ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Want To Come Back Home ; อยากกลับบ้าน
Want To Come Back Home  ;  อยากกลับบ้าน
              พอลและอลิซไม่ได้ไปตามนัดทั้งคู่  เดินไปโรงเรียนด้วยกันเหมือนๆอย่างเคย  แต่วันนี้ความรู้สึกมันเริ่มเปลี่ยนไป  อลิซเริ่มคิดว่า  พอลไม่น่ารำคาญเหมือนอย่างก่อนๆแล้ว  ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน  เธออยากจะเดินกับพอลด้วยความรู้สึกเช่นนี้ให้นานที่สุด  เท่าที่เธอจะทำได้  และแล้วก็มาถึงโรงเรียนพอดี
“อ้าว !!!  พอล  อลิซ  มาพอดีเลย กำลังอยากให้ลองเทสบท”  เสียงผู้กำกับสาวนามว่า แมรี่ พูดขึ้น
“3 2 1 เริ่ม
.” 
“ O.K. วันนี้เราซ้อมกันแค่นี้ละกันนี่ก็เย็นมากแล้วด้วย”
“ฉันขอกลับก่อนนะ” อลิซพูด
“BYE  BYE ”
“อ้าว อลิซจะกลับแล้วหรอ”
“อืม มันเหนื่อยๆหนะ”
“เฮ้ย เหนื่อยจริงๆด้วยเนอะ” พอลเอามือปาดเหงื่อ
“แหม สองคนนี้ เห็นใจกันจริงๆนะ หยั่งกับ ” วีสล้อพอล
“อะไร อะไร หยั่งกับอะไร” พอลหน้าแดง
“ก็ไม่อะไรนี่ ทำไมหน้าต้องแดงด้วย” วีสพูด อลิซเริ่มหน้าแดงบ้าง  โดยที่เจ้าตัวไม่รู้สาเหตุ
“อ้าว อลิซเป็นอะไรหรอ หน้าแดงไปอีกคนแล้ว” แมรี่เดินออกมาจากห้องพูดขึ้น  โดยที่ยังไม่รู้เรื่องอะไร
“ไม่มีอะไร”  อลิซพูดและรีบเดินออกจากโรงเรียน  แล้วพอลก็ตามไปติดๆ 
“อะไรกันเนี่ย” แมรี่งง  แต่วีสกลับยิ้มแย้มอย่างสนุกสนาน
*********************************************************************
              อลิซเดินออกจากโรงเรียนอย่างเร่งรีบ  เพื่อไม่ให้พอลตามทัน  แต่พอลก็ยังวิ่งตามมา  อลิซไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองหน้าแดงเพราะสาเหตุใด  ทำไมต้องเกิดอาการแปลกๆอย่างนั้นกับเธอด้วยก็ไม่รู้
“อลิซรอด้วย”
แฮก ๆ ๆ 
“โอ๊ย เหนื่อยจังเลย” พอลบ่น  และนั่งลงตรงม้านั่งสีขาวใต้ต้นไผ่  อลิซค่อยๆนั่งตามห่างจากพอลประมาณ 3 คืบ
“มีอะไรอีก”  พอลส่ายหัวเพราะเหนื่อยเกินกว่าจะพูดออกมา
“อ้าวแล้วจะเรียกให้ฉันหยุดทำไม”
“ก็แค่อยากเดินกลับบ้านเป็นเพื่อน”
“แค่เหตุผลแค่นี้หรอ สาวๆคนอื่นอยากจะเดินเป็นเพื่อนนายกลับบ้านมีตั้งเยอะไป ”
“รวมอลิซด้วยรึเปล่า” พอลถามด้วยความอยากรู้  ว่าอลิซจะรู้สึกแบบเดียวกับตัวเองไหม
“ไม่หรอก ฉันเป็นข้อยกเว้น”
“แต่สำหรับฉันนะ มันไม่เหมือนกันหรอก”
“ไม่เหมือนยังไง” อลิซถามด้วยความอยากรู้ว่าตัวเองไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นยังไง
“ไม่รู้สิ ไม่เหมือนก็ไม่เหมือนละกัน” พอลตอบหน้าตาเฉย  ( แต่ในใจมันมีคำตอบอยู่แล้ว  แต่มันไม่กล้าพูดนี่ทำไงได้ )  อลิซได้ฟังก็ยืนขึ้น  คิดในใจว่า  ตานี่มาเป็นนักสืบได้ไง  ไร้เหตุผลสิ้นดีเลย  แย่มากๆ  ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด !!!
              ลม  เริ่มพัด  แรงขึ้น  แรงขึ้น  ท้องฟ้าก็เริ่มมืดมัวแล้ว  และตอนนี้ท้องฟ้าก็กลายเป็นสีดำ  แสงจากดวงอาทิตย์  เริ่มจางหายไปอย่างรวดเร็ว
“อลิซรีบไปกันเถอะ ฝนใกล้ตกแล้ว” พอลพูด  อลิซไม่ได้ว่าอะไรแต่ก็ลุกขึ้นเดิน  ตามพอลไป  และแล้วฝนก็ตก  ตก  ตก  ตก  พอลลากอลิซเข้าห้างสรรพสินค้าใหญ่เพือหลบฝน
“นี่นาย ลากฉันเข้ามาในนี้ทำไม” อลิซถาม  หงุดหงิดและเหนื่อยเพราะอยากกลับบ้านเต็มที่
“ก็ข้างนอกฝนตกจะไปเดินตากฝนทำไม ตัวฉันไม่เป็นไรหรอกแต่เธอน่ะเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” พอลพูดด้วยความเป็นห่วง  แต่อลิซคิดว่าพอลว่าว่าเธอเป็นคนอ่อนแอ
“ฉันไม่ได้อ่อนแอเหมือนผู้หญิงทั่วไปหรอกนะ” อลิซว่าพอล  ด้วยอารมณ์รุนแรงมากและ ทำท่าจะเดินออกจากห้างสรรพสินค้า  แต่พอลจับข้อมือของอลิซไว้ไม่ให้ไป
“อะไรอีกนะนายเนี่ย ฉันจะรีบกลับบ้าน” อลิซพูด  โมโหอย่างแรง  พอพูดแล้วก็สะบัดมือออก  แต่พอลกลับไม่ปล่อย  อลิซเริ่มหมดความอดทน  แต่ก็ต้องกลั้นใจไว้  เดี๋ยวคนอื่นจะรู้ความลับ  ถ้าจะใช้กำลังกับพอลตอนนี้  พอลเห็นอลิซเหม่อคิด  จึงรีบเดินลากมืออลิซเจ้าร้านอาหาร  พอลผลักอลิซเข้าไปนั่งบนเก้าอี้  แล้วตัวเองก็ไปนั่งเก้าอี้อีกฝั่งหนึ่งของอลิซ  อลิซก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้วก็เลยไม่อยากเถียงกับพอลอีกจึงได้แต่เงียบ  พอลจึงนึกว่าอลิซโกรธ
“ถ้าที่ฉันแค่เป็นห่วงเธอ ไม่อยากให้ตากฝน แล้วทำให้เธอโกรธ ฉันจะไม่ขอโทษ”  พอลเริ่มพูดด้วยเหตุด้วยผล  อลิซเริ่มคิดตาม  แต่ก็ยังเงียบ
