คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : THE DREAMING CHAPTER 3
CHAPTER 3
THE DREAMING
“ผีเข้ามึงหรือไงเซฮุน” ไอ้เชี่ยพี่แบค!! แมร่งโผล่มาจากไหนว่ะน้องตกใจหมดแล้วทำไมหน้าพี่แกหมองอยางนี้ละเนี่ย หน้าอุบาทมากอะพี่
“พี่สิ ผีเข้าหรือเปล่า ทำไมตื่นเช้าหิมะตกหรอ” กัดพี่แกสักหน่อย กวนดีนักหลายครั้งละนะเห็นว่าน้องหน้าตามุ้งมิ้งหน่อยก็แขวะบ่อย
“เชี่ย...กูพึ่งกลับจากตึก ยังไม่ได้นอนเลยแล้วนี่ฝั่งเอ็มกลับมายังอ่ะ” พี่เขาพูดพลางหันหน้าหมาๆนั่นสำรวจหาเพื่อนสมาชิกฝั่งเอ็ม เฮอะ! ถ้าอยู่ก็คงจะตื่นกันอยู่หรอก
“แล้วเห็นป่ะวะครับ”
“แล้วตกลงมึงไม่สบายหรือยังไง ป่วยหรอ” พี่เขามองผมแล้วขมวดคิ้วสายตานั้นบอกชัดเจนว่าเป็นห่วงแต่ทำไมต้องยื่นมือมาแตะหน้าผากผม ขนลุกเว้ย...
“ไม่พี่!จะไปไหนก็ไปไป๊!!!ไปนอนก็รีบๆไปเหอะ” ผมปัดมือเขาออกอย่างแรงพี่แบคฮยอนเบะปากใส่ผมทันที เหอะ!
“อะไรของมึง...กูแค่เป็นห่วงน้องนะเนี่ย” จะอะไรนักหนาแล้วมาทำงอนใส่ โถ่...คงจะง้ออยู่หรอก พี่แบคฮยอนเดินเข้าห้องทันทีหลังจากพูดจบ
จะห่วงอะไรนักหนากับอีแค่...ตื่นเช้าเนี่ย
YOU PART
นี่ก็ผ่านมาได้เกือบสองเดือนการเรียนก็เป็นไปตามปกติมั้งแต่การบ้านและก็ภาคปฏิบัติทำฉันแทบกระอักเลือด คนเกาหลีเขาไม่ชอบให้ลูกเรียนวิศวกรรมการบินหรือไงกันนะพูดแล้วปวดจิต
ภาคสาขาฉันมีคนเรียนอยู่เก้าคนรวมฉันและที่สำคัญ...ฉันเป็นผู้หญิงคนเดียววันรับน้องสาขารู้สึกอย่างกับเป็นเจ้าหญิงแต่วันรับน้องคณะอย่างกับทาสไหนจะพาไปค่ายโหดนั่นอีก ว๊ากกไม่เว้นเพศเลยนะคะฉันนึกว่ามาที่นี่คงไม่มีเกียร์หรอก หึ หึ
แต่ผิดคาดมันมี... และฉันก็ไม่ใช่ทอมนะที่จะทนเหมือนผู้ชาย แต่ฉันก็ผ่านมันมาได้ด้วยดีแล้ว พวกเพื่อนชายปากหมาก็เรียกฉันว่า ช้างไทย
หุ่นอาโออิขนาดนี้ เรียกช้างหรอ ไอ้ห่า
ตั้งแต่วันนั้นฉันก็ไม่เจอเอ็กโซเลยไม่สิฉันเจอแต่ฝั่งเอ็มเดินออกมาจากลิฟต์พวกเขามองฉันแปลกๆอย่างกับไปขโมยกางเกงในของพวกเขามาอย่างนั้นแหละ ขนาดฉันใส่ชุดนักศึกษาการบินไม่ช่วยให้มีออร่าบ้างเลยหรือไงกัน
วันนั้นฉันเร่งรีบกลัวเข้าคลาสไม่ทันแล้วโปรเฟสเชอร์โบกหน้าให้ ใช่..พวกเราวิศวหรือเรียกง่ายๆว่าเด็กช่างดีๆนี่เอง ...ครูโหด...
