ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SEHUN X YOU BEGIN AGAIN

    ลำดับตอนที่ #3 : BEGIN AGAIN CHAPTER 2

    • อัปเดตล่าสุด 7 เม.ย. 59


     S H A L U N L A   T H E M E @ DEK-D


     

    Chapter 2

     

     

     

    Begin Again

     

     

     

     

     

        “โอเซน่า!

        “หืม?”

        “ถ้าแข่งโอลิมปิกคณิตศาสตร์เสร็จเธอต้องไปแข็งกีฬาเทควันโดสร้างชื่อเสียงให้กับหมวดพละด้วย”

        “เอ่อ...”

        “และเธอต้องชนะให้ได้ ไม่อย่างนั้นติด ‘F’ แน่นอน และฉันจะไม่ยอมให้หมวดคณิตศาสตร์มันเอาดีเข้าตัวแค่หมวดเดียวแน่!

     

        อยากได้หน้าว่างั้นเหอะ...

     

        ขอถังใบใหญ่ๆเอามารองน้ำตาสักห้าถังได้ไหม ฉันไม่เข้าใจทำไมต้องเอา “F” เอา “A” มาอ้าง  แค่งานที่ฉันตั้งใจทำส่ง กับคะแนนที่สอบได้ฉันก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้อย่างอื่นนอกจากเอแล้วนะคะ...

     

         ทารุณกันชัดๆ

     

        “เข้าใจที่ครูพูดไหม”

        “เข้าใจค่ะ”

     

        บ้าที่สุด

        ในชีวิตวัยรุ่นฉันคงไม่ต้องทำอะไรอย่างคนอื่นเขาแล้วละ แค่ทำตามที่คนอื่นบอกไปเรื่อยๆนี่แหละ และยิ่งเข้าฤดูเทศกาลการแข่งขันแบบนี้แล้ว ไม่รู้ว่าอาจารย์หัวหน้าหมวดคนไหนจะมาบังคับฉันอีก

     

        ฉันอยากเที่ยวบ้างอยากทำอะไรเหมือนกับวัยรุ่นคนอื่นๆเขาทำกันบ้างนะเว้ย...

     

     

     

        ...ช่วงเช้าฉันมีเรียนจีน แต่เมื่อก้าวเท้าเข้าห้องเรียนวิชาแรก...

     

        “เซน่าผู้น่ารักมาหาครูหน่อยลูก....”

     

        “คะ มีอะไรหรอ?” เธอเงียบไปสักพักแล้วยื่นมือมาบีบแก้มฉันเบาๆก่อนยิ้มหวานมาให้ “ครูค่ะ ถ้าไม่พูดก็สอนเลยนะ ฉันพร้อมแล้วค่ะ” ฉันอาจจะดูก้าวร้าวแต่ถ้าต้องเดาอีกครั้ง...ฉันคงไม่ทำ

         ช่วงนี้วิชาการการแข่งขันเยอะแยะไปหมด โรงเรียนฉันแพ้ใครก็ได้แต่ต้องไม่ใช่โรงเรียนใกล้เคียงเพราะเห็นแข่งกันมาแต่ไหนแต่ไร...

        “มีจ๊ะ หนูช่วยเข้าแข่งทักษะภาษาจีนในวันมะรืนได้ไหมเอ่ย?”

        “โรงเรียนนี้คนจีนก็เยอะนะคะ ทำไมไม่ขอให้พวกเข้าแข่งขันละ” เธอยังส่งยิ้มสวยมาให้ ฉันๆแทบกลั้นขำไม่อยู่เมื่อได้ยินคำตอบ...

        “ตามกติกาต้องไม่ใช่ชาวต่างชาติจ๊ะต้องเป็นคนเกาหลี”

        “อยากรู้อะไรดีๆไหมค่ะครูปิงเหมย” เธอพยักหน้าอย่างรวดเร็วจนฉันต้องจับแก้มตัวเองไว้ไม่ให้หัวเราะออกไป ก็เพราะคนตรงหน้าอายุมากขนาดนี้แล้วยังทำตัวได้น่ารักอยู่เลย “เซน่าเป็นคนไทยค่ะ ไทยแท้ๆเลยดูบัตรประจำตัวประชาชนไหมค่ะ?” เธออ้าปากเหวอทันทีที่ฉันตอบไป ฮ่าๆ

        “ไม่จริง!

