ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เดิมพัน

    ลำดับตอนที่ #3 : Green Street : กรีนสตรีท

    • อัปเดตล่าสุด 31 มี.ค. 48


    ตอนที่ 3 : Green Street

        แพทกับจินนี่ขับรถเบนถนนเรียบชายหาด บรรยากาศตอนนั้นทำให้ชวนฝันยิ่งนัก  ท้องฟ้าตอนนั้นมืดสนิท มีแต่แสงจากกลุ่มดาวบนท้องฟ้าระยิบระยับ  ทะเลในตอนนั้นมีสีน้ำเงินเข้มและเมื่อมีแสงจากดาวตกกระทบกับน้ำทะเล  ทำให้ทะเลแห่งนั้นน่าดูยิ่งนัก  แพทที่กำลังดื่มด่ำกับค่ำคืนที่สวยงาม  ลืมความกังวลต่างๆนานา ต้องถูกกระชากกลับมาสู่ความจริงเนื่องจากการขับรถอย่างมืออาชีพของพี่สาวที่ขับเฉไปเฉมา  เมื่อดูที่แผงควบคุมหน้ารถก็ไม่อยากเชื่อสายตา

        “100!+_+!พี่เหยียบเข้าไปได้ไง” แพทให้มาบอกพี่สาวทั้งที่มือทั้งสองข้างของตัวเองจับเบาะแน่นเผื่อว่าถ้ารถเป็นอะไรขึ้นมาก็มีหลักยึดเอาไว้

        “เหอะน่า....เงียบเถอะเสียสมาธิหมด” เจนนี่หันมาบ่นน้องสาวในขณะที่ตัวเองพยายามรักษาเส้นทางไม่ให้ออกนอกเส้นทาง   แล้วอยู่ดีๆรถก็เบรกกะทันหันทำเอาแพทกระเดนไปข้างหน้าแต่โชคดีที่เข็มขัดนิรภัยกับมือที่เกาะเบาะแน่นช่วยเอาไว้ไม่งั้นหัวโขกกับกระจกแน่

        “หยุดทำไม” แพทหันมาตะโกนใส่พี่สาว

        “เออ  หมามันวิ่งตัดหน้ารถ  ถ้าไม่หยุดเดี๋ยวชนมันตายหรอก” จินนี่หันมาบอกน้องพลางชี้ให้ดูหมาตัวสีดำสนิทที่วิ่งข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามแล้ว

        “โธ่...พี่” แพททำหน้าหมดอารมณ์ก่อนหันกลับทางเดิม ‘คนที่จะตายนั่งอยู่ตรงนี้ต่างหาก’

        “เหอะน่า  เอ้าไปต่อเหอะ” จินนี่สตาร์ทรถเตรียมเดินทางต่อ

        “พี่...แค่ 60 ก็พอแล้ว  มันเขตชุมชนนะ” แพทหันมาบอกจินนี่อีกครั้งก่อนออกเดินทาง

        “เออ  รู้แล้ว”  จินนี่จึงขับรถต่อไป

        

        ในเมืองซัมเมอร์เซต  จัดว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวแห่งหนึ่งนอกจากเมืองหลวง  มีสถานที่ท่องเที่ยวตอนกลางคืนเป็นจำนวนมาก  นับว่าเป็นเมืองกลางคืนเลยทีเดียว  ทั้งผลับ  บาร์  ดิสโก้เทค  ร้านอาหาร  โชว์ต่างๆและที่เด็ดสุด คือ โชว์ตามถนนของศิลปินอิสระที่สวนสาธารณะกรีนสตีท  ที่ตั้งอยู่ติดถนนกรีนสตีส  กลุ่มศิลปินพวกนี้มีโชว์ละครใบ้  ดนตรี  มายากล  กายกรรมและอีกมากมาย  สร้างความสนุกสนานให้กับคนที่เดินผ่านไปผ่านมา  และมีร้านค้ามากมายตามข้างถนนตลอดสาย  จัดได้ว่าเป็นถนนของชาวกลางคืนโดยแท้จริง  และแล้วแพทกับจินนี่มาจอดอยู่หน้าร้านๆหนึ่งซึ่งดูภายนอกร้านก็รู้เลยว่าเป็นร้านเสริมสวย

