ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SEHUN X YOU SO WHAT?

    ลำดับตอนที่ #7 : SO WHAT? CHAPTER 6 CUT SCENE

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ค. 59


     

     

    SO WHAT?

     

     

     

    CHAPTER 6

     

     

     

     

    CLICK

    ò

    SO WHAT? CHAPTER 6

     

     

     

     

       รู้จักเรื่องบัดซบไหมเขาอธิบายกันยังไง นี่ไงฉันกำลังเป็นอยู่...ชุดเดรสรัดรูปที่ขาดออกเหมือนเศษผ้าไม่ใช่แค่นั้นรวมถึงชั้นในที่ฉันใส่เมื่อวานและฉันตื่นมาพร้อมชุดวันเกิดเปลือยแบบไม่มีจะเปลือยแล้วยังจะร่างกายที่ปวดมันไปทุกส่วน

     

        โคตรบ้าดูเหมือนเมื่อคืนฉันจะทำศึกหนักแต่...กับใคร?...มันทำให้ฉันเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าตัวเองเผลอไปนอนกับใครสักคนหรืออาจจะนอนกับใครสักคนแล้วใครหน้าไหนมันจะรู้รหัสห้องฉันนอกจากตัวเองและ...สิ่งที่ไม่อยากจะคิดอย่างหมอนั้นจะมายุ่งกับชีวิตฉันทำไมอีกแต่แล้วทำไมฉันเหมือนไปฟันกับใครมาละวะ

     

    “อยากจะบ้า...” ฉันปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกได้ยังไง

    บอกพ่อเลยดีไหม?

     

     

        คงจะจบไม่สวยแน่ดีไม่ดีฉันอาจจะถูกบังคับแต่งงานไม่งั้นตระกูลนั้นก็ต้องสิ้นไปจากโลกแต่ไม่มีทางที่ฉันจะเสี่ยงแน่...เอาเป็นว่าฉันต้องเคลียร์กับชีวิตตัวเองก่อนแล้วกันขืนคนเป็นพ่อแม่รู้ต้องผิดหวังตายห่าถึงจะไม่กินเส้นกับพ่อตัวเองฉันก็ไม่อยากให้เขารู้ว่ามีอะไรกับผู้ชายหรอกนะแค่แม่รู้ยังเป็นลมแล้วพ่อจะไม่ตบฉันหรอวะ...

     

     

     

     

     

        ฉันเดินเข้าตึกนิติศาสตร์เช่นเคยวันหยุดแต่นักเรียนยังเยอะเหมือนเดิมเด็กคณะนี้เขาไม่ไปทำอะไรนอกจากอ่านหนังสือเลยหรือยังไง

    “ยู” ให้มันได้อย่างนี้เพิ่งจะก้าวมาเองนะโว๊ย “สามีเรียกให้ได้ยินหน่อย”

    “...” ฉันยังแสดงออกไม่พอหรอว่าไม่อยากอยู่ใกล้เขาแค่ไหน

    “กินยาหรือยัง” ฉันหยุดเดินแล้วหันไปมองคนด้านหลังมันส่งยิ้มที่น่ารังเกลียดมาให้ฉันก่อนจะยื่นยาแผลงหนึ่งมาตรงหน้า...เวรยาคุม

    “ทำไมต้องกินวะ”

    “ไม่กินก็ได้ ไม่ว่าอะไร เมื่อคืนฉันสดนะรู้ไหม” อะไรนะ!!! เมื่อคืนคือ...

     

     

     

        ฉันไม่รู้ว่าหมอนี่ตามมีเจตนาร้ายอะไรไม่ว่าจะหวังดีหรือหวังร้ายบอกเลยว่าไม่เคยต้องการสักนิดฉันปัดยาที่ยื่นมาตรงหน้าก่อนจะเดินกลับทางเดิมงานไม่ต้องส่งมันละหายาแก้หน้าเสียกับยาป้องกันตัวเองดีกว่า

     

     