“แต่ถ้าเธอโกรธเพราะฉันบังคับให้เธอมานั่งอยู่ที่นี่กับฉัน ฉันจะขอโทษเธอ...เธอจะไปก็ได้ฉันไม่อยากห้ามแล้ว”  อลิซก็ยังเงียบ  จะให้พูดอะไรได้ไงเสียฟอร์มแย่เลย
“ขอเมนูหน่อยครับ” พอลอารมณ์เริ่มเย็นลง
“เธอจะเอาอะไรไหม” พอลถาม  แต่ไม่มีเสียงตอบ
“เอาสเต็กหมู 2 จานละกัน” บ๋อยรับเมนูแล้วก็เดินจากไป
“เฮ้ย ในที่สุดก็เป็นเหมือนเดิม กลายเป็นอลิซคนเดิมอีกแล้ว”  พอลพูด อลิซนั่งเงียบ
ช่วยด้วย  !!!  ช่วยด้วย  !!!  มีเสียงร้องดังมาจากที่ที่หนึ่งในร้าน
New Life  ;  ชีวิตใหม่
              ทันใดนั้น  ก็มีเสียงคุยกันสนั่นดังทั้งร้าน  พอลรีบวิ่งไปดูในที่เกิดเหตุ  แต่อลิซค่อยๆเดินตามไปอย่างไม่ได้รีบร้อนและไม่ตกใจ  ท่าทีของอลิซมันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ขอทางหน่อยครับ ขอทางหน่อยครับ” พอลแหวกผู้คนที่มุงดูสิ่งๆหนึ่ง  และแล้วในที่สุดพอลก็เข้ามาอยู่ใจกลางใกล้ๆ  สิ่งที่ผู้คนมุง  สิ่งที่ผู้คนมุงอยู่ก็คือ ร่างที่นิ่งสนิทอยู่บนพื้น
“โทรเรียกรถพยาบาลเร็ว” ชายคนหนึ่งในที่เกิดเหตุพูด
“ไม่ต้องหรอกครับ โทรเรียกตำรวจจะดีกว่า” พอลพูด  มีเสียงฮือๆ ในกลุ่มคนมุงเล็กน้อย  ตอนนี้อลิซได้เดินเข้ามาอยู่ใกล้ๆพอลแล้ว  แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร  ยังเงียบเหมือนเดิม  ซึ่งพอลก็ไม่รู้ว่าเธอโกรธอยู่ หรือว่าอึ้งกับศพอยู่
“ทำไมล่ะ เจ้าหนู แล้วเธอเป็นใคร ???” ชายคนนั้นถามพอล
“ก็ดูจากอาการผู้หญิงคนนี้นอนนิ่งไม่ขยับ ที่มือถือแก้วน้ำ และที่สำคัญเธอไม่มีลมหายใจแล้ว”
“แล้วเธอเป็นใคร ???”
“ผมนะหรอ ผมไม่ใช่เจ้าหนูอย่างที่คุณพูดหรอก ผมคือ พอล”
“หา เธอคือนักสืบคนนั้น ” ชายคนนั้นพูด  และรีบโทรหาตำรวจตามที่พอลสั่ง
+ + ไม่นาน สารวัตแครสกับนาก็มาถึงที่เกิดเหตุ + +
“ดูจากคดีนี้เหมือนเป็นการฆ่าตัวตายด้วยยาหรือไม่ก็เป็นการฆาตกรรมนะพอล” สารวัตแครสพูด
“น่าจะเป็นการฆาตกรรมมากกว่าครับ เนื่องจากถ้าอยากจะฆ่าตัวตายทำไมต้องมาฆ่าตัวตายถึงที่นี่ และอีกอย่างผมว่าท่าที่ผู้หญิงคนนี้ล้มนอนมันแปลกๆ ปกติคนที่ล้มลงมาจากเก้าอี้มันต้องตะแคงใช่ไหมครับ แต่นี้เธอนอนหงาย มันก็แปลกๆอยู่”
“อื่ม จริงด้วย เหมือนมีคนมาจับให้นอนท่านี้”
“สารวัตครับข้อมูลของศพมีอยู่ว่า  เธอชื่อ ชานาเรม รีส  เป็นเลขาของประธานบริษัท ส่งออกปลา ครับ  ในแก้วน้ำที่ผู้ตายถืออยู่พบว่ามี  ยาพิษร้ายแรงใส่เข้าไปเป็นจำนวนมาก  ซึ่งปกติ 1 เม็ดจะตายภายใน 60 วินาที  แต่พบว่าปริมาณยาพิษถ้าคาดไม่ผิดประมาณ 4-5 เม็ด  ซึ่งทำให้ตายได้  เร็วกว่ากำหนดถึง 50 วินาที ผู้ตายทานยาพิษเข้าไปแล้วตายภายใน 10 วินาทีครับ” หมวดนอตพูด
“นั่นก็แสดงว่าคนร้ายต้องอยู่กับผู้ตายในร้านนี้ก่อนแล้ว อาจจะนัดมาทำอะไรสักอย่าง แล้วก็ใส่ยา แล้วก็หนีไป/หรือไม่ก็อาจจะยังอยู่ในร้านนี้” พอลสันนิษฐาน
“เราพบขวดใส่ยาพิษเหมือนของผู้ตายในถังขยะหลังร้านด้วยครับ”
“หลังร้านหรอ งั้นก็ต้องเป็นคนที่ทำงานในร้านนี้ หรือไม่ก็ต้องเป็นคนที่รู้จักร้านนี้เป็นอย่างดีถึงได้เข้าออก
ทางหลังร้านได้” พอลพูด
“ขอโทษครับคุณคือเจ้าของร้านใช่ไหมครับ”
“ครับ ใช่  คุณรู้จักผู้ตายไหมครับ”
“รู้ครับ เธอเคยทำงานในร้านของผมมาก่อนที่จะเป็นเลขาของประธานบริษัทส่งออกปลาครับ” เจ้าของร้านพูด
พอลเดินสอบสวนพนักงานในร้านทุกคน  ผมออกมาว่า  มีผู้รู้จักผู้ตายอยู่ 4 คน
คนแรกคือเจ้าของร้าน
คนที่สองคือพนักงานเก็บตัง หน้าที่เช็คบิล + ซื้อของ
คนที่สามคือบ๋อย  หน้าที่ช่วยงานในร้าน
คนที่สี่คือพ่อครัว หน้าที่ทำอาหาร  + ซื้อของ
“คุณคือคนที่เสริฟแก้วนี้ให้ผู้ตายใช่ไหม” พอลถามบ๋อย
“ครับ แ..แต..แต่ ผมไม่ใช่คนร้ายนะครับ”
“คุณคือคนชงน้ำส้มแก้วนี้ใช่ไหมครับพ่อครัว”พอลถาม อลิซยืนดูพอลอยู่เงียบๆ
“ใช่ครับ” พ่อครัวตอบ
“แล้วคุณล่ะ คุณร็อกสเตน (คนเก็บตัง)”
“วันนี้ทั้งวันผมยังไม่ได้คุยกับเธอเลย” ร็อกสเตนพูด
“จริงหรอครับคุณคนร้าย...ผมยังไม่ได้ถามอะไรคุณเลยจะรีบแก้ตัวทำไม”พอลพูด
“อะไรกัน คุณจะมากล่าวหาผมได้ยังไง คุณไม่มีหลักฐานสักหน่อย”
“หลักฐานผมไม่มี แต่มันอยู่ที่ตัวของคุณไงครับ”
