ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Alice - โจรสาวร้อยหน้า

    ลำดับตอนที่ #7 : @ Do Not @ ; ! ! ! อย่านะ ! ! !

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ค. 47


    @ Do Not @  ;  ! ! ! อย่านะ ! ! !



                   การแสดงของ ม.4  ห้อง 2  จบไปได้ด้วยดี  คนที่ปลื้มที่สุดคงเป็น คุณผู้กำกับ (แมรี่)  แต่เธอกับเขานี่สิ   ยังไม่สามารถเข้ากันได้เลย  เธอหงุดหงิดมากเมื่อเห็น จอยกับพอล  สนิทกัน  พอลก็คิดแค่ว่าจะลองใจเธอว่าคิดยังไงกับตน  แต่ยังไม่ทันรู้  ก็โดนอลิซประชดกลับด้วยคำที่แสนจะเจ็บปวด  วันวันนั้นผ่านมา  ด้วยความสุข  ความปลื้ม  ความยินดี  ความเศร้า  ความเสียใจ  ความน้อยใจ  และกลายเป็นวันวันใหม่



    “นี่ก็ใกล้สอบแล้วนะ...ครูอยากให้ทุกคนขยันอ่านหนังสือ...ขอให้ทุกคนโชคดีในการสอบจ้า”



    “อลิซพรุ่งนี้วันเสาร์ไปอ่านหนังสือกับพวกเราไหม” เอฟพูด



    “แมรี่ก็ไปนะ” ออฟพูดต่อ



    “เอ่อ...ขอบใจจ้า...แต่ไม่ดีกว่า”



    “อ้าวทำไมล่ะ” เอฟถาม



    “หรือว่ามีนัดแล้ว” ออฟพูด



    “ใช่มีแล้ว” อลิซก็เออๆออตาม



    “กับพอลแน่เลย” เอฟพูด   แต่พออลิซได้ยินชื่อพอลก็หน้าบึ้งและเดินหนีไปทันที



    ++++++++++++++++++++++  ช่วงพัก  +++++++++++++++++++++++



    “เห็นอลิซบ้างไหมเนิส” พอลถามเนิสซึ่งนั่งอ่านการ์ตูนอยู่ในห้อง  เนิสลดหนังสือการ์ตูนลงด้วยท่าทีหงุดหงิดแล้วมอง  แต่พอเห็นคนถามก็กลับเปลี่ยนเป็น  



    “มีอะไรหรอจ๊ะพอล” ท่าทีหงุดหงิดของเนิสหายไปทันที



    “เห็นอลิซไหม” พอลถามอีกรอบ



    “ไม่เห็นจ้า...มีอะไรรึเปล่า” เนิสถาม  แต่พอลไม่ตอบและเดินออกไป



    “นี่แมรี่เห็นอลิซไหม” พอลถามแมรี่ซึ่งกำลังกินขนมอยู่



    “โอ๊ย...ส่งน้ำให้หน่อยซิขนมติดคอ” แมรี่พูด พอลยื่นน้ำให้



    “อะแห่ม...อะแห่ม...มีอะไรหรอพอล” แมรี่ถามหลังจากดื่มน้ำเสร็จ



    “เห็นอลิซไหม” พอลถามด้วยท่าทีเซ็งๆ



    “ไม่เห็นจ้า” แมรี่ตอบ  แล้วพอลก็เดินจากไป



    “จอย...จอยเห็นอลิซไหม” พอลถามจอยซึ่งกำลังนั่งผัดแป้งอยู่



    “อลิซหนะไม่เห็นหรอก...มีอะไรปรึกษาจอยก่อนก็ได้นะจ๊ะ” จอยทำเสียงหวานซะจนพอลรู้สึกหวิวๆ ก็เลยรีบวิ่งจากไป



    “วีส...เห็นอลิซไหม” พอลถามวีสซึ่งกำลังเตะบอลอยู่



    “ทำไมนายไม่มาซ้อมฟุตบอลมั่งล่ะพอล...เดี๋ยวธันวานี้ก็ต้องแข่งกีฬาสีแล้วนะ” วีสว่า



    “อืม....อืมอย่าบ่นนักเลย...ว่าแต่เห็นอลิซไหม” พอลถามอย่างรีบร้อน



    “ฉันจะไปรู้หรอก็เตะบอลอยู่เนี่ย” วีสพูดอย่างอารมณ์เสียเมื่อเห็นพอลไม่สนใจคำพูดของตนเอง  และพอลก็จาก