        “จริงค่ะ^o^

     

     

     

     

     

     

     

     

        “เซน่าไม่โกรธฉันนะ”

        “ไม่โกรธหรอกซูจอง ไปหาแจบอมเถอะ”

        “แน่ใจนะ”

        “แน่สิ แล้วก็ปล่อยแขนฉันก่อนได้ไหม หิวจะตายอยู่แล้ว” ฉันพยายามอย่างมากในการสะบัดแขนเพื่อนรักสุดสวยออก

        “งือเซนา...”

         ฉันไม่เข้าใจเธอเท่าไหร่...จะไปทานข้าวด้วยกันแล้วมาขออนุญาตฉันเพื่ออะไร คนยิ่งหิวๆอยู่ เมื่อวานพอกลับไปห้องฉันก็นอนหลับเป็นตายจนถึงเช้า ไหนจะเกือบตื่นมาโรงเรียนไม่ทัน การบ้านที่ทำค้างไว้ก็ไม่เสร็จ น้ำก็ไม่ได้อาบ น่าเวทนาตัวเองจริงๆ ข้าวก็ไม่ได้กินสักคำ

        “ปล่อย...”

         พออีกคนไม่มีท่าทีจะปล่อยฉันจึงมองซูจองดุๆ ขู่ด้วยแววตา จากนั้นเธอก็ปล่อยมือออกจากแขนฉันในทันทีก่อนจะเดินไปหาแจบอมที่รออยู่สบกับจีมินและจินรีเดินมาทางนี้พอดี ฉันเลยเลือกที่จะไม่สนใจแล้วเดินไปซื้อข้าว

        หิวไส้จะขาดแล้ว...

        “โอเซน่าหยุดก่อน”

        “อะไรค่ะคุณจินรี... หิว...”

        “รูปเธอยืนส่งยิ้มหวานให้ผู้ชายปลิวไปทั่วโรงเรียนแล้ว

         ฉันรับใบปลิวขนาดเอสี่ที่มีรูปฉันกับ...ใครวะ?

        เมื่อวานฉันอยู่ที่ป้ายรถเมล์กับคนในภาพ ถ้าแค่มองดูยังไงก็เหมือนฉันกำลังยื่นมือไปจับมืออีกคน ถ้าจะพูดง่ายๆก็เหมือนเราสองคนกำลังจับมือกันอยู่ ทั้งที่ความจริงแล้วฉันแค่รับเงินทอน

        “เรื่องแค่นี้เอง...”

        “แค่นี้?! นี่เรื่องใหญ่นะเซน่า...”

        “ไม่เห็นว่ามันเป็นเรื่องใหญ่เท่าไหร่ มาบอกฉันทำไม”

        “นี่ไม่ใหญ่หรอ?” ฉันพยักหน้าให้แล้วทำท่าจะเดินไปซื้อข้าวแต่ถูกรั้งไว้อีกครั้ง

        “ตกลงมีอะไร”

        “เธอไม่สงสัยหรอว่าใครเป็นคนเขียนข่าว” ถ้าฉันตอบว่าไม่คงถูกตื้ออีกตามเคย งั้นถามหน่อยก็แล้วกัน

        “แล้วใครเป็นประธานหนังสือพิมพ์”

        “รุ่นพี่...ชื่อไรนะ...ชานอีมั้ง”

        “ชานอี...”

        “ว่าแต่เซน่ากับเซ... เอ่อ... คนในภาพอ่ะ ไปจับมือกันได้ไง”

        “ไม่รู้... ฉันแค่รับเงินทอน ไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ” ฉันพูดความจริง

        “แล้วข่าวมาได้ไง” เอ๊ะ!!ผู้หญิงคนนี้ตื้อจริงๆ หิว!

