คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : BEGIN AGAIN CHAPTER 3
S H A L U N L A T H E M E @ DEK-D
Chapter 3
Begin
Again
หลังจากที่ฉันกลับมาจากการแข่งขันคณิตศาสตร์ ก็โคตรจะทุกข์หนักกว่าเดิมเมื่อต้องมาซ้อมเทควันโดหลังเลิกเรียนจนถึงสี่ทุ่มทุกวันๆ
ดีนะที่ทำการบ้านหรือพวกโครงงานเพื่อเก็บคะแนนไว้ก่อนแล้ว ไม่อย่างนั้นชีวิตฉันต้องพังไม่เป็นท่าแน่ๆ
ส่วนคุณชายชอนจีก็หายเป็นปกติแล้วเหลือแต่รอยซ้ำจางๆบนใบหน้า
ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันที่หายเป็นปกติมันก็เป็นหมาเฝ้าคอนโดให้ฉันหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ
แล้วยิ่งตอนกลับมาจากการซ้อมเทควันโดเหนื่อยๆแล้วกลับมาเจอห้องตัวเองรกๆฉันแทบอยากจะร้องไห้เป็นเลือด
“ครูค่ะ ไหนว่าจะไปส่ง เร็วๆหน่อยได้ไหม ง่วงมากเลย...”
ฉันบ่นครูตัวเองแบบไม่ให้เขาได้ยินแล้วหาวนอนออกมา
ง่วง...
ครูมินโฮเดินมาพร้อมกับใครสักคนที่ฉันไม่รู้จัก พวกเขาพูดคุยกันอย่างสนุกสนานยิ่งมองยิ่งหงุดหงิด
นี่มันจะเที่ยงคืนแล้วนะเว้ย!
“เดี๋ยวครูให้เซฮุนไปส่งแล้วกัน เขาไว้ใจได้ ครูไปละ” เขาพูดจามั่วๆแล้วเดินหนีฉันแบบนี้ได้ไง?
“!”
“ผมจะดูแลเธอเองครับ” หลังจากตกลงกันเสร็จเขาก็หันมายิ้มให้ฉัน เมื่อกี้อะไรนะ?
เซน่าหรอ? หมอนี่ชื่ออะไร... “ไปกันเถอะ” พอพูดจบเขาก็คว้าแขนฉันแล้วออกแรงดึงจนฉันสะบัดออกแทบไม่ทัน
หมอนี่บ้าหรือไง อยู่ดีๆก็จะมาจับมือกันฉันระแวงนะเว้ย แต่จะว่าไปแล้วเขาก็หล่อดีแฮะ
ฉันคุ้นหน้าอีกแล้วอ่ะ...หล่อแบบนี้ไว้ใจเลยได้ไหม ถึงฉันจะไม่ได้บ้าผู้ชายแต่ฉันก็เป็นผู้หญิงต้องมองผู้ชายหล่อเป็นธรรมดา...
“เธอจะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม”
“ห๊า?”
“จะอยู่ตรงนั้นอีกนานไหมครับ”
“เอ่อ...”
“มันดึกแล้วนะรีบกลับกันเถอะ”
ฉันเดินตามหลังเขาไปยังลานจอดรถของโรงเรียน มีไฟสลัวๆดูแล้วน่ากลัวอยู่เหมือนกัน
แต่ความกลัวของฉันก็มีไม่มากเท่ากับความง่วง
ฉันมองคนที่เดินนำอยู่ด้านหน้าแล้วตาสว่างทันทีเมื่อเขาเดินไปยังรถทรงสปอร์ตสีขาว...แต่
...เลี้ยวไปยังรถจักรยาน ใครก็ได้บอกหน่อยว่าฉันจะถึงคอนโดกี่โมง?
“หึๆ ขึ้นมาสิ” เขาปั่นมาจอดอยู่ตรงหน้าฉันแล้วเอ่ยบอก ฉันไม่ได้รังเกียจที่จะขี่จักรยานนะแต่ทำไมเขาต้องใส่หมวก
ใส่ฮูดทับเสื้อนักเรียนขนาดนั้นด้วยไหนจะแมสปิดปากนั่นอีก “ไม่ขึ้นหรอ?