    ไป



    “นี่เอฟ,ออฟเห็นอลิซไหม” พอลถามอย่างเหนื่อยใจและเหนื่อยกาย



    “เมื่อกี้เค้าอยู่กับพวกเรานะ” เอฟพูด



    “แต่ตอนนี้ไม่อยู่แล้วล่ะ” ออฟพูด



    “แล้วไปไหนล่ะ” พอลถาม



    “ไม่รู้เหมือนกัน...เห็นเดินขึ้นบันไดไป...ไม่รู้เป็นอะไรพอฉันพูดถึงพอลอลิซก็ดูเหมือนอารมณ์เสีย....แล้วก็เดิน

    หนีเราไปเลย” เอฟพูด



    “มีอะไรกันรึเปล่า” ออฟถาม



    “มีนิดหน่อย...ขอไปเคลียรก่อนนะ” พอลพูด  เอฟกับออฟก็ยิ้มๆ  พอลรีบวิ่งขั้นบันไดและตามหาอลิซตามชั้นต่างๆ  แต่ก็ยังไม่เจอ



    ++++++++++++++++++++++  ที่ดาดฟ้า  ++++++++++++++++++++++



                  ณ  บริเวณลานกว้างของดาดฟ้าในโรงเรียน  LOSTER  SCHOOL  อลิซยืนเกาะลูกกรงเป็นขั้นๆที่กันขอบตึกอยู่  หญิงสาวมองออกไปที่แผ่นฟ้ากว้างใหญ่อยู่  แต่เป็นเพราะอะไรก็ไม่รู้  ทำให้อลิซก้าวขาขึ้นลูกกรงไป 1 ขั้น  ตาของอลิซยังคงมองไปที่ท้องนภาอยู่เหมือนเดิม  ภายในหัวสมองคิดถึงชีวิตของตัวเองและสิ่งต่างๆที่เข้ามาในชีวิต  สายลมเย็นๆพัด  เรือนผมของอลิซไหวไปตามแรงลม  อลิซก้าวขาขึ้นลูกกรงอีก 1 ขั้น  



    ปั้ง !!!!  ประตูที่ดาดฟ้าเปิด  พร้อมกับร่างของชายคนหนึ่ง  พอลนั่นเอง !!!  แต่หญิงสาวก็ยังคงนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่แม้กระทั่งหันไปดูว่าใครมา  แต่พอพอลเห็นอลิซก็นึกว่ากำลังฆ่าตัวตาย  จึงย่องไปอย่างเงียบๆซึ่งพอลคิดว่าจะได้ไม่ทำให้ตกใจ  ซึ่งสัญชาติญาณของอลิซที่เป็น............(อย่างที่พวกคุณรู้)  ทำให้อลิซได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของพอลทั้งหมด  แต่แค่ยังไม่ได้หันไปดูว่าเป็นใคร  พอลเดินใกล้เข้าอลิซมากขึ้น  มากขึ้น  มากขึ้น  มากขึ้น  จนในที่สุดก็มาถึงตัวอลิซ  แต่ยังไม่ทันจะดึงอลิซไว้  อลิซก็หันไปกำลังจะยกมือขึ้นชก  โดยที่ไม่รู้ว่าคนที่เดินเข้ามาหาตนเป็นใคร  แต่พอลก็ไวสามารถหลบหมัดของอลิซได้  เมื่อพอลหลบได้ทำให้อลิซเสียหลักพลาดตกจากชั้นสองของลูกกรงที่ขอบตึก  ล้มลงที่พื้นของดาดฟ้า



    “โอ๊ย!!!” อลิซครางด้วยความเจ็บ



    “เป็นอะไรรึเปล่าอลิซ” พอลวิ่งมาดูด้วยความเป็นห่วง



    “อย่ามายุ่งกับฉัน...เพราะนายนั่นแหละทำให้ฉันตก” อลิซพูดอย่างโกรธๆ



    “อ้าว...อะไรกันคนจะช่วยยังจะมาว่าอีก” พอลพูดแบบน้อยใจ



    “นายจะมาช่วยอะไรฉัน...ถ้านายไม่เข้ามาฉันก็ไม่ร่วงลงมาอย่างนี้หรอก” อลิซยังโกรธอยู่



    “ก็ถ้าฉันไม่ช่วยเธอก็คงหล่นจากตึกหนะสิ...ไม่ใช่แค่พื้นดาดฟ้าหรอก” พอลพูด



    “ทำไมฉันต้องตกลงไปข้างล่างด้วย” อลิซพูดด้วยความสงสัย



    “อ้าวก็เธอกำลังฆ่าตัวตายไม่ใช่หรอ”



    “จะบ้าหรอ !!!  ฉันเนี่ยนะจะฆ่าตัวตาย”  