“ถ้าคุณไม่ได้พบกับผู้ตายวันนี้ทำไม ถึงมีผมของผู้ตายติดอยู่ที่เสื้อของคุณละครับ หรือคุณจะบอกว่า คุณเคยพบเธอมาก่อนหน้านี้แล้วแต่วันนั้นที่ผมไม่ได้ซักเสื้อออกหรอครับ  มันดูเป็นข้อแก้ตัวไม่ได้เลยนะคุณ แต่ถ้าคุณจะบอกว่า วันนี้คุณนัดเธอให้ออกมาพบกับคุณที่ร้านนี้ โดยอาจจะบอกว่า  ช่วยออกมาพบผมที่ผมจะยอมทำตามที่คุณบอกทุกอย่าง  แล้วพอเธอมาบอกให้เธอรอคุณที่โต๊ะ  คุณก็บอกให้พ่อครัวชงน้ำส้ม  แล้วแอบใส่ยาพิษ  แล้วให้บ๋อยเอาไปเสริฟแล้วคุณก็จัดการกับยาพิษที่เหลืออยู่  แน่นอนว่าแผนที่คุณคิดมันเป็นแผนที่ดีไม่มีข้อบกพร่องเลยสักนิด  แต่คุณรู้ไหมว่าที่โทรศัพท์มือถือของพูดตายได้บันทึกเสียงของคุณที่คุณนัดเธอมาพบวันนี้  และมีหลายข้อความที่คุณส่งถึงเธอ”  พอลพูด  คนร้ายเงียบนิ่งเหมือนถูกแช่แข็ง
“ใช่ ผมรักเธอตั้งแต่เธอมาทำงานในร้านนี้วันแรก เราสองคนรักกันมาก อาจจะไม่ใช่อย่างนั้นก็ได้ผมรักเธอฝ่ายเดียว เธอคอยดูดเงินของผมมาตลอด และวันหนึ่งพอประธานนั่นมาส่งปลาที่ร้านนี้ด้วยตัวเอง ตอนนั้นร้านขาดคนเสริฟก็เลยให้เธอเสริฟชั่วคราวประธานเห็นว่าเธอสวยก็เลยมาขอให้เป็นเลขา เธอก็ตอบตกลง และไปโดยไม่บอกใครสักคำ เมื่อสองเดือนก่อนผมพอเธอ ผมยังรักเธออยู่ แต่เธอกลับเปลี่ยนไปเธอหน้าเลือดขึ้นกว่าเดิม เธอบอกว่าถ้าวันไหนผมจะให้เธอได้ทุกอย่างตามที่เธอขอเธอจะกลับมารักผม..ผมถามว่าเธออยากได้อะไร เธอตอบว่าชีวิตใหม่ที่ดีกว่าที่อยู่กับผม ผมก็เลย ผมก็ ” ร็อกสเตนพูดแบบปลงสุดๆ
“คุณก็เลยให้ชีวิตใหม่กับเธอ ตามที่เธอขอ” พอลพูดประโยคที่หายไป
“ไปคุยกันที่สถานีดีกว่านะ” สารวัตแครสพูด
“ขอบใจนายมากพอล นายได้ช่วยงานของกรมตำรวจอีกแล้วนะ น่าดีใจแทนพ่อแม่ของนายจัง”
“อ้าวอลิซล่ะ” พอลมัวแต่ปลื้มจนลืมอลิซที่ตอนนี้ไปนั่นรออยู่ที่โต๊ะตัวเดิมแล้ว
“อลิซ ขอโทษที่ทำให้รอนานนะ” พอลพูด  อลิซเงีย
“เธอยังโกรธฉันอยู่หรอ”
“ไม่นี่ ใครจะไปโกรธพ่อนักสืบคนเก่งได้ลงคอ” อลิซประชด
“อื่ม ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก” พอลไม่รู้ว่าอลิซประชด  นึกว่าชม
“งั้นเราไปหาอาหารทานร้านอื่นดีกว่า” พอลชวน
“อืม ก็ได้” อลิซพูด  ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรทำให้ตอนนี้เธอไม่โกรธพอลเลยแม้แต่นิดเดียว
Present  ;  ของขวัญ
              เมื่อวานอลิซได้ไปทานอาหารเย็นกับพอล  อลิซรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก  เธอเพิ่งรู้ว่าการมีเพื่อน  มันทำให้เธอไม่รู้สึกโดดเดี่ยว  ความเหงาเริ่มหายไป  แต่พออลิซกลับมาบ้าน  ทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม  ทำไมเวลาแห่งความสุขช่างเร็วเหลือเกินนะ
“ไงอลิซ...เย็นนี้มีซ้อมละคร...พอเลิกเรียนแล้วอย่าเพิ่งกลับนะ”
“จ้า”
“นี่แล้วตกลงจะแสดงวันไหนหรอจ๊ะ ???  คุณผู้กำกับ”  อลิซถามกึ่งแซว
“วันที่  30  สิงหาคม  นี้จ้า ... แล้วเห็นครูเนสซีเรียบอกว่าถ้าห้องไหนแสดงดีที่สุดจะได้ไปแสดงที่เรืออะไรสักอย่างหนะ...ฉันจำไม่ได้”
“หรอ...แล้วค่อยคุยกันต่อตอนเย็นนะ”
-------------------------------  เข้าเรียน เป็นชั่วโมง HOME ROOM --------------------------
“สวัสดีจ้านักเรียน”
“ในชั่วโมงนี้เราก็จะพูดถึงเรื่องการแสดงกันนะ...วันนี้ก็วันที่ 19 สิงหาคม  แล้วครูอยากให้นักเรียนขยันซ้อมกันหน่อยเพื่อห้องของเรา  ครูไม่ได้อยากได้ของรางวัลหรือสิ่งใด  แต่ครูอยากเห็นนักเรียนในห้องของครูสามัคคีและเป็นหนึ่งเดียวกัน...อยากให้ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานให้ดีที่สุด (ไม่ค่อยคาดหวังอะไรเลย  จริงอ่ะเปล่าเนี่ย ???) ”
“ในวันที่ 22 23 สิงหาคม ครูจึงอยากให้ทุกคนมาที่โรงเรียนเพื่อซ้อม + จัดฉาก + หาอุปกรณ์ในการแสดง + หาชุด/เสื้อผ้าที่ใช้ในการแสดง ฯลฯ ... นอกจากนี้ก็คงไม่มีอะไรแล้ว...เอ่อ...ลืมไปมีอีก 1 อย่าง นี่ก็ใกล้สอบกลางภาคแล้วก็เตรียมอ่านหนังสือด้วยละกันนะ ... อื่มหมดเวลาแล้ว สวัสดีจ้า” พอพูดจบครูเนสซีเรียก็ออกจากห้องไปทันที
------------------------------------------  ตอนเย็น  ------------------------------------------
“อ้าวอลิซมาแล้วหรอ...ตรงเวลาจังนะ” แมรี่พูดพร้อมยิ้มให้ 
“อืม...แต่พอลยังไม่มาเลย”
“...อลิซชอบพอลรึเปล่า” แมรี่พูดเสียงดัง  ทุกคนที่อยู่ในห้องหันมามอง
“นี่...พูดเบาๆก็ได้...ฉันไม่ได้ชอบพอล” (โกหกรึเปล่าน้า)
“จริงหรอ” จอยเสียงแหลมมาแต่ไกล
“งั้นฉันขอละกัน” จอยพูดแล้วก็เดินจากไป
“หน้าด้านชะมัด”
“แต่...จริงหรอ....แล้วที่เดินกลับบ้านด้วยกันล่ะ” แมรี่ถามด้วยความสงสัย + ไม่เชื่อ
“ก็บ้านอยู่ใกล้กันเท่านั้นเอง” อลิซตอบ  (แค่นั้นหรอ...ไม่จริงมั้ง !!!)
