คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : BEGIN AGAIN CHAPTER 2
S H A L U N L A T H E M E @ DEK-D
Chapter 2
Begin Again
“โอเซน่า!”
“หืม?”
“ถ้าแข่งโอลิมปิกคณิตศาสตร์เสร็จเธอต้องไปแข็งกีฬาเทควันโดสร้างชื่อเสียงให้กับหมวดพละด้วย”
“เอ่อ...”
“และเธอต้องชนะให้ได้ ไม่อย่างนั้นติด ‘F’ แน่นอน และฉันจะไม่ยอมให้หมวดคณิตศาสตร์มันเอาดีเข้าตัวแค่หมวดเดียวแน่!”
อยากได้หน้าว่างั้นเหอะ...
ขอถังใบใหญ่ๆเอามารองน้ำตาสักห้าถังได้ไหม ฉันไม่เข้าใจทำไมต้องเอา “F” เอา “A” มาอ้าง
แค่งานที่ฉันตั้งใจทำส่ง กับคะแนนที่สอบได้ฉันก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้อย่างอื่นนอกจากเอแล้วนะคะ...
ทารุณกันชัดๆ
“เข้าใจที่ครูพูดไหม”
“เข้าใจค่ะ”
บ้าที่สุด
ในชีวิตวัยรุ่นฉันคงไม่ต้องทำอะไรอย่างคนอื่นเขาแล้วละ
แค่ทำตามที่คนอื่นบอกไปเรื่อยๆนี่แหละ และยิ่งเข้าฤดูเทศกาลการแข่งขันแบบนี้แล้ว ไม่รู้ว่าอาจารย์หัวหน้าหมวดคนไหนจะมาบังคับฉันอีก
ฉันอยากเที่ยวบ้างอยากทำอะไรเหมือนกับวัยรุ่นคนอื่นๆเขาทำกันบ้างนะเว้ย...
...ช่วงเช้าฉันมีเรียนจีน แต่เมื่อก้าวเท้าเข้าห้องเรียนวิชาแรก...
“เซน่าผู้น่ารักมาหาครูหน่อยลูก....”
“คะ มีอะไรหรอ?” เธอเงียบไปสักพักแล้วยื่นมือมาบีบแก้มฉันเบาๆก่อนยิ้มหวานมาให้
“ครูค่ะ ถ้าไม่พูดก็สอนเลยนะ ฉันพร้อมแล้วค่ะ” ฉันอาจจะดูก้าวร้าวแต่ถ้าต้องเดาอีกครั้ง...ฉันคงไม่ทำ
ช่วงนี้วิชาการการแข่งขันเยอะแยะไปหมด โรงเรียนฉันแพ้ใครก็ได้แต่ต้องไม่ใช่โรงเรียนใกล้เคียงเพราะเห็นแข่งกันมาแต่ไหนแต่ไร...
“มีจ๊ะ หนูช่วยเข้าแข่งทักษะภาษาจีนในวันมะรืนได้ไหมเอ่ย?”
“โรงเรียนนี้คนจีนก็เยอะนะคะ ทำไมไม่ขอให้พวกเข้าแข่งขันละ”
เธอยังส่งยิ้มสวยมาให้ ฉันๆแทบกลั้นขำไม่อยู่เมื่อได้ยินคำตอบ...
“ตามกติกาต้องไม่ใช่ชาวต่างชาติจ๊ะต้องเป็นคนเกาหลี”
“อยากรู้อะไรดีๆไหมค่ะครูปิงเหมย”
เธอพยักหน้าอย่างรวดเร็วจนฉันต้องจับแก้มตัวเองไว้ไม่ให้หัวเราะออกไป ก็เพราะคนตรงหน้าอายุมากขนาดนี้แล้วยังทำตัวได้น่ารักอยู่เลย
“เซน่าเป็นคนไทยค่ะ ไทยแท้ๆเลยดูบัตรประจำตัวประชาชนไหมค่ะ?” เธออ้าปากเหวอทันทีที่ฉันตอบไป
ฮ่าๆ
“ไม่จริง!”