        “เรามาที่นี่ทำไม” แพทหันไปถามจินนี่

        “มาแปลงโฉมไง” จินนี่ยักคิ้วให้แพททีนึงก่อนที่จะลงจากรถ

        ทั้งสองได้เดินเข้าไปในร้าน  ร้านนี้เป็นร้านเสริมสวยจริงๆ  ชื่อร้านแมนดี้ ซาลอน พอเขาไปในร้านก็พบว่ามีสาวๆร้านคนมาตัดผม  ทำเล็บ  ย้อมสีผมมีตั้งแต่สาวรุ่นๆยันสาวแก่ บรรยากาศภายในร้านดูสะอาดตา และที่เด็ดสุดคือร้านนี้ทาด้วยสีชมพูทั้งร้าน  พอจะเดาได้เลยว่าเจ้าของร้านนั้นเครซี่สีชมพูมาก

        “แมนดี้  หวัดดีจ้า” จินนี่เดินเข้าไปทักสาวคนหนึ่งที่เดินออกมาจากประตูที่ไปหลังร้าน  เดาได้ว่าสาวคนนี้น่าจะเป็นเจ้าของร้าน  หล่อนเป็นสาวผมบอร์นทอง ทำไฮไลท์ทั้วหัว  ตาสีดำสนิทรูปร่างสูงพอๆกับจินนี่

        “ไงล่ะ  ลมอารายหอบเธอมาจากอังกฤษยะ” แมนดี้ทักแล้วเข้าไปกอดจินนี่เข้าอีกที

        “ลมคิดถึงมั้ง”

        “แหมยัยโกซิก  ปากหวานจังนะ  นั่นใครเอ่ย  เด็กใหม่หรอ” แมนดี้เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นแพทยืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าประตูร้าน

        “แหมถ้าเป็นคนนี้ฉันรักตายไม่พามาให้เธอเห็นหรอกย่ะ  แต่บังเอิญเป็นน้องฉันเอง” จินนี่ไปลากแพทให้มายืนข้างๆ

        “ไงหนูน้อย  ทำไมน่ารักอย่างงี้เนี่ย”แมนดี้เดินเมาหยิกแก้มแพทแบบหมั่นเขี้ยวสุดๆ

        “นี่พอเลยเธอ  มีเรื่องจะให้ช่วย” จินนี่ไปคว้าตัวแพทออกมาก่อนที่แก้มจาบวมเป็นแตงโม  แพทพลางลูบแก้มตัวเอง

        “อารายยะ”

        “อยากให้ช่วยเสริมหล่อให้หน่อย  ถนัดไม่ใช่หรอ”

        “นี่เธอ  น้องเธอหญิงหรือชายกันแน่เนี่ย” แมนดี้เริ่มสำรวจไปรอบๆตัวแพท  เพราะว่าเธอก็เห็นอยู่ทนโท่ว่าผู้หญิงชัดๆ

        “เถอะน่า  ช่วยหน่อยเถอะ”

        “จ้า  เข้าใจแล้ว  เดี๋ยวจัดการให้” พอพูดจบแมนดี้ก็ลากแพทเข้าไปหลังร้านแล้วให้จินนี่รออยู่ในร้าน  เมื่อเวลาผ่านไปชั่วโมง  แพทและแมนดี้จึงออกมาจากหลังร้าน

        “แต่น แต๊น......นิว ลุก!!!!มิสเตอร์แพทมาแล้วจ้ะ” แมนดี้ผลักตัวแพทให้ออกมาอยู่ข้างหน้า  ตอนนี้ผมของเธอเปลี่ยนไป๊แล้ว  จากผมที่ยาวปะบ่า  ตอนนี้กลายเป็นผมสไลด์ยาวเลยต้นคอนิดเดียว  ผมด้านหน้าตัดสั้นให้พอเสยได้ทำให้ใบหน้าดูคมยิ่งขึ้น