“เอาเถอะ...อย่าพูดถึงตานั่นเลย...น่ารำคาญ...ขี้เก๊กสุดๆ”
“แต่ฉันว่าเขาหล่อออก...ขรึม...เข้ม...เท่ห์” แมรี่พูด  อลิซทำท่าคลื่นไส้
“ไม่เอาแล้ว...เลิกพูดเถอะ”
“ได้...แต่ช่วยไปตามพอลหน่อยสิ”
“ทำไมต้องเป็นฉันด้วยล่ะ”
“ก็ฉันไม่กล้าไปตามนี่...พอพูดกับพอลแล้วมันเขินๆยังไงก็ไม่รู้” แมรี่พูด + หน้าแดง
“เธอนี่ถ้าจะบ้า...รอก่อนนะ”
** ไม่นานอลิซก็มาพร้อมกับพอล **
“เอ่อ...เริ่มซ้อมเลยละกันนะ” แมรี่พูด
“ 3.....2.....1  เริ่ม...............................................................................................................
............................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................”
“วันนี้พอแค่นี้ละกัน” แมรี่พูดพร้อมกับปาดเหงื่อ
“เอ่อ...เดี๋ยวสิ...วันนี้ฉันแล้วก็เอฟกับออฟจะจัดงานเลี้ยงหนะ” แมรี่พูด
“เนื่องในโอกาสอะไรมิทราบ” จอยพูดน้ำเสียงดูเย้ยหยัน
“ก้อ...วันเกิดของเอฟกับออฟไง” แมรี่พูด
“ถ้าไม่รังเกียจก็เชิญไปงานเลี้ยงนะ...เชิญทุกคนเลย” เอฟกับออฟพูดพร้อมกัน
“งานจะเริ่มตอน 2  ทุ่มนะ ... นี่ก็  5  โมงแล้ว  แล้วเจอกันที่บ้านเอฟกับออฟนะ”  แมรี่พูด
“นี่อลิซเราไปห้างสรรพสินค้ากันไหม ไปซื้อของขวัญให้เอฟกับออฟไง”  เรสวิน (คู่แข่งพอล) ชวนอลิซ
“คงไม่ต้องหรอกเพราะอลิซจะไปกันฉัน” พอลเดินมาได้ยินพอดีเลยพูด  อลิซเริ่มหงุดหงิด  ตอนนี้พอลกับเรสวินเริ่มทะเลาะกัน
“เอาล่ะ...เอาล่ะ...ไปด้วยกันก็ได้ไม่เห็นต้องทะเลากันเลย” อลิซพูด
“งั้นจอยขอไปด้วยนะ” จอยพอเห็นพอลกับเรสวินไปก็อยากไปด้วย
“งั้นฉันขอไปด้วยอีกคนละกัน” วีสพูด
“อืมได้สิ......ไปหลายๆคนสนุกดีออก”  จอยพูด (อลิซหมันไส้จอยมากๆ)
**************************  ห้างสรรพสินค้า  ***************************
“เฮ้อ...ถึงสักที”
“คงต้องคิดก่อนว่าจะให้ของขวัญอะไรดี เราจะแยกกันไปดีไหม” พอลพูด  จอยก็รีบเดินมาเกาะแขนพอลแล้วพูดว่า “ดี...งั้นฉันขอไปกับพอลละกัน”  อลิซพอได้ยินจอยพูดก็รู้สึกแปลกๆ  รู้สึกโกรธพอลโดยที่ไม่รู้สาเหตุ  แต่ก็ไม่แสดงสีหน้าอะไร
“งั้นฉันไปกับอลิซละกัน” เรสวินพูด
“แล้ววีสล่ะ..จะไปกับ อ ลิ ซ หรือไปกับ พ อ ล ”  อลิซถาม
“ไปกับอลิซอยู่แล้ว”  วีสพูด (จงใจแกล้งให้พอลหึง !!!)
“งั้นแยกกันเลยตอน 6  โมงครึ่งเจอกันหน้าห้างละกัน” จอยพูดแล้วก็ลากพอลไป
*********************************************************************
“อุ๊ย...หมีตัวนี้น่ารักจัง” อลิซพูด  พร้อมกับยกหมีสีน้ำตาลตัวใหญ่ขึ้น
“ผมซื้อให้เอาไหม” เรสวินพูด อลิซวางหมีลงทันที
“ไม่เป็นไรหรอก”
“แล้ววีสล่ะคิดว่าจะซื้ออะไรให้เอฟกับออฟดี”
“ยังไม่รู้เลยขอเดินดูก่อนละกัน”
“แล้วเรสวินล่ะ”
“ก็ยังไม่รู้เลย...อลิซช่วยเลือกหน่อยสิ” เรสวินประจบ
“ฉันกะจะซื้อตุ๊กตาให้หนะ...ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าเอฟกับออฟชอบอะไร...แต่ส่วนใหญ่ผู้หญิงเขาชอบของกระจุกกระจิกหนะ”
“อันนี้ก็ดีนะ...ดูมีความหมายดี นายว่าไงล่ะ”  อลิซพูด พร้อมให้เรสวินดู 
“ดีงั้นฉันซื้ออันนี้ละกัน” เรสวินพูด  ขณะที่เรสวินจ่ายตังอลิซก็แอบเดินหนี เพราะเบื่อที่จะต้องมีคนเดินตาม  เพราะอะไรก็ไม่รู้ทำให้อลิซต้องเดินกลับไปดูหมีตัวเดิม (ขามันพาไป)  อลิซยกหมีตัวเดิมขึ้นดู 
“ พอลจ๋า...ฉันซื้อของขวัญได้แล้วแต่พอลยังไม่ได้เลย...ฉันช่วยเลือกเอาไหม ” จอยพูดขณะควงแขนพอลอยู่  อลิซได้ยินก็เดินหนีทันที  พอลเห็นอลิซก็จะเดินตาม  แต่จอยดึงเอาไว้ 
“นี่จอยช่วยเลือกหน่อยสิ”
“ได้จอยชอบหมาตัวนี้...พอลว่าให้เป็นของขวัญดีไหม”
“ดีสิ  ช่วยจ่ายเงินด้วยละกัน” พอลยัดแบงค์ 500 ให้จอยแล้วรีบวิ่งตามอลิซ  แต่ก็ไม่เจอ  พอจอยจ่ายตัวเสร็จก็งงหาพอลไม่เจอ
              อลิซเดินเข้าไปในร้านขายนาฬิกา  มีเรือนหนึ่งถูกใจอลิซมาก  อลิซเลยซื้อให้เอฟกับออฟเป็นของขวัญ
พอซื้อเสร็จก็เดินออกจากร้าน
“เฮ้อ...เหลืออีกตั้ง ครึ่งชั่วโมง...ทำอะไรดี”  ก็เพราะอะไรไม่รู้เหมือนกันทำให้อลิซกลับไปที่ตุ๊กตาหมีตัวเดิม  แต่มันไม่มีตุ๊กตาหมีตัวนั้นอีกแล้ว  อลิซรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้รีบซื้อ  เธอชอบหมีตัวนั้นมาก  อลิซมองดูที่ที่เคยมีหมีตัวนั้นวางอยู่  ซึ่งตอนนี้มันกลายเป็นที่ว่างเปล่า  อลิซรู้สึกเคว้งคว้างโดดเดี่ยว
“อลิซ” วีสเรียก  อลิซสะดุ้ง
“เอ่อ...มีอะไรหรอ”
“เธอซื้อของขวัญได้รึยัง”
“อ๋อได้แล้วจ้า แล้ววีสล่ะ” อลิซรีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มแย้มทันที
“ได้แล้วเหมือนกัน นี่ไง” วีสตอบพร้อมชูถุงให้ดู
“นี่ก็ได้เวลาแล้ว...ไปหน้าห้างกับเถอะ” วีสชวน  อลิซก็เดินตาม
              พอลและอลิซไม่ได้ไปตามนัดทั้งคู่  เดินไปโรงเรียนด้วยกันเหมือนๆอย่างเคย  แต่วันนี้ความรู้สึกมันเริ่มเปลี่ยนไป  อลิซเริ่มคิดว่า  พอลไม่น่ารำคาญเหมือนอย่างก่อนๆแล้ว  ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน  เธออยากจะเดินกับพอลด้วยความรู้สึกเช่นนี้ให้นานที่สุด  เท่าที่เธอจะทำได้  และแล้วก็มาถึงโรงเรียนพอดี
“อ้าว !!!  พอล  อลิซ  มาพอดีเลย กำลังอยากให้ลองเทสบท”  เสียงผู้กำกับสาวนามว่า แมรี่ พูดขึ้น
“3 2 1 เริ่ม
.” 
