกี้มิวยังยืนอยู่หน้ากระจกแท้ๆ แต่ตอนนี้มิวหายไปแล้ว แล้วยิ่งลิฟท์ที่เป็นทางขึ้นลงเดียวของที่นี่เพิ่งจะเปิดออกพร้อมกับการเดินออกมาของรีรีน่าที่มาพร้อมกับของกิน นั่นก็ยิ่งทำให้หญิงสาวงงเข้าไปอีก
ในเมื่อรีรีน่ากำลังใช้ลิฟท์อยู่แล้วมิวหายตัวไปได้ยังไง?!
คำตอบของคำถามนี้ก็คือมิวใช้สกิลที่เรียกว่า ‘โพรงแมว’ ในการออกไปจากห้องลับของเอสตราด้า เด็กสาวเพิ่งนึกได้ว่ามีแขกบินมานอนรอเธอบนหลังคาคฤหาสน์เอสตราด้า เธอเลยรีบขึ้นมาหาเขา
บนหลังคาคฤหาสน์ขนาดใหญ่ สิ่งมีชีวิตหนึ่งกำลังนอนรอเธออยู่ เกล็ดแข็งขนาดใหญ่สีแดงสลับดำ ดวงตาสีเหลือง กรงเล็บสีดำแหลมคม เปลวไฟที่แลบออกมาบนเกล็ดบางส่วน เขาโค้งงอดุดัน บนหลังคือปีกสีดำที่เต็มไปด้วยขนนก มองดูแล้วเหมือนกองขนนกมาก
รวมๆแล้วนี่เป็นมังกรหน้าตาโหดเหี้ยมดุร้ายมากตัวหนึ่ง
แต่มันกลับปล่อยไออุ่นออกมาจากร่างกายแล้วใช้ตัวเองเป็นที่นอนให้กับนกแถวนี้ที่พากันนอนซุกรับความอบอุ่น
สมกับเป็นบอลร็อคเลยนะ หน้าตาเหี้ยมโหดแต่จริงๆใจดี!
“สวัสดีคาโล มิวเล่นกับจี้เพลินไปหน่อยเลยออกมาช้า”
สายรุ้งทิ้งตัวลงมาก่อนที่เด็กสาวหน้าตาน่ารักจะไถลตัวลงมาราวกับเห็นมันเป็นของเล่น มังกรตัวนั้นส่งเสียงประหลาดใจ เด็กนี่ไม่กลัวเขา รู้จักชื่อเขา แปลว่ารหัสของฮาคินที่เธอใช้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และก็ไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิดด้วย
เธอจงใจใช้มัน
“เธอรู้จักฉัน?”
“มิวรู้จักเพื่อนและเพื่อนร่วมงานทุกคนของคุณปู่” เด็กสาวยิ้ม
เธอร่วงลงมาหน้าเขา หยิบสายรุ้งมาพันทบกันเป็นก้อนกลมแล้วใช้มันเป็นที่นั่ง พออยู่ในระยะใกล้แบบนี้คาโลก็ได้กลิ่นชัดเจน เขาทำท่าพอใจมาก
“ไม่เลว แอปเปิลสองลูกแรกเป็นของอาธาเนียร์”
“อันที่จริงเกือบจะสามแล้ว แต่จี้วิ่งมาตัดหน้าเขาก่อน” มิวพูดว่าเธอชอบสายรุ้งและเล่นกับจี้ก็สนุกมาก มิวเลยยอมรับได้
อาธาเนียร์มาวันหลังแล้วกันนะ มิวชอบผมสีสายรุ้งนี้มาก!