จะเดินกลับ?”
“เปล่า ฉันจะปลอดภัยไหม?”
“แน่นอน” ดีนะที่ใส่ชุดพละอยู่
ฉันนั่งคร่อมด้านหลังแล้วกอดเอวอีกคนไว้แน่นกอดจะซุกแก้มลงกับแผ่นหลังกว้าง...ฉันแค่อยากพักสายตา
ไม่ได้หลับ เพราะถ้าเผลอหลับฉันได้ตายกลางถนนแน่
“ถึงแล้วปลุกด้วย” ไม่ได้อ่อยนะฉันแค่อยากพัก ง่วง เหนื่อย ปวดเมื่อยตามตัวไปหมด
“ครับผม! แต่ช่วยระวังมือเธอหน่อยนะ”
“อื้อ ZzzzZ...”
“เซน่า เซน่า จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ”
“อื้อ รำคาญ!”
“ฮ่าๆ ถึงแล้วครับคุณนายโอ...ฟอด”
“คนจะนอนโว๊ย เฮ้ย! นายกอดทำไม” ฉันลืมตาขึ้นมาก็เห็นใบหน้าขาวของอีกคนอยู่ใกล้ๆแถมยังกอดรอบตัวฉันไว้แน่น
ด้วยสัญชาตญาณเลยผลักเขาออกอย่างแรงจนอีกคนเซไปชนจักรยาน “ตกใจหมด!”
“ถึงแล้วครับ” ฉันพยักหน้าให้แล้วมองทางเข้าคอนโดตัวเอง
“ฉันปั่นจักรยานมือเดียวเพราะมัวแต่ประคองเธอไว้ ไม่ขอบคุณหน่อยหรอ”
“ขอบคุณนะ ไปละ บายๆ”
ฉันโบกมือลาอีกคนแล้วก้าวเข้าไปด้านในพื้นที่คอนโดตัวเอง ง่วงโว๊ย!...ใครเข้าใจอารมณ์คนง่วงแล้วถูกปลุกบ้าง
ฉันมาโรงเรียนด้วยความง่วงและพบกับบรรยากาศเดิมๆ
ต่างออกไปจากคำว่าเดิมๆคือฉันหน้าแหกเพราะเมื่อคืนซ้อมเทควันโดกับอาจารย์มินโฮแบบเอาจริงเอาจังจนเลือดตกยางออก
“เฮ้ยเซฮุนกับแทยงเดินจับมือกันอีกแล้วอ่ะ”
“คู่นี้เขายังไงๆอยู่โว๊ย”
“เธอเริ่มจิ้นแล้วไง...จับสองคนนี้ไปจิ้นกันดีไหมพวกเรา ฮ่าๆ”
“ฮ่าๆ พวกเธอว่าใครเมะใครเคะวะ อุ๊ย! มีมองตงมองตา...”
“เซฮุนมองตามด้วยวะ... ทำไมไม่เป็นผู้ชายแมนๆนะฉันจะวิ่งใส่เลย”
“เซน่า...ถ้ามันต้องเจ็บตัวขนาดนี้ก็ไม่ต้องฝืนนะ ดูสิหน้าสวยๆเสียหายหมด” ฮยอนอาที่กำลังนั่งโม้หันมาแขวะฉันที่มีซูจองนั่งทำแผลปิดพาสเตอร์ยาให้อยู่
รักนะคนสวย...T.T
“ไปคุยกับครูมินโฮให้หน่อยสิฮยอนอา” ขนาดครูมินโฮยังคุยยากแล้วเจอหัวหน้าหมวดเข้าไป...หึ...
“ไม่ได้ๆเรื่องของใครเรื่องของมันคุยกันเอง...”
“เชี่ย...”