“จริงค่ะ^o^”
“เซน่าไม่โกรธฉันนะ”
“ไม่โกรธหรอกซูจอง ไปหาแจบอมเถอะ”
“แน่ใจนะ”
“แน่สิ แล้วก็ปล่อยแขนฉันก่อนได้ไหม หิวจะตายอยู่แล้ว”
ฉันพยายามอย่างมากในการสะบัดแขนเพื่อนรักสุดสวยออก
“งือเซนา...”
ฉันไม่เข้าใจเธอเท่าไหร่...จะไปทานข้าวด้วยกันแล้วมาขออนุญาตฉันเพื่ออะไร
คนยิ่งหิวๆอยู่ เมื่อวานพอกลับไปห้องฉันก็นอนหลับเป็นตายจนถึงเช้า ไหนจะเกือบตื่นมาโรงเรียนไม่ทัน
การบ้านที่ทำค้างไว้ก็ไม่เสร็จ น้ำก็ไม่ได้อาบ น่าเวทนาตัวเองจริงๆ ข้าวก็ไม่ได้กินสักคำ
“ปล่อย...”
พออีกคนไม่มีท่าทีจะปล่อยฉันจึงมองซูจองดุๆ
ขู่ด้วยแววตา จากนั้นเธอก็ปล่อยมือออกจากแขนฉันในทันทีก่อนจะเดินไปหาแจบอมที่รออยู่สบกับจีมินและจินรีเดินมาทางนี้พอดี
ฉันเลยเลือกที่จะไม่สนใจแล้วเดินไปซื้อข้าว
หิวไส้จะขาดแล้ว...
“โอเซน่าหยุดก่อน”
“อะไรค่ะคุณจินรี... หิว...”
“รูปเธอยืนส่งยิ้มหวานให้ผู้ชายปลิวไปทั่วโรงเรียนแล้ว
”
ฉันรับใบปลิวขนาดเอสี่ที่มีรูปฉันกับ...ใครวะ?
เมื่อวานฉันอยู่ที่ป้ายรถเมล์กับคนในภาพ
ถ้าแค่มองดูยังไงก็เหมือนฉันกำลังยื่นมือไปจับมืออีกคน ถ้าจะพูดง่ายๆก็เหมือนเราสองคนกำลังจับมือกันอยู่
ทั้งที่ความจริงแล้วฉันแค่รับเงินทอน
“เรื่องแค่นี้เอง...”
“แค่นี้?! นี่เรื่องใหญ่นะเซน่า...”
“ไม่เห็นว่ามันเป็นเรื่องใหญ่เท่าไหร่
มาบอกฉันทำไม”
“นี่ไม่ใหญ่หรอ?”
ฉันพยักหน้าให้แล้วทำท่าจะเดินไปซื้อข้าวแต่ถูกรั้งไว้อีกครั้ง
“ตกลงมีอะไร”
“เธอไม่สงสัยหรอว่าใครเป็นคนเขียนข่าว” ถ้าฉันตอบว่าไม่คงถูกตื้ออีกตามเคย
งั้นถามหน่อยก็แล้วกัน
“แล้วใครเป็นประธานหนังสือพิมพ์”
“รุ่นพี่...ชื่อไรนะ...ชานอีมั้ง”
“ชานอี...”
“ว่าแต่เซน่ากับเซ... เอ่อ... คนในภาพอ่ะ ไปจับมือกันได้ไง”
“ไม่รู้...
ฉันแค่รับเงินทอน ไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ” ฉันพูดความจริง
“แล้วข่าวมาได้ไง” เอ๊ะ!!ผู้หญิงคนนี้ตื้อจริงๆ หิว!
