คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : SO WHAT? CHAPTER 6 CUT SCENE
SO WHAT?
CHAPTER 6
CLICK
ò
รู้จักเรื่องบัดซบไหมเขาอธิบายกันยังไง นี่ไงฉันกำลังเป็นอยู่...ชุดเดรสรัดรูปที่ขาดออกเหมือนเศษผ้าไม่ใช่แค่นั้นรวมถึงชั้นในที่ฉันใส่เมื่อวานและฉันตื่นมาพร้อมชุดวันเกิดเปลือยแบบไม่มีจะเปลือยแล้วยังจะร่างกายที่ปวดมันไปทุกส่วน
โคตรบ้าดูเหมือนเมื่อคืนฉันจะทำศึกหนักแต่...กับใคร?...มันทำให้ฉันเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าตัวเองเผลอไปนอนกับใครสักคนหรืออาจจะนอนกับใครสักคนแล้วใครหน้าไหนมันจะรู้รหัสห้องฉันนอกจากตัวเองและ...สิ่งที่ไม่อยากจะคิดอย่างหมอนั้นจะมายุ่งกับชีวิตฉันทำไมอีกแต่แล้วทำไมฉันเหมือนไปฟันกับใครมาละวะ
“อยากจะบ้า...” ฉันปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกได้ยังไง
บอกพ่อเลยดีไหม?
คงจะจบไม่สวยแน่ดีไม่ดีฉันอาจจะถูกบังคับแต่งงานไม่งั้นตระกูลนั้นก็ต้องสิ้นไปจากโลกแต่ไม่มีทางที่ฉันจะเสี่ยงแน่...เอาเป็นว่าฉันต้องเคลียร์กับชีวิตตัวเองก่อนแล้วกันขืนคนเป็นพ่อแม่รู้ต้องผิดหวังตายห่าถึงจะไม่กินเส้นกับพ่อตัวเองฉันก็ไม่อยากให้เขารู้ว่ามีอะไรกับผู้ชายหรอกนะแค่แม่รู้ยังเป็นลมแล้วพ่อจะไม่ตบฉันหรอวะ...
ฉันเดินเข้าตึกนิติศาสตร์เช่นเคยวันหยุดแต่นักเรียนยังเยอะเหมือนเดิมเด็กคณะนี้เขาไม่ไปทำอะไรนอกจากอ่านหนังสือเลยหรือยังไง
“ยู” ให้มันได้อย่างนี้เพิ่งจะก้าวมาเองนะโว๊ย “สามีเรียกให้ได้ยินหน่อย”
“...” ฉันยังแสดงออกไม่พอหรอว่าไม่อยากอยู่ใกล้เขาแค่ไหน
“กินยาหรือยัง” ฉันหยุดเดินแล้วหันไปมองคนด้านหลังมันส่งยิ้มที่น่ารังเกลียดมาให้ฉันก่อนจะยื่นยาแผลงหนึ่งมาตรงหน้า...เวรยาคุม
“ทำไมต้องกินวะ”
“ไม่กินก็ได้ ไม่ว่าอะไร เมื่อคืนฉันสดนะรู้ไหม” อะไรนะ!!! เมื่อคืนคือ...
ฉันไม่รู้ว่าหมอนี่ตามมีเจตนาร้ายอะไรไม่ว่าจะหวังดีหรือหวังร้ายบอกเลยว่าไม่เคยต้องการสักนิดฉันปัดยาที่ยื่นมาตรงหน้าก่อนจะเดินกลับทางเดิมงานไม่ต้องส่งมันละหายาแก้หน้าเสียกับยาป้องกันตัวเองดีกว่า
กรรมคงตาม...หมอนั้นไม่ได้ยื่นมาให้ฉันดูคนเดียวไงบอกแล้วว่าเด็กคณะนิติศาสตร์มันเยอะและโคตรที่จะให้ความสนใจกับเหตุการณ์เมื่อกี้เลย...อีกไม่ถึงวันรู้ทั้งมหาลัยแน่ไอ้เลว
“จะรีบไปไหนคุยก่อนดิวะ เก่งนักไม่ใช่”
“ปล่อย” ฉันพยายามสะบัดข้อมือตัวเองสองข้างที่ถูกเซฮุนบีบไว้แน่นก่อนที่เขาจะเข้ามากอดรัดฉันไว้แทนแล้วยังมาเหยียบเท้าสองข้างฉันอีกไอ้เฮงซวย
“อย่างเธอต้องเจออย่างนี้ แล้วรู้ยังว่าอับอายขายขี้หน้ามันเป็นยังไง?”