        “ก็ไม่รู้อีกแหละ” จินรีกับจีมินเอามือตบหน้าผากตัวเองแล้วเดินหนีฉันไปเฉยเลย ก็คนมันไม่รู้จักจริงๆนี่หว่า จะให้บอกว่า เราเป็นแฟนกัน เขารักฉันมาก อย่างนี้หรอ

     

        ไร้สาระสิ้นดี

     

         ฉันสั่งรามยอนมานั่งกินข้างๆจีมินในขณะที่เพื่อนๆคุยกันอย่างออกรสฉันก็ได้แต่นั่งคิดอยู่คนเดียวว่าถ้าพวกเธอไม่ได้นินทาผู้ชายจะขาดใจตายหรือเปล่า?

        คนนั้นเป็นตุ๊ดบ้างละ คนนี้เป็นเกย์บ้างละ คนนั้นฟันคนนี้ คนนี้หักหลังคนนั้น ยัยนั่นกับยัยคนนั้นไม่ถูกกัน ฉันอยากรู้จริงๆว่าพวกเธอไปเอามูลข่าวต่างๆนานามาจากไหน?

        “ฉันว่าเซฮุนต้องเกาะเซน่าของฉันกลบข่าวเกย์แน่เลย”

        “มึงช่วยดูหน้าเซน่านิดหนึ่งว่ามันเดือดร้อนอะไรเหมือนพวกเราไหม ยังกินอิ่มและนอนหลับในห้องเรียนอยู่เลย”

        “ก็เพราะเซน่ามันไม่เดือดร้อนไงฉันเลยต้องเดือดแทน เขาเป็นเกย์แต่เกาะผู้หญิงกลบข่าวตัวเองเนียนๆมันใช้ไม่ได้นะเว้ย ใช่ไหมเซน่า?!

        “อย่าเอาฉันไปยุ่ง”

        “อ่าว หรือเธออยากมีข่าวว่ามีแฟนเป็นชายไม่แท้ห๊า?”

        “รู้ได้ไงว่าเขาไม่ใช่ผู้ชาย ฉันได้ยินพวกเธอนินทาเขาทุกวันเลย ไม่รู้ว่าไปเอาข่าวมาจากไหน”

        “อย่าบอกนะว่ามันขโมยความบริสุทธิ์ผุดผ่องของเธอไปแล้วอ่ะ ม่ายจรี๊ง! น่าเซน่าที่ร๊ากกกก!!!

        “คิดได้ยังไงวะ” ฉันดันหน้าจีมินออกก่อนที่เธอจะซบลงตรงอก ยัยนี่มันหื่นไม่รู้เวล่ำเวลาจริงๆ “ฉันยังไม่รู้เลยว่ามัน ที่พวกเธอพูดถึงน่ะคนไหน”

        “ก็คนที่จับมือเธอไงค่ะ”

        “ฉันจำหน้าไม่ได้...”

        “ห๊า?

         “ฉันพูดจริงๆนะ...” รูปที่ดูก็เหมือนภาพซูมจากมุมไกลๆ ใบหน้าเขาก็ลางๆ แต่ฉันนึกไม่ออกหรอก ฉันเป็นพวกจำชื่อและใบหน้าคนยาก

        “เอ้อ อาทิตย์หน้ามีกีฬาสีเซน่าไปสิงคโปร์ใช่ไหม”

        “อืม”

        “โห่...........” ฉันพยักหน้าเป็นคำตอบและฟังเสียงเพื่อนตัวเองโห่ร้องอย่างขัดใจฉันจึงรีบกินรามยอนในจานให้หมดเพื่อที่จะได้ไปทักทายรุ่นพี่ชานอีสักหน่อย

        ฉันไม่เคยรู้สึกคิดถึงคนที่ไม่เคยเห็นหน้าเท่านี้จริงๆ... ฉันไม่ได้อยากคุยกับเขาเรื่องภาพหรอกเพราะไม่สนใจด้วยซ้ำว่าถ่ายมาได้ยังไง? เอาจากใครมา? 