        “อืม  ฝีมือไม่เปลี่ยนเลย” จินนี่เริ่มมองดูไปรอบๆน้องพี่ตอนนี้ดูเหมือนผู้ชายหน้าหวาน

        “แน่ซิเธอ  ส่วนค่าจ้างก็ขอเหมือนเดิมนะ” แมนดี้ยักคิ้วให้ทีนึงก่อนที่เธอจะเดินไปหลังร้านอีกครั้ง

        “ได้ยะ  แล้วจะส่งไปให้ ”จินนี่ตะโกนบอกตามหลังไปแล้วหันมาดูน้องสาวอีกที

        “พี่ว่าขาดอะไรไปอีกอย่าง” แล้วจินนี่ก็หยิบของบางอย่างจากกระเป๋าแล้วส่งให้แพท

        “ที่คาดผม ??” แพทมองดูของในมือ

        “จ๊ะ  คาดไว้ซะใครจะไดดูไม่ออกว่าเราไปเปลี่ยนทรงผมมา  อีกอย่างพ่อเราต้องพาเราไปออกงานในฐานะแพททิน่าอยู่แล้ว   คนอื่นจะได้นึกว่าเธอแค่ไปตัดผมให้สั้นลงรับฤดูร้อนไง  อ้าวไปต่อกันดีกว่า” แล้วจินนี่ก็เดินนำออกไปนอกร้านเพื่อขึ้นรถไปสถานที่อื่น

        “จะไปไหนต่อคะ”

        “ห้างที่ใหญ่ที่สุดในซัมเมอร์เซต” จินนี่ยักคิ้วให้แพททีนึงก่อนสตาร์ทรถออกไป

        และเป็นอย่างที่คาดเอาไว้ ห้างที่ใหญ่ที่สุดในซัมเมอร์เซตนั้นไม่ใช้ห้างแอร์โบว์ที่มีถึง10 ชั้น แต่กลับเป็นที่ถนนกรีนสตีท  ถนนแห่งชาวกลางคืน

        “เอาล่ะ  ลงได้ที่นี่ล่ะจะมีทุกอย่างที่เราต้องการ” จินนี่ลงจากรถแล้วเดินนำแพทไปตามถนนกรีนสตีส  ที่นั่นมีร้านค้ามากมาย  ทั้งร้านเสื้อผ้า  ร้านรองเท้า  ร้านกระเป๋า  ของใช้จิปาถะ  ร้านขายซีดีเพลงและหนัง  ร้านขายขนม  และร้านค้าอีกมากมาย  จัดว่าเป็นห้างสรรพสินค้าได้เลย  เพียงแต่เป็นห้างที่เปิดตอนกลางคืนเท่านั้น

        “พี่ว่าเริ่มจากเสื้อผ้าก่อนดีกว่า” จินนี่เดินเข้าไปร้านเสื้อผ้าผู้ชายแห่งหนึ่ง  ที่นั่นมีทั้งเสื้อยืดหลากสี  เสื้อเชิ้ต  กางเกงยีนส์แบรนแนมและโนแนม  ซึ่งแน่นอนว่าทั้งสองนั้นสนุกกับการเลือกเสื้อผ้าต่างๆ  ลองแล้วลองอีก  นอกจากเสื้อผ้าแล้วก็ได้ไปซื้อรองเท้า  เข็มขัด  กระเป๋า  หมวกและของใช้อื่นๆจนถือกันไม่หวัดไม่ไหว

        “พี่...ซื้อมาเยอะขนาดนี้เลยหรอ” แพทเริ่มนับถุงใส่ของหลังจากที่เอามาเก็บไว้ที่กระโปงหลังรถ