        กรรมคงตาม...หมอนั้นไม่ได้ยื่นมาให้ฉันดูคนเดียวไงบอกแล้วว่าเด็กคณะนิติศาสตร์มันเยอะและโคตรที่จะให้ความสนใจกับเหตุการณ์เมื่อกี้เลย...อีกไม่ถึงวันรู้ทั้งมหาลัยแน่ไอ้เลว

    “จะรีบไปไหนคุยก่อนดิวะ เก่งนักไม่ใช่”

    “ปล่อย” ฉันพยายามสะบัดข้อมือตัวเองสองข้างที่ถูกเซฮุนบีบไว้แน่นก่อนที่เขาจะเข้ามากอดรัดฉันไว้แทนแล้วยังมาเหยียบเท้าสองข้างฉันอีกไอ้เฮงซวย

    “อย่างเธอต้องเจออย่างนี้ แล้วรู้ยังว่าอับอายขายขี้หน้ามันเป็นยังไง?

    “ปล่อย” เจตนาคือต้องการเอาคืนที่ฉันเทน้ำราดหัว?

    “กัดทำฟันซะด้วย กลัวจังเลยทำไงดีน๊า...” ถ้าปล่อยเมื่อไหร่สาบานเลยว่าฉันจะกัดหน้ามันให้เลือดออกจนผิวหนังติดไปกับมือเลย

    “...”

    “ทีอย่างนี้เงียบอยู่บนเตียงหน่อยก็ร้องซะ”ฉันไม่ชอบไอ้หมอนี่มันทำชีวิตฉันพังสารเลวจริงๆ “อย่าดิ้นดิวะ”

    “เอามือออกไปจากตัวฉัน”

    “ไปกินข้าวกันไหม” ใครก็ได้โยนยาแก้โรคประสาทมาให้ฉันสักสิบแผงจะได้กรอกเข้าปากหมอนี่เหมือนจะคุยกับมันไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ “จะปล่อยถ้าไปกิน...จะเลี้ยงไปป่ะ”

    “ไป”

    “จริงหรอครับยู”

    “อืม อยากกินฟรี” เซฮุนปล่อยแขนออกจากรอบตัวฉันแล้วถอยเท้าออกจากตีนฉันด้วยก่อนจะนั่งลงกับพื้นถนนแล้วเอามือถูรอยเปื้อนบนผ้าใบสีขาวให้ อ่อนโยนดีแต่ฉัน...

     

     

    ไม่ชอบโว๊ยยยย!!!!

     

     

    พลั๊ก!!!

     

     

     

     

     

     

        ฉันเห็นว่าคางเขาสวยดีเลยเสริมหน้าแข้งให้จะได้เรียวกว่าเดิมฉันวิ่งมาที่ลานจอดรถแล้วเข้าไปด้านในติดเครื่องไว้จ้องมองผู้ชายที่นอนบีบคางตัวเองอยู่ที่ถนนหน้าคณะนิติศาสตร์ เจ็บมาเลยหร๋อ...

     

        ข้าวน่ะอย่างฉันก็มีปัญญาเลี้ยงตัวเองของฟรีไม่ต้องการ...ฉันขับรถออกจากมหาลัยโดยไม่สนใจห่าตัวนั้นอีกเจ็บให้ตายไปเลยเป็นไง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

        หลายวันมานี้ฉันรู้สึกเหมือนใครบางคนตามกำลังตามอยู่รถสปอร์ตสีแดงขับตามหลังฉันมาตลอดวันแรกสองวันฉันจะไม่คิดอะไรเลยแต่มันตามมาจะเป็นเดือนบังเอิญเกินไปและถ้าให้ทายก็คงไม่ยากเท่าไหร่...พ่อ

     

        รู้สึกอยากจะเคลียร์กับเจ้าของรถ...ลูกน้องบ้านพ่อฉันตามคนอื่นด้วยสีรถอันสะดุดตางั้นหรอฉันเลี้ยวรถจอดสวนสาธารณะขนาดกว้างแล้วจอดไว้ก่อนจะหยิบกล้องอันโตออกจากรถแล้วมายืนถ่ายรูปต้นไม้ดอกไม้...เหมือนพวกโลกสวยใครจะรู้ว่าฉันสร้างภาพอยู่สักพักเจ้าของรถสีแดงที่จอดอยู่ห่างๆก็ลงจากรถพร้อมแว่นทรงสวยที่สวมอยู่ก่อนจะเดินมองรอบๆสวนแบบไม่เนียน