“ปล่อย” เจตนาคือต้องการเอาคืนที่ฉันเทน้ำราดหัว?
“กัดทำฟันซะด้วย กลัวจังเลยทำไงดีน๊า...” ถ้าปล่อยเมื่อไหร่สาบานเลยว่าฉันจะกัดหน้ามันให้เลือดออกจนผิวหนังติดไปกับมือเลย
“...”
“ทีอย่างนี้เงียบอยู่บนเตียงหน่อยก็ร้องซะ”ฉันไม่ชอบไอ้หมอนี่มันทำชีวิตฉันพังสารเลวจริงๆ “อย่าดิ้นดิวะ”
“เอามือออกไปจากตัวฉัน”
“ไปกินข้าวกันไหม” ใครก็ได้โยนยาแก้โรคประสาทมาให้ฉันสักสิบแผงจะได้กรอกเข้าปากหมอนี่เหมือนจะคุยกับมันไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ “จะปล่อยถ้าไปกิน...จะเลี้ยงไปป่ะ”
“ไป”
“จริงหรอครับยู”
“อืม อยากกินฟรี” เซฮุนปล่อยแขนออกจากรอบตัวฉันแล้วถอยเท้าออกจากตีนฉันด้วยก่อนจะนั่งลงกับพื้นถนนแล้วเอามือถูรอยเปื้อนบนผ้าใบสีขาวให้ อ่อนโยนดีแต่ฉัน...
ไม่ชอบโว๊ยยยย!!!!
พลั๊ก!!!
ฉันเห็นว่าคางเขาสวยดีเลยเสริมหน้าแข้งให้จะได้เรียวกว่าเดิมฉันวิ่งมาที่ลานจอดรถแล้วเข้าไปด้านในติดเครื่องไว้จ้องมองผู้ชายที่นอนบีบคางตัวเองอยู่ที่ถนนหน้าคณะนิติศาสตร์ เจ็บมาเลยหร๋อ...
ข้าวน่ะอย่างฉันก็มีปัญญาเลี้ยงตัวเองของฟรีไม่ต้องการ...ฉันขับรถออกจากมหาลัยโดยไม่สนใจห่าตัวนั้นอีกเจ็บให้ตายไปเลยเป็นไง
หลายวันมานี้ฉันรู้สึกเหมือนใครบางคนตามกำลังตามอยู่รถสปอร์ตสีแดงขับตามหลังฉันมาตลอดวันแรกสองวันฉันจะไม่คิดอะไรเลยแต่มันตามมาจะเป็นเดือนบังเอิญเกินไปและถ้าให้ทายก็คงไม่ยากเท่าไหร่...พ่อ
รู้สึกอยากจะเคลียร์กับเจ้าของรถ...ลูกน้องบ้านพ่อฉันตามคนอื่นด้วยสีรถอันสะดุดตางั้นหรอฉันเลี้ยวรถจอดสวนสาธารณะขนาดกว้างแล้วจอดไว้ก่อนจะหยิบกล้องอันโตออกจากรถแล้วมายืนถ่ายรูปต้นไม้ดอกไม้...เหมือนพวกโลกสวยใครจะรู้ว่าฉันสร้างภาพอยู่สักพักเจ้าของรถสีแดงที่จอดอยู่ห่างๆก็ลงจากรถพร้อมแว่นทรงสวยที่สวมอยู่ก่อนจะเดินมองรอบๆสวนแบบไม่เนียน
“แบคที่เก็กน่ะเหนื่อยไหม” ฉันลดกล้องลงจากตาแล้วห้อยคอไว้ก่อนจะเดินไปนั่งบนหินอ่อนขนาดใหญ่ด้านหลังไอ้เจ้าของรถสีแดง
“คุณพูดเรื่องอะไรครับ” เขาหันหลังมามองฉันแล้วถอดแว่นออกแบบเซ็กซี่ดวงตาขี้สงสัยฉายแววออกมาชัดเจนว่าไม่รู้จัก...กับผีอะไร