ฉันไม่ได้ฝืนสักหน่อยแต่แค่ต้องทำต่างหากละ ก็อาจารย์เล่นเอาเอฟมาอ้างกันซะขนาดนั้นถ้าใบเกรดถูกส่งไปที่บ้านแล้วคุณย่าเปิดดูเมื่อไหร่เรื่องถึงหูแม่ปุ๊บฉันถูกนางบินมาบีบคอเพราะ ‘F’ ตัวเดียวแน่ๆ
“ถ้าจมูกหักจะหาว่าไม่เตือน น่าเสียดายนะ”
“ไม่เอาน๊า...พวกเธอต้องให้กำลังใจเซน่าสิ เธอเป็นตัวแทนของโรงเรียนเราเลยนะ”
ฉันรักซูจองที่สุด...รู้ไหมว่าขนาดจีมินที่บอกว่ารักฉันนักหนายังไม่มาสนใจแผลบนใบหน้าฉันเลย
คิดแล้วมันน่าน้อยใจจริง
“ขอบคุณนะซูจอง”
“ไม่เป็นไร^^”
“ฉันได้ข่าวว่าเซฮุนพาหญิงไปคอนโดด้วยเมื่อคืน ...ฉันว่าเขาแม่งไม่เป็นหรอก”
“เพื่อนสาวหรือเปล่าวะ? แกก็คิดไป... เห็นๆกันอยู่ว่าใช่แน่ๆ”
“จริงๆนะเรื่องนี้ฉันได้ยินมาจากกลุ่มของพวกเขาเลย”
“ไปคอนโดแล้วยังไง? เซฮุนจับยัยนั่นซั่มหรือไงยัยจียอน”
“ไม่รู้ว่ะ...ได้ยินมาว่าจูบอย่างดูดดื่มแล้วยังหอมแก้มกันอีก”
“ไปเอาที่ไหนมาพูดค่ะจียอน ลองให้ฮยอนอาไปยั่วดูไหม จัดดิฮยอนอา ยั่วเสร็จพาแม่งขึ้นห้องเลย
ฉันเริ่มอยากรู้ละว่าเป็นหรือไม่เป็น”
“ฉันว่า...ไม่เป็นหรอกมั้งปกติเขาไม่พาใครไปคอนโดด้วยนี่น่า แม้แต่เพื่อนผู้หญิงที่สนิทฉันยังไม่ได้ยินข่าวว่าเซฮุนพาไปเลย”
“เซน่าคนรวยพนันหน่อยไหม” -_-
“เกี่ยวอะไรกับฉันอีกว่ะ” ฉันว่าตัวเองนั่งฟังเฉยๆแล้วนะเว้ย ยัยจีมินเชิดหน้าหนีแล้วหันไปหาเพื่อนๆที่เริ่มควักเงินออกมาวางกองๆกัน
ฝั่งฮยอนอาที่ว่าไม่เป็น และฝั่งจีมินที่ว่าเป็นแน่ๆ
แบงค์วอนเริ่มกองกันอยู่ฝั่งจีมินเพิ่มมูลค่าขึ้นเรื่อยๆต่างจากฝั่งฮยอนอาที่มีแค่จียอนคนเดียว
ถ้าให้ฉันลงเกมปัญญาอ่อนนี่ด้วยละก็ฉันจะเลือกฮยอนอาเพราะเธอจัดว่าดูคนออก แค่ผู้ชายคนเดียวพอจะดูรู้อยู่หรอกว่าเป็นชายแท้หรือหญิงเทียม
“แล้วใครจะเป็นคนไปลอกคราบเซฮุน” ยูอีนับเงินทั้งหมดแล้วรวมกันไว้ก่อนจะยัดใส่ถุงขนมมันฝรั่งทอดที่กินหมดแล้ว
เธอโยนมาให้ซูจองที่กำลังนั่งซบไหล่ฉันอยู่จนคนข้างๆฉันสะดุ้ง ซูจองถือถุงมันฝรั่งขึ้นมางงๆแล้วหันมามองฉันก่อนจะทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“เก็บไว้ให้หน่อย อย่าให้หายละ รู้ไหมในนั้นมีเงินเป็นล้านวอนเลยนะ...เข้าใจ๊ไหมคนสวย?”
“อื้ม เข้าใจ...”
“ถ้ายัยฮยอนอาไม่ไปยั่วก็ให้ซูจองไปสิ”
“บ้าหรอเขาเป็นเพื่อนฉันนะ” ซูจองเหวใส่ชะนีเรื่องมากเสียงดัง
“เป็นเพื่อนกันแล้วรู้ไหมว่าเป็นหรือไม่เป็น?”
