ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : The Past And Memorable ; อดีต ความทรงจำที่ไม่ลืม
To Have A Partiality  ;  = ชอบ =
              ความรัก  ถ้าไม่ได้ดั่งสมปรารถนา  จะกลับกลายเป็นความอาฆาตแค้น  ที่น่ากลัวยิ่งกว่าสิ่งใด  ยิ่งรักมาก  ยิ่งแค้นมาก  จนกระทั่งอยากจะฆ่าให้ตาย  แต่พอกระทำตามอารมณ์แค้นเสร็จสิ้น  สิ่งที่เหลืออยู่  กลับเป็นความเศร้า  ความเสียใจ  และที่สำคัญ  ความรัก  จะไม่กลับมาหาเขาผู้นั้นอีกเลย  เพราะ  ความรัก...ได้ตายไปจากเขาแล้ว...เมื่อตอนที่เขา...ได้ให้ความแค้นเข้าครอบงำ
“อลิซ...วันนี้ไม่มากับพอลหรอ” จอยถามเมื่อเห็นอลิซเดินมาโรงเรียนคนเดียว
“ทำไมฉันต้องมากับนายนั่นด้วยล่ะ”
“อลิซ...สวัสดี” แมรี่ทัก  เมื่อมาถึงโรงเรียน   
“สวัสดีจ้า”
“อ้าว...ขาเป็นอะไรไปหรอ” แมรี่ถามเมื่อเห็นอลิซเดินแปลกๆ
“เอ่อ...เมื่อวานตกบันไดน่ะ” อลิซโกหก
“ซุ่มซ่าม” จอยพูด  แต่ไม่มีใครสนใจ
“นี่อลิซจำได้รึเปล่า...”
“เรื่องอะไรล่ะ”
“ก็เรื่อง...การแสดงไง”  อลิซทำหน้าสงสัย
“ก็ห้องเราชนะไงได้ที่ 1 ก็เค้าให้ห้องที่ชนะไปแสดงอีกทีไง  ครูเนสซีเรีย...บอกฉันว่า...เราจะแสดงในวันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ จ้า...เห็นเค้าบอกว่าที่เรือ ACT  Boat จ้า...ในงานแสดงคริสตอลสีขาวใสบริสุทธิ์”
“หรอ...อื่ม...ชื่องานฟังดูคุ้นๆนะ”
“เธอจำผิดงานรึเปล่าอลิซ...งานเนี่ย...ตอนนี้นอกจากโรงเรียนของเราแล้ว...ยังไม่มีที่ไหนรู้เลยนะ
อลิซ...เธอจะไปรู้ชื่องานได้ยังไง”
“เอ้...หรือว่า...(เริ่มนึกออก)...โอ้...ไม่นะ” อลิซบ่นพึมพำ
“ทำไมหรอ” แมรี่ถามอย่างสงสัย
“ป...ปะ...ปะ...เปล่า...ไม่มีอะไร...ฉันคงจำชื่องานผิดอย่างที่เธอบอกนั่นแหละ”
“งั้นฉันขอไปบอกข่าวคนอื่นก่อนละกันนะ”
+++++++++++++++++++++  เลิกเรียน  ++++++++++++++++++++
“เฮ้อ...เมื่อยจัง” วีสพูด  และบิดขี้เกียจ  ความจริงเข้าเพิ่งตื่น
“พอลวันนี้นายจะเล่นบอลไหม” พอลส่ายหัวอย่างเหนื่อยๆ
“ทำไมล่ะ...หลังสอบ ก็ใกล้จะมีกีฬาสีแล้วนะ”
“เดี๋ยวนี้นายก็ไม่ค่อยได้ซ้อมเลยด้วย...เดี๋ยวแพ้สีอื่นนะ”
“ฉันไม่ว่าง” พอลพูดแล้วก็เดินออกจากห้องทันที
“เฮ้อ...เพื่อนหนอเพื่อน” วีสบ่นอยู่คนเดียว
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ฉันกลับก่อนนะจ๊ะ” อลิซพูดแล้วก็เดินออกจากห้องไป  ขณะที่เดินเลยออกจากโรงเรียนนั้น  พอลซึ่งแอบอยู่ที่ต้นไม้ข้างทางก็เดินออกมาข้างหน้าอลิซ 
“ฉันมีเรื่องอยากคุยกับเธอ” พอลพูด  มันไม่ใช่เสียงเหมือนคนอารมณ์ดีพูด
“ก็พูดมาสิ” อลิซเริ่มโมโหที่พอลใช่เสียงแบบนี้กับเธอ
“ไม่ใช่ที่นี่” พอลพูดแบบฉุนเฉียว
“ถ้าไม่ใช่ที่นี่...ฉันขอปฏิเสธ” พอพูดแล้วอลิซก็เดินต่อเพื่อที่จะกลับบ้าน
“หยุดนะ” พอลพูด  แต่อลิซก็ไม่หยุด
“หยุดนะ” พอลพูดดังกว่าเดิม และเดินมาดึงแขนอลิซไว้เพื่อไม่ให้เดิน
“นายจะบ้าหรอ...ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายไปโกรธใครมา...แต่ฉันไม่ใช่ที่ที่จะมารองรับอารมณ์ของนาย”  อลิซพูดอย่างโมโห  เมื่อพอลทำกับเธอแบบนี้
“ใช่ฉันมันบ้า...บ้าที่..........(พูดไม่ออก...ว่าชอบเธอ...) .........” พอลพูด อย่างเจ็บใจแต่ก็พูดไม่ออก  และก็ล้มตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างทาง  อลิซก็เริ่มใจเย็นขึ้นแล้ว  ก็นั่งลงข้างพอล  ทั้งสองก็นั่งเงียบเป็นเวลานานสองนาน
“นายอยากคุยที่ไหนล่ะ” อลิซตัดสินใจพูด
“ที่ริมน้ำ”
“ทำไมต้องเป็นที่นั่นด้วยล่ะ”
“ไม่สำคัญแล้วล่ะ...คุยที่นี่ก็ได้...ก็ตอนนี้ใกล้มืดแล้ว...ไม่มีคนแล้วนี่”  พอลพูดอย่างอารมณ์เย็น
“เอ้...เวลานายชวนคนอื่นไปที่ไหนเนี่ย...นายจะชวนเค้าด้วยเสียงอย่างนั้นหรอ” อลิซถามเพื่อให้พอลคิดว่าสิ่งที่พอลทำกับเธอเมื่อกี้มันไม่ถูก
“ใช่สิ...ฉันมันไม่ดี...ใครจะดีเหมือนคนคนนั้นล่ะ” พอลพูด ในใจรู้สึกเจ็บนิดนิด
“นายพูดถึงใครล่ะ” อลิซถามเมื่อนึกถึงคนคนนั้นของพอลไม่ออก
“ก็คนที่แบกเธอกลับบ้านวันนั้นไงล่ะ” พอลพูด  ในสิ่งที่ไม่ค่อยอยากพูดออกมา
“อ๋อ...แทนน่ะหรอ” อลิซเริ่มรู้ว่าพอลหึง
“เธอชอบเค้าใช่ไหม?” พอลถาม ในใจอยากให้อลิซตอบว่า ไม่ใช่นะ , เปล่า , ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเขา  หรือจะตอบอะไรก็ได้แต่ขออย่าให้อลิซไปชอบเค้าคนนั้นเลย
“ใช่...ฉันชอบเค้า”  พอลใจหายทันที  เหมือนหัวใจกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ  และพอลก็เงียบไปเลย