        “เออน่า....พี่ซื้อให้แล้วกัน  เอ้ามัวนับอยู่ได้รีบขึ้นรถกลับบ้านได้แล้วนี่จาเที่ยงคืนแล้วนะ” จินนี่รีบเรียกแพทขึ้นรถก่อนที่แพทจะนับถุงได้ครบ

        “แต่หนูว่าของพี่เยอะกว่านะ” แพทขึ้นรถแล้วคาดเข็มขัดนิรภัยอย่างดี

        “เออ   ก็ที่นู้นมันไม่ถูกแบบนี้นี่  แล้วนี่ก็มันเงินเก็บฉันนี่นาจะมาบ่นอะไรมิทราบ” จินนี่สตาร์ทแล้วก็ขับรถออกไป

        “พี่   คิดว่างานนี้มันจะสำเร็จหรือเปล่า” แพทเริ่มรู้สึกเป็นกังวลกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้

        “ไม่รู้สิ  กลัวหรอ” จินนี่หันมาดูน้องที่มีสีหน้ากังวล

        “ไม่มีทาง  คำว่ากลัวมันไม่มีในพจนานุกรมของแพททิน่า  แจ๊คเคนสันอยู่แล้ว” แพทรีบตอบกลับไปอย่างเร็วก่อนที่พี่สาวจะจับหางเสียงได้ว่าเธอก็กังวลนิดๆ

        “พ่อเขาคิดยังไงกันแน่  ไม่เข้าใจเลย” แพทเริ่มเหม่อมองออกไปนอกกระจกรถซึ่งปรากฏภาพทะเลยามค่ำคืนที่ปราศจากแสงดาวที่จะมาส่องสว่างกลางทะเลซึ่งเหมือนกับหัวใจของเธอในตอนนี้ที่มีแต่ความกังวลตลอดเวลา

        “พ่อลูกกันน่าจะรู้นะ” จินนี่แอบขำโดยไม่ให้แพทเห็น

        “เออ  เลิกพูดแล้ว  ขับรถไป  แค่ 60นะห้ามเกิน” แพทหันมาบอกเพราะเห็นพี่สาวเหยียบไปถึง100แล้ว  และหันออกไปมองนอกกระจกรถอีกครั้ง ‘เอาวะ  งานนี้สู่สุดตัวไม่ถอยแน่นอน’



             แล้วทั้งสองก็กลับไปถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ (ดีจัง โล่งอกไปที) และจัดการเก็บข้าวของของตัวเอง

        “เจอกันพรุ่งนี้นะน้องรัก  หลับให้สบายล่ะ” เจนนี่ดึงตัวน้องสาวเข้ามากอดและหอมแก้มราตรีสวัสดิ์ก่อนที่จะเข้าห้องของตัวเองไป  แพทยกข้าวของของตัวเองขึ้นไปบนชั้น 2 และเดินมาหยุดที่หน้าห้องของพ่อกับแม่ที่คาดว่าน่าจะหลับไปแล้วทั้งคู่

          “หนูไม่ยอมแพ้แน่นอนค่ะพ่อ” แพทจึงเดินเข้าห้องของตัวเองที่อยู่ถัดไป  เธอปิดประตูห้องและวางข้าวของทั้งหมดไว้กับพื้นและล้มตัวลงนอนกับเตียงของตัวเองและมองออกไปนอกหน้าต่างซึ่งยังคงดูมืดคลื้ม

          “ถ้านายอยู่ที่นี่  ฉันคงไม่ต้องมานั่งคิดมากคนเดียวอย่างงี้หรอก” แพทมองออกไปนอกหน้าต่าง  มองออกไปไกลแสนไกล..............................



    *****************************************************************************************

    เอาล่ะซิ  เงื่อนไขระหว่างพ่อลูกคู่นี้กำลังจะเริ่มต้นแล้ว  มาดูต่อเอาแล้วกันว่าจะเป็นอย่างไร  แล้วใครจะชนะล่ะเนี่ย  ดอ๊ยปวดหัว
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×