    “อืม...ก็ใช่หนะสิ” พอลพูด  หน้าตาดูงง



    “ฉันแค่ดูท้องฟ้าดูสิ่งแวดล้อมรอบๆและคิดอะไรไปพลางๆแค่นั้นเอง”



    “แล้วทำไมต้องปีนลูกกรงด้วยล่ะ”



    “ก็จะได้เห็นชัดขึ้นไง” อลิซพูด  พอลก็หน้าแดงแบบอายๆขึ้นมาเมื่อรู้ว่าตัวเองเข้าใจอลิซผิดไป  อลิซเห็นหน้า

    พอลแดงก็หัวเราะ  อลิซทำท่าจะลุกขึ้นแต่ก็ “โอ๊ย !!! ” อลิซร้องด้วยเสียงอันเจ็บปวด



    “ทำไมหรออลิซ” พอลถามด้วยความเป็นห่วง



    “ไม่รู้สิเจ็บขามากๆเลย” อลิซพูด  แล้วก็จับขาตัวเอง



    “ไหนดูสิ” พอลพูดแล้วนั่งลงแล้วจับขาอลิซแล้วพยายามหาจุดที่อลิซเจ็บ



    “โอ๊ย  เบาๆหน่อยสิ” อลิซร้องอีกครั้งเมื่อพอลจับมาถึงเท้า



    “อ๋อรู้แล้ว...เธอเท้าแพลงหนะ”



    “โอ๊ย” อลิซครางเมื่อพยายามจะลุกขึ้นยืน



    “ไม่ต้องพยายามหรอก...ขึ้นหลังฉันดีกว่า”



    “ไม่”  อลิซตอบ  ยังคงพยายามลุกขึ้นยืนอยู่



    “โอ๊ยดื้อจัง” พอลพูด  แล้วก็ยื่นมือขึ้น  อลิซก็มองมือที่พอลยื่นมา  แล้วพูดว่า  “ทำไม”



    “ก็เอามือมาสิจะช่วยฉุดไง” พอลพูด  อลิซก็ยื่นมือขึ้นจับมือพอลแล้วพอลก็ดึงอลิซขึ้นจากพื้นแบบทุลักทุเลเต็มที  

    อลิซยังคงฝืนเดินกระเผกกระเผกไปเรื่อยๆ  พอลทนเห็นไม่ไหว  เลยจับอลิซขึ้นแล้วอุ้มไปห้องพยาบาล  ระหว่างทางเดินอลิซก็ร้องว่า



    “นี่วางฉันลงเดี๋ยวนี้นะ…ฉันอายเค้า” อลิซโวยวาย



    “ถ้าอายก็เงียบซะทีสิ” พอลพูด  



    The Nurse Who Disappear And The Murder  ;  พยาบาลที่หายไป กับ การฆาตกรรม



                   อลิซหยุดร้องปล่อยให้พอลอุ้ม  จนในที่สุดก็มาถึงห้องพยาบาล  ซึ่งอยู่ชั้น 4  พอลวางอลิซลงบนโซฟา  เพื่อรอพยาบาล



    “เฮ้ย...เหนื่อยจัง…ต้องวิ่งหา...แถมยังต้องพามาส่งห้องพยาบาลอีก” พอลบ่น



    “เชอะ...แล้วใครใช้ให้วิ่งหาให้พามาส่งห้องพยาบาลล่ะ”



    “ตัวเองเหนื่อยยังไม่พอ...มาทำฉันขาแพลงอีก” อลิซบ่นไม่เลิก



    “เอ่อ...ขอโทษนะ...ว่าแต่ตอนนั้นเธอรู้ได้ไงว่าฉันเดินไปข้างหลังเธอ” พอลพูดและถามอย่างสงสัย  ว่าทำไมอลิซ

    ถึงหูดีขนาดนั้น



    “ก็เปิดประตูซะดังขนาดนั้น...เป็นใคร...เค้าก็รู้ว่ามีคนมา” อลิซพูดหลังจากเงียบไปประมาณ 5-6 วินาที



    “ฉันไม่ได้หมายถึงตอนนั้น...ฉันหมายถึงเธอกะเวลาจะชกฉันได้ไงตางหาก...เพราะตอนที่ฉันเดินไปหาเธอตัวฉัน

    เองยังไม่ได้ยินเสียงเท้าตัวเองเลย...แถมลมยังแรงอีก...เธอจะได้ยินได้ไง”



    “ช่างเถอะ...ว่าแต่ทำไมครูคาริฟ(พยาบาล)ยังไม่มาซะที....นี่ก็ไม่ใช่เวลาพักแล้วนะ” อลิซพาพอลนอกเรื่อง



    “อืม...ใช่น่าสงสัย”



    กรี๊ด !!!