“จริงหรอ” พอลถามอีกครั้ง (เผื่อว่าที่ได้ยินเมื่อกี้หูฝาดไป)  อลิซพยักหน้า  พอลกลับยิ่งเจ็บมากกว่าเดิมซะอีก 
Over  Natural  ;  เหนือธรรมชาติ
              พอลเสียใจมากที่อลิซพูดออกมาแบบนั้น  หัวใจเหมือนจะหยุดเดินไปชั่วขณะหนึ่ง  เธอคนนั้นจะรู้ไหมนะ  ว่าฉันคนนี้แทบจะกลายเป็นคนไร้หัวใจเข้าไปทุกที  ก็เธอเล่นเอาหัวใจฉันไปหมดทั้งดวง  พอลเดินเหมือนไร้วิญญาณ  อลิซก็งงกับท่าทีของพอล
“แทน...เค้าดีกับฉันมากเลยนะพอล  เราเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว  ตอนนั้นฉันมีความสุขมากๆเลย  เหมือนโลกนี้มีความสนุกแบบไม่มีที่สิ้นสุดเลย  เค้าเนี่ยยอมแม้กระทั้งรับผิดแทนฉันได้เลยนะ  เวลาที่เข้าตาจนทีไร...เค้าก็มาช่วยฉันทุกทีเลย”  อลิซยิ่งพูด  พอลก็ยิ่งเจ็บ  รู้สึกเหมือนตัวเองไม่ได้เรื่องไม่ได้ครึ่งของเจ้าแทนบ้าผู้แสนดีของอลิซเลย 
“เค้าดีเหลือเกินนะ” พอลพูดแบบประชดประชัน
“อืม...ดีมากๆเลย” อลิซชมแทนต่อ  ทั้งที่ไม่รู้ว่าพอลประชดขึ้นมาด้วยอารมณ์โกรธ เสียใจ น้อยใจ มากแค่ไหน
“แทนเนี่ย...เป็นทั้งเพื่อน...เป็นทั้งพี่ชาย(ไม่แท้)...ของอลิซเชียวนะ...อลิซถึงชอบแทนมากๆเลยไงล่ะ” อลิซพูดจากใจจริง 
พอลยิ้มหน้าบานขึ้นมาทันที  อารมณ์โกรธหายเป็นปลิดทิ้ง  โลกกลับมาสดใสอีกแล้ว  ตั้งแต่ได้ยินคำว่า  ++ พี่ชาย ++
“อ้าวอลิซไม่ได้รักแทนหรอกหรือ” พอลถามแบบอายๆที่เข้าใจผิด
“รักสิ...แต่รักแบบพี่ชายนะ...อลิซอยากมีพี่ชายมานานแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเค้าจะยอมเป็นพี่ชายของอลิซไหม”
“น่าจะยอมนะ...ก็พวกเธอสนิทกันมากๆเลยนี่”
“อืม” อลิซก็คิดแบบพอล  แต่แทนจะคิดกับอลิซแค่นั้นจริงหรอ 
“นี่ใกล้สอบแล้ว”
“อลิซไปติวกับเราไหม”
“กับนาย ?” อลิซมีท่าทีงง
“อืม...ใช่”
“ทำไมฉันต้องไปติวด้วยล่ะ”
“ก็จะได้เก่งขึ้นไง”
“แล้วทำไมต้องติวกับนายล่ะ”
“ก็ฉันเก่งไง(ไม่ค่อยหลงตัวเองเลยน้า)”
“...แหวะ...ติวกับนายมีหวัง”
“ทำไม”
“เอาเถอะ...ก็ได้”
“งั้นพรุ่งนี้ 10.00 น. ที่ห้องสมุดที่โรงเรียนนะ”
“พรุ่งนี้มันวันเสาร์นะ”
“ไม่เป็นไร...ห้องสมุดเปิดทุกวัน”
“งั้น OK.”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วันเสาร์ที่ 3 มกราคม  เวลา 10.00 น.  ห้องสมุดโรงเรียน Loster School
พอลในชุดเสื้อยืดแขนยาวสีขาวกับกางเกงยีนสีน้ำเงิน  ยืนรอคนคนหนึ่งที่ห้องสมุด
“มาแล้ววววว”
“อืม...ตรงเวลามาก...10.00...พอดีเลย” พอลพูดพลางดูนาฬิกาและมองอลิซในสุดเสื้อยืดแขนสั้นสีส้มกับกางเกงห้าส่วนสีครีม
              และแล้วทั้งสองก็เข้าห้องสมุดของโรงเรียน  อ่านหนังสือบ้าง  ช่วยติวให้กันและกันบ้าง  จากพระอาทิตย์ที่ส่องแสงสว่างของวันนั้น  ก็เริ่มหรี่แสงลง
“เฮ้อ...เมื่อยจังเลย” พอลบ่น พร้อมกับบิดขี้เกียจ
“ตาย...แล้วห้าโมงครึ่งแล้วหรือเนี่ย” 
“เวลาผ่านไปเร็วจังเลยนะ  เวลาไม่เคยหยุดนิ่งเลย...ในเวลาที่ต้องการให้หยุด...กลับเดินไปอย่างรวดเร็ว...ในเวลาที่อยากจะผ่านไปให้เร็วที่สุด...กลับเดินช้าอย่างไร้เหตุผล”
“อะไรกันเล่า...ไม่เหมือนอลิซที่ร่าเริ่งเลยนะ  เธอนี่ชอบทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆอยู่เรื่อยเลยนะ”
“บางทีก็เงียบ  บางทีก็ร่าเริง  บางทีก็ดูเศร้าเสียเหลือเกิน  บางทีก็ดูสนุกสนาน  บางทีก็ดูมีความสุข  บางทีก็ดูทุกข์ใจ  บางทีก็เก่ง  บางทีก็แย่  บางทีก็อารมณ์ดี  บางทีก็เอาแต่ใจ  บางทีก็ใจดี  เหมือนมีหลายๆคนอยู่ในคนๆเดียวกัน  ฉันไม่เคยเดาใจอลิซได้เลยนะ  ไม่เคยรู้เลยว่าอลิซคิดอะไรอยู่  หรือว่าอยากจะทำอะไร  แปลกเหมือนกันนะ  ผู้ร้ายทั้งหมดที่ฉันจับได้ไม่มีใครที่จะเดายากเท่าอลิซมาก่อนเลย”
“แล้วทำไมจะต้องเอาฉันไปเปรียบกับคนพวกนั้นด้วยล่ะ” (แก้ตัวให้ตัวเอง)
“ขอโทษนะ...ไม่ได้ตั้งใจจะเปรียบกับพวกนั้นหรอก”
“อืมพูดถึงคนร้าย...A25/26 หมู่นี้หายไปเลย...”  พอลพูด
“ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอที่...เขาไม่ก่อคดีขึ้นมาอีก” (และแล้วก็เข้าตัวเองอีกจนได้...ไม่น่าไปจับผิดพอลเลย  แย่จังเลย)
“มันก็ดีหรอกนะ...แต่เจ้านั้น...ทำให้ฉันอยากเจอตัวเอามากๆเลยทีเดียว...อยากจะกระชากหน้ากากมันออกมา...อยากจะรู้ว่ามันเป็นใคร”
“แค่นั้นหนะหรอ”  อลิซถามอย่างสงสัย
“แค่อยากจะรู้ว่าเป็นใคร...ก็อยากจะจับแล้วหรอ” อลิซถามไม่เลิกเมื่อพอลไม่ยอมตอบ
“ไม่หรอก...ด้วยท่าทีที่เหมือนมืออาชีพ...ตบตาใครต่อใครได้อย่างง่ายดาย...เหมือนเงาที่ไม่มีตัวตน...จะมาก็มา...จะหายก็หายไป...ตลกที่คนเขาเชื่อกันว่าเจ้านี่มีพลังเหนือมนุษย์...”