“ก็ไม่รู้อีกแหละ” จินรีกับจีมินเอามือตบหน้าผากตัวเองแล้วเดินหนีฉันไปเฉยเลย
ก็คนมันไม่รู้จักจริงๆนี่หว่า จะให้บอกว่า ‘เราเป็นแฟนกัน เขารักฉันมาก’ อย่างนี้หรอ
ไร้สาระสิ้นดี
ฉันสั่งรามยอนมานั่งกินข้างๆจีมินในขณะที่เพื่อนๆคุยกันอย่างออกรสฉันก็ได้แต่นั่งคิดอยู่คนเดียวว่าถ้าพวกเธอไม่ได้นินทาผู้ชายจะขาดใจตายหรือเปล่า?
คนนั้นเป็นตุ๊ดบ้างละ คนนี้เป็นเกย์บ้างละ
คนนั้นฟันคนนี้ คนนี้หักหลังคนนั้น ยัยนั่นกับยัยคนนั้นไม่ถูกกัน
ฉันอยากรู้จริงๆว่าพวกเธอไปเอามูลข่าวต่างๆนานามาจากไหน?
“ฉันว่าเซฮุนต้องเกาะเซน่าของฉันกลบข่าวเกย์แน่เลย”
“มึงช่วยดูหน้าเซน่านิดหนึ่งว่ามันเดือดร้อนอะไรเหมือนพวกเราไหม
ยังกินอิ่มและนอนหลับในห้องเรียนอยู่เลย”
“ก็เพราะเซน่ามันไม่เดือดร้อนไงฉันเลยต้องเดือดแทน
เขาเป็นเกย์แต่เกาะผู้หญิงกลบข่าวตัวเองเนียนๆมันใช้ไม่ได้นะเว้ย ใช่ไหมเซน่า?!”
“อย่าเอาฉันไปยุ่ง”
“อ่าว หรือเธออยากมีข่าวว่ามีแฟนเป็นชายไม่แท้ห๊า?”
“รู้ได้ไงว่าเขาไม่ใช่ผู้ชาย
ฉันได้ยินพวกเธอนินทาเขาทุกวันเลย ไม่รู้ว่าไปเอาข่าวมาจากไหน”
“อย่าบอกนะว่ามันขโมยความบริสุทธิ์ผุดผ่องของเธอไปแล้วอ่ะ
ม่ายจรี๊ง! น่าเซน่าที่ร๊ากกกก!!!”
“คิดได้ยังไงวะ” ฉันดันหน้าจีมินออกก่อนที่เธอจะซบลงตรงอก
ยัยนี่มันหื่นไม่รู้เวล่ำเวลาจริงๆ “ฉันยังไม่รู้เลยว่า ‘มัน’
ที่พวกเธอพูดถึงน่ะคนไหน”
“ก็คนที่จับมือเธอไงค่ะ”
“ฉันจำหน้าไม่ได้...”
“ห๊า?”
“ฉันพูดจริงๆนะ...” รูปที่ดูก็เหมือนภาพซูมจากมุมไกลๆ
ใบหน้าเขาก็ลางๆ แต่ฉันนึกไม่ออกหรอก ฉันเป็นพวกจำชื่อและใบหน้าคนยาก
“เอ้อ อาทิตย์หน้ามีกีฬาสีเซน่าไปสิงคโปร์ใช่ไหม”
“อืม”
“โห่...........”
ฉันพยักหน้าเป็นคำตอบและฟังเสียงเพื่อนตัวเองโห่ร้องอย่างขัดใจฉันจึงรีบกินรามยอนในจานให้หมดเพื่อที่จะได้ไปทักทายรุ่นพี่ชานอีสักหน่อย
ฉันไม่เคยรู้สึกคิดถึงคนที่ไม่เคยเห็นหน้าเท่านี้จริงๆ...
ฉันไม่ได้อยากคุยกับเขาเรื่องภาพหรอกเพราะไม่สนใจด้วยซ้ำว่าถ่ายมาได้ยังไง?
เอาจากใครมา?