เถื่อน คือนิยามที่ลงตัวที่สุด
เกิดอาการว่างอีกครั้งในวันหยุดโทรหาอาเธอร์ดีกว่า เพื่อนในสาขาฉันเองเขาจัดอยู่ในพวกหน้าตาดีมากจริงๆคนหนึ่งเลยละฉันเข้ากับมันได้เร็วสุดเพราะหมอนี่เป็นคนอังกฤษเลยทำให้เจอกันครั้งแรกเรารัวใส่กันและแน่นอนในคณะเราแต่ละคนภูมิฐานดี และตอแหลเก่งมาก พวกเราพูดอังกฤษต่อหน้าคนอื่น และพูดเกาหลีต่อหน้ากันเอง ในคำสั่งของรุ่นพี่สาขา ที่ว่า
จงตอแหลต่อหน้าคนอื่น
ฉันละเกลียด...จริงๆ
ทำการแสดง
“รับช้าจริงมึงอยู่ไหนว่ะ” ฉันไม่ใช่ผู้หญิงพูดจาไพเราะแสนดีและมีกุลสตรีเต็มร้อยหรอกนะแม่สอนให้มีมารยาทกับทุกคนก็พอแต่ถ้าเพื่อนหรือพวกรุ่นเดียวกันฉันไม่ทำหรอกมันน่าอึดอัดที่ต้องมาแสดงอาการมีมารยาทกับรุ่นเดียวกัน
[อยู่กับเมียไง คุยป่ะ] อะไรของเขาวะจะชวนออกไปข้างนอกหน่อยเดียวนี้ติดกันแจเลยตั้งแต่มีหนุ่มนิเทศมาอ่อยนูนาสุดที่รักของมัน
“เออๆ คุยหน่อยดิ๊” ฉันรู้จักกับแฟนเขานะสวยมากแถมยังเป็นว่าที่แอร์โฮตคนสวยฉันอยากมีโมเม้นนี้บ้าง...มีแฟนเป็นแอร์ในขณะที่ตัวเองเป็นนักบิน อย่างฉันเป็นผู้หญิงก็มีแฟนเป็นสจ๊วสแต่มันก็ได้แค่คิด ไม่รู้จะหามาจากไหนไม่ค่อยจะมีผู้ชายแท้ๆ
[ว่าไงที่รัก /เฮ้ยไรเนี่ยทีกับฉันไม่พูดบ้างวะ] ไอ้นี่มันจะห่วงแฟนเกินไปไหม หลายครั้งแล้วนะกับฉันเนี่ย ฉันเป็นผู้หญิงน่ะโว๊ยแล้วก็ชอบผู้ชายด้วย
“คิดถึงอ่ะ” ยั่วโมโหมันหน่อยดีกว่า ฉันชอบทำอย่างนี้กับเขาบ่อยๆสนุกไงคนไม่โสดไม่มีทางรู้หรอก
[มึงไม่ต้องคุยเลย กูไม่ให้คุย แล้วเชิญมึงนอนตากแอร์อยู่ห้องนั้นแหละเดี๋ยวบอกเชี่ยเซนไปเล่นด้วย ชัดนะ]
“อ้าวเฮ้ย เดียวดิอาเธอร์” ไอ้เซน มันเป็นคนจีนที่ถ่อสังขารมาที่นี่ด้วยเหตุผลที่ว่า...จะเอายุนอาเป็นแฟนให้ได้ มั่นหน้ามากอ่ะ ฉันกัดกับมันทุกวันแต่ก็ช่วยเหลือกันตลอดมันเรียนโง่ไง แต่ดันซ่อมบำรุงเก่งเลยต้องพึ่งพามันสมองฉันและใช้พรสวรรค์ของมัน
หวังว่ามันคงจะมาอยู่หรอก
ฉันหยิบมือถือออกจากกางเกงมันสั่นรัวๆติดต่อกันหลายครั้งบ่งบอกว่ามีคนส่งข้อความมาซึ่งเดาไม่ยาก...ไลน์สินะ
[ไอ้ห่า กูจะนอนนนนนนนนนน!!!]
[อย่าพิมพ์ กูจะนอนทั้งวันนนนนน]
[หาอะไรแดกเองละกัน]
[กูลืมมาร์กหน้าไว้ห้องมึง]
[มาเรียนเอามาให้ด้วย]
[อิสวย เก็ตนะ]
ช่างเป็นเพื่อนดีเด่นเสียจริง นี่ด่าขนาดนี้ทำไมไม่มาต่อยกันเลยวะ ฉันว่างมากไม่รู้จะไปไหน ไม่ใช่ไม่มีที่ไปนะแต่ไปมาหมดแล้วต่างหาก ก็มาตอนแรกฉันเห่อไง พอมีเพื่อนงานเที่ยวก็ต้องมา เหลือแต่เกาะเชจู ปูซาน เท่านั้นมั้ง
ฉันฝันถึงเธอ...คนที่อยู่ไกลแสนไกล...