“แล้วนายคิดว่าเค้าเป็นแบบไหนล่ะ”
“พลังเหนือมนุษย์หนะ...ฉันว่ามันไม่มีหรอก...คนคนนั้นอาจจะใช้ Trick อะไรบางอย่าง...ถึงจะตบตาคนอื่นได้...แต่ตบตาฉันไม่ได้หรอก...เพราะพลังเหนือมนุษย์หนะ...ถ้ามีจริงคงจะมีแค่พลังธรรมชาติเท่านั้นแหละ”
“บางทีเค้าอาจจะเหมือนอลิซก็ได้นี่...เป็นพวกที่คนอื่นเดาใจยากเลยไม่รู้ว่าจะจัดการยังไงดี...เพราะ Trick ที่เจ้านั้นสร้างขึ้น...เป็น Trick ที่ค่อยข้างอันตรายโดยที่คนอื่นอาจจะคิดไม่ถึง”
“พอล...นายเอาฉันไปเปรียบกับโจรอีกแล้ว” อลิซว่า (แต่มันก็เป็นความจริง)
“แฮ...แฮ...ขอโทษ...นึกถึงเจ้านั้นทีไรวิญญาณนักสืบเข้าสิงทุกทีเลย...ขอโทษจริงๆนะ”
“แล้วถ้านายจับเจ้านั้นได้...จริงๆ...แล้วนายจะทำยังไงล่ะ”  อลิซถามด้วยความอยากรู้
“ก็จะกระชากหน้ากากมันออกมา...แล้วก็ส่งให้ตำรวจหนะสิ” 
“แล้วถ้านายจับมันได้...ในที่ที่มันไม่มีตำรวจล่ะ” อลิซถาม
“ฉันก็จะกลายเป็นตำรวจแทนตำรวจตัวจริงไปก่อน” พอลพูด
“แล้วถ้านายพบว่าคนที่นายอยากรู้ว่าเป็นใคร...คือคนที่นายรู้จักล่ะ...นายจะทำยังไง”
“.......................อื่ม........................ถ้าเป็นฉัน.......................”
“นายจะส่งคนคนนั้นให้ตำรวจไหม” อลิซถามย้ำ  เมื่อพอลกำลังคิดอยู่
“ฉันต้องส่งให้ตำรวจอยู่แล้วล่ะ...ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม...เมื่อทำผิด...ยังไงก็ต้องได้รับโทษที่ตัวเองทำอย่างแน่นอน”
“แม้ว่าคนคนนั้นนายจะรักมากหนะหรือ” อลิซถามอีกครั้ง
“ไม่ว่าจะเป็นใคร...จะรักจะเกลียดแค่ไหน...ฉันก็จะเป็นกลางเท่านั้น”  พอลย้ำความหนักแน่นของตัวเอง
“นายนี่...จริงจังกับเรื่องนี้จังเลยนะ” อลิซพูดตีสีหน้ายิ้มๆอย่างสดใส  แต่ความจริงแล้วเธออยากจะตะโกนบอกความรู้สึกออกมาดังๆให้โลกให้ทุกคนได้รับรู้มากกว่า
The Past And Memorable  ;  อดีต ความทรงจำที่ไม่ลืม
              เธอเริ่มเรียนรู้  จากความคิดของเขา  รู้สึกอึ้งกับคำว่า  ++ จะเป็นกลาง  ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร ++  เขาเอาจริงเอาจังกับเรื่อง ความถูกต้อง มากๆ  เธอคิดได้แล้วว่า  เขา  คนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา  มุมมองในตัวเขาสำหรับเธอ  เริ่มดีขึ้น  แต่จะทำอย่างไรเมื่อมีความคิดและการกระทำและหน้าที่ที่สวนทางกัน  อย่างสิ้นเชิง  และเธอก็รู้ว่าที่เธอทำมันก็ไม่ใช่สิ่งดี  แต่นี่ก็คือ  ทางที่เธอได้เลือกแล้ว
“เราแยกกันตรงนี้ดีกว่านะ” อลิซพูด  เธอไม่อยากจะสู้หน้าเขาตอนนี้
“แล้วเธอไม่กลับบ้านหรอ”
“ยังหนะ...ขอไปทำธุระสักหน่อย”
“ทำไมอลิซมีธุระเยอะจัง”
“อ้าว...หายไปอีกแล้ว...เฮ้อ...” พอลบ่น  เมื่ออยู่ดีดีอลิซก็หายไป  ทั้งทีพอลละสายตาจากเธอไม่ถึงเสี่ยววินาที
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+ โรงพยาบาล +  ห้อง  2666 
“แม่...สวัสดี...อลิซมาเยี่ยมแม่แล้วนะ” อลิซพูด  พร้อมกับจัดดอกไม้ใส่แจกัน
“แม่...ตื่นเร็วๆนะ...อลิซมีอะไรอยากเล่าให้แม่ฟังมากมายเลย”
“อลิซอยากให้แม่ตื่นมาและเล่าเรื่องต่างๆให้อลิซฟังด้วย”
              อลิซพูดกับแม่ของเธอ  ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าแม่ของตัวเองไม่อาจรับรู้ถึงสิ่งที่ตัวเองพูดก็ตาม  แต่อย่างน้อยก็ขอให้ระบายอะไรต่างๆให้แม่ได้ฟังได้รับรู้บ้าง  ซึ่งยังดีกว่าไม่ได้พูดอะไรเลย 
++ ประตูห้อง 2666 ถูกเปิดออก ++
“...อ้าวแทน ” อลิซทักอย่างเป็นกันเอง
“ไงอลิซ...ไม่นึกเลยว่าจะได้พบอลิซที่นี่”
“ขอบคุณนะ...ที่มาเยี่ยมแม่ของฉันบ่อยๆ” อลิซซึ้งใจที่แทนดีกับอลิซและทั้งครอบครัวของเธอ
“โอ้โห...เป็นเกียรอย่างสูงครับ...ที่ได้รับคำชมเช่นนี้” แทนพูดแบบล้อเล่น  ทำให้อาจคลายบรรยกาศตรึงเครียดได้บ้าง  แต่ดูเหมือนอลิซจะไม่ตลกกับมุขแค่นั้น
“ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่แม่จะฟื้นสักที”
“ข่าวเครื่องบินตกครั้งนั้นเลยมาเป็น 10 ปีแล้ว  แต่มันยังไม่ยอมหลุดออกจากหัวสมองของฉันเลย” อลิซพูดอย่างสะเทือนใจ 
“ตอนนั้นพวกเรายังเด็กอยู่เลยนะ...แต่เชื่อสิว่าสักวันที่อลิซรอต้องมาถึง...” แทนปลอบ
“จะมีวันนั้นจริงๆหรือแทน”