แต่ที่สนคือ...พาดหัวข่าว
‘หนุ่มหล่อเกรด C อยาก “เด็ด” นางฟ้าเกรด A’
ฉันเดินมาคนเดียวโดดๆแล้วมองผ่านกระจกหน้าประตูก่อนจะเปิดเข้ามาด้านใน
แต่กลับไม่มีใครอยู่เลยสักคน ทั้งชมรมได้ยินแต่เสียงของเครื่องปรับอากาศ ฉันเดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าประตูห้องท่านประธานชมรมแล้วเคาะสองสามทีก่อนจะเปิดออกแต่ก็ต้องพบกับ...ความว่างเปล่าอีกครั้ง...
แต่ใครจะสน ฉันโอเซน่านะ
ขอสำรวจสักหน่อยเป็นไง...
“ไอ้ชานอี... ซะ เซน่า” ฉันหันไปเหวี่ยงตาใส่คนที่เข้ามาใหม่อย่างโกรธๆ
ฉันไม่ใช่พวกเดือนดาวของโรงเรียนนะโว๊ย
ทำไมต้องเรียกแบบสนิทชิดเชื้อขนาดนั้นด้วย และอีกอย่างคือฉันไม่ได้เป็นมิตรกับใครเท่าไหร่ด้วย
แต่ก็ยังมีพวกที่รู้จัก...ทำให้รำคาญบ่อยๆ
“อะไร”
“ขอโทษครับ ผมชื่อจงอินเอ่อ...เซน่าเห็นชานอีไหม”
“ฉันอยู่นี่ มีอะไรจงอิน
โอเซน่า...” เขาผลักคนที่ชื่อจงอินเข้ามาในห้องแล้วหันมามองหน้าฉัน ดวงตากลมโตกระพริบถี่ๆแล้วขยี้ตาไปมาอย่างไม่เชื่อ
“สวัสดีค่ะรุ่นพี่ ช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าใครอยากเด็ดใครอะไรยังไง?”
ฉันลุกขึ้นจากเก้าอี้ของประธานชมรมแล้วก้าวเดินเข้าไปหาเขา
จงอินที่ยืนอยู่ด้านหลังจับไหล่คนด้านหน้าไว้แน่นเขาทั้งสองคนก้าวถอยหลังเรื่อยๆเมื่อฉันก้าวเข้าหาก่อนจะวิ่งหนีออกไปจากชมรม
ทำไมต้องทำท่าทางหวาดกลัวขนาดนั้นนะ! ฉันแค่จะถามว่าใครหน้าไหนอยากเด็ดฉันแค่นี้เอง...
ตอนแรกว่าจะไม่ใส่ใจ แต่สุดท้ายมันก็อดคิดมากไม่ได้หรอกนะ
ถึงฉันจะไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับใครนอกจากกลุ่มเพื่อนผู้หญิง แต่อยู่ๆก็มีพวกที่มองมาแล้วนินทาอย่างเปิดเผยมันก็อดที่จะกังวลไม่ได้ฉันไม่เคยนินทาใคร...เลยรู้สึกไม่ดี
แค่ปล่อยมันไปเซน่า...
เมื่อไหร่เพื่อนฉันจะเลิกกับแฟนให้หมดนะ แม้แต่กวนๆอย่างจีมินยังมีแฟนเลย
นอกจากเวลาเรียนและกินข้าวกลางวันฉันก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันกับพวกเธอเหมือนแต่ก่อน ซูจองก็ติดแจบอม
ใครมันกล้ามาทำโหดร้ายทารุณกับชีวิตเซน่าขนาดนี้!
“ชอนจีฉันไปด้วยดิวะ นายจะไปไหน?” ฉันเดินมาเจอชอนจีระหว่างเดินผ่านโรงยิมเลยต้องถามสักหน่อยเผื่อมีอะไรให้ทำ
ถึงกลับคอนโดไปก็ไม่มีอะไรให้เล่นสนุกอยู่ดี นั่งๆนอนๆ “ไม่มีซ้อมเต้นหรอ?”