    “อลิซรอที่นี่ก่อนนะ” พอลพูด  แต่อลิซไม่ทันตอบพอลก็ออกจากห้องพยาบาลไปซะแล้ว



    “ขอโทษครับ...ขอทางหน่อยครับ” พอลพูดขณะพบนักเรียนมุงดูอะไรสักอย่าง  ที่สวนในโรงเรียน  และแล้วพอลก็เดินเข้าไปสู่ใจกลางของพวกคนมุงแล้วพบว่า  ครูคารีฟ  กลายเป็นร่างไร้สติไปซะแล้ว  พอดีมีครูตีฟเฟรอล(ครูสอนวิทยาศาสตร์)เดินผ่านมา



    “ครูครับช่วยโทรเรียกตำรวจด่วนเลยครับ” พอลพูด  หลังจากพบว่าครูคาริฟ  ไม่สามารถหายใจได้อีกแล้ว



    “เกิดอะไรขึ้นพอล” ครูตีฟเฟรอลถาม  แต่พอครูตีฟเฟรอลเห็นศพก็ไม่รอคำตอบจากพอล  เขารีบโทรหาตำรวจอย่างเร็วที่สุดที่เขาจะทำได้  แต่อยู่ดีดีครูทาวานี่(ครูสอนร้องเพลง)และครูยากาเวฟ(ครูประจำชั้น ม.2)ก็เดินมาไล่นักเรียนที่ยืนมุงศพอยู่   เวลาผ่านไปไม่นาน  ตำรวจก็มาถึงสถานที่เกิดเหตุ





    “เรื่องมันเป็นยังไงหรอพอล” สารวัตรแครสถาม



    “ดูจากสภาพศพผมว่า...เธอน่าจะตกลงมาจากที่สูง…แต่ผมว่าศพมันดูแปลกๆ”  พอลพูด



                  พอลมองขึ้นไปทางตึกที่ติดกับสวน  พบว่าหน้าต่างที่โรงเรียนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้น  ให้เป็นแนวเรียงกันลงมาแบบแนวดิ่ง  ทำให้หน้าต่างของโรงเรียนทุกชั้นตรงกันหมดทุกบาน



    “แล้วมันเป็นอุบัติเหตุหรือว่าฆาตกรรมล่ะพอล” สารวัตรแครสถาม  แต่พอลก็หายไปจากสถานที่แห่งนี้แล้ว



                   พอลเดินไปสำรวจห้องพยาบาลก่อนเป็นอันดับแรก  และสิ่งที่พอลพบก็คือ  หน้าต่างที่ตรงกับศพตกได้เปิดออก  ตรงกลางที่ขอบหน้าต่างมีรอยเหมือนเคยโดนอะไรขูด



    “พอลเกิดอะไรขึ้นหรอ” อลิซซึ่งอยู่ในห้องพยาบาลถาม”



    “ครูคาริฟตายแล้ว” พอลพูด  แต่ท่าทีของอลิซดูเหมือนจะไม่ตกใจเลยสักนิด  เธอทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  แต่

    พอลก็ไม่ได้ติดใจหรือสงสัยอะไร  เพราะนึกว่าอลิซช็อกไป  พอลก็ยังคนหาหลักฐานต่อไปในห้อง  พอดีสารวัตแครสเข้ามาในห้องพยาบาลพอดี



    “เป็นไงบ้างพอล” สารวัตรแครสถาม



    “ผมว่าครูน่าจะตกจากหน้าต่างบานนี้ครับ” พอลพูดพร้อมกับชี้หน้าต่างที่ขอบมีรอยขูด



    “อื่ม...น่าจะใช่นะมันตรงกับศพพอดีเลยนี่” สารวัตรแครสพูด



    “งั้นก็น่าจะเป็นอุบัติเหตุสินะ” สารวัตรแครสพูดต่อ  



    แต่พอลกลับคิดว่า “มันจะใช่จริงหรอ”



    พอลยังคงสำรวจไปเรื่อยๆ  และสิ่งที่เขาได้มาในตอนนี้คือ



    1.รอยขูดที่หน้าต่าง  ซึ่งเป็นที่ที่ทุกคนคิดว่าศพน่าจะตกจากตรงนั้น



    2. จากการตรวจของหมอพบว่าศพได้กินยานอนหลับไปก่อนตาย



    3. สภาพศพหลังตกมันดูแปลกๆ  คือ  ศพตกลงมาแบบท่านอนหงาย



    4.  ผู้ตายตายประมาณ  1  ชม.  ผ่านมาซึ่งก็เป็นเวลาพักพอดี



    พอลเดินสำรวจหน้าต่างทุกชั้นที่ตรงกับจุดที่ศพตกลงไป  



    ชั้น 1  ซึ่งเป็นชั้นที่พอลคิดว่าถึงจะตกลงมาก็ไม่น่าถึงตายจึงข้ามไปได้เลย  แถมตรงหน้าต่างยังเป็นห้องอาหารซะด้วย  คงไม่มีฆาตกรคนไหนฆ่ากันในที่ที่มีคนเดินไปเดินมาตลอดเวลาหรอก