“มีสิ...ถ้าเธอยังหวังที่จะให้มี...ในเมื่อ...ตอนนั้นฉันหวังที่จะเจอใครสักคน...ที่เป็นเพื่อนเล่นกับฉัน...ซึ่งอยู่ตัวคนเดียวมาโดยตลอด...และฉันก็เจอเธอไงอลิซ”
“อืม...คิดถึงตอนเด็กๆจังเลยนะ”
“ใช่...ทั้งสนุกสุดๆ...ทั้งมีความสุข...ถึงจะเจ็บตัว...แต่ก็ยังสนุก”
“ดีใจเหมือนกันนะที่ได้พบแทน...ตอนฝึก...ทั้งโหด...ทั้งเจ็บ...ร่างกายแทบจะขยับไม่ได้...แต่ใจกลับเต้นเร็วอย่างน่าประหลาด...”  อลิซพูดถึงความหลังตอนที่เธอและแทนฝึกเป็น..... (อย่างที่ทุกคนรู้) ...... จากที่ไหนสักแห่งที่ถูกปิดเป็นความลับ
“แม่...แม่...ต้องฟื้นให้ได้นะ...แล้วอลิซจะรอวันนั้น” อลิซพูดและก็จากสถานที่แห่งนั้นไปพร้อมกับแทน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“อลิซ...นี่ก็ใกล้วันที่พวกเราต้องทำงานแล้วนะ  เธอมีแผนแล้วหรอ”
“ฉันน่ะ...ขึ้นเรือนั่นได้สบายอยู่แล้ว”
“ได้ไงล่ะ”
“ก็ฉันชนะการแสดงที่โรงเรียนน่ะสิ...แล้วก็ได้ขึ้นเรือนั้นด้วย...”
“โชคดีมากเลยนี่”
“ดีที่ไหนล่ะ...ต้องแสดงอีก...แถมต้องเอาของอีก...ยากจะตาย...”
“งั้นเจ้านั่นก็ไปด้วยสิ”  อลิซงงกับคำว่า  เจ้านั่นของแทน
“ก็คนที่เป็นนักสืบไง”
“ไปอยู่แล้วล่ะ”
“ดีล่ะ...อยากเห็นหน้าเหมือนกัน...อยากรู้ว่าจะเก่งแค่ไหน”
“เอาเถอะ...อย่าประมาทละกัน”
“เค้าไม่เคยไว้หน้าใคร...เอาจริงเอาจังกับงาน...มีความอยากรู้อยากเห็นสูง...อ่านใจคนออก...เข้าใจ Trick ต่างๆได้ดี” อลิซบรรยายเกี่ยวกับพอล
“แต่ก็ยังสู้  ...โจรสาวร้อยหน้า... คนนี้ไม่ได้”
“มันก็แน่อยู่แล้ว 555”
“แต่เธอรู้เรื่องของเจ้านั่นดีจังเลยนะ” แทนพูด  เหมือนเริ่มหึงนิดๆ
“มันก็ดีสำหรับพวกเราไม่ใช่หรอ...ยิ่งรู้เรื่องของอีกฝ่ายมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี...ว่าแต่นายเถอะ...หาวิธีขึ้นเรือได้รึยัง”
“ได้อยู่แล้วฉันซะอย่าง”
“อย่าลืมล่ะ...เวลาปลอมตัว...บกพร่องไม่ได้แม้แต่นิดเดียวเลยนะ”
“ก็แหม...ฉันไม่ค่อยถนัดเรื่องนั้นเท่าไหร่นี่...แต่ถ้าเป็นฝีมือล่ะก็...ไม่แพ้ใครอยู่แล้ว”
“ชักสนุกแล้วสิ...ขนาดยังไม่เริ่มยังตื่นเต้นขนาดนี้”
“แล้ววันจริงจะสนุกขนาดไหนล่ะ”
“เธอนี่แปลกจังนะ...ชอบของท้าทาย...ไม่เห็นเหมือนผู้หญิงทั่วๆไปเลย”
“นี่หาว่าฉันเป็นทอมหรอ”
“เปล่าซะหน่อย แต่ก็เริ่มเหมือนแล้วนะ”
“ว่าไงนะ”
“แน่จริงก็ตามให้ทันสิ” ว่าแล้วแทนก็ออกวิ่ง  ซึ่งอลิซก็วิ่งตามด้วยความเร็วสูง
“โอ๊ย” อลิซล้มลง  แทนก็หยุดวิ่งทันที
“อย่ามาทำเล่นละครหน่าอลิซ” แทนพูด  แต่อลิซก็ยังไม่ลุกขึ้น  แทนก็เริ่มตกใจ
“เฮ้ยเป็นไร...ขาแพลงยังไม่หายหรอ”  แทนวิ่งมาดูด้วยความเป็นห่วง
“โอ๊ย” แทนร้อง เมื่ออลิซชกไปที่ท้องของแทน แบบไม่แรงมากนัก  เอาแค่ประมาณจุกนิดๆ
“เล่นอย่างนี้หรออลิซ....คนเค้าอุส่าห์เป็นห่วง”
“ก็นายเป็นผู้ชายนี่...แรงเยอะอีกตางหาก...ใครจะไปวิ่งตามทันล่ะ” อลิซพูดอย่างงอนๆ
“งั้นก็หายกันละกัน”
“ไม่ได้”
“ทำไมล่ะ”
“นายต้องเลี้ยงข้าวเย็นฉันวันนี้”
“อืม...ได้”
              ว่าแล้วทั้งสองก็ไปกินข้าวเย็น  ด้วยกัน  อลิซรู้สึกเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง  แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆ  แม้อลิซจะไม่ได้คิดจริงจังอะไรกับแทน  แต่แทนนี่สิจะคิดเหมือนอลิซรึเปล่าก็ไม่รู้  แต่ถึงยังไงวันนี้ก็ยังเป็นวันที่มีความสุขอีกวันหนึ่งละ
              ความรัก  ถ้าไม่ได้ดั่งสมปรารถนา  จะกลับกลายเป็นความอาฆาตแค้น  ที่น่ากลัวยิ่งกว่าสิ่งใด  ยิ่งรักมาก  ยิ่งแค้นมาก  จนกระทั่งอยากจะฆ่าให้ตาย  แต่พอกระทำตามอารมณ์แค้นเสร็จสิ้น  สิ่งที่เหลืออยู่  กลับเป็นความเศร้า  ความเสียใจ  และที่สำคัญ  ความรัก  จะไม่กลับมาหาเขาผู้นั้นอีกเลย  เพราะ  ความรัก...ได้ตายไปจากเขาแล้ว...เมื่อตอนที่เขา...ได้ให้ความแค้นเข้าครอบงำ
“อลิซ...วันนี้ไม่มากับพอลหรอ” จอยถามเมื่อเห็นอลิซเดินมาโรงเรียนคนเดียว
“ทำไมฉันต้องมากับนายนั่นด้วยล่ะ”
“อลิซ...สวัสดี” แมรี่ทัก  เมื่อมาถึงโรงเรียน   
“สวัสดีจ้า”
“อ้าว...ขาเป็นอะไรไปหรอ” แมรี่ถามเมื่อเห็นอลิซเดินแปลกๆ
“เอ่อ...เมื่อวานตกบันไดน่ะ” อลิซโกหก
“ซุ่มซ่าม” จอยพูด  แต่ไม่มีใครสนใจ
“นี่อลิซจำได้รึเปล่า...”
