คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 : //ครึ่งแรก
แมวเป็นสัตว์สี่ขา สองตา มีหาง มีจมูก มีปาก
แต่ที่ในหนังสือไม่เขียนเอาไว้
แมวยังเป็นสัตว์ที่มี ความสามารถสร้างความร้าวฉานในครอบครัวได้อีกด้วย
ตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้น แม่ทาสแมวสุดที่รักของผมก็งอนยาวชนิดที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน ผมพอจะเข้าใจว่า การสูญเสียสิ่งที่รักมากไปโดยไม่ทันตั้งตัวทำให้ทั้งเสียใจ ทั้งตกใจ หวาดหวั่นหาที่พึ่ง แถมผมยังเห็นเป็นเรื่องสนุกสนานอีก จะงอนก็ไม่แปลก......
ถึงอย่างนั้นบางทีตอนนี้อาจจะมีเรื่องร้ายแรงกว่าโดนภรรยางอนกำลังเกิดขึ้นกับผมก็ได้
ภายในอาทิตย์นี้ จะต้องเป็นวันถึงฆาตของผมอย่างแน่นอน
ผมกำลังคิดหนักว่าหลังจากนี้ ภรรยาคนเดียวของผมจะใช้ชีวิตต่อยังไงเมื่อขาดเสาหลักของครอบครัว ถึงผมจะเชื่อว่าร้อยทั้งร้อย ชูร่า กับเดสมาร์ค จะต้องวิ่งโร่เข้ามาปลอบเป็นคู่แรกก็ตาม แต่นั้นยิ่งแย่ ผมไม่ไว้ใจเดสมาร์คเลยสักนิด ถึงผมจะให้เครดิตชูร่าค่อนข้างมากในเรื่องการดูแลสาวน้อยคนนี้ แต่อะไรจะเป็นตัวยืนยันว่าเธอจะไม่ถูกความเศร้ากัดกินจิตใจจนหันไปสนใจเจ้าแพะหน้าตายนั้นเล่า
คิดแล้วก็เครียด ระหว่างรีบทำประกันชีวิตหาเงินให้เมียใช้แบบด่วนๆ หรือจะหาทางหลีกเลี่ยงโรคร้ายผ่านทางอาหารแช่แข็ง ที่ใช้ประทังชีวิตสามมื๊ออาหาร บางที ดิเต้อาจจะได้เงินจากการเพาะพันธ์เชื้อโรคพันธุ์ใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อนในศพของผมหลังจากนี้......
เฮ้อ
ฟุ้งซ่านไปก็ตักข้าวกระเพาไก่ซีพีที่จัดลงกล่องข้าวแบบจงใจให้รู้ว่าเป็นอาหารแช่แข็งเข้าปากไปพราง มื๊อเที่ยงที่น่าอดสูของคนที่พ่ายแพ้เต็มรูปแบบแก่แมวตัวเดียวนี่มันเป็นแบบนี้นี่เอง
“รอบนี้เป็นเอามากนะ นายเนี่ย” ไอโอรอสที่ปกติจะหัวเราะอยู่เสมอ ถึงกับทำอะไรไม่ค่อยถูกเพราะผมเอาแต่นั่งจ้องผนังกินข้าวไปด้วยท่าทางคล้ายหุ่นยนต์ พรางเปิดหูฟังที่อัดเสียงภรรยาตอนน่ารักๆเก็บไว้มาฟังเล่น
บอกไว้ก่อนว่าผมไม่ได้เป็นโรคจิต.....เสียงเหล่านี้ผมอัดมันไว้โดยบังเอิญขณะที่ผมไปทำงานต่างจังหวัดสมัยกำลังจีบสาวน้อยผมสีฟ้า ทุกคำของดิเต้มีคำว่า คะ และคำว่า พี่ซากะ อยู่เสมอ น่ารักจริงๆ ถึงหลังแต่งงานเธอจะเลิกเรียกผมว่าพี่ตามคำขอ แต่ความเรียบร้อย ความอบอุ่นอ่อนโยนเหมือนเตาผิงอุ่นๆในวันที่หิมะถล่ม มันไม่เคยเปลี่ยนไปเลย ดิเต้.....ผมกำลังจะตายแล้วนะ ตอนนี้!