    ชั้น 2  พอลสำรวจแล้วก็ไม่พบอะไรเช่นกัน  ตรงหน้าต่างตรงกับห้องดนตรี



    ชั้น 3  เป็นห้องเรียนของนักเรียน ม.2 ก็คงไม่ใช่ที่นี่หรอก  เด็กนักเรียนอยู่กันเต็มห้องซะขนาดนี้



    ชั้น  4  ก็เป็นห้องพยาบาล  พบรอยขูดที่หน้าต่าง



    ชั้น  5  เป็นห้องวิทยาศาสตร์  ที่หน้าต่างก็ไม่มีอะไรผิดปกติ  ซึ่งภายในห้องก็มีอุปกรณ์วิทยาศาสตร์เต็มไปหมด



    ชั้น  6  เป็นห้องประชุม  ที่ห้องประชุมจะเป็นที่เงียบมาก  ถ้าวันไหนไม่มีงานประชุมใดใด  ล่ะก็แทบจะไม่มีใครเข้าไป  พอลเดินไปดูที่หน้าต่างที่ตรงกับจุดที่ศพตกลงไป  สภาพหน้าต่างก็ไม่มีอะไรผิดปกติ  ภายในห้องประชุมก็ไม่มีอะไรผิดปกติ



    ชั้น  7  เป็นดาดฟ้า  ไม่น่าใช่เพราะเป็นที่ที่อลิซอยู่ตลอดเวลา



    “หรือว่านี่จะเป็นอุบัติเหตุจริงๆ” พอลยืนคิด  ขณะอยู่ในห้องวิทยาศาสตร์



    “แต่การตกของศพมันแปลกๆ...และที่ตัวศพก็แปลกๆเช่นกัน”  พอลคิด  ขณะเดินลงไปยังห้องพยาบาล



    “เป็นยังไงจ๊ะ...พ่อนักสืบ...คิดได้ถึงไหนแล้ว” อลิซพูด  แต่พอลเงียบเพราะยังคิดถึงเรื่องสิ่งที่มันแปลกๆไป



    “อุ๊ย...พอลนี่มันแว่นตาของครูคาริฟนี่...ทำไมมันตกอยู่ตรงนี้ล่ะ” อลิซพูดและหยิบแว่นตาขึ้นมา  พอลรีบเดินมาดู  

    และใช่ผ้าจับแว่นตาที่อลิซถืออยู่  



    “ใช่แล้ว” พอลพูด



    “งั้นคนร้ายก็มีอยู่คนเดียวเท่านั้น”  พอลพูด  แล้วพอลก็เดินไปสำรวจชั้น 2 , 4 , 5 , 6  อีกครั้ง  เพื่อหาสิ่งที่ต้องการ

    ซึ่งมันก็มีจริงๆซะด้วย





    “สารวัตครับ...ผมรู้ตัวคนร้ายแล้ว”  พอลพูด



    “อ้าวไม่ใช่อุบัติเหตุหรอกหรือ” สารวัตรแครสถาม  พอลไม่ตอบ  แต่กลับพูดว่า



    “เรามาเริ่มกันเลยดีกว่านะครับ  เริ่มจากตัวศพละกัน  ศพที่ตกลงมาซึ่งทุกคนคิดกันว่าตกลงมาจากชั้น  4  (ในห้อง

    พยาบาล) ซึ่งที่หน้าต่างมีรอยขูดซึ่งผมว่ามันน่าจะเป็นรอยจากสิ่งนี้”  พอลยื่น  เศษขวดแก้วที่ใช้ทดลองวิทยาศาสตร์  



    “ผมพบมันอยู่ในถังขยะข้างบันได  ซึ่งที่ผมแน่ใจก็คือที่เศษขวดแก้วมันมีสีที่ใช้ทาขอบหน้าต่างติดมาด้วย”  พอล

    พูดต่อ  



    “และที่ชั้น  4  ผมก็พบสิ่งนี้” พอลยื่นแว่นตาของครูคารีฟให้สารวัตรดู



    “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแว่นตาล่ะพอล” สารวัตรแครสถาม