     

    “แบคที่เก็กน่ะเหนื่อยไหม” ฉันลดกล้องลงจากตาแล้วห้อยคอไว้ก่อนจะเดินไปนั่งบนหินอ่อนขนาดใหญ่ด้านหลังไอ้เจ้าของรถสีแดง

    “คุณพูดเรื่องอะไรครับ” เขาหันหลังมามองฉันแล้วถอดแว่นออกแบบเซ็กซี่ดวงตาขี้สงสัยฉายแววออกมาชัดเจนว่าไม่รู้จัก...กับผีอะไร

    “พูดเรื่องมึงอ่ะ”

    “สวยดีนะ แต่ทำไมถึงหยาบคายละครับพ่อคุณไม่สอนหรอ”

    “สอนแล้วยังไง ก็ลูกไม่ทำหนักหัวมึงไง”

    “เชี่ย” ฉันได้ยินนะไอ้ห่า “แล้วพ่อเคยสอนไหมว่าอย่าพาผู้ชายเข้าบ้าน” ...พ่อไม่สอนแต่ฉัน...ยังไงดี ทำยังไงหมอนี่ต้องรู้อะไร “ไม่คิดเลยว่ะว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้” เขาเดินมานั่งข้างๆแล้วหันมามองหน้าฉันส่ายหน้าไปมา “โคตรผิดหวัง...”

    “รู้หรอ” ฉันลุกยืนแล้วกระซากคอเสื้อไอ้เพื่อนบ้ามากำไว้แน่น

    “ก็เห็น ทำไมวะยู ทำทำไมไม่เข้าใจ”

    “รู้แล้วทำไมไม่ช่วยรู้แล้วทำไมไม่ห้ามทำไมไม่ช่วยฉัน!!!!” ฉันเผาตัวเองได้แน่ไฟลุกเต็มที่แล้วและฉันจะเผามันไปด้วย “มองดูโดยที่ไม่รู้อะไรได้ยังไง!!!” ถ้าเขาเห็นแล้วทำไมไม่ทำอะไรเลย “เอาแต่มองได้ยังไง!!

    “อย่ากำ! ตั้งสติสิวะ!! หายใจไม่ออก!!!!” ฉันผ่อนแรงฝ่ามือสองข้างที่กำอยู่รอบคอคนตรงหน้าตอนไหนไม่รู้ลงแล้วลูบคอเขาแทนแบคฮยอนลูบแก้มฉันเบาๆแววตาเขาสั่นไหวไปมาราวกับต้องการคำตอบ “คุณยู พูดออกมาซะ”

    “ฉัน...หมอนั้นมันไม่ใช่ มันไม่ใช่!!ฉัน ฉัน...”

    “เธอไม่มีสติ โอเคเธอไม่สบาย...กลับห้องเธอกันเถอะ”

     

     

        เขาหันไปมองที่รถสีแดงของตัวเองแล้วมันก็ขับออกไปเหมือนจะมีใครสักคนอยู่ในนั้นก่อนจะยัดฉันเข้าที่นั่งข้างคนขับแล้วพาตัวเองมานั่งแทนที่ฉันเคยนั่งแบคฮยอนมองฉันเป็นพักๆมันเป็นคนฉลาดไม่เข้ากับหน้าโง่ๆที่มีอยู่และมันคงกำลังคิดอะไรบางอย่างแน่

     

       แบคฮยอนเป็นลูกคุณป้าแม่บ้านที่บ้านของพ่อและเป็นพี่ฉันแต่ฉันไม่อยากจะนับเลยพูดกับมันเหมือนเพื่อนมาตลอดพอมันเข้ามหาลัยเรียนจบมาก็มาทำงานอันหน้าขยะแขยงกับพ่อทำให้ฉันไม่อยากจะยุ่งกับมันอีก...เรียนมาทำงานแบบนี้ให้คนเป็นครูอับอาย

     

    “ไม่ได้เป็นแฟนแน่ หน้าอย่างเธอคงไม่มี” ฉันอยากส่งเขาไปอยู่กับไอ้ลู่จริงๆ “และหน้าอย่างนี้คงไม่ไปยั่วใคร ยั่วได้มากที่สุดคงเป็นยั่วโมโห...ซิบหายฉันคิดว่าเธอแม่งถูกข่มขืนว่ะหน้าตาตอนที่เธอกำคอเสื้อฉันมันลอยมาในหัว น่ากลัวฉิบ”

    “...”