“เรื่องอะไรล่ะ”
“ก็เรื่อง...การแสดงไง”  อลิซทำหน้าสงสัย
“ก็ห้องเราชนะไงได้ที่ 1 ก็เค้าให้ห้องที่ชนะไปแสดงอีกทีไง  ครูเนสซีเรีย...บอกฉันว่า...เราจะแสดงในวันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ จ้า...เห็นเค้าบอกว่าที่เรือ ACT  Boat จ้า...ในงานแสดงคริสตอลสีขาวใสบริสุทธิ์”
“หรอ...อื่ม...ชื่องานฟังดูคุ้นๆนะ”
“เธอจำผิดงานรึเปล่าอลิซ...งานเนี่ย...ตอนนี้นอกจากโรงเรียนของเราแล้ว...ยังไม่มีที่ไหนรู้เลยนะ
อลิซ...เธอจะไปรู้ชื่องานได้ยังไง”
“เอ้...หรือว่า...(เริ่มนึกออก)...โอ้...ไม่นะ” อลิซบ่นพึมพำ
“ทำไมหรอ” แมรี่ถามอย่างสงสัย
“ป...ปะ...ปะ...เปล่า...ไม่มีอะไร...ฉันคงจำชื่องานผิดอย่างที่เธอบอกนั่นแหละ”
“งั้นฉันขอไปบอกข่าวคนอื่นก่อนละกันนะ”
+++++++++++++++++++++  เลิกเรียน  ++++++++++++++++++++
“เฮ้อ...เมื่อยจัง” วีสพูด  และบิดขี้เกียจ  ความจริงเข้าเพิ่งตื่น
“พอลวันนี้นายจะเล่นบอลไหม” พอลส่ายหัวอย่างเหนื่อยๆ
“ทำไมล่ะ...หลังสอบ ก็ใกล้จะมีกีฬาสีแล้วนะ”
“เดี๋ยวนี้นายก็ไม่ค่อยได้ซ้อมเลยด้วย...เดี๋ยวแพ้สีอื่นนะ”
“ฉันไม่ว่าง” พอลพูดแล้วก็เดินออกจากห้องทันที
“เฮ้อ...เพื่อนหนอเพื่อน” วีสบ่นอยู่คนเดียว
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ฉันกลับก่อนนะจ๊ะ” อลิซพูดแล้วก็เดินออกจากห้องไป  ขณะที่เดินเลยออกจากโรงเรียนนั้น  พอลซึ่งแอบอยู่ที่ต้นไม้ข้างทางก็เดินออกมาข้างหน้าอลิซ 
“ฉันมีเรื่องอยากคุยกับเธอ” พอลพูด  มันไม่ใช่เสียงเหมือนคนอารมณ์ดีพูด
“ก็พูดมาสิ” อลิซเริ่มโมโหที่พอลใช่เสียงแบบนี้กับเธอ
“ไม่ใช่ที่นี่” พอลพูดแบบฉุนเฉียว
“ถ้าไม่ใช่ที่นี่...ฉันขอปฏิเสธ” พอพูดแล้วอลิซก็เดินต่อเพื่อที่จะกลับบ้าน
“หยุดนะ” พอลพูด  แต่อลิซก็ไม่หยุด
“หยุดนะ” พอลพูดดังกว่าเดิม และเดินมาดึงแขนอลิซไว้เพื่อไม่ให้เดิน
“นายจะบ้าหรอ...ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายไปโกรธใครมา...แต่ฉันไม่ใช่ที่ที่จะมารองรับอารมณ์ของนาย”  อลิซพูดอย่างโมโห  เมื่อพอลทำกับเธอแบบนี้
“ใช่ฉันมันบ้า...บ้าที่..........(พูดไม่ออก...ว่าชอบเธอ...) .........” พอลพูด อย่างเจ็บใจแต่ก็พูดไม่ออก  และก็ล้มตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างทาง  อลิซก็เริ่มใจเย็นขึ้นแล้ว  ก็นั่งลงข้างพอล  ทั้งสองก็นั่งเงียบเป็นเวลานานสองนาน
“นายอยากคุยที่ไหนล่ะ” อลิซตัดสินใจพูด
“ที่ริมน้ำ”
“ทำไมต้องเป็นที่นั่นด้วยล่ะ”
“ไม่สำคัญแล้วล่ะ...คุยที่นี่ก็ได้...ก็ตอนนี้ใกล้มืดแล้ว...ไม่มีคนแล้วนี่”  พอลพูดอย่างอารมณ์เย็น
“เอ้...เวลานายชวนคนอื่นไปที่ไหนเนี่ย...นายจะชวนเค้าด้วยเสียงอย่างนั้นหรอ” อลิซถามเพื่อให้พอลคิดว่าสิ่งที่พอลทำกับเธอเมื่อกี้มันไม่ถูก
“ใช่สิ...ฉันมันไม่ดี...ใครจะดีเหมือนคนคนนั้นล่ะ” พอลพูด ในใจรู้สึกเจ็บนิดนิด
“นายพูดถึงใครล่ะ” อลิซถามเมื่อนึกถึงคนคนนั้นของพอลไม่ออก
“ก็คนที่แบกเธอกลับบ้านวันนั้นไงล่ะ” พอลพูด  ในสิ่งที่ไม่ค่อยอยากพูดออกมา
“อ๋อ...แทนน่ะหรอ” อลิซเริ่มรู้ว่าพอลหึง
“เธอชอบเค้าใช่ไหม?” พอลถาม ในใจอยากให้อลิซตอบว่า ไม่ใช่นะ , เปล่า , ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเขา  หรือจะตอบอะไรก็ได้แต่ขออย่าให้อลิซไปชอบเค้าคนนั้นเลย
“ใช่...ฉันชอบเค้า”  พอลใจหายทันที  เหมือนหัวใจกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ  และพอลก็เงียบไปเลย
“จริงหรอ” พอลถามอีกครั้ง (เผื่อว่าที่ได้ยินเมื่อกี้หูฝาดไป)  อลิซพยักหน้า  พอลกลับยิ่งเจ็บมากกว่าเดิมซะอีก 
Over  Natural  ;  เหนือธรรมชาติ
              พอลเสียใจมากที่อลิซพูดออกมาแบบนั้น  หัวใจเหมือนจะหยุดเดินไปชั่วขณะหนึ่ง  เธอคนนั้นจะรู้ไหมนะ  ว่าฉันคนนี้แทบจะกลายเป็นคนไร้หัวใจเข้าไปทุกที  ก็เธอเล่นเอาหัวใจฉันไปหมดทั้งดวง  พอลเดินเหมือนไร้วิญญาณ  อลิซก็งงกับท่าทีของพอล