“พูดเรื่องมึงอ่ะ”
“สวยดีนะ แต่ทำไมถึงหยาบคายละครับพ่อคุณไม่สอนหรอ”
“สอนแล้วยังไง ก็ลูกไม่ทำหนักหัวมึงไง”
“เชี่ย” ฉันได้ยินนะไอ้ห่า “แล้วพ่อเคยสอนไหมว่าอย่าพาผู้ชายเข้าบ้าน” ...พ่อไม่สอนแต่ฉัน...ยังไงดี ทำยังไงหมอนี่ต้องรู้อะไร “ไม่คิดเลยว่ะว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้” เขาเดินมานั่งข้างๆแล้วหันมามองหน้าฉันส่ายหน้าไปมา “โคตรผิดหวัง...”
“รู้หรอ” ฉันลุกยืนแล้วกระซากคอเสื้อไอ้เพื่อนบ้ามากำไว้แน่น
“ก็เห็น ทำไมวะยู ทำทำไมไม่เข้าใจ”
“รู้แล้วทำไมไม่ช่วยรู้แล้วทำไมไม่ห้ามทำไมไม่ช่วยฉัน!!!!” ฉันเผาตัวเองได้แน่ไฟลุกเต็มที่แล้วและฉันจะเผามันไปด้วย “มองดูโดยที่ไม่รู้อะไรได้ยังไง!!!” ถ้าเขาเห็นแล้วทำไมไม่ทำอะไรเลย “เอาแต่มองได้ยังไง!!”
“อย่ากำ! ตั้งสติสิวะ!! หายใจไม่ออก!!!!” ฉันผ่อนแรงฝ่ามือสองข้างที่กำอยู่รอบคอคนตรงหน้าตอนไหนไม่รู้ลงแล้วลูบคอเขาแทนแบคฮยอนลูบแก้มฉันเบาๆแววตาเขาสั่นไหวไปมาราวกับต้องการคำตอบ “คุณยู พูดออกมาซะ”
“ฉัน...หมอนั้นมันไม่ใช่ มันไม่ใช่!!ฉัน ฉัน...”
“เธอไม่มีสติ โอเคเธอไม่สบาย...กลับห้องเธอกันเถอะ”
เขาหันไปมองที่รถสีแดงของตัวเองแล้วมันก็ขับออกไปเหมือนจะมีใครสักคนอยู่ในนั้นก่อนจะยัดฉันเข้าที่นั่งข้างคนขับแล้วพาตัวเองมานั่งแทนที่ฉันเคยนั่งแบคฮยอนมองฉันเป็นพักๆมันเป็นคนฉลาดไม่เข้ากับหน้าโง่ๆที่มีอยู่และมันคงกำลังคิดอะไรบางอย่างแน่
แบคฮยอนเป็นลูกคุณป้าแม่บ้านที่บ้านของพ่อและเป็นพี่ฉันแต่ฉันไม่อยากจะนับเลยพูดกับมันเหมือนเพื่อนมาตลอดพอมันเข้ามหาลัยเรียนจบมาก็มาทำงานอันหน้าขยะแขยงกับพ่อทำให้ฉันไม่อยากจะยุ่งกับมันอีก...เรียนมาทำงานแบบนี้ให้คนเป็นครูอับอาย
“ไม่ได้เป็นแฟนแน่ หน้าอย่างเธอคงไม่มี” ฉันอยากส่งเขาไปอยู่กับไอ้ลู่จริงๆ “และหน้าอย่างนี้คงไม่ไปยั่วใคร ยั่วได้มากที่สุดคงเป็นยั่วโมโห...ซิบหายฉันคิดว่าเธอแม่งถูกข่มขืนว่ะหน้าตาตอนที่เธอกำคอเสื้อฉันมันลอยมาในหัว น่ากลัวฉิบ”
“...”