“ซากะ? เฮๆ นายยังไหวอยู่แน่นะ“ ไอโอรอสโบกมือหน้าผม ขณะที่ผมพยักหน้าตอบ เฮ้อ.....รู้ว่าห่วงนะ เพื่อน แต่ช่วยปล่อยให้ผมเพ้อรักอีกสักพักไม่ได้รึไง
“เพราะไอ้แมวผีตัวเดียวเลย...”ผมบ่นอีกครั้ง เหมือนกับวิทยุใกล้พังที่วนเทปซ้ำไปซ้ำมาประโยคเดิมๆ กับข้าวกับปลาที่เหลืออยู่ถึงครึ่งคงจะต้องเป็นม่ายไปทั้งอย่างนั้น มันกินไม่ลงจริงๆ แต่ถ้าคิดว่าคนที่นำมันใส่กล่องมาให้คือร่างสาวน้อยที่ผมรักที่สุดแล้ว ยังไงก็ต้องกินให้หมด ผมจิ้มไส้กรอกรูปปลาหมึกแบบสำเร็จรูปขึ้นมาจะเข้าปาก แต่หัวไวๆคล้ายๆของตัวเองก็ก้มลงมาจากที่สูง งับ เข้าให้ก่อน
“อย่างดิเต้นะ จับจูบก็หมดเรื่อง”
“คาน่อน.....” ผมไม่ได้สนใจหรอกว่าคาน่อนกำลังวางแผนอะไรพิลึกพิลั่นกับผม แต่นั้นมันอาหารที่ดิเต้ใส่ในกล่องข้าวให้ผม! ดวงตาผมเริ่มแดงกร่ำเตรียมอาละวาทแต่ไอโอรอสชิงเชิญคาน่อนเสียก่อน
“สวัสดีคาน่อน มานั่งด้วยกันสิ” ไอ้เพื่อนทรยศ.....เจ้าตัวคนพูดจัดแจงให้คาน่อนนั่งซะตรงกลางระหว่างพวกผมก่อนที่ผมจะค้อนเขาเสร็จเสียอีก เฮ้อ จริงๆผมรู้แหละว่า ใครๆ ก็อยากให้ผมกับคาน่อนดีต่อกันสักที ขอแค่เศษเสี้ยวของพี่น้องสามัญทั่วๆไปก็ได้ ทว่าไม่ใช่ตอนนี้.....ไม่ใช่ตอนผมกำลังเครียดจัดไม่เห็นรึไง
“วันนี้ทำไมไม่เอาแมวมาละ พี่”สิ่งเปลี่ยนแปลงอีกอย่างที่ผมไม่รู้ว่าจะยิ้มหรือร้องไห้ดีคือ โคโค่ทำให้คาน่อนกลับมาคุยกับผมอีกครั้ง แต่ข้อเสียคือเจ้าน้องของผมติดเชื้อทาสแมวขึ้นมาซะนี่ ถึงเมื่อก่อนผมค่อนข้างจะจำได้ดีว่า คาน่อนชอบสัตว์น้ำพอสมควร สมัยผมมีเงินเดือนก้อนแรก ผมยังเคยซื้อตู้ปลาสวยๆมาให้คาน่อนเลี้ยงปลาทองของเขาเลย ตอนที่คิดจะเลี้ยงแมว มีแว่บหนึ่งที่ผมคิดด้วยซ้ำว่า ถ้ายังอยู่ด้วยกัน แล้วโคโค่เกิดกินปลาของคาน่อน สงสัยจะเกิดศึกสองพี่น้องอย่างพ่ออัสปูรอสกับพ่อเดฟเทรอส เป็นแน่นอน.......
อย่างไรก็ตามผมรู้แล้วว่าคาน่อนอาจจะเอาปลาทองตาบูดน่าสงสารตัวนั้นขึ้นจานวางให้โคโค่กินแต่โดยดีมากกว่า....