“ไม่มี ฉันว่าจะไปเล่นบาส
ไปเปลี่ยนชุดไปเดี๋ยวรอ”
เขายืนพิงเสาหน้าห้องน้ำฉันเลยเดินเข้าไปห้องล็อกเกอร์ของตัวเองในหมวดพละหยิบชุดพละสำรองมาเปลี่ยนก่อนจะเดินกลับออกไปหาชอนจีแต่...
ฝูงอะไร?
ฉันกำลังมองดูเหตุการณ์คนตีกันอย่างตื่นๆไม่รู้ว่าชอนจีหายไปไหนแล้วก่อนหน้านี้ยังยืนรอฉันอยู่หน้าห้องน้ำอยู่เลย...ฉันมองคนกำลังต่อยกันไปมาอย่างดุเดือดโดยไม่รู้ใครเป็นใครและที่สำคัญไม่มีใครห้ามเลยสักคน
มีพวกผู้หญิงบางคนที่ยืนเกาะไหล่แฟนตัวเองดูเหตุการณ์อย่างกลัวๆและพวกนักกีฬาที่อยู่ฝึกซ้อมกำลังกอดอกมองคนต่อยกันอย่างสนุกและตามมาด้วยพวกที่มาเล่นกีฬาก่อนกลับบ้าน
ตีกันให้ตายไปเลยพวกสัปดน
ไร้การศึกษา วัฒนธรรม...เดี๋ยวนะ ไม่จริง!!!
ฉันมองเห็นชอนจีกำลังถูกประเคนหมัดโดยมีคนตัวสูงกว่าคร่อมร่างไว้
ใบหน้าสวยกว่าผู้หญิงหันซ้ำๆจากแรงต่อย ปากและแก้มเขายังเลือดออกอย่างเห็นได้ชัดจนเจน...
ทั้งสองคนกำลังต่อยกันอย่างไม่มีใครยอมแพ้สลับกันรุกบ้าง แล้วฉันควรทำไงดี
ทำไงดีๆ เพื่อนถูกต่อยทั้งคน จริงที่ฉันไม่ใช่พวกเอาวิชาที่มีอยู่ไปทำร้ายคนอื่นหรอกนะแต่...ถ้าต้องปกป้องใครสักคนก็อีกอย่าง
นั้นเพื่อนเลยนะเว้ย...
ฉันเดินไปดึงคอเสื้อคนที่คร่อมชอนจีขึ้นมาแต่เขาตวัดหางตามามองฉันอย่างดุดันก่อนจะเอื้อมมือมากำคอเสื้อฉันแน่น
ทำไมหมอนี่หน้าคุ้นๆนะ?...
แต่ก่อนจะได้สงสัยอะไรไปมากกว่านี้จู่ๆเขาก็ปล่อยมือออกจากคอเสื้อฉันแล้วหันไปต่อยชอนจีอีกรอบ
ขอโทษนะไอ้หน้าขาวนายเลือกที่จะไม่ทำฉันเอง...
ฉันลุกยืนก่อนจะยกขาขึ้นแล้วฟาดลงหนักๆตรงท้ายทอยของคนที่คร่อมชอนจีแรงๆเขาหยุดต่อยแล้วเริ่มนิ่งก่อนจะเซตัวไปมาและซบใบหน้าลงแนบอกชอนจี
รู้ไหม? ถ้าฉันลงน้ำหนักที่เท้ามากเกินไปหมอนี่อาจตายได้ง่ายๆเลย
ชอนจีผลักตัวเขาออกอย่างแรง ดูเหมือนว่าเพื่อนฉันกำลังพยายามที่จะลุกขึ้นฉันเลยเข้าไปพยุงเขาช้าๆก่อนจะเหลือบมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยฟกซ้ำที่กำลังจ้องมองมาอย่างเหนื่อยๆ
ทำอะไรไม่คิด ถ้ามีคนถ่ายรูปไว้ได้แกตายแน่เลยไอ้สวย
ฉันขอร้องให้พี่ยามช่วยหามเพื่อนชายขึ้นมาไว้ในห้องของตัวเอง
และบอกให้พี่เขาวางชอนจีไว้บนเตียงแล้วก้มขอบพระคุณอย่างสูง
ฉันมองคนที่นอนหลับไปแล้วอย่างเอือมๆ...ควรทำไงต่อวะ
“ฮยอนอามาที่ห้องพี่เซน่าสุดหล่อหน่อยเส่”
เธอคือที่พึ่งสุดท้าย...