“แต่อย่างท่านยูใครเขาจะกล้ามาทำ ว่าไหม”
“อืม...” ใครจะกล้าไม่มีหรอก
“แล้วหมอนั้นมันเดินเข้าห้องเธอทำไมครั้งแรกมันเข้าไปเองครั้งสองมันอุ้มเธอเข้าไปจิ้งจกตัวไหนมันจะคิดว่าไม่ใช่แฟนวะ” เห็นซะขนาดนั้นทำไมมันไม่เข้าไปหาฉันถ้าแบคฮยอนใช้สมองอันฉลาดคิดสักนิดฉันคง...“คุณไม่พูดผมก็จะเดาให้คุณฟังไปเรื่อยๆแหละครับทองจะไหลออกจากปากหรือไง”
“หุบปากสักสามวิ”
“เห้ย ไม่ได้หรอกครับเดี๋ยวผมจะขาดใจตายเอา คุณก็รู้ว่าเรื่องพูดมันคือชีวิตผม” เชื่ออยู่หรอกว่าชอบคุย “จะไปอยู่ด้วยนะ”
“ไม่ ฉันจะอยู่คนเดียว”
“รู้ไหมว่าพ่อเธอยังไม่รู้เรื่องเธอพาผู้ชายเข้าห้อง” ฉันไม่เคยพาใครเข้าห้องสักครั้งอย่ามามั่วฉันอยากจะเถียงออกไปอย่างนั้นแต่รู้ว่ามันไม่มีทางเชื่อคำพูดฉันแน่นอน “ถ้าฉันหรือเทาใครสักคนพูดขึ้นมาบอกหน่อยว่างานนี้ใครจะจบ” กูไง
“เทา?”
“เขารู้ เขาเห็น...เหมือนฉัน” ลูกน้องคนสนิทของพ่อสนุกแล้วงานนี้ไอ้ยู ฉันคิดว่าตัวเองต้องไปล้างเคราะห์สักหน่อยแล้วว่ะรู้สึกได้ชัดเจนว่าชีวิตอันเรียบง่ายเริ่มจะวุ่นวาย “ยังจะไปอยู่ได้ไหมนางยู”
“แล้วแต่...”
“ยูที่ฉันรู้จักไม่ปิดปังอะไรกับใคร ซ้ำเธอยังสู้กับปัญหาถึงสิ่งนั้นมันจะทำทั้งชีวิตเธอพังก็เถอะขอแค่ให้ได้ทำ” มันก็จริงฉันไม่เคยเลี่ยงเรื่องปัญหา
“แต่นายไม่เคยรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นถ้าจะพังอะไรสักอย่างต้องมาจากเรื่องตัวเอง ไม่ใช่เอาเรื่องใครสักคนมาทำให้ชีวิตตัวเองพัง จำไว้ไอ้แบค!” ฉันเห็นแกตัวเองเท่านั้นแหละ
“กูเป็นพี่มึงนะ คิดว่าเป็นลูกเจ้านายแล้วจะกลัวหรอ”เป็นพี่แล้วทำตัวหมาๆอย่างนี้ใครเขาจะเคารพเรียนจบนิติแล้วมาเป็นลูกน้องมาเฟีย...กูตลก
“แล้วแต่!” ฉันเดินลงจากรถแล้วเดินเข้าคอนโดตัวเองปล่อยไอ้บ้านั้นไปเก็บข้าวของมาอยู่ด้วยแล้วมันลืมไปแล้วหรือไงว่าตัวเองก็เป็นผู้ชาย -_-
ฉันมาเรียนและมาหมาตามมาด้วยมาเริ่มเรียนใหม่ปลอมแปลงเอกสารทุกอย่างเลวมากฉันเกลียดเรื่องแบบนี้ทำไมคนที่มีตังชอบทำให้ตัวเองมี...เพียงแค่ใช้เงินขอให้แบคฮยอนมันเจอจับได้แล้วติดคุก