“ฉันไม่อยากพรากแม่กับลูกออกจากกัน.......” และผมก็ไม่อยากให้เจ้าแมวผีมีกองกำลังป้องกันตัวเองมากขึ้นด้วยเช่นกัน...... ผมคิดพรางปกป้องกับข้าวในกล่องจากมือที่กำลังเตรียมแย่งเต็มที่อย่างรวดเร็ว
“หรือพูดอีกอย่างคือ ตกกระป๋องหัวเน่าเพราะแมวที่ตัวเองซื้อมาเองสินะพี่” แฮ่ ถ้าผมสามารถแยกเคี้ยวทำให้อีกฝ่ายตกใจกลัวได้มากกว่านี้ก็คงจะดีนะสิ ผมเกลียดคาน่อนเพราะปากแบบนี้นี่แหละ.....ถึงมันจะจริงก็เถอะ
“เขาว่าผู้หญิงใจอ่อนกับรสจูบของสามี เคยได้ยินมั้ย”
ผมมองใบสมัครบนตู้เย็นที่ชากะเอามาแปะไว้ เกี่ยวกับการเข้าวัดฟังธรรมแบบสองคืนสามวันแล้วคิดจะส่งใบสมัครชื่อคาน่อนลงไปเพราะมันคงจะมีประโยชน์ต่อคาน่อนจริงๆก็ครั้งนี้........แต่ก็เห็นแก่เหล่านักแสวงผู้บริสุทธิ์ทั้งหลาย ผมจะไม่ทำบาปเช่นนั้น
“ฉันไม่ใช่เสือผู้หญิงแบบนาย” ถึงจะยังเป็นดวงตาสีเขียวมรกต แต่ผมว่ามันก็ดุพอจะทำให้ไอโอรอสสะดุ้งนิดๆได้ละนะ เฮ้อ เหนื่อยใจ ทำไมน้องชายฝาแฝดของผมไม่เคยสะทกสะท้านกับอาการดุที่ใช้ได้กับคนอื่นสักทีนะ
ผมว่าเทพีแห่งโชคชะตาคงจะปั่นด้ายชีวิตผมมาด้วยด้ายสองด้าย ด้ายที่มีจุดจบการตายเพราะเจ้าแมวผี กับ ด้ายที่มีจุดจบการตายเพราะน้องชายตัวเอง
ดีนะที่มีด้ายแห่งความชื่นใจจากอโฟรดิเทที่ใหญ่กว่าสองเส้นนั้นมารัดพันผมไว้.....
“เฮๆ ซากะ.....ยิ้มอะไร น่าเกลียดเป็นบ้า นายคิดอะไรแปลกๆในหัวรึไง” ผมรู้ว่าเวลาผมคิดเรื่องดิเต้ มันไม่ได้หน้าผมมันไม่ได้น่าดูเท่าไหร่ แต่มันไม่ถึงขั้นหน้าเกลียดหรอกน่า คาน่อน......ดิเต้ยังเข้ามาหอมแก้มผมได้แบบปกติเลย!
ผมใช้ลูกเงียบไม่อยากสนทนากลับใส่คาน่อน แน่นอนว่าเจ้าตัวต้องไม่ชอบอย่างแน่นอน เพราะคาน่อนทำท่ารออย่างมีความอดทนได้แปบเดียวเขาก็เป็นฝ่ายชวนคุยต่อแบบที่ผมไม่ต้องการ
“สรุปคือ ดิเต้งอน พี่ก็จับจูบเขาสิ ง้อไม่เป็นละสิ” และนั้นแหละน้องผม เขายังคงพยายามยัดเยียดบางสิ่งบางอย่างใส่หัวผมแบบที่ผมไม่ชอบนักด้วยท่าทางสบายๆ การจูบใครคนหนึ่งนะ....มันเป็นเรื่องลึกซึ้งมาก ไม่ใช่สักแต่จะอยากก็ทำนะ โดยเฉพาะเวลาที่คาน่อนเปรียบเทียบดิเต้เหมือนกับอดีตแฟนทั้งหลายของคาน่อน
ผมไม่ชอบเลย......ดิเต้ไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไปซะหน่อย และอีกอย่าง
“อย่ามาทำเป็นรู้จักภรรยาพี่มากกว่าพี่สิ คาน่อน....” ผมพูดอย่างดุร้าย เฮ้อ คาน่อนคงไม่มีวันเดินจากไปอย่างที่ผมต้องการ เพราะงั้นผมไปเองก็ได้ ลุกขึ้น ล้างกล่องข้าวแล้วกลับไปนั่งทำงาน นั้นแหละที่ควรจะทำไวไว
“ยิ่งเฉย สาวๆเขาจะรู้สึกว่าพี่ไม่สำนึกกับสิ่งที่เขาทำ แล้วยิ่งน้อยใจนะ” ผมยอมรับว่าผมไม่ชอบวิธีของคาน่อนเลยทว่าคำว่าน้อยใจมีน้ำหนักมากสำหรับผม จะว่าไปแทบไม่เคยเห็นสาวๆของคาน่อนคนไหนที่แสดงอาการโกรธเกรี้ยว น้อยอกน้อยใจ ตั้งแต่ผมเคยเห็นมา ถึงจะบอกเลิกไปแล้ว ก็ยังคบหาคุยกันได้ด้วยดี
หรือรอบนี้ผมควรจะไว้ใจน้องชายผมเสียบ้าง?