    “เกี่ยวสิครับ...ก็ครูคารีฟเป็นคนสายตาสั้น...เธอมักจะใส่แว่นตาติดตัวเสมอ...แต่เมื่อเดือนที่แล้วเธอกลับเลิกใส่

    แว่นตา...แล้วเปลี่ยนมาใส่คอนแทคเลนส์แทน...ซึ่งคนร้ายก็น่าจะรู้…แต่คนที่ใส่คอนแทคเลนส์มักจะมีแว่นตาสำรองไว้เสมอ…”  พอลพูด



    “อลิซเป็นคนพบแว่นตาวางอยู่ในห้องพยาบาลที่โต๊ะทำงานของครูคารีฟ...สารวัตรคิดไหมว่าศพทำไมแปลกๆ” พอลพูดพร้อมกับถามเพื่อให้สารวัตรแครสคิด



    “ใช่แล้วศพไม่มีคอนแทคเลนส์และไม่ได้ใส่แว่นตา” สารวัติรแครสพูด



    “แต่เธออาจจะลืมใส่ก็ได้นะพอล” สารวัตแครสพูด



    “เป็นไปไม่ได้หรอกครับ...เธอสายตาสั้นตั้ง 500 กว่าๆ ... ถ้าไม่ใส่ก็คงมองไม่เห็นแน่” พอลพูดพร้อมอธิบายเหตุผล



    “อืม...ใช่ๆ” สารวัตแครสคล้อยตามพอล



    “อ้าวแล้วคอนแทคเลนส์มันหายไปไหนล่ะพอล”  สารวัตรแครสถาม



    “ผมขอข้ามเรื่องนั้นไปก่อนละกันครับ” พอลพูด



    “ผมขอพูดเรื่องการฆาตกรรมก่อนละกัน...ผู้ร้ายเริ่มจากชวนให้ผู้ตายมาดื่มน้ำผสมยานอนหลับ...แล้วก็อุ้มผู้ตายที่ไร้สติไปโยนลงที่หน้าต่าง...และผู้ร้ายคนนั้นก็อยู่ในกลุ่มครูที่ได้ไปดูศพซึ่งมีอยู่ 3 คน”  



    “คนที่ 1 ครูตีฟเฟรอลเป็นครูประจำห้องวิทยาศาสตร์  อยู่ชั้น 5



    คนที่  2  ครูทาวานี่เป็นครูสอนร้องเพลงอยู่ชั้น 2



    คนที่  3  ครูยากาเวฟเป็นครูประจำชั้นห้อง ม.2 อยู่ชั้น 3 ” พอลพูด



    “และคนร้ายที่ฆ่าครูคาริฟก็คือ ....... ”



    ตอนที่ 21 :  น้ำแห่งชีวิต  และ  ความสูญเสีย



    “และคนร้ายที่ฆ่าครูคาริฟก็คือ ....... ”



    “ก็คือ คุณนั่นแหละคุณทาวานี่” พอลพูดพร้อมกับชี้ไปที่ครูทาวานี่



    “ทำไมล่ะ...เธอรู้ได้ไง...แล้วเธอมีหลักฐานหรือไง” ครูทาวานี่พูด



    “ฟังพอลอธิบายก่อนละกัน…ผมเชื่อในเหตุผลของเขา” สารวัตแครสพูด



    “ก่อนอื่นคุณก็ทำเป็นชวนครูคาริฟมาทานน้ำอะไรสักอย่างที่คุณผสมยานอนหลับชนิดที่ได้ผลรุนแรงเอาไว้...ซึ่ง