        แต่ที่สนคือ...พาดหัวข่าว

     

        หนุ่มหล่อเกรด C อยาก เด็ด” นางฟ้าเกรด A’

     

     

     

     

        ฉันเดินมาคนเดียวโดดๆแล้วมองผ่านกระจกหน้าประตูก่อนจะเปิดเข้ามาด้านใน แต่กลับไม่มีใครอยู่เลยสักคน ทั้งชมรมได้ยินแต่เสียงของเครื่องปรับอากาศ ฉันเดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าประตูห้องท่านประธานชมรมแล้วเคาะสองสามทีก่อนจะเปิดออกแต่ก็ต้องพบกับ...ความว่างเปล่าอีกครั้ง...

     

        แต่ใครจะสน ฉันโอเซน่านะ ขอสำรวจสักหน่อยเป็นไง...

     

        “ไอ้ชานอี... ซะ เซน่า” ฉันหันไปเหวี่ยงตาใส่คนที่เข้ามาใหม่อย่างโกรธๆ

        ฉันไม่ใช่พวกเดือนดาวของโรงเรียนนะโว๊ย ทำไมต้องเรียกแบบสนิทชิดเชื้อขนาดนั้นด้วย และอีกอย่างคือฉันไม่ได้เป็นมิตรกับใครเท่าไหร่ด้วย แต่ก็ยังมีพวกที่รู้จัก...ทำให้รำคาญบ่อยๆ

        “อะไร”

        “ขอโทษครับ ผมชื่อจงอินเอ่อ...เซน่าเห็นชานอีไหม”

        “ฉันอยู่นี่ มีอะไรจงอิน โอเซน่า...” เขาผลักคนที่ชื่อจงอินเข้ามาในห้องแล้วหันมามองหน้าฉัน ดวงตากลมโตกระพริบถี่ๆแล้วขยี้ตาไปมาอย่างไม่เชื่อ

        “สวัสดีค่ะรุ่นพี่ ช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าใครอยากเด็ดใครอะไรยังไง?” ฉันลุกขึ้นจากเก้าอี้ของประธานชมรมแล้วก้าวเดินเข้าไปหาเขา

        จงอินที่ยืนอยู่ด้านหลังจับไหล่คนด้านหน้าไว้แน่นเขาทั้งสองคนก้าวถอยหลังเรื่อยๆเมื่อฉันก้าวเข้าหาก่อนจะวิ่งหนีออกไปจากชมรม ทำไมต้องทำท่าทางหวาดกลัวขนาดนั้นนะ! ฉันแค่จะถามว่าใครหน้าไหนอยากเด็ดฉันแค่นี้เอง...

        ตอนแรกว่าจะไม่ใส่ใจ แต่สุดท้ายมันก็อดคิดมากไม่ได้หรอกนะ ถึงฉันจะไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับใครนอกจากกลุ่มเพื่อนผู้หญิง แต่อยู่ๆก็มีพวกที่มองมาแล้วนินทาอย่างเปิดเผยมันก็อดที่จะกังวลไม่ได้ฉันไม่เคยนินทาใคร...เลยรู้สึกไม่ดี

     

        แค่ปล่อยมันไปเซน่า...

     

     

     

     

     

     

     

        เมื่อไหร่เพื่อนฉันจะเลิกกับแฟนให้หมดนะ แม้แต่กวนๆอย่างจีมินยังมีแฟนเลย นอกจากเวลาเรียนและกินข้าวกลางวันฉันก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันกับพวกเธอเหมือนแต่ก่อน ซูจองก็ติดแจบอม ใครมันกล้ามาทำโหดร้ายทารุณกับชีวิตเซน่าขนาดนี้!

        “ชอนจีฉันไปด้วยดิวะ นายจะไปไหน?” ฉันเดินมาเจอชอนจีระหว่างเดินผ่านโรงยิมเลยต้องถามสักหน่อยเผื่อมีอะไรให้ทำ ถึงกลับคอนโดไปก็ไม่มีอะไรให้เล่นสนุกอยู่ดี นั่งๆนอนๆ “ไม่มีซ้อมเต้นหรอ?