ใช่...ฉันยังหลับตาฝันเห็นเขาอยู่ทุกครั้งและมันเริ่มแปลกขึ้นเรื่อยๆยิ่งฉันพยายามหลบเลี่ยงพวกนั้นโดยเฉพาะ ‘เขา’ มันก็เหมือนคนในฝันยิ่งรุกลานฉันมากขึ้นหมอนี่เหมือนจะเอาฉันให้เป็นของเขาทั้งตัวแต่หัวใจฉันเป็นของคนในฝันนั้นนานแล้วตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
หลายครั้งที่เอ็กโซบางคนมากดออดหน้าประตู อาจจะทักทาย หรือ เอาของฝากสักอย่างมาให้แต่ฉันแสร้งทำเป็นไม่มีคนอยู่แล้วนั่งฟังเสียงกริ่งเฉยๆ ยกเว้นแต่คนนั้นเป็นพี่ผู้จัดการของเขาเพราะในอนาคตเขาอาจช่วยฉันได้มากเลยทีเดียว
04.00 PM
05.06 PM
06.30 PM
~จับมือเธอได้เพียงแค่ในฝันอยู่ด้วยกันได้เพียงแต่ความคิด...~
“ใครตั้งปลุกว่ะ!!”
ฉันด่าตัวเองอย่างหัวเสียก็ฉันกำลังฝันดีนิ ต้องบอกไหมว่าฝันถึงใครบอกแล้วไงฉันกับคนในฝัน เรารักกัน หลังจากกินอิ่มก็ต้องหลับจริงไหมไปอาบน้ำดีกว่า
ระหว่างนั่งท่าครีมอยู่บนเคาเตอร์ในห้องอาบน้ำก็เผลอคิดอะไรชั่วร้ายออกมา เฮอะ!ช่วยไม่ได้ใครบอกให้แกลืมไว้เองไอ้ห่าลาก ฉันเดินไปหยิบที่มาร์กหน้าที่เพื่อนสุดที่รักดันมาลืมไว้ตอนมาขอข้าวกิน ทองคำบริสุทธิ์ งั้นหรอมันเหมาะกับหน้าฉันมากกว่าเฟ้ย...
รู้สึกดีชะมัด เป็นผู้ชายอย่าสำอางให้มากมาแบ่งๆฉันใช่ยังดีกว่า เซนเป็นผู้ชายที่ดูแลชีวิตและใบหน้าตัวเองดีโคตรๆมันใส่ผ้าปิดปากไปมหาลัยทุกวันแถมผิวยังสวยตามสไตล์คนปักกิ่งเพราะมันบอกมันไม่ใช่คนจีนเป็นคำพูดที่โง่นะแต่มันก็เลือกที่จะพูดอยู่บ่อยๆ ฉันควรจะถ่ายรูปลงกลุ่มไลน์ไหม มันจะได้ขาดใจตาย...
เป็นไปตามคิดไอ้เซนแทบดิ้น ฮ่าๆ
SEHUN PART
“ทำไมกลับมาคนเดียวละเซฮุน” พี่ชายคนโตของผมเอ่ยถามขึ้น ก็มีแต่เขานี่แหละที่ไม่เคยดุด่าว่าผมสักครั้ง เปล่าหรอก...ที่จริงผมประชดขนาดพี่เมเนเจอร์ยังมาส่งแล้วทิ้งกันไปง่ายๆเหอะเพราะฉะนั้นตรงนี้ก็ไม่มีใครดีเท่าพี่ชายตรงหน้าแล้ว
“ผมเบื่อฮะพี่” พี่ซิ่วหมินเอ่ยถามตอนผมเดินมานั่งข้างๆเขาบนโซฟาตัวยาวจะไม่ให้เบื่อได้ไง “งานเสร็จก็ไปดื่มตลอดแบบนี้ทำหนุ่มโลกสวยอย่างผมแปดเปื้อนหมดสิ” ที่จริงผมกลัวตัวเองเมาผมคออ่อนนะจะให้ไปสู้กับไอ้ไคก็ไม่ใช้เรื่องเผื่อเมาๆมาไปคว้าสาวที่ไหนมาทำมิดีมิร้ายเสียภาพเด็กน่ารักหมด
“เป็นเด็กดีจังเลยนะนาย” ผมก็ไม่อยากจะปฏิเสธนักหรอกก็มัน...เรื่องจริงนิ ก็ผมมันเป็นคนดีมากๆคนหนึ่งเลยแหละใครได้เป็นสามีนะผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเลยแต่เสียใจด้วยเพราะผมมีว่าที่ภรรยาในฝันแล้ว
“แล้วมานั่งทำอะไรอยู่คนเดียวละครับพี่”
“ก็คนอื่นมีงานหมดจะให้พี่ทำอะไร” อยู่คนเดียวยังทำหน้ายิ้มได้ถ้าอย่างผมไม่มีงานคงออกไปหาเพื่อนแล้วไม่มานั่งเป็นผู้ดีอย่างพี่เค้าหรอก...แต่เพิ่งจะคิดได้ว่าตัวเองถามคำถามโง่ๆออกไป
เออ จริงสิ...