    “แต่อย่างท่านยูใครเขาจะกล้ามาทำ ว่าไหม”

    “อืม...” ใครจะกล้าไม่มีหรอก

    “แล้วหมอนั้นมันเดินเข้าห้องเธอทำไมครั้งแรกมันเข้าไปเองครั้งสองมันอุ้มเธอเข้าไปจิ้งจกตัวไหนมันจะคิดว่าไม่ใช่แฟนวะ” เห็นซะขนาดนั้นทำไมมันไม่เข้าไปหาฉันถ้าแบคฮยอนใช้สมองอันฉลาดคิดสักนิดฉันคง...“คุณไม่พูดผมก็จะเดาให้คุณฟังไปเรื่อยๆแหละครับทองจะไหลออกจากปากหรือไง”

     

    “หุบปากสักสามวิ”

    “เห้ย ไม่ได้หรอกครับเดี๋ยวผมจะขาดใจตายเอา คุณก็รู้ว่าเรื่องพูดมันคือชีวิตผม” เชื่ออยู่หรอกว่าชอบคุย “จะไปอยู่ด้วยนะ”

    “ไม่ ฉันจะอยู่คนเดียว”

    “รู้ไหมว่าพ่อเธอยังไม่รู้เรื่องเธอพาผู้ชายเข้าห้อง” ฉันไม่เคยพาใครเข้าห้องสักครั้งอย่ามามั่วฉันอยากจะเถียงออกไปอย่างนั้นแต่รู้ว่ามันไม่มีทางเชื่อคำพูดฉันแน่นอน “ถ้าฉันหรือเทาใครสักคนพูดขึ้นมาบอกหน่อยว่างานนี้ใครจะจบ” กูไง

    “เทา?

    “เขารู้ เขาเห็น...เหมือนฉัน” ลูกน้องคนสนิทของพ่อสนุกแล้วงานนี้ไอ้ยู ฉันคิดว่าตัวเองต้องไปล้างเคราะห์สักหน่อยแล้วว่ะรู้สึกได้ชัดเจนว่าชีวิตอันเรียบง่ายเริ่มจะวุ่นวาย “ยังจะไปอยู่ได้ไหมนางยู”

    “แล้วแต่...”

    “ยูที่ฉันรู้จักไม่ปิดปังอะไรกับใคร ซ้ำเธอยังสู้กับปัญหาถึงสิ่งนั้นมันจะทำทั้งชีวิตเธอพังก็เถอะขอแค่ให้ได้ทำ” มันก็จริงฉันไม่เคยเลี่ยงเรื่องปัญหา

    “แต่นายไม่เคยรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นถ้าจะพังอะไรสักอย่างต้องมาจากเรื่องตัวเอง ไม่ใช่เอาเรื่องใครสักคนมาทำให้ชีวิตตัวเองพัง จำไว้ไอ้แบค!” ฉันเห็นแกตัวเองเท่านั้นแหละ

    “กูเป็นพี่มึงนะ คิดว่าเป็นลูกเจ้านายแล้วจะกลัวหรอ”เป็นพี่แล้วทำตัวหมาๆอย่างนี้ใครเขาจะเคารพเรียนจบนิติแล้วมาเป็นลูกน้องมาเฟีย...กูตลก

    “แล้วแต่!”   ฉันเดินลงจากรถแล้วเดินเข้าคอนโดตัวเองปล่อยไอ้บ้านั้นไปเก็บข้าวของมาอยู่ด้วยแล้วมันลืมไปแล้วหรือไงว่าตัวเองก็เป็นผู้ชาย -_-