ผมหันกลับไปยกคิ้วขึ้นมองรอยยิ้มสนุกสนานของเจ้าตัวชอบก่อเรื่องแล้วก็จรดตัวลงนั่งเก้าอี้พลาสติคตัวเดิมที่นั่งมาตลอดเที่ยง
ผมคือเจมินี่ ซากะ
หัวหน้าครอบครัวเล็กๆที่แสนจะมีความสุขแห่งหนึ่ง วันนี้คงเป็นวันแรกในชีวิตที่ผมรู้สึกอนาถใจสุดๆแล้วขณะที่ทบทวนว่าตัวเองคือใคร ในเมื่อ อะไรง่ายๆที่คาน่อนสาธิตให้ดูโดยใช้ไอโอรอสที่น่าสงสารเป็นตัวแทนดิเต้ มันไม่ง่ายเอาซะเลย เฮ้อ คิดแล้วก็ขนลุกพิลึก.....
“อย่ามาทำหน้าแบบนั้น คิดซะว่าฉันเป็นพี่ และรอสเป็นดิเต้สิ” คาน่อนตวาดใส่ผมแว๊ดๆขณะที่พนักงานคนอื่นเดินผ่านไปด้วยสายตา....ตื่นตะลึง? ผมใช้คำแบบนี้อธิบายน่าจะได้
“เออ......ถ้าฉันยอมเพื่อนายขนาดนี้ได้ นายน่าจะไม่มีปัญหานะ ซากะ”
“........” ผมเห็นนะ ว่าไอโอรอสขนลุกทั้งแขน ผมเวทนาเพื่อนสนิทตัวเองถึงที่สุดแล้วในวันนี้ แต่เพราะความมีน้ำใจอยากช่วยเหลือเพื่อนทำให้เขากล้ำกลืนบอกผมว่าไม่เป็นไร ยอมยืนใกล้ชิดเกินควรกับคาน่อนแต่โดยดี แต่ร้อยทั้งร้อยก็เถอะ.....
“รู้มั้ย ตอนนี้ฉันเหมือนเห็นตัวเองกับไอโอรอสกำลังจะจูบกันมากกว่า....” และผมแทบอยากจะเดินไปอ้วกเต็มที ขอร้องเถอะ คาน่อน นายอย่าเลียนแบบหน้าตาเบื่อโลกของผมจะได้มั้ย! โอ๊ก
“เอาเหอะน่า”เจ้าน้องชายตัวแสบทำหน้าเหม็นเบื่อใส่ผมกับไอโอรอสก่อนจะหันควับไปหาเพื่อนสนิทของผม
“ขั้นแรก นายเชอะสิ ไอโอรอส” คาน่อนสั่ง ทว่าคู่สนทนากลับทำหน้าปุเลี่ยนๆส่งให้แทนพรางต่อรอง
“สมมุติว่าเชอะแล้วได้มั้ย....”
“ไอ้เรื่องมาก” น้องของผมบ่นแต่ผมคิดว่าผมคงรับไม่ได้ถ้าไอโอรอสไม่เรื่องมากอย่างที่คาน่อนว่าแล้วส่งเสียงเชอะสะบัดต่อหน้าต่อตาผม......ให้ตายสิ สถานการณ์นี้มันคล้ายกับในหนังสือที่ดิเต้สมัยละอ่อนเคยอ่านเลย ทำไมตอนนั้นเธอถึงคิดว่าความสัมพันธ์คนรักระหว่างเพศเดียวกันมันน่ารักไปได้นะ.......ขนลุก
“เออๆ เชอะเสร็จแล้วก็ได้ ผู้หญิงจะสะบัดหน้างอน เพราะงั้น พี่ก็ค่อยๆอ้อมมือเข้าไปด้านหลังแบบนี้”ว่าพรางค่อยๆล้วงมือไปแตะเบาๆที่เอวของไอโอรอสก่อนจะโอบช้าๆอย่างนิ่มนวล ร่างเล็กกว่าไอโอรอสที่แสดงบทคนเป็นสามีแนบตัววางปลายคางลงบนไหล่ใหญ่อีกฝ่ายช้าๆ
“ปกติสาวๆจะชอบยันหน้าเราออกเพราะเขารู้สึกจั๊กจี้” แต่ไอโอรอสคงจะคลื่นไส้เต็มทนที่ลมหายใจร้อนๆขยับเส้นผมสั้นสีน้ำตาลของเขาแบบนั้น....เจ้าตัวพยายามเอียงคอไปด้านตรงข้ามกับคาน่อนให้มากที่สุด แต่
“จุ๊บ “คาน่อนประทับจูบเยื้องไปด้านขวาของริมฝีปากไอโอรอสนิดหน่อย อย่างน้อยเขาก็ปราณีสายตาคนรอบข้างบ้าง ต่อให้รู้ว่าคาน่อนทำไปเพราะแค่ยุแยงตะแคงรั่วผม แต่ให้ตายเถอะ.......ให้ตายเถอะ!