“แทน...เค้าดีกับฉันมากเลยนะพอล  เราเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว  ตอนนั้นฉันมีความสุขมากๆเลย  เหมือนโลกนี้มีความสนุกแบบไม่มีที่สิ้นสุดเลย  เค้าเนี่ยยอมแม้กระทั้งรับผิดแทนฉันได้เลยนะ  เวลาที่เข้าตาจนทีไร...เค้าก็มาช่วยฉันทุกทีเลย”  อลิซยิ่งพูด  พอลก็ยิ่งเจ็บ  รู้สึกเหมือนตัวเองไม่ได้เรื่องไม่ได้ครึ่งของเจ้าแทนบ้าผู้แสนดีของอลิซเลย 
“เค้าดีเหลือเกินนะ” พอลพูดแบบประชดประชัน
“อืม...ดีมากๆเลย” อลิซชมแทนต่อ  ทั้งที่ไม่รู้ว่าพอลประชดขึ้นมาด้วยอารมณ์โกรธ เสียใจ น้อยใจ มากแค่ไหน
“แทนเนี่ย...เป็นทั้งเพื่อน...เป็นทั้งพี่ชาย(ไม่แท้)...ของอลิซเชียวนะ...อลิซถึงชอบแทนมากๆเลยไงล่ะ” อลิซพูดจากใจจริง 
พอลยิ้มหน้าบานขึ้นมาทันที  อารมณ์โกรธหายเป็นปลิดทิ้ง  โลกกลับมาสดใสอีกแล้ว  ตั้งแต่ได้ยินคำว่า  ++ พี่ชาย ++
“อ้าวอลิซไม่ได้รักแทนหรอกหรือ” พอลถามแบบอายๆที่เข้าใจผิด
“รักสิ...แต่รักแบบพี่ชายนะ...อลิซอยากมีพี่ชายมานานแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเค้าจะยอมเป็นพี่ชายของอลิซไหม”
“น่าจะยอมนะ...ก็พวกเธอสนิทกันมากๆเลยนี่”
“อืม” อลิซก็คิดแบบพอล  แต่แทนจะคิดกับอลิซแค่นั้นจริงหรอ 
“นี่ใกล้สอบแล้ว”
“อลิซไปติวกับเราไหม”
“กับนาย ?” อลิซมีท่าทีงง
“อืม...ใช่”
“ทำไมฉันต้องไปติวด้วยล่ะ”
“ก็จะได้เก่งขึ้นไง”
“แล้วทำไมต้องติวกับนายล่ะ”
“ก็ฉันเก่งไง(ไม่ค่อยหลงตัวเองเลยน้า)”
“...แหวะ...ติวกับนายมีหวัง”
“ทำไม”
“เอาเถอะ...ก็ได้”
“งั้นพรุ่งนี้ 10.00 น. ที่ห้องสมุดที่โรงเรียนนะ”
“พรุ่งนี้มันวันเสาร์นะ”
“ไม่เป็นไร...ห้องสมุดเปิดทุกวัน”
“งั้น OK.”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วันเสาร์ที่ 3 มกราคม  เวลา 10.00 น.  ห้องสมุดโรงเรียน Loster School
พอลในชุดเสื้อยืดแขนยาวสีขาวกับกางเกงยีนสีน้ำเงิน  ยืนรอคนคนหนึ่งที่ห้องสมุด
“มาแล้ววววว”
“อืม...ตรงเวลามาก...10.00...พอดีเลย” พอลพูดพลางดูนาฬิกาและมองอลิซในสุดเสื้อยืดแขนสั้นสีส้มกับกางเกงห้าส่วนสีครีม
              และแล้วทั้งสองก็เข้าห้องสมุดของโรงเรียน  อ่านหนังสือบ้าง  ช่วยติวให้กันและกันบ้าง  จากพระอาทิตย์ที่ส่องแสงสว่างของวันนั้น  ก็เริ่มหรี่แสงลง
“เฮ้อ...เมื่อยจังเลย” พอลบ่น พร้อมกับบิดขี้เกียจ
“ตาย...แล้วห้าโมงครึ่งแล้วหรือเนี่ย” 
“เวลาผ่านไปเร็วจังเลยนะ  เวลาไม่เคยหยุดนิ่งเลย...ในเวลาที่ต้องการให้หยุด...กลับเดินไปอย่างรวดเร็ว...ในเวลาที่อยากจะผ่านไปให้เร็วที่สุด...กลับเดินช้าอย่างไร้เหตุผล”
“อะไรกันเล่า...ไม่เหมือนอลิซที่ร่าเริ่งเลยนะ  เธอนี่ชอบทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆอยู่เรื่อยเลยนะ”
“บางทีก็เงียบ  บางทีก็ร่าเริง  บางทีก็ดูเศร้าเสียเหลือเกิน  บางทีก็ดูสนุกสนาน  บางทีก็ดูมีความสุข  บางทีก็ดูทุกข์ใจ  บางทีก็เก่ง  บางทีก็แย่  บางทีก็อารมณ์ดี  บางทีก็เอาแต่ใจ  บางทีก็ใจดี  เหมือนมีหลายๆคนอยู่ในคนๆเดียวกัน  ฉันไม่เคยเดาใจอลิซได้เลยนะ  ไม่เคยรู้เลยว่าอลิซคิดอะไรอยู่  หรือว่าอยากจะทำอะไร  แปลกเหมือนกันนะ  ผู้ร้ายทั้งหมดที่ฉันจับได้ไม่มีใครที่จะเดายากเท่าอลิซมาก่อนเลย”
“แล้วทำไมจะต้องเอาฉันไปเปรียบกับคนพวกนั้นด้วยล่ะ” (แก้ตัวให้ตัวเอง)
“ขอโทษนะ...ไม่ได้ตั้งใจจะเปรียบกับพวกนั้นหรอก”
“อืมพูดถึงคนร้าย...A25/26 หมู่นี้หายไปเลย...”  พอลพูด
“ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอที่...เขาไม่ก่อคดีขึ้นมาอีก” (และแล้วก็เข้าตัวเองอีกจนได้...ไม่น่าไปจับผิดพอลเลย  แย่จังเลย)
“มันก็ดีหรอกนะ...แต่เจ้านั้น...ทำให้ฉันอยากเจอตัวเอามากๆเลยทีเดียว...อยากจะกระชากหน้ากากมันออกมา...อยากจะรู้ว่ามันเป็นใคร”
“แค่นั้นหนะหรอ”  อลิซถามอย่างสงสัย
“แค่อยากจะรู้ว่าเป็นใคร...ก็อยากจะจับแล้วหรอ” อลิซถามไม่เลิกเมื่อพอลไม่ยอมตอบ
“ไม่หรอก...ด้วยท่าทีที่เหมือนมืออาชีพ...ตบตาใครต่อใครได้อย่างง่ายดาย...เหมือนเงาที่ไม่มีตัวตน...จะมาก็มา...จะหายก็หายไป...ตลกที่คนเขาเชื่อกันว่าเจ้านี่มีพลังเหนือมนุษย์...”