“ฉันคิดว่าเธอควรโฟกัสไปที่ประโยชน์ของแอปเปิลที่จะได้มากกว่าความสวยงาม สกิลของแกะพวกนั้นไร้สาระ” คาโลขมวดคิ้วบ่น ฟังเหมือนเขากำลังคำรามในคอ นั่นทำให้หน้าเขายิ่งเหี้ยมโหดเข้าไปอีก แต่มิวกลับไม่รู้สึกอะไรเลย
ไม่สิ หมอนั่นที่เธอเรียกว่าปู่ก็เผ่าพันธ์เดียวกับเขา เธอคงชินกับหน้าตาพวกเขาแล้วล่ะงั้น
“เขาฝากอะไรทิ้งไว้ที่นี่”
คาโลจับสัมผัสชีวิตไม่ได้ สัมผัสได้เพียงแต่ว่ามีซากเพื่อนร่วมเผ่าพันธ์เหลืออยู่กองหนึ่ง เป็นอันเข้าใจว่าฮาคินไปแล้ว จะได้เจอกันอีกไหม เขาจะกลับมาเป็นมังกรอีกรึเปล่า อนาคตเท่านั้นที่รู้
หน้าที่ของคาโลจบแล้ว เขาเลยมานอนรอเจอมิว
“ไม่มีของนาย เป็นสูตรอาหารแมวของทาทา”
“ไร้สาระ” คาโลกลอกตามองฟ้าทันทีที่ได้ยิน
หมอนั่นทิ้งไว้แต่ของแบบนี้เนี่ยนะ?!
“ฮาคินไปแล้ว ของที่เขาทิ้งไว้ก็มีแค่ของแมว เธอเรียกพวกเรามาทำไม”
ถ้าเธอบอกว่าตัวเองรู้จักเพื่อนและเพื่อนร่วมงานของฮาคินทุกคน เธอย่อมรู้ว่าพวกเขาคือใคร ทำอะไรได้ การที่เธอเรียกพวกเขามาหาแบบนี้ เธอย่อมมีจุดประสงค์
แต่มันจะคุ้มไหมกับสิ่งที่ต้องแลกไหมนี่สิ
เด็กสาวยิ้ม “มิวมีของจะขายให้นาย เห็นพระจันทร์ที่ตายแล้วข้างบนนั้นไหม มันชื่อควอต เป็นที่ๆมังกรมืดเคยมาซ่องสุมกันอยู่พักหนึ่ง มิวเก็บข้อมูลทั้งหมดมาแล้ว”
เด็กสาวเล่าว่าเธอสำรวจ ส่วนฮาคินช่วยวิเคราะห์ ถ้าไม่เชื่อเธอก็เชื่อฮาคิน เขาบอกว่ามันเป็นข้อมูลที่คาโลจะใช้ประโยชน์ได้แน่นอน
“พวกมันทำอะไรกันบนนั้น”
“ดัดแปลงทวารแห่งการกำเนิดให้ผ่านง่ายขึ้น แล้วขนย้ายมันไปที่อื่น”
ดวงตาสีเหลืองขยายขึ้นด้วยความตื่นเต้น มันเป็นข้อมูลที่มีค่าของจริง
“นั่นไง ฉันว่าแล้วว่าไอ้เครื่องมือนี่มันมีปัญหา บอกราคามาได้เลย เธอคิดเท่าไหร่”
มิวยิ้มแล้วพูดว่าฮาคินช่วยเธอตั้งราคา บอกเลยว่ามันไม่ถูกแน่นอน!
หึหึ ในที่สุดของที่เธอใช้เวลานานมากกว่าจะได้มันมาก็ขายออกสักที มิวหวังว่า ‘ลูกค้าตัวอื่น’ ที่เธอหมายตาเอาไว้จะรีบบินมารับของไวๆ!
.
.