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

        ฉันมาเรียนและมาหมาตามมาด้วยมาเริ่มเรียนใหม่ปลอมแปลงเอกสารทุกอย่างเลวมากฉันเกลียดเรื่องแบบนี้ทำไมคนที่มีตังชอบทำให้ตัวเองมี...เพียงแค่ใช้เงินขอให้แบคฮยอนมันเจอจับได้แล้วติดคุก

    “ยูรูปนี้ใครที่ถือกล้องถ่าย ดูๆน่ารักโคตรมีเพื่อนแล้วหรอวะ” มันกำลังสไลด์ภาพที่เพื่อนหญิงเพียงคนเดียวของฉันถ่ายเล่นซูมไปๆมาๆเหมือนพวกโรคจิต

    “แจฮยอน โสด ไม่มีแฟน พูดมาก เก่ง น่ารำคาญ”

    “สเป็กเลย กูชอบผู้หญิงแบบนี้แหละ รู้ยัง?” ฉันโยนกระเป๋าให้มันพายเองแล้วเดินนำหน้าไปก่อนกลัวว่ามันจะไปชนใครสักคนเข้าก้มดูอยู่นั้นแหละอีกไม่กี่นาทีคงจะได้เจอ

     

     

    “แจ...ไอ้ลู่” บ้าไปแล้ว...O_O

    “เห้ยเงียบดิ” มันตรงเข้ามาปิดปากฉันไว้แน่นแล้วมองดุๆที่สงสัยคือทำไมถึงแต่งตัวเป็นผู้หญิงแน่นอนว่าสองพี่น้องหน้าตาเหมือนกันมากแต่ไม่ยากถ้าคนอย่างฉันจะแยกแยะก็รู้จักดีทั้งพี่และน้องคนมันคุ้นก็ต้องสัมผัสได้บ้างแหละ

    “สวัสดีครับผมแบคฮยอนเข้ามาใหม่ฝากตัวด้วยฮะ” ไม่นานไอ้คนด้านหลังก็เอากล้องมาคล้องคอฉันไว้แล้วเดินไปจับมือคนด้านหน้าแนะนำตัวแล้วยิ้มอย่างน่ารัก

    “นี่แจฮยองหัวหน้าชั้นปี” หรือไอ้ลู่หานพี่รหัสฉันที่มีสาวๆหลงใหลมากมายดึงวิกออกเลยดีไหมคนแถวนี้จะได้กรี๊ดกัน

    “ยู...” ทำมาเป็นพูดหวานลู่หานจับแขนฉันไว้ไม่ให้เดินออกไปแล้วใครมันมาเขียนอายไลน์เนอร์ให้หมอนี้วะตลกชะมัด “อยู่ด้วยกัน”

    “เสียงอ่ะ ระวังหน่อย” ฉันก้มกระซิบที่ใบหูเบาๆกลัวว่าไอ้แบคฮยอนจะได้ยินเข้ายิ่งเผือกๆอยู่

    “กระซิบอะไรกัน”

    “เสือก แล้วลู่อยู่ไหน” ไอ้ลู่หานแกโดนฉันเล่นงานแน่ๆ “เจ็บคอหร๋อ”

    “บ้าน” เสียงอย่างกับตุ๊ดบ้าจริงฉันกลั้นยิ้มไม่ไหวแล้ววะ

    “ฮ่าๆ”

    “เห้ยยู เธอยิ้มอะไร เอ่อแจฮยองพาเราไปชั้นเรียนหน่อยดิเข้ามาใหม่ไม่ค่อยรู้ทางเดินอ่ะ”

     

        ฉันกุมท้องตัวเองแล้วเดินตามสองคนนั้นไปลู่หานในร่างแจฮยองได้แต่เดินก้มๆเงยๆแล้วลูบผมตัวเองบ้างส่วนแบคฮยอนก็มองไปยิ้มไปอยากจะให้รู้จริงๆว่าคนที่แบคมองแบบเขินๆนั้นคือไอ้คนแมนแห่งชาติ

    “ยิ้มสวย”