“ไม่รู้สิ” ฉันว่าเธอรู้...แต่ไม่พูด เพื่อนกันมันก็ต้องรู้เส่!
“ลองให้ซูจองไปอ่อยสิ...แจบอมจะได้เอาปืนมายิงเธอตาย” ฉันแขวะคนต้นคิดเกมปัญญาอ่อนเล็กน้อยเมื่อบรรยากาศการกลัวเสียตังเริ่มมาคุ
เซฮุนคนไหนฉันยังไม่รู้เลย เป็นตุ๊ดหรือไม่เป็นแล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกเธอวะ
เอาชีวิตคนอื่นมาเดิมพันด้วยความเป็นตัวเขาได้ไง... ฉันว่ามันน่าเกลียดชะมัด อยากจะพูดออกไปอยู่หรอกถ้าไม่ติดตรงที่ว่าฉันจะถูกชะนีทั้งหลายรุมทึ้งหัวก่อนได้ไปแข่งเทควันโด
“ถ้าซูจองไปไม่ได้ก็ให้เซน่าไปสิ เอ็กซ์กว่าฮยอนอาเป็นไหนๆ”
“เออๆนั่นดิ...ฉันเป็นผู้หญิงยังอยากได้เลย”
“มายุ่งอะไรกับฉันอีกวะ!”
ฉันตะโกนออกไปอย่างหงุดหงิดเมื่อเพื่อนรักทั้งหลายเริ่มดึงฉันเข้าไปเกี่ยวพันกับเกมบ้าบอคอแตก
แค่นั่งฟังก็จะบ้าแล้วยังจะมาขอให้ร่วมมืออีก...
“เธอเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ไม่มีชายใดข้องเกี่ยวเพราะฉะนั้นจัดการซะ”
“ทำไมฉันต้องทำ?”
“หรือเธออยากให้พวกเรามีปัญหากับนักข่าว” ฟังขึ้นตายแหละ
“ล้มเกมก็จบแล้วเว้ยยูอี”
“ไม่เว้ย...ศึกครั้งนี้มีเงินล้านเป็นเดิมพัน” เออ! ฉันเข้าใจว่าเรื่องเงินเรื่องใหญ่แต่ถ้าผลออกมาแล้วฉันได้ส่วนแบ่งอะไรไหม...ก็ไม่
ฉันเลยเลือกที่จะตัดปัญหาที่...
“แค่รู้ก็จบใช่ป่ะ?”
สุดท้ายฉันก็ทนการรบเร้าจากสายตาจำนวนหลายคู่ไม่ได้ แค่อยากรู้มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยนะ
ทำไมพวกเธอต้องทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ตลอด...
“ใช่!!!!!!!!!!!!!!” เสียงตอบรับพร้อมเพรียงกันดังสนั่นลานกิจกรรม ผู้คนหันมามองพวกเราสักพักแล้วเบนหน้าหนีไม่สนใจอะไร
ฉันหันไปมองซูจองที่นั่งกอดถุงขนมมันฝรั่งที่ในนั้นมีเงินจำนวนมากอยู่แล้วถอนหายใจออกมาเพราะเพื่อข้างๆหน้าตาไม่สู้ดีเลยดวงตาสวยแสดงความกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด
เฮ้อ...ถ้ารู้อย่างนี้ฉันเข้าห้องฟิสิกส์ไปฟังอาจารย์นั่งบรรยายสูตรอันมากมายให้ฟังยังดีกว่าต้องมาเล่นเกมบ้าบอกับพวกเพื่อนๆในคาบว่างๆ
เสียดายเวลานอนซะจริงๆ
“ว่าแต่พวกเธอจะให้ฉันไปอ่อยใคร?”
“ยัยเซน่า...!” แล้วทำไมต้องทำหน้าเบื่อหน่ายฉันด้วยวะ
เพื่อนทุกคนนั่งกุมขมับแล้วนวดไปมา
จีมินที่นั่งอยู่ข้างๆหันมายกกำปั้นทำเหมือนจะต่อยส่วนคนถัดไปก็ทำหน้ายักษ์ใส่ฉัน...ตกลงฉันผิดอะไร?