        “ไม่มี ฉันว่าจะไปเล่นบาส ไปเปลี่ยนชุดไปเดี๋ยวรอ” เขายืนพิงเสาหน้าห้องน้ำฉันเลยเดินเข้าไปห้องล็อกเกอร์ของตัวเองในหมวดพละหยิบชุดพละสำรองมาเปลี่ยนก่อนจะเดินกลับออกไปหาชอนจีแต่...

     

        ฝูงอะไร?

     

         ฉันกำลังมองดูเหตุการณ์คนตีกันอย่างตื่นๆไม่รู้ว่าชอนจีหายไปไหนแล้วก่อนหน้านี้ยังยืนรอฉันอยู่หน้าห้องน้ำอยู่เลย...ฉันมองคนกำลังต่อยกันไปมาอย่างดุเดือดโดยไม่รู้ใครเป็นใครและที่สำคัญไม่มีใครห้ามเลยสักคน

        มีพวกผู้หญิงบางคนที่ยืนเกาะไหล่แฟนตัวเองดูเหตุการณ์อย่างกลัวๆและพวกนักกีฬาที่อยู่ฝึกซ้อมกำลังกอดอกมองคนต่อยกันอย่างสนุกและตามมาด้วยพวกที่มาเล่นกีฬาก่อนกลับบ้าน

     

        ตีกันให้ตายไปเลยพวกสัปดน ไร้การศึกษา วัฒนธรรม...เดี๋ยวนะ ไม่จริง!!!

     

        ฉันมองเห็นชอนจีกำลังถูกประเคนหมัดโดยมีคนตัวสูงกว่าคร่อมร่างไว้ ใบหน้าสวยกว่าผู้หญิงหันซ้ำๆจากแรงต่อย ปากและแก้มเขายังเลือดออกอย่างเห็นได้ชัดจนเจน...

     

         ทั้งสองคนกำลังต่อยกันอย่างไม่มีใครยอมแพ้สลับกันรุกบ้าง แล้วฉันควรทำไงดี ทำไงดีๆ เพื่อนถูกต่อยทั้งคน จริงที่ฉันไม่ใช่พวกเอาวิชาที่มีอยู่ไปทำร้ายคนอื่นหรอกนะแต่...ถ้าต้องปกป้องใครสักคนก็อีกอย่าง นั้นเพื่อนเลยนะเว้ย...

     

         ฉันเดินไปดึงคอเสื้อคนที่คร่อมชอนจีขึ้นมาแต่เขาตวัดหางตามามองฉันอย่างดุดันก่อนจะเอื้อมมือมากำคอเสื้อฉันแน่น ทำไมหมอนี่หน้าคุ้นๆนะ?...

        แต่ก่อนจะได้สงสัยอะไรไปมากกว่านี้จู่ๆเขาก็ปล่อยมือออกจากคอเสื้อฉันแล้วหันไปต่อยชอนจีอีกรอบ

     

        ขอโทษนะไอ้หน้าขาวนายเลือกที่จะไม่ทำฉันเอง...

     

       ฉันลุกยืนก่อนจะยกขาขึ้นแล้วฟาดลงหนักๆตรงท้ายทอยของคนที่คร่อมชอนจีแรงๆเขาหยุดต่อยแล้วเริ่มนิ่งก่อนจะเซตัวไปมาและซบใบหน้าลงแนบอกชอนจี

        รู้ไหม? ถ้าฉันลงน้ำหนักที่เท้ามากเกินไปหมอนี่อาจตายได้ง่ายๆเลย ชอนจีผลักตัวเขาออกอย่างแรง ดูเหมือนว่าเพื่อนฉันกำลังพยายามที่จะลุกขึ้นฉันเลยเข้าไปพยุงเขาช้าๆก่อนจะเหลือบมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยฟกซ้ำที่กำลังจ้องมองมาอย่างเหนื่อยๆ

     

        ทำอะไรไม่คิด ถ้ามีคนถ่ายรูปไว้ได้แกตายแน่เลยไอ้สวย

     

     

     

     

     

        ฉันขอร้องให้พี่ยามช่วยหามเพื่อนชายขึ้นมาไว้ในห้องของตัวเอง และบอกให้พี่เขาวางชอนจีไว้บนเตียงแล้วก้มขอบพระคุณอย่างสูง ฉันมองคนที่นอนหลับไปแล้วอย่างเอือมๆ...ควรทำไงต่อวะ

        “ฮยอนอามาที่ห้องพี่เซน่าสุดหล่อหน่อยเส่” เธอคือที่พึ่งสุดท้าย...