พี่คริส ถ่ายละคร
พี่เสี่ยว ถ่ายหนัง
พี่เลย์ ไปจีน
พี่เฉิน ซ้อมร้องเพลง
ที่อยากรู้จริงๆคือไอ้เทามันหายหัวไปไหน
“เทาละครับ” ทำไมชอบอยู่ไม่สุขก็ไม่รู้ ไม่มีงานทีไรต้องสร้างกระแสตลอดผมว่ามันไม่ปกตินะเรียกร้องความสนใจจากแฟนๆทั้งๆที่พวกเขาก็รักมันจะตายห่าที่จริงผมหมั่นไส้อ่ะอยากออกไปกับมันบ้าง...ดีกว่ามานั่งทำหน้าหล่อๆอยู่เฉยๆ
“ออกไปข้างนอกน่ะสังสรรค์ไซน่าไลน์ละมั้ง” ไลน์นี่อีกแล้วไปกับใครอีกละคราวนี้ดูช่างน่าใจร้ายกล้าปล่อยให้พี่ชายสุดหล่อของผมอยู่คนเดียวได้ไงไอ้เทา มึงนะมึง
“อ๋อครับ แล้วพี่อ่านหนังสืออะไรเนี่ยดูจริงจัง” ผมมองหนังสือเล่มหนาในมืออีกคน
“จิตวิทยาเด็กอ่ะ แฟนคลับให้เป็นของขวัญวันเกิดมันดูแปลกนะแต่สาระเยอะมากลองอ่านดูไหมละ” พี่ซิ่วหมินหันหน้ามาถามผมทำไม ทั้งๆที่ผมก็โง่วิชาพอตัวยิ่งเป็นพวกตัวหนังสือเยอะๆเล่มหนาๆอย่างนี้แล้วผมยิ่งไม่ชอบถ้าเป็นพวกตัวเลขก็ว่าไปอย่าง
พี่บอกใครให้อ่านหนังสือกัน นี่ โอ เซฮุนนะครับ
“แค่ชื่อก็น่าปวดหัวตายห่า แล้วนี่เตรียมพร้อมมีลูกว่างั้น”ผมยกคิ้วกวนๆให้พี่เขา
“เกี่ยวอะไรกับลูก” นั่งอมยิ้มซะด้วย...ถึงปากบอกไม่แต่ว่าใจคิดแน่ๆ
“อ่าว จิตวิทยาเด็กไงครับ” ผมพูดผิดตรงไหนก็มันต้องเกี่ยวกับพวกเด็กๆอยู่แล้วนิชื่อมันก็บอกอยู่แล้ว “ไม่ใช่หรอกหรอครับ”
“เพราะยังไม่อ่าน เลยทำให้คำพูดดูโง่นะเซฮุน” ด่าทางอ้อมนิถ้าเป็นจงอินนะผมจะถีบทะลุกำแพงห้องเลยพี่รอดไปนะ
“ก็ไม่รู้นิครับเอามาอ่านสักหน่อยดิพี่” แล้วก็กลืนน้ำลายตัวเองตอนแรกก็กะจะไม่อ่านหรอกกลัวคนในฝันอยากมีลูกขึ้นมาจะได้รู้ว่าต้องอบรมดูแลลูกยังไงให้เป็นคนดีๆอย่างผม
พี่ซิ่วหมินยื่นหนังสือมาให้ผมแล้วเดินไปห้องครัวสงสัยจะหิวละมั้งผมจึงเปิดไปที่บทสรุปด้านหลังอ่านแบบรวบรัดฉลาดกว่าเยอะไอ้เทาก็เดินเข้ามามาพร้อมกับชานมไข่มุก อะไรนะชานมหรอ
“อ่ะของมึง” มันพูดแล้วยื่นชานมมาให้ผมมันดูแปลกที่ไอ้เทามันแบ่งของกินกับผมเพราะถ้าปกติต้องแย่งกินตลอดสงสัยจะไปทำอะไรผิดมาแน่ๆ
“ขอบใจโว๊ย! ก็มีแค่มึงนี่แหละที่สรรหาของมาให้กูแดกอยู่ตลอด!”