“เรื่องที่พวกเราพูดกันมาตั้งแต่เกรดเจ็ดเธอไม่ได้แหกตามองเลยหรอเซน่าว่าหมายถึงใคร”
“ฉันไม่ใช่พวกอยากรู้อยากเห็นไง”
“เธอแม่งโลกส่วนตัวสูงไปไหมฮะ?”
“บอกแล้วไงว่าไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น” ต้องเถียง...
“พวกฉันก็นินทาเขาทุกวัน”
“ก็ฉันไม่อยากสนใจไง” คิดว่ายอม?
“แต่ที่น่าสลดไปกว่านั้นเธอจำเขาไม่ได้ทั้งที่มีข่าวด้วยกัน”
“ข่าวอะไรอ่ะ?”
ข่าวอะไร?
ฉันไม่เห็นจะรู้เรื่องถึงพวกนี้จะนินทาผู้ชายทุกวันแต่ก็พูดไหลไปอีกเรื่องอย่างกับน้ำไหล
แล้วอีกอย่างเรื่องที่พวกเธอพูดกันมันไม่ใช่ธุระอะไรที่ฉันต้องสนใจ! แค่มีเวลากินข้าวกับได้งีบสักหน่อยก็ถือว่าเป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับคนอย่างฉันแล้วจะเอาเวลาที่ไหนชายตามองผู้ชายในโรงเรียน...หน้าตาก็เหมือนๆกันหมด
“ก็คนนั้นไง”
“คนนั้นน่ะคนไหน”
ฉันมองตามนิ้วมือของจียอนที่ชี้ไปยังผู้ชายกลุ่มหนึ่งที่ฉันไม่อยากเข้าใกล้ที่สุด...พวกสารวัตรนักเรียนกับท่านประธานไงละพวกนั้นน่าเบื่อจะตาย
วันๆเอาแต่จับเด็กเข้าห้องปกครองก่อนหน้านี้ฉันยังเคยโดนเลย...โดนเกือบทุกวัน
“คนที่หัวน้ำตาลผมยาวๆอะ”
“ประธานอะนะ ไม่เป็นหรอกเชื่อฉัน...” จินรีถลึงตาใส่ฉันแล้วโยนเปลือกขนมกระทบเข้ากับหน้าผากอย่างไม่พอใจ
ก็บอกว่าประธานไม่เป็นไงละเขาออกจะใจดี เจ้าระเบียบ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและทุกๆอย่างในโรงเรียน...ยกเว้นโอเซน่า
“อีกคนคะเพื่อน มองดีๆ! ข้างๆแจฮยอนอะเห็นป่ะ”
“แจฮยอนคนไหนวะ”
“ขาวขนาดนั้นไม่เห็นได้ไง”
“นั่นไม่เรียกว่าขาวนะผิวเขาออกแทนๆด้วยซ้ำ...เธอประชดหรอ”
“นั่นมันจงอินโอป้าโว๊ยยัยเซน่า! เธอแม่งมีไอคิวไว้ต้มกินหรอคนที่นั่งหันหลังน่ะ
อยู่ระหว่างมินวูกับรุ่นพี่แจฮยอน...เธอเห็นยัง”
“มินวูกับแจฮยอนคือใครหรอ?”
“ยัยเซน่า!” หนวกหูวะ...ตะโกนทำไมนั่งอยู่ใกล้กันแค่นี้เอง
“นี่พวกเธอ...จะให้ฉันเดินไปหาคำตอบหรือจะโยนฉันเข้าไปห้องปกครอง”
หมอนั่นย้อมผมสีอะไรก็ช่างเถอะ แต่มันสำคัญตรงที่ๆเขานั่งอยู่มันเป็นกลุ่มของพวกประธานนักเรียนแล้วยังมีสารวัตรนักเรียนที่ไม่ค่อยถูกกันกับฉันเท่าไหร่นั่งขนาบซ้ายขวาอีก...เวรกรรม
“ไว้เขาอยู่คนเดียวแล้วค่อยเรียกฉันนะ ^^” ดูเหมือนว่าคำพูดของฉันจะไม่มีใครได้ยินสักคน
“ไม่ได้! นี่คาบว่างเลยนะทำตัวให้มีประโยชน์หน่อย...” พวกเธอน่ะสิ
ทำตัวให้มีประโยชน์หน่อย
“ประโยชน์กับผีอะไร วู่! หมอนั่นชื่ออะไร เร็วๆฉันรีบ!”