ถ้าจะพูดถึงความแตกต่างของเอสตราด้าสายเลือดหลักและสายเลือดรองแล้ว ก็คงจะอธิบายได้ง่ายๆว่า ฝั่งหนึ่งเป็นพวกมีพลังเหนือมนุษย์ที่ถูกรวบรวมมาเพื่อเป็นกำลังรบของเอสตราด้า ในขณะที่อีกฝั่งคือทายาทที่สืบเชื้อสายมาจากต้นตระกูลคอยดูแลความเป็นปึกแผ่นของประเทศ
ในบรรดาสายเลือดหลักทั้งสี่คนนอกจากผู้ชายหน้าตาตายง่ายที่ชื่อฟรานซิสแล้ว ไม่มีใครมีสายเลือดเอสตราด้าแม้แต่คนเดียว แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาในการข่มขวัญพวกสายเลือดรองแม้แต่นิดเดียว
มิวได้ยินว่าพวกสายเลือดรองกับพวกหอคอยขาวกลัวเจ้าเฉื่อยน็อคมากเสียจนไม่มีใครกล้าคัดค้านเวลาเขาหนีออกไปข้างนอกนานๆ และถึงมิวจะเป็นสายเลือดหลักใหม่เอี่ยม แต่การถูกยกลำดับที่สองให้ก็เป็นการรับประกันความน่ากลัวของเธอในตัว
สายเลือดรองที่ฉลาดหน่อยก็จะเลือกสวามิภักดิ์ต่อมิวโดยดี ยกตัวอย่างรีรีน่าที่เชื่อฟังคำสั่งเธอโดยไม่มีข้อโต้แย้งนั่นก็ได้
รีรีน่าเป็นลูกสาวคนเล็กของรองหัวหน้าตระกูลสายเลือดรองคนปัจจุบัน เป็นญาติสนิทกับฟรานซิสและในนครเหนือสถานะของเธอคล้ายๆกับเจ้าหญิง ถึงจะตายง่ายไม่เหมาะพาออกไปลุยแต่ก็ทดแทนมาด้วยการเป็นเบ๊สารพัดประโยชน์และ ‘ตำแหน่งเจ้าหญิง’
ราชินีน่ะมีเจ้าหญิงเป็นเบ๊ก็ถูกแล้วนี่!
“ท่านมิวคะนี่คือรายชื่อของเจ้าหน้าที่เซเวนที่มาร่วมการประชุมวิชาการที่หอคอยขาวพร้อมประวัติอย่างละเอียดค่ะ”
รีรีน่าเดินเข้ามาพร้อมกับกองเอกสารที่สูงท่วมศีรษะจนมองไม่เห็นหน้า เอกสารถูกวางลงตรงหน้ามิว ส่วนคนถือมันเข้ามาถอยไปยืนรอคำสั่งใหม่
ความสามารถพิเศษของรีรีน่าที่มิวเพิ่งค้นพบก็คือ แรงเยอะผิดมนุษย์ไปไกลมาก
ช่วงนี้มิวอารมณ์ดีมากเลยล่ะ เธอกำลังคิดอยู่ว่าจะขายอะไรต่อดีนะ ตอนที่รีรีน่าเข้ามา มิวได้รับค่าตอบแทนจากคาโลสูงมาก ข้อมูลที่เธอได้มันคือหัวใจหลักของงานหมอนั่นเลย
เขาลองไปที่ควอตแล้ว สภาพของที่นั่นแย่มาก เพียงแค่บินไปใกล้ๆพื้นก็ถล่ม อย่าว่าแต่สำรวจเลยลงไปแตะพื้นยังไม่ได้ เป็นพื้นที่ยากต่อการสำรวจของแท้
คาโลเลยวาร์ปกลับมาเพิ่มค่าตอบแทนให้มิวอีก พอดีว่าตอนนั้นมิวกลับไปถอดชิ้นส่วนยานต่อ เขาเห็นยานลำนั้นกำลังถูกรื้อ ถึงจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับบนๆของลอวก้าแต่ยานพวกนี้ไม่ใช่เงินเขาแล้วก็ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของเขา
ที่สำคัญกว่านั้นคือเขาไม่ชอบหน้าเจ้าของของหน่วยงานนั้น คาโลเลยบอกรื้อตามสบาย เขาขอซื้อชิ้นส่วนที่เธอไม่ได้ใช้แน่ๆจากซากยานลำนั้น พร้อมกับแนะนำว่าบรรดาคนรู้จักของฮาคินที่เหลืออยู่ตอนนี้ ใครกำลังอยากได้อะไรให้มิวด้วย
นอกจากของจะขายได้แล้ว ลูกค้ายังแนะนำลูกค้าใหม่ให้เธอด้วย!