    คุณอาจจะไม่รู้ว่าตอนที่คุณได้ชวน...ครูคาริฟกำลังใส่คอนแทคเลนส์อยู่...เธออาจจะบอกคุณว่าเดี๋ยวฉันตามไปให้ไปรอที่ห้องดนตรี...แล้วพอเธอลงไปตามนัดและได้ดื่มน้ำของคุณเข้าไปเธอก็หลับลงทันที...แล้วคุณก็อาศัยเวลาที่นักเรียนลงไปทานอาหารกลางวัน...พาผู้ตายขึ้นไปชั้น 5 และผลักให้ตกลงมาด้านล่าง…เพราะดูจากท่าศพที่ตกลงมาเป็นท่านอนหงาย...ซึ่งถ้าเป็นการฆ่าตัวตายน่าจะตกมาในลักษณะนอนคว่ำหรือไม่ก็นอนตะแคงมากกว่า...แล้วคุณก็ไปทำหลักฐานว่าผู้ตายฆ่าตัวตายเอง...ซึ่งคุณก็ทำรอยขูดที่หน้าต่าง...ถ้าใครตรวจไม่ดีก็จะคิดว่าถูกสิ่งที่ติดอยู่กับศพขูดเอา...แต่คุณก็คิดไว้เผื่อว่าตำรวจจะคิดว่าคดีนี้เป็นคดีฆาตกรรมเลยทำหลักเพื่อป้ายความผิดให้กับครูตีฟเฟรอล...โดยการใช้เศษแก้วที่ทดลองวิทยาศาสตร์ในการขูดหน้าต่าง...แต่ความจริงการฆ่าผู้ตายนั้นคุณทำที่ชั้น 5 ...แต่คุณซึ่งกะเวลาฆ่าน้อยเกินไปทำให้เด็กที่กินอาหารเร็ว...ได้ไปพบศพเร็วมาก...ซึ่งคุณก็ได้เรียกครูตีฟเฟรอลและแกล้งทำเป็นบอกว่า  นี่เกิดอะไรขึ้นทำไมตรงนั้นเด็กมุงกันเต็มเลย...ครูตีฟเฟรอลซึ่งไม่รู้อะไรก็รีบวิ่งไปดู  และครูซึ่งกำลังจะวิ่งตามไปอยู่นั้นพอดีครูยากาเวฟผ่านมาคุณก็เลยชวนเธอไปดูด้วยกันเพราะห้องที่ครูยากาเวฟคุมอยู่ก็อยู่ตรงบริเวณที่ศพตกพอดี...พอพอคุณมาพบศพกลับเห็นสิ่งผิดปกติที่ศพคือ คอนแทคเลนส์หลุดออกจากตามา 1 ข้างตกอยู่ที่ข้างๆลูกตา  แต่คุณกลับไม่พบคอนแทคเลนส์อีกข้างหนึ่ง...คุณแกล้งทำเป็นไล่ให้เด็กๆออกไป...แต่คุณยากาเวฟเธอคิดว่าเด็กไม่ควรเห็นภาพแบบนี้ก็เลยช่วยคุณไล่เด็ก  ซึ่งขณะที่ครูตีฟเฟรอลกำลังโทรศัพท์หาตำตรวจและครูยากาเวฟกำลังไล่เด็กๆอยู่....คุณก็ฉวยโอกาสเข้าใกล้ศพและเอาคอนแทคเลนส์ที่ข้างลูกตาผู้ตายออก…เพื่อไม่ให้ตำตรวจผิดสังเกตุ”



    “แล้วทำไมนายถึงรู้ว่าฉันเป็นคนฆ่าล่ะ” ครูทาวานี่ถาม



    “คุณอาจจะไม่รู้ว่าตอนที่เธอกินน้ำผสมยานอนหลับของคุณ...และในเวลาที่เธอหลับนั้น...คอนแทคเลนส์ก็หลุดลง

    และตกในห้องดนตรีซึ่งเป็นห้องของคุณ”



    “แล้วแค่เหตุผลแค่นั้นมันจะทำให้ฉันเป็นฆาตกรได้หรอ...ครูคาริฟเคยเข้าห้องฉันมาก่อนแล้วทำคอนแทคเลนส์

    หล่นล่ะ”  ครูทาวานี่พูด



    “นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ไม่เพียงพอ...งั้นคอนแทคเลนส์อีกข้างล่ะ...มันต้องอยู่ที่คนร้ายอยู่แล้วเพราะตั้งแต่คุณเอามันออกไปคุณยังไม่มีเวลากำจัดมันเลยนี่” พอลพูด



    “งั้นผมคงต้องขอตรวจหน่อยล่ะคุณครู” สารวัตแครสพูด



    “ฮึม...ไม่จำเป็นหรอกค่ะ...ฉันเป็นคนฆ่าเค้าเอง” ครูทาวานี่สารภาพ  หลังจากตำตรวจทำท่าจะค้นร่างกาย  เธอ