“โอ เซฮุน”
“อะไรนะ?” ทำไมชื่อเหมือนฉันเลยนามสกุลเดียวกันอีก...
“โอ-เซ-ฮุน...”
ฉันลุกขึ้นและเดินตรงไปยังกลุ่มผู้ชายจำนวน...กี่คน...ไม่รู้ แต่ที่ฉันไม่อยากเจอมีอยู่สี่คนคือท่านประธานที่เคารพสารวัตรนักเรียนสุดแสนจะใจดีทั้งสามคน! ฉันเลี่ยงที่จะไม่มองหน้าพวกเขาทั้งสี่คนก็แล้วกัน
พอฉันเดินมาหยุดอยู่ตรงหัวโต๊ะพวกเขาก็มองเป็นตาเดียวเหมือนฉันเป็นสัตว์ประหลาดแต่อยู่ๆประชากรสองคนก็ลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปเฉยเลย...-_-
เป็นอะไรของพวกเขา?
“โอเซน่า”
Sehun Part
คุณจะรู้สึกยังไงเมื่อคนที่แอบชื่นชมยืนอยู่ต่อหน้าต่อตา นั่นไม่ใช่เพียงแค่ผมคนเดียวแต่รวมถึงพวกพี่ๆและเพื่อนผมก็ด้วย
เธอกวาดตามองพวกเรานิ่งๆก่อนที่พี่ชานอีกับจงอินจะวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว สงสัยคงกลัวเรื่องพาดหัวข่าวเมื่อเดือนที่แล้ว...
ขนาดผมเป็นคนที่เลือกหัวข่าวเองยังไม่กลัวเลยกับอีแค่ผู้หญิงหน้าหวานๆและ...น่ารัก
“โอ เซน่า...” แทยงเรียกชื่อเธอช้าๆ...เหมือนหลุดเรียกซะมากกว่า
เธอชื่อโอเซน่าเป็นทั้งหน้าตาและหัวสมองของโรงเรียน
ครูทุกๆคนชอบพูดถึงเธอด้วยความชื่นชมด้วยสมองที่เหนือมนุษย์
“ขอโทษค่ะที่รบกวน” เธอเอ่ยออกมาแล้วกวาดสายตานิ่งๆมองพวกเราอย่างพิจารณา
ตั้งแต่ผมเข้าไปหาเธอโดยบังเอิญ...ไม่ใช่สิ ผมทำให้มันเป็นเหมือนเรื่องบังเอิญมากกว่า
ตั้งแต่เรื่องที่ผม...ถูกถีบกลางฟุตบาท อาสาไปส่งเธอที่คอนโด ถูกเธอเตะลงตรงท้ายทอยจนสลบ
และเรื่องเงินทอนร้านชานมไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างที่หลายคนคิด
ทั้งๆที่เรากินชานมร้านเดียวกันแต่ผมกลับไม่เคยได้ซื้อพร้อมกับเธอเลยสักครั้ง
วันนั้นต้องถือว่าโชคเข้าข้างผมจึงมีโอกาสได้คุยกับเซน่าครั้งแรก...
อาจจะดูบ้านะทั้งที่เธอต้องมาซื้อในวันถัดไปอยู่แล้ว ยังไงคุณน้าเจ้าของร้านก็ต้องคืนเงินให้เธอแต่ผมอยากทำดีด้วยเลยอาสาเอาไปคืนให้
^^
ใครจะคิดว่าผมจะเจอเธอยืนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ของโรงเรียน นั่นทำให้ผมช็อคหน่อยๆที่รู้ว่าคนอยู่คอนโดหรูๆอย่างเซน่าไม่ขับรถของตัวเองที่จอดแช่อยู่คอนโดมาเรียน
แต่เธอกลับนั่งรถรับส่งแทน
อย่างที่คิด...เราอยู่คอนโดเดียวกันแต่คนละชั้น
แน่นอนว่าเธอไม่รู้แต่ผมกลับเห็นเธอบ่อยๆ ด้วยความที่อีกคนไม่ค่อยสนโลกเท่าไหร่เลยไม่มองผมอยู่ในสายตา
“...”