“ยูรูปนี้ใครที่ถือกล้องถ่าย ดูๆน่ารักโคตรมีเพื่อนแล้วหรอวะ” มันกำลังสไลด์ภาพที่เพื่อนหญิงเพียงคนเดียวของฉันถ่ายเล่นซูมไปๆมาๆเหมือนพวกโรคจิต
“แจฮยอน โสด ไม่มีแฟน พูดมาก เก่ง น่ารำคาญ”
“สเป็กเลย กูชอบผู้หญิงแบบนี้แหละ รู้ยัง?” ฉันโยนกระเป๋าให้มันพายเองแล้วเดินนำหน้าไปก่อนกลัวว่ามันจะไปชนใครสักคนเข้าก้มดูอยู่นั้นแหละอีกไม่กี่นาทีคงจะได้เจอ
“แจ...ไอ้ลู่” บ้าไปแล้ว...O_O
“เห้ยเงียบดิ” มันตรงเข้ามาปิดปากฉันไว้แน่นแล้วมองดุๆที่สงสัยคือทำไมถึงแต่งตัวเป็นผู้หญิงแน่นอนว่าสองพี่น้องหน้าตาเหมือนกันมากแต่ไม่ยากถ้าคนอย่างฉันจะแยกแยะก็รู้จักดีทั้งพี่และน้องคนมันคุ้นก็ต้องสัมผัสได้บ้างแหละ
“สวัสดีครับผมแบคฮยอนเข้ามาใหม่ฝากตัวด้วยฮะ” ไม่นานไอ้คนด้านหลังก็เอากล้องมาคล้องคอฉันไว้แล้วเดินไปจับมือคนด้านหน้าแนะนำตัวแล้วยิ้มอย่างน่ารัก
“นี่แจฮยองหัวหน้าชั้นปี” หรือไอ้ลู่หานพี่รหัสฉันที่มีสาวๆหลงใหลมากมายดึงวิกออกเลยดีไหมคนแถวนี้จะได้กรี๊ดกัน
“ยู...” ทำมาเป็นพูดหวานลู่หานจับแขนฉันไว้ไม่ให้เดินออกไปแล้วใครมันมาเขียนอายไลน์เนอร์ให้หมอนี้วะตลกชะมัด “อยู่ด้วยกัน”
“เสียงอ่ะ ระวังหน่อย” ฉันก้มกระซิบที่ใบหูเบาๆกลัวว่าไอ้แบคฮยอนจะได้ยินเข้ายิ่งเผือกๆอยู่
“กระซิบอะไรกัน”
“เสือก แล้วลู่อยู่ไหน” ไอ้ลู่หานแกโดนฉันเล่นงานแน่ๆ “เจ็บคอหร๋อ”
“บ้าน” เสียงอย่างกับตุ๊ดบ้าจริงฉันกลั้นยิ้มไม่ไหวแล้ววะ
“ฮ่าๆ”
“เห้ยยู เธอยิ้มอะไร เอ่อแจฮยองพาเราไปชั้นเรียนหน่อยดิเข้ามาใหม่ไม่ค่อยรู้ทางเดินอ่ะ”
ฉันกุมท้องตัวเองแล้วเดินตามสองคนนั้นไปลู่หานในร่างแจฮยองได้แต่เดินก้มๆเงยๆแล้วลูบผมตัวเองบ้างส่วนแบคฮยอนก็มองไปยิ้มไปอยากจะให้รู้จริงๆว่าคนที่แบคมองแบบเขินๆนั้นคือไอ้คนแมนแห่งชาติ
“ยิ้มสวย”
“สัส” ไม่ได้ด่าฉันไม่สนด้วยซ้ำแค่ตกใจมาเดินตัดหน้าทำไมวะคนเขาจะเดิน