“ O.K. วันนี้เราซ้อมกันแค่นี้ละกันนี่ก็เย็นมากแล้วด้วย”
“ฉันขอกลับก่อนนะ” อลิซพูด
“BYE  BYE ”
“อ้าว อลิซจะกลับแล้วหรอ”
“อืม มันเหนื่อยๆหนะ”
“เฮ้ย เหนื่อยจริงๆด้วยเนอะ” พอลเอามือปาดเหงื่อ
“แหม สองคนนี้ เห็นใจกันจริงๆนะ หยั่งกับ ” วีสล้อพอล
“อะไร อะไร หยั่งกับอะไร” พอลหน้าแดง
“ก็ไม่อะไรนี่ ทำไมหน้าต้องแดงด้วย” วีสพูด อลิซเริ่มหน้าแดงบ้าง  โดยที่เจ้าตัวไม่รู้สาเหตุ
“อ้าว อลิซเป็นอะไรหรอ หน้าแดงไปอีกคนแล้ว” แมรี่เดินออกมาจากห้องพูดขึ้น  โดยที่ยังไม่รู้เรื่องอะไร
“ไม่มีอะไร”  อลิซพูดและรีบเดินออกจากโรงเรียน  แล้วพอลก็ตามไปติดๆ 
“อะไรกันเนี่ย” แมรี่งง  แต่วีสกลับยิ้มแย้มอย่างสนุกสนาน
*********************************************************************
              อลิซเดินออกจากโรงเรียนอย่างเร่งรีบ  เพื่อไม่ให้พอลตามทัน  แต่พอลก็ยังวิ่งตามมา  อลิซไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองหน้าแดงเพราะสาเหตุใด  ทำไมต้องเกิดอาการแปลกๆอย่างนั้นกับเธอด้วยก็ไม่รู้
“อลิซรอด้วย”
แฮก ๆ ๆ 
“โอ๊ย เหนื่อยจังเลย” พอลบ่น  และนั่งลงตรงม้านั่งสีขาวใต้ต้นไผ่  อลิซค่อยๆนั่งตามห่างจากพอลประมาณ 3 คืบ
“มีอะไรอีก”  พอลส่ายหัวเพราะเหนื่อยเกินกว่าจะพูดออกมา
“อ้าวแล้วจะเรียกให้ฉันหยุดทำไม”
“ก็แค่อยากเดินกลับบ้านเป็นเพื่อน”
“แค่เหตุผลแค่นี้หรอ สาวๆคนอื่นอยากจะเดินเป็นเพื่อนนายกลับบ้านมีตั้งเยอะไป ”
“รวมอลิซด้วยรึเปล่า” พอลถามด้วยความอยากรู้  ว่าอลิซจะรู้สึกแบบเดียวกับตัวเองไหม
“ไม่หรอก ฉันเป็นข้อยกเว้น”
“แต่สำหรับฉันนะ มันไม่เหมือนกันหรอก”
“ไม่เหมือนยังไง” อลิซถามด้วยความอยากรู้ว่าตัวเองไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นยังไง
“ไม่รู้สิ ไม่เหมือนก็ไม่เหมือนละกัน” พอลตอบหน้าตาเฉย  ( แต่ในใจมันมีคำตอบอยู่แล้ว  แต่มันไม่กล้าพูดนี่ทำไงได้ )  อลิซได้ฟังก็ยืนขึ้น  คิดในใจว่า  ตานี่มาเป็นนักสืบได้ไง  ไร้เหตุผลสิ้นดีเลย  แย่มากๆ  ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด !!!
              ลม  เริ่มพัด  แรงขึ้น  แรงขึ้น  ท้องฟ้าก็เริ่มมืดมัวแล้ว  และตอนนี้ท้องฟ้าก็กลายเป็นสีดำ  แสงจากดวงอาทิตย์  เริ่มจางหายไปอย่างรวดเร็ว
“อลิซรีบไปกันเถอะ ฝนใกล้ตกแล้ว” พอลพูด  อลิซไม่ได้ว่าอะไรแต่ก็ลุกขึ้นเดิน  ตามพอลไป  และแล้วฝนก็ตก  ตก  ตก  ตก  พอลลากอลิซเข้าห้างสรรพสินค้าใหญ่เพือหลบฝน
“นี่นาย ลากฉันเข้ามาในนี้ทำไม” อลิซถาม  หงุดหงิดและเหนื่อยเพราะอยากกลับบ้านเต็มที่
“ก็ข้างนอกฝนตกจะไปเดินตากฝนทำไม ตัวฉันไม่เป็นไรหรอกแต่เธอน่ะเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” พอลพูดด้วยความเป็นห่วง  แต่อลิซคิดว่าพอลว่าว่าเธอเป็นคนอ่อนแอ
“ฉันไม่ได้อ่อนแอเหมือนผู้หญิงทั่วไปหรอกนะ” อลิซว่าพอล  ด้วยอารมณ์รุนแรงมากและ ทำท่าจะเดินออกจากห้างสรรพสินค้า  แต่พอลจับข้อมือของอลิซไว้ไม่ให้ไป
“อะไรอีกนะนายเนี่ย ฉันจะรีบกลับบ้าน” อลิซพูด  โมโหอย่างแรง  พอพูดแล้วก็สะบัดมือออก  แต่พอลกลับไม่ปล่อย  อลิซเริ่มหมดความอดทน  แต่ก็ต้องกลั้นใจไว้  เดี๋ยวคนอื่นจะรู้ความลับ  ถ้าจะใช้กำลังกับพอลตอนนี้  พอลเห็นอลิซเหม่อคิด  จึงรีบเดินลากมืออลิซเจ้าร้านอาหาร  พอลผลักอลิซเข้าไปนั่งบนเก้าอี้  แล้วตัวเองก็ไปนั่งเก้าอี้อีกฝั่งหนึ่งของอลิซ  อลิซก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้วก็เลยไม่อยากเถียงกับพอลอีกจึงได้แต่เงียบ  พอลจึงนึกว่าอลิซโกรธ
“ถ้าที่ฉันแค่เป็นห่วงเธอ ไม่อยากให้ตากฝน แล้วทำให้เธอโกรธ ฉันจะไม่ขอโทษ”  พอลเริ่มพูดด้วยเหตุด้วยผล  อลิซเริ่มคิดตาม  แต่ก็ยังเงียบ
“แต่ถ้าเธอโกรธเพราะฉันบังคับให้เธอมานั่งอยู่ที่นี่กับฉัน ฉันจะขอโทษเธอ...เธอจะไปก็ได้ฉันไม่อยากห้ามแล้ว”  อลิซก็ยังเงียบ  จะให้พูดอะไรได้ไงเสียฟอร์มแย่เลย
“ขอเมนูหน่อยครับ” พอลอารมณ์เริ่มเย็นลง
“เธอจะเอาอะไรไหม” พอลถาม  แต่ไม่มีเสียงตอบ
“เอาสเต็กหมู 2 จานละกัน” บ๋อยรับเมนูแล้วก็เดินจากไป
“เฮ้ย ในที่สุดก็เป็นเหมือนเดิม กลายเป็นอลิซคนเดิมอีกแล้ว”  พอลพูด อลิซนั่งเงียบ