เรื่องนี้ทำให้มิวมีความสุขไปหลายวันเลย
แต่คนที่ไม่มีความสุขเลยคือฟิโอน่า หญิงสาวระแวงตลอดเวลาว่ามิวจะเอาชิ้นส่วนยานอวกาศไปต่อเป็นของอันตราย
เด็กสาวหยิบเอกสารพวกนั้นมาดูผ่านๆ โดยมีรีรีน่าเฝ้ามองอย่างใจจดใจจ่อเพื่อรอคำสั่งต่อไป ทำงานกับมิวแค่ไม่กี่วันสภาพของคุณหนูคนเล็กก็เปลี่ยนไปจากเดิมราวฟ้ากับเหว
ผมถูกตัดสั้นด้วยความยินดีของเจ้าตัวยุ่งไม่เป็นทรง ใบหน้าที่เคยสวยเป็นอันดับต้นๆของตระกูลถูกบดบังด้วยแว่นตาอันใหญ่ทำให้เธอดูเหมือนพวกแก่เรียน แถมชุดก็เปลี่ยนมาเป็นชุดคล้ายๆกับของน็อค
ได้ยินว่ารีรีน่าลงทุนไปนั่งถามเจ้าเฉื่อยนั่นทีเดียวว่าถ้าจะทำตัวกลมกลืนกับคนข้างนอกต้องแต่งตัวยังไง ตอนแรกมิวประเมินว่าเธอน่าจะเป็นเบ๊เกะกะ
แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเบ๊พอจะพึ่งพาได้ก็แล้วกัน!
ฟิโอน่าบอกว่าเพื่อนของเธอบอกให้มิวอยู่ที่นี่ก่อน ตอนนี้ที่เซเวนกำลังวุ่นวายสุดๆเพราะถูกตัวร้ายที่ชื่อแม่มดอะไรสักอย่างรุมโจมตี มิวมีอะไรอีกหลายอย่างให้ทำแถวนี้ และเธอก็ยังหาลูกน้องที่มีสกิลที่เธอต้องการไม่ได้ด้วย
ฮึ่ม เบ๊ตายยากน่ะสำคัญมากเลยนะ!
รีรีน่าเป็นวิซาร์จถึงจะโจมตีแรงแต่ตัวบางเกินไป มิวเลยมองหา ‘วอริเออร์’(นักดาบ) แทน และถ้าพูดถึงสถานที่ๆบ่มเพาะนักดาบที่ดีที่สุดแล้วก็ต้องที่เซเวนเท่านั้น
แต่แน่นอนว่าถ้าเอานักดาบพวกนั้นมาเทียบกับมิว เธอต้องเก่งกว่าอยู่แล้วสิ ฝีมือเธอเป็นลำดับต้นๆของเกมเลยนะขอบอก วอริเออร์แท้นิยมใช้แต่กำลังแบบเถื่อนยังสู้เธอไม่ไหวเลย
ส่วนเจ้าคิงดวงเฮงของเคเอสนั่นที่ดวงดีผิดปกติ มิวจะไม่นับหมอนั่นรวมกับคนอื่น แหงล่ะ คนดวงเฮงอย่างเจ้าหมอนี่ใช้แค่ตุ๊กตาคิงแบลร์สู้กับมิวยังอาจจะเสมอเลยเพราะหมอนี่มากับดวง
และในเกมก็มีแค่คนเดียวเท่านั้นที่เธอไม่เคยชนะเขาได้ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน มิวก็เลยแก้ปัญหาด้วยการไม่สู้กับหมอนั่นซะ หลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยแพ้ใครอีกเลย
ช่างเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ชาญฉลาดจริงๆ
“มีใครพอจะเข้าตาบ้าง เอาแบบตายยากๆ” มิวที่ขี้เกียจอ่านโยนเอกสารในมือทิ้งอ้าปากหาวแล้วยกโกโก้ขึ้นมาดื่มรวดเดียวครึ่งแก้ว
“ค่ะ ที่น่าสนใจก็มีห้าคนนี้ค่ะ มีสามคนทำงานเป็นผู้ช่วยให้กับเจ้าหน้าที่ระดับมาสเตอร์และเอสไรเดอร์ของเซเวน ส่วนอีกสองคนเป็นลูกน้องของเสจมาสเตอร์” รีรีน่ารายงานอย่างขยันขันแข็ง
เซเวนประกอบไปด้วยการทำงานประสานกันของเจ้าหน้าที่สองแผนก จำง่ายๆว่า
‘ไรเดอร์’ เน้นการใช้กำลัง