“ก็กูเป็นคนดี คนดีก็ต้องเป็นกู” อยากถีบ...คำนี้โผล่เข้ามาในหัวผมทันทีที่มันพูดจบคิดได้ยังไงกันขอใช้คำของคุณภรรยาหน่อยละกัน...
“มั่นหน้าสัส!! แล้วนี่ไปเดทกับไซน่าไลน์มาหรือไง”
“เออ ไปเดทกับแจ็คสันแล้วก็พี่โจวมี่มา” แจ็คสันคนเถื่อนสินะหน้าอย่างมันน่ะหรอจะมาออกเดทกับคนอย่างมึงอย่างเทา มันมุ้งมิ้งเกินไป “มองอย่างนี้ ไม่เชื่อกูหรือไง”
“ทำไม่มึงโลภอย่างนี่วะ เดทสองเลย”
“ก็เลือกยาก”
ผมผลักไหล่มันอย่างแรงจนแก้วชานมที่อยู่ในมือของมันหลุดกระเด็นไปโต๊ะเล็ก...ด้านหน้าเราสองคนซึ่งผมวางหนังสือจิตวิยาเด็กของพี่ซิ่วหมินเปิดหน้าหลังที่อ่านอยู่ไว้...เลอะเต็มๆ
ฉิบหาย เชี่ยเทา
“ของใครว่ะเซฮุน” เทาเบิกตาโตตกใจไม่รู้ว่าเสียดายหนังสือหรือของกินกันแน่แต่ตอนนี้ผมเตรียมเผ่นก่อนดีกว่าก่อนที่พี่ชายสุดที่รักจะออกมาจากครัว
“ของคนที่จะทำให้มึงเกิดใหม่ได้ ไง ไอ้ห่ากูคงจะอยู่หรอก”
“เชี่ยฮุนแล้วจะทำไงเนี่ย” มันลนลานลุกขึ้นดึงทิซซู่ออกมาเช็ด...ทำอย่างกับมันจะออกให้...“ทำไง?”
“แล้วแต่ครับ”
ไม่รู้จะไปทางไหนผมวิ่งออกมาทางระเบียงอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าพี่ซิ่วหมินเดินมาใกล้ เชิญมึงอยู่ต่อคนเดียวเลยครับไอ้ขี้เหล่ ผมไม่ชอบเวลาซิ่วหมินฮยองดุ หรือกำลังโกรธ เพราะมันจะทำให้ผมมีน้ำตา
จิตใจผมอ่อนแอไง ต้องรอให้เย็นลงก่อน ผมอาจดูเห็นแก่ตัวไปหน่อยแต่ก็ใช่ ผมเห็นแก่ตัว ขอโทษนะเทาที่ปล่อยให้มึงแบกวิบากกรรมอยู่คนเดียวอย่างน่าสงสารใครบอกถือไม่ดีเอง
“มันอยู่ระเบียงฮะฮยอง!”
เพื่อนเ_ว
“ห้องใครช่างแมร่งปีนเลยละกันว่ะ”
ผมพูดแล้วปีนระเบียงเชื่อมกับอีกห้องหนึ่งสูงแค่เอวผมเองแค่นี้สบาย อีกอย่างพี่ชานยอลพี่ซูโฮบอกว่าสวยนักเอ็กซ์หนานั่นคืออีกเหตุผลที่อยากปีน ถ้าเจอเธอเข้าจะได้มีข้ออ้างช่างเป็นคนที่ฉลาดอะไรอย่างนี้นะแล้วจะเปิดเข้าไปยังไงว้าาา?
ขอร้องละพี่อย่าเปิดออกมาเลยนะรอพี่เย็นก่อนค่อยว่ากันมันก็ไม่น่าโมโหเท่าไหร่หรอกถ้าของสิ่งนั้นไม่ใช่ของแฟนคลับ...
ไม่ใช่เงินเราซื้อต้องดูแลดีๆ
ความคิดเห็น