[ไม่ว่าง อื้ม...]
ฉันกดตัดสายจากฮยอนอาทันทีเมื่อความคิดอุบาทของตัวเองเข้าครอบงำ
ก็เห็นว่าอยู่คอนโดเดียวกันจะใช้ทั้งทีต้องมีเรื่องไม่ว่างตลอด ฉันหันไปมองคนข้างๆที่นอนหายใจหนักกว่าปกติแล้วแตะแผลซ้ำๆดู...ฉันควรพาเขาไปโรงบาลไหม?...
ฉันเข้าไปห้องน้ำแล้วออกมาพร้อมถังน้ำและผ้าเช็ดตัวสีขาวสามสี่ผืนแล้วเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลบนโต๊ะกระจกและหยิบเสื้อผ้าน้องชายที่เพิ่งซื้อมาใหม่มาด้วย
ตอนแรกกะจะส่งไปให้แต่สงสัยงานนี้มีคนได้ใช้ก่อนนะน้องรัก
ฉันเอาเสื้อผ้าชอนจีไปซักไว้ให้ก่อนจะเดินเข้าครัวทำข้าวต้มกรอกปากตัวเองให้หายหิวและแบ่งไว้ให้ผู้บาดเจ็บนิดหนึ่ง
ฉันถือถาดข้าวต้มวางไว้โต๊ะเล็กข้างเตียงแล้วเปิดลิ้นซักหายาแก้ปวด ยาลดไข้ ยาคลายกล้ามเนื้อมาวางไว้ในถาดก่อนจะปิดแผ่นคลูเจลไว้บนหน้าผากเขา
“ตื่นโว๊ยยยยย!!!!!!!”
“หื้ม...เซน่า”
“เออ กูเอง” ชอนจีกระพริบตาปรับกับแสงไฟบนเพดานเขายันตัวเองลุกขึ้นพร้อมกับเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวด
“กินข้าวซะแล้วก็กินยา ไม่ต้องแกะออก” ฉันตีเข้าที่มือเพื่อนทันทีเมื่อเขาจะลอกแผ่นลดไข้ออกแล้วยกถาดอาหารวางไว้บนตัก
“ใจร้าย ToT”
“นอนที่นี่ก่อนแล้วกันหายแล้วค่อยกลับ
หอนายคงไม่ถูกยึดไปก่อนหรอกนะ”
“กวน... ไม่ถามหน่อยหรอว่าถูกรุมต่อยเรื่องอะไร”
“ไม่อะ... ไม่อยากรู้ รีบกินซะ
นี่โทรศัพท์ โทรบอกบรรพบุรุษนายด้วย” ฉันนอนลงบนเตียงกว้างแล้วหันหน้าไปมองเพื่อนตัวเองที่กำลังตักข้าวเข้าปากอย่างยากลำบากก่อนจะโยนโทรศัพท์ตัวเองไว้บนเตียงข้างๆเขา
“เจ็บน่าดู”
“อืม...เจ็บโคตร”
“เฮ้อ…จำหน้าได้ค่อยไปเอาคืนแล้วกัน”
“สัญญาสิว่าเธอจะไม่ห้าม”
“เกี่ยวอะไรกับฉันอยากทำก็ทำไปดิ๊...เรื่องของนาย”
“จำคำเธอไว้นะเซน่า”
ฉันพยักหน้าให้อย่างงงๆแล้วหลับตาลงเพราะง่วงเต็มที ฉันจะห้ามทำไมในเมื่อมันเป็นเรื่องของเขากับคู่อริ
นอกซะจากว่าหมอนี่จะตายเท่านั้นแหละฉันถึงจะห้าม...
J
ความคิดเห็น