‘มาสเตอร์’ เน้นการใช้สมอง
รีรีน่ายื่นเอกสารมาให้มิวดูผู้ชายหน้าตาโหดร้ายห้าคนที่ดูก็รู้ว่าเป็นพวกเน้นการใช้กำลัง แต่เธออยากได้คนที่ฉลาดๆด้วยนี่นา- -
“ที่น่าสนใจก็คือ ชิวาส โรเล็กส์ค่ะ อายุ16ปี เชี่ยวชาญการใช้ปืนและดาบ เขาเป็นน้องชายของชิน โรเล็กมาสเตอร์อัจฉริยะที่เคยถูกเสนอตำแหน่งเสจมาสเตอร์ลำดับที่แปด พ่อของเขาเป็นเอสไรเดอร์ระดับตำนานของเซเวน และที่สำคัญตอนนี้เขากำลังฝึกงานอยู่กับเอสไรเดอร์อันดับหนึ่งของเซเวน อเลสเตอร์ บอสเวิร์ดค่ะ ได้ยินว่ามาตรฐานการรับเด็กฝึกงานของคุณอเลสเตอร์สูงมาก ตั้งแต่เขารับตำแหน่งมาชิวาสเป็นแค่เด็กฝึกงานหนึ่งในสองคนที่เขารับมาดูแลค่ะ”
“มาตรฐานไม่ได้สูงอะไรหรอก” มิวพึมพำด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
ไม่เจอกันแค่แป้บเดียวหมอนี่พัฒนาไปมีลูกน้องตั้งสองคนแน่ะ คิดจะใช้ลูกน้องพวกนี้ขัดขวางเธอสินะ!
ดีล่ะในเมื่อหมอนี่เป็นเบ๊ของเธอ ลูกน้องของเบ๊ก็ต้องเป็นเบ๊เธอเหมือนกัน!
“พวกที่มามีลูกน้องของจีซัสมั้ย”
ถ้าเอาลูกน้องของจีมาใช้ต้องไม่ถูกดุแน่ๆ จีซัสตามใจเธอจะตายไป ขโมยลูกน้องหมอนั่นมาหนึ่ง ลูกน้องจีมาอีกหนึ่งดีกว่า มิวผงกศีรษะรับความคิดนี้ด้วยสีหน้าพึงพอใจ
“หมายถึงมาสเตอร์จีซัส เซลเวเกอร์ใช่มั้ยคะ มาสเตอร์จีซัสเป็นผู้ช่วยของเสจมาสเตอร์ลำดับที่สามค่ะ ได้ยินว่าเป็นคนที่มีงานยุ่งตลอดเวลาและเป็นคนโปรดของพวกเสจมาสเตอร์ ลูกน้องของเขามีเยอะมาก คนอยากฝึกงานกับเขาก็มีเยอะมาก นับเฉพาะพวกที่มาร่วมประชุมก็มีเกือบยี่สิบคนเลยค่ะ”
รีรีน่าอธิบายละเอียดยิบราวกับใช้ชีวิตอยู่ที่เซเว่นมาหลายปี มือก็หยิบเอกสารที่ต้องการใช้ออกมาจากกองภูเขาเอกสารมายื่นให้มิวด้วยความเร็วสูง
“นี่สิเรียกมาตรฐานสูงของจริง” มิวพึมพำออกมา
ลูกน้องจีซัสแต่ละคนเป็นประเภทเดียวกันเป๊ะๆ ทั้งหน้าตา ประวัติ และความสามารถ เป็นลูกน้องประเภทสมองดีแต่ตายง่าย แถมยังยืดยาดไม่เหมาะกับเธอสักนิด ใช้ไม่ได้แฮะ
“แล้วลูกน้องเสจมาสเตอร์ล่ะ”
“มีคนหนึ่งเป็นลูกน้องของเสจสิบเอ็ดที่ทำงานด้านเดียวกับมาสเตอร์จีซัสค่ะ ส่วนอีกคนเป็นลูกน้องของเสจแปดที่ดูแลเรื่องประสานงานกับต่างประเทศ- -แบบว่าดูไม่ใช่คนตายยากแบบที่ท่านมิวต้องการ”
รีรีน่าหันมาป้องปากพูดประโยคสุดท้ายด้วยสีหน้าไม่อยากจะแนะนำสองคนนี้นี้ให้มิวเท่าไหร่พลางยื่นเอกสารให้มิวดู
เด็กสาวกวาดตามองรอบเดียวก็จัดการปาเอกสารสองแผ่นนั้นทิ้งทันทีโดยไร้ความลังเล
“ไม่ใช่พวกตายยากจริงๆด้วย! เสจมาสเตอร์พวกนี้เลือกลูกน้องยังไงถึงได้มีแต่พวกตายง่ายแบบนี้”
เซเวนสมัยนี้ไม่เหลือคนตายยากแล้วหรือไง?!