“มีอะไรหรอครับ?”
“ใครชื่อโอเซฮุนค่ะ” เธอขมวดคิ้วมองพวกเราแล้วตบลงหน้าผากตัวเอง แต่เดี๋ยวนะ! เมื่อกี้เธอเรียกชื่อผมป่ะ
เราเจอกันตั้งหลายครั้งแต่จำไม่ได้งั้นหรอ?
แทยงชี้มายังผมเป็นคำตอบหลังจากนั้นใบหน้าสวยก็เผยรอยยิ้มออกมาก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ด้านหลัง
ผมหันไปมองมือที่จับอยู่บนไหล่ของตัวเองแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงคำถามแต่หัวใจนี่เต้นรัวอย่างกับฟังเพลงร็อค
“นายชื่อโอเซฮุนหรอ?”
“อื้ม...”
“มากับฉันหน่อยดิวะ” คำพูดกับหน้าตาสวนทางกันอย่างเห็นได้ชัดเจน ผมคิดว่าถ้าผู้หญิงคนนี้ไม่เปิดปากจะดูเป็นกุลสตรีมากเลยทีเดียว
แต่ยังไงเธอก็ชวนทั้งทีตามไปหน่อยคงไม่เป็นไร ผมลุกขึ้นยืนแล้วมองมือเล็กที่กุมข้อมือผมไว้แน่นก่อนจะออกแรงดึงเหมือนเป็นการบังคับให้เดินตามไป
ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้...แค่เอ่ยชวนก็แทบจะพุ่งเข้าใส่แล้ว!
เซน่าจูงมือผมเดินผ่านสายตาอันมากมายโดยไม่สนใจเสียงซุบซิบนินทา
หรือไม่เธอก็อาจจะไม่ได้ยิน อย่างที่ผมบอกเซน่าเหมือนคนไม่สนใจโลกเท่าไหร่คล้ายพวกมีโลกส่วนตัวสูง
ผมมองมือเล็กที่กำข้อมือตัวเองแล้วยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ลองมีสาวสวยๆมาจูงมือแบบนี้สิแล้วจะรู้สึกอีกอย่างผมก็ไม่ใช่พวกตุ๊ดพวกเกย์นะจะได้ไม่รู้สึก
“ฉันพาเขามา...”
“แล้วไงอะเซน่า พาเขามาแล้วเธอต้องทำยังไงต่อหรอ?” มือเล็กปล่อยข้อมือผมทิ้งอย่างไม่ใยดีแล้วเท้าเอวมองเพื่อนๆอย่างหาเรื่อง
เหมือนนักเลงเลยวะ...
เมื่อรู้สึกว่าตัวเองเหมือนอากาศผมกะจะเดินออกมาแต่ถูกสายตาของผู้หญิงจำนวนมากมองอย่างกดดันและอีกอย่างคือเซน่าคว้าแขนผมไปกอดไว้แน่น
“นายบอกอะไรบางอย่างให้พวกนี้ฟังได้ไหมวะเซฮุน”
“อะไรหรอ” ผมถามแล้วกลืนน้ำลายลงคอทั้งที่สติแทบหลุด
ก่อนที่จะตอบเธอช่วยปล่อยแขนออกก่อนได้ไหม...
ยัยนี่ไม่ใช่พวกหุ่นบางร่างเล็กนะแค่มองดูก็รู้แล้วว่าสัดส่วนไม่เหมือนเด็กมัธยม
“เซน่า...”