ช่วยด้วย  !!!  ช่วยด้วย  !!!  มีเสียงร้องดังมาจากที่ที่หนึ่งในร้าน
New Life  ;  ชีวิตใหม่
              ทันใดนั้น  ก็มีเสียงคุยกันสนั่นดังทั้งร้าน  พอลรีบวิ่งไปดูในที่เกิดเหตุ  แต่อลิซค่อยๆเดินตามไปอย่างไม่ได้รีบร้อนและไม่ตกใจ  ท่าทีของอลิซมันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ขอทางหน่อยครับ ขอทางหน่อยครับ” พอลแหวกผู้คนที่มุงดูสิ่งๆหนึ่ง  และแล้วในที่สุดพอลก็เข้ามาอยู่ใจกลางใกล้ๆ  สิ่งที่ผู้คนมุง  สิ่งที่ผู้คนมุงอยู่ก็คือ ร่างที่นิ่งสนิทอยู่บนพื้น
“โทรเรียกรถพยาบาลเร็ว” ชายคนหนึ่งในที่เกิดเหตุพูด
“ไม่ต้องหรอกครับ โทรเรียกตำรวจจะดีกว่า” พอลพูด  มีเสียงฮือๆ ในกลุ่มคนมุงเล็กน้อย  ตอนนี้อลิซได้เดินเข้ามาอยู่ใกล้ๆพอลแล้ว  แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร  ยังเงียบเหมือนเดิม  ซึ่งพอลก็ไม่รู้ว่าเธอโกรธอยู่ หรือว่าอึ้งกับศพอยู่
“ทำไมล่ะ เจ้าหนู แล้วเธอเป็นใคร ???” ชายคนนั้นถามพอล
“ก็ดูจากอาการผู้หญิงคนนี้นอนนิ่งไม่ขยับ ที่มือถือแก้วน้ำ และที่สำคัญเธอไม่มีลมหายใจแล้ว”
“แล้วเธอเป็นใคร ???”
“ผมนะหรอ ผมไม่ใช่เจ้าหนูอย่างที่คุณพูดหรอก ผมคือ พอล”
“หา เธอคือนักสืบคนนั้น ” ชายคนนั้นพูด  และรีบโทรหาตำรวจตามที่พอลสั่ง
+ + ไม่นาน สารวัตแครสกับนาก็มาถึงที่เกิดเหตุ + +
“ดูจากคดีนี้เหมือนเป็นการฆ่าตัวตายด้วยยาหรือไม่ก็เป็นการฆาตกรรมนะพอล” สารวัตแครสพูด
“น่าจะเป็นการฆาตกรรมมากกว่าครับ เนื่องจากถ้าอยากจะฆ่าตัวตายทำไมต้องมาฆ่าตัวตายถึงที่นี่ และอีกอย่างผมว่าท่าที่ผู้หญิงคนนี้ล้มนอนมันแปลกๆ ปกติคนที่ล้มลงมาจากเก้าอี้มันต้องตะแคงใช่ไหมครับ แต่นี้เธอนอนหงาย มันก็แปลกๆอยู่”
“อื่ม จริงด้วย เหมือนมีคนมาจับให้นอนท่านี้”
“สารวัตครับข้อมูลของศพมีอยู่ว่า  เธอชื่อ ชานาเรม รีส  เป็นเลขาของประธานบริษัท ส่งออกปลา ครับ  ในแก้วน้ำที่ผู้ตายถืออยู่พบว่ามี  ยาพิษร้ายแรงใส่เข้าไปเป็นจำนวนมาก  ซึ่งปกติ 1 เม็ดจะตายภายใน 60 วินาที  แต่พบว่าปริมาณยาพิษถ้าคาดไม่ผิดประมาณ 4-5 เม็ด  ซึ่งทำให้ตายได้  เร็วกว่ากำหนดถึง 50 วินาที ผู้ตายทานยาพิษเข้าไปแล้วตายภายใน 10 วินาทีครับ” หมวดนอตพูด
“นั่นก็แสดงว่าคนร้ายต้องอยู่กับผู้ตายในร้านนี้ก่อนแล้ว อาจจะนัดมาทำอะไรสักอย่าง แล้วก็ใส่ยา แล้วก็หนีไป/หรือไม่ก็อาจจะยังอยู่ในร้านนี้” พอลสันนิษฐาน
“เราพบขวดใส่ยาพิษเหมือนของผู้ตายในถังขยะหลังร้านด้วยครับ”
“หลังร้านหรอ งั้นก็ต้องเป็นคนที่ทำงานในร้านนี้ หรือไม่ก็ต้องเป็นคนที่รู้จักร้านนี้เป็นอย่างดีถึงได้เข้าออก
ทางหลังร้านได้” พอลพูด
“ขอโทษครับคุณคือเจ้าของร้านใช่ไหมครับ”
“ครับ ใช่  คุณรู้จักผู้ตายไหมครับ”
“รู้ครับ เธอเคยทำงานในร้านของผมมาก่อนที่จะเป็นเลขาของประธานบริษัทส่งออกปลาครับ” เจ้าของร้านพูด
พอลเดินสอบสวนพนักงานในร้านทุกคน  ผมออกมาว่า  มีผู้รู้จักผู้ตายอยู่ 4 คน
คนแรกคือเจ้าของร้าน
คนที่สองคือพนักงานเก็บตัง หน้าที่เช็คบิล + ซื้อของ
คนที่สามคือบ๋อย  หน้าที่ช่วยงานในร้าน
คนที่สี่คือพ่อครัว หน้าที่ทำอาหาร  + ซื้อของ
“คุณคือคนที่เสริฟแก้วนี้ให้ผู้ตายใช่ไหม” พอลถามบ๋อย
“ครับ แ..แต..แต่ ผมไม่ใช่คนร้ายนะครับ”
“คุณคือคนชงน้ำส้มแก้วนี้ใช่ไหมครับพ่อครัว”พอลถาม อลิซยืนดูพอลอยู่เงียบๆ
“ใช่ครับ” พ่อครัวตอบ
“แล้วคุณล่ะ คุณร็อกสเตน (คนเก็บตัง)”
“วันนี้ทั้งวันผมยังไม่ได้คุยกับเธอเลย” ร็อกสเตนพูด
“จริงหรอครับคุณคนร้าย...ผมยังไม่ได้ถามอะไรคุณเลยจะรีบแก้ตัวทำไม”พอลพูด
“อะไรกัน คุณจะมากล่าวหาผมได้ยังไง คุณไม่มีหลักฐานสักหน่อย”
“หลักฐานผมไม่มี แต่มันอยู่ที่ตัวของคุณไงครับ”
“ถ้าคุณไม่ได้พบกับผู้ตายวันนี้ทำไม ถึงมีผมของผู้ตายติดอยู่ที่เสื้อของคุณละครับ หรือคุณจะบอกว่า คุณเคยพบเธอมาก่อนหน้านี้แล้วแต่วันนั้นที่ผมไม่ได้ซักเสื้อออกหรอครับ  มันดูเป็นข้อแก้ตัวไม่ได้เลยนะคุณ แต่ถ้าคุณจะบอกว่า วันนี้คุณนัดเธอให้ออกมาพบกับคุณที่ร้านนี้ โดยอาจจะบอกว่า  ช่วยออกมาพบผมที่ผมจะยอมทำตามที่คุณบอกทุกอย่าง  แล้วพอเธอมาบอกให้เธอรอคุณที่โต๊ะ  คุณก็บอกให้พ่อครัวชงน้ำส้ม  แล้วแอบใส่ยาพิษ  แล้วให้บ๋อยเอาไปเสริฟแล้วคุณก็จัดการกับยาพิษที่เหลืออยู่  แน่นอนว่าแผนที่คุณคิดมันเป็นแผนที่ดีไม่มีข้อบกพร่องเลยสักนิด  แต่คุณรู้ไหมว่าที่โทรศัพท์มือถือของพูดตายได้บันทึกเสียงของคุณที่คุณนัดเธอมาพบวันนี้  และมีหลายข้อความที่คุณส่งถึงเธอ”  พอลพูด  คนร้ายเงียบนิ่งเหมือนถูกแช่แข็ง