    “สัส” ไม่ได้ด่าฉันไม่สนด้วยซ้ำแค่ตกใจมาเดินตัดหน้าทำไมวะคนเขาจะเดิน

    “ดูคางฉันซะ นั้นเข่าหรือไม้หน้าสาม” มันน่าจะรู้นะว่าตอนแรกไม่ได้คิดจะเตะคางแต่เป็นจะถลกหนังหน้ามัน “เตะทำไมอยากรู้”

    “เรื่องของฉัน”

    “โคตรจะไม่ชอบคำนี้เลยว่ะ” ฉันก้าวถอยมาหนึ่งก้าวเมื่ออีกคนเข้าใกล้ฉันก็ไม่ชอบที่หมอนี่มันมาแตะตัวเหมือนกัน “อย่าให้ฉันต้องแปลงร่างในตอนที่ฉันยังดีกับเธออยู่นะยู”

    “แล้วยังไง จะทำอะไรอีก จะเหยียบให้ฉันไม่เหลือเป็นเดนเลยหรือไง”

    “ฉันจะเก็บไว้ไม่ให้หลุดไปสักเดนเลย” เขายืนมองฉันนิ่งๆแล้วแสยะยิ้มใส่ “หมาสักตัวก็จะไม่ได้สัมผัสแม้กระทั่งกลิ่น”

    “อย่ามาทำเหมือนฉันเป็นของนาย มันน่าขยะแขยง”

    “อ๋อหรอ อยากรู้อะไรไหม”

    “เห้ย” ฉันถูกลากมายังกลางสนามบอลตรงกลางเลยจริงๆทุกคนเห็นสังเกตได้แต่ไม่มีใครรู้หรือได้ยินสิ่งที่หมอนี่ทำ

     

     

        แบคฮยอนไอ้ควายเผือกหายหัวไปไหนฉันถูกผู้ชายลากอยู่นะทีอย่างนี้หายเซฮุนชูจอโทรศัพท์มาตรงหน้าพอฉันหันไปมอง...มันเป็นภาพเคลื่อนไหว ฉันได้ยินเสียงที่คนอื่นไม่ได้ยินฉันเห็นภาพที่คนอื่นไม่ได้เห็น...เลือด...

    “ขยะแขยงพอไหม ยัยของเล่น” ของเล่น!ฉันกลายเป็นสิ่งที่ซื้อได้แล้วหรอวะไอ้ห่าน้ำตาแทบไหล

    “...” พูดไม่ออกเลยวะเซฮุนลดโทรศัพท์เก็บเข้ากระเป๋ากางเกงไว้แล้วปล่อยมือออกจากแขนฉันฝ่ามือหนาลูบหัวฉันเบาๆใบหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่ตรงหน้ามัน...

    “ต่อยสิ ถีบได้นะ จะตบก็...เชิญ หึ!” เพราะอย่างนี้เขาถึงดึงฉันมาที่ๆเป้าสายตาเพราะคิดว่าฉันไม่กล้าทำ...ก็ถูก “คบกันดูไหม ฉันรู้ว่าเธอคงไม่อยากให้ใครเห็นรูปร่าง...ของตัวเองกับคนอย่างฉันหรอกใช่ไหม” เหอะนิสัยเสียของผู้ชายไม่มีสมอง!!

    “ถ้านายอยากให้คนอื่นเห็นนอกจากตัวเองก็เชิญ” ไม่ได้พิศวาสนะอย่าคิดว่าฉันจะหลงเสน่ห์หมอนี่เข้าละฉันแค่หาทางป้องกันตัวเองจากคำขู่เขาเฉยๆ

    “ไม่มีทาง... เอ๊ะ ยู!!!

     

         ฉันเดินออกมาจากไอ้สมองกลวงเซฮุนให้มันยืนตากลมอยู่คนเดียวตรงกลางสนามหญ้าแค่นี้มันก็รับประกันได้แล้วว่าเขามันก็เก่งแต่ขู่อย่าให้ฉันเป็นผู้ชายบ้างนะจะตบคว่ำมันทั้งพ่อทั้งลูกให้ดูนิสัยเสียๆแบบนี้...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×