“นอกจากพวกนี้แล้วยังมีเสจมาสเตอร์สองคนตามมาคุมด้วยค่ะ เสจแปดแอเรียล เสจสิบสามไมรอน สองคนนี้จะเข้าร่วมการทดสอบดันเจียนที่ปรับแต่งโดยหอคอยขาวในอีกสี่วันค่ะ” รีรีน่ารายงานต่อ
“หืม การทดสอบโชว์ความโหดของดันเจียนชนิดปรับแต่งเองน่ะหรอ” มิวทำท่าสนใจขึ้นมา
สถาบันการศึกษาของทั้งสามประเทศจะจัดการประชุมวิชาการขึ้นทุกสามปีเพื่อโชว์ว่านักเรียนประเทศตัวเองเก่งกว่าประเทศอื่นแค่ไหน จะเรียกว่าการประชุมเพื่อข่มประเทศอื่นก็ได้
ไฮไลท์ของงานคือการที่ประเทศเจ้าภาพจะสร้างดันเจียนขึ้นมาด้วยความรู้ทุกอย่างที่มี ยิ่งนักเรียนของประเทศอื่นผ่านดันเจียนได้น้อยเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้หน้ามากขึ้นเท่านั้น
ทำไมเธอถึงรู้น่ะหรอ? ก็เพราะไอ้การประชุมวิชาการนี่มันเป็นเควสหนึ่งของเกมไงล่ะ ถ้าจะถามว่าเธอสอบผ่านไหมเปลี่ยนเป็นถามว่าเธอพังดันเจียนทดสอบในกี่นาทีดีกว่า หึหึหึ
แล้วในเกมการปรับแต่งดันเจียนยังเป็นของเล่นสนุกๆที่ใครๆก็สามารถซื้อมาเล่นได้ แต่ว่าไม่ใช่ทุกคนจะเก่งพอที่จะออกแบบดันเจียนได้ดีพอๆกับดันเจียนในเกมหรอกนะ
ไม่อยากจะอวดเลยว่าดันเจียนที่เธอเป็นคนออกแบบแล้วเอาไปวางล่อให้พวกที่หมั่นไส้เธอเข้ามาติดกับน่ะมีคนผ่านแค่สี่คนเท่านั้น แถมคนที่ผ่านพวกนั้นต้องใช้เวลาหนึ่งเดือนสิบวันด้วย
ทีนี้รู้ซึ้งถึงความเก่งของเธอรึยังล่ะ!
และที่มันน่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือคนชื่อ ไมรอน เจ้าเสจสิบสามนั่น- -เจ้าพวกเคเอสที่บังอาจทำตัวข้ามหน้าข้ามตาเธอ!
ในเมื่อสวรรค์ส่งเจ้าหมอนี่มาอยู่แถวนี้ ในฐานะผู้กล้าข้ามมิติเหมือนกันเธอไปทักทายหมอนี่หน่อยดีกว่า!
1 พวกหมายเลขสี่เป็นคนออกแบบบอลร็อค
2 นายท่านแมวดำกล่าวว่านี่คือสิ่งที่เขาจะใช้กู้หน้าแทนวิคเตอร์!
ขอให้กู้หน้าได้สำเร็จนะนายท่านแมวดำ!
ความคิดเห็น