“ใช่ ผมรักเธอตั้งแต่เธอมาทำงานในร้านนี้วันแรก เราสองคนรักกันมาก อาจจะไม่ใช่อย่างนั้นก็ได้ผมรักเธอฝ่ายเดียว เธอคอยดูดเงินของผมมาตลอด และวันหนึ่งพอประธานนั่นมาส่งปลาที่ร้านนี้ด้วยตัวเอง ตอนนั้นร้านขาดคนเสริฟก็เลยให้เธอเสริฟชั่วคราวประธานเห็นว่าเธอสวยก็เลยมาขอให้เป็นเลขา เธอก็ตอบตกลง และไปโดยไม่บอกใครสักคำ เมื่อสองเดือนก่อนผมพอเธอ ผมยังรักเธออยู่ แต่เธอกลับเปลี่ยนไปเธอหน้าเลือดขึ้นกว่าเดิม เธอบอกว่าถ้าวันไหนผมจะให้เธอได้ทุกอย่างตามที่เธอขอเธอจะกลับมารักผม..ผมถามว่าเธออยากได้อะไร เธอตอบว่าชีวิตใหม่ที่ดีกว่าที่อยู่กับผม ผมก็เลย ผมก็ ” ร็อกสเตนพูดแบบปลงสุดๆ
“คุณก็เลยให้ชีวิตใหม่กับเธอ ตามที่เธอขอ” พอลพูดประโยคที่หายไป
“ไปคุยกันที่สถานีดีกว่านะ” สารวัตแครสพูด
“ขอบใจนายมากพอล นายได้ช่วยงานของกรมตำรวจอีกแล้วนะ น่าดีใจแทนพ่อแม่ของนายจัง”
“อ้าวอลิซล่ะ” พอลมัวแต่ปลื้มจนลืมอลิซที่ตอนนี้ไปนั่นรออยู่ที่โต๊ะตัวเดิมแล้ว
“อลิซ ขอโทษที่ทำให้รอนานนะ” พอลพูด  อลิซเงีย
“เธอยังโกรธฉันอยู่หรอ”
“ไม่นี่ ใครจะไปโกรธพ่อนักสืบคนเก่งได้ลงคอ” อลิซประชด
“อื่ม ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก” พอลไม่รู้ว่าอลิซประชด  นึกว่าชม
“งั้นเราไปหาอาหารทานร้านอื่นดีกว่า” พอลชวน
“อืม ก็ได้” อลิซพูด  ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรทำให้ตอนนี้เธอไม่โกรธพอลเลยแม้แต่นิดเดียว
Present  ;  ของขวัญ
              เมื่อวานอลิซได้ไปทานอาหารเย็นกับพอล  อลิซรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก  เธอเพิ่งรู้ว่าการมีเพื่อน  มันทำให้เธอไม่รู้สึกโดดเดี่ยว  ความเหงาเริ่มหายไป  แต่พออลิซกลับมาบ้าน  ทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม  ทำไมเวลาแห่งความสุขช่างเร็วเหลือเกินนะ
“ไงอลิซ...เย็นนี้มีซ้อมละคร...พอเลิกเรียนแล้วอย่าเพิ่งกลับนะ”
“จ้า”
“นี่แล้วตกลงจะแสดงวันไหนหรอจ๊ะ ???  คุณผู้กำกับ”  อลิซถามกึ่งแซว
“วันที่  30  สิงหาคม  นี้จ้า ... แล้วเห็นครูเนสซีเรียบอกว่าถ้าห้องไหนแสดงดีที่สุดจะได้ไปแสดงที่เรืออะไรสักอย่างหนะ...ฉันจำไม่ได้”
“หรอ...แล้วค่อยคุยกันต่อตอนเย็นนะ”
-------------------------------  เข้าเรียน เป็นชั่วโมง HOME ROOM --------------------------
“สวัสดีจ้านักเรียน”
“ในชั่วโมงนี้เราก็จะพูดถึงเรื่องการแสดงกันนะ...วันนี้ก็วันที่ 19 สิงหาคม  แล้วครูอยากให้นักเรียนขยันซ้อมกันหน่อยเพื่อห้องของเรา  ครูไม่ได้อยากได้ของรางวัลหรือสิ่งใด  แต่ครูอยากเห็นนักเรียนในห้องของครูสามัคคีและเป็นหนึ่งเดียวกัน...อยากให้ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานให้ดีที่สุด (ไม่ค่อยคาดหวังอะไรเลย  จริงอ่ะเปล่าเนี่ย ???) ”
“ในวันที่ 22 23 สิงหาคม ครูจึงอยากให้ทุกคนมาที่โรงเรียนเพื่อซ้อม + จัดฉาก + หาอุปกรณ์ในการแสดง + หาชุด/เสื้อผ้าที่ใช้ในการแสดง ฯลฯ ... นอกจากนี้ก็คงไม่มีอะไรแล้ว...เอ่อ...ลืมไปมีอีก 1 อย่าง นี่ก็ใกล้สอบกลางภาคแล้วก็เตรียมอ่านหนังสือด้วยละกันนะ ... อื่มหมดเวลาแล้ว สวัสดีจ้า” พอพูดจบครูเนสซีเรียก็ออกจากห้องไปทันที
------------------------------------------  ตอนเย็น  ------------------------------------------
“อ้าวอลิซมาแล้วหรอ...ตรงเวลาจังนะ” แมรี่พูดพร้อมยิ้มให้ 
“อืม...แต่พอลยังไม่มาเลย”
“...อลิซชอบพอลรึเปล่า” แมรี่พูดเสียงดัง  ทุกคนที่อยู่ในห้องหันมามอง
“นี่...พูดเบาๆก็ได้...ฉันไม่ได้ชอบพอล” (โกหกรึเปล่าน้า)
“จริงหรอ” จอยเสียงแหลมมาแต่ไกล
“งั้นฉันขอละกัน” จอยพูดแล้วก็เดินจากไป
“หน้าด้านชะมัด”
“แต่...จริงหรอ....แล้วที่เดินกลับบ้านด้วยกันล่ะ” แมรี่ถามด้วยความสงสัย + ไม่เชื่อ
“ก็บ้านอยู่ใกล้กันเท่านั้นเอง” อลิซตอบ  (แค่นั้นหรอ...ไม่จริงมั้ง !!!)