“สมมุติว่าจูบจริงๆนะพี่ แล้วก็เอาให้เข่าอ่อนไปเลย พอกำลังเคลิ้มก็ขอโทษเขาซะ แล้วค่อยพูดอะไรหวานๆเอาใจไป รับรอง ไม่หายงอนพรุ่งนี้มาตีหัวผมได้เลย” เสียงของคาน่อนยังพูดจ้อยๆอยู่ด้านหลังของผมที่กำลังโก่งคออ้วกด้วยสีหน้าสะอิดสะเอียนไร้คำบรรยาย ให้ตายเถอะ ไอโอรอสเองก็วิ่งไปที่ซิ้งอีกข้างขณะที่คาน่อนเกาหัวงงๆแล้วทำหน้าเหมือนถามผมว่า เป็นอะไรกันนะ?
โถ่........รองหัวหน้าแผนกทั้งสองของออฟฟิศก็เข้าทำงานช่วงบ่ายด้วยท้องโล่งว่างไม่มีอะไรให้น้ำย่อยได้ย่อยนอกจากผนังกระเพาะโล่งๆ.....
แกรก
กลับมาที่ปัจจุบัน ผมบิดประตูเข้าไปในทางเดินบ้าน วันนี้ก็ยังไม่มีแม้แต่เสียงต้อนรับกลับเข้าบ้านแว่วมาให้ได้ยิน ความรู้สึกนี่มันเหงาบาดใจผมจริงๆ...... วันนี้ดิเต้ไม่ได้อยู่ในห้องนั่งเล่น แต่เธอยืนอยู่ที่มุมทางเดินระหว่างห้องครัวกับห้องอาหาร ผมชะเง้อมองพรางยิ้มส่งให้ แต่เจ้าตัวกลับทำเป็นไม่เห็นและไม่สนใจใดๆ
“กลับมาแล้วครับ ดิเต้”ผมยังคงยิ้มสู้
“กลับมาแล้วเหรอคะ....”ฟังดูก็รู้ว่าเธอตอบเพียงแค่ตามมารยาท น้ำเสียงเรียบๆ ใบหน้าที่ยังง่วนกับการทำอาหารแมวแบบพิถีพิถัน เฮ้อ ผมว่าบางทีอาหารแมวนั้นอาจจะอร่อยกว่าอาหารแช่แข็งก็ได้ ถ้าฝึกกินอาหารแมวดู จะผิดมั้ยนะ เพราะความรักมากมายที่ผมเคยคิดว่าได้มา นับวันๆ ยิ่งตกไปเป็นของก้อนขนสีขาวที่วนออดอ้อนดิเต้ไปมามากขึ้นทุกที เอาเถอะ วันนี้เจมินี่ ซากะ จะไม่อยู่เฉยโดยไม่โต้ตอบอีกต่อไปแล้ว
“ดิเต้....กอดผมละ?”ผมลองเชิงขณะขยับเข้าไปใกล้ขึ้นพรางวางกระเป๋าทำงานบนโต๊ะกินข้าว อย่างน้อยต่อให้โดนดิเต้ตบ กระเป๋าทำงานผมต้องรอดชีวิตจากไอ้แมวผีอย่างแน่นอน มือของผมสะกิดบ่าเล็กซึ่งไร้การตอบสนองอย่างแผ่วเบาพรางค่อยๆพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุด
ความคิดเห็น