“แล้วนายคิดว่าเค้าเป็นแบบไหนล่ะ”
“พลังเหนือมนุษย์หนะ...ฉันว่ามันไม่มีหรอก...คนคนนั้นอาจจะใช้ Trick อะไรบางอย่าง...ถึงจะตบตาคนอื่นได้...แต่ตบตาฉันไม่ได้หรอก...เพราะพลังเหนือมนุษย์หนะ...ถ้ามีจริงคงจะมีแค่พลังธรรมชาติเท่านั้นแหละ”
“บางทีเค้าอาจจะเหมือนอลิซก็ได้นี่...เป็นพวกที่คนอื่นเดาใจยากเลยไม่รู้ว่าจะจัดการยังไงดี...เพราะ Trick ที่เจ้านั้นสร้างขึ้น...เป็น Trick ที่ค่อยข้างอันตรายโดยที่คนอื่นอาจจะคิดไม่ถึง”
“พอล...นายเอาฉันไปเปรียบกับโจรอีกแล้ว” อลิซว่า (แต่มันก็เป็นความจริง)
“แฮ...แฮ...ขอโทษ...นึกถึงเจ้านั้นทีไรวิญญาณนักสืบเข้าสิงทุกทีเลย...ขอโทษจริงๆนะ”
“แล้วถ้านายจับเจ้านั้นได้...จริงๆ...แล้วนายจะทำยังไงล่ะ”  อลิซถามด้วยความอยากรู้
“ก็จะกระชากหน้ากากมันออกมา...แล้วก็ส่งให้ตำรวจหนะสิ” 
“แล้วถ้านายจับมันได้...ในที่ที่มันไม่มีตำรวจล่ะ” อลิซถาม
“ฉันก็จะกลายเป็นตำรวจแทนตำรวจตัวจริงไปก่อน” พอลพูด
“แล้วถ้านายพบว่าคนที่นายอยากรู้ว่าเป็นใคร...คือคนที่นายรู้จักล่ะ...นายจะทำยังไง”
“.......................อื่ม........................ถ้าเป็นฉัน.......................”
“นายจะส่งคนคนนั้นให้ตำรวจไหม” อลิซถามย้ำ  เมื่อพอลกำลังคิดอยู่
“ฉันต้องส่งให้ตำรวจอยู่แล้วล่ะ...ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม...เมื่อทำผิด...ยังไงก็ต้องได้รับโทษที่ตัวเองทำอย่างแน่นอน”
“แม้ว่าคนคนนั้นนายจะรักมากหนะหรือ” อลิซถามอีกครั้ง
“ไม่ว่าจะเป็นใคร...จะรักจะเกลียดแค่ไหน...ฉันก็จะเป็นกลางเท่านั้น”  พอลย้ำความหนักแน่นของตัวเอง
“นายนี่...จริงจังกับเรื่องนี้จังเลยนะ” อลิซพูดตีสีหน้ายิ้มๆอย่างสดใส  แต่ความจริงแล้วเธออยากจะตะโกนบอกความรู้สึกออกมาดังๆให้โลกให้ทุกคนได้รับรู้มากกว่า
The Past And Memorable  ;  อดีต ความทรงจำที่ไม่ลืม
              เธอเริ่มเรียนรู้  จากความคิดของเขา  รู้สึกอึ้งกับคำว่า  ++ จะเป็นกลาง  ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร ++  เขาเอาจริงเอาจังกับเรื่อง ความถูกต้อง มากๆ  เธอคิดได้แล้วว่า  เขา  คนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา  มุมมองในตัวเขาสำหรับเธอ  เริ่มดีขึ้น  แต่จะทำอย่างไรเมื่อมีความคิดและการกระทำและหน้าที่ที่สวนทางกัน  อย่างสิ้นเชิง  และเธอก็รู้ว่าที่เธอทำมันก็ไม่ใช่สิ่งดี  แต่นี่ก็คือ  ทางที่เธอได้เลือกแล้ว
“เราแยกกันตรงนี้ดีกว่านะ” อลิซพูด  เธอไม่อยากจะสู้หน้าเขาตอนนี้
“แล้วเธอไม่กลับบ้านหรอ”
“ยังหนะ...ขอไปทำธุระสักหน่อย”
“ทำไมอลิซมีธุระเยอะจัง”
“อ้าว...หายไปอีกแล้ว...เฮ้อ...” พอลบ่น  เมื่ออยู่ดีดีอลิซก็หายไป  ทั้งทีพอลละสายตาจากเธอไม่ถึงเสี่ยววินาที
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+ โรงพยาบาล +  ห้อง  2666 
“แม่...สวัสดี...อลิซมาเยี่ยมแม่แล้วนะ” อลิซพูด  พร้อมกับจัดดอกไม้ใส่แจกัน
“แม่...ตื่นเร็วๆนะ...อลิซมีอะไรอยากเล่าให้แม่ฟังมากมายเลย”
“อลิซอยากให้แม่ตื่นมาและเล่าเรื่องต่างๆให้อลิซฟังด้วย”
              อลิซพูดกับแม่ของเธอ  ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าแม่ของตัวเองไม่อาจรับรู้ถึงสิ่งที่ตัวเองพูดก็ตาม  แต่อย่างน้อยก็ขอให้ระบายอะไรต่างๆให้แม่ได้ฟังได้รับรู้บ้าง  ซึ่งยังดีกว่าไม่ได้พูดอะไรเลย 
++ ประตูห้อง 2666 ถูกเปิดออก ++
“...อ้าวแทน ” อลิซทักอย่างเป็นกันเอง
“ไงอลิซ...ไม่นึกเลยว่าจะได้พบอลิซที่นี่”
“ขอบคุณนะ...ที่มาเยี่ยมแม่ของฉันบ่อยๆ” อลิซซึ้งใจที่แทนดีกับอลิซและทั้งครอบครัวของเธอ
“โอ้โห...เป็นเกียรอย่างสูงครับ...ที่ได้รับคำชมเช่นนี้” แทนพูดแบบล้อเล่น  ทำให้อาจคลายบรรยกาศตรึงเครียดได้บ้าง  แต่ดูเหมือนอลิซจะไม่ตลกกับมุขแค่นั้น
“ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่แม่จะฟื้นสักที”
“ข่าวเครื่องบินตกครั้งนั้นเลยมาเป็น 10 ปีแล้ว  แต่มันยังไม่ยอมหลุดออกจากหัวสมองของฉันเลย” อลิซพูดอย่างสะเทือนใจ 
“ตอนนั้นพวกเรายังเด็กอยู่เลยนะ...แต่เชื่อสิว่าสักวันที่อลิซรอต้องมาถึง...” แทนปลอบ
“จะมีวันนั้นจริงๆหรือแทน”
“มีสิ...ถ้าเธอยังหวังที่จะให้มี...ในเมื่อ...ตอนนั้นฉันหวังที่จะเจอใครสักคน...ที่เป็นเพื่อนเล่นกับฉัน...ซึ่งอยู่ตัวคนเดียวมาโดยตลอด...และฉันก็เจอเธอไงอลิซ”
“อืม...คิดถึงตอนเด็กๆจังเลยนะ”
“ใช่...ทั้งสนุกสุดๆ...ทั้งมีความสุข...ถึงจะเจ็บตัว...แต่ก็ยังสนุก”
“ดีใจเหมือนกันนะที่ได้พบแทน...ตอนฝึก...ทั้งโหด...ทั้งเจ็บ...ร่างกายแทบจะขยับไม่ได้...แต่ใจกลับเต้นเร็วอย่างน่าประหลาด...”  อลิซพูดถึงความหลังตอนที่เธอและแทนฝึกเป็น..... (อย่างที่ทุกคนรู้) ...... จากที่ไหนสักแห่งที่ถูกปิดเป็นความลับ
“แม่...แม่...ต้องฟื้นให้ได้นะ...แล้วอลิซจะรอวันนั้น” อลิซพูดและก็จากสถานที่แห่งนั้นไปพร้อมกับแทน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“อลิซ...นี่ก็ใกล้วันที่พวกเราต้องทำงานแล้วนะ  เธอมีแผนแล้วหรอ”
“ฉันน่ะ...ขึ้นเรือนั่นได้สบายอยู่แล้ว”
“ได้ไงล่ะ”
“ก็ฉันชนะการแสดงที่โรงเรียนน่ะสิ...แล้วก็ได้ขึ้นเรือนั้นด้วย...”
“โชคดีมากเลยนี่”
“ดีที่ไหนล่ะ...ต้องแสดงอีก...แถมต้องเอาของอีก...ยากจะตาย...”
“งั้นเจ้านั่นก็ไปด้วยสิ”  อลิซงงกับคำว่า  เจ้านั่นของแทน
“ก็คนที่เป็นนักสืบไง”
“ไปอยู่แล้วล่ะ”
“ดีล่ะ...อยากเห็นหน้าเหมือนกัน...อยากรู้ว่าจะเก่งแค่ไหน”
“เอาเถอะ...อย่าประมาทละกัน”
“เค้าไม่เคยไว้หน้าใคร...เอาจริงเอาจังกับงาน...มีความอยากรู้อยากเห็นสูง...อ่านใจคนออก...เข้าใจ Trick ต่างๆได้ดี” อลิซบรรยายเกี่ยวกับพอล
“แต่ก็ยังสู้  ...โจรสาวร้อยหน้า... คนนี้ไม่ได้”
“มันก็แน่อยู่แล้ว 555”
“แต่เธอรู้เรื่องของเจ้านั่นดีจังเลยนะ” แทนพูด  เหมือนเริ่มหึงนิดๆ
“มันก็ดีสำหรับพวกเราไม่ใช่หรอ...ยิ่งรู้เรื่องของอีกฝ่ายมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี...ว่าแต่นายเถอะ...หาวิธีขึ้นเรือได้รึยัง”
“ได้อยู่แล้วฉันซะอย่าง”
“อย่าลืมล่ะ...เวลาปลอมตัว...บกพร่องไม่ได้แม้แต่นิดเดียวเลยนะ”
“ก็แหม...ฉันไม่ค่อยถนัดเรื่องนั้นเท่าไหร่นี่...แต่ถ้าเป็นฝีมือล่ะก็...ไม่แพ้ใครอยู่แล้ว”
“ชักสนุกแล้วสิ...ขนาดยังไม่เริ่มยังตื่นเต้นขนาดนี้”
“แล้ววันจริงจะสนุกขนาดไหนล่ะ”
“เธอนี่แปลกจังนะ...ชอบของท้าทาย...ไม่เห็นเหมือนผู้หญิงทั่วๆไปเลย”
“นี่หาว่าฉันเป็นทอมหรอ”
“เปล่าซะหน่อย แต่ก็เริ่มเหมือนแล้วนะ”
“ว่าไงนะ”
“แน่จริงก็ตามให้ทันสิ” ว่าแล้วแทนก็ออกวิ่ง  ซึ่งอลิซก็วิ่งตามด้วยความเร็วสูง
“โอ๊ย” อลิซล้มลง  แทนก็หยุดวิ่งทันที
“อย่ามาทำเล่นละครหน่าอลิซ” แทนพูด  แต่อลิซก็ยังไม่ลุกขึ้น  แทนก็เริ่มตกใจ
“เฮ้ยเป็นไร...ขาแพลงยังไม่หายหรอ”  แทนวิ่งมาดูด้วยความเป็นห่วง
“โอ๊ย” แทนร้อง เมื่ออลิซชกไปที่ท้องของแทน แบบไม่แรงมากนัก  เอาแค่ประมาณจุกนิดๆ
“เล่นอย่างนี้หรออลิซ....คนเค้าอุส่าห์เป็นห่วง”
“ก็นายเป็นผู้ชายนี่...แรงเยอะอีกตางหาก...ใครจะไปวิ่งตามทันล่ะ” อลิซพูดอย่างงอนๆ
“งั้นก็หายกันละกัน”
“ไม่ได้”
“ทำไมล่ะ”
“นายต้องเลี้ยงข้าวเย็นฉันวันนี้”
“อืม...ได้”
              ว่าแล้วทั้งสองก็ไปกินข้าวเย็น  ด้วยกัน  อลิซรู้สึกเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง  แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆ  แม้อลิซจะไม่ได้คิดจริงจังอะไรกับแทน  แต่แทนนี่สิจะคิดเหมือนอลิซรึเปล่าก็ไม่รู้  แต่ถึงยังไงวันนี้ก็ยังเป็นวันที่มีความสุขอีกวันหนึ่งละ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น