“ดูคางฉันซะ นั้นเข่าหรือไม้หน้าสาม” มันน่าจะรู้นะว่าตอนแรกไม่ได้คิดจะเตะคางแต่เป็นจะถลกหนังหน้ามัน “เตะทำไมอยากรู้”
“เรื่องของฉัน”
“โคตรจะไม่ชอบคำนี้เลยว่ะ” ฉันก้าวถอยมาหนึ่งก้าวเมื่ออีกคนเข้าใกล้ฉันก็ไม่ชอบที่หมอนี่มันมาแตะตัวเหมือนกัน “อย่าให้ฉันต้องแปลงร่างในตอนที่ฉันยังดีกับเธออยู่นะยู”
“แล้วยังไง จะทำอะไรอีก จะเหยียบให้ฉันไม่เหลือเป็นเดนเลยหรือไง”
“ฉันจะเก็บไว้ไม่ให้หลุดไปสักเดนเลย” เขายืนมองฉันนิ่งๆแล้วแสยะยิ้มใส่ “หมาสักตัวก็จะไม่ได้สัมผัสแม้กระทั่งกลิ่น”
“อย่ามาทำเหมือนฉันเป็นของนาย มันน่าขยะแขยง”
“อ๋อหรอ อยากรู้อะไรไหม”
“เห้ย” ฉันถูกลากมายังกลางสนามบอลตรงกลางเลยจริงๆทุกคนเห็นสังเกตได้แต่ไม่มีใครรู้หรือได้ยินสิ่งที่หมอนี่ทำ
แบคฮยอนไอ้ควายเผือกหายหัวไปไหนฉันถูกผู้ชายลากอยู่นะทีอย่างนี้หายเซฮุนชูจอโทรศัพท์มาตรงหน้าพอฉันหันไปมอง...มันเป็นภาพเคลื่อนไหว ฉันได้ยินเสียงที่คนอื่นไม่ได้ยินฉันเห็นภาพที่คนอื่นไม่ได้เห็น...เลือด...
“ขยะแขยงพอไหม ยัยของเล่น” ของเล่น!ฉันกลายเป็นสิ่งที่ซื้อได้แล้วหรอวะไอ้ห่าน้ำตาแทบไหล
“...” พูดไม่ออกเลยวะเซฮุนลดโทรศัพท์เก็บเข้ากระเป๋ากางเกงไว้แล้วปล่อยมือออกจากแขนฉันฝ่ามือหนาลูบหัวฉันเบาๆใบหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่ตรงหน้ามัน...
“ต่อยสิ ถีบได้นะ จะตบก็...เชิญ หึ!” เพราะอย่างนี้เขาถึงดึงฉันมาที่ๆเป้าสายตาเพราะคิดว่าฉันไม่กล้าทำ...ก็ถูก “คบกันดูไหม ฉันรู้ว่าเธอคงไม่อยากให้ใครเห็นรูปร่าง...ของตัวเองกับคนอย่างฉันหรอกใช่ไหม” เหอะนิสัยเสียของผู้ชายไม่มีสมอง!!
“ถ้านายอยากให้คนอื่นเห็นนอกจากตัวเองก็เชิญ” ไม่ได้พิศวาสนะอย่าคิดว่าฉันจะหลงเสน่ห์หมอนี่เข้าละฉันแค่หาทางป้องกันตัวเองจากคำขู่เขาเฉยๆ
“ไม่มีทาง... เอ๊ะ ยู!!!”
ฉันเดินออกมาจากไอ้สมองกลวงเซฮุนให้มันยืนตากลมอยู่คนเดียวตรงกลางสนามหญ้าแค่นี้มันก็รับประกันได้แล้วว่าเขามันก็เก่งแต่ขู่อย่าให้ฉันเป็นผู้ชายบ้างนะจะตบคว่ำมันทั้งพ่อทั้งลูกให้ดูนิสัยเสียๆแบบนี้...
ความคิดเห็น