    สารภาพด้วยใบหน้าอันสิ้นหวัง



    “ไม่จริง...ไม่จริงใช่ไหม” ครูยากาเวฟไม่เชื่อ



    “ฉันเกลียดมัน...มันแย่งตีฟเฟรอลไปจากฉัน...ฉันคบกับตีฟเฟรอลมาตั้งนาน...แต่อยู่ดีดีมันก็มาเอาไป...ฉันก็เห็นว่ามันเป็นเพื่อนรักของฉัน...ฉันก็เลยยกให้...แต่พอวันนั้น...วั้นที่ฉันลืมตีฟเฟรอล...มันกลับมาบอกกับฉันว่า...นี่ทาวานี่ฉันพบรักใหม่แล้วนะ...นั่นไงคนนั้น...ฉันถามเค้าว่าแล้วตีฟเฟรอลล่ะ...มันก็บอกว่า...ตานั่นมันก็แค่ของเล่นเก่าเท่านั้น...ฉันแค้นมันมาก...จนคิดแผนนี้ขึ้นมา...แล้วถ้าแผนมันพลาดฉันจะยกความผิดให้คนที่ไม่เคยจริงใจกับฉัน…คนที่ฉันรักเขามาตลอด…นายไงล่ะ ตีฟเฟรอล” ทาวานี่เล่าเรื่องให้ฟังทั้งหมด  ด้วยใบหน้าแห่ง  ความอาฆาตแค้น  พร้อมกับ  น้ำตาแห่งความเศร้า  ที่ไหลลงสู่พิภพ  ดั่งน้ำแห่งชีวิตและความสูญเสีย





    “ต้องขอบใจนายอีกแล้วนะพอล...ที่ช่วยสืบคดีนี้ให้…นายนี่เก่งจริงๆ...เก่งเหมือนพ่อนายเลย” สารวัตแครสชม

    “ครับ” พอลรับสั้นๆแล้วก็ลาสารวัต





    “เฮ้ย...เหนื่อยจัง...ทำไมวันนี้มีแต่เรื่องวุ่นๆนะ” พอลบ่นหลังจากสารวัตแครสกลับไปแล้ว



    “เฮ๊ย !!! …. ป่านนี้อลิซเป็นไงบ้างแล้วน้า...เรานี่ลืมเธอไปได้ยังไง”  พอลพูดเมื่อนึกขึ้นได้  จึงเดินเข้าห้องพยาบาลไปหาอลิซ  แต่พอพอลไปถึง  อลิซกลับหายไป



    “อ้าว...หายไปไหนแล้ว”



    “เธอขาเจ็บนี่ไม่น่าจะเดินไปไหนมาไหนได้”



    “หรือว่าเกิดเรื่องกับอลิซ”



    พอลทั้งเดินทั้งวิ่งหาอลิซซะทั่วตึก  แต่ก็ไร้วี่แวว  เธอหายไปไหนนะ  พอโรงเรียนเลิกพอลจึงไปหาอลิซที่บ้าน



    “อลิซกลับมารึยังครับ” พอลถามยายของอลิซอย่างรีบร้อน



    “ยัง...จ้า...มี...อา...ราย...รึ...เป่า...จ๊ะ” ยายอลิซตอบแล้วถามต่อ



    พอลไม่ตอบแล้วก็รีบวิ่งออกไปเพื่อหาอลิซต่อ



    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



    “หนอย...ตาพอลบ้า...มัวแต่เป็นนักสืบจนลืมเรา...โอ๊ยเจ็บจัง” อลิซบ่นขณะเดินกะเผกกะเผกอยู่ที่สวนแห่งหนึ่ง



    “อ้าวอลิซเป็นอะไรหรอ” P100 ซึ่งเดินผ่านมาพอดีถาม



    “ขอแพลงหนะ” อลิซตอบ  พอลก็เดินผ่านมาได้เห็นพอดี  แต่ได้แต่แอบดู



    “ไหนขอดูหน่อยสิ” P 100 พูด  แล้วก็จับขาอลิซ  พอลหมันไส้เจ้านี่มากๆแต่ก็ทำอะไรไม่ได้จึงต้องแอบดูและแอบ

    ฟังต่อไป  ซึ่งทั้งอลิซและP100 ก็รู้ว่ามีคนแอบฟังอยู่  เพราะสัญชาติญาณมันบ่งบอก  อลิซรู้ว่าพอลแอบดูอยู่จึงกระซิบบอก P100  ว่าพอลแอบดูอยู่ให้แกล้งสนิทกันเป็นพิเศษ  P100 ก็ชอบอลิซอยู่แล้วจึงยอมทำตามอย่างเต็มใจ 100 %



    “นี่เราเจ็บนะ...ทำเบาๆหน่อยสิจ๊ะ...แทน (P100)”



    “เจ็บมากหรอ...ใครน้าที่มาทำอลิซของฉันให้เป็นแบบนี้...ถ้าเจอนะจะอัดให้หน้าหงายเลย” แทนพูด



    “ช่างเค้าเถอะ”



    “ขึ้นหลังฉันสิ...เดี๋ยวจะพาไปส่งบ้าน...ขืนเดินไปพรุ่งนี้จะยิ่งขาบวมใหญ่” แทนพูด  แล้วอลิซก็ขี่หลังแทนกลับ

    บ้าน  ด้วยท่าทีที่มีความสุขมาก  แต่พอลรู้สึกตรงกันข้ามเลย  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×