“โอเซฮุน... คือเพื่อนฉันสงสัยว่านายเป็น ตุ๊__อื้อ!...” ผมยังจับใจความไม่ได้เลยว่าเธอต้องการจะให้ผมบอกอะไรกับเพื่อนที่นั่งมองเราสองคนอยู่
จู่ๆคนข้างๆผมกลับถูกเพื่อนสองสามคนลุกขึ้นมาปิดปากแล้วพยายามลากเธอออกไปพวกเธอพยายามแกะมือเซน่าที่กอดแขนผมอยู่ออกอย่างดุเดือด
ให้ความรู้สึกเหมือนดูสงครามการแย่งของลดราคายังไงอย่างนั้น สุดท้ายเซน่าก็ถูกลากไปทางอื่น
แต่ที่ผมไม่เข้าใจทำไมต้องรุนแรงขนาดนั้น?
“เกิดอะไรขึ้น” ผมหันไปถามจินรีเพื่อนร่วมค่ายที่ฝึกมาด้วยกัน แต่เธอกลับมองผมแปลกๆแล้วเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นพร้อมกันทั้งกลุ่ม
น่ากลัวซิบ...
“เอ่อ... ที่จริงก็ไม่มีอะไรหรอกเซฮุน แฮะๆ”
“ใช่ๆ
เนอะพวกเรา” พวกเธอส่ายหน้าปฏิเสธรัวๆแต่ยังไม่หยุดมองผมด้วยสายตาแปลก
“ใช่ๆ”
“แล้วเมื่อกี้เซน่าจะพูดอะไรหรอ?”
“อ๋อๆ คืออย่างนี้นะเซฮุน ความจริงแล้วเซน่ามันแอบชอบนายน่ะ”
หัวใจผมถึงกับกระตุกวูบลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม พวกเธอกำลังล้อผมเล่นหรือเปล่าวะ
“ใช่ๆ เธอไม่กล้าบอกไปเพราะกลัวว่านายจะมีแฟนอยู่แล้ว” ถ้ายังไม่หยุดล้อเล่นผมจะเชื่อแล้วนะ
ไม่รู้ว่าคำพูดพวกนี้เชื่อได้มากแค่ไหนดูอย่างซูจองสิยังนั่งก้มหน้าก้มตาไม่มองหน้าผมเลยยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่!
“ว่าแต่...นายมีแฟนหรือยังอ่ะ” แฟนผมงั้นหรอ ไม่มีเป็นตัวเป็นตนแต่ถ้าคนคุยด้วยอ่ะมีเยอะพอควร
“ไม่มี” คงไม่มีศิลปินคนไหนที่จะออกมาบอกว่ามีแฟนหรอกครับ
“ว้า! อย่างนี้เซน่าสุดที่รักของพวกเราก๊อกหักสิ ดูนายมีพิรุธนะเซฮุนตอบให้มันแมนๆหน่อย”
พวกเธอถอนหายใจยาวเหยียดแล้วทำท่าทางเหมือนเสียดายแต่จะให้ผมตอบว่าไงดีละ
ผมอาจจะโสดนะ...แต่ไม่บริสุทธิ์อย่างนี้หรอ
“นายสนใจเพื่อนฉันไหม?”
“พวกเราช่วยได้นะเว้ย”
“ไม่รู้” ใครที่ไหนจะไม่สนละผู้หญิงคนนั้นละ นั่นเซน่าเลยนะ...แต่ก็กลัวที่จะพูดไปเพราะอนาคตที่ฝันไกล
กลัวว่าคนพวกนี้เอาไปนินทาแล้วเรื่องมันแย่
ผมเดินออกจากกลุ่มพวกเธอที่ยังคงกรี๊ดกร๊าดกับคำตอบของผม
ไม่รู้หรอกนะว่าเซน่าชอบผมจริงหรือไม่ แต่งานนี้เพื่อนของเธอจะช่วยเป็นแม่สื่อให้ทั้งทีถ้าไม่สนองคงน่าเสียดาย
ผู้หญิงที่ไม่เคยชายหางตามองผู้ชายอย่างเซน่าใครจะปล่อยไป ถ้าเกิดเธอสนใจผมอย่างที่เพื่อนๆเธอว่าก็ดี
แต่ถ้าไม่สนผมก็จะเอาให้ได้ หึ!
End Sehun Part
ความคิดเห็น