“เอาเถอะ...อย่าพูดถึงตานั่นเลย...น่ารำคาญ...ขี้เก๊กสุดๆ”
“แต่ฉันว่าเขาหล่อออก...ขรึม...เข้ม...เท่ห์” แมรี่พูด  อลิซทำท่าคลื่นไส้
“ไม่เอาแล้ว...เลิกพูดเถอะ”
“ได้...แต่ช่วยไปตามพอลหน่อยสิ”
“ทำไมต้องเป็นฉันด้วยล่ะ”
“ก็ฉันไม่กล้าไปตามนี่...พอพูดกับพอลแล้วมันเขินๆยังไงก็ไม่รู้” แมรี่พูด + หน้าแดง
“เธอนี่ถ้าจะบ้า...รอก่อนนะ”
** ไม่นานอลิซก็มาพร้อมกับพอล **
“เอ่อ...เริ่มซ้อมเลยละกันนะ” แมรี่พูด
“ 3.....2.....1  เริ่ม...............................................................................................................
............................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................”
“วันนี้พอแค่นี้ละกัน” แมรี่พูดพร้อมกับปาดเหงื่อ
“เอ่อ...เดี๋ยวสิ...วันนี้ฉันแล้วก็เอฟกับออฟจะจัดงานเลี้ยงหนะ” แมรี่พูด
“เนื่องในโอกาสอะไรมิทราบ” จอยพูดน้ำเสียงดูเย้ยหยัน
“ก้อ...วันเกิดของเอฟกับออฟไง” แมรี่พูด
“ถ้าไม่รังเกียจก็เชิญไปงานเลี้ยงนะ...เชิญทุกคนเลย” เอฟกับออฟพูดพร้อมกัน
“งานจะเริ่มตอน 2  ทุ่มนะ ... นี่ก็  5  โมงแล้ว  แล้วเจอกันที่บ้านเอฟกับออฟนะ”  แมรี่พูด
“นี่อลิซเราไปห้างสรรพสินค้ากันไหม ไปซื้อของขวัญให้เอฟกับออฟไง”  เรสวิน (คู่แข่งพอล) ชวนอลิซ
“คงไม่ต้องหรอกเพราะอลิซจะไปกันฉัน” พอลเดินมาได้ยินพอดีเลยพูด  อลิซเริ่มหงุดหงิด  ตอนนี้พอลกับเรสวินเริ่มทะเลาะกัน
“เอาล่ะ...เอาล่ะ...ไปด้วยกันก็ได้ไม่เห็นต้องทะเลากันเลย” อลิซพูด
“งั้นจอยขอไปด้วยนะ” จอยพอเห็นพอลกับเรสวินไปก็อยากไปด้วย
“งั้นฉันขอไปด้วยอีกคนละกัน” วีสพูด
“อืมได้สิ......ไปหลายๆคนสนุกดีออก”  จอยพูด (อลิซหมันไส้จอยมากๆ)
**************************  ห้างสรรพสินค้า  ***************************
“เฮ้อ...ถึงสักที”
“คงต้องคิดก่อนว่าจะให้ของขวัญอะไรดี เราจะแยกกันไปดีไหม” พอลพูด  จอยก็รีบเดินมาเกาะแขนพอลแล้วพูดว่า “ดี...งั้นฉันขอไปกับพอลละกัน”  อลิซพอได้ยินจอยพูดก็รู้สึกแปลกๆ  รู้สึกโกรธพอลโดยที่ไม่รู้สาเหตุ  แต่ก็ไม่แสดงสีหน้าอะไร
“งั้นฉันไปกับอลิซละกัน” เรสวินพูด
“แล้ววีสล่ะ..จะไปกับ อ ลิ ซ หรือไปกับ พ อ ล ”  อลิซถาม
“ไปกับอลิซอยู่แล้ว”  วีสพูด (จงใจแกล้งให้พอลหึง !!!)
“งั้นแยกกันเลยตอน 6  โมงครึ่งเจอกันหน้าห้างละกัน” จอยพูดแล้วก็ลากพอลไป
*********************************************************************
“อุ๊ย...หมีตัวนี้น่ารักจัง” อลิซพูด  พร้อมกับยกหมีสีน้ำตาลตัวใหญ่ขึ้น
“ผมซื้อให้เอาไหม” เรสวินพูด อลิซวางหมีลงทันที
“ไม่เป็นไรหรอก”
“แล้ววีสล่ะคิดว่าจะซื้ออะไรให้เอฟกับออฟดี”
“ยังไม่รู้เลยขอเดินดูก่อนละกัน”
“แล้วเรสวินล่ะ”
“ก็ยังไม่รู้เลย...อลิซช่วยเลือกหน่อยสิ” เรสวินประจบ
“ฉันกะจะซื้อตุ๊กตาให้หนะ...ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าเอฟกับออฟชอบอะไร...แต่ส่วนใหญ่ผู้หญิงเขาชอบของกระจุกกระจิกหนะ”
“อันนี้ก็ดีนะ...ดูมีความหมายดี นายว่าไงล่ะ”  อลิซพูด พร้อมให้เรสวินดู 
“ดีงั้นฉันซื้ออันนี้ละกัน” เรสวินพูด  ขณะที่เรสวินจ่ายตังอลิซก็แอบเดินหนี เพราะเบื่อที่จะต้องมีคนเดินตาม  เพราะอะไรก็ไม่รู้ทำให้อลิซต้องเดินกลับไปดูหมีตัวเดิม (ขามันพาไป)  อลิซยกหมีตัวเดิมขึ้นดู 
“ พอลจ๋า...ฉันซื้อของขวัญได้แล้วแต่พอลยังไม่ได้เลย...ฉันช่วยเลือกเอาไหม ” จอยพูดขณะควงแขนพอลอยู่  อลิซได้ยินก็เดินหนีทันที  พอลเห็นอลิซก็จะเดินตาม  แต่จอยดึงเอาไว้ 
“นี่จอยช่วยเลือกหน่อยสิ”
“ได้จอยชอบหมาตัวนี้...พอลว่าให้เป็นของขวัญดีไหม”
“ดีสิ  ช่วยจ่ายเงินด้วยละกัน” พอลยัดแบงค์ 500 ให้จอยแล้วรีบวิ่งตามอลิซ  แต่ก็ไม่เจอ  พอจอยจ่ายตัวเสร็จก็งงหาพอลไม่เจอ
              อลิซเดินเข้าไปในร้านขายนาฬิกา  มีเรือนหนึ่งถูกใจอลิซมาก  อลิซเลยซื้อให้เอฟกับออฟเป็นของขวัญ
พอซื้อเสร็จก็เดินออกจากร้าน
“เฮ้อ...เหลืออีกตั้ง ครึ่งชั่วโมง...ทำอะไรดี”  ก็เพราะอะไรไม่รู้เหมือนกันทำให้อลิซกลับไปที่ตุ๊กตาหมีตัวเดิม  แต่มันไม่มีตุ๊กตาหมีตัวนั้นอีกแล้ว  อลิซรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้รีบซื้อ  เธอชอบหมีตัวนั้นมาก  อลิซมองดูที่ที่เคยมีหมีตัวนั้นวางอยู่  ซึ่งตอนนี้มันกลายเป็นที่ว่างเปล่า  อลิซรู้สึกเคว้งคว้างโดดเดี่ยว
“อลิซ” วีสเรียก  อลิซสะดุ้ง
“เอ่อ...มีอะไรหรอ”
“เธอซื้อของขวัญได้รึยัง”
“อ๋อได้แล้วจ้า แล้ววีสล่ะ” อลิซรีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มแย้มทันที
“ได้แล้วเหมือนกัน นี่ไง” วีสตอบพร้อมชูถุงให้ดู
“นี่ก็ได้เวลาแล้ว...ไปหน้าห้างกับเถอะ” วีสชวน  อลิซก็เดินตาม
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น