     

         [ไม่ว่าง อื้ม...]

     

        ฉันกดตัดสายจากฮยอนอาทันทีเมื่อความคิดอุบาทของตัวเองเข้าครอบงำ ก็เห็นว่าอยู่คอนโดเดียวกันจะใช้ทั้งทีต้องมีเรื่องไม่ว่างตลอด ฉันหันไปมองคนข้างๆที่นอนหายใจหนักกว่าปกติแล้วแตะแผลซ้ำๆดู...ฉันควรพาเขาไปโรงบาลไหม?...

        ฉันเข้าไปห้องน้ำแล้วออกมาพร้อมถังน้ำและผ้าเช็ดตัวสีขาวสามสี่ผืนแล้วเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลบนโต๊ะกระจกและหยิบเสื้อผ้าน้องชายที่เพิ่งซื้อมาใหม่มาด้วย ตอนแรกกะจะส่งไปให้แต่สงสัยงานนี้มีคนได้ใช้ก่อนนะน้องรัก

     

     

        ฉันเอาเสื้อผ้าชอนจีไปซักไว้ให้ก่อนจะเดินเข้าครัวทำข้าวต้มกรอกปากตัวเองให้หายหิวและแบ่งไว้ให้ผู้บาดเจ็บนิดหนึ่ง ฉันถือถาดข้าวต้มวางไว้โต๊ะเล็กข้างเตียงแล้วเปิดลิ้นซักหายาแก้ปวด ยาลดไข้ ยาคลายกล้ามเนื้อมาวางไว้ในถาดก่อนจะปิดแผ่นคลูเจลไว้บนหน้าผากเขา

        “ตื่นโว๊ยยยยย!!!!!!!

        “หื้ม...เซน่า”

        “เออ กูเอง” ชอนจีกระพริบตาปรับกับแสงไฟบนเพดานเขายันตัวเองลุกขึ้นพร้อมกับเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวด “กินข้าวซะแล้วก็กินยา ไม่ต้องแกะออก” ฉันตีเข้าที่มือเพื่อนทันทีเมื่อเขาจะลอกแผ่นลดไข้ออกแล้วยกถาดอาหารวางไว้บนตัก

        “ใจร้าย ToT

        “นอนที่นี่ก่อนแล้วกันหายแล้วค่อยกลับ หอนายคงไม่ถูกยึดไปก่อนหรอกนะ”

        “กวน... ไม่ถามหน่อยหรอว่าถูกรุมต่อยเรื่องอะไร”

        “ไม่อะ... ไม่อยากรู้ รีบกินซะ นี่โทรศัพท์ โทรบอกบรรพบุรุษนายด้วย” ฉันนอนลงบนเตียงกว้างแล้วหันหน้าไปมองเพื่อนตัวเองที่กำลังตักข้าวเข้าปากอย่างยากลำบากก่อนจะโยนโทรศัพท์ตัวเองไว้บนเตียงข้างๆเขา “เจ็บน่าดู”

        “อืม...เจ็บโคตร”

        “เฮ้อจำหน้าได้ค่อยไปเอาคืนแล้วกัน”

        “สัญญาสิว่าเธอจะไม่ห้าม”

        “เกี่ยวอะไรกับฉันอยากทำก็ทำไปดิ๊...เรื่องของนาย”

        “จำคำเธอไว้นะเซน่า” ฉันพยักหน้าให้อย่างงงๆแล้วหลับตาลงเพราะง่วงเต็มที ฉันจะห้ามทำไมในเมื่อมันเป็นเรื่องของเขากับคู่อริ นอกซะจากว่าหมอนี่จะตายเท่านั้นแหละฉันถึงจะห้าม...

     

     

     

     

     

     

     

    J

    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×